เฉลย ข้อสอบ การขายเบื้องต้น ป ว ช 1

กลุ่มข้อสอบใน Facebook | กดเป็นมาชิกหรือกดไลน์เพจได้นะครับ

กลุ่มแนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย 2564
เพจสื่อการสอนครูออฟ

Youtube ครูออฟสอนคอมพิวเตอร์

TOEIC Online | IELTS Online | SAT | TOEIC | IELTS

 &lt;/td&gt; &lt;/tr&gt; &lt;tr&gt; &lt;td align="center" valign="top"&gt;© 2014 - 2020 Thaitestonline.com &amp;nbsp;&lt;br&gt; All rights reserved.&lt;br&gt;&lt;script&gt; (function(i,s,o,g,r,a,m){i['GoogleAnalyticsObject']=r;i[r]=i[r]||function(){ (i[r].q=i[r].q||[]).push(arguments)},i[r].l=1*new Date();a=s.createElement(o), m=s.getElementsByTagName(o)[0];a.async=1;a.src=g;m.parentNode.insertBefore(a,m) })(window,document,'script','//www.google-analytics.com/analytics.js','ga'); ga('create', 'UA-36906269-1', 'auto'); ga('send', 'pageview'); <script type="text/javascript" language="javascript1.1" src="http://tracker.stats.in.th/tracker.php?sid=59014">  

สาระสาคัญ

การขายเป็นกิจกรรมที่มีความสาคัญต่อการดาเนินธุรกิจทุกประเภท เพราะการขายที่ดีจะสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้แก่องค์กร และสามารถทาให้องค์กรได้รับผลกาไรตอบแทนสูงสุดซึ่งเป็นเป้าหมายสาคัญของธุรกิจ การขายเป็นอาชีพที่มีความเป็นอิสระ มีความท้าทายในตัวเอง เป็นวิชาที่จะต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อสร้างความเชื่อถือและไว้วางใจจากลูกค้าซึ่งจะทาให้เกิดการซื้อในที่สุด

ดังนั้น การที่จะเป็นพนักงานขายที่ดีนั้น ควรต้องศึกษาแนวทางในการประกอบอาชีพทั้งด้านที่เป็นทฤษฏี และด้านปฏิบัติเพื่อให้เข้าใจว่าการขายมีความสาคัญอย่างไรต่อองค์กรธุรกิจที่เราดาเนินงานอยู่ พร้อมกันนี้ต้องเข้าใจถึงแนวความคิดทางการตลาดที่จาเป็นต่อระบบธุรกิจด้วย เพราะจะทาให้เกิดแนวทางการปฏิบัติด้านต่างๆ เช่น การผลิตสินค้า การตั้งราคา การโฆษณาและการส่งเสริมการขายตลอดจนการกระจายสินค้าและบริการต่างๆไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของการขายโดยตรง(ความเข้าใจ)

1. การชักจูงใจ

2. การช่วยเหลือ

3. การให้บริการ

4. การโฆษณา

5. การให้ความรู้

2. การขายเป็นหัวใจของกิจการเพราะเหตุใด(การวิเคราะห์)

1. ทาให้เกิดการผลิต

2. เพราะพนักงานขายมีมากกว่าพนักงานฝ่ายอื่น

3. เพราะงบประมาณการขายมีมากกว่างบฝ่ายอื่น

4. เพราะทาให้เกิดรายได้และผลกาไร

5. งานขายต้องใช้ความคิดมากกว่างานอื่น

3 “รักจะเรียนวิชาการค้าขาย อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย จึงซื้อง่ายขายดีมีกาไร ด้วยเขาไม่เคืองจิตคิดระอา” คากลอนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติใดในการประกอบอาชีพขายด้านใด(การสังเคราะห์)

1. ความขยัน

2. ความอดทน

3. ความซื่อสัตย์

4. ความมีระเบียบวินัย

5. ความสุภาพ

68

4. กิจกรรมทางการตลาดที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือได้แก่กิจกรรมในข้อใด(ความรู้-ความจา)

1. การเงิน การประกันภัย

2. การซื้อ การขาย

3. การขนส่ง การโฆษณา

4. การขาย การจัดมาตรฐาน

5. การจัดมาตรฐานสินค้า การตลาด

5. การผลิตสินค้าตามความถนัดของผู้ผลิตเพราะมีความต้องการสินค้าจานวนมากเป็น

แนวความคิดการตลาดแบบใด(ความรู้-ความจา)

1. แนวคิดการตลาดเพื่อสังคม

2. แนวคิดที่ยึดการผลิตเป็นหลัก

3. แนวคิดที่ยึดสินค้าเป็นหลัก

4. แนวคิดที่ยึดการขายเป็นหลัก

5. แนวคิดที่ยึดการตลาดเป็นหลัก

6. ชาวอาชีวศึกษา ใช้กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ทาจากกระดาษใช้แล้วเพื่อลดการใช้ทรัพยากรป่าไม้ของ

ประเทศไทยเป็นแนวความคิดการตลาดแบบใด(การวิเคราะห์)

1. แนวคิดที่ยึดการผลิตเป็นหลัก

2. แนวคิดที่ยึดสินค้าเป็นหลัก

3. แนวคิดที่ยึดการขายเป็นหลัก

4. แนวคิดที่ยึดการตลาดเป็นหลัก

5. แนวคิดการตลาดเพื่อสังคม

7. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด(การวิเคราะห์)

1. การขายมีความสาคัญต่อทุกหน่วยงาน

2. การขายเป็นหน้าที่ของพนักงานขายเท่านั้น

3. งานวัฒนธรรมไม่ต้องใช้การขายในการเผยแพร่

4. การขายมีความสาคัญต่อกิจการที่หวังผลกาไรเท่านั้น

5. การขายมีความสาคัญต่อการค้าระหว่างประเทศมากกว่าในประเทศ

69

ประเด็นการออกข้อสอบ

2. ประเภท และลักษณะของการขาย

2.1 ประเภทของการขาย

2.2 ลักษณะของการขาย

2.3 ประเภทของพนักงานตามลักษณะงานขาย

2.4 ความสัมพันธ์ ระหว่างของงานขายกับหน้าที่ของการส่งเสริมการตลาด

สาระสาคัญ

การขาย (Selling) คือ การตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราต้องค้นหาให้พบว่าลูกค้าต้องการอะไร และสามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ ทั้งนี้เพราะสินค้าและบริการที่มีอยู่ในตลาดมีอยู่มากมายหลายชนิด แตกต่างกันไปตามลักษณะ คุณประโยชน์ คุณสมบัติ และลักษณะของการใช้งาน ดังนั้นการขายสินค้าจึงเป็นงานที่แตกต่างกันตามลักษณะของสินค้าและบริการ ตลอดจนนโยบายของกิจการนั้น ๆ ด้วยเหตุนี้พนักงานขายต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวสูงมากจึงจะประสบความสาเร็จได้ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องศึกษาว่าการขายมีประเภทใดบ้าง และลักษณะของการขายนั้นเป็นอย่างไร เพื่อจะได้นาไปใช้กับลูกค้าได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

8. กิจกรรมในข้อใดเป็นงานขายปลีก(ความเข้าใจ)

1. งานขายแก่พ่อค้า

2. การขายแก่อุตสาหกรรม

3. การขายโดยตัวแทนผู้ผลิตให้แก่คนกลางรายอื่น

4. การขายโดยเครื่องจักรอัตโนมัติ

5. การขายระหว่างประเทศ

9. ระบบSelf-service เป็นร้านค้าประเภทใด(ความรู้-ความจา)

1. ร้าน M K

2. ร้าน Cosmetic

3. ร้าน Game Online

4. ร้าน7-11

5. ร้านShow Room

10. เพราะเหตุใดงานขายสินค้าที่สัมผัสไม่ได้(การประกันชีวิต)จึงขายยากกว่าสินค้าที่สัมผัสได้(การ

วิเคราะห์)

1. สินค้ามีราคาแพง

2. เป็นสินค้าไม่จาเป็น

3. ลูกค้าไม่มีโอกาสได้ทดลองใช้

4. พนักงานขายมีจานวนน้อยราย

5. เป็นสินค้าใหม่ที่ลูกค้าไม่รู้จัก

70

11. ลักษณะงานขายในข้อใดจัดเป็นพนักงานขายปลีก(การประเมินค่า)

1. วิศวกรขาย

2. พนักงานขายบุกเบิก

3. พนักงานขายตามเส้นทาง

4. พนักงานขายในบริการ

5. พนักงานขายในงานอุตสาหกรรม

12. ในการกาหนดลักษณะของงานขายปัจจัยหลัก คือ ข้อใด (ความเข้าใจ)

1. ลักษณะของสินค้า

2. คุณสมบัติของพนักงานขาย

3. คู่แข่งขัน

4. นโยบายของกิจการ

5. ลักษณะของลูกค้า

13. การพิจารณาลูกค้าจากสุขภาพและวัยวุฒิเป็นหลักในการพิจารณาเป็นการขายสินค้าชนิดใด

มากที่สุด (การวิเคราะห์)

1. การขายรถยนต์

2. การขายบ้านและที่ดิน

3. การขายอุปกรณ์ออกกาลังกาย

4. การขายโปรแกรมทัวร์เพื่อสุขภาพ

5. การขายบริการของโรงพยาบาลเอกชน

14. สินค้าจะไปถึงมือผู้บริโภคที่อยู่ห่างไกลซึ่งกระจายกันในแต่ละท้องถิ่นได้ จะต้องอาศัยกิจกรรม

ใดทางการตลาด (ความเข้าใจ)

1. การขายสินค้าอย่างทั่วถึง

2. การสร้างจุดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์

3. การสร้างตรายี่ห้อ

4. การส่งเสริมการขาย

5. การสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์

15. ข้อใดกล่าวถูกต้อง(ความเข้าใจ)

1. งานขายเป็นการนาเสนอรูปแบบผลิตภัณฑ์ต่อกิจการ

2. งานขายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม การส่งเสริมการตลาด

3. งานขายเป็นงานที่จะต้องทายอดขายให้ชนะเพื่อร่วมงาน

4. งานขายไม่จาเป็นต้องทาตามนโยบายของกิจการ

5. งานขายประกอบไปด้วยฝ่ายการตลาด และฝ่ายการเงิน

71

ประเด็นการออกข้อสอบ

3. ความรู้เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ กิจการ ลูกค้า คู่แข่งขันและเทคนิคการขาย

3.1 ความรู้เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์

3.2 ความรู้เกี่ยวกับ กิจการ

3.3 ความรู้เกี่ยวกับ ลูกค้า

3.4 ความรู้เกี่ยวกับ คู่แข่งขัน

3.5 ความรู้เกี่ยวกับ เทคนิคการขาย

สาระสาคัญ

การนาเสนองานขายสินค้าหรือบริการนั้น ผู้ขายจาเป็นต้องศึกษาถึงรายละเอียดในเรื่อง

ความรู้เกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ กิจการ ลูกค้า คู่แข่งขันและเทคนิคการขาย ซึ่งล้วนแต่มีความสาคัญกับงานอาชีพขายโดยพนักงานขายต้อง เป็นอย่างดีเสียก่อน ก่อนที่จะถ่ายทอดไปยังบุคคลอื่นหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อจะได้ไม่เกิดความสับสนแก่ลูกค้า เพื่อเป็นประโยชน์ในงานขาย

16. ถ้าพนักงานขายมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่เสนอขายจะมีผลในเรื่องใดมากที่สุด(การสังเคราะห์)

1. ทาให้มีความมั่นใจในตนเอง

2. สามารถอธิบายและสาธิตสินค้าได้ถูกต้อง

3. ทาให้กิจการมีภาพพจน์ที่ดี

4. ทาให้ได้รับการเลื่อนขั้นเลื่อนตาแหน่ง

5. ทาให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น

17. แหล่งความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่หาง่ายที่สุดคืออะไร(ความเข้าใจ)

1. คู่มือสินค้า

2. ตัวสินค้า

3. คู่มือขาย

4. แฟ้มขาย

5. พนักงานขายผู้ผลิต

18. รายละเอียดในเรื่องใดไม่ได้ระบุไว้ในกล่องสินค้า(ความรู้ความจา)

1. ส่วนประกอบของสินค้า

2. วิธีการใช้

3. ปริมาณบรรจุ

4. วันหมดอายุ

5. กระบวนการผลิต

19. ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า น้ายาล้างห้องน้า เป็นสินค้าประเภทใด (ความเข้าใจ)

1. สินค้าสะดวกซื้อ

2. สินค้าเลือกซื้อ

3. สินค้าเปรียบเทียบซื้อ

4. สินค้าพิเศษ

5. สินค้าไม่แสวงซื้อ

72

20. “ไมโครเวฟรุ่นนี้ใช้อุ่นอาหารได้ ต้ม ผัด แกง ทอด ได้”รายละเอียดดังกล่าวแสดงว่าพนักงาน

ขายมีความรู้ในด้านใดของสินค้า(การวิเคราะห์)

1. รูปร่างของสินค้า

2. กระบวนการผลิต

3. การดูแลรักษา

4. วัตถุดิบ

5. ประโยชน์

21. สิ่งที่พนักงานขายควรรู้เกี่ยวกับกิจการเป็นอันดับแรกคือเรื่องใด(ความรู้ ความจา)

1. คู่แข่งขัน

2. ประวัติความเป็นมา

3. สถานภาพในตลาด

4. รูปแบบการดาเนินธุรกิจ

5. การขยายสาขาของกิจการ

22. พนักงานขายต้องมีความรู้เกี่ยวกับกิจการ ในเรื่องใดที่ทาให้เกิดความภาคภูมิใจ(การวิเคราะห์)

1. แผนการเอาชนะคู่แข่งขัน

2. การแบ่งโบนัสประจาปี

3. ผลการขยายสาขาย่อย

4. กิจการช่วยเหลือสังคม

5. สินค้าใหม่ที่เริ่มวางตลาด

23. สิ่งสาคัญที่จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจในกิจการที่พนักงานขายปฏิบัติงานอยู่คือ ความรู้ข้อใด

(ความเข้าใจ)

1. เงินทุนของกิจการ

2. สถานที่ตั้งของกิจการ

3. นโยบายของกิจการ

4. การออกสินค้าใหม่ในตลาด

5. ระยะเวลาของการดาเนินกิจการ

24. เรื่องที่พนักงานขายควรมีความรู้เกี่ยวกับกิจการเป็นอันดับแรกคือเรื่องในข้อใด (ความจา)

1. กระบวนการผลิตสินค้า

2. ประวัติความเป็นมา

3. คู่แข่งขัน

4. เป้าหมายการขยายสาขา

5. รูปแบบการดาเนินงาน

73

25. ลูกค้าประเภทใดที่พนักงานขายส่วนใหญ่ยอมรับว่าขายยากที่สุด(การประเมินค่า)

1. ประเภทใจเร็ว

2. ประเภทเงียบ

3. ประเภทช่างคิด

4. ประเภทเชื่อมั่น

5. ประเภทช่างพูดช่างคุย

26. การที่พนักงานขายจาชื่อลูกค้าผิด มีผลเสียอย่างไร (ความรู้ ความจา)

1. ลูกค้าปฏิเสธการสนทนา

2. บรรยากาศในการสนทนาไม่ราบรื่น

3. ลูกค้าไม่ประทับใจ

4. ลูกค้าคิดว่าไม่ให้ความสาคัญกับเขา

5. ถูกทุกข้อ

27. วิธีการที่ทาให้เกิดข้อโต้แย้งน้อยที่สุด คือข้อใด(การประเมินค่า)

1. การยิ้มแย้มแจ่มใส

2. ชี้ให้เห็นประโยชน์ด้านต่าง ๆ

3. เลื่อนการตอบออกไป

4. แสดงให้เห็นว่าลูกค้าเป็นคนสาคัญ

5. วิธีใช้คาถาม

28. สิ่งแรกที่สาคัญของการตัดสินใจซื้อสินค้ามาจากสาเหตุของความต้องการซื้อในด้านใดเป็น

อันดับแรก(การประเมินค่า)

1. ต้องการใช้ประโยชน์จากสินค้า

2. ต้องการความปลอดภัย

3. ต้องการความสนุกสนานเพลิดเพลิน

4. ต้องการการยอมรับจากสังคม

5. ต้องการความแปลกใหม่

29. การพิจารณาลูกค้าจากสุขภาพหรือผู้สูงอายุควรเสนอขายสินค้าประเภทใด(ความเข้าใจ)

1. การขายประกันชีวิต

2. การขายรถยนต์

3. การขายอุปกรณ์การออกกาลังกาย

4. การขายโปรแกรมการท่องเที่ยว

5. การขายบ้านและที่ดิน

74

30. แหล่งความรู้เกี่ยวกับคู่แข่งขันที่พนักงานขายได้มาโดยตรงและทาให้ทราบข้อเท็จจริงได้ดี

(การวิเคราะห์)

1. สอบถามจากพนักงานขายของคู่แข่งขัน

2. สอบถามจากผู้ผลิตสินค้าของคู่แข่งขัน

3. ซื้อสินค้าคู่แข่งขันมาใช้

4. ห้องสมุด

5. การจ้างนักสืบ

31. การที่พนักงานขายมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าเป็นอย่างดีมีผลโดยตรงต่อกิจการอย่างไร

(การประเมินค่า)

1. ทาให้จาหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น

2. ทาให้ต่อสู้กับคู่แข่งขันได้

3. ทาให้มีภาพลักษณ์ที่ดี

4. ทาให้ลูกค้ารู้จักสินค้ามากขึ้น

5. ทาให้กิจการมีลูกค้าเพิ่มขึ้น

32. ข้อใดคือการหาผู้มุ่งหวังแบบ Bird dog (สุนัขไล่นก) (ความรู้-ความจา)

1. แบบตระเวนหา

2. แบบสังเกตส่วนตัว

3. แบบโซ่ไม่มีปลาย

4. แบบโฆษณา

5. แบบศูนย์อิทธิพล

33. การหาผู้มุ่งหวังแบบแนะนาในกลุ่มเพื่อน ญาติสนิทและแนะนาต่อกันไปเรื่อย ๆ เป็นการหา

ผู้มุ่งหวังแบบใด (ความเข้าใจ)

1. แบบตระเวนหา

2. แบบโฆษณา

3. แบบศูนย์อิทธิพล

4. แบบสังเกตส่วนตัว

5. แบบโซ่ไม่มีปลาย

75

ประเด็นการออกข้อสอบ

4. คุณสมบัติ และจรรยาบรรณของพนักงานขาย

4.1 คุณสมบัติของพนักงานขาย

4.2 จรรยาบรรณของพนักงานขาย

สาระสาคัญ

พนักงานขายเป็นผู้ประกอบอาชีพทางธุรกิจ จาเป็นต้องศึกษาและหาแนวทางในการปฏิบัติงานให้มีความเหมาะสมกับลักษณะในอาชีพของตน มีความสอดคล้องกับศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณีของสังคมที่จะส่งผลให้สังคมมีระเบียบวินัย ความเจริญก้าวหน้า และความสาเร็จของงานอาชีพการขายไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดก็ตาม ทุกคนจะต้องเคารพและศรัทธาในอาชีพของตนเอง มีความซื่อสัตย์และรับผิดชอบที่จะทาให้สังคมยอมรับและศรัทธา อันเป็นการสร้างเกียรติยศ

และศักดิ์ศรีของตนเองและอาชีพนั้นๆ ด้วยการกระทาให้ได้มาในสิ่งดังกล่าวนี้ เรียกว่า “จรรยาบรรณ” อาชีพขายก็เช่นกัน จะต้องมีจรรยาบรรณคือ เป็นนักขายที่มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ศรัทธาต่อกิจการ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ เป็นต้น

34. คุณสมบัติในข้อใดที่ทาให้เกิดความชานาญและทักษะในการปฏิบัติงานของพนักงานขาย

(ความเข้าใจ)

1. ความรู้

2. ภาวะผู้นา

3. ความสามารถ

4. ประสบการณ์

5. บุคลิกภาพในการขาย

35. บุคลิกภาพหมายถึงทุกข้อยกเว้นข้อใด (ความเข้าใจ)

1. ลักษณะเฉพาะของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

2. ผลรวมของรูปสมบัติและคุณสมบัติ

3. ผลของความประทับใจที่ท่านได้รับจากผู้อื่น

4. สิ่งที่ติดตัวมาแต่กาเนิดไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

5. สิ่งต่าง ๆ ที่ท่านได้พัฒนาเพื่อให้มีนิสัยที่ทาให้ผู้อื่นสนใจในตัวท่าน

36. ถ้าลูกค้าเรียกชื่อสินค้าผิดฟังแล้วตลกขบขันพนักงานขายต้องใช้คุณสมบัติในข้อใด

(การประเมินค่า)

1. ความช่วยเหลือ

2. ความมีไหวพริบ

3. ความร่าเริงแจ่มใส

4. ความซื่อสัตย์

5. ความร่วมมือ

76

37. ขั้นตอนแรกของขบวนการพัฒนาบุคลิกภาพคือ ข้อใด (ความเข้าใจ)

1. การแสดงออก

2. วิเคราะห์ตนเอง

3. การประเมินผลก่อนปฏิบัติ

4. ตระหนักถึงความสาคัญและความจาเป็นของการพัฒนาบุคลิกภาพ

5. มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะพัฒนาบุคลิกภาพของตน

38. “แนวคิดการแต่งกายแบบนักธุรกิจ ตรงกับข้อใด(ความเข้าใจ)

1. สะดวก สะอาด สมัยใหม่ สวยงาม

2. สะดวก ทนทาน ประหยัด สวยงาม

3. ประณีต สะอาด นาสมัย ตามสบาย

4. สวยงาม ทนทาน นาสมัย ประหยัด

5. สะอาด ประหยัด สุภาพ ประณีต

39. พนักงานขายที่ดีต้องมีบุคลิกภาพที่ดี “รู้เขา รู้เรา” คาที่ขีดเส้นใต้ตรงกับข้อใด (การวิเคราะห์)

1. การแสดงออก

2. การวิเคราะห์ตนเอง

3. การประเมินผลก่อนปฏิบัติงาน

4. การสร้างการยอมรับแก่ผู้อื่น

5. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

40. ถ้าพนักงานขายประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณกิจการจะได้รับประโยชน์อย่างไร

(การนาไปใช้)

1. กิจการมีพนักงานที่มีคุณภาพ

2. คู่แข่งขันเกิดความยาเกรง

3. กิจการมีโอกาสได้ลดภาษีการค้า

4. กิจการขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น

5. พนักงานขายมีรายได้เพิ่มขึ้น

41. จรรยาบรรณในข้อใดพนักงานขายควรปฏิบัติ(การนาไปใช้)

1. การเปลี่ยนงาน

2. การช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน

3. การอุทิศตนเพื่อกิจการ

4. การเปิดเผยความความลับของกิจการ

5. การรักษาภาพพจน์ของกิจการ

77

42. จรรยาบรรณของพนักงานขายที่ลูกค้าพึงประสงค์มากที่สุดคือข้อใด(การนาไปใช้)

1. ความรับผิดชอบ

2. ความซื่อสัตย์

3. มีวาทศิลป์ที่ดี

4. ให้บริการที่ดี

5. กระตือรือร้น

43. พนักงานขายปฏิบัติในข้อใดที่ขัดกับหลักจรรยาบรรณ (ความเข้าใจ)

1. การฝึกอบรมให้ทุกคนรู้ถึงระเบียบข้อปฏิบัติงาน

2. การออกกฎเกณฑ์ให้ทุกคนในหน่วยงานปฏิบัติ

3. ผู้บริหารเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติงาน

4. การสร้างบรรยากาศที่ดีในการทางาน

5. การให้อภัยพนักงานขายที่ทาผิดกฎบริษัท

ประเด็นการออกข้อสอบ

5. โอกาสและความก้าวหน้าของอาชีพพนักงานขาย

5.1 โอกาสของอาชีพพนักงานขาย

5.2 รายได้และผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ประกอบอาชีพขาย

สาระสาคัญ

การขายเป็นอาชีพที่มีความเป็นอิสระและมีความท้าทายในตัวเอง ดังนั้นผู้ที่ประกอบอาชีพการขายจึงต้องศึกษาแนวทางในการประกอบอาชีพให้ชัดเจน เพื่อที่จะนาไปพัฒนาสายงานของตนเองได้ โดยทั่วไปผู้ที่จะสนใจในสายอาชีพนี้ ต้องศึกษาถึงรายละเอียดทั้งทางด้านที่เป็นทฤษฎีและปฏิบัติ และต้องเข้าใจในสายงานการประกอบอาชีพด้านการขาย จะได้เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและองค์ประกอบธุรกิจ

44. ตาแหน่งเริ่มต้นของการเป็นพนักงานขาย คือ ตาแหน่งในข้อใด (ความรู้ ความจา)

1. พนักงานขาย

2. พนักงานขายฝึกหัดขาย

3. ผู้จัดการร้าน

4. ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน

5. ผู้ควบคุมงานร้าน

45. ตาแหน่งงานใดที่ร้านขายปลีกขนาดเล็กไม่จาเป็นต้องมี (ความเข้าใจ)

1. พนักงานขาย

2. ผู้จัดการร้าน

3. ผู้ช่วยผู้จัดการร้าน

4. พนักงานขายฝึกหัด

5. ผู้ควบคุมงานขาย

78

46. ลักษณะการจ่ายค่าตอบแทนของพนักงานขายแบบใดจูงใจให้พนักงานขายมีความกระตือรือร้น

ทางานมากขึ้น(การวิเคราะห์)

1. โบนัส

2. เงินเดือน

3. คอมมิชชั่น

4. ส่วนลดพนักงาน

5. ค่าล่วงเวลา

47. สิ่งสาคัญอันดับแรกของการประกอบอาชีพทุกๆ อาชีพ คือ (ความเข้าใจ)

1. รายได้

2. การยอมรับจากสังคม

3. การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

4. ความสุขสบายใจ

5. การแข่งขันกับผู้อื่น

ประเด็นการออกข้อสอบ

6. ความรู้ทางเทคโนโลยีทันสมัยที่เกี่ยวข้องกับงานขาย

6.1 ความหมายและความสาคัญของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับงานขาย

6.2 ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่นามาใช้ในงานขาย

6.3 เทคโนโลยีทันสมัยที่นามาใช้ในงานขาย

สาระสาคัญ

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความสาคัญต่อการประกอบธุรกิจ ต่อชีวิตประจาวัน ฉะนั้นในโล

ธุรกิจหรือโลกแห่งการตลาด การขายจึงจาเป็นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เพราะหากธุรกิจหยุดอยู่กับที่หรือไม่มีการพัฒนา นั่นหมายถึงความล้าหลัง เทคโนโลยีเข้าไปเกี่ยวข้องกับโลกธุรกิจได้อย่างไรท่านจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ

มีความสะดวกรวดเร็วและถูกต้องมากยิ่งขึ้น นั่นคือความสาเร็จส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่เข้าไปมีบทบาทในการดาเนินธุรกิจ การประกอบธุรกิจในโลกปัจจุบันยิ่งมีการแข่งขันสูง มีการนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ที่นาออกสู่ตลาดยิ่งมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ซึ่งหมายถึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ ฉะนั้นธุรกิจใดมีการพัฒนาตัวสินค้าบริการมากเท่าใด ย่อมครองตลาดได้มากกว่าคู่แข่งขัน

48. อินเทอร์เน็ตนามาใช้งานครั้งแรก ในประเทศใด (ความรู้ ความจา)

1. สหรัฐอเมริกา

2. อังกฤษ

3. ฝรั่งเศส

4. อิตาลี

5. เยอรมัน

79

49. อินเทอร์เน็ต สามารถนาไปใช้ประโยชน์ในข้อใด (การสังเคราะห์)

1. เพื่อการวิจัย เพื่อการศึกษา เพื่อธุรกิจ เพื่อประชาชนทั่วไป

2. เพื่อการศึกษา เพื่อการวิจัย เพื่อธุรกิจ เพื่อประชาชนทั่วไป

3. เพื่อการวิจัย เพื่อการศึกษา เพื่อประชาชนทั่วไป เพื่อธุรกิจ

4. เพื่อประชาชนทั่วไป เพื่อการศึกษา เพื่อธุรกิจ เพื่อการวิจัย

5. เพื่อธุรกิจ เพื่อการศึกษา เพื่อประชาชนทั่วไป เพื่อการวิจัย

50. ข้อใดไม่ใช่รูปแบบการทาพาณิชย์อิเลกทรอนิกส์

1. B2A

2. C2C

3. B2B

4. B2C

5. B2G

80

เฉลยแบบทดสอบวิชา การขาย1(2201-1004)

ข้อ

เฉลย

ข้อ

เฉลย

ข้อ

เฉลย

ข้อ

เฉลย

ข้อ

เฉลย

1

4

11

3

21

2

31

1

41

4

2

4

12

1

22

5

32

5

42

2

3

2

13

4

23

5

33

5

43

5

4

1

14

4

24

5

34

4

44

2

5

2

15

2

25

2

35

4

45

5

6

5

16

1

26

5

36

2

46

3

7

1

17

1

27

1

37

4

47

1

8

4

18

5

28

1

38

5

48

1

9

4

19

1

29

1

39

2

49

3

10

3

20

5

30

3

40

4

50

1

คณะผู้จัดทาวิชาการขาย1(2201-1004)