จอมขมังเวทย์ หมาก ปริ ญ เต็มเรื่อง

เรื่องย่อหนัง จอมขมังเวทย์ 2020
“สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” พร้อมเปิดฉากโลกอาคมขลัง สัตว์เวทย์แฟนตาซี แอคชั่นเดือดระอุ และทีมขมังเวทย์ทางการแสดงกับ “จอมขมังเวทย์ 2020” แอคชั่นแฟนตาซีพร้อมถล่มอาคมเดือดสุดแห่งปี

นำทัพความขลังสีสันจัดจ้านด้วยนักแสดงแถวหน้าฝีมือเข้ม “หมาก-ปริญ สุภารัตน์”, “นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช”, “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” ร่วมด้วย “นก-สินจัย เปล่งพานิช” นักแสดงหญิงตัวแม่คืนจอใหญ่อีกครั้ง พร้อมสองนักแสดงหญิงรุ่นใหม่มาแรง “คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล” และ “แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา”

โดยเซตภาพสีสันจัดจ้านนี้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่สมรภูมิแห่งอาคมที่จำต้องแลกด้วยศรัทธาแห่งตัวตน ก่อนการเผชิญหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าจอมขมังเวทย์ที่จะมาห้ำหั่นถล่มอาคมกันในตำนานบทใหม่แห่งโลกไสยเวทย์...

“หมาก-ปริญ สุภารัตน์” ทุ่มสุดตัว เปลี่ยนลุกส์สุดดาร์ก ดำดิ่งสู่ด้านมืด ครั้งแรกบนจอภาพยนตร์
“นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช” กลับมาตอกย้ำความขลังขมังเวทย์ตัวพ่อที่ทรงพลังไม่เสื่อมคลาย
“ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” พร้อมหว่านเสน่ห์แรงและกระโจนเข้าร่วมทีมอาคมเข้ม

กระแสแรงตั้งแต่ภาพแรกที่ถูกปล่อยออกมาสำหรับ “จอมขมังเวทย์ 2020” ภาพยนตร์แอคชั่นอาคมขลังฟอร์มยักษ์แห่งปีที่เรียกเสียงฮือฮาจากคอหนังถึงความน่าสนใจในเรื่องราวของขมังเวทย์ในตำนานสู่สมรภูมิไสยเวทย์ครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่า และน่าจับตาว่าหนังจะออกมาในรูปแบบใด

งานนี้ ผู้กำกับต้นฉบับขมังเวทย์ “ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ได้ไขข้อสงสัยและย้ำถึงความเป็นหนังภาคต่อและตัวละครสดใหม่ของ “หมาก ปริญ” พร้อมจอมขมังเวทย์ตัวพ่อ “นก ฉัตรชัย” ที่ผนึกกำลังกลับมาปลุกความขลังสร้างตำนานบทใหม่ในครั้งนี้ว่า

“จอมขมังเวทย์ 2020 ไม่ใช่หนังรีเมค ไม่ใช่หนังย้อนอดีต เป็นหนังต่อเนื่อง เป็นหนังต่อภาคเลยครับ ผมว่ามันรอเวลามากกว่าครับ พัฒนาการความคิดของคนมันเริ่มเปลี่ยนไป ยุคนี้เค้าศรัทธาอะไร และยุคก่อนศรัทธาอะไร มันเลยถึงเวลาที่เราจะต้องมาเล่าเรื่องแอคชั่นที่เป็นเรื่องความเชื่อของคนยุคเก่าและคนยุคปัจจุบัน... ผมเคยร่วมงานกับหมาก ได้เห็นความตั้งใจ เห็นแอคชั่นของเค้า เป็นแอคชั่นที่สวย และในตัวหมากมันมีความดราม่าทางการแสดงอยู่ ผมคิดว่าคาแร็กเตอร์นี้จึงเหมาะกับเค้าแล้วครับ”

กล้าไหมที่จะรู้ในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าบอก กล้าจะท้าทายในสิ่งที่หลายคนบอกว่าไม่มีจริง กล้าจะครอบครองความมืดดำ เพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ เปิดคลิปใหม่ล่าสุดจากภาพยนตร์ไทยแอคชั่นอาคมขลังฟอร์มยักษ์แห่งปี “จอมขมังเวทย์ 2020” โดยครั้งนี้มาว่าด้วยเรื่องความเชื่อ ศาสตร์แห่งไสยเวท ที่ต่อให้ผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย เรื่องราวเหล่านี้ยังคงซ่อนอยู่ และไม่เคยหายไปไหน ซึ่งเมื่อความเชื่อสองยุคมาเจอกัน จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” ที่จะพาคุณไปหาคำตอบว่า เราจะเชื่ออะไรมากกว่ากัน?

อีกทั้งคลิปนี้ยังรวมตัวผู้กำกับและนักแสดงนำ มาบอกเล่าถึงมุมมองของพวกเขา ศาสตร์แห่งไสยเวทที่ปรากฏขึ้นตามความเชื่อคนยุคเก่าและคนยุคใหม่ ซึ่งบางอย่างอาจให้พลัง บางอย่างอาจจะส่งเสริมอำนาจ แล้วถ้าเป็นคุณจะเชื่อไหม?

อีกหนึ่งรายละเอียดสำคัญที่จะมาเพิ่มความขลังและความสมจริงให้กับตัวละครและภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” นั่นก็คือ “ลายสักยันต์โคตรขลัง” ที่นอกจากจะมีลวดลายสวยงามแล้ว ยังรับรองความขลังของจริง ตรงตามอักขระวิชาคาถาอาคม เพราะงานนี้ได้รับเกียรติจาก “อาจารย์หนู กันภัย” เกจิอาจารย์เรืองอาคมชื่อดังของไทยมาเป็นผู้ออกแบบและเขียนอักขระลายสักยันต์ด้วยตนเองทั้งเรื่อง รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาในเรื่องข้อมูลไสยเวทอาคมเพื่อความแม่นยำในการเปิดประตูสู่โลกของเหล่าจอมขมังเวท

(อาจารย์หนู กันภัย) “อาจารย์ก็มีส่วนร่วมกับหนังมาตั้งแต่ภาคแรก มาภาคใหม่นี้ก็ยังให้คำปรึกษา ให้ความรู้ แนะแนวทาง และเขียนอักขระที่ถูกต้อง อาจารย์จะเขียนยันต์อักขระไว้ให้ แยกแยะกันไปเลย อันนี้ตัวพระเอก อันนี้ของผู้ร้าย อันนี้ของตัวอื่นๆ จะสักไว้ตรงส่วนไหน เวลารับวิชาอาคมมาแล้วจะเป็นยังไง อาจารย์จะอธิบายสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้ผู้กำกับไปดำเนินการต่อได้เลย

การออกแบบมันก็ยากมากเลยนะ การเขียนอักขระแต่ละตัวเนี่ย ก่อนจะเขียนก็ต้องบูชาอัญเชิญครูก่อน อยู่ๆ จะมาเขียนเลยไม่ได้ เพราะคาถาแต่ละตัวมันจะแยกแยะกันไป ลายยันต์ก็จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อักขระก็จะแตกต่างกัน ตัวร้ายก็จะเป็นพวกอวิชชาอย่างวัวธนูก็จะมีอิทธิฤทธิ์สายมนตร์ดำที่ทำร้ายผู้คน ส่วนของตัวพระเอกก็จะเป็นยันต์คุณพระ สายขาวก็ต้องมาจากสัตว์ป่าหิมพานต์ เช่น ตัวมอมที่จะศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์มาก จะคอยคุ้มครองป้องกันและทำลายเดรัจฉานวิชาต่างๆ

อาจารย์ใช้เวลาคิดและออกแบบอักขระอยู่นานหลายเดือนทั้งสายขาวและสายดำ การเขียนก็จะไม่เขียนมั่ว เพราะการแสดงให้ประชาชนดูจะไปหลอกตาเค้าไม่ได้ หนังเรื่องนี้ถอดอักขระความดีกับความชั่ว ยันต์แต่ละยันต์จะแยกกันออกไปเลย ให้คนดูเข้าใจและเป็นที่จดจำบันทึกไว้ อาจารย์ก็ขอฝากให้ดูเลย เพราะเอาเรื่องจริงและอักขระคาถาจริงมาผสมผสานสร้างเป็นหนัง ‘จอมขมังเวทย์ 2020' นี้ ให้ดูอลังการยิ่งใหญ่ ซึ่งไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อนแน่นอน พูดง่ายๆ สนุกแน่ครับ หนังจะออกฉาย 14 พ.ย.นี้ อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ”

หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” ได้เปิดตัวงาน “อักขระลายสักยันต์” ที่สร้างขึ้นจากฝีมือของเกจิอาจารย์ชื่อดัง “อาจารย์หนู กันภัย” เพื่อเสริมความพิเศษของข้อมูลไสยเวทอาคม และการันตีความขลังของจริงว่าจะปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้กันไปแล้ว

มาคราวนี้ “จอมขมังเวทย์ 2020” จะเจาะลึกถึงเรื่องราวของ “สัตว์เวท” ซึ่งเป็นตำนานอันสำคัญ ที่ถูกนำมาบอกเล่าต่อผ่านโลกของเหล่าจอมขมังเวท โดย “สัตว์เวท” หลัก ๆ ที่จะได้พบในภาพยนตร์มีทั้งหมด 3 คาแร็กเตอร์

เริ่มที่ “มอม” สัตว์เทพในตำนานล้านนา รูปร่างคล้ายสิงห์ผสมมกร มีอำนาจ อิทธิฤทธิ์ คงกระพัน แคล้วคลาด บันดาลความร่มเย็น อีกทั้งยังป้องกัน หรือแก้อาถรรพ์ทั้งปวงจากคุณไสยมนตร์ดำ ผู้คนจึงนิยมบูชาไว้เป็นวัตถุมงคล บ้างก็สักเป็นยันต์เพื่อเพิ่มบารมีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ในปัจจุบัน “มอม” ยังถูกนำมาประดับศาสนสถาน ซึ่งจะมีโอกาสเจอได้ ณ บริเวณหน้าประตูทางเข้าโบสถ์รวมทั้งวิหารอีกด้วย

ต่อมากับ “วัวธนู” สัตว์อาถรรพ์นักสู้จากแดนใต้ มีพลังแกร่งกล้า ความเร็วดั่งลูกธนู โดดเด่นด้านการโจมตี พุ่งเป้าหมายทำร้ายคู่อริ ผู้คนจึงมักนิยมบูชาไว้เพื่อป้องกันอันตราย ปัดเป่าอาคม คุ้มภัย กันอาถรรพ์อันตรายจากภูติผี และสั่งสังหารเหล่าศัตรู ซึ่งหากทำงานไม่สำเร็จวัวธนูก็ไม่อาจกลับมาสู่เจ้าของได้

ปิดท้ายด้วย “ต่อ-แตน” ฝูงสัตว์นี้มีอาคมทำร้ายศัตรูได้ทั้งกองทัพ สุดยอดคาถาโบราณจากเมืองสุพรรณฯ สู่ยันต์มหาอำนาจ ก่อเกิดฝูงสัตว์แห่งศาสตรา มนต์มายาแห่งความหวาดกลัว ผู้ที่ฝึกจิตอาคมแกร่งกล้าจะสามารถเสกใบไม้กลายเป็นต่อแตนได้ เมื่อฝูงต่อแตนอุบัตินั่นคือหายนะแห่งศัตรู มีอานุภาพควบคุมจิตใจและทำลายสมาธิ ไม่เพียงแค่นั้นยังช่วยเรื่องการต่อชะตาชีวิต ซึ่งหากใช้ในทางเป็นคุณย่อมก่อให้เกิดความรักใคร่ สมานมิตร มีโชคลาภ และเสริมสร้างบารมี งานใด ๆ ก็สัมฤทธิผล

บางอย่างของมันต้องมี บางอย่างของมันต้องมู เชื่อหรืองมงาย คุ้มครองหรือครอบงำ เตรียมเปิดประตูสู่สงครามไสยเวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค! ที่พร้อมปล่อยของทั้งยันต์อาคมขลัง , สัตว์เวทแฟนตาซี แอคชั่นเดือดระอุ และทีมขมังเวททางการแสดงกับ #จอมขมังเวทย์2020

ประกาศศักดาภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ปิดท้ายปี 2562 “จอมขมังเวทย์ 2020” โดยผู้กำกับต้นฉบับ “ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ที่จะขึ้นจอถล่มอาคมขลัง การแสดงสุดเข้มข้น และแอคชั่นเดือดระอุ 14 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

เปิดคลิปใหม่แห่งการเผชิญหน้าครั้งสำคัญของเหล่าจอมขมังเวทย์ที่จะทำให้คุณลืมทุกคาแร็กเตอร์ที่เคยรู้จักของพวกเขา…

“หมาก-ปริญ สุภารัตน์” จะสยบทุกอวิชชามนตร์ดำ เขาต้องเป็นจอมขมังเวทย์
“นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช” จะตามหาทุกอวิชชามนตร์ดำ เขาต้องเป็นจอมขมังเวทย์
“ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” จะครอบครองทุกอวิชชามนตร์ดำ เขาต้องกลับมาเป็นจอมขมังเวทย์

“มันเป็นเรื่องของวิถีของจอมขมังเวทย์ที่แอคชั่นกัน ภาคนี้เราจะได้เห็นอะไรที่มันตื่นตาตื่นใจมากกว่าภาคที่แล้ว” (ต้อม ปิยะพันธุ์)

“ต้องฟิตร่างกายมากๆ เลยครับ เพราะเรื่องนี้บู๊หนักมาก ทุกคิวคือมีบู๊ทุกคิว แมนๆ มันส์ๆ” (หมาก ปริญ)

“นอกจากแอคชั่นที่เป็นแฟนตาซีแล้ว มีแอคชั่นแล้วก็ยังได้เล่นความรู้สึกด้วย” (นก ฉัตรชัย)

“ใช้ทุกอย่างที่ร่างกายมีเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่แค่ผ่านหัว ผ่านร่างกาย ผ่านทั้งตัว ผ่านทุกอย่าง ของมันเยอะมากเลยต้องปล่อยออก” (ก๊อต จิรายุ)

ศาสตร์ลึกลับ-ความเชื่อที่เหมือนจะอยู่ไกลตัวเรา แต่แท้จริงแล้วมันแอบปะปนอยู่ใกล้กว่าที่คิด เรื่องราวของไสยเวทอาคมขลังแห่งโลกยุคใหม่กำลังเริ่มต้น สู่การปะทะอันดุเดือดของ “เหล่าจอมขมังเวท” ที่มีศรัทธาแห่งตัวตนเป็นเดิมพันและอาคมปาฏิหาริย์เป็นตัวชี้ชะตา “สงครามมหาเวท” พร้อมปะทุถึงขีดสุด…

ปลุกความขลังขมังเวทโดย “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” และผู้กำกับต้นฉบับจอมขมังเวทย์ “ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” พร้อมทัพนักแสดงแถวหน้าฝีมือฉกาจ “หมาก-ปริญ สุภารัตน์”, “นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช”, “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล”, “นก-สินจัย เปล่งพานิช”, “คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล” และ “แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา”

บางอย่างของมันต้องมี บางอย่างของมันต้องมู เชื่อหรืองมงาย คุ้มครองหรือครอบงำ เปิดสงครามมหาเวทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค! ปล่อยอาคมขลัง, แอคชั่นเดือดระอุ สัตว์เวทแฟนตาซี และทีมขมังเวททางการแสดงกับ #จอมขมังเวทย์2020 หนังเรื่องนี้มันต้องดู

กระหน่ำความขลังท้าทายทุกสายตา ล่าสุดกับ “ใบปิดหลัก” ของภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์แห่งปี “จอมขมังเวทย์ 2020” เมื่อ “ศรัทธาคลั่ง” ปะทะ “อาคมขลัง” ดำดิ่งสู่ “สงครามไสยเวท” ที่พร้อมถล่มแอคชั่นมันส์ระอุ 14 พฤศจิกายนนี้

เรื่องราวของไสยเวทอาคมขลังแห่งโลกยุคใหม่กำลังเริ่มต้น สู่การปะทะอันดุเดือดของทีมนักแสดงขมังเวทฝีมือฉกาจ “หมาก-ปริญ สุภารัตน์”, “นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช”, “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล”, “นก-สินจัย เปล่งพานิช”, “คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล” และ “แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา” ที่ปล่อยพลังการแสดงแบบไม่มีใครยอมใคร งานนี้ทะลักจุดเดือดแน่นอน

นอกเหนือจากแอคชั่นมันส์แบบลูกผู้ชายแล้ว อีกหนึ่งสิ่งน่าจับตาก็คือความแอคชั่นแฟนตาซีที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี “จอมขมังเวทย์ 2020” ตั้งใจใส่ลงไปอย่างเข้มข้นกับของขลังที่เหล่าจอมขมังเวทพร้อมจะสาดใส่กันอย่างไม่ยั้งในรูปแบบของ “สัตว์เวท” ที่จะปรากฏกายและถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพสมจริงอย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผนึกกำลังทวีคูณความมันส์ไปกับเหล่าสัตว์เวทที่จะสร้างความแปลกใหม่และมอบความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ชมได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น...

“มอม” - สัตว์เวทแห่งล้านนา บันดาลความร่มเย็น เปี่ยมพลานุภาพ อิทธิฤทธิ์ คงกระพัน แคล้วคลาด ทั้งกันและแก้อาถรรพ์ ปัดป้องทุกอันตรายไม่ให้ถึงตัว

“วัวธนู” - ผู้พิทักษ์ทรงพลังแห่งแดนใต้ เด็ดเดี่ยว ดุดัน ปกป้องอาถรรพ์อันตราย พร้อมทำลายศัตรูให้สิ้นซากได้ถ้าผู้เป็นนายต้องการ

“ต่อแตน” - อักขระแห่งสุวรรณภูมิสู่ฝูงสัตว์แห่งศาสตรา มนตร์คาถาแห่งความหวาดกลัว จะสั่งเป็นสั่งตาย โจมตีทั้งกองทัพสะเทือนได้ในชั่วพริบตา

เตรียมพบความมันส์เหนืออาคม แห่งศาสตร์ไสยเวท ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ “จอมขมังเวทย์ 2020” ซึ่งนอกเหนือจากความดุเดือดในภาพยนตร์แล้ว สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ยังเสริมความขลังขึ้นอีกขั้นให้แฟน ๆ ด้วยการออกแบบสติกเกอร์สุดพิเศษ “ยันต์สัตว์เวทมงคล” ลงอักขระโดยเกจิอาจารย์ชื่อดัง “อาจารย์หนู กันภัย” เพื่อมอบให้กับลูกค้าที่จองบัตรชมภาพยนตร์ล่วงหน้า “จอมขมังเวทย์ 2020” ตั้งแต่วันที่ 1-13 พฤศจิกายนนี้ เท่านั้น

โดยอาจารย์หนู กันภัย ได้ออกแบบยันต์อย่างถูกต้องและช่วยเสริมสิริมงคล ไม่ว่าจะเป็น “วัวธนู” ลงยันต์เพื่อเรียกโชค เรียกลาภ เรียกเงิน เรียกทอง ให้ผู้ที่มีสติกเกอร์นั้นมีเงินตลอดกาล , “มอม” เทพเทวดาจุติลงมาเฝ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และปราบเหล่าร้าย อันมาพร้อมกับยันต์สำคัญอย่าง นะกินไม่รู้สิ้น ซึ่งเป็นยันต์ที่โด่งดังทั่วโลก ทุกคนปรารถนา ช่วยเรื่องฐานะการเงินให้ดีขึ้น รวมทั้ง “ต่อ-แตน” ที่ครั้งนี้อาจารย์ปลุกปั้นอย่างดี ช่วยต่อเงิน ต่อทอง ต่อโชคชะตาราศี ต่อความร่ำรวย รวยวันรวยคืน มั่งมีศรีสุข

งานนี้ #ของมันต้องมู มาในรูปแบบของสติกเกอร์ยันต์ 3 สัตว์เวทมงคล พกพาง่าย บูชาไว้การันตีความขลังของจริง! ย้ำอีกครั้งจองตั๋วล่วงหน้าภาพยนตร์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” ทุก 1 ที่นั่งรับสติกเกอร์ “ยันต์สัตว์เวทมงคล” ลงอักขระโดยอาจารย์หนู กันภัย จำนวน 1 เซ็ต (ภายในเซ็ตประกอบด้วย 3 สัตว์เวท) ตั้งแต่วันที่ 1-13 พฤศจิกายน 2562 (ของมีจำนวนจำกัด)

**สามารถจองได้ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ , โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ซีเนม่า ทุกสาขาทั่วประเทศ , โรงภาพยนตร์ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า (ทั้ง 2 สาขา) , โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ฮอลลีวูด (ทั้ง 2 สาขา) และโรงภาพยนตร์ โคลีเซี่ยม (ทั้ง 3 สาขา)

“ไอ้พวกขมังเวทในโลกนี้ มันมีเยอะเกินไปว่ะ...” คุณเชื่อประโยคนี้มั้ย? ความเชื่อ ไสยเวท คาถาขลัง มันไม่เคยหายไปไหน แม้ว่านี่คือปี 2019 ยังมีผู้คนที่เรียนรู้ศาสตร์ลึกลับ และด่ำดิ่งสู่โลกแห่งอาคม ซึ่งพวกเขาก็ปะปนรวมอยู่ ใกล้ตัวพวกเราทุกคนมากกว่าที่คิด แน่นอนว่ามันกลายเป็นคอนเซปต์หลักของ “จอมขมังเวทย์ 2020” ที่จะพูดถึงความเชื่อของคนสองยุคมาเจอกัน วิธีการของจอมขมังเวทแต่ละคนที่จะใช้ศาสตร์ต่าง ๆ มาต่อสู้กันตามความเชื่อและศรัทธาของตนเอง

เช่นเดียวกันกับการปลุกปั้นตัวละครหลักของ “จอมขมังเวทย์ 2020” อย่าง “วิน” รับบทโดย “หมาก-ปริญ สุภารัตน์” เขา คือ ตัวแทนของคนยุคใหม่ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องงมงาย โดยเราจะเห็นได้ชัดจากภาพลักษณ์นักสู้ มีงานอดิเรกเป็นการต่อยมวย การออกกำลัง รวมไปถึงมีพลังในตัวสูง เมื่อการสูญเสียครอบครัวเป็นเหตุให้เขาเริ่มพัวพันกับศาสตร์มืด ยิ่งถลำเข้าไปลึกเท่าไหร่ เขาต้องแลกความเป็นตัวตนมากเท่านั้น ทุกสิ่งอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยความเร็วแรง ในหลาย ๆ ซีนที่หมาก ปริญ จะต้องทุ่มแอคชันหนัก บู๊เข้มข้น เล่นจริงยอมเจ็บเอง เช่น ฉากต่อยด้วยมือเปล่า หรือฉากขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่า ทำให้เห็นถึงความเป็นเมืองสมัยใหม่ แต่ของขลังมันก็ต้องมี

อีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่องอย่าง “ก็อด” รับบทโดย “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” ที่ยิ่งตอกย้ำภาพจอมขมังเวทยุคใหม่ เขามาในมาดของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอนาคตไกล ภาพลักษณ์ดูเท่ มีเสน่ห์เฉพาะตัวให้ผู้คนหลงใหล แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเขาหมกมุ่นกับศาสตร์มืด เขาอยากจะเป็นที่สุดในทุก ๆ ด้าน รวมทั้งด้านของจอมขมังเวท ราวกับว่าเป็นพระเจ้าในโลกยุคนี้

ถ้าอยากชนะตำนาน จงเป็นให้ได้ยิ่งกว่าตำนาน! ความเชื่อ ศรัทธา อาคม ที่เหมือนจะอยู่ไกลจากตัวเรา แต่มันแอบปะปนและอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด ปลุกความขลังขมังเวทสู่สงครามไสยเวทครั้งใหญ่ โดยผู้กำกับต้นฉบับ “ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ศึกของจอมขมังเวทในตำนาน และจอมขมังเวทรุ่นใหม่ ปล่อยอาคมขลัง, แอคชั่นเดือดระอุ, สัตว์เวทแฟนตาซี งานนี้ใครจะขลังของจริง! #จอมขมังเวทย์2020 บางอย่างของมันต้องมี บางอย่างของมันต้องมู และที่สำคัญหนังเรื่องนี้มันต้องดู!

หวนคืนจอใหญ่ในรอบครึ่งทศวรรษให้แฟนๆ ภาพยนตร์ไทยได้หายคิดถึงกัน และยังคงทรงพลังไม่เสื่อมคลายกับ “จอมขมังเวทตัวพ่อ” บทบาทสุดอมตะของนักแสดงชั้นเซียน “นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ที่พร้อมกลับมาปลุกตำนานความขลังคงกระพันให้เป็นที่จดจำมากขึ้นกว่าเดิมในภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์แห่งปี “จอมขมังเวทย์ 2020” ซึ่งงานนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับเหล่าขมังเวทรุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น “หมาก ปริญ, ก๊อต จิรายุ, นก สินจัย, คิทตี้ ชิชา, แพร์ พิชชาภา” ฯลฯ ที่พร้อมกระหน่ำทุกคาถาอาคมเพื่อสร้างตำนานบทใหม่ให้ขลังกว่าและเดือดกว่า…

“ก็กลับมารับบทบาทเดิมที่เคยแสดงไว้เมื่อ 14-15 ปีก่อน ก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับมารับบทนี้นะครับ ในเรื่องจริงๆ แล้วเป็นตำรวจที่หมกมุ่นอยู่กับคาถาอาคม จนกระทั่งตัวเองเข้าไปติดอยู่ในวังวนของความเป็นขมังเวท พอมาในภาคนี้ก็เป็นภาคต่อที่หลังจากเหตุการณ์มันล่วงเลยมานาน อิทธิก็ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อมาตามทวงคืนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรื่องราวในยุคปัจจุบัน พอมาเห็นพวกขมังเวทในยุคปัจจุบันเป็นแบบไหน ตัวเองก็รู้สึกว่ามองเห็นสิ่งที่เป็นไปของโลกมากขึ้น ก็ต้องมาเจอตัวละครใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา แล้วก็เห็นว่าเด็กๆ รุ่นใหม่เป็นยังไง เราก็รู้สึกว่าเราควรจะทำยังไงดีกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน

ถ้าจะพูดถึงหนัง ‘จอมขมังเวทย์' ในยุค 2020 นี้นะครับ มันก็อาจจะเป็นอะไรที่ไกลตัวนิดนึง เพราะว่ามันมีพวกโซเชียลต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ว่าถ้าเราสังเกตดีๆ ไอ้พลังลึกลับพวกนี้เนี่ยมันยังมีอยู่ ไม่ว่าจะมีคลื่นโทรศัพท์มาแทรกก็ตาม แต่ไอ้พลังลึกลับพวกนี้เราก็ยังเห็นอยู่เป็นประจำว่ามันยังคงอยู่ เพราะฉะนั้นคำว่าจอมขมังเวทมันก็ยังขลังอยู่ครับ”

พิเศษสุดสำหรับผู้ซื้อตั๋วล่วงหน้าภาพยนตร์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” ทุก 1 ที่นั่งรับสติกเกอร์ “ยันต์สัตว์เวทมงคล” ลงอักขระโดยอาจารย์หนู กันภัย จำนวน 1 เซต (ภายในเซตประกอบด้วย 3 สัตว์เวท) ตั้งแต่วันนี้ -13 พฤศจิกายน 2562 (ของมีจำนวนจำกัด)

**สามารถจองได้ที่โรงภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ (ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ http://bit.ly/2Pval8B) , โรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ ซีเนม่า ทุกสาขาทั่วประเทศ (ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ http://bit.ly/2PvxiZ8), โรงภาพยนตร์ เซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่ พลาซ่า (ทั้ง 2 สาขา) , โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ฮอลลีวูด (ทั้ง 2 สาขา) และโรงภาพยนตร์ โคลีเซี่ยม (ทั้ง 3 สาขา)

กำลังเป็นที่สนใจและถูกจับตามองมากที่สุดในขณะนี้สำหรับ “จอมขมังเวทย์ 2020” ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปีโดยผู้กำกับต้นฉบับจอมขมังเวทย์ “ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ที่กลับมานั่งแท่นกำกับภาคใหม่ของภาพยนตร์ในตำนานเรื่องนี้ ซึ่งเขาได้ค้นคว้าและอ้างอิงข้อมูลจริงในการถ่ายทอดเรื่องราวของไสยเวทอาคม เติมเต็มจินตนาการกับเหล่าสัตว์เวท ทุ่มเทสุดพลังกับฉากแอคชั่นมันส์ระอุ พร้อมด้วยทีมขมังเวททางการแสดง เพื่อเนรมิตให้ “จอมขมังเวทย์ 2020” เป็นภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีสุดขลังสมจริง และเป็นตำนานบทใหม่ที่แปลกต่างแห่งโลกภาพยนตร์

“เรื่องราวของไสยเวท คาถาอาคม ของขลังที่เสกขึ้นมา ทุกอย่างผมรีเสิร์ชข้อมูลและอ้างอิงมาจากเรื่องจริง อ้างอิงแม้กระทั่งเรื่องราวของหลวงปู่ศุขกับเสด็จเตี่ย (กรมหลวงชุมพรฯ) ที่เกิดเหตุการณ์เวทมนตร์ต่างๆ ผมก็จำลองเหตุการณ์มาใส่ในหนัง ทำให้คนดูได้เห็นว่าการเสกสัตว์เวทต่างๆ เป็นยังไง ทั้งต่อ-แตน, วัวธนู, มอม ฯลฯ นี่คือจินตนาการของผมที่ออกมาจากตัวหนังสือและทำให้เห็นเป็นภาพ ซึ่งภาคนี้เราจะได้เห็นอะไรที่มันตื่นตาตื่นใจมากกว่าภาคที่แล้ว เพราะว่าด้วยเทคโนโลยีที่มากขึ้น มันก็จะทำให้เห็นภาพที่สมจริงได้มากขึ้น ผมว่าจอมขมังเวทย์ภาคนี้จะทำให้คนดูรู้สึกว่าได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว มาถึงยุคนี้ที่ศรัทธาของคนรุ่นใหม่ปะทะคนรุ่นเก่า อันไหนจะแรงกว่ากัน ทั้งเรื่องราว แอคชั่นการต่อสู้ การแสดง และซีจีที่ผมจะทำให้มันยิ่งใหญ่กว่าภาคที่แล้ว ผมอยากให้คนดูสนุกมันส์เพลิดเพลินไปกับหนัง และให้รู้สึกคุ้มค่ากับค่าตั๋วที่สุด ก็ขอฝาก ‘จอมขมังเวทย์ 2020' นะครับ เข้าฉาย 14 พ.ย.นี้ อย่าลืมไปชมกันครับ”

เปิดฉากสงครามไสยเวทมันส์สนั่นโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ “จอมขมังเวทย์ 2020” หนึ่งในลิสต์ภาพยนตร์ไทยที่น่าจับตาของปีนี้ ด้วยความที่นำเอาศาสตร์ลึกลับ ของขลัง อาคมเดือด มาเสกให้เข้ายุคสมัย พร้อมกับความเชื่อของคนในปัจจุบัน แถมยังได้แคสต์คุณภาพที่หลายเสียงการันตีว่า ฝีมือดีจริง! ไม่ว่าจะเป็น “หมาก-ปริญ สุภารัตน์” ปลดล็อกการแสดงแบบไม่ห่วงหล่อ จนใคร ๆ ก็เชื่อในตัวละครขมังเวทรุ่นใหม่ หรือ “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” ที่คว้าคำชมว่าเป็นนักแสดงทรงพลังคลั่งได้ใจ และที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับจอมขมังเวทในตำนาน “นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ซึ่งแฟน ๆ ลงคะแนนว่าความขลังยังคงอยู่ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีกระแสชื่นชมฝั่งนักแสดงหญิงก็เข้าถึงบทบาทแบบไม่มีใครยอมใคร!

ไม่เพียงแค่พาร์ตของนักแสดงเท่านั้น เพราะยังมีคอมเมนต์ชื่นชมความบันเทิงขั้นสุด แฟนตาซีจัดเต็มของบรรดา “สัตว์เวท” และแอคชั่นโคตรเท่ที่ถูกดีไซน์ออกมาชวนลุ้นตามไปทุกจังหวะ อย่างที่นักแสดงเคยบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้บู๊จัดเต็มมากของจริง

ถ้าอยากชนะตำนาน จงเป็นให้ได้ยิ่งกว่าตำนาน! ปลุกความขลังขมังเวทสู่สงครามไสยเวทครั้งใหญ่ โดยผู้กำกับต้นฉบับ “ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ปล่อยอาคมขลัง, แอคชั่นเดือดระอุ, สัตว์เวทแฟนตาซี งานนี้ใครจะขลังของจริง! บางอย่างของมันต้องมี บางอย่างของมันต้องมู และที่สำคัญหนังเรื่องนี้มันต้องดู!

“ฉากแอคชั่นเดือดระอุ” คำยืนยันจากผู้ที่ได้ชมกันไปแล้วกับภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตซีอาคมขลังเรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” ที่เรียกได้ว่าจัดหนักของจริง อัดแน่นเกินครึ่งของทั้งเรื่องด้วยฉากแอคชั่นมันส์ระห่ำที่จะทำให้ผู้ชมลุ้นจนแทบลืมหายใจ เพราะงานนี้ทีมนักแสดงเล่นจริง เจ็บจริง จุกจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “ฉากสงครามไสยเวท” สุดยิ่งใหญ่ที่ผู้กำกับ “ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์” ได้ยกกองไปไกลถึง “ถ้ำเขาบิน จ.ราชบุรี” ซึ่งงานนี้ทีมงานได้ปิดถ้ำแห่งนี้ถ่ายทำกันอยู่ 3 วัน 3 คืนกันเลยทีเดียว เพื่อความอลังการงานสร้างและความสมจริงกับฉากไคลแม็กซ์ของภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของพิธีกรรมความเชื่อและศรัทธาของตัวละครที่ต้องปะทะกันอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นฉากที่รวมทีมนักแสดงหลักไว้ครบทุกคนในฉากเดียวไม่ว่าจะเป็น “หมาก ปริญ, นก ฉัตรชัย, ก๊อต จิรายุ, นก สินจัย, คิทตี้ ชิชา และ แพร์ พิชชาภา” ซึ่งต่างก็ได้โชว์ฝีมือทั้งการแสดงดราม่าและแอคชั่นที่ดวลขลังคลั่งเดือดแบบไม่มีใครยอมใครท่ามกลางอากาศในถ้ำที่น้อยนิดและความร้อนระอุที่มากโขซึ่งถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการถ่ายทำฉากนี้เลยก็ว่าได้ แต่ทั้งทีมงานเบื้องหลังและทีมนักแสดงก็ไม่หวั่น โชว์สปิริตในการทำงาน ร่วมมือร่วมใจกันจนการถ่ายทำผ่านพ้นไปได้ด้วยดีสมกับเป็นจอมขมังเวทของจริง

(ผู้กำกับ ต้อม ปิยะพันธุ์) “แอคชั่นเกิน 50% อย่างหนึ่งคือมันเป็นหนัง ‘จอมขมังเวทย์' ที่อัปเกรดขึ้น หมายความว่าตัวจอมขมังเวทแต่ละคนสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ เสกโน่นเสกนี่ออกมาได้ แอคชั่นโน่นนี่ได้ แต่แอคชั่นนี่ไม่ได้หมายความว่า เราต้องมานั่งเตะต่อยกันตลอดนะ แอคชั่นหมายความว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้นอยู่ตลอดเวลาในความรู้สึกผมนะ คือหมดเหตุการณ์นี้ก็จะเกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งต่อเนื่อง อีกคนไปโน่นแล้ว โดนเล่นอีกแล้ว เอาเข้าจริงเรื่องนี้คือไม่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำ คือซัดกันยาวตั้งแต่ต้นยันจบ ผมถึงเรียกว่าแอคชั่น แอคชั่นของสถานการณ์ แอคชั่นของตัวละคร ลุกไปก็มีพลาด มีอ้าว...อะไรอย่างงี้ เพราะเรื่องมันจะเดินเร็วเหมือนกัน ฉากสงครามไสยเวทในถ้ำฉากนี้ยากมาก เพราะเป็นฉากไคลแมกซ์ที่จอมขมังเวททุกคนมาปะทะกันหมด คือเราเห็นว่าถ้ำเขาบินนี้มันไม่เหมือนถ้ำอื่น เราก็อยากให้มันเป็นแอคชั่น Crowd Scene ตัวละครทุกตัวมาอยู่ในที่เดียวกันหมด ซึ่งรับรองความโหดของทั้งเนื้อเรื่องเข้มข้น, แอคชั่นสุดเดือด, ซีจีสัตว์เวท, การเซตฉาก และบรรยากาศการถ่ายทำในที่ที่มันอึดอัดคับแคบอย่างนี้ มันก็เลยยากทุกอย่าง แต่ก็ออกมาเป็นฉากไฮไลต์เดือดสุดได้จริงๆ”

(หมาก ปริญ) “เหนื่อยมากครับฉากในถ้ำ ฉากนี้ก็เป็นฉากขององค์กรลับนี่แหละ เรียกคนเข้าไปแล้วก็ทำพิธีกันในถ้ำ เป็นฉากไคลแมกซ์ที่ทุกคนมารวมกันทั้งผม, พี่ก๊อต, พี่นกชาย, พี่นกหญิง, แพร์, คิทตี้ โอ้โห...ก็มาอยู่ในนั้นทุกคน มาช่วยกันหมดเลย ตอนอ่านบทนี่ มันเจ๋งตรงที่ไม่คาดฝันว่ามันจะไปถึงขนาดนั้นได้ เป็นการรวมพลังของจอมขมังเวทแล้วก็เสกกลายเป็นตัวอะไรออกมา มันมาได้ยังไง มันเท่ดี ส่วนบรรยากาศในฉากนี้ถ่ายที่ถ้ำเขาบิน จ.ราชบุรี ไม่อยากจะนึกเลยอะ นึกแล้วก็เหนื่อยๆๆ ก็คือในถ้ำมันเป็นถ้ำอับ เข้าออกได้ทางเดียว อากาศก็ไม่มี เค้าก็ชอบจังเลย (หัวเราะ) ไปถ่ายตรงนั้น รวมทุกคนในนั้น มันเหนื่อยมากเลย ทั้งทีมงานจัดไฟ ทั้งทีมตากล้อง เข้าไปอยู่เป็นวันๆ ต้องไปแอคชั่นในนั้นอีก แต่ก็พอผ่านมาได้ ก็เออ...เราก็อึดเหมือนกันเนาะ (หัวเราะ) เป็นฉากที่ยากที่สุด และประทับใจที่สุดเลยแหละ เพราะเราได้ลงแรงไปกับที่นั่นเยอะมากเลยครับ”

(ก๊อต จิรายุ) “ฉากนี้เตรียมตัวค่อนข้างเยอะเพราะมันเป็นจุดพีกของเรื่อง จุดคลายปมว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ซ้อมฉากนั้นอยู่เป็นเดือนเหมือนกัน เฉพาะไดอะล็อกเดียวที่ต้องพูดออกไป แล้วก็เป็นการเจอกันระหว่าง “หมาก ปริญ” แล้วก็เจอ “พี่นกชาย” ด้วย “พี่นกหญิง” อีก ซึ่งแต่ละคนนี่เทพสุดๆ เราก็ต้องเตรียมตัวของการแสดงไประดับหนึ่งเลย ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะตื่นเต้นนะ แต่พอไปอยู่จริงๆ ก็ไม่ตื่นเต้นเพราะมันร้อน ลืมตื่นเต้น มันร้อนเกิน เล่นกับซีจีด้วย จินตนาการล้วนๆ ครับ มันจะเป็นจุดคลายตัวว่าใครเป็นใคร แล้วพอรู้ว่าตัวการคือคนนั้นคนนี้ พวกเค้าจะจัดการกันยังไง”

ทำรายได้เปิดตัวแรงอันดับหนึ่งของสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับภาพยนตร์ไทยแอคชั่นแฟนตาซีฟอร์มยักษ์แห่งปี “จอมขมังเวทย์ 2020” ที่สามารถเรียกกระแสบวกๆ ชื่นชม และบอกต่อมากที่สุดเรื่องหนึ่งของปีนี้ทันทีที่ออกฉายถึงความเป็นภาพยนตร์ไสยเวทเดือด อาคมขลัง แอคชั่นมันส์ ทีมนักแสดงทรงพลัง สนุกเกินคาด เอนด์เครดิตสุดเซอร์ไพรส์ ฯลฯ การันตีความประทับใจเป็นเสียงเดียวกันว่า “หนังเรื่องนี้มันต้องดู”

“นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้ดูหนังแอคชั่นไทยดีๆ ดุเดือด และดูสนุกที่สุดในรอบหลายปี คาถาจัดเต็ม CG ดูดี ของมันต้องมี End Credit ดีมาก ว้าวกันทั้งโรง” - ขอบสหนัง
“หนังแอคชั่นแฟนตาซีของไทยที่ทำออกมาได้โคตรมันส์มากๆ ใส่ความบันเทิงเต็มสูบ ตัวละครเท่มากมาย ชอบการดีไซน์ทุกตัวเลย ตอนสู้กันมันเลยเหมือนฮีโร่มาบู๊กันดี” - ดาราปังหนังเปรี้ยง
“เป็นหนังระทึกขวัญที่แปลกใหม่ ชอบมาก มันว้าวดี ชวนจินตนาการตลอดเวลา ไอ้คนนี้จะใช้เวทอะไร ไอ้คนนี้จะตอบกลับแบบไหน คือมันลุ้น” - แฟนพันธุ์แท้หนังสยองขวัญ

“พีกสัสๆ เป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่อยากจะเข้าไปดูซ้ำ ปรบมือให้เลย มันต้องแบบนี้สิวะหนังไทย ชื่นใจจริงๆ” - นักเลงโรงหนัง
“ขอยกให้เป็นหนังแอคชั่นไทยที่เดือดที่สุดในปีนี้ ทั้งสนุก สยอง แฟนตาซีผสมกัน” - เกมเมอร์อมตีน
“สนุกมากไม่มีช่วงเบื่อเลย หมากทำได้ดีมาก ก๊อตขโมยซีนปังมาก” - อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก
“ดุเดือดมาก ตรึงคนดูได้ตลอด เด็ดสุดคือการจัดแสงเล่นสี ทำให้หนังมีเสน่ห์ขึ้นเยอะ” - GossipGun
“มันส์จริงกระทิงแดง โปรดักชั่นเนี้ยบ แอคชั่นเดือด CG โหด สานต่อโดยไม่ทำลายเรื่องราวต้นฉบับ ภาค 3 ต้องมาแล้ว” - รีวิวตามใจหมี
“สนุก ดุดัน เดินเรื่องไว มีความตั้งใจเรื่องคิวบู๊ ฉาก และ CG ที่เหนือทุกอย่างคือนักแสดง แสดงได้ดีมาก ได้ใจไปเลย” - Sillyrabbit

ยังคงเป็นภาพยนตร์ไทยแห่งตำนานที่ถูกพูดถึงต่อเนื่อง สำหรับ “จอมขมังเวทย์ 2020” เพราะบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซีที่มันส์สุด และเดือดสุดประจำปีนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งนักแสดงยังจัดหนักปล่อยความขลังสะกดคนดูจนละสายตาไม่ได้เลยสักนาที นอกเหนือจากความสนุกเบื้องหน้าที่คว้าตำแหน่ง “หนังเรื่องนี้มันต้องดู” กันไปแล้ว งานเบื้องหลังของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังจัดเต็มถึงใจคนดูไม่แพ้กัน!

ซึ่งไฮไลต์สำคัญของงานภาพนิ่งเบื้องหลัง “จอมขมังเวทย์ 2020” ได้ช่างภาพฝีมือดีอย่าง “บอย-ณรงค์ บุตรโยธี” หรือหลายคนอาจจะรู้จักในนามเพจ “ฟิล์มนิยม” ที่ขนกล้องโดยเฉพาะกล้องฟิล์มมาบรรจงกดชัตเตอร์ สร้างทั้งงานภาพสู่สายตาแฟน ๆ และบันทึกความทรงจำในส่วนของงานเบื้องหลังให้กับภาพยนตร์ในตำนาน และนี่คือเซตภาพบางส่วนจาก “จอมขมังเวทย์ 2020” ที่เชื่อว่าใครเข้าไปดูภาพยนตร์มาแล้วยิ่งอินหนัก ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดู การันตีด้วยงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังว่าไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด!

“จุดยืน...คือสิ่งที่เรา ตากล้องภาพนิ่งจะต้องรู้ เพื่อให้ได้ภาพ โดยที่ไม่ไปรบกวน หรือเกะกะ ทีมงานหน้าเซต แต่จุดยืน ที่สำคัญกว่าที่ยืน คือ หน้าที่ผู้บันทึกภาพ ความทรงจำหนึ่งช่วงเวลา ของโลกภาพยนตร์”