Show The Lord of the Rings: The Rings of Power (เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ) พร้อมฉายวันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2565 รับชมได้ทาง Prime Video ซีรีส์ The Lord of the Rings: The Rings of Power ครั้งแรกของการนำมหากาพย์ภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง The Lord of the Ring มาเล่าขานให้ได้ชมในรูปแบบของซีรีส์ เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานยุคที่สองของประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธ มหากาพย์บทใหม่นี้เกิดขึ้นนับพันปีก่อนเหตุการณ์ใน The Hobbit และ The Lord of the Rings ของ J.R.R. Tolkien โดยซีรีส์จะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่พลังอันยิ่งใหญ่ถูกหลอมรวม อาณาจักรต่างๆ รุ่งโรจน์และล่มสลาย เหล่าฮีโร่จำเป็นถูกทดสอบ ความหวังของผู้คนแขวนอยู่บนเส้นด้าย และจอมวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่างพากันหลั่งไหลเข้ามา โลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด  ซีรีส์จะพาผู้ชมติดตามกลุ่มตัวละครทั้งคาแรคเตอร์ใหม่และที่คุ้นเคย เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งในมิดเดิลเอิร์ธ จากส่วนลึกที่มืดมิดที่สุดของเทือกเขามิสตี้ สู่ป่าอันงดงามของเมืองหลวงเอลฟ์แห่งลินดอน ไปจนถึงอาณาจักรแห่งเกาะนูเมนอร์อันน่าทึ่ง และจรดสุดขอบแผนที่ อาณาจักรและตัวละครเหล่านี้จะเขียนบันทึกบทใหม่ทิ้งไว้เป็นมรดก อยู่ต่ออีกนานเท่านาน แม้พวกเขาจะได้จากไปแล้ว ซีรีย์ The Lord of the Rings: The Rings of Power ซีซันแรก จะมีทั้งหมด 8 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 60 นาที เริ่มออกอากาศ วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2022 โดยรับชมสองตอนแรกได้ เวลา 08.00 น. และออกอากาศตอนใหม่ทุกวันศุกร์ เวลา 11.00 น. Prime Video The Lord of the Rings: The Rings of Power Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน อีกไม่กี่วัน ‘Lord of the Rings: The Rings of Power’ ก็จะเข้าฉายบน Amazon Prime Video แล้ว หลายคนอาจยังสงสัยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะดำเนินในช่วงเวลาไหนของจักรวาล Lord of the Rings เกิดขึ้นก่อนหรือหลัง ถ้าเกิดขึ้นก่อน ช่วงนั้นแหวนถูกสร้างขึ้นหรือยัง กอลั่มยังอยู่หรือไม่ แล้วตัวละครใครบ้างจะปรากฎในซีรีส์เรื่องนี้ เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน เกิดขึ้นในยุคที่สองแห่งอาร์ดา Lord of the Rings: The Rings of Power จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงยุคที่สองแห่งอาร์ดา (Second Age of Arda) ซึ่งคำว่าอาร์ดานั้นก็คือคำเรียกสำหรับมิดเดิลเอิร์ธ (Middle-earth) ที่ทุกคนรู้จักกัน โดยเริ่มไปที่ช่วงการก่อตั้งเมืองหลวงของเอลฟ์ที่ชื่อว่าเมืองลินดอน (Lindon) และเกรย์ฮาเวนส์ (Grey Havens) ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ปรากฎอยู่ในหนังเรื่อง ‘Lord of the Rings: The Return of the King’ ตอนเอลฟ์นั่งเรือออกไปบนทะเล และจบด้วยสงครามที่เอลฟ์ร่วมมือกับมนุษย์ในการต่อกรกับเซารอน (Sauron) จนอิซิลเดอร์ (Isildur) บรรพบุรุษของอารากอน (Aragorn) ชิงแหวน One Ring มาได้ จากนั้นอิซิลเดอร์ได้ทำแหวนหล่นอยู่บริเวณแม่น้ำอันดูอิน (Anduin River) ก่อนจะพบโดยสมีโกล (Smeagol) หรือกอลั่ม (Gollum) เป็นช่วงยุคทองของอาณาจักรนูเมเนอร์ (Numenor) ช่วงแห่งการทำแหวนพลังวงแรก เพนย์ และแมคเคย์ (JD Payne and Patrick McKay) สองผู้กำกับกล่าวไว้ว่า “ก่อนที่มันจะมี One Ring มันเคยมีแหวนอยู่หลายวง พวกเราตื่นเต้นที่จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแหวนทั้งหมด” จากตัวอย่างคาดได้ว่าในซีซันแรกอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำแหวนพลังวงแรก หากอิงตามเส้นเวลาของโทลคีน ช่างตีเหล็กชาวเอลฟ์เริ่มทำแหวนพลังภายใต้การชี้นำของเซารอนประมาณปี 1,500 SA (Second Age) โดยชุดแรกเป็นแหวนของเอลฟ์ทั้งสามวงถูกทำขึ้นโดยเซเลบริมบอร์ (Celebrimbor) จากนั้นเป็นแหวน One Ring ถูกทำขึ้นในปี 1,600 SA ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกว่านานแค่ไหน ในยุคที่สองของมิดเดิลเอิร์ธนั้นยาวนานถึง 3,441 ปี ส่วนเหตุการณ์ใน ‘Lord of the Rings: Fellowship of the Ring’ นั้นเริ่มอยู่ในปี 3018 TA (Third Age) นั่นหมายความว่าซีรีส์ Lord of the Rings: The Rings of Power กับ Lord of the Rings: Fellowship of the Ring มีระยะเวลาห่างกันถึง 4,500 ปีโดยประมาณ เรื่องนี้จะนำโดย การาดรีล (Galadriel) นักรบเอลฟ์ผู้ครองหนึ่งในแหวนพลังสามวง ถ้าใครจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ให้นึกถึงเอล์ฟที่รับบท เคท แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) ที่ปรากฎอยู่ใน Lord of the rings ทั้งสามภาค ในซีรีส์จะเป็นการเล่าถึงที่มาของการครอบครองแหวนพลังของ การาดรีล และช่วงที่เธอกับ เซเลบอร์น (Celeborn) ได้เข้ามาเป็นผู้นำกลุ่มเอลฟ์ในป่าลอเรียน (Lórien) Lord of the Rings: The Rings of Power ไม่ได้สร้างจากนิยาย ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจในจักรวาล Lord of the Rings ของโทลคีนมีหนังสือทั้งหมด 12 เล่ม รวมทั้งนิยายและภาคผนวก โดยนิยายหลักมีอยู่แค่ 4 เล่ม คือ The Hobbit, The Fellowship of the Ring, The Two Towers และ The Return of the King ส่วนอีก 8 เล่ม เป็นภาคผนวกที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับมิดเดิลเอิร์ธธ เทพเจ้าที่ปรากฎอยู่ในมิดเดิลเอิร์ธ และเรื่องราวตำนานที่ปรากฎอยู่ในมิดเดิลเอิร์ธ ซีรีส์ The Rings of Power คาดว่าอิงเรื่องราวจะหนังสือภาคผนวกทั้ง 8 เล่ม โดยหนังสือภาคผนวกดหล่านี้เป็นการแตกหน่อจากการเขียนรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการสนับสนุนเหตุการณ์ต่างๆ ในนิยายเล่มหลักทั้ง 4 เล่ม ดังนั้นแล้ว ภายในซีรีส์อาจมีการสอดแทรกเรื่องราวตำนานๆ เล็กๆ น้อยๆ จากภาคผนวก ส่วนเนื้อเรื่องหลักจะเน้นไปที่ช่วงการทำแหวนพลัง ซึ่งรับรองว่าใครที่ไม่ได้ติดตามเรื่องราวของ Lord of the Rings อย่างเป็นจริงเป็นจัง จะได้พบกับความยิ่งใหญ่ และทึ่งไปกับจินตนาการของโทลคีนอย่างแน่นอน Rings of Power ได้แรงบันดาลใจจากนิทานปรัมปราของเจอร์มานิก เรื่องราวของแหวนพลัง โทลคีนได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทเพลง ‘The Ring of the Nibelung’ ของ วากเนอร์ (Wagner) ซึ่งเป็นเรื่องราวของแหวนที่ผู้ใดครอบครองจะสามารถปกครองโลกได้ และตำนานชาวนอร์สเรื่อง ‘อันด์วาราเนาท์’ (Andvaranaut) ตำนานบอกเล่าว่า เทพโลกิขโมยแหวนของคนแคระที่ชื่ออันด์วาริ (Andvari) ไป ด้วยความโกรธแค้น อันด์วาริจึงสาปแหวนวงนั้นว่า ผู้ใดที่ครอบครองมันจะต้องพบความโชคร้าย โลกินำแหวนนี้ไปให้กับ ไฮรด์มาร์ (Hreidmar) ราชาคนแคระ เป็นการชดใช้ความผิดจากที่เคยฆ่าลูกชายของไฮรด์มาร์ พอรับแหวนมาไม่ทันไร ฟาฟเนียร์ (Fafnir) ลูกชายอีกคนของไฮรด์มาร์ลงมือสังหารพ่อตัวเองเพื่อชิงแหวน จากนั้นกลายร่างเป็นมังกรเพื่อทำการปกป้องแหวนวงนี้ ต่อมาฟาฟเนียร์ถูกฆ่าด้วน้ำมือของซิเกิร์ด (Sigurd) และนำแหวนวงนี้ไปให้กับบรืนฮิลด์ (Brynhildr) ซิเกิร์ดและบรืนฮิลด์ถูกราชินีกริมฮิลด์ (Grimhild) ให้แต่งงานกับลูกๆ ของตน แหวนอันด์วาราเนาท์ จึงส่งทอดความชั่วร้ายแก่ครอบครัวสืบไป
การปล่อยตัวอย่างแรกของ Lord of the Rings: The Rings of Power ทำให้เกิดกระแสขึ้นมากมาย รวมถึงในเมืองไทย โดยเฉพาะกระแสเรื่องความดั้งเดิมของตัวละครที่ถูกเปลี่ยนไปจากการเพิ่มความหลากหลายทางวัฒนธรรมเข้าไป เช่น เอลฟ์ภายในเรื่องหลายคนคุ้นชินกับเอลฟ์ผิวขาวซีด ผิวเปล่งปลั่ง แต่ภายในทีวีโชว์เราจะเห็นเอลฟ์ที่เป็นผิวดำ ทำให้แฟนๆ หลายคนออกมาถกเถียงกันว่าโทลคีนเคยอธิบายตัวละครไว้ว่าอย่างไรบ้าง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของรูปลักษณ์คนแคระเพศหญิง ตามที่โทลคีนอธิบายไว้จะมีหนวดเครา แต่ในฉบับซีรีส์มีการตัดส่วนนี้ออกไป ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทำเอาแฟนหนังสือหลายคนไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้อาจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตามปกติเมื่อมีการทำภาพยนตร์แปลงจากหนังสือ ทำให้ผู้คนบนโลกโซเชียลออกมาตั้งคำถามถึง ‘ความดั้งเดิม’ ของงานวรรณกรรม โดยอีกฝ่ายมองว่างานวรรณกรรมควรมีความลื่นไหลไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของนักเขียนเสมอไป คงต้องติดตามมุมมองของแต่ละฝ่ายกันอีกครั้งเมื่อทีวีโชว์ออกฉายในเดือนกันยายน เราอาจได้เห็นการนำเสนอเรื่องราวที่แปลกใหม่ และน่าสนใจก็เป็นได้ Of the Ring มีกี่ภาคThe Lord of the Rings เป็นภาพยนตร์จากหนังสือ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน มีทั้งหมด 3 ภาค ฉายต่อกัน 3 ปี คือ 2001 The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring. 2002 The Lord of the Rings: The Two Towers. 2003 The Lord of the Rings: The Return of the King.
The Lord of the Rings 2022 มีกี่ตอนออกอากาศ: วันศุกร์ที่ 2 กันยายน 2022 – รับชมสองตอนแรกได้ เวลา 08.00 น.(ออกอากาศตอนใหม่ทุกวันศุกร์ เวลา 11.00 น.) จำนวนตอน: 8 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 60 นาที ช่องทางการรับชม: เฉพาะบน Prime Video เท่านั้น // รับชมได้บน Prime Video มากกว่า 240 ประเทศทั่วโลก และรับชมได้มากกว่า 30 ภาษา
The Lord of the Rings Season 1 มีกี่ตอนซีรีส์วางแผนไว้ 5 ซีซั่น ซีซั่นแรกอาจมี 8 ตอน งบบประมาณทั้งหมดราว 1 พันล้านดอลลาร์ หลัง Amazon ซื้อสิทธิ์ The Lord of the Rings มาด้วยเงิน 250 ล้านดอลลาร์ ในปี 2017. ที่มา - Gameinformer, Indiewire. FB Share.
แหวน เดอะลอร์ด มี กี่ วงแน่นอนว่าซีรีส์นี้ต้องเกี่ยวอะไรกับแหวนพลัง ซึ่งใน Lord of the Rings ทั้งสามภาคมีการเน้นย้ำถึงบทกลอนที่พรรณาถึงแหวนพลังทั้งหมด 20 วง ประกอบด้วย 3 วงสำหรับกษัตริย์เอลฟ์ 7 วงสำหรับราชาคนแคระ 9 วงสำหรับมนุษย์ และ 1 วงสำหรับเซารอน หรือที่เรียกกันว่า 'One Ring'
|
The lord of the rings กี่ภาค
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.ketajaman Inc.
