Show
พลังงานไฟฟ้าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เหนือชั้นที่สุดประเภทหนึ่งในชีวิตของเรา พลังงานไฟฟ้าสามารถผลิตได้จากหลายแหล่งพลังงาน ซึ่งในปัจจุบันการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น นำไปสู่ความพยายามในการสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชน หรือ Waste power plant เพื่อนำเอาขยะอุตสาหกรรม และขยะชุมชนมาผลิตพลังงานไฟฟ้าโรงไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ นั้นสร้างขึ้นเพื่อผลิตไฟฟ้า จากหลายแหล่งพลังงาน เราสามารถแบ่งประเภทของโรงไฟฟ้าได้หลายแบบ หากแบ่งประเภทของโรงไฟฟ้าตามแหล่งที่มา จะสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้ โรงไฟฟ้าดีเซล ใช้ดีเซลเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานไฟฟ้า มักใช้กับหน่วยผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก โรงไฟฟ้าประเภทนี้ใช้พื้นที่น้อย ในการติดตั้งมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับโรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน โรงไฟฟ้าดีเซลมักใช้เป็นโรงไฟฟ้าหรือหน่วยผลิตไฟฟ้าสำรองในกรณีที่แหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักเกิดความขัดข้อง แต่ไม่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย เพราะมีค่าบำรุงรักษาสูงและน้ำมันดีเซลมีราคาสูง โรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากการเผาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภทหนึ่ง การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงประเภทนี้ปล่อยก๊าซที่เป็นอันตรายสู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการเผาไหม้ถ่านหิน หรือน้ำมัน สำหรับในประเทศไทย มีการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในปริมาณ ประมาณร้อยละ 60 – 65 ของการผลิตไฟฟ้าใช้ในประเทศ โรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน ใช้ถ่านหิน (Steam coal or Therman coal) ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากเชื้อเพลิงประเภทนี้ปล่อยก๊าซอันตรายในปริมาณมากออกสู่ชั้นบรรยากาศ (หากโรงไฟฟ้าไม่มีระบบกรองและดักจับฝุ่นที่ดี) ประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศจึงยกเลิกการใช้โรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน ด้วยคำนึงถึงความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สามารถสร้างผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ในปริมาณสูง โดยใช้ปฏิกิริยาแบ่งแยกนิวเคลียส โดยใช้แร่ยูเรเนียมเป็นเชื้อเพลิง โรงไฟฟ้าประเภทนี้ใช้เชื้อเพลิงในปริมาณต่ำ แต่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ในปริมาณมหาศาลและมีคาร์บอนในระดับต่ำด้วย ขณะนี้ในประเทศไทยยังไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไฟฟ้าพลังน้ำ ผลิดโดยอาศัยแรงโน้มถ่วงของน้ำไหล ตามสถานีผลิตพลังงานขนาดใหญ่ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะติดอยู่กับอุปกรณ์กังหันน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งจะหมุนด้วยความเร็วสูงเพื่อใช้ประโยชน์จากน้ำที่ไหลผ่าน โรงไฟฟ้าประเภทนี้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกชนิดต่าง ๆ ในปริมาณต่ำ แต่การสร้างเขื่อนนั้นต้องอาศัยพื้นที่ในการก่อสร้างและการลงทุนสูงเช่นกัน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใช้เทคโนโลยีโฟโตวอลเทอิก (PV) พลังงานแสงอาทิตย์นั้นสร้างขึ้นจากการแปลงพลังงานจากแสงแดด ถึงแม้ว่าพลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาดที่สุดและมีอยู่อย่างไม่จำกัด การลงทุนขั้นต้นเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้นสูง เนื่องมาจากต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ในการติดตั้งเพื่อให้ได้กำลังการผลิตที่มากพอด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ใช้ชีวมวล เชื้อเพลิงชีวภาพ และขยะในการผลิตพลังงาน ชีวมวลถือเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่มีบทบาทมากประเทศไทยและปัจจุบันทางรัฐบาลมีการส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าจากขยะเพิ่มมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาขยะ โดยเฉพาะขยะชุมชน ซึ่งมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เสถียรภาพของไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก ขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของเชื้อเพลิงขยะที่เข้ามา หากมีการนำขยะมาคัดแยกเอาเฉพาะส่วนที่เผาไหม้ได้มาใช้ จะทำให้ประสิทธิภาพของดีขึ้น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ โรงไฟฟ้านี้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก คือ โรงไฟฟ้าพลังงานใต้พิภพแบบแห้ง โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพแบบซิงเกิลแฟลชสตีมและโรงงานใต้พิภพแบบสองวงจร ทั้งสามประเภทใช้กังหันไอน้ำในการผลิตไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพลังงานลม อาศัยความเร็วลมธรรมชาติมาผลิตไฟฟ้า มักสร้างขึ้นบริเวณพื้นที่โล่งการเกษตร ชายฝั่งและนอกชายฝั่ง โรงไฟฟ้าพลังงานลมมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้นสูง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการผลิตไฟฟ้าต่ำ อย่างไรก็ตามการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งเป็นสำคัญ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง เป็นการใช้ประโยชน์จากปรากฎการณ์ธรรมชาติ ของน้ำขึ้น-น้ำลง มาผลิตไฟฟ้า สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาซึ่งสามารถคาดเดาได้ง่ายกว่าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าประเภทนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก และยังต้องอาศัยการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่นำมาใช้
ประเภทของโรงไฟฟ้า คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความสะดวกสบายในปัจจุบัน เป็นผลพวงมาจากการที่เรามีไฟฟ้าใช้ทุกวันนี้ถ้าต้องการต้มน้ำก็เพียงเสียบปลั๊กหม้อไฟฟ้า ต้องการแสงสว่างก็เพียงเปิดสวิทช์ไฟ
พลังงานที่นำมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าได้มีหลากหลาย ทั้งพลังงานที่เกิดจากการไหลของน้ำ พลังงานความร้อน พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งพลังงานแต่ละประเภทมีความยาก-ง่าย ในการแปลงรูปพลังงานแตกต่างกัน รวมทั้งยังใช้เทคโนโลยีที่ต่างกันด้วย การผลิตไฟฟ้าจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ โรงผลิตไฟฟ้าก็คืออุปกรณ์ที่ใช้เปลี่ยนพลังงาน ชนิดอื่นให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งแบ่งได้หลายประเภทตามเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตไฟฟ้า หากแบ่งโรงไฟฟ้าตามแหล่งพลังงานที่นำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าแบ่งได้ดังนี้ โรงไฟฟ้าแบ่งตามการใช้เชื้อเพลิง 2. ประเภทไม่ใช้เชื้อเพลิง หมายถึงโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมด หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่แหล่งพลังงานที่ใช้แล้วหมดสิ้นไป ซึ่งอาจแบ่งย่อยได้อีกเป็น 2.1 พลังงานกล โดยใช้การเคลื่อนที่ของสสาร เช่น การพัดของลม
การไหลของน้ำ การเคลื่อนที่ของคลื่นในทะเล เพื่อหมุนกังหันให้ผลิตกระแสไฟฟ้า ตัวอย่างโรงไฟฟ้าประเภทใช้เชื้อเพลิง เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนประเภทหนึ่ง ใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง หลักการทำงานคล้ายกับเครื่องยนต์ดีเซลในรถทั่วไป โดยอาศัยการสันดาปของน้ำมันดีเซลที่ถูกฉีดเข้าไปในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ที่ถูกอัดอากาศจนมีอุณหภูมิสูงที่เรียกว่าจังหวะอัด ในขณะเดียวกันน้ามันดีเซลที่ถูกฉีดเข้าไปจะทำการสันดาป กับอากาศที่มีความร้อนสูงเกิดการระเบิด ดันลูกสูบเคลื่อนที่ลงไปเพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งต่อกับเพลาของเครื่องยนต์ที่ต่อกับเพลาของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เกิดการเหนี่ยวนำได้กระแสไฟฟ้า เนื่องจากน้ำมันดีเซลมีราคาแพงขึ้น ทำให้ไม่ค่อยนิยมที่จะสร้างโรงไฟฟ้าดีเซล เนื่องจากมีต้นทุนสูง โดยต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า เรียงลำดับจากต้นทุนต่ำไปสูง เป็นดังนี้ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเตา และน้ำมันดีเซล
เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเตา หรือถ่านหิน เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า อาศัยความร้อนจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงไปต้มน้ำในหม้อน้ำ (Boiler) ให้เป็นไอน้ำที่มีแรงดันและมีอุณหภูมิสูง เพื่อไปขับดันกังหันไอน้ำ ซึ่งจะมีเพลาต่อเชื่อมกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จากนั้นไอน้ำจะผ่านไปกลั่นตัวเป็นน้ำที่เครื่องควบแน่น และถูกส่งกลับมารับความร้อนในหม้อน้ำอีกครั้ง หลักการทำงาน ปัจจุบันได้มีการนำเข้าถ่านหินคุณภาพดีคือ บิทูมินัสมาใช้เป็นเชื้อเพลิง ในต่างประเทศใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เชื้อเพลิงที่นำมาใช้สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนในประเทศไทย คือ ลิกไนต์ เนื่องจากพบเหมืองลิกไนต์ที่จังหวัดลำปาง ลิกไนต์ถือเป็นถ่านหินที่มีคุณภาพต่ำ และก่อเกิดมลพิษได้มากกว่าถ่านหินที่มีคุณภาพสูงเช่น แอนทราไซต์หรือบิทูมินัส
โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้กังหันก๊าซเป็นเครื่องต้นกำลัง ซึ่งได้พลังงานจากการเผาไหม้ของส่วนผสมระหว่างก๊าซธรรมชาติกับอากาศความดันสูง (Compressed Air) จากเครื่องอัดอากาศ (Air Compressor) ในห้องเผาไหม้ (Combustion Chamber) เกิดเป็นไอร้อนที่ความดันและอุณหภูมิสูงไปขับดันใบกังหันเพลากังหันไปขับ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า เครื่องกังหันก๊าซเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในเปลี่ยนสภาพพลังงานเชื้อเพลิงเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง โดยทำการอัดอากาศให้มีความดันสูง 8-10 เท่า และส่งอากาศเข้าไปในห้องเผาไหม้ ทำให้เกิดการขยายตัว เกิดแรงดัน และอุณหภูมิสูง ส่งอากาศเข้าไปในหมุนเครื่องกันหันก๊าซ เพลาของเครื่องกังหันก๊าซจะต่อกับเพลาของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำและได้กระแสไฟฟ้า โรงไฟฟ้ากังหันก๊าซมีประสิทธิภาพประมาณ 25% สามารถเดินเครื่องได้อย่างรวดเร็วเหมาะที่จะใช้เป็นโรงไฟฟ้าสำรองเพื่อผลิต พลังงานไฟฟ้า ในช่วงความต้องการไฟฟ้าสูงสุด (Peak Load Period) และกรณีฉุกเฉิน และมีอายุการใช้งานประมาณ 15 ปี
เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีการทำงาน 2 ระบบร่วมกัน คือ ระบบของโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ ทำงานร่วมกับระบบของโรงไฟฟ้ากังหันไอน้ำ ส่วนประกอบที่สำคัญโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ประกอบด้วย 1. เครื่องกังหันก๊าซ (เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ, Gas Turbine) 2. หม้อน้ำ (Waste Heat Boiler หรือ Heat Recovery Steam Generator; HRSG) 3. เครื่องกังหันไอน้ำ (เช่นเดียวกับโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ, Steam Turbine) หลักการทำงาน โดยทั่วไปโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจะประกอบด้วยเครื่องกังหันก๊าซ 1 4 เครื่องร่วมกับกังหันไอน้ำ 1 เครื่อง ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าระบบความร้อนร่วมนี้จะทำการผลิตร่วมกัน หากเกิดเหตุขัดข้องกับเครื่องกังหันแก๊สเครื่องใดเครื่องหนึ่ง โรงไฟฟ้าสามารถลดกำลังผลิตที่ได้ตามสัดส่วนของเครื่องกังหันก๊าซที่หยุดเดินเครื่องไป อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุขัดข้องต่อโรงไฟฟ้ากังหันไอน้ำ โรงไฟฟ้าอาจจะมีความจำเป็นต้องหยุดการเดินเครื่อวของโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซทั้งหมดด้วย เนื่องจากการเดินเครื่องโดยไม่มีโรงไฟฟ้ากังหันไอน้ำ จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนของก๊าซธรรมชาติเท่าเดิม หากแต่ผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง ซึ่งทำให้ไม่คุ้มทุนในการเดินเครื่อง โรงไฟฟ้าก๊าซในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นแบบชนิดนี้ เนื่องจากให้ประสิทธิภาพดีกว่า โดยจะเห็นได้ว่าโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซ จะมีประสิทธิภาพประมาณ 25% หากแต่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม จะมีประสิทธิภาพสูงถึงประมาณ 50% เช่น โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ โรงไฟฟ้าน้ำพอง โรงไฟฟ้าราชบุรี เป็นต้น
เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนประเภทหนึ่ง อาศัยพลังความร้อนที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาการแตกตัวของธาตุยูเรเนียม แล้วนำไปใช้ในกระบวนการผลิตไอน้ำที่ใช้ในการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
หลักการทำงาน ส่วนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ประกอบด้วย แบบของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงไฟฟ้าชนิดนี้ จะถ่ายเทความร้อน จากแท่งเชื้อเพลิงให้น้ำ จนมีอุณหภูมิสูงประมาณ 320 องศาเซลเซียส ภายในถังขนาดใหญ่ จะอัดความดันสูงประมาณ 15 เมกะปาสคาล (Mpa) หรือประมาณ 150 เท่าของความดันบรรยากาศไว้ เพื่อไม่ให้น้ำเดือดกลายเป็นไอ และนำน้ำส่วนนี้ ไปถ่ายเทความร้อน ให้แก่น้ำหล่อเย็นอีกระบบหนึ่ง เพื่อให้เกิดการเดือด และกลายเป็นไอน้ำออกมา เป็นการป้องกัน ไม่ให้น้ำในถังปฏิกรณ์ ซึ่งมีสารรังสีเจือปนอยู่ แพร่กระจายไปยังอุปกรณ์ส่วนอื่นๆ ตลอดจนป้องกัน การรั่ว ของสารกัมมันตรังสีสู่สิ่งแวดล้อม2. โรงไฟฟ้าแบบน้ำเดือด (Boiling Water Reactor : BWR) สามารถผลิตไอน้ำได้โดยตรงจากการต้มน้ำภายในถัง ซึ่งควบคุมความดันภายใน (ประมาณ 7 Mpa) ต่ำกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบแรก (PWR) ดังนั้น ความจำเป็นในการใช้เครื่องผลิตไอน้ำ และแลกเปลี่ยนความร้อน ปั๊ม และอุปกรณ์ช่วยอื่นๆ ก็ลดลง แต่จำเป็นต้องมีการก่อสร้างอาคารป้องกันรังสีไว้ ในระบบอุปกรณ์ส่วนต่างๆ ของโรงไฟฟ้า เนื่องจากไอน้ำจากถังปฏิกรณ์ จะถูกส่งผ่านไปยังอุปกรณ์เหล่านั้นโดยตรง3. โรงไฟฟ้าแบบใช้น้ำมวลหนักความดันสูง (Pressurized Heavy Water Reactor : PHWR) ซึ่งประเทศแคนาดาเป็นผู้พัฒนาขึ้นมา จึงมักเรียกชื่อย่อว่า CANDU ซึ่งย่อมาจากคำว่า Canadian Deuterium Uranium มีการทำงานคล้ายคลึงกับ แบบ PWR แต่แตกต่างกันที่ มีการจัดแกนปฏิกรณ์ในแนวระนาบ และเป็นการต้มน้ำ ภายในท่อขนาดเล็กจำนวนมาก ที่มีเชื้อเพลิงบรรจุอยู่ แทนการต้มน้ำ ภายในถังปฏิกรณ์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถผลิตได้ง่ายกว่า การผลิตถังขนาดใหญ่ โดยใช้ น้ำมวลหนัก (Heavy Water, D2O) มาเป็นตัวระบายความร้อนจากแกนปฏิกรณ์ นอกจากนี้ ยังมีการแยกระบบใช้น้ำมวลหนัก เป็นตัวหน่วงความเร็ว ของนิวตรอนด้วย เนื่องจากน้ำมวลหนัก มีการดูดกลืนนิวตรอน น้อยกว่าน้ำธรรมดา ทำให้ปฏิกิริยานิวเคลียร์เกิดขึ้นได้ง่าย จึงสามารถใช้เชื้อเพลิงยูเรเนียมที่สกัดมาจากธรรมชาติ ซึ่งมียูเรเนียม-235 ประมาณร้อยละ 0.7 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการปรังปรุงให้มีความเข้มข้นสูงขึ้น ทำให้ปริมาณผลิตผลจากการแตกตัว (fission product) ที่เกิดในแท่งเชื้อเพลิงใช้แล้ว มีน้อยกว่าเครื่องปฏิกรณ์แบบใช้น้ำธรรมดา ข้อดีและข้อเสียของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ข้อดี ข้อเสีย
เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้เศษวัสดุจากเชื้อเพลิงชีวมวล ได้แก่ กากหรือเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร กากจากผลผลิตทางการเกษตรที่ผ่านการแปรรูปแล้ว เช่น แกลบ ชานอ้อย เศษไม้ กากปาล์ม กากมันสำปะหลัง ซังข้าวโพด กากและกะลามะพร้าว ส่าเหล้า เป็นต้น นำมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า และพลังไอน้ำ ซึ่งอาจเป็นเศษวัสดุชนิดเดียว หรือหลายชนิดรวมกันก็ได้ โดยชีวมวลแต่ละชนิดมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป สำหรับโรงไฟฟ้าที่เลือกใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิง เนื่องจากแกลบมีความชื้นต่ำ จึงให้ค่าความร้อนสูง และมีหลักการทำงานคล้ายกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน แต่จะใช้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้เพื่อให้เกิดความร้อนในการผลิตไอน้ำแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิล (น้ำมัน, ถ่านหิน, ก๊าซธรรมชาติ) หลักการทำงาน ส่วนน้ำหล่อเย็น ( Cooling Water ) ที่ใช้ในการควบแน่นแล้ว มีอุณหภูมิสูงขึ้น เนื่องจากได้รับความร้อนที่ถ่ายเทมาจากไอน้ำจะถูกทำให้เย็นลงโดยใช้หอหล่อเย็น Cooling Tower ) ระบายความร้อนออกจากน้ำหล่อเย็นสู่อากาศ ส่วนน้ำที่อุณหภูมิลดลงแล้วก็จะถูกนำมาใช้ใหม่อีก ระบบน้ำหล่อเย็นชนิดนี้จึงเป็นระบบวงจรปิด ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยขยะส่วนใหญ่เป็นมวลชีวภาพ เช่น กระดาษ เศษอาหาร และไม้ ฯลฯ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะมีวิธีการทำงานเหมือนกับโรงไฟฟ้าอื่นๆ โดยจะนำขยะมาเผาบนตะแกรง แล้วนำความร้อนที่เกิดขึ้นมาใช้ต้มน้ำในหม้อน้ำจนกลายเป็นไอน้ำเดือด ซึ่งจะไปหมุนกังหันของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โรงไฟฟ้าในโลกเรานี้ มีหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามความต้องการ หรือความจำเป็นของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะดูจากทรัพยากรพลังงาน หรือสภาพภูมิอากาศของประเทศนั้นๆ ในปัจจุบันโรงไฟฟ้าในประเทศไทยจะเป็นโรงไฟฟ้าชนิด พลังงานความร้อนร่วมเป็นส่วนใหญ่ (55%) และรองลงมาคือ โรงไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน (25%) โดยส่วนมากกว่า 75% จะใช้ก๊ษซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงอย่างไรก็ตาม การที่ประเทศใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าประเภทใดประเภทหนึ่งมาก ถือเป็นความเสี่ยงด้วยเช่นกัน ดังนั้นในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2553-2573 ซึ่งจัดทำโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงได้วางแผนที่จะเพิ่มการใช้ถ่านหินสะอาด นิวเคลียร์ และ พลังงานหมุนเวียนอื่นๆ เข้ามาในระบบ ตัวอย่างโรงไฟฟ้าประเภทไม่ใช้เชื้อเพลิง ใช้แรงดันของน้ำจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าโรงไฟฟ้าไปหมุนเพลาของกังหันน้ำ ซึ่งจะขุดให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าตลอดเวลาที่มีการเปิดน้ำให้ไหลผ่าน หลักการทำงาน โรงไฟฟ้าในยุคแรกๆของประเทศไทยจะเป็นแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำ โดย กฟผ. จะเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลการปล่อยน้ำ ทั้งเพื่อการผลิตไฟฟ้าและการชลประทาน แต่ปัจจุบันการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่จำกัดในเรื่องสถานที่ที่จะสร้างอีกทั้งการคัดค้านจากประชาชน จึงหันไปลงทุนในการสร้างเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ประเทศลาว และประเทศพม่า
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใช้เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell) รับพลังงานจากแสง เพื่อเปลี่ยนจากพลังงานแสงเป็นกระแสไฟฟ้าโดยตรง หลักการทำงาน
ประเภทของเซลล์แสงอาทิตย์ 2.เซลล์แสงอาทิตย์ แบบผลึกโพลี
(Polycrystalline) 3. เซลล์แสงอาทิตย์แบบอะมอร์ฟัสซิลิคอน (Amorphous Silicon Solar Cell) การนำเซลล์แสงอาทิตย์ไปใช้งาน
เป็นพลังงานธรรมชาติที่เกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิ 2 ที่ โดยใช้กังหันลมเป็นอุปกรณ์นำพลังงานลมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการผลิตกระแสไฟฟ้า และในการสูบน้ำ จึงต้องติดตั้งกังหันลมไว้ในสถานที่ที่ลมพัดแรงตลอดเวลาจึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อกังหันลมหมุนแกนของกังหันลมที่ต่อมายังเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะผลิตไฟฟ้าออกมาใช้งานได้ เทคโนโลยีกังหันลม หลักการทำงาน กังหันลมกับการใช้งาน ก. ตัวกักเก็บพลังงานมีอยู่หลายชนิด ส่วนมากขึ้นอยู่กับงานที่จะใช้ เช่น ถ้าเป็นกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมักนิยมใช้แบตเตอรี่เป็นตัวกักเก็บ อ้างอิง ขอบคุณเนื้อหาจาก vchakarn.com |