ข้อสอบภาษาไทย ป. ว ช 1 พร้อมเฉลย

ความเหน็ หัวหนา้ แผนกวิชา..................................................................................................................................

ลงชอื่ ........................................................
(นายสรุ พล บ้างวิจิตร )
หัวหน้าแผนกวชิ าสามญั

ความเหน็ รองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ................................................................................................................

ลงชือ่ ........................................................
(นายณพนชั หงษา)

รองผูอ้ านวยการฝ่ายวชิ าการ

ความคิดเหน็ ผ้อู านวยการ
อนุญาต
ไม่อนมุ ัติ...................................................................................................................................... ...

ลงชอื่ ........................................................
(นายวิวัฒน์ ศรบี ุญนาค)

ผู้อานวยการวิทยาลยั เทคนิคทุ่งสง

แบบตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้
วทิ ยาลัยเทคนคิ ทุ่งสง

ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓
ชือ่ วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน ครผู ู้สอน ครูฐษิ นติ า บา้ งวิจิตร ระดับชัน้ ปวช. ๑

**************************************
๑. องค์ประกอบก่อนเขา้ สแู่ ผนการจดั การเรียนรู้

๑.๑ คานา (บอกจุดประสงค์ แนะนารายละเอียดของแผนฯ ขอบคุณผู้มสี ว่ นเกี่ยวข้อง)
๑.๒ สารบญั
๑.๓ หลกั สูตรรายวชิ า ประกอบดว้ ย จุดประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวิชา คาอธิบายรายวชิ า
๑.๔ การวิเคราะหห์ น่วยการเรยี นรู้และสมรรถนะรายวิชา (สอดคลอ้ งกับคาอธบิ ายรายวิชา)
๑.๕ หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะประจาหนว่ ย
 ๑.๖ ตารางวิเคราะห์หลกั สูตรรายวชิ า
๑.๗ ตารางวเิ คราะห์หน่วยการเรยี นรูแ้ ละเวลาทใ่ี ช้ในการจัดการเรยี นรู้
๑.๘ บรู ณาการคา่ นยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการ
๑.๙ บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑.๑๐ บูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑.๑๑ แนวทางการวัดผลและประเมนิ ผลรายวิชา
๒. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะรายหนว่ ย
 ๒.๑ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้
 ๒.๒ สาระสาคัญ (ระบุความคิดรวบยอดของเนอื้ หาเป็นความเรียงในเนื้อหาแต่ละหน่วย)
 ๒.๓ สมรรถนะประจาหนว่ ย
 ๒.๔ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ประกอบด้วย

 (๑) ดา้ นความรู้ หมายถึง พฤตกิ รรมดา้ นสมองทเี่ กีย่ วกับสตปิ ญั ญา เป็นพฤตกิ รรม
ทางพุทธินิสัย ๖ ระดบั ได้แก่ ความรู้ ความเข้าใจ การนาความรู้ไปใช้ การวิเคราะห์ การประเมนิ ค่า

 (๒) ด้านทกั ษะ หมายถงึ จดุ ประสงค์ท่มี ่งุ พัฒนาพฤติกรรมท่ีเก่ยี วกับการกระทา
ประกอบดว้ ย พฤติกรรม ๕ ขั้น ดงั นี้ เลียนแบบ ทาไดต้ ามแบบ ทาได้ถกู ต้องแม่นยา ทาได้ตอ่ เนือ่ ง
ประสานกนั ทาได้อย่างเปน็ ธรรมชาติ

 (๓) ด้านคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ เปน็ พฤติกรรมทเ่ี กิดข้ึนในจติ ใจของผู้เรยี น เก่ียวกับ
ความรหู้ รืออารมณ์ แบ่งได้ ๕ ระดับ คือ รบั รู้ ตอบสนอง เห็นคณุ ค่า จดั ระบบคุณคา่ พัฒนาเป็นลกั ษณะ
นสิ ยั

 ๒.๕ สาระการเรียนรู้ (ระบุหัวขอ้ หลกั และหวั ข้อยอ่ ย)
 ๒.๖ กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย

.......... (๑) ข้ันที่ ๑ นาเข้าสู่บทเรียน
.......... (๒) ขน้ั ที่ ๒ ขั้นสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ
.......... (๓) ข้นั ที่ ๓ สรปุ

.......... (๔) มีการบรู ณาการหลกั การของหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
.......... (๕) มกี ารบรู ณาการค่านยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการ
.......... (๖) มีการบูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
......-....... (๗) มกี ารเนน้ สมรรถนะการเรียนรู้
 ๒.๗ การวดั ผลและประเมนิ ผลประกอบดว้ ย
 (๑) มีการกาหนดวิธกี ารประเมนิ ผล
 (๒) มีเครือ่ งมือวดั (แบบทดสอบประจาหนว่ ยพรอ้ มเฉลย กอ่ นเรียน ขณะเรียน หลงั
เรียน แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม)
 (๓) มีเกณฑ์การประเมิน
 ๒.๘ สือ่ การเรียนรู้ แหลง่ การเรียนรู้ (ระบุส่อื ท่ีใช)้
 (๑) มสี ือ่ การเรยี นรู้
 (๒) ไม่มีสื่อการเรียนรู้
 (๓) อน่ื ๆ ........................................................................................
 ๒.๙ หลกั ฐานการเรียนรู้
 (๑) หลกั ฐานความรู้ (ใบความรู้ ตารา)
 (๒) หลักฐานการปฏบิ ตั ิงาน (ใบปฏิบัติงาน ใบสง่ั งาน ใบมอบหมายงาน)
 ๒.๑๐ กิจกรรมเสนอแนะ / งานทม่ี อบหมาย (ถา้ มี)
 ๒.๑๑ เอกสารอ้างอิง
 ๒.๑๒ บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
๓. สรุปผลการตรวจ
 ผา่ นเกณฑ์
 ผ่านเกณฑ์ แตต่ ้องแก้ไข
 ไม่ผ่านเกณฑ์
ข้อสังเกต (กรณีท่ตี ้องแก้ไขและไมผ่ ่านเกณฑ์).................................................................................
.........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............................................
๔. กรรมการผตู้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้

ลงชอ่ื ..................................หวั หน้าแผนกวชิ า ลงชอ่ื ....................................หัวหนา้ งานพฒั นาหลักสูตรฯ
(นายสุรพล บา้ งวิจติ ร) (นายสุชาติ สวุ รรณโมกข์)
๒๖/มิ.ย./๒๕๖๓ ………../…………/……….

๕. ความเห็นของรองผูอ้ านวยการฝ่ายวิชาการ

 เห็นสมควรอนญุ าต
 ไมส่ มควรอนญุ าต เนื่องจาก........................................................................................................

ลงชื่อ......................................
(นายณพนัช หงษา)

............../............./............

๖. ความเห็นของผู้อานวยการ

 อนุญาต
 ไม่อนุญาต

ลงชอ่ื ..............................................
(นายววิ ฒั น์ ศรบี ุญนาค)
............../............./............

แผนการเรยี นการสอนเพ่ือประเมนิ พฤติกรรมผเู้ รยี นอาชีวศึกษา

ตามคา่ นยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการ

วทิ ยาลัยเทคนคิ ท่งุ สง

ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓

วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน รหสั วิชา ๒๐๐๐๐-๑๑๐๑ สาขา คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ

ครูผ้สู อน ครูฐษิ นิตา บ้างวิจิตร

รายการประเมิน พฤติกรรมทแี่ สดงออก พฤติกรรมที่ ประจาหนว่ ยท่ี
๑ – ๑๐
จะวัด -
-
๑. มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ๑.๑ รว่ มกิจกรรมเขา้ แถว ยืนตรง  -

เคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ ๑- ๑๐

๑.๒ ร่วมกจิ กรรมวนั สาคัญทาง - -

ศาสนาทตี่ นนับถือ -
๑ – ๑๐
๑.๓ ร่วมกจิ กรรมวนั สาคัญท่เี ก่ยี วกับ -
-
การเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั ริย์

๒. ซือ่ สตั ย์ เสยี สละ อดทน ๒.๑ ประพฤติ ปฎิบตั ิตนตามความ -

เปน็ จริงที่แสดงถึงการยึดม่ันในความ

ถูกต้อง ยอมรบั ผลการกระทาของ

ตนเองและผู้อ่นื

๒.๒ เสียสละกาลังกาย ทรัพย์ 

สตปิ ญั ญา ในการชว่ ยเหลือผู้อืน่ และ

สังคม

๒.๓ ควบคมุ ตนเองเม่ือประสบความ -

ยากลาบากและไมก่ ่อให้เกิดความ

เสียหาย

๓. กตัญญตู อ่ พอ่ แม่ ผู้ปกครอง ครบู าอาจารย์ ๓.๑ รู้จักบุญคุณพ่อแม่ผ้ปู กครอง -

ครบู าอาจารย์และผมู้ ีพระคุณ

๓.๒ เอาใจใส่ ดแู ลชว่ ยเหลอื ภารกจิ 

การงาน ปฎบิ ตั ิตนตามคาสัง่ สอนที่

ถูกต้องและเหมาะสม

๓.๓ ตอบแทนบญุ คุณของพ่อแม่ -

ผูป้ กครอง ครูบาอาจารย์และผู้มี

พระคุณ

รายการประเมนิ พฤติกรรมท่แี สดงออก พฤติกรรมที่ ประจาหนว่ ยท่ี
จะวดั -
๔. ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรยี น ทง้ั ๔.๑ แสวงหาความรู้ทง้ั ทางตรงและ -
 ๑ – ๑๐
ทางตรงและทางอ้อม ทางอ้อม - -

๔.๒ มงุ่ มน่ั ต้งั ใจเพียรพยายามใน - ๑ – ๑๐
- -
การศกึ ษาและปฎบิ ัตงิ าน - -
 -
๔.๓ แกป้ ัญหา และพัฒนาสง่ิ ใหมๆ่
- ๑ – ๑๐
จนบรรลผุ ลสาเรจ็ -
- -
๕. รกั ษาวฒั นธรรม ประเพณีไทย อันงดงาม ๕.๑ เข้ารว่ มโครงการหรอื กจิ กรรมท่ี -
 -
เป็นไทย -
๑ – ๑๐
๕.๒ ภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย -

๕.๓ อนุรกั ษ์สืบทอดวฒั นธรรมและ

ประเพณไี ทยอันงดงาม

๖. มีศีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวังดตี อ่ ผู้อ่ืน ๖.๑ ประพฤติตนตามหลักศลี ธรรม

เผ่อื แผแ่ ละแบ่งปนั อันดีงาม

๖.๒ ปฎิบตั ิโดยยดึ ตามหลักกตกิ า

ข้อตกลง/กฎ/ระเบยี บของ

สถานศึกษา

๖.๓ หวังดี โอบอ้อมอารีชว่ ยเหลอื

ผูอ้ ื่นตามโอกาส

๖.๔ ให้ แบง่ บนั เอ้ือเฟอื้ และ

ชว่ ยเหลือผ้อู นื่

๗. เข้าใจเรียนรกู้ ารเป็นประชาธิปไตย อันมี ๗.๑ เขา้ ร่วมกิจกรรมเกยี่ วกับ

พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ทีถ่ ูกต้อง ประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์

ทรงเปน็ ประมุข

๗.๒ เคารพสิทธิของผู้อ่นื

๗.๓ ปฎบิ ตั ิตนตามระบอบ

ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์

ทรงเปน็ ประมขุ

รายการประเมิน พฤตกิ รรมที่แสดงออก พฤติกรรมท่ี ประจาหน่วยท่ี
จะวัด ๑ – ๑๐
๘. มรี ะเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผูน้ ้อย ๘.๑ ตรงตอ่ เวลา  -
- -
รู้จกั เคารพผู้ใหญ่ ๘.๒ ประพฤตติ รงตามคาส่งั หรอื - ๑ – ๑๐
 -
ข้อบงั คับของสถานศกึ ษา -
-
๘.๓ เคารพและนอบน้อมต่อผใู้ หญ่ -
-
๙. มสี ติ รู้ตวั ร้คู ิด รู้ทา รู้ปฎบิ ัติ ตามพระ ๙.๑ คิดดี พูดดี ทาดี - -
- ๑ – ๑๐
ราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวฯ ๙.๒ สภุ าพ เรยี บรอ้ ย อ่อนน้อม 
-
ถ่อมตนตามสถานภาพและ - ๑ – ๑๐

กาละเทศะ - -
- -
๙.๓ รอบคอบเหมาะสมกบั วยั

สถานการณ์และบทบาทของตนเอง

ตามแนวพระราชดารัสฯ

๑๐. รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรัชญาของ ๑๐.๑ ใชว้ สั ดุถูกต้องพอเพียงและ

เศรษฐกจิ พอเพียงตามพระราชดารัสของพระ เหมาะสมกบั งาน

บาท สมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวฯ รู้จกั อดออมใวใ้ ช้ ๑๐.๒ เก็บออมถนอมใชท้ รพั ยส์ ิน

เม่อื ยามจาเป็น มีใวพ้ อกนิ พอใชถ้ ้าเหลอื ก็ ส่ิงของให้เกดิ ประโยชนค์ มุ้ ค่า

แจกจา่ ยจาหน่ายและพร้อมที่จะขยายกจิ การ ๑๐.๓ ปฎิบัตงิ านตามทไี่ ด้รับ

เมอ่ื มีความพร้อมเมือ่ มภี มู คิ ุ้มกนั ที่ดี มอบหมายสาเร็จตามกาหนดโดย

คานงึ ถงึ ความปลอดภัยของตนเอง

และผอู้ น่ื

๑๑. มคี วามเขม้ แขง็ ทง้ั ร่างกาย และจติ ใจ ๑๑.๑ ดูแล รกั ษาสุขภาพร่างกาย

ไมย่ อมแพ้ต่ออานาจฝ่ายต่าหรอื กิเลส มี ตามสุขอนามัย

ความละอายเกรงกลวั ต่อบาปตามหลกั ของ ๑๑.๒ ไมเ่ กยี่ วข้องกบั อบายมุข

ศาสนา 11.3 ไมน่ าทรัพย์สิน ของผู้อื่นเป็น

ของตนเอง

๑๑.๓ หลีกเลย่ี งแหลง่ มวั่ สมุ

รายการประเมนิ พฤติกรรมท่ีแสดงออก พฤติกรรมที่ ประจาหนว่ ยท่ี
จะวดั
๑๒. คานงึ ถงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวมและ ๑๒.๑ มจี ิตอาสา อุทิศตนเพื่อ  ๑ – ๑๐
ของชาติมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง ประโยชน์ตอ่ สงั คมและส่วนรวม
๑๒.๒ เสียสละความสขุ ส่วนตน --
เพอ่ื ทาประโยชนแ์ ก่ผู้อน่ื

ลงชื่อ.................................................. ลงชอ่ื ...................................................
(นางฐษิ นติ า บา้ งวจิ ิตร) (นางละม้าย ปรชี า)
ครูผู้สอน
หวั หน้างานวัดผลและประเมนิ ผล

ลงชื่อ...................................................
(นายณพนัช หงษา)

รองผอู้ านวยการฝ่ายวิชาการ

คำนำ

แผนการจัดการเรียนรูเ้ ล่มนจ้ี ัดทาขนึ้ เพ่อื ใช้ประกอบการเรียนการสอน วิชาภาษาไทย-
พ้นื ฐาน (๒๐๐๐๐ - ๑๑๐๑) ของนักเรียนระดับชนั้ ปวช. ๑ ทุกสาขาวชิ า ซ่ึงตรงตามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า
มาตรฐานรายวชิ า และคาอธิบายรายวิชา หลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ ของ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

เน้อื หาในเลม่ แบ่งเป็น ๑๐ หน่วย ประกอบด้วยเรอื่ ง ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั หลกั การ
ใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สาร การรับสารจากส่ือส่งิ พมิ พ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การอา่ นวรรณกรรมท้องถิน่
ท่สี ่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม การพดู สือ่ สารตามมารยาทของสงั คม การพูดส่ือสารในชีวิต
ประจาวนั การพดู ในโอกาสต่าง ๆ การเขยี นประเภทต่าง ๆ การกรอกแบบฟอร์มและการเขียนขอ้ ความ
ตดิ ต่อกิจธุระ การเขียนรายงานวิชาการ และการเขียนโครงการ ใชเ้ วลาในการจดั การเรียนรู้ ๓๔ คาบ
สอบปลายภาค ๒ คาบ รวมเวลาทัง้ หมด ๓๖ คาบ มวี ิธกี ารเรยี นการสอนท่ีหลากหลาย เช่น การ
บรรยาย การอภปิ ราย แบ่งกลุ่มทากิจกรรม ต้ังคาถามเพื่อฝกึ การคิด เปน็ ต้น

แตล่ ะหนว่ ยมีกิจกรรมการเรียนรทู้ เี่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั และส่งเสรมิ ประสบการณ์เพอ่ื ให้
ผเู้ รยี นไดร้ ูจ้ กั การทางานร่วมกัน ไดฝ้ กึ ปฏบิ ตั ิเพ่ิมทักษะใหม้ ากข้นึ ฝกึ ให้ผ้เู รยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรมในการ
เรียน รวมท้ังรจู้ ักบูรณาการหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในการเรยี นดว้ ย

ผูจ้ ัดทาขอขอบคุณผู้ที่ใหค้ วามช่วยเหลอื ทุก ๆ คน ทกุ ๆ ฝา่ ย จนทาให้แผนการจัดการ
เรยี นรเู้ ล่มนส้ี าเรจ็ ลลุ ่วงดว้ ยดี ความดที ั้งหลายขออุทศิ ให้แก่ผู้มพี ระคุณทกุ ๆ ทา่ น ตลอดจนบดิ า มารดา ผู้ให้
กาเนดิ ครอู าจารย์ผู้สอนสั่งทุก ๆ ท่าน

ผูจ้ ดั ทาหวงั ว่าแผนการจดั การเรียนรูเ้ ลม่ นจี้ ะเป็นประโยชน์ตอ่ การเรยี นการสอน และทา
ใหก้ ารเรยี นรขู้ องผ้เู รยี นมปี ระสทิ ธภิ าพยิง่ ขนึ้ หากมขี ้อเสนอแนะประการใด ผจู้ ดั ทาขอน้อมรบั ไวด้ ้วยความ
ขอบคุณยงิ่

ลงชอ่ื ...........................................
(นางฐษิ นิตา บา้ งวจิ ิตร)
๒๖ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓

ข หนา้

สารบญั ก

คานา ฌ
สารบัญ
แผนการจัดการเรียนรู้ ญ

จดุ ประสงคร์ ายวชิ า ฏ
มาตรฐานรายวิชา ถ
คาอธิบายรายวชิ า ท
การวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรแู้ ละสมรรถนะรายวชิ า ธ
ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตรรายวิชา น
ตารางวิเคราะหห์ น่วยการเรยี นรู้และเวลาท่ใี ชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ ๑
การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๒
ค่านยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการ ตามนโยบายของ คสช. ๒
แนวทางการประเมินผล ๒
แนวทางการจัดการเรียนการสอน ๒
แผนผังความคิด เรือ่ ง “ปฐมนิเทศ” ทบี่ ูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ ๓
สาระสาคญั ๔
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๔
จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๔
สาระการเรยี นรู้ ๕
กิจกรรมการเรยี นรู้ ๕
ส่ือการเรียนรู้ ๖
หลักฐานการเรยี นรู้ ๗
การวัดประเมนิ ผล ๘
กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย
เอกสารอ้างองิ
ใบงาน
บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
แผนผังความคดิ หนว่ ยท่ี ๑ เร่ือง “ความรทู้ ว่ั ไปเก่ยี วกบั หลกั การใช้ภาษาไทยในการส่อื สาร”

ค หน้า

สารบัญ (ต่อ) ๙

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ๙
สาระสาคญั ๑๐
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๑๐
จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑๑
สาระการเรียนรู้ ๑๑
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑๑
สื่อการเรยี นรู้ ๑๒
หลักฐานการเรยี นรู้ ๑๒
การวดั ประเมินผล ๑๓
กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๑๖
เอกสารอา้ งอิง ๑๗
ใบงาน ๑๘
บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ ๑๘
๑๘
แผนผงั ความคิด หนว่ ยท่ี ๒ เร่ือง “การรบั สารจากสือ่ สิ่งพิมพแ์ ละส่ืออเิ ล็กทรอนิกส”์ ๑๘
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ ๑๙
๑๙
สาระสาคัญ ๒๐
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๒๑
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒๑
สาระการเรียนรู้ ๒๒
กิจกรรมการเรียนรู้ ๒๒
ส่ือการเรียนรู้ ๒๓
หลักฐานการเรียนรู้ ๒๕
การวดั ประเมนิ ผล
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๒๖
เอกสารอา้ งอิง
ใบงาน
บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้
แผนผงั ความคิด หน่วยท่ี ๓ เรอ่ื ง “การอ่านวรรณกรรมท้องถิน่ ส่งเสรมิ คณุ ธรรม
จริยธรรม และค่านยิ ม”

ง หนา้
๒๗
สารบัญ (ต่อ) ๒๗
๒๗
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ ๒๗
สาระสาคญั ๒๘
สมรรถนะประจาหน่วย ๒๘
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒๙
สาระการเรียนรู้ ๓๐
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๓๐
สอ่ื การเรียนรู้ ๓๑
หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๓๑
การวดั ประเมินผล ๓๒
กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๓๓
เอกสารอา้ งองิ ๓๔
ใบงาน ๓๕
บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ๓๕
๓๕
แผนผงั ความคดิ หน่วยท่ี ๔ เร่ือง “การพูดสื่อสารตามมารยาทของสังคม” ๓๕
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕ ๓๖
๓๖
สาระสาคัญ ๓๗
สมรรถนะประจาหน่วย ๓๗
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓๘
สาระการเรยี นรู้ ๓๘
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๓๙
สอ่ื การเรยี นรู้ ๔๐
หลักฐานการเรยี นรู้ ๔๑
การวดั ประเมนิ ผล ๔๒
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๔๒
เอกสารอ้างองิ ๔๒
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ๔๒
แผนผงั ความคดิ หนว่ ยท่ี ๕ เร่ือง “การพดู ส่ือสารในชวี ิตประจาวนั ”
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๖
สาระสาคญั
สมรรถนะประจาหน่วย
จดุ ประสงค์การเรียนรู้

จ หนา้
๔๓
สารบัญ (ตอ่ ) ๔๓
๔๔
สาระการเรียนรู้ ๔๔
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔๕
สื่อการเรียนรู้ ๔๖
หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๔๖
การวดั ประเมินผล ๔๗
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๕๐
เอกสารอ้างอิง ๕๑
ใบงาน ๕๒
บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ ๕๒
แผนผงั ความคดิ หน่วยท่ี ๖ เรือ่ ง “การพูดในโอกาสต่าง ๆ” ๕๒
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗ ๕๒
สาระสาคญั ๕๓
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๕๓
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๕๔
สาระการเรยี นรู้ ๕๔
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๕๕
สอ่ื การเรียนรู้ ๕๖
หลักฐานการเรียนรู้ ๕๖
การวดั ประเมินผล ๕๗
กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๕๘
เอกสารอา้ งองิ ๕๙
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ๕๙
แผนผงั ความคิด หน่วยท่ี ๗ เร่ือง “การเขยี นประเภทต่าง ๆ” ๕๙
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๘ ๕๙
สาระสาคญั ๖๐
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๖๐
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้
กจิ กรรมการเรยี นรู้

ฉ หนา้
๖๒
สารบัญ (ต่อ) ๖๒
๖๒
ส่อื การเรยี นรู้ ๖๓
หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๖๓
การวดั ประเมินผล ๖๔
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๖๕
เอกสารอ้างองิ ๖๖
บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ๖๖
แผนผงั ความคิด หน่วยที่ ๘ เรื่อง “การกรอกแบบฟอร์มและการเขียนข้อความตดิ ตอ่ กิจธรุ ะ” ๖๖
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๙ ๖๖
สาระสาคญั ๖๗
สมรรถนะประจาหน่วย ๖๗
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๖๙
สาระการเรียนรู้ ๗๐
กิจกรรมการเรยี นรู้ ๗๐
สอ่ื การเรียนรู้ ๗๑
หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๗๑
การวดั ประเมนิ ผล ๗๒
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๗๓
เอกสารอา้ งองิ ๗๔
บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ๗๕
แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรียน ๗๖
ใบกจิ กรรม/ใบงาน ๗๖
แผนผังความคดิ หน่วยท่ี ๙ เรอื่ ง “การเขยี นรายงานเชงิ วิชาการ” ๗๖
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๐ ๗๖
สาระสาคญั ๗๗
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๗๗
จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๗๙
สาระการเรียนรู้ ๗๙
กิจกรรมการเรยี นรู้ ๘๐
สื่อการเรียนรู้
หลกั ฐานการเรยี นรู้
การวัดประเมนิ ผล

ช หนา้
๘๐
สารบญั (ต่อ) ๘๑
๘๑
กิจกรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๘๒
เอกสารอ้างองิ ๘๓
ใบงาน ๘๔
บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ ๘๔
แผนผังความคิด หน่วยที่ ๑๐ เรอ่ื ง “การเขยี นโครงการ” ๘๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ ๘๔
สาระสาคญั ๘๕
สมรรถนะประจาหนว่ ย ๘๕
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๘๖
สาระการเรยี นรู้ ๘๖
กจิ กรรมการเรียนรู้ ๘๗
ส่ือการเรยี นรู้ ๘๘
หลกั ฐานการเรยี นรู้ ๘๘
การวดั ประเมินผล ๘๙
กจิ กรรมเสนอแนะ/งานมอบหมาย ๙๐
เอกสารอา้ งอิง
ใบงาน
บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวิชา ๒๐๐๐๐ - ๑๑๐๑ ชื่อวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน หน่วยกติ ๒ หนว่ ยกิต ๒ ชม./สัปดาห์
หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ ของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

ประเภทวิชาพาณิชยกรรมและชา่ งอุตสาหกรรม

จุดประสงคร์ ายวิชา

๑. รู้และเขา้ ใจเกี่ยวกับหลกั การใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร
๒. สามารถเลือกใชภ้ าษาไทยได้ถูกตอ้ งตามหลักการใชภ้ าษา เหมาะสมกบั บคุ ล กาลเทศะ โอกาส
และสถานการณ์
๓. สามารถนาความรแู ละทักษะการฟัง การดู การพูด การอ่าน และการเขียน ไปใชส้ ือ่ สารใน
ชวี ติ ประจาวันถูกตอ้ งตามหลักการ
๔. เหน็ คุณคา่ และความสาคัญของการใชภ้ าษาไทยในชวี ิตประจาวนั

สมรรถนะรายวิชา

๑. แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลกั การใชภ้ าษาไทยในการฟัง การดู การอ่าน และการเขียน
๒. วิเคราะห์ ประเมินค่าสารจากการฟัง การดู การอา่ น ตามหลักการ
๓. พดู ติดตอ่ กิจธรุ ะ พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลักการและมารยาทของสังคม
๔. เขยี นขอ้ ความติดต่อธรุ ะ สรปุ อธบิ าย บรรยายและกรอกขอ้ มลู ตามหลักการ
๕. เขยี นรายงานเชงิ วิชาการ และโครงการตามหลกั การ

คาอธิบายรายวชิ า

ศกึ ษาเกีย่ วกับการรับสารและการส่งสารด้วยภาษาไทย เขียนสะกดคา การใช้ถอ้ ยคา สานวน
ระดบั ภาษา การฟัง การดู และการอ่านขา่ ว บทความ สารคดี โฆษณา บันเทิงคดี วรรณกรรม
หรอื ภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ด้านภาษาจากสอ่ื สิง่ พิมพ์และสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ การกลา่ วทกั ทาย แนะนาตนเองและ
ผู้อื่น การพูดในโอกาสต่าง ๆ ตามมารยาทของสงั คม การตอบรับและปฏิเสธ การแสดงความยนิ ดี แสดง
ความเสยี ใจ การพูดติดต่อกจิ ธุระ พดู สรปุ ความ พูดแสดงความคิดเห็น การเขียนข้อความตดิ ตอ่ กิจธุระ
สรปุ ความ อธบิ าย บรรยาย การกรอกแบบฟอร์ม การเขียนประวตั ยิ อ่ การเขยี นรายงานเชงิ วชิ าการ และ
การเขยี นโครงการ

การวิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะรายวชิ า

รหสั ๒๐๐๐๐ - ๑๑๐๑ วชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน
จานวน ๒ หน่วยกติ ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ รวมท้ังภาค ๓๖ ชว่ั โมง

หน่วยท่ี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะรายวิชา
๑ ความรู้ทว่ั ไปเกย่ี วกับหลักการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการใช้ภาษาไทย
ในการฟัง การดู การอา่ น และการเขยี น
๒ การรับสารจากสอื่ ส่งิ พิมพแ์ ละสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ วเิ คราะห์ ประเมนิ ค่าสารจากการฟงั การ
ดู การอา่ น ตามหลักการ
๓ การอา่ นวรรณกรรมท้องถ่ินที่สง่ เสริมคณุ ธรรม แสดงความรเู้ กีย่ วกบั คุณธรรม จริยธรรม
จรยิ ธรรม และคา่ นิยม และค่านยิ มจากวรรณกรรมท้องถ่ินทศี่ กึ ษา
๔ การพดู ส่ือสารตามมารยาทของสังคม พูดตดิ ต่อกจิ ธุระตามมารยาทของสงั คม
๕ การพูดส่ือสารในชีวติ ประจาวัน พูดสื่อสารในชวี ิตประจาวันตามหลักการ
๖ การพดู ในโอกาสต่าง ๆ พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลักการ
๗ การเขยี นประเภทต่าง ๆ แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การเขยี นข้อความ
ติดต่อธุระ
๘ การกรอกแบบฟอรม์ และการเขยี นข้อความติดต่อ กรอกแบบฟอร์มและการเขียนข้อความ
กิจธรุ ะ ตดิ ตอ่ กจิ ธรุ ะตามหลักการ
๙ การเขียนรายงานวชิ าการ เขียนรายงานเชงิ วชิ าการตามหลกั การ
๑๐ การเขียนโครงการ เขยี นโครงการตามหลกั การ

การวิเคราะหห์ น่วยการเรียนรูแ้ ละสมรรถนะประจาหน่วย

รหสั ๒๐๐๐๐ - ๑๑๐๑ วิชา ภาษาไทยพ้นื ฐาน
จานวน ๒ หน่วยกติ ๒ ชั่วโมง/สปั ดาห์ รวมท้ังภาค ๓๖ ช่วั โมง

ช่ือหน่วย สมรรถนะ

ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์

หน่วยท่ี ๑ ๑. เขา้ ใจเกี่ยวกบั ถ้อยคา ๑. อธบิ ายภาษาและ -มีความเพยี รพยายาม
ความรทู้ ่วั ไปเกยี่ วกับ
หลักการใช้ภาษาไทย สานวนภาษา และระดบั ของ ระดบั ภาษาท่ีใชใ้ นการ ในการเรียนและ

ในการสื่อสาร ภาษา สอ่ื สารได้ ปฏบิ ตั ิงาน

หนว่ ยท่ี ๒ ๒. สามารถใชภ้ าษาไทยสือ่ สาร ๒. ใช้ถอ้ ยคาและสานวน -แตง่ กายถกู ระเบยี บ
การรบั สารจากส่ือสงิ่ พิมพ์
เหมาะสมกบั กาลเทศะ บุคคล ภาในการสื่อสารไดอ้ ยา่ ง ของวิทยาลัยฯ
และสอื่ อิเล็กทรอนิกส์
และโอกาส ถกู ต้องเหมาะสม -เข้าเรยี นและสง่ งาน

๓. ใชภ้ าษาไทยในการ ตรงตอ่ เวลา

สื่อสารได้อย่างถูกต้อง -เขา้ รว่ มกิจกรรมที่

เหมาะสม กาหนด

-รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของ

ผู้อ่นื และใหค้ วาม

รว่ มมอื กับผู้อนื่

๑. เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเข้าใจ ๑. อธบิ ายความสาคัญของ -มคี วามเพียรพยายาม

เกย่ี วกบั ความสาคัญของการรับ การรบั สารได้ ในการเรยี นและ

สาร ๒. บอกจุดมุ่งหมายใน ปฏบิ ตั งิ าน

๒. เพอ่ื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจ การรบั สารได้ -แตง่ กายถกู ระเบียบ

เก่ียวกบั จุดม่งุ หมายในการรับ ๓. วเิ คราะห์และประเมิน ของวทิ ยาลัยฯ

สาร คา่ สารจากการฟัง การดู -เข้าเรียนและสง่ งาน

๓. เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจ และการอา่ นตามหลกั การ ตรงต่อเวลา

เกย่ี วกบั การวเิ คราะหแ์ ละ ได้ -เข้ารว่ มกจิ กรรมที่

ประเมนิ ค่าขา่ ว ๔. สามารถนาประโยชน์ กาหนด

๔. เพื่อใหม้ ีความรู้ความเข้าใจ จากการฟงั การดู และ -รับฟังความคดิ เห็นของ

เกีย่ วกบั การวเิ คราะหแ์ ละ การอา่ นไปใชใ้ น ผอู้ ื่นและให้ความร่วมมือ

ประเมนิ ค่าบทความ ชีวติ ประจาวนั ได้ กบั ผอู้ ืน่

ชื่อหน่วย สมรรถนะ

หน่วยท่ี ๒ ความรู้ ทกั ษะ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์
การรับสารจากสื่อสง่ิ พมิ พ์ ๕. เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจ
เกยี่ วกบั การวเิ คราะห์และ ๑. บอกความหมาย -มีความเพยี รพยายาม
และส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ประเมนิ ค่าสารคดี ลักษณะ และประโยชน์ ในการเรียนและ
๖. เพื่อใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจ ของวรรณกรรมท้องถนิ่ ได้ ปฏบิ ัติงาน
หนว่ ยท่ี ๓ เก่ยี วกบั การวเิ คราะหแ์ ละ ๒. อธบิ ายลักษณะของ -แต่งกายถกู ระเบียบ
การอา่ นวรรณกรรมท้องถ่ิน ประเมินค่าโฆษณา นิทานพน้ื บ้านได้ ของวทิ ยาลยั ฯ
๑. เพ่ือให้มีความรู้และความ ๓. อธิบายประเภท -เข้าเรียนและส่งงาน
ทสี่ ่งเสริมคุณธรรม เข้าใจเกีย่ วกับความหมาย บทบาท และหน้าทข่ี อง ตรงต่อเวลา
จริยธรรม และค่านิยม ลักษณะ และประโยชนข์ อง นิทานพน้ื บา้ นได้ -เข้าร่วมกิจกรรมที่
วรรณกรรมท้องถน่ิ ๔. เห็นคุณคา่ ของการ กาหนด
หนว่ ยที่ ๔ ๒. เพื่อให้มีความรแู้ ละเข้าใจ อ่านนิทานพื้นบ้าน เรื่อง -รบั ฟงั ความคดิ เห็นของ
การพดู สื่อสารตามมารยาท เกีย่ วกบั ลกั ษณะของนิทาน ปลาบทู่ อง ผอู้ ่นื และให้ความรว่ มมือ
พื้นบ้าน กับผูอ้ ่ืน
ของสงั คม ๓. เพอื่ ใหม้ คี วามรเู้ กย่ี วกบั ๑. อธบิ ายความหมาย
ประเภท บทบาท และหน้าท่ี และความสาคัญของการ -มีความเพยี รพยายาม
ของนิทานพื้นบ้าน พูดได้ ในการเรยี นและ
๔. เพื่อให้เหน็ คณุ คา่ ของการ ๒. อธบิ ายการพดู ปฏบิ ัตงิ าน
อา่ นนทิ านพื้นบ้าน เร่อื ง ปลา ประเภทต่าง ๆ ได้ -แต่งกายถูกระเบยี บ
บ่ทู อง ๓. สามารถนาหลกั การ ของวิทยาลยั ฯ
พดู ประเภทต่าง ๆ ไปใชใ้ น -เขา้ เรยี นและส่งงาน
๑. เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความ ชีวิตประจาวันได้ ตรงตอ่ เวลา
เขา้ ใจ เก่ียวกบั ความหมายและ
ความสาคญั ของการพูด
๒. เพอ่ื ให้มีความรแู้ ละเข้าใจ
ในการกลา่ วทักทายและโต้ตอบ
๓. เพอ่ื ให้มีความรู้และเขา้ ใน
การแนะนาตนเองและผู้อ่นื

ช่อื หน่วย สมรรถนะ

หนว่ ยท่ี ๕ ความรู้ ทักษะ คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์
การพูดส่ือสารใน ๔. เพื่อใหร้ ู้จักการตอบรับและ -เข้าร่วมกจิ กรรมท่ี
ชวี ติ ประจาวนั ปฏิเสธ ๑. อธบิ ายหลักการพูด กาหนด
๕. เพอื่ ใหม้ ีความรู้และเข้าใจ สรปุ ความ การพดู แสดง -รบั ฟงั ความคิดเหน็ ของ
หนว่ ยที่ ๖ การพดู แสดงความยนิ ดีและ ความคดิ เห็น และการพูด ผ้อู ื่นและให้ความรว่ มมือ
การพูดในโอกาสตา่ ง ๆ ความเสยี ใจ โทรศพั ทต์ ิดต่อกิจธรุ ะ กับผอู้ น่ื
๑. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ ความ ๒. สามารถพูดสรปุ ความ -มีความเพยี รพยายาม
เขา้ ใจ เกีย่ วกับหลกั การพดู พูดแสดงความคดิ เหน็ และ ในการเรยี นและ
สรุปความ การพดู แสดงความ พดู โทรศัพท์ติดต่อกิจธุระ ปฏิบัตงิ าน
คดิ เห็น และการพดู โทรศัพท์ ได้ -แตง่ กายถูกระเบียบ
ตดิ ตอ่ กิจธรุ ะ ของวทิ ยาลัยฯ
๑. อธิบายความหมาย -เข้าเรียนและส่งงาน
๑. เพอื่ ใหม้ ีความรูเ้ กีย่ วกับ ของการพูดในโอกาส ตรงตอ่ เวลา
ความหมายของการพดู ใน ตา่ ง ๆ ได้ -เข้ารว่ มกิจกรรมท่ี
โอกาสต่าง ๆ ๒. อธบิ ายหลักการ กาหนด
๒. เพื่อใหม้ คี วามรู้เกย่ี วกบั ท่ัวไปของการพดู ใน -รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของ
หลักการทว่ั ไปของการพูดใน โอกาสต่าง ๆ ได้ ผู้อื่นและให้ความร่วมมือ
โอกาสต่าง ๆ ๓. บอกแนวทางการพูด กับผอู้ ื่น
๓. เพ่อื ใหม้ ีความรูเ้ กย่ี วกับแนว ในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ -มคี วามเพียรพยายาม
ทางการพดู ในโอกาสต่างๆ ๔. สามารถพูดในโอกาส ในการเรียนและ
๔. เพ่ือให้สามารถพูดในโอกาส ตา่ ง ๆ ได้ ปฏบิ ัติงาน
ต่าง ๆ -แต่งกายถกู ระเบยี บ
ของวทิ ยาลัยฯ
-เข้าเรียนและสง่ งาน
ตรงตอ่ เวลา
-เข้าร่วมกจิ กรรมที่
กาหนด

ช่อื หน่วย สมรรถนะ

ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

-รบั ฟังความคิดเห็นของ

ผอู้ ืน่ และให้ความร่วมมือ

กับผอู้ ่นื

หนว่ ยที่ ๗ ๑. เพื่อใหม้ คี วามร้เู กยี่ วกบั การ ๑. อธิบายหลกั การเขียน -มคี วามเพยี รพยายาม
การเขียนประเภทตา่ ง ๆ
เขยี นสะกดคา สะกดคาและเขยี นสะกด ในการเรยี นและ
หนว่ ยท่ี ๘
การกรอกแบบฟอรม์ และ ๒. เพอื่ ใหม้ ีความรูเ้ กีย่ วกบั การ คาได้ถกู ต้อง ปฏิบัตงิ าน
การเขียนข้อความตดิ ต่อ
เขยี นสรปุ ความ ๒. อธิบายหลักการ -แตง่ กายถูกระเบยี บ
กจิ ธรุ ะ
๓. เพ่ือใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั การ หลกั การเขียนสรุป ของวทิ ยาลยั ฯ

เขยี นอธบิ าย ความ การเขยี นอธิบาย -เข้าเรยี นและส่งงาน

๔. เพ่อื ให้มคี วามรเู้ ก่ยี วกบั การ การเขยี นบรรยาย และ ตรงตอ่ เวลา

เขียนบรรยาย การเขยี นประวตั ิยอ่ ได้ -เข้าร่วมกิจกรรมที่

๕. เพ่ือให้มีความรู้เกย่ี วกบั การ ๓. สามารถเขียนสรปุ กาหนด

เขียนประวัติย่อ ความ เขียนอธบิ าย -รบั ฟังความคิดเหน็ ของ

เขียนบรรยาย และเขยี น ผอู้ ื่นและให้ความรว่ มมือ

ประวัตยิ ่อได้ กับผอู้ น่ื

๑. เพอื่ ใหม้ ีความร้เู กย่ี วกบั ๑. บอกความหมายของ -มีความเพียรพยายาม

ความหมายและหลกั การกรอก การกรอกแบบฟอรม์ และ ในการเรียนและ

แบบฟอรม์ อธิบายหลกั การกรอก ปฏบิ ตั งิ าน

๒. เพือ่ ให้มคี วามรู้เกีย่ วกบั แบบฟอรม์ ได้ -แต่งกายถูกระเบียบ

คณุ สมบตั ิพื้นฐานของผู้กรอก ๒. บอกคุณสมบตั ิพ้นื ฐาน ของวิทยาลัยฯ

แบบฟอร์ม ของผู้กรอกแบบฟอรม์ ได้ -เข้าเรียนและสง่ งาน

๓. เพือ่ ใหม้ ีความร้เู ก่ียวกบั ๓. อธบิ ายแบบฟอร์ม ตรงต่อเวลา

ประเภทของแบบฟอรม์ ประเภทต่าง ๆ ได้ -เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี

๔. เพื่อให้มีความรเู้ กีย่ วกับ ๔. สามารถกรอกข้อความ กาหนด

หลกั การเขียนบันทกึ เพ่อื ติดต่อ ในแบบฟอร์มตา่ ง ๆ ได้

กิจธุระ

ชื่อหน่วย สมรรถนะ

ความรู้ ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์

๕. เพื่อใหม้ ีความรู้เก่ียวกบั ๕. บอกหลกั การเขยี น -รับฟงั ความคดิ เห็นของ

ประเภทของบนั ทึก บนั ทึกเพื่อติดตอ่ กจิ ธุระได้ ผอู้ ื่นและให้ความร่วมมือ

๖. เพ่ือให้มคี วามรู้เก่ียวกบั การ ๖. อธิบายประเภทของ กบั ผู้อื่น

เขยี นบนั ทึกขอ้ ความเพ่ือติดต่อ บันทึกตา่ ง ๆ ได้

กิจธรุ ะ ๗. สามารถจดบนั ทึก

๗. เพือ่ ให้มคี วามรู้เกยี่ วกับการ ขอ้ ความตดิ ต่อกจิ ธุระได้

จดบันทึกข้อความ

หน่วยที่ ๙ ๑. มีความรเู้ กีย่ วกับ ๑. บอกความหมายและ -มีความเพยี รพยายาม
การเขยี นรายงานวิชาการ
ความหมายและขนั้ ตอนของการ ขน้ั ตอนของการเขียน ในการเรียนและ
หน่วยที่ ๑๐
การเขยี นโครงการ เขียนรายงาน รายงานเชงิ วชิ าการได้ ปฏบิ ตั งิ าน

๒. มคี วามรู้เก่ียวกับ ๒. บอกสว่ นประกอบ -แต่งกายถกู ระเบยี บ

สว่ นประกอบของรายงาน ของรายงานเชิงวชิ าการได้ ของวิทยาลัยฯ

๓. สามารถนาความรเู้ กีย่ วกับ ๓. อธิบายหลกั การเขยี น -เขา้ เรียนและสง่ งาน

การเขยี นรายงานเชิงวชิ าการไป ส่วนประกอบของรายงาน ตรงตอ่ เวลา

ใชใ้ นงานอาชีพ เชงิ วชิ าการได้ -เข้ารว่ มกิจกรรมท่ี

๔. เขียนรายงานเชงิ กาหนด

วชิ าการได้ -รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของ

ผูอ้ ื่นและให้ความร่วมมือ

กบั ผู้อื่น

๑. เพ่ือใหม้ ีความรู้เกย่ี วกับ ๑. บอกความหมายและ -มีความเพียรพยายาม

ความหมายและความสาคัญ ความสาคัญของโครงการ ในการเรยี นและ

ของโครงการ ได้ ปฏบิ ัตงิ าน

๒. เพอื่ ใหม้ คี วามรู้เกี่ยวกบั ๒. บอกประเภทของ -แต่งกายถกู ระเบียบ

เกี่ยวกับประเภทของโครงการ โครงการได้ ของวิทยาลัยฯ

๓. เพื่อใหม้ ีความรเู้ กย่ี วกับ ๓. อธบิ ายลักษณะของ -เขา้ เรียนและสง่ งาน

ลกั ษณะของโครงการทดี่ ี โครงการที่ดีได้ ตรงต่อเวลา

ชอื่ หน่วย สมรรถนะ

หนว่ ยท่ี ๑๐ ความรู้ ทักษะ คณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์
การเขยี นโครงการ
๔. เพอ่ื ใหม้ ีความรเู้ ก่ียวกบั ๔. บอกสว่ นประกอบของ -เข้าร่วมกจิ กรรมท่ี

ส่วนประกอบของโครงการ โครงการได้ กาหนด

๕. เพอ่ื ใหส้ ามารถนาความรู้ ๕. สามารถเขียนโครงการ -รบั ฟงั ความคิดเห็นของ

เกีย่ วกับการเขยี นโครงการไปใช้ ได้ ผู้อื่นและให้ความร่วมมือ

ในงานอาชีพ ๖. สามารถเขียนรายงาน กับผ้อู ื่น

๖. เพ่อื ใหม้ คี วามร้เู กย่ี วกบั การ ผลการดาเนนิ การโครงการ

เขียนรายงานผลการดาเนนิ การ ได้

โครงการ ๗. สามารถประเมินผล

๗. เพื่อให้มีความรเู้ กย่ี วกบั การ การจดั ทาโครงการได้

ประเมนิ ผลการจัดทาโครงการ

ตารางการวิเคราะห์หลักสตู รรายวชิ า

รหสั ๒๐๐๐๐ – ๑๑๐๑ ชื่อวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน

จานวนคาบ/สปั ดาห์ ๒ คาบ ๒--๒ หนว่ ยกิต (ชัว่ โมง)

ระดบั พฤติกรรมท่ีพงึ ประสงค์

หน่วย ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ พทุ ธพิ สิ ัย ทักษะ จิต เวลา
(ชม.)
ที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ พสิ ยั พสิ ยั ๒

- ปฐมนเิ ทศ - ๑ ๑--- - ๑

๑. ความรทู้ ั่วไปเกยี่ วกับหลกั การใช้ภาษาไทย ๑ ๑ ๑ - - - ๕ ๑

ในการส่อื สาร

๒. การรับสารจากสื่อสิง่ พมิ พแ์ ละสือ่ ๑ ๑ ๑ ๑๑ ๒ ๕ ๒ ๔

อิเล็กทรอนิกส์ ๔

๓. การอา่ นวรรณกรรมท้องถิ่นท่ีส่งเสรมิ ๑ ๑ ๑ ๑๑ ๒ ๕ ๒

คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม ๔
๓๖
๔. การพดู ส่ือสารตามมารยาทของสังคม ๑ ๑ ๑ -๑๒ ๕ ๒ ๑๐๐

๕. การพูดสื่อสารในชีวิตประจาวัน ๑ ๑ ๑-- - ๕ ๒

๖. การพดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ๑ ๑ ๑-- - ๕ ๒

๗. การเขยี นประเภทต่าง ๆ ๑ ๑ ๑--- ๕ ๒

๘. การกรอกแบบฟอร์มและการเขียนข้อความ ๑ ๑ ๑ - - - ๕ ๒

ตดิ ตอ่ กจิ ธรุ ะ

๙. การเขียนรายงานวชิ าการ ๑ ๑ ๑ ๑๑๒ ๕ ๒

๑๐. การเขยี นโครงการ ๑ ๑ ๑ - ๑๒ ๕ ๒

รวม ๑๐ ๑๑ ๑๑ ๓ ๕ ๑๐ ๓๐ ๒๐

ความสาคญั / สัดส่วนคะแนน (รอ้ ยละ) ๕๐ ๓๐ ๒๐

หมายเหตุ ระดบั พุทธพิ ิสัย ๑ = ความร้คู วามจา ๒ = ความเขา้ ใจ ๓ = การนาไปใช้
๕ = การสังเคราะห์ ๖ = การประเมินค่า
๔ = การวิเคราะห์

ตารางวิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้และเวลาทใ่ี ช้ในการจดั การเรยี นรู้

รหัส ๒๐๐๐๐ - ๑๑๐๑ วชิ า ภาษาไทยพ้ืนฐาน
จานวน ๒ หน่วยกติ ๒ ชั่วโมง/สัปดาห์ รวมท้ังภาค ๓๖ ชว่ั โมง

หนว่ ยที่ ช่ือหน่วยการเรยี นรูแ้ ละรายการสอน สปั ดาหท์ ี่ จานวนชวั่ โมง
- ปฐมนิเทศ ๑ ๒
๑ ความรู้ท่วั ไปเก่ียวกบั หลักการใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สาร ๒ ๒
๒ การรับสารจากส่อื ส่ิงพิมพ์และส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ ๔
๓ การอา่ นวรรณกรรมท้องถนิ่ ที่สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม และ ๓-๔ ๒
คา่ นยิ ม ๕
๔ การพูดส่ือสารตามมารยาทของสังคม
๕ การพูดสื่อสารในชวี ติ ประจาวัน ๖-๗ ๒
๖ การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ๘-๙ ๒
๗ การเขยี นประเภทตา่ ง ๆ ๑๐-๑๑ ๔
๘ การกรอกแบบฟอร์มและการเขยี นข้อความติดต่อกิจธุระ ๑๒ - ๑๓ ๔
๙ การเขียนรายงานวิชาการ ๑๔ - ๑๖ ๔
๑๐ การเขยี นโครงการ ๑๗ - ๑๘ ๖
- ปัจฉมิ นิเทศ ๔
- สอบปลายภาค - -
- -

รวม ๑๘ ๓๖

การบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สัมพนั ธ์กับ 3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข

ห่วงที่ 1 ความพอประมาณ ห่วงที่ 2 : ความมีเหตผุ ล
: ความพอดีทีไ่ มน่ ้อยเกนิ ไปและไมม่ ากเกินไป : การตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั ระดับของความ
โดยไม่เบียดเบยี นตนเองและผ้อู น่ื เช่น ใช้ พอเพยี งนั้น จะตอ้ งเปน็ ไปอยา่ งมีเหตุผล
สิ่งของ/วสั ดุทงั้ ของตนเองและสว่ นรวมอยา่ ง โดยพิจารณาจากเหตุปัจจยั ที่เก่ียวข้อง ตลอด
ประหยัด รกั ษาสาธารณสมบตั สิ ิง่ แวดล้อม จนคานงึ ถึงผลท่ีคาดวา่ จะเกดิ ขนึ้ จากการกระทา
ปดิ ไฟและพัดลมกอ่ นออกจากห้องเรยี นทกุ นน้ั ๆ อยา่ งรอบคอบ เช่น รู้จกั หนา้ ที่ของตนเอง/
คร้งั รู้จกั อดออม/ ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั รจู้ ัก ยอมรับการกระทาของตนเอง ใช้จา่ ยตามความ
แบ่งเวลา จาเป็น ตรงตอ่ เวลา แตง่ กายถกู ตอ้ งตามระเบียบ
ยอมรับความคิดเห็นของผูอ้ ืน่ ให้ความ

รว่ มมอื กบั ผอู้ ื่น เปน็ ผนู้ าและ

ผตู้ ามทด่ี ี

ห่วงท่ี 3 : การมภี ูมคิ มุ้ กันในตัวทดี่ ี

: การเตรยี มตวั ใหพ้ ร้อมรับผลกระทบและการเปลีย่ น

แปลงดา้ นตา่ งๆ ที่จะเกิดขนึ้ โดยคานงึ ถงึ ความเป็นไปได้

ของสถานการณต์ า่ งๆ ท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนในอนาคต

ทัง้ ใกล้และไกล เชน่ มคี วามละเอียดรอบคอบ

มคี วามอดทน พดู จาสภุ าพ ปฏบิ ัตงิ านด้วยความ

ต้ังใจ ปฏบิ ตั ิงานเสร็จตามเวลาท่กี าหนด กระตอื รือร้น

ในการใฝห่ าความรู้ใหม่ ๆ มสี มั มาคารวะตอ่ ครู

อาจารย์ รจู้ ักอาสาชว่ ยเหลือ

เงื่อนไขความรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม

มีความรอบรู้เก่ียวกับวชิ าการต่างๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องอยา่ งรอบด้าน มีความตระหนกั ในคณุ ธรรม มคี วามซอ่ื สัตย์สจุ ริต มีความอดทน มี
ความรอบคอบท่จี ะนาความรเู้ หลา่ นนั้ มาพิจารณาใหเ้ ชื่อมโยง ความเพยี ร รู้จักแบง่ ปัน ไมเ่ หน็ แกต่ ัว มีความรบั ผิดชอบต่องานท่ี
กนั เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังใน ไดร้ บั มอบหมาย มีมนุษยสมั พันธแ์ ละอัธยาศยั ทดี่ ี เสยี สละตอ่
ข้ันตอนปฏบิ ตั ิ สว่ นรวม ประหยดั
ในกรใชท้ รัพยากร ใช้สติปญั ญาในการดาเนนิ ชีวติ

เศรษฐกจิ สังคม สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม
สมดุล/ย่ังยืน

ค่านยิ มหลกั ของคนไทย 12ประการ

1. มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. ซ่ือสัตย์ เสียสละ อดทน มีอดุ มการณ์ในสง่ิ ท่ีดงี ามเพ่ือส่วนรวม
3. กตัญญตู ่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
4. ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรยี นทั้งทางตรง และทางอ้อม
5. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
6. มศี ลี ธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อืน่ เผ่ือแผ่และแบ่งปนั
7. เข้าใจเรียนรกู้ ารเปน็ ประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ ที่ถูกต้อง
8. มรี ะเบยี บวินยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยร้จู ักการเคารพผู้ใหญ่
9. มสี ตริ ูต้ ัว ร้คู ิด รู้ทา รปู้ ฏิบัตติ ามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว
10. รจู้ กั ดารงตนอยูโ่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราชดารสั ของ

พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รู้จกั อดออมไวใ้ ช้เม่ือยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้
ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ยจาหน่ายและพร้อมท่ีจะขยายกิจการเมอ่ื มีความพร้อม เมือ่ มีภูมิคมุ้ กนั
ทด่ี ี
11. มีความเข้มแข็งท้งั รา่ งกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพ้ต่ออานาจฝ่ายตา่ หรือกิเลส มคี วาม
ละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลกั ของศาสนา
12. คานึงถงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

แนวทางการประเมินผลรายวชิ าภาษาไทยพื้นฐาน

อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาค : คะแนนแสอบปลายภาค ไดแ้ ก่ ๗๐ : ๓๐ คะแนน ดังนี้

๑. ประเมินคุณธรรม จริยธรรม (การมาเรยี น และพฤติกรรม) ๒๐ คะแนน
๒. ประเมินงานท่ีมอบหมาย / ทดสอบย่อย/ แบบฝึกหัด ๕๐ คะแนน
๓. สอบปลายภาค (Final Exam) ๓๐ คะแนน
๑๐๐ คะแนน
รวม

เกณฑก์ ารตดั สินผลการเรียน (Grading) ชว่ งคะแนน ความหมาย
๘๐- ๑๐๐ ดเี ยยี่ ม
ระดับคะแนน ๗๕ – ๗๙ ดมี าก
๔ ๗๐ – ๗๔ ดี
๓.๕ ๖๕ – ๖๙ ค่อนข้างดี
๓ ๖๐- ๖๔ น่าพอใจ
๒.๕ ๕๕ – ๕๙ พอใช้
๒ ๕๐ – ๕๔
๑.๕ ๐ – ๔๙ ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ตา่
๑ ตา่ กว่าเกณฑข์ น้ั ต่า

ข้อตกลงในการเรียน

๑. การเข้าชน้ั เรียน

๑.๑ เข้าช้ันเรยี นตรงตามเวลาในตารางเรียนหรือตามที่นัดสอนชดเชย แลว้ แตก่ รณี
๑.๒ เชค็ ชอ่ื เข้าเรยี นทกุ คร้ัง หากมาเข้าเรยี นหลงั จากเชค็ ช่อื เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว ให้แจง้ ชือ่
ภายในคาบเรยี นนนั้ ๆ มฉิ ะน้ันจะถือวา่ ขาดเรียน เขา้ เรียนช้าเกิน ๑๐ นาที ถอื ว่ามาสาย มาสาย ๒ ครั้ง
นบั เป็นการขาดเรยี น ๑ คร้งั
๑.๓ หากมเี หตจุ ่าเป็นต้องหยุดเรียน ใหส้ ง่ ใบลาตามแบบฟอร์มของวทิ ยาลัยฯ อนุญาตให้สง่
ยอ้ นหลังภายในสปั ดาหถ์ ัดไปเทา่ นน้ั
๑.๔ แตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อย และเหมอื นกันท้ังห้อง ไมส่ วมรองเท้าแตะ
๑.๕ หากครูผู้สอนไม่อยหู่ รอื ไปราชการให้น่ังรอในห้องให้เรยี บร้อย เพราะจะมีครทู ่านอน่ื เข้ามา
สอนแทน
๑.๖ เมอ่ื เขา้ ห้องเรยี นทกุ ครงั้ ใหช้ ว่ ยกันดูแลรกั ษาความสะอาด หากครผู สู้ อนเขา้ มาในห้องเรยี น
แล้วพบวา่ มขี ยะ จะถูกหกั คะแนนคณุ ธรรม ๒ คะแนนทุกคน โดยไม่ต้องแจง้ ใหน้ ักเรยี นทราบ
๑.๗ ใหน้ กั เรียนท่ไี ด้รบั มอบหมายให้ทา่ เวร ปฏิบตั ิหน้าที่ให้เรยี บรอ้ ย มฉิ ะนัน้ จะถูกหักคะแนน
คณุ ธรรมเป็นรายบคุ คล พรอ้ มทง้ั ลงชือ่ ใหเ้ รยี บร้อยเพือ่ เป็นหลักฐาน
๑.๘ ไม่เปดิ โทรศพั ท์มือถอื หากเสยี งโทรศัพทด์ ัง จะถูกหักคะแนนคุณธรรม ๒ คะแนน
๑.๙ ไม่สง่ เสียงแซวผทู้ ่ีเดินผา่ นไปมา ไม่เปิดโทรศัพท์มอื ถือใส่ลา่ โพงหรอื เปดิ เพลงจากโทรศัพท์
เสยี งดงั รบกวนผู้อื่น มฉิ ะนนั้ จะถูกหักคะแนนคณุ ธรรม ๒ คะแนน

๒. วสั ดุอุปกรณก์ ารเรียน ให้นามาทกุ คร้ังท่ีมคี าบเรยี น ดงั นี้
๒.๑ เอกสารประกอบการสอนตามที่ครูจัดให้
๒.๒ ตา่ รา แบบเรียน หรือหนงั สอื อา่ นประกอบตามท่กี ่าหนดให้
๒.๓ เครือ่ งเขยี น ประกอบด้วย ปากกาหมกึ สนี า่้ เงินหรอื ด่า ปากกาหมึกสีแดง ดินสอ ไม้

บรรทดั กระดาษเขียนรายงานขนาดเอ ๔ ไม่มเี สน้ และสมดุ ปกอ่อนหนา
๒.๔ กระดาษสา่ หรับท่ากจิ กรรมตามท่แี จกหรือก่าหนดให้
๒.๕ แฟม้ เก็บเอกสารแบบสอด

๓. กระบวนการเรยี นการสอน
๓.๑ แนวทางการสอน
๓.๑.๑ บรรยายโดยใช้เอกสารหรอื ต่าราประกอบ

๓.๑.๒ มอบหมายงานให้ไปศึกษาคน้ ควา้ แลว้ นา่ มารายงานด้วยวาจา และจัดทา่ เปน็ ลาย
ลกั ษณ์อักษร

๓.๑.๓ ใช้โสตทัศนวสั ดตุ ามความจ่าเปน็
๓.๑.๔ ใช้แบบฝกึ หดั ประกอบ
๓.๑.๕ ให้ท่ากิจกรรมเพอ่ื ฝึกทักษะ
๓.๑.๖ ทดสอบหลังการสอนจบแต่ละหนว่ ยการเรยี น
๓.๒ แนวทางการเรียน
๓.๒.๑ นา่ เอกสารหรือต่ารา พรอ้ มดว้ ยวัสดุอปุ กรณ์ตามข้อ ๒ มาทุกครั้ง
๓.๒.๒ ศึกษาเนอื้ หาจากเอกสารหรอื ต่ารามาล่วงหนา้ ทา่ แบบฝึกหัดทุกบททุกตอน
พรอ้ มทัง้ สรปุ เนื้อหาทุกบทลงในสมุด
๓.๒.๓ ศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งกว้างขวาง จัดท่ารายงานให้ถงึ พรอ้ มด้วยปรมิ าณและคุณภาพ
๓.๒.๔ ติดตามกระบวนการเรยี นการสอนอยา่ งต้งั ใจ พยายามท่าความเขา้ ใจ หากมขี ้อ
สงสยั ให้ถามในคาบเรยี นนั้น ๆ โดยเฉพาะแนวทางในการทา่ กิจกรรมหรือแบบฝึกหัด
๓.๒.๕ ทา่ กจิ กรรมการฟงั การอา่ น การพดู และการเขียนใหค้ รบถ้วนตามทก่ี ่าหนด
๓.๒.๖ ส่งงานที่มอบหมายให้ตรงเวลา

**************************

แผน่ ท่ี 1/1 ผงั ภาพวิเคราะห์หนว่ ยการเรียนร้บู รู ณ
วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน สา
ระดับชน้ั ปวช.

หนว่ ยท่ี 6 (4 ชวั่ โมง) ทดสอบกอ่ น
เรือ่ ง การพดู ในโอกาสต่างๆ ทดสอบหลัง
สมรรถนะยอ่ ย พดู ในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีหลักการ
สาระการเรียนรู้ ความหมายและหลกั การพูดในโอกาสต่างๆ

หนว่ ยท่ี 5 (2 ช่วั โมง) แผนการจัดการเรียนรูว้ ชิ าภ
เรอ่ื ง การพูดสื่อสารในชวี ติ ประจาวนั คาอธบิ ายรายวชิ า (รายละเอยี
สมรรถนะยอ่ ย พดู ส่อื สารในชีวิตประจาวนั ได้ตามหลักการ จดุ ประสงค์รายวิชา (รายละเอีย
สาระการเรียนรู้ การพูดสรปุ ความ การพดู แสดงความคดิ เห็น การพูด
โทรศพั ท์ติดต่อกจิ ธรุ ะ

หนว่ ยท่ี 4 (2 ชั่วโมง) หนว่ ยท
เรื่อง การพูดสื่อสารตามมารยาทของสังคม
สมรรถนะยอ่ ย พูดติดต่อกจิ ธุระตามมารยาทของสังคมไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง เรอื่ ง การอา่ นวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ
สาระการเรียนรู้ ความหมายและความสาคัญของการพูด การกลา่ วทักทาย สมรรถนะยอ่ ย รเู้ กยี่ วกบั คณุ ธรร
และโต้ตอบ การแระนาตนเองและผูอ้ น่ื การตอบรับและปฏเิ สธ การพูด ทอ้ งถ่ินท่ีศกึ ษา
แสดงความยินดีและเสยี ใจ สาระการเรียนรู้ ความหมาย ลกั ษ
ลกั ษระของนทิ านพน้ื บ้าน บทบา

สมรรถนะรายวิชา คณุ
(รายละเอยี ดในแผนการจดั การเรยี นรู้)
เหน็ คณุ ค่าและความ
.........................................................................................................

ณาการเพ่ือเสรมิ สรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อยา่ งพอเพียง
าขาวิชา คอมพิวเตอร์ธรุ กิจ
เวลา 36 ชว่ั โมง

นเรียน (1 ชั่วโมง) หนว่ ยท่ี - (2 ชวั่ โมง )
งเรียน ( 1 ช่ัวโมง) เร่อื ง ปฐมนิเทศ
สมรรถนะย่อย เหน็ ความสาคัญของรายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน
สาระการเรียนรู้ คาอธิบายรายวิชา สาระการเรียนรู้ ผลการ
เรียนรทู้ ่คี าดหวัง การวัดผลและประเมนิ ผล

ภาษาไทยพน้ื ฐาน (36 ชัว่ โมง) หน่วยท่ี 1 (2 ชว่ั โมง)
ยดในแผนการจดั การเรียนร)ู้ เรอื่ ง ความรทู้ ่ัวไปเกย่ี วกับหลักการใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สาร
ยดในแผนการจดั การเรียนรู้) สมรรถนะยอ่ ย แสดงความร้เู ก่ียวกบั หลักการใชภ้ าษาไทยในการฟัง ดู อา่ น
และเขียน
ท่ี 3 (2 ชวั่ โมง) สาระการเรียนรู้ ความหมายของคาวา่ “ภาษา” ถ้อยคาท่ีใช้ในการสอ่ื สาร
สานวนภาษาที่ใชใ้ นการสอ่ื สาร ระดับของภาษาทใี่ ช้ในการส่ือสาร
นทีส่ ง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมและค่านิยม
รม จรยิ ธรรม และค่านิยมจากวรรณกรรม หนว่ ยท่ี 2 (4 ช่วั โมง)
ษณะ ประโยชน์ของวรรณกรรมท้องถิ่น เร่ือง การรบั สารจากสือ่ ส่ิงพมิ พแ์ ละสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์
าทและหนา้ ท่ีของนิทานพื้นบา้ น ปลาบู่ทอง สมรรถนะยอ่ ย รู้หลกั ในการวิเคราะหแ์ ละประเมนิ คา่ สารประเภทตา่ งๆ
สาระการเรยี นรู้ ความสาคญั จุดมงุ่ หมายของการรับสาร หลกั ในการ
วิเคราะห์และประเมินบทความ สารคดี และโฆษณา

ณลกั ษณะที่พึงประสงค์ ภาระงาน/ชิน้ งาน

มสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยในการส่ือสาร ใบงาน/ใบกจิ กรรมฝึกทกั ษะ

แผ่นท่ี 1/2 ผงั ภาพวเิ คราะห์หนว่ ยการเรยี นรบู้ ูรณ
วชิ า ภาษาไทยพ้นื ฐาน สา
ระดับช้ัน ปวช.

หน่วยท่ี 10 (4 ชัว่ โมง) ทดสอบก่อน
เรื่อง การเขียนโครงการ ทดสอบหลงั
สมรรถนะยอ่ ย แสดงความรเู้ กยี่ วกับการเขยี นโครงการ
สาระการเรยี นรู้ ความหมายของโครงการ ประเภทของโครงการและวิธี
เขยี นโครงการ

แผนการจัดการเรียนรู้วิชา
คาอธิบายรายวิชา (รายละเอยี
จดุ ประสงค์รายวิชา (รายละเอยี

หนว่ ยท่ี 9 (6 ชวั่ โมง)
เรอ่ื ง การเขียนรายงานวิชาการ
สมรรถนะยอ่ ย นาความรู้ไปใช้ในการเขียนรายงานเชิงวชิ าการได้อยา่ ง
ถูกตอ้ ง เป็นระบบ
สาระการเรียนรู้ ความหมาย ขั้นตอน ส่วนประกอบ หลกั การเขียน
สว่ นประกอบของรายงานเชงิ วิชาการ

สมรรถนะรายวิชา คณุ
(รายละเอียดในแผนการจดั การเรยี นรู้)
เห็นคณุ คา่ และความ

ณาการเพื่อเสริมสร้างคุณลกั ษณะอยู่อย่างพอเพยี ง
าขาวชิ า คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ
เวลา 36 ชวั่ โมง

นเรยี น (1 ชัว่ โมง) หน่วยที่ 7 (4 ชัว่ โมง )
งเรียน ( 1 ชว่ั โมง) เร่อื ง การเขียนประเภทต่างๆ
สมรรถนะยอ่ ย แสดงความรเู้ ก่ียวกบั เขยี นสะกดคา สรุปความ
อธิบาย บรรยาย เขียนประวัติย่อ
สาระการเรียนรู้ เขยี นสะกดคา สรุปความ อธบิ าย บรรยาย
เขียนประวตั ิย่อ

าภาษาไทยพ้นื ฐาน (36 ช่วั โมง)
ยดในแผนการจัดการเรยี นร้)ู
ยดในแผนการจดั การเรยี นร้)ู

หน่วยท่ี 8 (4 ช่วั โมง)
เรอื่ ง การกรอกแบบฟอร์มและการเขียนขอ้ ความติดต่อกิจธรุ ะ
สมรรถนะยอ่ ย กรอกแบบฟอรม์ และเขยี นบนั ทึกได้อย่างถกู ตอ้ ง
สาระการเรียนรู้ ความหมาย หลักการ คณุ สมบตั ิพน้ื ฐานและประเภทของ
แบบฟอรม์ หลักการเขยี นบันทึกเพอ่ื ตดิ ต่อกจิ ธุระ ประเภทของบันทกึ การ
เขยี นบันทกึ ขอ้ ความเพอ่ื ติดตอ่ ธุระ การจดบันทกึ ข้อความ

ณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ภาระงาน/ชิ้นงาน

มสาคญั ของการใชภ้ าษาไทยในการส่อื สาร ใบงาน/ใบกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ

แผน่ ท่ี 2 การออกแบบการเรียนรู้แบบยอ้ นกลบั (BwD)
วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน สาขาวิชา คอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 2 เร่อื ง ความรู้ทวั่ ไปเก่ยี วกับหลกั การใช้ภาษาไทยในการส่ือสาร
ระดบั ช้นั ปวช. เวลา 2 ช่ัวโมง

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2. หลักฐานการเรยี นรู้
สมรรถนะยอ่ ย แสดงความรเู้ กย่ี วกบั การใชภ้ าษาไทยในการฟงั การดู การ
อา่ นและการเขียน ภาระงาน/ช้นิ งาน : ใบงาน/ใบกิจกรรมฝึกทกั ษะ

จดุ ประสงคส์ าขาวชิ า (ธรรมชาตวิ ิชา) การวัดและประเมินผล :
1. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้ภาษาไทย
2. สามารถเลอื กใชภ้ าษาไทยได้ถูกต้องตามหลกั การใชภ้ าษา เหมาะสมกับ ประเดน็ วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์

บุคล กาลเทศะ โอกาส และสถานการณ์ K มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ทดสอบ แบบทดสอบ รอ้ ยละ 80
3. สามารถนาความรแู ละทกั ษะการฟงั การดู การพูด การอา่ น และ ก่อนเรยี น ข้นึ ไปผ่าน
ในการใชภ้ าษาไทยใน เกณฑ์
การเขยี น ไปใช้สื่อสารในชวี ิตประจาวนั ถูกตอ้ งตามหลกั การ การสอ่ื สาร
4. เหน็ คณุ คา่ และความสาคญั ของการใช้ภาษาไทย
สาระสาคญั P ใช้ภาษาไทยสอื่ สาร ตรวจสอบ ใบกจิ กรรม ร้อยละ 80
ทักษะการใช้ ฝึกทักษะ ขน้ึ ไปผา่ น
ภาษาไทยเปน็ ภาษาประจาชาตทิ แ่ี สดงเอกลักษณ์และวฒั นธรรมไทย ซง่ึ ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั ภาษาไทยใน เกณฑ์
มีลกั ษณะเฉพาะท่นี กั ศึกษาควรเรียนรู้ ภาษาไทยยังแสดงภูมปิ ัญญาทางภาษา กาลเทศะบคุ คลและ การสื่อสาร
ซง่ึ เปน็ เอกลักษณไ์ ทยทผี่ ่านกระบวนการทางความคิด ส่งั สมและถา่ ยทอดสบื ตอ่ โอกาส
กนั มา อนั แสดงถึงสติปญั ญาและความสามารถของคนไทยไดเ้ ปน็ อยา่ งดีรวมทง้ั
นอ้ มนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ช้ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม Aมเี จตคติและกจิ นสิ ัย สังเกตพฤติกรม แบบสังเกต ระดบั 2 ขึ้น
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การทางาน การทางาน ไปผ่าน
1. อธบิ ายภาษาและระดับภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารได้ ที่ดใี นการใช้ภาษาเพื่อ เกณฑ์
2. ใชถ้ อ้ ยคาและสานวนภาในการสื่อสารได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม การสอื่ สาร
3. ใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม
4. มคี วามเพียรพยายามในการเรียนและปฏิบัตงิ าน แตง่ กายถกู ระเบยี บของ 
วทิ ยาลยั ฯ เขา้ เรียนและสง่ งานตรงต่อเวลา เข้ารว่ มกิจกรรมท่ีกาหนด รับฟงั
ความคดิ เห็นของผู้อ่นื และใหค้ วามร่วมมอื กับผอู้ ื่น  การใช้ภาษาไทย
สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของคาวา่ “ภาษา” ในการสอ่ื สาร
2. ถอ้ ยคาภาษาทใี่ ชใ้ นการส่ือสาร
3. สานวนภาษาทใี่ ชใ้ นการสื่อสาร 
4. ระดับของภาทีใ่ ชใ้ นการส่อื สาร
สมรรถนะหลกั และสมรรถนะทัว่ ไป 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. แสดงความรู้เกยี่ วกับหลักการใชภ้ าษาไทยในการฟงั การดู การอ่าน กจิ กรรรมการเรียนรู้ : บรรยาย กิจกรรมรายบคุ คล
และรายกล่มุ
และการเขยี น สื่อการเรียนรู้ : ใบกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ
คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ แหลง่ เรยี นรู้ : ศนู ย์วิทยบรกิ ารและหอ้ งสมุด
1. ความมีเหตผุ ลในการเลือกใชถ้ ้อยคาสานวนถูกต้องตามหลกั เกณฑ์
2. ความรอบรู้ในการใชภ้ าษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกับกาลเทศะ บุคคล เวลา 2 ช่วั โมง

โอกาสและสถานการณ์
3. ความรอบคอบในการใชค้ าและประโยคในการสอ่ื สาร

แผ่นท่ี 3 กิจกรรมการเรยี นรู้
วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ
แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 เรอื่ ง ความรู้ทั่วไปเกีย่ วกับหลกั การใชภ้ าษาไทยในการส่อื สาร

ระดับช้นั ปวช. เวลา 2 ช่วั โมง

ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครขู านช่อื นักเรียน สารวจการแต่งกายของนกั เรียน พรอ้ มทงั้ บันทกึ ลงในแบบสงั เกตพฤติกรรม

ความมีวินยั และความรบั ผดิ ชอบ
2. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 6 กล่มุ เลือกประธาน เลขานกุ าร เพือ่ ปฏบิ ัตงิ านที่มอบหมาย
3. ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสารวจปญั หาเก่ียวกับภาษาไทยไมถ่ กู ต้องในการสอ่ื สารตามประสบการณ์ของแตล่ ะ

คน และจดบนั ทึก
4. ครใู หแ้ ต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอความคิดเห็นของกลุม่ หนา้ ชั้นเรียน
5. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปอกี ครงั้ หนึ่ง (ครู : มภี ูมคิ ุ้มกัน, ผ้เู รยี น : ความรู้ ภูมิคุ้มกันคุณธรรม)

ขั้นสอน
1. ให้นักเรยี นกลมุ่ เดิม ศึกษาเน้ือหาในหนังสอื เรยี นวิชาภาษาไทยพน้ื ฐานและปฏิบตั ติ ามใบงาน

ท่ีกาหนดให้ (ผูเ้ รียน : สังคม)
กลมุ่ ท่ี 1 และ 3 ศึกษาเนื้อหาและปฏิบตั ิใบงาน เรื่อง ความหมายและระดับของภาษา
กลุม่ ที่ 2 และ 4 ศึกษาเนื้อหาและปฏิบัตใิ บงาน เรื่อง หลักการใช้คา
กลุ่มท่ี 3 และ 6 ศึกษาเน้ือหาและปฏิบัติใบงาน เรอ่ื ง การใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สาร

2. สมาชิกทุกคนในกลุ่มรว่ มกนั ทาความเข้าใจ ค้นคว้าคาตอบ ร่วมแสดงความคิดเห็น (ครู : มภี ูมคิ ุ้มกนั ,
ผู้เรยี น : ความรู้ คุณธรรม สังคม)

3. สมาชิกทกุ คนในกลุ่มร่วมกันอภิปราย แลกเปลยี่ นความรู้ บนั ทึกสรปุ มสี ว่ นร่วมในกล่มุ แลกเปลย่ี น
ความคดิ เหน็ และยอมรบั ความคดิ เห็นของผู้อ่ืน (ครู : คุณธรรม, ผู้เรยี น : ความรู้ คุณธรรม สงั คม)

4. ให้ตวั แทนของแตล่ ะกล่มุ ออกผลงานการศึกษาทีไ่ ด้รบั มอบหมาย สมาชกิ กลุม่ อ่ืน ๆ
ประเมนิ ผลการ (ครู : มีภมู ิคุ้มกนั )
ขัน้ สรุป

1. ครสู รุปเนอื้ หาหน่วยท่ี 1 (ครู : มีภูมคิ ุ้มกัน, ผูเ้ รียน : ความรู้ คณุ ธรรม สังคม)
2. ให้นกั เรียนซักถามข้อสงสัย (ผูเ้ รยี น : ความรู้ คุณธรรม สงั คม)
3. ใหน้ ักเรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้หนว่ ยที่ 1 ตรวจคาตอบดว้ ยตนเองจากแผน่ ใส (ครู : มีภูมคิ ุ้มกัน
, ผู้เรียน : ความรู้ คณุ ธรรม สงั คม)
4. ครูบนั ทึกคะแนนของแต่ละคน (ครู : มภี มู คิ ้มุ กัน,)

แผ่นท่ี 4 ชุดคาถามกระตุ้นเพ่ือปลกู ฝงั หลกั คิดพอเพียงแผนการเรยี นรู้
วชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน สาขาวชิ า คอมพวิ เตอร์ธรุ กจิ

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2 เรื่อง ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกับหลักการใชภ้ าษาไทยในการส่อื สาร
ระดบั ช้นั ปวช. เวลา 2 ช่ัวโมง

คาถามกระตุ้นคดิ เพอื่ ปลูกฝังหลกั คิดพอเพียงก่อนเรยี น
Q1 นักเรยี นคดิ ว่าภาษามคี วามสาคัญอย่างไร (พอประมาณ)
Q2 ทาไมตอ้ งใช้ภาษาในการสือ่ สาร (เหตุผล)
Q3 การใช้ภาษาเพอ่ื สื่อสารตอ้ งมคี วามรเู้ กย่ี วกบั อะไรบา้ ง (ภูมิคุ้มกนั )

คาถามกระตุ้นคดิ เพอ่ื ปลูกฝังหลกั คิดพอเพียงระหวา่ งเรยี น
Q4 ขอ้ ควรระวงั ในการใช้ภาษาเพ่ือส่ือสารมอี ะไรบา้ ง (ภูมคิ ้มุ กนั )
Q5 นักเรียนจะใช้ภาษาส่อื สารอยา่ งไรใหป้ ระสบความสาเรจ็ (พอประมาณ)

คาถามกระตนุ้ คิดเพ่อื ปลกู ฝังหลักคดิ พอเพียงหลงั เรียน
Q6 นักเรยี นมวี ธิ อี ยา่ งไรให้ภาษาใหไ้ ด้ดี ผิดพลาดนอ้ ยท่ีสดุ (พอประมาณ เหตผุ ล)

แผน่ ที่ 5 แนวทางการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้
วชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน สาขาวชิ า คอมพวิ เตอร์ธรุ กิจ

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 เรื่อง ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกับหลักการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร
ระดับชัน้ ปวช. เวลา 2 ช่วั โมง

ผู้สอนนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังนี้

ความรทู้ คี่ รูต้องมกี ่อนสอน คณุ ธรรมของครูที่ใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ความหมายของคาวา่ ภาษา 1. มคี วามรักและเมตตาต่อศิษย์

2. ถ้อยคาภาษาทีใ่ ช้ในการส่อื สาร 2. ความอดทน

3. สานวนภาษาทีใ่ ช้ในการสอ่ื สาร 3. ความยุตธิ รรม

4. ระดบั ของภาษาที่ใชใ้ นการส่อื สาร 4. ความมวี ินยั

ประเดน็ พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุ้มกนั ในตัวทดี่ ี

วิเคราะหเ์ น้ือหาให้เหมาะสมกบั ระดบั ภาษาที่ใช้ในการส่อื สารสอดคลอ้ งกับ ครูเตรยี มความพรอ้ มกอ่ น

เน้อื หา ความรู้ของผเู้ รยี น ชวี ิตประจาวนั และงานอาชพี การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
พร้อมทงั้ เตรยี มใบงานให้ผูเ้ รียน

ไดฝ้ ึกปฏิบตั ิ

มีการกาหนดเวลาอย่างเหมาะสมกบั ครูสามารถจดั กิจกรรมการเรียนการ ครวู างแผนการจดั กิจกรรมให้
เวลา การทาใบกจิ กรรมฝึกทักษะ สอนเรอื่ ง การใช้ภาษาไทยในการ เหมาะสมกับเวลา และผ้เู รียน
สอ่ื สารได้บรรลุวตั ถปุ ระสงค์ ปฏบิ ตั ิงานได้เสร็จทันเวลาที่

กาหนด

การใช้ภาษาไทยเพอ่ื การสอื่ สารเปน็ การ ครูตอ้ งร้จู กั ความร้คู วามสามารถของ ครตู ้องติดตามการปฏิบตั กิ จิ กรรม

ฝึกใหผ้ ูเ้ รียนไดศ้ ึกษาหาความรจู้ าก ผู้เรยี นรายบคุ คล และผเู้ รยี นไดม้ สี ่วน ให้สาเรจ็ ลลุ ่วงตามขน้ั ตอน

การจัด แหลง่ ความรู้ รจู้ ักทางานเปน็ กลมุ่ รว่ มในกจิ กรรมอย่างทว่ั ถงึ

กจิ กรรม รู้จักแบง่ หนา้ ท่ีและความรบั ผดิ ชอบ

เหมาะสมกับความรู้ความสามารถของ

ผ้เู รยี น

สื่อ/ ใบงาน/ใบกจิ กรรมฝึกทกั ษะมคี วาม ใบงาน/ใบกจิ กรรมฝกึ ทักษะมีเน้ือหา เตรียมใบความรเู้ พิม่ เตมิ

อปุ กรณ์ เหมาะสมกบั ผเู้ รียน ครอบคลมุ

-ศึกษาด้วยตนเองจากศูนย์วทิ ยบรกิ าร รู้จักวิธกี ารนาภาษาไทยใชส้ อ่ื สารได้ เตรียมตวั อย่างและสถานการณ์

แหลง่ และห้องสมุด เหมาะสมกับสถานการณ์และโอกาส ทีห่ ลากหลายในการใชภ้ าษาไทย

เรียนรู้ -เรยี นรเู้ พิ่มเตมิ จากอินเทอรเ์ นต็ หรือ เพ่ือการสอื่ สารก่อนใหผ้ เู้ รียน
เวบ็ ไซต์ ปฺฏิบตั ิใบกจิ กรรมฝกึ ทักษะ

-ครจู ัดทาแบบทดสอบกอ่ น-หลังเรยี น การประเมนิ ผลจากใบงาน/ใบกิจกรรม ครชู ีแ้ จงและแจง้ ให้ผเู้ รียนทราบ

ประเมินผล -แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ฝึกทกั ษะ เกย่ี วกับการวัดและประเมนิ ผล
ได้เหมาะสมกับสภาพจริง

แผน่ ที่ 6 ผลทจ่ี ะเกิดข้ึนกับผู้เรียนจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
วชิ า ภาษาไทยพืน้ ฐาน สาขาวชิ า คอมพวิ เตอรธ์ รุ กิจ

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2 เร่ือง ความรู้ท่วั ไปเกีย่ วกับหลักการใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร
ระดบั ชนั้ ปวช. เวลา 2 ช่วั โมง

6.1 ผู้เรยี นจะได้ฝกึ คิดและฝึกปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปศพพ. ดังน้ี

ความรู้ทีผ่ ้เู รยี นต้องมีก่อน คุณธรรมของผเู้ รยี นทจ่ี ะทาใหก้ ารเรยี นรูส้ าเรจ็
1. ความรู้เก่ยี วกับความหมายของภาษา
2. ความรูเ้ กย่ี วกบั ถ้อยคา 1. มีวนิ ยั
3. ความรู้เกี่ยวกับสานวนภาษา 2. ความรับผดิ ชอบ
4. ความรูเ้ กี่ยวกบั ระดบั ของภาษา 3. ความอดทน
4. ใช้ทรัพยากรอยา่ งค้มุ ค่า
5. มีสติ ใช้ปญั ญา

พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี

ผเู้ รยี นมวี ธิ ีการเลอื กใชภ้ าษาไทยเพ่ือ ผู้เรยี นสามารถใชภ้ าษาไทยส่ือสารได้ ผเู้ รยี นศึกษาการใชภ้ าษาไทยเพอ่ื
การสื่อสารได้เหมาะสมกับกาลเทศะ อยา่ งถูกต้องทั้งในชวี ติ ประจาวันและ การสื่อสารก่อนเสมอเพื่อความ
บุคคล โอกาสและสถานการณ์ งานอาชพี ถูกต้องและมน่ั ใจ

6.2 ผู้เรยี นจะได้เรยี นร้กู ารใชช้ วี ติ ท่ีสมดุลและพร้อมรับการเปลีย่ นแปลง 4 มิติตามหลกั ปศพพ. ดงั นี้