แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ วิชาการบัญชีธุรกิจซื้อขายสนิ ค้า รหัส 30201 - 0001 หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง พุทธศักราช 2563 จัดทาโดย วทิ ยาลยั เทคนิคสว่างแดนดิน กระทรวงศึกษาธกิ าร ข แบบคาขออนมุ ตั ิใช้แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ แผนการจดั
การเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะและบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง/คณุ ลักษณะ 3 D ลงชือ่ .................................. ครู อันดบั คศ. 2 วทิ ยฐานะครชู ํานาญการ ความเหน็ หวั หนา๎ แผนกวิชาการบญั ชี ความเห็นหวั หน๎างานพัฒนาหลกั สูตรฯ (นางประไพศรี วงศ์ปรดี ี) ( นายคุมดวง พรมอนิ ทร)์ ความเห็นรองผอู๎ าํ นวยการฝา่ ยวิชาการ (นายทินกร พรหมอนิ ทร)์ ความเห็นผูอ้ านวยการวทิ ยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน O อนุมตั ิ O ไมํอนุมัติ ...................................... ค คานา แผนการสอนวิชา “ การบัญชีธุรกิจซื้อขายสินค๎า ” รหัสวชิ า 30201-0001 จัดทําข้ึนเพื่อใช๎เปน็
แนวทาง สําหรับแผนการสอนรายวิชานี้ ผ๎ูจัดทําได๎ทํุมเทกําลังกาย กําลังใจและเวลาในการศึกษาค๎นคว๎า ทดลอง ทา๎ ยท่สี ุดนี้ ผจู๎ ัดทําขอขอบคณุ ผูท๎ ส่ี รา๎ งแหลํงความรู๎ และผู๎ที่มีสํวนเกี่ยวข๎องตาํ ง
ๆ ซ่ึงเปน็ สํวนสําคัญที่ทํา ลงชอ่ื ....................................... สารบัญ ง ปก หนา้ หนวํ ยการเรียนรู๎ที่ 1 ความรู๎เบอ้ื งตน๎ เกยี่ วกับการซอ้ื ขายสนิ คา๎ 1 สารบญั (ต่อ) หนา้ หนวํ ยการเรยี นรท๎ู ี่ 4 การผํานรายการไปยงั บญั ชีแยกประเภทท่ัวไป 41 ฉ หลกั สูตรรายวิชา วิชา การบญั ชีธรุ กิจซอ้ื
ขายสินค้า (Accounting for Merchandising Business) ทฤษฎี 2 ปฏบิ ตั ิ 2 หนว่ ยกิต 3 หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู พทุ ธศกั ราช 2563 วชิ าบงั คบั กอํ น : การบัญชเี บือ้ งต๎น 1. เขา๎ ใจเกี่ยวกับหลกั การ วธิ กี าร และข้ันตอนการจัดทําบญั ชขี องกจิ การเจา๎ ของคนเดียว 2. มที กั ษะในการปฏิบตั ิงานบญั ชีของกิจการเจ๎าของคนเดยี ว ประเภทธรุ
กิจซอ้ื ขายสินคา๎ คาอธบิ ายรายวิชา ผํานรายการไปบญั ชแี
ยกประเภท งบทดลอง กระดาษทําการ รายการปรับปรุงเมอ่ื สิ้นงวดบญั ชี การปิดบญั ชี และ กาหนดการเรียนรู้ ช หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง สัปดาห์ที่ 5 การคํานวณต๎นทนุ สนิ คา๎ และการทํางบต๎นทนุ ขายกระดาษทาํ 4 11 ตารางวเิ คราะหร์ ะดบั พุทธิพิสยั ทักษะพสิ ัย จิตพิสยั ซ รหัสวิชา 30201– 0001 ชื่อวิชา การบัญชีธุรกจิ ซ้ือขายสนิ ค๎า ท-ป-น 2-2-3 หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้นั สงู ประเภทวชิ า บรหิ ารธุรกจิ สาขาวชิ า การบัญชี สาขางาน การบญั ชี ระดับพฤติกรรมที่พึงประสงค์ หนวํ ย ชื่อหนวํ ยการเรยี นร๎ู พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพิสัย จิตพสิ ยั เวลา 1 ความรเ๎ู บือ้ งตน๎ เก่ยี วกบั 3 บนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกับการซอื้ ทวั่ ไป การผํานรายการไปยงั บัญชี 6 ทาํ งบทดลอง การคาํ นวณตน๎ ทนุ สินค๎า 6 ตน๎ ทนุ ขาย รายการปรบั ปรงุ บัญชีในวัน 12 รายการปรบั ปรุง 7 กระดาษทําการชนิด 8 ชํอง 6 8 การปดิ บัญชีและงบทดลอง 6 นอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พุทธิพสิ ัย ทักษะพิสัย จติ พิสัย หนํวยกา รหัสวิชา 30201–0001 ชอ่ื วิชา การบญั หลักสตู รประก ชอื่ หน่วย 1. ความร๎ูเบ้ืองตน๎ เก่ียวกบั กิจการซ้อื ขายสนิ คา๎ 1. อธิบายความ 2.1 ความหมายของภาษมี ลู คําเพิม่ 1. อธิบายควา 3. อธิบายเก่ียว ารเรยี นร๎แู ละสมรรถนะประจาํ หนวํ ย ญชธี ุรกิจซ้อื ขายสินค๎า หนวํ ยกติ 3 (ท-ป-น 2-2-3 72 ชว่ั โมง) กาศนียบัตรวิชาชพี ประเภทวิชา การบญั ชี วิชา การบัญชี สาขางาน การบญั ชี สมรรถนะ ความรู๎ ทักษะ คุณลักษณะท่พี ึง่ ประสงค์ มหมายของสนิ ค๎า แสดงขนั้ ตอนในการซ้ือขายสินค๎า 1. นกั ศกึ ษาเหน็ ความสาํ คญั และ ารที่ทําธุรกิจ ได๎ เข๎าใจถงึ เหตุผลของ คา๎ การทาํ บญั ชี รที่ใชใ๎ นการบนั ทกึ บญั ชี 2. นกั ศกึ ษามคี วามรับผิดชอบ ลดและเงื่อนไข ตํอหน๎าที่ การซ้ือขายสนิ คา๎ ามหมายของภาษี แสดงความร๎เู กย่ี วกบั วธิ กี ารจด 1. นักศกึ ษามคี วามรส๎ู ามารถ วกับผู๎มหี
น๎าทเี่ สีย ทะเบียนภาษีมลู คาํ เพม่ิ เอกสาร นําความรไ๎ู ปใชใ๎ น รายการเสียภาษีมลู คาํ เพ่มิ ของตนเอง ฌ ท-ป-น 2-2-3 หนวํ ยกา ชอ่ื หน่วย รหัสวิชา 30201–0 ารเรียนรแ๎ู ละสมรรถนะประจาํ หนวํ ย 0001 ช่ือวิชา การบญั ชีธรุ กจิ ซื้อขายสนิ คา๎ หนํวยกติ 3 (ชัว่ โมง) 72 กาศนียบัตรวชิ าชีพ ประเภทวิชา การบัญชี วิชา การบญั ชี สาขางาน การบญั ชี สมรรถนะ วามร๎ู ทกั ษะ คุณลักษณะท่พี งึ่ ประสงค์ อกสารประกอบ แสดงวิธีการบันทกึ บัญชเี กย่ี วการ 1. นกั ศกึ ษาแบงํ เวลาในการเรยี น ได๎ การซือ้ ขายสนิ ค๎า และการทํางานได๎ ประเภทของ บนั ทึกรายการกรณจี ดทะเบยี น 2. นกั ศึกษามีความรับผดิ ชอบ บการบนั ทึกบัญชไี ด๎ และไมํจดทะเบียนภาษีมลู คําเพิม่ ตํอตนเองและสํวนรวม ารผํานรายการ แสดงการผาํ นรายการจากสมดุ 1. นกั ศึกษามีความรใ๎ู นการแก๎ไข ญ ท-ป-น 2-2-3 หนํวยกา ชอื่ หนว่ ย รหัสวชิ า 30201–0 7. กระดาษทาํ การชนิด 8 ชํองและงบการเงนิ 2. อธิบายประเภท ารเรียนรูแ๎ ละสมรรถนะประจําหนํวย 0001 ชอ่ื วิชา การบญั ชีธุรกจิ ซื้อขายสินค๎า หนํวยกิต 3 (ช่วั โมง) 72 กาศนียบัตรวิชาชพี ประเภทวิชา การบญั ชี วชิ า การบัญชี สาขางาน การบัญชี สมรรถนะ ความร๎ู ทักษะ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ง่ึ ประสงค์ มายและวตั ถุประสงค์ แสดงกระบวนการการปรบั ปรุง 1. นกั ศึกษามคี วามซ่อื สัตย์ รงุ ได๎ ผาํ นรายการไปบญั ชแี ยกประเภท ตํอหนา๎ ทีใ่ นการทําบญั ชี ทของการปรบั ปรงุ ได๎ ทว่ั ไปและการแกไ๎ ขขอ๎ ผิดพลาด ทึกรายการปรับปรุง การทาํ งบทดลองหลงั รายการ ายการไปบญั ชี ปรบั ปรงุ ได๎ ทว่ั ไปได๎ ากระดาษทาํ การ แสดงการทํากระดาษทําการ 1. นักศึกษาเป็นผ๎ูท่ีมเี หตผุ ลและ ชนดิ 8 ชํองและทํางบการเงนิ ได๎ สามารถในการทาํ กระดาษ บการจัดทํางบการเงนิ ได๎ ทาํ การได๎ กรายการปิดบัญชี แสดงขั้นตอนการปดิ บัญชีใน 1. นักศึกษาเข๎าใจถึงเหตผุ ลของ ฎ 12 แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนํวยที่ 1 ช่อื หนวํ ย ความรู๎เบ้อื งต๎นเกย่ี วกบั การซือ้ ขายสินคา๎ รวม 4 ช่วั โมง เรอื่ ง ขั้นตอนในการซื้อขายสนิ คา๎ จํานวน 4 ชวั่ โมง 1. สาระสาคญั การประกอบธุรกจิ ซื้อขายสินคา๎ มีวตั
ถุประสงค์เพื่อแสวงหากําไร กจิ การจะมรี ายไดห๎ ลกั จากการ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย แสดงขั้นตอนในการซือ้ ขายสนิ ค๎าได๎ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ (มาตรฐานการเรียนรู้) 3.1 ด๎านความรู๎ 3.2 ด๎านทักษะ 3.3 คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ 3.4 การประยกุ ต์ 3D และนอ๎ มนําหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 13 แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 1 ช่ือหนวํ ย ความรู๎เบ้อื งตน๎ เกีย่ วกบั
การซอ้ื ขายสนิ ค๎า รวม 4 ชวั่ โมง เร่ือง ข้นั ตอนในการซอื้ ขายสินคา๎ จาํ นวน 4 ชวั่ โมง 4. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู๎ 1. ความหมายของสินค๎า 2. เอกสารเกย่ี วกับสนิ คา๎ 2.1 ใบส่งั ซือ้ สินคา๎ 2.2 ใบกาํ กับภาษี 2.3 ใบสงํ ของ / ใบกํากบั สินคา๎ 2.4 ใบขอลดหนห้ี รือใบสงํ คืน 2.5 ใบขอหักหน้หี รือใบรบั คนื 2.6 ใบเสร็จรบั เงิน 3. เงอ่ื นไขเกี่ยวกบั การซ้อื ขายสินคา๎ 3.1 เงอ่ื นไขเกยี่ วกับสํวนลด 3.2 เงือ่ นไขสํวนลดเงินสด 3.3 การนบั วนั ครบกําหนดชําระหนี้ 4. เง่อื นไขเกี่ยวกบั การขนสงํ สนิ ค๎า 4.1 เงอ่ื นไขการจาํ ยคําขนสํง 4.2 การจํายคาํ ขนสงํ แทนกนั 5. ภาษีมลู คําเพ่ิม 5.1 การคํานวณภาษีมูลคําเพิ่ม 5.2 ภาษซี ้ือตอ๎ งห๎าม 5.3 การปิดบญั ชีภาษีมลู คาํ เพิ่มในสมุดรายวนั ทั่วไป 5.4 การนาํ สงํ ภาษีมลู คําเพม่ิ 5.5 การขอคนื ภาษมี ลู คาํ เพิม่ 5 กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 ขน้ั นาํ เข๎าสํูบทเรยี น(M) นาํ เขา๎ สบํู ทเรียนโดยกลําวถึงวงจรการดําเนนิ ธุรกจิ 5.2 ขน้ั การจัดเรียนรู๎(I) 5.2.1 ทําแบบประเมินผลกํอนการเรยี น 5.2.2 ผู๎สอนและผเู๎ รียนรํวมกันอภปิ รายเรือ่ งเกี่ยวกบั วงจรการดาํ เนินธุรกิจ 5.2.3 ผ๎ูเรยี นศึกษาใบความร๎ู 5.3 ขั้นสรุป(A) 5.3.1 แบํงกลุมํ ผู๎เรียนมารายงานหน๎าช้นั เรียน 14 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนวํ ยท่ี 1 ชอ่ื หนวํ ย ความร๎ูเบอ้ื งต๎นเกยี่ วกบั การซอ้ื ขายสินค๎า รวม 4 ช่วั โมง เรอ่ื ง ขั้นตอนในการซอื้ ขายสินค๎า จาํ นวน 4 ชว่ั โมง 5.4
การวัดผลและประเมินผล(P) 6. สอื่ การการเรยี นรู๎/แหลงํ การเรียนรู๎ 6.1 สือ่ สิง่ พิมพ์ 7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู๎ (ใบความร๎ู ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 7.1 ใบความร๎ู 8. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวิชาอ่นื 8.1 วชิ าภาษาไทย เก่ียวกบั การใช๎ภาษาด๎านการพูด การอําน และการเขียน 15 แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนวํ ยที่ 1 ช่ือหนวํ ย ความรเ๎ู
บ้ืองต๎นเกยี่ วกบั การซอ้ื ขายสินค๎า รวม 4 ชว่ั โมง เรือ่ ง ขั้นตอนในการซอ้ื ขายสินค๎า จาํ นวน 4 ชว่ั โมง 9. การวดั ผลและประเมินผล 9.1 วธิ กี าร ดําเนนิ การวัดผลในชํวงเวลา (1) กอํ นเรียน โดยใชแ๎ บบทดสอบกอํ นเรยี น (2) ระหวาํ งเรยี น โดยการถามตอบและการสังเกตการณ์ปฏิบตั งิ าน (3) หลังเสรจ็ ส้นิ การเรยี น โดยทาํ แบบทดสอบ 9.2 เกณฑ์การประเมนิ (1) ผูเ๎ รียนมเี วลาเรียนไมํนอ๎ ยกวาํ ร๎อยละ 80 (2) ผเ๎ู รยี นมคี ะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี นร๎อยละ 80 (3) ผูเ๎ รียนบันทึกบัญชีการซอื้ ขายสนิ ค๎าสมบรู ณแ์ ละถูกต๎องทุกคร้ัง 10. บันทกึ หลงั การเรยี นรู้ 10.1 ผลการใชแ๎ ผนการจัดการเรยี นรู๎ 1. เนอ้ื หาสอดคลอ๎ งกบั จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม 2. สามารถนาํ ไปใชป๎ ฏบิ ัตกิ ารสอนไดค๎ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี 10.2 ผลการเรียนรข๎ู องผเ๎ู รยี น 1. นักศึกษาสวํ นใหญมํ คี วามสนใจใฝร่ ๎ู เข๎าใจในบทเรยี นรวํ มกนั อภปิ ราย ตอบคําถาม ในกลุมํ และรวํ มกันแสดงความคิดเห็น 2. นักศึกษากระตอื รือร๎นและรับผิดชอบในการทาํ งานกลํุมเพื่อใหง๎ านสาํ เร็จทนั เวลา ทกี่ าํ หนด 10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรยี นร๎ู 1. สอนเน้ือหาได๎ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เนื้อหาการสอนทาํ ให๎ผ๎ูสอนสอนไดอ๎ ยํางม่ันใจ 3. สอนไดท๎ นั ตามเวลาทีก่ ําหนด ……………………………………………… สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู๎ หน๎าที่ งาน : ขนั้ ตอนในการซื้อขายสินค๎า จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายเกี่ยวกับความหมายของสินคา๎ เน้อื หาสาระ 1. ความหมายของสินค๎า ใหก๎ บั ผู๎ซือ้ หรือลกู คา๎ เพือ่ หวังผลกําไรจากการจําหนาํ ยสินคา๎ ดังนั้นกิจการมีรายไดห๎ ลักจากการขายสินคา๎ ตามลกั ษณะ 2. ประเภทของธรุ กจิ เกีย่ วกบั สินค๎า เสือ้ ผ๎าสําเร็จรปู ธรุ กจิ ขายเครอ่ื งใชไ๎ ฟฟ้า รา๎ นขายสนิ ค๎าตําง ๆ ธุรกิจทซ่ี ื้อสินคา๎ โดยตรง แกํผู๎บรโิ ภคเรียกวําผู๎ค๎าปลีก 1. แบํงตามลักษณะการดาํ เนินงานหรอื กจิ กรรม แบงํ ได๎ 3 ลกั ษณะคือ ใหบ๎ ริการ เชนํ ร๎านซักรีด สถานรักษาพยาบาล ร๎านตัดผมและธนาคาร เปน็ ต๎น จะซ้อื สินค๎ามาเพื่อท่ีจะสามารถขายไปไดท๎ ันที เชนํ ร๎านขายของชาํ หา๎ งสรรพสนิ คา๎ วตั ถดุ บิ และช้นิ สํวนตาํ ง ๆ ให๎เป็นสนิ คา๎ สําเรจ็ รูป เชํน บริษัทผลติ ผลไม๎กระปอ่ ง บรษิ ทั ผลิตรถยนต์ เปน็ ต๎น สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู๎ หน๎าท่ี งาน : ข้ันตอนในการซอ้ื ขายสินคา๎ 2. แบงํ ตามรปู แบบของการประกอบการตามกฎหมาย ซง่ึ สามารถแบํงได๎ 3 ประเภทคือ กิจการเป็นผ๎ูบรหิ ารธุรกจิ เอง เชนํ รา๎ นค๎ารายยํอย ลักษณะธุรกิจประเภทนีก้ ค็ อื เจ๎าของกิจการตอ๎ งรบั
ผิดชอบในหนี้สินของ 2.2 หา๎ งห๎ุนสํวนจํากดั (Partnership) เปน็ ธุรกิจซึง่ มบี ุคคลต้ังแตํ 2 คนข้ึนไปรํวมกนั เป็นเจ๎าของโดยมี -
ห๎างห๎ุนสวํ นสามัญ คอื หา๎ งหนุ๎ สวํ นซ่งึ ผู๎เป็นหุ๎นสํวนทุกคนตอ๎ งมีสํวนรบั ผิดชอบในหนีส้ ินของห๎าง - ห๎างห๎ุนสํวนจํากัด คอื หา๎ งหุ๎นสวํ นประเภท ซึง่ ผเ๎ู ปน็ หนุ๎ สํวนอยํางน๎อย 1 คน ต๎องรบั ผิดชอบใน 2.3 บริษัทจํากัด (Limited Company) เปน็ กจิ การทตี่ ๎องมกี ารแบงํ เงนิ ทนุ เป็นหุ๎นมมี ลู คําห๎นุ ละเทํา 3. ขนั้ ตอนในการซือ้ ขายสินคา้ กิจการแตลํ ะแหงํ จะมีข้ันตอน วธิ ีการซ้อื ขายสนิ คา๎ ทีแ่ ตกตาํ งกันไป ท้ังน้ีขึ้นอยกูํ ับขนาดและการจดั องค์กรของแตํ 1. แผนกคลังสนิ ค๎า จะเปน็ ผ๎ตู รวจสอบวาํ สินคา๎ ชนดิ ใดบ๎างทเี่
หลืออยูํในระดับท่ีต๎องมีการสัง่ ซอ้ื โดยจดั ทาํ ใบสงั่ ซ้ือ 2. แผนกจดั ซอื้ เม่อื ได๎รับใบขอซือ้ แลว๎ จะทาํ การสอบถามราคาของสนิ คา๎ ทจ่ี ะซื้อจากผ๎ูขายหลาย ๆ ราย โดยจะ 3. ผขู๎ าย เมอ่ื ได๎รับใบสั่งซ้อื จะจัดสงํ คืนสนิ ค๎าพรอ๎ มใบกํากบั สนิ ค๎า (Invoice) / ใบกาํ กับภาษี (Tax Invoice) 4. แผนกตรวจรบั สนิ คา๎ เม่อื ผูซ๎ ้ือไดร๎ บั สินคา๎ แลว๎ แผนกตรวจรับสนิ ค๎าจะทาํ การตรวจสอบสนิ ค๎าท่ีไดร๎ บั กับสาํ
เนา สาขาวิชา : การบัญชี ใบความร๎ู หน๎าท่ี งาน : ขนั้ ตอนในการซอื้ ขายสนิ คา๎ 5. แผนกบัญชี เม่ือครบกาํ หนดชําระ ผขู๎ ายจะนําไปเสรจ็ รับเงนิ มาขอรบั ชาํ ระท่แี ผนกบัญชแี ละการเงิน เอกสารทใี ชป๎ ระกอบการบนั
ทึกบญั ชีมี 2 ประเภท คอื บคุ คลภายนอก เชนํ ใบส่ังซอ้ื สินค๎า บตั รสินคา๎ ใบสาํ คญั จาํ ย ใบรับสนิ ค๎า ใบเสร็จรับเงนิ /ใบกํากบั ภาษี ใบแจ๎งหนี้ ใบสํงคืนสินค๎า ภาพที่ 1 แสดงขัน้ ตอนและเอกสารทเี่ กย่ี วกับการซื้อขายสนิ ค้า สาขาวชิ
า : การบัญชี ใบความร๎ู หน๎าท่ี งาน : ข้ันตอนในการซอ้ื ขายสินคา๎ 4. เอกสารที่เกีย่ วข้องกับการซือ้ ขายสินคา้ 4.1 ใบสั่งซอ้ื (Purchase Order) เปน็ เอกสารทผี่ ซ๎ู ้อื จัดทาํ ขน้ึ เพื่อแจ๎งให๎ผข๎ู ายทราบวําผูซ๎ ือ้ ต๎องการสินคา๎ 4.2 ใบกาํ กบั ภาษ/ี ใบสํงของ/ใบกํากับสนิ คา๎ (Tax Invoice/Delivery Invoice/
Invoice) คอื เอกสารทผี่ ขู๎ าย 4.3 ใบขอลดหนห้ี รอื ใบสํงคืน (Debit Memorandum or Debit Note) คอื เอกสารท่ีผซ๎ู ื้อจดั ทําขน้ึ เพือ่ เปน็ 4.4 ใบหักหน้หี รอื ใบรับคืน (Credit Memorandum or Credit Note) คือเอกสารทผี่ ข๎ู ายจดั ทําขน้ึ หลังจาก 4.5 ใบเสรจ็ รบั เงนิ (Receipt) คือเอกสารทผ่ี ๎ูขายออกให๎กับผูซ๎ ื้อเพอื่ เป็นหลกั ฐานในการขายสนิ ค๎าหรือ 5. เงือ่ นไขเกยี่ วกบั ส่วนลดและคา่ ขนสง่ สนิ ค้า 5.1 เงอื่ นไขเก่ียวกบั สวํ นลด เงือ่ นไขเก่ียวกบั
สํวนลด (Discount) เปน็ เงื่อนไขทีผ่ ข๎ู ายให๎สวํ นลดกับผู๎ซือ้ เพ่ือเปน็ 5.1.1 สํวนลดการคา๎ (Trade Discount) เปน็ สํวนลดท่ีผู๎ขายกระต๎ุนหรอื จงู ใจใหผ๎ ู๎ซ้อื ซ้ือสินค๎าครง้ั ละ 5.1.2 สวํ นลดเงนิ สด (Cash Discount) เปน็ สวํ นลดทีผ่ ๎ขู ายลดให๎แกผํ ๎ซู อ้ื ทันที ท่ชี ําระหนี้คาํ
สินค๎า การกําหนดเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การชําระเงิน (Credit Terms/Terms of Payment) เปน็ เง่อื นไขทผ่ี ๎ขู ายกําหนด สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี งาน : ข้นั ตอนในการซื้อขายสินคา๎ 5.2 การนับวันครบกําหนดชําระหน้ี เมอ่ื ผูซ๎ ้ือและผู๎ขายตกลงกันตามเง่ือนไขในการชําระเงนิ คาํ สนิ คา๎ แล๎ว 5.3 เง่อื นไขเกี่ยวกับคําขนสงํ สนิ คา๎ การสงํ มอบสินคา๎ ซึ่งจะตอ๎ งมคี าํ ใช๎จาํ ยในการขนสํงเรียกวํา “คาํ ขนสงํ ” ทง้ั ผซู๎ ้ือกับผ๎ูขายตอ๎ ง ทาํ การตกลงกนั ให๎ชัดเจน 5.3.1 F.O.B (Free on board) Shipping point เปน็ เงื่อนไขในการขนสํงสนิ ค๎าท่ีผ๎ูขายได๎สํงมอบ 5.3.2 F.O.B (Free on board Destination) เปน็ เง่อื นไขในการสงํ มอบสินคา๎ ปลายทาง ณ 6. การซอื้ ขายสนิ ค้าผา่ นระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต http://www.baanjomyut.com/library_3/extension-1/e_commerce/07.html เงิน การโฆษณาโดยผาํ นสอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ประเภทตาํ ง ๆ โดยเฉพาะเครอื ขํายทางอินเทอร์เนต็ เกี่ยวข๎องกับการซอ้ื ขายสินคา๎ และบรกิ ารผําน และระบบส่ือสารโทรคมนาคมหรอื สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ขาย หรอื การขนสงํ ผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการโดยใชส๎
ื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ อนิ เตอรเ์ น็ต เคร่อื งจักรอุปกรณ์ เป็นต๎น ซึง่ ตอ๎ งสงํ สินค๎าทางพสั ดภุ ณั ฑ์ ผํานไปรษณยี ห์ รอื บรษิ ทั รบั สงํ พัสดุภณั ฑ์ สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู๎ หนา๎ ที่ งาน : ข้นั ตอนในการซื้อขายสินค๎า 6/6 กระบวนการทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ มีขนั้ ตอนท่ีสาํ คัญ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การค้นหาขอ้ มูล ขัน้ ตอนแรกของการซอื้ สินค๎าเป็นการคน๎ หาข๎อมูลสินค๎าทีต่ อ๎ งการ แล๎วนาํ ขอ๎ มูลแตํละร๎าน มาวเิ คราะห์เปรียบเทยี บกัน โดยใชเ๎ วบ็ ไซตท์ ีน่ ยิ ม หรอื Search Engines เชนํ http://www.google.com เปน็ ตน๎ 2. การส่งั ซ้ือสินค้า เม่อื ลูกค๎าเลือกสนิ คา๎ ทต่ี ๎องการแล๎ว จะนํารายการทต่ี อ๎ งการเข๎าสูรํ ะบบตะกรา๎ และจะมี การคาํ นวณ คาํ ใชจ๎ ํายท้งั หมด โดยลกู ค๎าสมารถปรับเปลีย่ นรายการและปริมาณทสี่ ่ังได๎ 3. การชาระเงิน เมื่อลกู คา๎ ตัดสินใจซ้ือสนิ ค๎าทตี่ อ๎ งการ ในขน้ั ถดั มาจะเปน็ การกําหนดวธิ ีการชาํ ระเงิน ขน้ึ อยูํ กับความสะดวกของลกู ค๎าวาํ จะเลือกวิธไี หน 4. การส่งมอบสินค้า เม่ือลูกค๎ากาํ หนดวธิ ีการชําระเงินเรียบร๎อยแล๎ว จะเข๎าสํวู ธิ เี ลือกสงํ สนิ ค๎า ซึ่งการสงํ มอบ สินคา๎ อาจจดั สงํ ใหล๎ กู คา๎ โดยตรง การใช๎บรกิ ารบริษทั ขนสงํ สนิ คา๎ หรือสงํ ผาํ นสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ เชํน การดาวน์โหลดเพลง เป็นต๎น 5. การให้บริการหลงั การขาย หลงั จากเสรจ็ ส้ินการสั่งสินซือ้ แตลํ ะครัง้ รา๎ นค๎าตอ๎ งมบี ริการหลงั การขายให๎กับ ลกู คา๎ ซงึ่ อาจจะเปน็ ติดตอํ กับลูกคา๎ ผํานทางเครือขาํ ยอินเตอร์เนต็ เชํน อเี มล์ และเวบ็ บอร์ด กจิ การพาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ทต่ี อ้ งยนื่ แบบแสดงรายการภาษี ปจั จุบัน กจิ การพาณิชย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นกิจการที่ความการเจริญเติบโตมาก แตผํ ป๎ู ระกอบการบางสวํ นยังไมํ มคี วามเขา๎ ใจเรอ่ื งภาษีอากร ดงั นั้นกรมสรรพากรจึงสรุป "ประเภทภาษีทเี่ กี่ยวขอ๎ งกับผูป๎ ระกอบการพาณชิ ย์ อิเล็กทรอนิกส์" และรวบรวมประเภท "ธรุ กิจพาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ สร์ ูปแบบใหมํ" ทม่ี ีหนา๎ ทต่ี ๎องยืน่ แบบแสดงรายการภาษี แสดงให๎ผู๎ประกอบการทราบเพ่อื จักไดด๎ ําเนินการอยาํ งถูกต๎อง เชนํ 1. เว็บไซตแ์ สดงรูป และราคาสนิ ค้า Catalog Website 2. เวบ็ ไซต์เพ่อื การขายสนิ ค้า e-Shopping 3. การขายสินค๎าบนชุมชนเว็บบอร์ดโดยผู๎ขายไมํมีเว็บไซต์เปน็ ของตนเองCommunity Web 4. เว็บไซต์เพ่อื การประมลู ขายสนิ ค๎าe-Auction (electronic auction) 5. เว็บไซตห์ า๎ งสรรพสินคา๎ ออนไลน์e-Market Place หรือ 6. เวบ็ ไซต์แหลํงซื้อขายภาพถํายดิจิตอลStock Photo 7. การรับโฆษณาจากเว็บไซต์กูเกิ้ลGoogle AdSense 8. การทําให๎ผลการค๎นหาบนกเู ก้ิลตดิ ลาํ ดบั แรกๆSEO หรือ Search Engine Optimization 9. เวบ็ ไซต์นายหน๎าการขายสนิ ค๎าและบริการAffiliate Marketing 10. การเลํนเกมผํานระบบเครือขํายออนไลน์Game Online สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบทดสอบ หน๎าที่ คาช้ีแจง จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว ก. สนิ ทรพั ยท์ ่กี ิจการมไี ว๎สาหรับใหเ๎ ชํา ง. กจิ การผซู๎ ้ือและผู๎ขายรํวมกันชาระคาํ ขนสงํ สาขาวิชา : การบัญชี ใบเฉลยใบ หนา๎ ที่ 1. ความหมายของสินค๎าตรงกบั ข๎อใด 2. ข๎อใดแสดงขั้นตอนการดาเนินงานของธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา๎ ได๎ถกู ต๎อง 3. สวํ นลดท่ีผูข๎ ายจะลดใหผ๎ ๎ซู อื้ ทนั ทที ี่มกี ารซือ้ ขายสินคา๎ กนั เกิดขึ้น สํวนลดนี้คอื ขอ๎ ใด 4. ขอ๎ ใดคือเงือ่ นไขการชาระเงนิ ทีไ่ ด๎สํวนลดเงินสด 5. กจิ การซื้อสนิ ค๎า ได๎รบั เง่ือนไขคาํ ขนสํง F.O.B. Destination ผู๎ซ้อื จะต๎องปฏิบัติตามขอ๎ ใด สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบมอบหมาย หน๎าท่ี จดุ ประสงค์การมอบหมายงาน แนวทางการปฏิบตั ิงาน ครมู อบหมายงาน นกั เรยี นค๎นคว๎า นักเรียนนําเสนอ นกั เรยี นสงํ ผลงาน แหลง่
ค้นควา้ คาถาม/ปญั หา กาหนดเวลาสง่ งาน 25 แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 2 ชือ่ หนํวย ความรูเ๎ บื้องตน๎ เกี่ยวกับภาษมี ลู คาํ เพม่ิ รวม 8 ช่ัวโมง เรือ่ ง ผม๎ู ีหนา๎ ทีเ่ สียภาษมี ูลคําเพ่มิ จํานวน 8 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ
ผู๎ประกอบการค๎าที่จําหนํายสินค๎าหรือการให๎บริการ ซึ่งได๎จดทะเบียนภาษีมูลคําเพิ่มจะต๎องมี ทัง้ นี้ ภาษีซอื้ และภาษขี ายจะต๎องเกิดขึ้นในเดือนเดียวกันและนําสงํ หรือเรยี กคืนในเดือนถัดไป 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย 2.1 บอกความหมายของภาษมี ูลคาํ เพิ่มได๎ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (มาตรฐานการเรยี นรู)้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.2 ดา้ นทักษะ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 26 แผนการจดั การเรยี นร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หนํวยที่ 2 ชือ่ หนวํ ย ความร๎เู บอ้ื งต๎นเกีย่ วกบั ภาษีมูลคาํ เพ่ิม รวม 8 ช่วั โมง เรอื่ ง ผมู๎ ีหนา๎ ที่เสียภาษีมูลคาํ เพิม่ จํานวน 8 ชั่วโมง 3.4 การประยกุ ต์ 3D และน๎อมนาํ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. เนือ้ หาสาระการเรียนร๎ู ผู้มีหน้าท่ีจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพมิ่ ไดแ้ ก่ 5 กิจกรรมการเรยี นการสอน 5.1 ขน้ั นาํ เข๎าสบูํ ทเรียน(M) 5.2 ขัน้ การจดั เรียนรู๎(I) 5.3 ข้ันสรปุ (A) 27 แผนการจดั การเรียนรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หนวํ ยท่ี 2 ช่ือหนวํ ย ความรูเ๎ บือ้ งต๎นเกี่ยวกับภาษีมลู คําเพ่มิ รวม 8 ช่ัวโมง เรือ่ ง ผู๎มีหนา๎ ที่เสยี ภาษีมูลคาํ เพิ่ม จํานวน 8 ช่ัวโมง 5.4 การวดั ผลและประเมนิ ผล(P) 6. ส่อื การการเรียนรู๎/แหลํงการเรียนรู๎ 6.1 ส่อื สงิ่ พิมพ์ 6.2 ใบความรู๎ 7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู๎ (ใบความรู๎ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 7.1 ใบความรู๎ 8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวชิ าอื่น 8.1 วิชาภาษาไทย เกีย่ วกับการใช๎ภาษาด๎านการพดู การอําน และการเขียน 28 แผนการจดั การเรียนรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 2 ชื่อหนํวย ความร๎ูเบอื้ งตน๎ เก่ยี วกบั ภาษมี ลู คาํ เพิม่ รวม 8 ชั่วโมง เรือ่ ง ผม๎ู หี นา๎ ท่เี สียภาษมี ลู คาํ เพ่ิม จํานวน 8 ช่ัวโมง 9. การวดั ผลและประเมินผล 9.1 วิธีการ ดาํ เนินการวดั ผลในห๎วงเวลา (1) กอํ นเรยี น โดยใช๎แบบทดสอบกํอนเรียน (2) ระหวาํ งเรยี น โดยการถามตอบและการสังเกตการณ์ปฏบิ ัติงาน (3) หลงั เสรจ็ ส้ินการเรยี น โดยทําแบบทดสอบ 9.2 เกณฑ์การประเมิน (1) ผเ๎ู รียนมเี วลาเรียนไมํน๎อยกวําร๎อยละ 80 (2) ผูเ๎ รยี นมคี ะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนร๎อยละ 80 (3) ผู๎เรยี นบนั ทึกบัญชกี ารซอ้ื ขายสินคา๎ สมบูรณ์และถกู ต๎องทกุ คร้ัง 10. บนั ทกึ หลังการเรียนรู้ 10.1 ผลการใช๎แผนการจัดการเรยี นรู๎ 1. เน้ือหาสอดคลอ๎ งกับจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 2. สามารถนาํ ไปใชป๎ ฏบิ ัติการสอนไดค๎ รบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี 10.2 ผลการเรยี นรขู๎ องผู๎เรยี น 1. นกั ศกึ ษาสวํ นใหญมํ ีความสนใจใฝร่ ู๎ เขา๎ ใจในบทเรยี นรวํ มกนั อภปิ ราย ตอบคําถาม ในกลมุํ และรํวมกนั แสดงความคิดเหน็ 2. นกั ศกึ ษากระตอื รอื ร๎นและรับผดิ ชอบในการทํางานกลุํมเพื่อให๎งานสาํ เร็จทนั เวลา ท่ีกาํ หนด 10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรยี นรู๎ 1. สอนเนื้อหาได๎ครบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เน้อื หาการสอนทําใหผ๎ ู๎สอนสอนได๎อยาํ งมั่นใจ 3. สอนไดท๎ ันตามเวลาท่ีกําหนด ……………………………………………… 29 สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู๎ หน๎าที่ งาน : ความรูเ๎ บอื้ งตน๎ เก่ยี วกบั ภาษีมลู คําเพมิ่ 1. ความหมายของภาษมี ูลคา่ เพมิ่ https://www.gotoknow.org/posts/300158 ภาษมี ูลคา่ เพ่มิ (Value Added Tax: VAT) หมายถงึ ภาษีท่ีจดั เกบ็ จากมลู คาํ ของสนิ คา๎ หรอื บรกิ าร ทเี่ พม่ิ ข้ึนในแตํ มูลคาํ เพิม่ หมายถึง มูลคาํ ของสํวนท่ีเพ่มิ ในแตํละขัน้ ตอนการผลิตและการจําหนาํ ยสินค๎าหรอื บริการ หรือกลําวอีกนัย 2. ผมู้ หี น้าท่ีเสยี ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม (http://www.rd.go.th/publish/7061.0.html) ผ๎ูมหี น๎าท่ีเสียภาษีมลู คาํ เพิ่มอาจแบงํ ตามประเภทของกิจการได๎เปน็ 3 กลุํมใหญๆํ ดังนี้ ผู้มีหนา้ ทจี่ ดทะเบียน กาหนดเวลาการจดทะเบยี น 1. ผู๎ประกอบกิจการท่มี ีรายรบั จากการขายสนิ คา๎ หรือ ให๎ย่ืนคาํ ขอจดทะเบยี นภายใน 30 วนั นบั แตวํ ัน ให๎บรกิ ารเป็นปกติธรุ ะ เกนิ กวาํ 1.8 ล๎านบาทตอํ ปี ทมี่ รี ายรับเกิน 2. ผ๎ปู ระกอบกิจการขายสินค๎าหรอื ให๎บรกิ าร ซึง่ มี ให๎ย่นื คําขอจดทะเบียนภายในกาํ หนด 6 เดอื น กํอน แผนงานท่ีสามารถพิสจู น์ได๎วํา ได๎มกี ารดําเนินการและ วนั เร่มิ ประกอบกิจการ เว๎นแตํ มสี ัญญา หรอื หลกั ฐาน เตรียมการประกอบกิจการ อนั เป็นเหตุให๎ตอ๎ งมกี ารซ้อื จะดาํ เนินการกอํ สรา๎ ง ภายในเวลาที่เหมาะสม สินคา๎ หรอื รบั บริการทอี่ ยูใํ นบังคับต๎องเสยี ภาษมี ลู คําเพ่มิ เชนํ การกํอสร๎างโรงงาน กอํ สร๎างอาคาร สํานกั งาน หรือการตดิ ตงั้ เคร่ืองจักร 3. ผูป๎ ระกอบการอยนํู อกราชอาณาจักร และได๎ขาย สินค๎าหรือ ใหบ๎ ริการในราชอาณาจักร เปน็ ปกตธิ ุระโดย มีตวั แทนอยํใู นราชอาณาจักร ให๎ตัวแทนเปน็ ผูม๎ ีหน๎าท่ี รับผิดชอบการจดทะเบียน ผู้มหี นา้ ท่ีจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพ่มิ และกาหนดเวลาการจดทะเบียน 3. ผู้ท่ไี ด้รบั การยกเว้นภาษีมลู คา่ เพมิ่ คอื ผู๎อยนูํ อกระบบการจดั เก็บภาษมี ลู คําเพ่มิ เมอื่ ขายสินค๎าหรือบริการไมตํ อ๎ งเรยี กเกบ็ ภาษีมูลคาํ เพ่ิมจากผ๎ูซ้ือ และ ไมตํ อ๎ งย่ืนแบบแสดงรายการเพ่อื เสยี ภาษี แตํเม่อื ซื้อสนิ คา๎ หรือวตั ถุดิบ รวมท้ังสนิ ค๎าประเภททุนมาใช๎ในการประกอบ กจิ การจากผปู๎ ระกอบกิจการทไ่ี ด๎จดทะเบยี นอยํูในระบบภาษมี ลู คาํ เพ่มิ ต๎องเสียภาษีมูลคําเพ่มิ ใหผ๎ ๎ูได๎รบั การจดทะเบียน และผซ๎ู อ้ื ไมํมีสทิ ธิเรยี กคืนภาษมี ูลคาํ เพ่ิมซึ่งเทํากับวําผ๎ไู ด๎รับยกเวน๎ ภาษีมลู คําเพ่ิมตอ๎ งรบั ภาระภาษมี ูลคําเพม่ิ ในสวํ นนี้ การ ประกอบกิจการประเภทตําง ๆ ที่ไดร๎ ับการยกเว๎นภาษมี ูลคําเพิ่มมาตรา 81 มีดังตํอไปนี้ 30 สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความร๎ู หน๎าที่ งาน : ความร๎เู บือ้ งตน๎ เกี่ยวกับภาษมี ูลคําเพม่ิ 3.1 การขายสนิ คา๎ หรอื บริการในราชอาณาจกั
รที่มรี ายรับไมํเกนิ 1,200,000 บาทตํอปี คําวํา “นาฏศลิ ป์”หมายถึง การแสดงศลิ ปะการราํ ยรําประเภทตาํ ง ๆ ได๎แกํ การแสดงพื้นเมอื ง ระบํา ละคร คําวํา “ดรุ ยิ างคศิลป์และคตี ศลิ ป์” หมายถงึ
เฉพาะการแสดงดนตรีไทย หรอื การขับรอ๎ งเพลงไทยประกอบ 3.12 การใหบ๎ รกิ ารหอ๎ งสมุด พพิ ิธภณั ฑ์ สวนสัตว์ 31 สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี งาน : ความรเ๎ู บ้ืองต๎นเก่ยี วกบั ภาษีมลู คาํ เพ่ิม 3.25 การให๎บริการสีขา๎ ว ฐานภาษีสาํ หรบั การขายสนิ ค๎าหรือการใหบ๎ รกิ าร ไดแ๎ กํ มูลคําสงิ่ ท่ไี ด๎รับ หรอื พงึ ได๎รบั จากการขายสนิ คา๎ หรือ คําวํา “ภาษีสรรพสามิต” หมายความรวมถงึ ภาษีสุรา คําแสตมป์ ยาสูบ คําธรรมเนียมประทับตราไพแํ ละภาษี 4.1.1 สํวนลดหรือคําลดหยํอนทีล่ ดใหใ๎ นขณะขายสนิ ค๎าหรอื ให๎บรกิ าร หรือทเ่ี รียกวาํ ส่วนลดการคา้ 4.1.2 คําชดเชยหรือเงนิ อดุ หนุนตามทก่ี ฎหมายกําหนด 1) มูลคําของสินคา๎ ท่แี ถมพรอ๎ มกบั ขายสินคา๎ หรือการให๎บริการ แตมํ ูลคําของแถมตอ๎ งไมเํ กินมลู คํา ตัวอยา่ ง บริษัท กญั ชลยี ์ จํากัด ขายเคร่ืองรับโทรทศั น์ขนาด 14 นวิ้ 1 เคร่อื ง ราคา 8,000 บาท โดย 2) มูลคําของสนิ คา๎ ทีแ่ จกหรอื ใหเ๎ ป็นรางวลั กับผซ๎ู ้อื สินค๎าหรือผ๎ูรบั บริการท่ีซือ้ สินคา๎ ในแตลํ ะวัน แตํ ตัวอย่าง บรษิ ัท อนงค์ จํากดั กําหนดวําถา๎ มผี ู๎ซ้อื สินค๎าครบ 4,000 บาท ในแตํละวันให๎รางวลั เปน็ รํม 32 สาขาวชิ า : การบญั
ชี ใบความรู๎ หน๎าที่ งาน : ความรู๎เบือ้ งต๎นเกยี่ วกับภาษมี ูลคาํ เพิ่ม 3) มลู คําของการใหบ๎ ริการเนื่องจากการเป็นนายหน๎าตัวแทนให๎แกํ ผปู๎ ระกอบกจิ การในตํางประเทศ ตวั อย่าง บริษัท รัตนา จํากดั เป็นตัวแทนขายสนิ คา๎ ให๎แกํบริษัท AA จํากดั
ในประเทศนวิ ซีแลนด์ 4) มูลคําของสินคา๎ ทผี่ ปู๎ ระกอบกจิ การในเขตอุตสาหกรรมสํงออกตามกฎหมายวําดว๎ ยการนิคม ตวั อย่าง บริษทั อํานวย จํากัด เปน็ ผ๎ปู ระกอบกิจการจดทะเบยี นอยูใํ นเขตอุตสาหกรรมสํงออก ขาย 5) มลู คาํ ของสนิ ค๎าท่ีผปู๎ ระกอบกิจการในเขตอุตสาหกรรมสํงออก(ตามกฎหมายวําดว๎
ยการนิคม ตวั อยา่ ง บริษทั สวุ ิมล จํากัด เป็นผปู๎ ระกอบกจิ การจดทะเบียน และประกอบกจิ การอยูใํ นเขต 33 สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู๎ หน๎าที่ งาน : ความรู๎เบอื้ งตน๎ เก่ยี วกบั ภาษีมูลคําเพิม่ 6) มลู คําของสินคา๎ ทแี่ จกให๎เป็นของขวัญเนือ่ งในพิธีหรอื
ตามโอกาสแหํงขนบธรรมเนียมประเพณี 7) มูลคาํ ของสินคา๎ ตัวอยํางท่ีแจกเน่อื งจากการจดั
กิจกรรมสํงเสรมิ การขาย 12.1) ผูท๎ ําสญั ญาแบงํ ปันผลผลิตกับองค์กรรวํ มไทย – มาเลเซยี ตามกฎหมายกฎหมายวํา 12.2) ผข๎ู ายสนิ คา๎ หรือบริการซง่ึ ไดท๎ ําสัญญาเป็นหนงั สือโดยตรงกับผูท๎ าํ สัญญาแบํงปนั 13) มูลคาํ ของสลากวินโต๏ดและเปรส๏ โต๏ดท่ีผ๎ูประกอบกิจการสนามแขํงขันมา๎ ขายใหแ๎ กํผ๎ูเลํน 34 สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู๎ หนา๎ ท่ี งาน : ความร๎ูเบื้องตน๎ เกีย่ วกับภาษีมูลคาํ เพ่มิ 14) มูลคาํ ของทองรูปพรรณทีข่ ายเปน็ จํานวนเทาํ กับราคาทองรูปพรรณท่สี มาคมคา๎ ทองคํา ทองรปู พรรณ หมายความวํา ทองคําทีท่ าํ สาํ เรจ็ เป็นเคร่ืองประดบั กาย เครอื่ งแตํงกาย ของ ทองรูปพรรณ หมายความรวมถึงนากทีส่ ามารถคํานวณราคารับซ้ือคนื ไดต๎ ามสํวนของ ข้อสังเกต รัฐมนตรตี ามประกาศอธบิ ดฯี (ฉบบั ที่ 40) มารวมคาํ นวณเปน็ มลู คาํ ของฐานภาษนี ั้น ไมํต๎องจัดทําใบกาํ กับภาษีเน่อื งจาก 2. ถา๎ ขายสินค๎าหรอื ใหบ๎ รกิ ารโดยไมมํ ีคาํ
ตอบแทนหรือมีแตํต่าํ กวําราคาตลาด โดยไมํมเี หตุอันสมควร ให๎ถอื ราคา 3. กรณีขายสินค๎าแลว๎ เกบ็ ดอกเบ้ยี ในขณะขายสินคา๎ ต๎องรวมเปน็ มูลคําฐานภาษีดว๎ ย เชํน การขายสินคา๎ โดยการ 4. กรณขี ายสินคา๎ แลว๎ มีการคดิ คําขนสํง จะนําคาํ ขนสงํ รวมเป็นมูลคําฐานภาษีดว๎ ย เชํน
ขายสินค๎าราคา 30,000 5. กรณรี บั เงินมัดจําจะตอ๎ งนําเงนิ มดั จํามารวมเป็นมลู คาํ ฐานภาษี ยกเว๎นเงินมัดจําภาชนะทใ่ี ช๎บรรจสุ ินค๎า เชนํ 6. กรณีเงินประกันผลงานซ่งึ มใิ ชํมลู คําที่กฎหมายกําหนดใหไ๎ ด๎รบั การยกเวน๎ ไมตํ
๎องนํามารวมเป็นมลู คาํ ฐานภาษี 4.2 ฐานภาษสี าหรับการส่งสนิ คา้ ออก สรรพสามิตและภาษหี รือคําธรรมเนียมอืน่ ตามที่จะกําหนด แตทํ ้ังนี้ไมํรวมอากรขาออก ทะเล ณ ทาํ เรอื ทีร่ ะบุไว๎
รวมท้ังผาํ นพิธีการและเสียภาษสี ํงออก หากสนิ คา๎ ต๎องขออนญุ าตสงํ ออกกต็ ๎องจดั ทาํ ใบอนุญาต 35 สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความร๎ู หน๎าท่ี งาน : ความรเ๎ู บอื้ งต๎นเก่ียวกับภาษมี ูลคาํ เพม่ิ 4.3 ฐานภาษีสาหรบั การนาเข้า ประเทศกอํ นหักรายจาํ ยใด ๆ เนอื่ งในการรับขนคนโดยสาร นอกประเทศ กํอนหกั รายจาํ ยใด ๆ เนอื่ งในการรับขนสนิ คา๎ น้นั ออกนอกประเทศ ภาษีสรรพสามิตตามท่ีกาํ หนด คําธรรมเนยี มพเิ ศษตามกฎหมายวําดว๎ ยการสงํ เสรมิ การลงทุน และภาษหี รอื คาํ ธรรมเนียม ราคา C.I.F.อาจถอื ตามราคาท่เี จา๎ พนักงานศลุ กากรประกาศหรือประเมินใหมํในบางกรณี สํวนอากรขาเขา๎ ท่ี คาํ วาํ C.I.F. (Cost Insurance and Freight) หมายถึง ผู๎ขายจะหมดภาระตํอเม่อื ได๎นาํ สินค๎าไปสํงมอบลงไว๎ใน 4.5 ฐานภาษกี รณีขายยาสบู และผลติ ภัณฑ์น้ามันตามทก่ี ฎหมายกาหนด จาํ นวนภาษีมูลคําเพ่ิมออกจากจํานวนเตม็ ของราคาขายปลกี ของสินคา๎ โดยให๎คํานวณภาษมี ูลคาํ เพ่ิมตามอตั รา 4.6 ฐานภาษกี รณีพิเศษ อันสมควร ให๎ถอื ราคาตลาดในวันท่ีความรับผิดเกดิ เปน็ ฐานภาษี ประกอบกจิ การโดยตรง เชํน นาํ ผงซักฟอกและยาสระผมที่ซ้ือมาเพื่อขายไปใชส๎ ํวนตวั ตอ๎ งถอื วาํ เป็นการขายสินคา๎
ต๎อง 4.6.3 กรณีสนิ ค๎าของผ๎ูประกอบกิจการจดทะเบยี นมจี ํานวนคงเหลอื ขาดจากจํานวนในรายงานสินคา๎ และ 36 สาขาวิชา : การบัญชี ใบความร๎ู หน๎าที่ งาน : ความรเู๎ บือ้ งต๎นเกี่ยวกับภาษมี ูลคาํ เพิ่ม 4.6.4 กรณสี นิ คา๎ เสยี ภาษีมูลคาํ เพ่ิมอัตราร๎อยละ 0 ไปแลว๎ ตอํ มาผู๎ซอื้ ไดโ๎ อนกรรมสิทธิ์ไป ทําให๎ผู๎ซื้อทอด 4.6.5 กรณีผูป๎ ระกอบกจิ การมสี นิ ค๎าคงเหลอื และมีทรพั ยส์ นิ ท่ีใช๎ประกอบกิจการเหลือในวันเลกิ ประกอบ 4.6.6 ราคาตลาดถอื ตามราคาเฉลี่ยทซ่ี อื้ ขายกนั ตามเปน็ จรงิ ทว่ั ไปตามท่กี าํ หนดหลักเกณฑ์ตรวจสอบราคา 4.6.7 กรณเี รียกเก็บมูลคาํ สินค๎าหรือบรกิ ารเพิม่ จากเดิม หลงั จากขายสินคา๎ หรอื ใหบ๎ รกิ ารและเสยี 1) การเพิ่มราคาสนิ ค๎าที่ขายเนอ่ื งจากสนิ ค๎าเกนิ กวําจาํ นวนที่ตกลงซอ้ื ขายกันหรคื าํ นวณราคาสินค๎า 2) การเพ่ิมราคาคําบรกิ ารเนือ่ งจากใหบ๎
ริการเกินกวําขอ๎ กําหนดทีต่ กลงกนั หรอื คํานวณราคา 4.6.8 กรณลี ดมูลคําสนิ ค๎าหรอื บริการเดิม ในกรณีตรงข๎ามกบั ขอ๎ 7 มเี หตุการณ์ ทําใหต๎ ๎องลดมูลคาํ สนิ ค๎า 1) การลดราคาสินคา๎ ท่ขี ายเนอื่ งจากสนิ คา๎ ผดิ ขอ๎ กาํ หนดทีต่ กลงกัน สินค๎าชาํ รดุ เสียหาย หรอื ขาด 2) การลดราคาคาํ บริการเน่ืองจากการให๎บรกิ ารผดิ ขอ๎ กําหนดทีต่ กลงกนั หรือบรกิ ารขาดจํานวน 3) ไดร๎ บั สินคา๎ ทข่ี ายกลบั คนื มา เน่ืองจากสนิ ค๎าชาํ รดุ บกพรอํ งไมํตรงตามตัวอยําง ไมํตรงตามคํา 4) มีการบอกเลิกสญั ญาบริการเนอ่ื งจากเหตแุ ละตามเงอื่ นไขท่ีอธิบดีจะกําหนด 37 สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบทดสอบ หนา๎ ท่ี งาน : ความรเ๎ู บ้อื งต๎นเกีย่ วกบั ภาษมี ลู คาํ เพม่ิ ให๎เลือกคาํ ตอบท่ีถกู ต๎องที่สุด ลงในกระดาษคําตอบ ก. ภาษีทเ่ี รียกเก็บจากบคุ คลทซี่ อื้ สนิ คา๎ หรือรบั บริการจัดเก็บตามมูลคําของสนิ ค๎า ง. ได๎สํวนลดภาษี 38 สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบเฉลยใบ หนา๎ ท่ี 1. ภาษมี ลู คาํ เพิม่ มคี วามหมายตรงกบั ขอ๎ ใด 2. กิจการที่ตอ๎ งจดทะเบียนภาษีมลู คําเพิม่ ตอ๎ งมรี ายรบั จากขายสินค๎าหรอื บรกิ ารเป็นจานวนเทาํ ใด 3. หนา๎ ทขี่ องผู๎ประกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คาํ เพ่ิมคือขอ๎ ใด 4. ขอ๎ ใดคอื อตั ราภาษีมลู คําเพม่ิ ทน่ี าํ มาใชใ๎ นปจั จุบัน 5. ถา๎ ภาษีซือ้ มากกวําภาษขี าย แสดงวําผป๎ู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาํ
เพ่ิมจะปฏบิ ตั อิ ยาํ งไร 39 สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบมอบหมาย หนา๎ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารมอบหมายงาน แนวทางการปฏิบตั ิงาน ครมู อบหมายงาน นักเรยี นคน๎ คว๎า นักเรียนนําเสนอ นกั เรยี นสงํ
ผลงาน แหล่งค้นควา้ คาถาม/ปัญหา กาหนดเวลาสง่ งาน 40 แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 3 ชื่อหนวํ ย การบนั ทึกรายการเก่ยี วกับสนิ ค๎าในสมุดรายวนั ทว่ั ไป รวม 8 ชั่วโมง เรอ่ื ง การบนั ทกึ รายการเกี่ยวกบั สนิ คา๎ ในสมดุ รายวันท่ัวไป จาํ นวน 8 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ ในกรณีท่ีกิจการค๎าเป็นกิจการขนาดเล็ก อาจใช๎สมุดบันทึกรายการข้ันต๎นเลํมเดียวคือสมุดรายวัน 2. สมรรถนะประจาหน่วย 2.1 การบนั ทึกรายการในสมดุ รายวนั ขายสินค๎า 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (มาตรฐานการเรยี นร๎ู) 3.1 ด๎านความร๎ู 3.2 ด๎านทักษะ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 3.4 การประยกุ ต์ 3D และน๎อมนําหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 41 แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนวํ ยที่ 3 ชื่อหนวํ ย การบันทกึ รายการเกี่ยวกับสินค๎าในสมุดรายวันท่วั ไป รวม 8 ชว่ั โมง เรื่อง การบันทกึ รายการเก่ยี วกบั สนิ ค๎าในสมุดรายวันท่วั ไป จาํ นวน 8 ชัว่ โมง 4. เน้อื หาสาระการเรยี นร๎ู 3.1 เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี 5 กจิ กรรมการเรยี นการสอน 5.1 ข้ันนําเขา๎ สบํู ทเรยี น(M) 5.2 ข้ันการจดั เรียนร๎(ู I) 5.3 ขนั้ สรปุ (A) 5.4 การวดั ผลและประเมนิ ผล(P) 42 แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนํวยที่ 3 ชือ่ หนํวย การบันทึกรายการเก่ยี วกบั สินค๎าในสมุดรายวนั ทว่ั ไป รวม 8 ช่วั โมง เรือ่ ง การบันทึกรายการเก่ียวกับสินคา๎ ในสมุดรายวันทว่ั ไป จํานวน 8 ชวั่ โมง 6. สือ่ การการเรยี นร๎/ู แหลงํ การเรยี นรู๎ 6.1 สื่อสง่ิ พมิ พ์ หนังสือเรียนวชิ า หลกั การบัญชีเบือ้ งต๎น 2 : ของสํานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 6.2 ใบความร๎ู 7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนร๎ู (ใบความรู๎ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ) 7.1 ใบความร๎ู 7.2 ใบทดสอบ 7.3 ใบสง่ั งาน 8. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วชิ าอ่นื 8.1 วิชาภาษาไทย เกย่ี วกบั การใช๎ภาษาดา๎ นการพดู การอําน และการเขียน 8.2 วชิ าคณติ ศาสตร์ เก่ยี วกบั การคํานวณ 8.3 วชิ าภาษาองั กฤษ ดา๎ นคาํ ศัพท์ทางบัญชี 9. การวดั ผลและประเมินผล 9.1 วธิ กี าร ดาํ เนนิ การวัดผลในห๎วงเวลา (1) กอํ นเรยี น โดยใช๎แบบทดสอบกอํ นเรียน (2) ระหวํางเรยี น โดยการถามตอบและการสงั เกตการณ์ปฏบิ ตั งิ าน (3) หลังเสรจ็ สิน้ การเรยี น โดยทําแบบทดสอบ 9.2 เกณฑก์ ารประเมิน (1) ผ๎ูเรยี นมีเวลาเรยี นไมนํ ๎อยกวาํ ร๎อยละ 80 (2) ผ๎ูเรยี นมคี ะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนร๎อยละ 80 (3) ผเู๎ รียนบันทึกบัญชกี ารซ้ือขายสินคา๎ สมบรู ณแ์ ละถูกต๎องทุกครง้ั 43 แผนการจัดการเรยี นรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หนํวยท่ี 3 ชือ่ หนวํ ย การบนั ทึกรายการเกย่ี วกบั สินค๎าในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป รวม 8 ช่วั โมง เรอื่ ง การบนั ทกึ รายการเก่ียวกบั สนิ คา๎ ในสมดุ รายวันทวั่ ไป จาํ นวน 8 ชัว่ โมง 10. บันทกึ หลังการเรยี นร๎ู 10.1 ผลการใช๎แผนการจัดการเรียนรู๎ 10.2 ผลการเรยี นรข๎ู องผเ๎ู รยี น กลมุํ และรวํ มกนั แสดงความคิดเห็น 10.3 ผลการจดั กจิ กรรมการสอนของครู ……………………………………………… 44 สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี งาน : การบนั ทึกรายการเกีย่ วกบั สินค๎าในสมุดรายวันท่วั ไป แผนํ ท่ี 1/4 ความสาคญั ของเอกสารประกอบการบนั ทึกบญั ชี ดว๎ ยตามมาตรา 8 แหงํ พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓ บญั ญตั ิใหผ๎ มู๎ หี นา๎ ทจ่ี ดั ทําบญั ชที ี่เปน็ หา๎ งหนุ๎ สวํ น ๑. เอกสารทีต่ ๎องใชป๎ ระกอบการลงบญั ชีทจี่ ดั ทาํ ขน้ึ โดยบคุ คลภายนอก เอกสารที่ออกให๎กับบคุ คลภายนอก 45 สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความร๎ู หน๎าที่ งาน : การบนั ทึกรายการเกย่ี วกับสินคา๎ ในสมดุ รายวันทั่วไป แผนํ ท่ี 2/4 เอกสารทีร่ บั จากบุคคลภายนอก 46 สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู๎ หนา๎ ท่ี งาน : การบันทกึ รายการเกยี่ วกับสินค๎าในสมดุ รายวันท่ัวไป แผนํ ที่ 3/4 ความหมายและประเภทของสมุดรายวันข้ันต้น เก่ียวกบั ชอ่ื บญั ชีท่เี ดบติ และชอ่ื บัญชีทีเ่ ครดติ หลังจากทไี่ ดผ๎ ํานการวเิ คราะห์รายการค๎าแล๎ว โดยเรยี งตามลําดับกํอนหลัง สมุดรายวนั ขน้ั ตน๎ แบงํ เปน็ 2 ประเภท ดังนี้ 1.1 สมดุ รายวันซ้อื (purchases journal) ใช๎บนั ทกึ
รายการทีเ่ กยี่ วกับการซอ้ื สนิ คา๎ เป็นเงินเช่ือเทํานนั้ 1.2 สมดุ รายวันขาย (sales journal) ใช๎บันทึกรายการค๎าเก่ียวกบั การขายสนิ คา๎ เปน็ เงนิ เช่ือเทาํ นนั้ ผังบญั ชี บญั ชีตามมาตรฐานโดยท่วั ไป ซง่ึ จะกําหนดประเภทของบัญชีเป็น 5 หมวดดังน้ี 47 สาขาวิชา : การบัญชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี งาน : การบันทกึ รายการเกี่ยวกบั สนิ คา๎ ในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป แผํนที่ 4/4 การบนั ทึกบัญชเี ก่ียวกบั การซอื้ ขายสินคา้ ในสมุดรายวันท่ัวไป การบนั ทึกบัญชเี กย่ี วกับการซ้อื ซื้อขายสนิ ค๎ามี 2 วิธี คอื วธิ ีบันทกึ บัญชีแบบตอํ เนื่อง (Perpetual Inventory |