เฉลย การบัญชี ธุรกิจ ซื้อขายสินค้า บทที่ 5

แผนการจัดการเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ

วิชาการบัญชีธุรกิจซื้อขายสนิ ค้า รหัส 30201 - 0001
(ทฤษฎี 2 ปฏบิ ัติ 2 หนว่ ยกติ 3)

หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง พุทธศักราช 2563
ประเภทวิชาบรหิ ารธรุ กจิ สาขาวิชาการบัญชี
สาขางานการบัญชี

จัดทาโดย
นางประไพศรี วงศ์ปรีดี

วทิ ยาลยั เทคนิคสว่างแดนดิน
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

กระทรวงศึกษาธกิ าร

แบบคาขออนมุ ตั ิใช้แผนการจดั การเรียนรมู้ ุง่ เนน้ สมรรถนะ

แผนการจดั การเรียนร้มู ุ่งเนน้ สมรรถนะและบรู ณาการปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง/คณุ ลักษณะ 3 D
รายวชิ าการบญั ชธี รุ กจิ ซอื้ ขายสนิ คา๎ รหัส 30201 - 0001 2-2-3

ลงชือ่ ..................................
(นางประไพศรี วงศ์ปรดี )ี

ครู อันดบั คศ. 2 วทิ ยฐานะครชู ํานาญการ
ผู๎จดั ทํา

ความเหน็ หวั หนา๎ แผนกวิชาการบญั ชี ความเห็นหวั หน๎างานพัฒนาหลกั สูตรฯ
………………………………….. ………………………………………….

(นางประไพศรี วงศ์ปรดี ี) ( นายคุมดวง พรมอนิ ทร)์
หัวหน๎าแผนกวชิ าการบญั ชี หัวหนา๎ งานพฒั นาหลกั สตู รฯ

ความเห็นรองผอู๎ าํ นวยการฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………

(นายทินกร พรหมอนิ ทร)์
รองผ๎อู ํานวยการฝ่ายวชิ าการ

ความเห็นผูอ้ านวยการวทิ ยาลัยเทคนิคสว่างแดนดิน

O อนุมตั ิ O ไมํอนุมัติ

......................................
(นางวรรณภา พวํ งกลุ )
ผอ๎ู าํ นวยการวิทยาลัยเทคนคิ สวาํ งแดนดิน

คานา

แผนการสอนวิชา “ การบัญชีธุรกิจซื้อขายสินค๎า ” รหัสวชิ า 30201-0001 จัดทําข้ึนเพื่อใช๎เปน็ แนวทาง
ในการจัดการเรียนการสอน วิชา การบัญชีธุรกิจซื้อขายสินค๎า ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.)
พุทธศักราช 2563 ของสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยจัดการเรียนการสอนท้ังหมด 18 สัปดาห์
สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง เนื้อหาภายในแบํงออกเป็น 8 หนํวย ประกอบด๎วยเนื้อหาเก่ียวกับความร๎ูเบ้ืองต๎นเก่ียวกับ
กิจการซ้ือขายสินค๎า ความรู๎เก่ียวกับภาษีมูลคําเพม่ิ การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกับการซ้ือขายสินค๎าในสมุดรายวนั ท่ัวไป
การผํานรายการไปยังบัญชีแยกประเภททว่ั ไปและการทํางบทดลอง การคาํ นวณตน๎ ทุนสนิ คา๎ คงเหลือและการทํางบ
ต๎นทุนขาย รายการปรับปรุงบัญชีในวันสิ้นงวดบัญชีและงบทดลองหลังรายการปรับปรุง กระดาษทําการชนิด 8
ชํอง งบการเงนิ และงบทดลองหลังปิดบัญชี เปน็ ต๎น

สําหรับแผนการสอนรายวิชานี้ ผ๎ูจัดทําได๎ทํุมเทกําลังกาย กําลังใจและเวลาในการศึกษาค๎นคว๎า ทดลอง
เพอ่ื ใหเ๎ กิดประสิทธภิ าพตอํ การเรียนการสอน และการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
แบบพอเพียง

ทา๎ ยท่สี ุดนี้ ผจู๎ ัดทําขอขอบคณุ ผูท๎ ส่ี รา๎ งแหลํงความรู๎ และผู๎ที่มีสํวนเกี่ยวข๎องตาํ ง ๆ ซ่ึงเปน็ สํวนสําคัญที่ทํา
ให๎แผนการสอนวิชาการบัญชีธุรกิจซ้ือขายสินค๎า เลํมน้ีเสร็จสมบูรณ์เป็นท่ีเรียบร๎อย และหากผู๎ใช๎พบข๎อบกพรํอง
หรือมขี อ๎ เสนอแนะประการใด ขอได๎โปรดแจ๎งผู๎จดั ทาํ ทราบดว๎ ย จักขอบคณุ ยิ่ง

ลงชอ่ื .......................................
(นางประไพศรี วงศป์ รีด)ี

สารบัญ ง

ปก หนา้
แบบคําขออนุมัติ ก
คํานํา ข
สารบัญ ค
หลักสูตรรายวชิ า ง
กาํ หนดการเรียนรู๎ ฉ
ตารางวิเคราะห์ระดับ พทุ ธิพสิ ัย ทกั ษะพิสัย จติ พสิ ยั ช
หนํวยการเรียนรแ๎ู ละสมรรถนะประจําหนวํ ย ซ
แผนการเรยี นร๎ู ฌ

หนวํ ยการเรียนรู๎ที่ 1 ความรู๎เบอ้ื งตน๎ เกยี่ วกับการซอ้ื ขายสนิ คา๎ 1
ใบความรู๎ 5
ใบทดสอบ 11
ใบเฉลยแบบทดสอบ 12
ใบมอบหมายงาน 13
14
หนํวยการเรียนรทู๎ ่ี 2 ความรู๎เบ้อื งต๎นเก่ียวกบั ภาษมี ูลคําเพ่มิ 18
ใบความร๎ู 26
ใบทดสอบ 27
ใบเฉลยแบบทดสอบ 28
ใบมอบหมายงาน
29
หนวํ ยการเรียนร๎ทู ่ี 3 การบนั ทึกรายการเก่ยี วกับสนิ ค๎าในสมุดรายวนั ทวั่ ไปสําหรบั 33
กจิ การทไ่ี มจํ ดทะเบยี นและจดทะเบยี นภาษมี ูลคาํ เพิม่ 37
39
ใบความร๎ู 40
ใบทดสอบ
ใบเฉลยแบบทดสอบ
ใบมอบหมายงาน

สารบญั (ต่อ) หนา้

หนวํ ยการเรยี นรท๎ู ี่ 4 การผํานรายการไปยงั บญั ชีแยกประเภทท่ัวไป 41
และการทาํ งบทดลอง 45
52
ใบความร๎ู 55
ใบทดสอบ 57
ใบเฉลยแบบทดสอบ 58
ใบมอบหมายงาน 62
หนํวยการเรยี นรู๎ที่ 5 การคาํ นวณตน๎ ทุนสินคา๎ และการทาํ งบต๎นทุนขาย 65
ใบความร๎ู 68
ใบทดสอบ 70
ใบเฉลยแบบทดสอบ
ใบมอบหมายงาน 71
หนวํ ยการเรียนรท๎ู ่ี 6 รายการปรับปรุงบญั ชีในวันสิน้ งวดและงบทดลอง 75
84
หลงั รายการปรบั ปรุง 85
ใบความรู๎ 86
ใบทดสอบ 87
ใบเฉลยแบบทดสอบ 91
ใบมอบหมายงาน 100
หนํวยการเรยี นร๎ทู ่ี 7 กระดาษทาํ การชนิด 8 ชอํ ง และงบการเงิน 102
ใบความร๎ู 103
ใบทดสอบ 104
ใบเฉลยแบบทดสอบ 108
ใบมอบหมายงาน 126
หนวํ ยการเรยี นรท๎ู ี่ 8 การปดิ บญั ชแี ละงบทดลองหลังปิดบัญชี 128
ใบความรู๎ 129
ใบทดสอบ 130
ใบเฉลยแบบทดสอบ
ใบมอบหมายงาน
เอกสารอ๎างองิ

หลกั สูตรรายวิชา

วิชา การบญั ชีธรุ กิจซอ้ื ขายสินค้า (Accounting for Merchandising Business)
รหัส 30201-0001

ทฤษฎี 2 ปฏบิ ตั ิ 2 หนว่ ยกิต 3

หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู พทุ ธศกั ราช 2563
สาขาวชิ าการบัญชี สาขางานการบัญชี

วชิ าบงั คบั กอํ น : การบัญชเี บือ้ งต๎น
จุดประสงค์รายวชิ า เพ่ือให๎

1. เขา๎ ใจเกี่ยวกับหลกั การ วธิ กี าร และข้ันตอนการจัดทําบญั ชขี องกจิ การเจา๎ ของคนเดียว
ประเภทธุรกจิ ซอ้ื ขายสินค๎า

2. มที กั ษะในการปฏิบตั ิงานบญั ชีของกิจการเจ๎าของคนเดยี ว ประเภทธรุ กิจซอ้ื ขายสินคา๎
3. มคี ุณลกั ษณะนิสยั ที่พึงประสงค์ และมเี จตคติที่ดี ในการประกอบอาชีพ
สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรู๎เกยี่ วกบั หลกั การและวิธีการบัญชีของกจิ การเจ๎าของคนเดียว ประเภทธุรกิจ
ซอื้ ขายสนิ คา๎
2. ปฏบิ ตั ิงานบัญชสี ําหรับกจิ การเจ๎าของคนเดยี ว ประเภทธรุ กจิ ซอื้ ขายสินคา๎ ตามหลักการบญั ชี
ทรี่ บั รองทั่วไป

คาอธบิ ายรายวิชา
ศึกษาและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั ความหมายของสนิ ค๎า การบนั ทกึ รายการเก่ยี วกับสนิ คา๎ ในสมุดรายวันเฉพาะการ

ผํานรายการไปบญั ชแี ยกประเภท งบทดลอง กระดาษทําการ รายการปรับปรุงเมอ่ื สิ้นงวดบญั ชี การปิดบญั ชี และ
งบการเงินของกิจการเจ๎าของคนเดยี ว ประเภทธรุ กิจซอ้ื ขายสนิ คา๎

กาหนดการเรียนรู้ ช

หนว่ ยท่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ จานวนช่วั โมง สัปดาห์ที่
4 1
1 ความรู๎เบอ้ื งตน๎ เกย่ี วกบั การซ้ือขายสินคา๎ 4 2
4 3
2 ความรู๎เบ้อื งต๎นเก่ียวกบั ภาษมี ูลคําเพมิ่ การคาํ นวณต๎นทนุ
สนิ ค๎าและการทาํ งบตน๎ ทุนขาย 4 4
4 5
3 การบันทึกรายการเกยี่ วกบั สินคา๎ ในสมุดรายวันทั่วไปสําหรับ 4 6
กิจการที่ไมํจดทะเบยี นและจดทะเบยี นภาษีมูลคาํ เพิ่ม 4 7
4 8
4 การผาํ นรายการไปยงั บญั ชีแยกประเภททัว่ ไปและการทํางบ 4 9
ทดลอง 4 10

5 การคํานวณต๎นทนุ สนิ คา๎ และการทํางบต๎นทนุ ขายกระดาษทาํ 4 11
การชนิด 8 ชอํ ง และงบการเงิน 4 12
4 13
6 รายการปรับปรงุ บญั ชีในวนั สิน้ งวดและงบทดลองหลงั 4 14
รายการปรับปรุง 4 15
4 16
7 กระดาษทําการชนิด 8 ชอํ ง และงบการเงิน 4 17
4 18
8 การปดิ บัญชีและงบทดลองหลังปดิ บัญชี 72
รวม

ตารางวเิ คราะหร์ ะดบั พุทธิพิสยั ทักษะพสิ ัย จิตพิสยั ซ

รหัสวิชา 30201– 0001 ชื่อวิชา การบัญชีธุรกจิ ซ้ือขายสนิ ค๎า ท-ป-น 2-2-3

หลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้นั สงู ประเภทวชิ า บรหิ ารธุรกจิ

สาขาวชิ า การบัญชี สาขางาน การบญั ชี

ระดับพฤติกรรมที่พึงประสงค์

หนวํ ย ชื่อหนวํ ยการเรยี นร๎ู พทุ ธิพสิ ยั ทกั ษะพิสัย จิตพสิ ยั เวลา
ท่ี 1 2 3 4 5 6 1 2 3 4 5 1 2 3 4 5 (ชม.)

1 ความรเ๎ู บือ้ งตน๎ เก่ยี วกบั   3
กิจการซ้ือขายสนิ คา๎   6
  9
2 ความร๎ูเกยี่ วกับ
ภาษีมูลคําเพิม่

บนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกับการซอื้
3 ขายสนิ ค๎าในสมุดรายวนั

ทวั่ ไป

การผํานรายการไปยงั บัญชี   6
4 แยกประเภทท่ัวไปและการ

ทาํ งบทดลอง

การคาํ นวณตน๎ ทนุ สินค๎า  6
5 คงเหลอื และการทาํ งบ

ตน๎ ทนุ ขาย

รายการปรบั ปรงุ บัญชีในวัน                 12
6 สน้ิ งวดและงบทดลองหลงั

รายการปรบั ปรุง

7 กระดาษทําการชนิด 8 ชํอง  6
และงบการเงิน

8 การปดิ บัญชีและงบทดลอง  6
หลงั ปิดบัญชี

นอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พุทธิพสิ ัย ทักษะพิสัย จติ พิสัย
พอเพยี งมาปฏิบตั ิ 1 = ความรู๎ 1 = เลียนแบบ 1 = รบั รู๎
2 = ความเขา๎ ใจ 2 = ทําได๎ตามแบบ 2 = ตอบสนอง
3 = การนําไปใช๎ 3 = ทําไดถ๎ กู ต๎องแมนํ ยาํ 3 = เห็นคุณคาํ
4 = การวเิ คราะห์ 4 = ทาํ ได๎ตํอเนื่องประสานกนั 4 = จัดระบบคุณคาํ
5 = การสงั เคราะห์ 5 = ทาํ ได๎อยํางเปน็ ธรรมชาติ 5 = พฒั นาเปน็ ลักษณะนิสัย
6 = การประเมินคํา

หนํวยกา

รหัสวิชา 30201–0001 ชอ่ื วิชา การบญั

หลักสตู รประก
สาขาว

ชอื่ หน่วย

1. ความร๎ูเบ้ืองตน๎ เก่ียวกบั กิจการซ้อื ขายสนิ คา๎ 1. อธิบายความ
1.1 ความหมายของสินค๎า 2. บอกถงึ กิจกา
1.2 ธุรกิจเกี่ยวกบั สินค๎า
1.3 วงจรการดําเนนิ ธุรกจิ เกี่ยวกับสินค
1.4 เอกสารประกอบการบันทึกบัญชี 3. บอกเอกสาร
1.5 ข้ันตอนในการซอื้ ขายสินค๎า 4. อธบิ ายสวํ นล
1.6 เงื่อนไขเก่ยี วกับการซือ้ ขายสนิ ค๎า
ที่เก่ยี วกบั ก
2. ความรูเ๎ บ้ืองตน๎ เกย่ี วกับภาษีมลู คําเพมิ่ 5. ศัพทบ์ ัญชี

2.1 ความหมายของภาษมี ลู คําเพิม่ 1. อธิบายควา
2.2 ผู๎มีหนา๎ ท่เี สยี ภาษีมลู คาํ เพมิ่ มลู คําเพิ่ม
2.3 ผู๎ประกอบการท่ีไมตํ อ๎ งจดทะเบียนภาษมี ลู คาํ เพ่มิ
2.4 หนา๎ ท่ขี องผปู๎ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คาํ เพ่ิม 2. อธบิ ายเกย่ี ว
2.5 สถานที่จดทะเบยี น อตั ราภาษี ใบกาํ กบั ภาษี การคํานวณภาษี ภาษีมลู คําเพ

3. อธิบายเก่ียว
ต๎องจดทะเ

ารเรยี นร๎แู ละสมรรถนะประจาํ หนวํ ย

ญชธี ุรกิจซ้อื ขายสินค๎า หนวํ ยกติ 3 (ท-ป-น 2-2-3 72 ชว่ั โมง)

กาศนียบัตรวิชาชพี ประเภทวิชา การบญั ชี

วิชา การบัญชี สาขางาน การบญั ชี

สมรรถนะ

ความรู๎ ทักษะ คุณลักษณะท่พี ึง่ ประสงค์

มหมายของสนิ ค๎า แสดงขนั้ ตอนในการซ้ือขายสินค๎า 1. นกั ศกึ ษาเหน็ ความสาํ คญั และ

ารที่ทําธุรกิจ ได๎ เข๎าใจถงึ เหตุผลของ

คา๎ การทาํ บญั ชี

รที่ใชใ๎ นการบนั ทกึ บญั ชี 2. นกั ศกึ ษามคี วามรับผิดชอบ

ลดและเงื่อนไข ตํอหน๎าที่

การซ้ือขายสนิ คา๎

ามหมายของภาษี แสดงความร๎เู กย่ี วกบั วธิ กี ารจด 1. นักศกึ ษามคี วามรส๎ู ามารถ

วกับผู๎มหี น๎าทเี่ สีย ทะเบียนภาษีมลู คาํ เพม่ิ เอกสาร นําความรไ๎ู ปใชใ๎ น
พ่ิม
วกับผูป๎ ระกอบการท่ไี มํ จดทะเบียน สถานทใ่ี นการจด ชวี ิตประจาํ วันได๎
เบียนภาษีมูลคําเพมิ่
ทะเบยี นและวิธกี ารยื่นแบบแสดง 2. นักศกึ ษากล๎าแสดงความคิด

รายการเสียภาษีมลู คาํ เพ่มิ ของตนเอง

ท-ป-น 2-2-3 หนวํ ยกา

ชอ่ื หน่วย รหัสวิชา 30201–0
หลักสูตรประก
3. การบนั ทึกรายการเกีย่ วกับสินคา๎ ในสมดุ รายวันทัว่ ไปสําหรับ สาขาว
.กจิ การทไ่ี มจํ ดทะเบียนและจดทะเบียนภาษีมลู คาํ เพิ่ม
3.1 วธิ ีการบนั ทกึ บัญชเี ก่ยี วกบั การซอ้ื ขายสนิ คา๎ คว
3.2 การบนั ทึกรายการกรณไี มจํ ดทะเบียน
3.3 การบันทกึ รายการกรณจี ดทะเบียน 1. อธบิ ายเกี่ยวกับเอ
การบันทกึ บัญชไี
4. การผํานรายการไปยงั บัญชแี ยกประเภททัว่ ไปและ
การทาํ งบทดลอง 2. อธบิ ายเกี่ยวกบั ป
4.1 การผํานรายการไปบัญชีแยกประเภททั่วไป เอกสารประกอบ
4.2 งบทดลองกอํ นรายการปรบั ปรงุ
1. อธิบายเกี่ยวกับกา
5. การคํานวณตน๎ ทุนสินค๎าคงเหลือและการทํางบต๎นทุนขาย ไปบัญชแี ยกประ
5.1 ความหมายของสนิ คา๎ คงเหลอื
5.2 การคาํ นวณตน๎ ทนุ สินค๎าคงเหลือ 2. อธบิ ายเกี่ยวกับงบ
5.3 การคํานวณตน๎ ทนุ ขาย กอํ นรายการปรับ
5.4 งบต๎นทนุ ขาย
1. อธิบายความหมา
2. สามารถคาํ นวณต
3. สามารถคาํ นวณต
4. สามารถจัดทาํ งบต

ารเรียนรแ๎ู ละสมรรถนะประจาํ หนวํ ย

0001 ช่ือวิชา การบญั ชีธรุ กจิ ซื้อขายสนิ คา๎ หนํวยกติ 3 (ชัว่ โมง) 72

กาศนียบัตรวชิ าชีพ ประเภทวิชา การบัญชี

วิชา การบญั ชี สาขางาน การบญั ชี

สมรรถนะ

วามร๎ู ทกั ษะ คุณลักษณะท่พี งึ่ ประสงค์

อกสารประกอบ แสดงวิธีการบันทกึ บัญชเี กย่ี วการ 1. นกั ศกึ ษาแบงํ เวลาในการเรยี น

ได๎ การซือ้ ขายสนิ ค๎า และการทํางานได๎

ประเภทของ บนั ทึกรายการกรณจี ดทะเบยี น 2. นกั ศึกษามีความรับผดิ ชอบ

บการบนั ทึกบัญชไี ด๎ และไมํจดทะเบียนภาษีมลู คําเพิม่ ตํอตนเองและสํวนรวม

ารผํานรายการ แสดงการผาํ นรายการจากสมดุ 1. นกั ศึกษามีความรใ๎ู นการแก๎ไข
ะเภททั่วไป รายวนั ทว่ั ไป ไปบญั ชีแยก ขอ๎ งผิดพลาดโดยการ
บทดลอง ประเภททั่วไปได๎และทาํ งบ ปรับปรงุ บัญชไี ด๎
บปรุงได๎ ทดลองได๎
1. นักศึกษาเขา๎ ใจถึงเหตุผลของ
ายของสนิ ค๎าคงเหลือได๎ แสดงการคํานวณตน๎ ทนุ สินคา๎ การคาํ นวณตน๎ ทนุ สินค๎า
ต๎นทุนสินคา๎ คงเหลือได๎ คงเหลือปลายงวดตามวิธตี ําง ๆ คงเหลือ
ตน๎ ทุนขายได๎ ได๎ คาํ นวณต๎นทนุ ขายได๎
ตน๎ ทุนขาย

ท-ป-น 2-2-3 หนํวยกา

ชอื่ หนว่ ย รหัสวชิ า 30201–0
หลกั สูตรประก
6. รายการปรบั ปรงุ บญั ชีในวันส้ินงวดและงบทดลอง สาขาว
หลงั รายการปรบั ปรงุ
6.1 ความหมายและวัตถุประสงคข์ องการปรับปรงุ ค
6.2 ประเภทของรายการปรับปรงุ
6.3 วิธีบันทึกรายการปรบั ปรงุ และผํานรายการไปบญั ชี 1. อธิบายความหม
แยกประเภททั่วไป ของการปรบั ปร

7. กระดาษทาํ การชนิด 8 ชํองและงบการเงนิ 2. อธิบายประเภท
7.1 กระดาษทําการชนิด 8 ชํอง 3. อธิบายการบนั ท
7.2 งบการเงิน
และการผาํ นรา
8. การปดิ บัญชีและงบทดลองหลังปิดบญั ชี แยกประเภทท
8.1 การบนั ทกึ รายการปดิ บญั ชใี นสมุดรายวันทัว่ ไป 1. อธบิ ายวธิ ีการทาํ
8.2 การปดิ บญั ชแี ยกประเภท ชนดิ 8 ชํองได๎
8.3 งบทดลองหลังปิดบัญชี 2. อธิบายเก่ียวกับ
8.4 การบันทึกรายการปิดบัญชี 1. แสดงการบนั ทกึ
8.5 วงจรบญั ชสี าํ หรบั กิจการจําหนาํ ยสนิ ค๎า ในวันสิ้นงวดบญั
2. แสดงวธิ กี ารผาํ น
บญั ชแี ยกประเ
3. อธบิ ายการจดั ท
หลังการปิดบญั

ารเรียนรูแ๎ ละสมรรถนะประจําหนํวย

0001 ชอ่ื วิชา การบญั ชีธุรกจิ ซื้อขายสินค๎า หนํวยกิต 3 (ช่วั โมง) 72

กาศนียบัตรวิชาชพี ประเภทวิชา การบญั ชี

วชิ า การบัญชี สาขางาน การบัญชี

สมรรถนะ

ความร๎ู ทักษะ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ง่ึ ประสงค์

มายและวตั ถุประสงค์ แสดงกระบวนการการปรบั ปรุง 1. นกั ศึกษามคี วามซ่อื สัตย์

รงุ ได๎ ผาํ นรายการไปบญั ชแี ยกประเภท ตํอหนา๎ ทีใ่ นการทําบญั ชี

ทของการปรบั ปรงุ ได๎ ทว่ั ไปและการแกไ๎ ขขอ๎ ผิดพลาด

ทึกรายการปรับปรุง การทาํ งบทดลองหลงั รายการ

ายการไปบญั ชี ปรบั ปรงุ ได๎

ทว่ั ไปได๎

ากระดาษทาํ การ แสดงการทํากระดาษทําการ 1. นักศึกษาเป็นผ๎ูท่ีมเี หตผุ ลและ

ชนดิ 8 ชํองและทํางบการเงนิ ได๎ สามารถในการทาํ กระดาษ

บการจัดทํางบการเงนิ ได๎ ทาํ การได๎

กรายการปิดบัญชี แสดงขั้นตอนการปดิ บัญชีใน 1. นักศึกษาเข๎าใจถึงเหตผุ ลของ
ญชีได๎ สมดุ รายวันทั่วไปและสมดุ การปดิ บัญชีการทาํ งบ
นรายการปิดบัญชีไป บญั ชีแยกประเภทท่ัวไป ทดลองหลังปิดบัญชแี ละ
เภทได๎ และจดั ทํางบทดลอง วงจรของบัญชีได๎
ทาํ งบทดลอง หลงั ปิดบญั ชไี ด้
ญชีได๎

12

แผนการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนํวยที่ 1

ช่อื หนวํ ย ความรู๎เบ้อื งต๎นเกย่ี วกบั การซือ้ ขายสินคา๎ รวม 4 ช่วั โมง
สอนครัง้ ท่ี 1

เรอื่ ง ขั้นตอนในการซื้อขายสนิ คา๎ จํานวน 4 ชวั่ โมง

1. สาระสาคญั

การประกอบธุรกจิ ซื้อขายสินคา๎ มีวตั ถุประสงค์เพื่อแสวงหากําไร กจิ การจะมรี ายไดห๎ ลกั จากการ
จาํ หนาํ ยสนิ ค๎า และมตี น๎ ทุนของสนิ คา๎ ทซี่ ้ือมาขายเปน็ คําใชจ๎ าํ ยท่เี กิดขน้ึ จํานวนมากด๎วยเชนํ กัน ในการ
ประกอบธุรกจิ เจา๎ ของกจิ การและผจู๎ ักทาํ บญั ชีจะต๎องมีความรเ๎ู กี่ยวกับการซื้อขายสินคา๎ เอกสารทีใ่ ช๎
ประกอบในการบนั ทกึ บัญชี เง่อื นไขเกย่ี วกบั การซ้ือขายสินคา๎ เงื่อนไขการจํายคาํ ขนสงํ และภาษีมลู คาํ เพ่ิม
เพราะเปน็ ความร๎พู นื้ ฐานเบ้ืองตน๎ ที่จาํ เป็นตอ๎ งศึกษา

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย

แสดงขั้นตอนในการซือ้ ขายสนิ ค๎าได๎

3. จุดประสงค์การเรียนรู้ (มาตรฐานการเรียนรู้)

3.1 ด๎านความรู๎
3.1.1 บอกความหมายของสนิ ค๎าและขน้ั ตอนในการซ้ือขายสนิ ค๎าได๎
3.1.2 บอกเงอื่ นไขในการซ้อื ขายสนิ คา๎ ได๎
3.1.3 บอกความหมายของภาษีมูลคําเพ่มิ ได๎
3.1.4 อธิบายเกย่ี วกับการซื้อขายสินคา๎ ผํานระบบเครอื ขาํ ยอนิ เตอรเ์ น็ตได๎

3.2 ด๎านทักษะ
3.2.1 สรา๎ งบัญชีเพอ่ื ใช๎บนั ทึกบัญชีสนิ คา๎ ได๎
3.2.2 ปฏิบัตกิ ารบนั ทึกบัญชีสนิ ค๎าได๎
3.2.3 คาํ นวณภาษมี ลู คําเพ่มิ ได๎

3.3 คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์
3.3.1 นักศกึ ษาเห็นความสาํ คญั และเข๎าใจถงึ เหตุผลของการทาํ บัญชี
3.3.2 นักศกึ ษามคี วามรับผดิ ชอบตํอหน๎าที่

3.4 การประยกุ ต์ 3D และนอ๎ มนําหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
3.4.1 ผู๎เรยี นมกี ารทาํ เปน็ ขน้ั ตอน การทําตามลาํ ดับขนั้
3.4.2 ผ๎ูเรยี นมีวนิ ัย มคี วามประหยัด
3.4.3 ผ๎ูสอนสอดแทรกปรชั ญาเกี่ยวกับความประหยัดอดออม

13

แผนการจดั การเรียนรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 1

ช่ือหนวํ ย ความรู๎เบ้อื งตน๎ เกีย่ วกบั การซอ้ื ขายสนิ ค๎า รวม 4 ชวั่ โมง
ชั่วโมงรวม 4

เร่ือง ข้นั ตอนในการซอื้ ขายสินคา๎ จาํ นวน 4 ชวั่ โมง

4. เนอ้ื หาสาระการเรียนรู๎

1. ความหมายของสินค๎า

2. เอกสารเกย่ี วกับสนิ คา๎

2.1 ใบส่งั ซือ้ สินคา๎ 2.2 ใบกาํ กับภาษี

2.3 ใบสงํ ของ / ใบกํากบั สินคา๎ 2.4 ใบขอลดหนห้ี รือใบสงํ คืน

2.5 ใบขอหักหน้หี รือใบรบั คนื 2.6 ใบเสร็จรบั เงิน

3. เงอ่ื นไขเกี่ยวกบั การซ้อื ขายสินคา๎

3.1 เงอ่ื นไขเกยี่ วกับสํวนลด 3.2 เงือ่ นไขสํวนลดเงินสด

3.3 การนบั วนั ครบกําหนดชําระหนี้

4. เง่อื นไขเกี่ยวกบั การขนสงํ สนิ ค๎า

4.1 เงอ่ื นไขการจาํ ยคําขนสํง 4.2 การจํายคาํ ขนสงํ แทนกนั

5. ภาษีมลู คําเพ่ิม

5.1 การคํานวณภาษีมูลคําเพิ่ม 5.2 ภาษซี ้ือตอ๎ งห๎าม

5.3 การปิดบญั ชีภาษีมลู คาํ เพิ่มในสมุดรายวนั ทั่วไป 5.4 การนาํ สงํ ภาษีมลู คําเพม่ิ

5.5 การขอคนื ภาษมี ลู คาํ เพิม่

5 กิจกรรมการเรยี นการสอน

5.1 ขน้ั นาํ เข๎าสํูบทเรยี น(M)

นาํ เขา๎ สบํู ทเรียนโดยกลําวถึงวงจรการดําเนนิ ธุรกจิ

5.2 ขน้ั การจัดเรียนรู๎(I)

5.2.1 ทําแบบประเมินผลกํอนการเรยี น

5.2.2 ผู๎สอนและผเู๎ รียนรํวมกันอภปิ รายเรือ่ งเกี่ยวกบั วงจรการดาํ เนินธุรกิจ

5.2.3 ผ๎ูเรยี นศึกษาใบความร๎ู

5.3 ขั้นสรุป(A)

5.3.1 แบํงกลุมํ ผู๎เรียนมารายงานหน๎าช้นั เรียน

14

แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนวํ ยท่ี 1

ชอ่ื หนวํ ย ความร๎ูเบอ้ื งต๎นเกยี่ วกบั การซอ้ื ขายสินค๎า รวม 4 ช่วั โมง
สอนครงั้ ที่ 1

เรอ่ื ง ขั้นตอนในการซอื้ ขายสินค๎า จาํ นวน 4 ชว่ั โมง

5.4 การวัดผลและประเมินผล(P)
5.4.1 การสงั เกต
 ความตั้งใจและสนใจของผเ๎ู รียน
 ความรํวมมอื ในการอภปิ ราย
 การแสดงความคดิ เหน็ อยํางมีเหตผุ ล
5.4.2 การตรวจผลงานภาคปฏิบตั ิ
 กิจกรรมตรวจสอบความเข๎าใจ
 แบบทดสอบเพอื่ ประเมนิ ผลหลังการเรียนรู๎
5.4.3 การทดสอบดว๎ ยวาจาและข๎อเขยี น
 ตรวจแบบทดสอบ ไมนํ อ๎ ยกวาํ ร๎อยละ 60
 ต้ังคาํ ถามให๎ตอบและอธบิ าย ไมนํ อ๎ ยกวํารอ๎ ยละ 80

6. สอื่ การการเรยี นรู๎/แหลงํ การเรียนรู๎

6.1 สือ่ สิง่ พิมพ์
หนังสือเรียนวชิ า หลกั การบัญชเี บ้อื งต๎น 2 : ของสาํ นกั พิมพ์เอมพนั ธ์

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู๎ (ใบความร๎ู ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

7.1 ใบความร๎ู
7.2 ใบทดสอบ
7.3 ใบสง่ั งาน

8. การบูรณาการ/ความสมั พนั ธ์กับวิชาอ่นื

8.1 วชิ าภาษาไทย เก่ียวกบั การใช๎ภาษาด๎านการพูด การอําน และการเขียน
8.2 วิชาคณิตศาสตร์ เก่ียวกับการคํานวณ
8.3 วชิ าภาษาอังกฤษ ดา๎ นคาํ ศพั ท์ทางบญั ชี

15

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนวํ ยที่ 1

ช่ือหนวํ ย ความรเ๎ู บ้ืองต๎นเกยี่ วกบั การซอ้ื ขายสินค๎า รวม 4 ชว่ั โมง
สอนครง้ั ท่ี 1

เรือ่ ง ขั้นตอนในการซอ้ื ขายสินค๎า จาํ นวน 4 ชว่ั โมง

9. การวดั ผลและประเมินผล

9.1 วธิ กี าร ดําเนนิ การวัดผลในชํวงเวลา

(1) กอํ นเรียน โดยใชแ๎ บบทดสอบกอํ นเรยี น

(2) ระหวาํ งเรยี น โดยการถามตอบและการสังเกตการณ์ปฏิบตั งิ าน

(3) หลังเสรจ็ ส้นิ การเรยี น โดยทาํ แบบทดสอบ

9.2 เกณฑ์การประเมนิ

(1) ผูเ๎ รียนมเี วลาเรียนไมํนอ๎ ยกวาํ ร๎อยละ 80

(2) ผเ๎ู รยี นมคี ะแนนจากแบบทดสอบหลังเรยี นร๎อยละ 80

(3) ผูเ๎ รียนบันทึกบัญชีการซอื้ ขายสนิ ค๎าสมบรู ณแ์ ละถูกต๎องทุกคร้ัง

10. บันทกึ หลงั การเรยี นรู้

10.1 ผลการใชแ๎ ผนการจัดการเรยี นรู๎

1. เนอ้ื หาสอดคลอ๎ งกบั จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม

2. สามารถนาํ ไปใชป๎ ฏบิ ัตกิ ารสอนไดค๎ รบตามกระบวนการเรียนการสอน

3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี

10.2 ผลการเรียนรข๎ู องผเ๎ู รยี น

1. นักศึกษาสวํ นใหญมํ คี วามสนใจใฝร่ ๎ู เข๎าใจในบทเรยี นรวํ มกนั อภปิ ราย ตอบคําถาม

ในกลุมํ และรวํ มกันแสดงความคิดเห็น

2. นักศึกษากระตอื รือร๎นและรับผิดชอบในการทาํ งานกลํุมเพื่อใหง๎ านสาํ เร็จทนั เวลา

ทกี่ าํ หนด

10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรยี นร๎ู

1. สอนเน้ือหาได๎ครบตามหลักสูตร

2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เนื้อหาการสอนทาํ ให๎ผ๎ูสอนสอนไดอ๎ ยํางม่ันใจ

3. สอนไดท๎ นั ตามเวลาทีก่ ําหนด

………………………………………………
ผ๎ูบันทึกการสอน

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู๎ หน๎าที่
แผํนท่ี 1/6 5
ช่อื วิชา: การบญั ชธี รุ กจิ ซื้อขายสินคา๎ รหัสวิชา 30201-0001

งาน : ขนั้ ตอนในการซื้อขายสินค๎า

จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม

1. อธิบายเกี่ยวกับความหมายของสินคา๎
2. อธิบายเกยี่ วกบั ประเภทของธรุ กิจได๎
3. อธบิ ายเกย่ี วกบั ขั้นตอนในการซือ้ ขายสินค๎า
4. อธิบายเก่ียวกับเง่อื นไขในการซือ้ ขายสินคา๎
5. อธิบายเก่ียวกบั การซ้อื ขายสินคา๎ ผํานระบบเครอื ขาํ ยอนิ เตอร์เน็ต

เน้อื หาสาระ

1. ความหมายของสินค๎า
สินคา๎ (Goods or Merchandise) หมายถึงสินทรัพยห์ มุนเวียน ที่มีตัวตนหรือส่งิ ของทก่ี ิจการมไี ว๎เพอื่ จําหนําย

ใหก๎ บั ผู๎ซือ้ หรือลกู คา๎ เพือ่ หวังผลกําไรจากการจําหนาํ ยสินคา๎ ดังนั้นกิจการมีรายไดห๎ ลักจากการขายสินคา๎ ตามลกั ษณะ
ของการประกอบธรุ กิจ เชนํ ร๎านมะขามทอง การไฟฟา้ มีสินคา๎ ดงั นี้ เครอ่ื งปรบั อากาศ พดั ลม ตเู๎ ย็น คอมพิวเตอร์
โทรทัศน์ เครือ่ งซกั ผ๎า และห๎างสรรพสินคา๎ มะขามป้อม มีสนิ คา๎ ประเภทอาหารสาํ เร็จรปู เส้ือผ๎า เครอื่ งดื่ม ผลไม๎
เครอ่ื งสําอาง ไว๎จาํ หนาํ ยในกิจการ เปน็ ตน๎

2. ประเภทของธรุ กจิ เกีย่ วกบั สินค๎า
ธุรกิจพาณิชยกรรมเปน็ ธุรกจิ ท่ีซอื้ สินค๎าจากผข๎ู ายมาขายใหล๎ กู ค๎า เรยี กวํา ธุรกจิ ซ้อื มา ขายไป เชนํ ธรุ กิจขาย

เสือ้ ผ๎าสําเร็จรปู ธรุ กจิ ขายเครอ่ื งใชไ๎ ฟฟ้า รา๎ นขายสนิ ค๎าตําง ๆ ธุรกิจทซ่ี ื้อสินคา๎ โดยตรง แกํผู๎บรโิ ภคเรียกวําผู๎ค๎าปลีก
(Retailers) ซ่ึงเป็นการประกอบการค๎าปลกี เชํนรา๎ นคา๎ ปลีกทว่ั ไป เป็นต๎น ตรงกันข๎ามกบั ธุรกิจท่ีซอื้ สินค๎าและขาย
สนิ ค๎าให๎ผค๎ู ๎าปลกี เรียกวํา ผูค๎ ๎าสงํ (Wholesalers) ซึ่งเป็นการประกอบการค๎าสงํ เชนํ บรษิ ัทค๎าสํงตําง ๆ ซ่ึงเป็นตวั แทน
จาํ หนาํ ยให๎กบั ธุรกิจผ๎ผู ลติ สนิ คา๎ (มหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, การบัญชีขนั้ ตน๎ , 2553) ประเภทของหนํวยงาน
ธรุ กจิ หนํวยงานธรุ กจิ (Business Firm) มบี ทบาทท่สี ําคญั เป็นอยาํ งมากในระบบเศรษฐกิจหนวํ ยงานธรุ กจิ คอื หนวํ ยงาน
ซึง่ ใชท๎ รพั ยากรที่มอี ยูอํ ยํางจํากดั ในการผลติ สินค๎าและบริการ โดยมวี ัตถุประสงคห์ ลกั คอื การแสวงหาผลกําไร การแบงํ
ประเภทของธุรกิจ สามารถแบํงได๎ 2 ลกั ษณะคอื

1. แบํงตามลักษณะการดาํ เนินงานหรอื กจิ กรรม แบงํ ได๎ 3 ลกั ษณะคือ
1.1 กิจการเกย่ี วกับการใหบ๎ ริการ (Service Firm) ในธุรกจิ ประเภทนีผ้ ลผลิตท่เี กิดขึน้ คือ การ

ใหบ๎ ริการ เชนํ ร๎านซักรีด สถานรักษาพยาบาล ร๎านตัดผมและธนาคาร เปน็ ต๎น
1.2 กจิ การประเภทพณชิ ยกรรม (Merchandising Firms) เปน็ กจิ การที่ไมํได๎เป็นผู๎ผลิตสินค๎าเอง แตํ

จะซ้อื สินค๎ามาเพื่อท่ีจะสามารถขายไปไดท๎ ันที เชนํ ร๎านขายของชาํ หา๎ งสรรพสนิ คา๎
1.3 กิจการผลิต (Manufacturing Firms) เปน็ การผลติ สินค๎าสาํ เร็จรูปเปลย่ี นสภาพของ

วตั ถดุ บิ และช้นิ สํวนตาํ ง ๆ ให๎เป็นสนิ คา๎ สําเรจ็ รูป เชํน บริษัทผลติ ผลไม๎กระปอ่ ง บรษิ ทั ผลิตรถยนต์ เปน็ ต๎น

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู๎ หน๎าท่ี
แผนํ ท่ี 2/6 6
ชื่อวิชา : การบญั ชธี รุ กิจซอ้ื ขายสนิ ค้า รหสั วชิ า 30201-0001

งาน : ข้ันตอนในการซอ้ื ขายสินคา๎

2. แบงํ ตามรปู แบบของการประกอบการตามกฎหมาย ซง่ึ สามารถแบํงได๎ 3 ประเภทคือ
2.1 กิจการเจ๎าของคนเดียว (Proprietorship Sole) เป็นกจิ การขนาดเลก็ ท่ใี ช๎เงนิ ทนุ ไมํมากนกั เจ๎าของ

กิจการเป็นผ๎ูบรหิ ารธุรกจิ เอง เชนํ รา๎ นค๎ารายยํอย ลักษณะธุรกิจประเภทนีก้ ค็ อื เจ๎าของกิจการตอ๎ งรบั ผิดชอบในหนี้สินของ
ธรุ กิจ โดยไมํจาํ กดั จํานวนเม่ือธรุ กิจต๎องการเพ่มิ ทุนเพ่ือขยายกิจการก็อาจทําได๎ลาํ บากซ่ึงเป็นข๎อเสียของธุรกจิ ประเภทน้ี

2.2 หา๎ งห๎ุนสํวนจํากดั (Partnership) เปน็ ธุรกิจซึง่ มบี ุคคลต้ังแตํ 2 คนข้ึนไปรํวมกนั เป็นเจ๎าของโดยมี
สญั ญารํวมกนั เป็นห๎นุ สวํ น กําหนดเง่อื นไขตําง ๆ ในการบรหิ ารงานและแบงํ ปนั ผลกําไรรวํ มกัน ผู๎เป็นสํวนหน่งึ คนใดจะได๎รบั
มอบหมายใหเ๎ ป็นผ๎บู รหิ าร ห๎างหุ๎นสวํ นสามารถแบํงไดเ๎ ปน็ หา๎ งห๎นุ สวํ นสามัญและห๎างหน๎ุ สํวนจํากัด

- ห๎างห๎ุนสวํ นสามัญ คอื หา๎ งหนุ๎ สวํ นซ่งึ ผู๎เป็นหุ๎นสํวนทุกคนตอ๎ งมีสํวนรบั ผิดชอบในหนีส้ ินของห๎าง
ห๎ุนสํวนโดยไมจํ าํ กัดจาํ นวน ห๎างห๎ุนสํวนสามัญจะนาํ ไปจดทะเบยี นหรอื ไมกํ ไ็ ด๎ และหากห๎างหุน๎ สํวนสามญั จดทะเบยี น ก็
จะตอ๎ งใชค๎ ําวํา “หา๎ งหุ๎นสํวนสามญั นิตบิ ุคคล”

- ห๎างห๎ุนสํวนจํากัด คอื หา๎ งหุ๎นสวํ นประเภท ซึง่ ผเ๎ู ปน็ หนุ๎ สํวนอยํางน๎อย 1 คน ต๎องรบั ผิดชอบใน
หน้สี ินของห๎างห๎ุนสวํ นโดยไมจํ าํ กัดจาํ นวน ห๎างห๎นุ สํวนจาํ กดั ตอ๎ งจดทะเบียนเป็นนิตบิ คุ คลในการเสียภาษีเงนิ ได๎ หา๎ งหน๎ุ สํวน
ท่เี ปน็ นิตบิ ุคคลเสียภาษีเงินไดเ๎ ชํนเดยี วกบั บรษิ ัทจาํ กัด หา๎ งห๎นุ สวํ นสามัญทีม่ ไิ ด๎จดทะเบยี นจะต๎องเสยี ภาษเี งนิ ไดเ๎ หมอื น
บุคคลธรรมดา

2.3 บริษัทจํากัด (Limited Company) เปน็ กจิ การทตี่ ๎องมกี ารแบงํ เงนิ ทนุ เป็นหุ๎นมมี ลู คําห๎นุ ละเทํา
ๆ กัน และผ๎ูถือหุ๎นรบั ผดิ ชอบจํากัดเพยี งไมํเกินจาํ นวนเงินทค่ี นยงั สํงใช๎ไมคํ รบมลู คาํ ของหน๎ุ ทตี่ นถือ คณุ สมบตั ขิ องผถู๎ ือห๎ุนไมํ
มคี วามสําคัญ เมือ่ ผูถ๎ อื หนุ๎ คนใดคนหนงึ่ ตายหุ๎นทถี่ ืออยกูํ ็สามารถจาํ หนํายให๎ผล๎ู งทุนอืน่ ๆ ไปได๎โดยไมตํ อ๎ งเลิกบริษทั

3. ขนั้ ตอนในการซือ้ ขายสินคา้

กิจการแตลํ ะแหงํ จะมีข้ันตอน วธิ ีการซ้อื ขายสนิ คา๎ ทีแ่ ตกตาํ งกันไป ท้ังน้ีขึ้นอยกูํ ับขนาดและการจดั องค์กรของแตํ
ละกจิ การ กรณขี องกจิ การขนาดเล็กเจา๎ ของอาจจะเปน็ ผู๎ดําเนินการเองทั้งหมด แตํถ๎าเปน็ กิจการขนาดใหญจํ ะมีหนวํ ยงานท่ี
ทาํ หนา๎ ทใ่ี นการซอื้ และการขายสินค๎าไดแ๎ กํ

1. แผนกคลังสนิ ค๎า จะเปน็ ผ๎ตู รวจสอบวาํ สินคา๎ ชนดิ ใดบ๎างทเี่ หลืออยูํในระดับท่ีต๎องมีการสัง่ ซอ้ื โดยจดั ทาํ ใบสงั่ ซ้ือ
สํงไปแผนกจดั ซือ้

2. แผนกจดั ซอื้ เม่อื ได๎รับใบขอซือ้ แลว๎ จะทาํ การสอบถามราคาของสนิ คา๎ ทจ่ี ะซื้อจากผ๎ูขายหลาย ๆ ราย โดยจะ
จดั ทําใบสั่งซอื้ สํงไปใหผ๎ ๎ขู าย

3. ผขู๎ าย เมอ่ื ได๎รับใบสั่งซ้อื จะจัดสงํ คืนสนิ ค๎าพรอ๎ มใบกํากบั สนิ ค๎า (Invoice) / ใบกาํ กับภาษี (Tax Invoice)
ให๎กับผู๎ซอ้ื

4. แผนกตรวจรบั สนิ คา๎ เม่อื ผูซ๎ ้ือไดร๎ บั สินคา๎ แลว๎ แผนกตรวจรับสนิ ค๎าจะทาํ การตรวจสอบสนิ ค๎าท่ีไดร๎ บั กับสาํ เนา
ใบสง่ั ซ้ือ และใบกํากับสนิ คา๎ ที่ได๎จากผูข๎ ายวาํ ถกู ต๎องตรงกันถ๎าถูกต๎องจะลงนามในใบกาํ กับสินค๎าและจัดทําใบรบั สนิ คา๎
(Receiving Report)

สาขาวิชา : การบัญชี ใบความร๎ู หน๎าท่ี
แผนํ ท่ี 3/6 7
ช่อื วชิ า : การบญั ชีธุรกจิ ซ้อื ขายสนิ ค้า รหสั วชิ า 30201-0001

งาน : ขนั้ ตอนในการซอื้ ขายสนิ คา๎

5. แผนกบัญชี เม่ือครบกาํ หนดชําระ ผขู๎ ายจะนําไปเสรจ็ รับเงนิ มาขอรบั ชาํ ระท่แี ผนกบัญชแี ละการเงิน
เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี

เอกสารทใี ชป๎ ระกอบการบนั ทึกบญั ชีมี 2 ประเภท คอื
1. เอกสารทีก่ จิ การจดั ทําขึน้ เอง ได๎แกํ เอกสารท่ีกจิ การจัดทาํ ขน้ึ เพ่ือใชใ๎ นกจิ การและเพ่อื ออกใหก๎ ับ

บคุ คลภายนอก เชนํ ใบส่ังซอ้ื สินค๎า บตั รสินคา๎ ใบสาํ คญั จาํ ย ใบรับสนิ ค๎า
2. เอกสารจากบคุ คลภายนอก ได๎แกเํ อกสารทีก่ จิ การได๎รบั จากบคุ คลภายนอก เชํน ใบสง่ั ซอื้ สนิ คา๎

ใบเสร็จรับเงนิ /ใบกํากบั ภาษี ใบแจ๎งหนี้ ใบสํงคืนสินค๎า

ภาพที่ 1 แสดงขัน้ ตอนและเอกสารทเี่ กย่ี วกับการซื้อขายสนิ ค้า
ทีม่ า : ผกามาศ พกอินทร,์ 2558

สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความร๎ู หน๎าท่ี
แผํนที่ 4/6 8
ชอื่ วิชา : การบญั ชธี ุรกจิ ซ้อื ขายสนิ ค้า รหสั วิชา 30201-0001

งาน : ข้ันตอนในการซอ้ื ขายสินคา๎

4. เอกสารที่เกีย่ วข้องกับการซือ้ ขายสินคา้

4.1 ใบสั่งซอ้ื (Purchase Order) เปน็ เอกสารทผี่ ซ๎ู ้อื จัดทาํ ขน้ึ เพื่อแจ๎งให๎ผข๎ู ายทราบวําผูซ๎ ือ้ ต๎องการสินคา๎
ประเภทใด ชนิดใดปรมิ าณหรือจํานวนเทาํ ใดมคี ุณภาพอยํางไรและราคาตอํ หนวํ ยเปน็ เทําใด

4.2 ใบกาํ กบั ภาษ/ี ใบสํงของ/ใบกํากับสนิ คา๎ (Tax Invoice/Delivery Invoice/ Invoice) คอื เอกสารทผี่ ขู๎ าย
จดั ทาํ ข้ึนเพอื่ นาํ สํงไปให๎ผ๎ซู อื้ พรอ๎ มกับสนิ ค๎าตามใบส่งั ซื้อ เพ่ือตรวจสอบใบกํากับภาษ/ี ใบสงํ ของ/ใบกาํ กบั สนิ ค๎า โดยปกติ
ควรทําอยาํ งนอ๎ ย 2 ฉบับตน๎ ฉบับสํงไปใหก๎ ับผ๎ซู ื้อสวํ นสําเนาผ๎ขู ายเกบ็ ไวเ๎ ป็นหลักฐานประกอบการบันทกึ บัญชี

4.3 ใบขอลดหนห้ี รอื ใบสํงคืน (Debit Memorandum or Debit Note) คอื เอกสารท่ีผซ๎ู ื้อจดั ทําขน้ึ เพือ่ เปน็
การขอลดหนี้บางสวํ นหรือท้ังหมด เนื่องจากสนิ ค๎าชํารุดเสยี หายหรือไมตํ รงตามความต๎องการจงึ ทําการสํงคนื สินคา๎ ไปให๎
ผ๎ขู าย เพอื่ ให๎ทราบวาํ ไดบ๎ นั ทกึ บัญชีลดหนีส้ าํ หรบั สินค๎าท่ีสํงคืนหรือจาํ นวนท่ีได๎ลดแล๎ว ใบขอลดหน้ีหรือใบสงํ คนื ควรทํา
อยาํ งน๎อย 2 ฉบับ ตน๎ ฉบบั สงํ ให๎ผ๎ขู ายสวํ นสําเนาผซ๎ู อ้ื เกบ็ ไว๎เป็นหลักฐานประกอบการบนั ทกึ บัญชี

4.4 ใบหักหน้หี รอื ใบรับคืน (Credit Memorandum or Credit Note) คือเอกสารทผี่ ข๎ู ายจดั ทําขน้ึ หลังจาก
ไดร๎ บั สินค๎าคืนจากผซู๎ ื้อหรือ ยอมลดราคาให๎ผูข๎ ายจะออกใบหักหน้ีหรือใบรับคืนให๎กับผู๎ซ้ือ ใบหกั หนีห้ รือใบรบั คืนควร
ทําอยํางน๎อย 2 ฉบับตน๎ ฉบบั สงํ ไปใหผ๎ ซู๎ ้ือสํวนสําเนาผ๎ขู ายเก็บไว๎เป็นหลกั ฐานประกอบการบนั ทกึ บญั ชี

4.5 ใบเสรจ็ รบั เงนิ (Receipt) คือเอกสารทผ่ี ๎ูขายออกให๎กับผูซ๎ ื้อเพอื่ เป็นหลกั ฐานในการขายสนิ ค๎าหรือ
บรกิ ารด๎วยเงินสดและการรบั ชาํ ระหน้ีจากลกู หนใี้ บเสร็จรับเงนิ ควรทําอยาํ งนอ๎ ย 2 ฉบับตน๎ ฉบบั สงํ ไปให๎ผ๎ูซอ้ื สวํ น
สําเนาผู๎ขายเก็บไว๎เปน็ หลักฐานประกอบการบนั ทึกบัญชี

5. เงือ่ นไขเกยี่ วกบั ส่วนลดและคา่ ขนสง่ สนิ ค้า

5.1 เงอื่ นไขเก่ียวกบั สวํ นลด เงือ่ นไขเก่ียวกบั สํวนลด (Discount) เปน็ เงื่อนไขทีผ่ ข๎ู ายให๎สวํ นลดกับผู๎ซือ้ เพ่ือเปน็
การจูงใจให๎ผ๎ซู ้อื ซื้อสินค๎าครง้ั ละจาํ นวนมากหรือจงู ใจให๎ผูซ๎ ื้อชําระหน้โี ดยเร็ว เง่อื นไขเกยี่ วกับสํวนลด แบงํ เป็น 2 ประเภท
ได๎แกํ

5.1.1 สํวนลดการคา๎ (Trade Discount) เปน็ สํวนลดท่ีผู๎ขายกระต๎ุนหรอื จงู ใจใหผ๎ ู๎ซ้อื ซ้ือสินค๎าครง้ั ละ
จาํ นวนมาก ๆ โดยผู๎ขายตั้งเกณฑไ์ ว๎เพื่อให๎ผ๎ูซอ้ื ตัดสินใจเชํนซอ้ื สนิ คา๎ 5 ช้ินข้นึ ไปแถม 1 ชนิ้ หรอื ซื้อสนิ ค๎า 500 บาทลด
ให๎ 5% แตํถา๎ ซอื้ สินคา๎ ตัง้ แตํ 501 – 1,000 บาทลดให๎ 10% หรือกําหนดอตั ราสํวนลดเป็นร๎อยละจากราคาทีก่ าํ หนดไว๎ใน
ใบแสดงรายการสนิ ค๎า สวํ นลดการคา๎ ผข๎ู ายจะลดใหผ๎ ซ๎ู อ้ื ในขณะที่ซ้ือขายสินคา๎ ผู๎ขายเรยี กสํวนลดนว้ี ํา “สํวนลดการค๎า”
สํวนลดการค๎านจี้ ะไมนํ าํ มาบันทกึ บญั ชี แตจํ ะนาํ ไปหกั ออกจากราคาซ้อื ขายสินคา๎ เพอ่ื หาราคาสุทธิทัง้ ผ๎ูซ้ือและผขู๎ ายจะ
บนั ทกึ บัญชใี นราคาสุทธิ

5.1.2 สวํ นลดเงนิ สด (Cash Discount) เปน็ สวํ นลดทีผ่ ๎ขู ายลดให๎แกผํ ๎ซู อ้ื ทันที ท่ชี ําระหนี้คาํ สินค๎า
หลังจากผู๎ซ้ือได๎ซ้อื สนิ คา๎ เปน็ เงินเชอ่ื เพ่ือเป็นการกระตุน๎ หรอื จงู ใจให๎ผ๎ูซือ้ ชําระเงนิ คําสนิ ค๎าโดยเรว็ กอํ นวนั ครบกําหนด
สํวนลดเงินสดน้ีอาจจะกําหนดหรือไมกํ าํ หนดไว๎ในเง่ือนไขในการชาํ ระเงินกไ็ ด๎ แล๎วแตผํ ๎ูซื้อกบั ผ๎ูขายจะตกลงกัน

การกําหนดเงอ่ื นไขเกย่ี วกบั การชําระเงิน (Credit Terms/Terms of Payment) เปน็ เง่อื นไขทผ่ี ๎ขู ายกําหนด
ระยะเวลาในการชาํ ระเงินคําสินคา๎ เพ่ือจงู ใจใหผ๎ ๎ูซ้ือชําระเงินคําสนิ ค๎าโดยเร็วภายในกําหนดเวลาตามเง่ือนไขท่ีจะไดร๎ ับ
สํวนลด

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี
แผํนที่ 5/6 9
ชื่อวชิ า : การบัญชธี รุ กิจซอื้ ขายสนิ คา้ รหสั วชิ า 30201-0001

งาน : ข้นั ตอนในการซื้อขายสินคา๎

5.2 การนับวันครบกําหนดชําระหน้ี เมอ่ื ผูซ๎ ้ือและผู๎ขายตกลงกันตามเง่ือนไขในการชําระเงนิ คาํ สนิ คา๎ แล๎ว
ควรจะคํานวณวนั ครบกาํ หนด เพ่ือทางดา๎ นผซู๎ ้ือจะได๎ทราบวันทจี่ ะตอ๎ งนําเงนิ ไปชาํ ระวันทเ่ี ทาํ ใด และจํานวนเงินเทาํ ไรจะ
ไดว๎ างแผนการจัดหาเงนิ และรกั ษาผลประโยชนข์ องกจิ การในเรือ่ งของสวํ นลดเงินสด สวํ นด๎านผ๎ูขายจะไดท๎ ราบวันท่ีจะ
ได๎รบั ชาํ ระเงินคําสินค๎าจากผซู๎ อ้ื หรือจะไดต๎ ิดตามทวงถามได๎ถูกตอ๎ ง

5.3 เง่อื นไขเกี่ยวกับคําขนสงํ สนิ คา๎
เงอื่ นไขคําขนสงํ สนิ ค๎า (Terms of Transportation) เปน็ เงือ่ นไขทผี่ ูซ๎ อื้ และผข๎ู ายตกลงกนั ในการ

การสงํ มอบสินคา๎ ซึ่งจะตอ๎ งมคี าํ ใช๎จาํ ยในการขนสํงเรียกวํา “คาํ ขนสงํ ” ทง้ั ผซู๎ ้ือกับผ๎ูขายตอ๎ ง ทาํ การตกลงกนั ให๎ชัดเจน
วาํ คําขนสงํ สินคา๎ จะเปน็ ภาระหรอื หนา๎ ทข่ี องฝ่ายใด โดยระบเุ งอื่ นไขในการขนสํงสนิ คา๎ ดงั น้ี

5.3.1 F.O.B (Free on board) Shipping point เปน็ เงื่อนไขในการขนสํงสนิ ค๎าท่ีผ๎ูขายได๎สํงมอบ
สินค๎า ณ กิจการของผู๎ขายกรรมสิทธ์ในสินคา๎ จึงเป็นของผูซ๎ อื้ นบั ต้งั แตผํ ข๎ู ายสงํ มอบสนิ คา๎ ให๎ ดังนัน้ ผู๎ซ้อื ตอ๎ งเป็นผูร๎ บั ภาระ
ในการจาํ ยคําขนสงํ สินค๎าเรียกวํา “คาํ ขนสํงเข๎า” (Transportation – in) ถือวําเป็นตน๎ ทนุ ของสนิ คา๎ ทซ่ี ้อื

5.3.2 F.O.B (Free on board Destination) เปน็ เง่อื นไขในการสงํ มอบสินคา๎ ปลายทาง ณ
กจิ การของผซ๎ู ้อื ดังน้นั สินค๎ายังเป็นกรรมสิทธข์ องผข๎ู ายจนกวาํ ผ๎ขู ายจะสํงมอบสนิ ค๎าใหก๎ บั ผูซ๎ อื้ สนิ ค๎าเรียบร๎อยแล๎ว ดงั น้ัน
ผู๎ขายต๎องเปน็ ผรู๎ ับภาระในการจํายคําขนสํงสินค๎า เรยี กวํา “คําขนสํงออก” (Transportation – out) ถือวําเปน็
คําใช๎จาํ ยในการขาย

6. การซอื้ ขายสนิ ค้าผา่ นระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต

http://www.baanjomyut.com/library_3/extension-1/e_commerce/07.html
ความหมายของพาณชิ ย์อิเลก็ ทรอนิกส์
พาณชิ ยอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ หมายถงึ การทําธุรกรรมทกุ รูปแบบโดยครอบคลมุ ถึงการซอ้ื ขายสินคา๎ /บรกิ าร การชาํ ระ

เงิน การโฆษณาโดยผาํ นสอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ประเภทตาํ ง ๆ โดยเฉพาะเครอื ขํายทางอินเทอร์เนต็
กรมสงํ เสริมการสํงออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุวาํ พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ หมายถงึ การดําเนินธุรกจิ ทุกรูปแบบท่ี

เกี่ยวข๎องกับการซอ้ื ขายสินคา๎ และบรกิ ารผําน และระบบส่ือสารโทรคมนาคมหรอื สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์
องค์กรการค๎าโลก ใหค๎ ําจํากัดความไว๎วํา พาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ หมายถึง การผลติ การกระจาย การตลาด การ

ขาย หรอื การขนสงํ ผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการโดยใชส๎ ื่ออิเล็กทรอนกิ ส์
อคี อมเมิร์ซ 2 ประเภท สินคา๎ ถ๎าจะแบํงอีคอมเมริ ์ซตามประเภทสนิ ค๎ากแ็ บงํ ไดเ๎ ปน็ 2 ประเภทคอื
1. สินค๎าดจิ ติ อล เชนํ ซอฟทแ์ วร์ เพลง วดิ โี อ หนงั สอื ดิจิตอล เปน็ ต๎น ซง่ึ สามารถสํงสนิ คา๎ ไดโ๎ ดยผําน

อนิ เตอรเ์ น็ต
2. สนิ คา๎ ทีไ่ มํใชํดจิ ติ อล เชํน สนิ ค๎าหตั ถกรรม สนิ ค๎าศลิ ปะชพี เส้อื ผา๎ เครื่องนุงํ หมํ เครอื่ งหนังเครอื่ งประดับ

เคร่อื งจักรอุปกรณ์ เป็นต๎น ซึง่ ตอ๎ งสงํ สินค๎าทางพสั ดภุ ณั ฑ์ ผํานไปรษณยี ห์ รอื บรษิ ทั รบั สงํ พัสดุภณั ฑ์

สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู๎ หนา๎ ที่
แผนํ ที่ 10
ช่ือวชิ า : การบัญชีธรุ กิจซ้ือขายสนิ ค้า รหสั วิชา 30201-0001

งาน : ข้นั ตอนในการซื้อขายสินค๎า

6/6

กระบวนการทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ มีขนั้ ตอนท่ีสาํ คัญ 5 ขั้นตอน ดังนี้

1. การค้นหาขอ้ มูล ขัน้ ตอนแรกของการซอื้ สินค๎าเป็นการคน๎ หาข๎อมูลสินค๎าทีต่ อ๎ งการ แล๎วนาํ ขอ๎ มูลแตํละร๎าน

มาวเิ คราะห์เปรียบเทยี บกัน โดยใชเ๎ วบ็ ไซตท์ ีน่ ยิ ม หรอื Search Engines เชนํ http://www.google.com เปน็ ตน๎

2. การส่งั ซ้ือสินค้า เม่อื ลูกค๎าเลือกสนิ คา๎ ทต่ี ๎องการแล๎ว จะนํารายการทต่ี อ๎ งการเข๎าสูรํ ะบบตะกรา๎ และจะมี

การคาํ นวณ คาํ ใชจ๎ ํายท้งั หมด โดยลกู ค๎าสมารถปรับเปลีย่ นรายการและปริมาณทสี่ ่ังได๎

3. การชาระเงิน เมื่อลกู คา๎ ตัดสินใจซ้ือสนิ ค๎าทตี่ อ๎ งการ ในขน้ั ถดั มาจะเปน็ การกําหนดวธิ ีการชาํ ระเงิน ขน้ึ อยูํ

กับความสะดวกของลกู ค๎าวาํ จะเลือกวิธไี หน

4. การส่งมอบสินค้า เม่ือลูกค๎ากาํ หนดวธิ ีการชําระเงินเรียบร๎อยแล๎ว จะเข๎าสํวู ธิ เี ลือกสงํ สนิ ค๎า ซึ่งการสงํ มอบ

สินคา๎ อาจจดั สงํ ใหล๎ กู คา๎ โดยตรง การใช๎บรกิ ารบริษทั ขนสงํ สนิ คา๎ หรือสงํ ผาํ นสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ เชํน การดาวน์โหลดเพลง

เป็นต๎น

5. การให้บริการหลงั การขาย หลงั จากเสรจ็ ส้ินการสั่งสินซือ้ แตลํ ะครัง้ รา๎ นค๎าตอ๎ งมบี ริการหลงั การขายให๎กับ

ลกู คา๎ ซงึ่ อาจจะเปน็ ติดตอํ กับลูกคา๎ ผํานทางเครือขาํ ยอินเตอร์เนต็ เชํน อเี มล์ และเวบ็ บอร์ด

กจิ การพาณิชย์อิเล็กทรอนกิ ส์ทต่ี อ้ งยนื่ แบบแสดงรายการภาษี

ปจั จุบัน กจิ การพาณิชย์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นกิจการที่ความการเจริญเติบโตมาก แตผํ ป๎ู ระกอบการบางสวํ นยังไมํ

มคี วามเขา๎ ใจเรอ่ื งภาษีอากร ดงั นั้นกรมสรรพากรจึงสรุป "ประเภทภาษีทเี่ กี่ยวขอ๎ งกับผูป๎ ระกอบการพาณชิ ย์

อิเล็กทรอนิกส์" และรวบรวมประเภท "ธรุ กิจพาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ สร์ ูปแบบใหมํ" ทม่ี ีหนา๎ ทต่ี ๎องยืน่ แบบแสดงรายการภาษี

แสดงให๎ผู๎ประกอบการทราบเพ่อื จักไดด๎ ําเนินการอยาํ งถูกต๎อง เชนํ

1. เว็บไซตแ์ สดงรูป และราคาสนิ ค้า Catalog Website

2. เวบ็ ไซต์เพ่อื การขายสนิ ค้า e-Shopping

3. การขายสินค๎าบนชุมชนเว็บบอร์ดโดยผู๎ขายไมํมีเว็บไซต์เปน็ ของตนเองCommunity Web

4. เว็บไซต์เพ่อื การประมลู ขายสนิ ค๎าe-Auction (electronic auction)

5. เว็บไซตห์ า๎ งสรรพสินคา๎ ออนไลน์e-Market Place หรือ

6. เวบ็ ไซต์แหลํงซื้อขายภาพถํายดิจิตอลStock Photo

7. การรับโฆษณาจากเว็บไซต์กูเกิ้ลGoogle AdSense

8. การทําให๎ผลการค๎นหาบนกเู ก้ิลตดิ ลาํ ดบั แรกๆSEO หรือ Search Engine Optimization

9. เวบ็ ไซต์นายหน๎าการขายสนิ ค๎าและบริการAffiliate Marketing

10. การเลํนเกมผํานระบบเครือขํายออนไลน์Game Online

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบทดสอบ หน๎าที่
11
ชื่อวชิ า : การบัญชีธุรกจิ ซือ้ ขายสนิ ค้า รหสั วิชา 30201-0001 แผนํ ท่ี
10/12
งาน : ขั้นตอนในการซื้อขายสนิ คา๎

คาช้ีแจง จงเลือกคาตอบทถ่ี ูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว
1. ความหมายของสนิ คา๎ ตรงกบั ข๎อใด

ก. สนิ ทรพั ยท์ ่กี ิจการมไี ว๎สาหรับใหเ๎ ชํา
ข. สนิ ทรพั ยท์ ีก่ ิจการมีไว๎เพอื่ ตกแตํงกิจการ
ค. สนิ ทรัพยท์ ่มี ไี วจ๎ าหนํายตามลกั ษณะของธุรกิจ
ง. สินทรัพย์ทีส่ ามารถนาไปใช๎ประโยชนใ์ นกจิ การได๎
จ. สินทรัพยท์ ม่ี ไี วเ๎ พื่อนามาใชป๎ ระโยชนส์ ํวนตวั ของเจา๎ ของธรุ กจิ
2. ขอ๎ ใดแสดงข้ันตอนการดาเนนิ งานของธุรกจิ ซอ้ื ขายสินคา๎ ได๎ถกู ต๎อง
ก. ขายสินค๎า สํงคนื สนิ ค๎า ซอื้ สินคา๎ รบั คืนสนิ ค๎า
ข. ขายสินคา๎ รบั คนื สนิ คา๎ ซอ้ื สนิ คา๎ สงํ คนื สินคา๎
ค. ซือ้ สินค๎า รบั คนื สินคา๎ ขายสนิ ค๎า สํงคืนสนิ ค๎า
ง. ซ้ือสนิ ค๎า สงํ คนื สินคา๎ ขายสนิ ค๎า รบั คนื สนิ ค๎า
จ. ซ้ือสนิ คา๎ ขายสินค๎า สงํ คนื สนิ ค๎า รับคืนสินค๎า
3. สวํ นลดท่ีผ๎ูขายจะลดใหผ๎ ซ๎ู ือ้ ทันทีทมี่ กี ารซ้อื ขายสินค๎ากนั เกดิ ข้ึน สํวนลดน้ีคือข๎อใด
ก. สวํ นลดจาํ ย
ข. สวํ นลดเงนิ สด
ค. สวํ นลดการคา๎
ง. สํวนลดการซื้อ
จ. สวํ นลดการขาย
4. ขอ๎ ใดคือเง่อื นไขการชาระเงนิ ทีจ่ ะไดส๎ วํ นลดเงนิ สด
ก. n/30
ข. n/EOM
ค. n/15 EOM
ง. 2/10, n/30
จ. ทกุ เง่อื นไขได๎สวํ นลดเงินสด
5. กจิ การซอ้ื สนิ คา๎ ไดร๎ บั เง่ือนไขคําขนสงํ F.O.B. Destination ผซ๎ู ้ือจะตอ๎ งปฏิบัตติ ามข๎อใด
ก. กิจการผ๎ูซ้อื เปน็ ผู๎ชาระคําขนสงํ สินค๎า
ข. กิจการผ๎ูขายเปน็ ผ๎ูชาระคําขนสํงสนิ คา๎
ค. กจิ การผู๎ขายไมตํ อ๎ งชาระคําขนสํงสนิ ค๎า

ง. กจิ การผซู๎ ้ือและผู๎ขายรํวมกันชาระคาํ ขนสงํ
จ. กจิ การผ๎ซู ้อื และผ๎ขู ายได๎รับยกเว๎นไมํต๎องจาํ ยคําขนสงํ

สาขาวิชา : การบัญชี ใบเฉลยใบ หนา๎ ที่
ทดสอบ 12
ชอื่ วิชา : การบัญชีธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ ค้า รหัสวชิ า 30201-0001
แผนํ ท่ี 1/1
งาน : ขน้ั ตอนในการซื้อขายสนิ ค๎า

1. ความหมายของสินค๎าตรงกบั ข๎อใด
คาํ ตอบ ค. สินทรพั ย์ทม่ี ีไวจ๎ าหนํายตามลักษณะของธรุ กจิ

2. ข๎อใดแสดงขั้นตอนการดาเนินงานของธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา๎ ได๎ถกู ต๎อง
คาํ ตอบ ง. ซอ้ื สินคา๎ สํงคืนสนิ คา๎ ขายสนิ คา๎ รับคืนสนิ ค๎า

3. สวํ นลดท่ีผูข๎ ายจะลดใหผ๎ ๎ซู อื้ ทนั ทที ี่มกี ารซือ้ ขายสินคา๎ กนั เกิดขึ้น สํวนลดนี้คอื ขอ๎ ใด
คําตอบ ค. สํวนลดการคา๎

4. ขอ๎ ใดคือเงือ่ นไขการชาระเงนิ ทีไ่ ด๎สํวนลดเงินสด
คําตอบ ง. 2/10, n/30

5. กจิ การซื้อสนิ ค๎า ได๎รบั เง่ือนไขคาํ ขนสํง F.O.B. Destination ผู๎ซ้อื จะต๎องปฏิบัติตามขอ๎ ใด
คาํ ตอบ ข. กิจการผ๎ูขายเปน็ ผช๎ู าระคาํ ขนสํงสนิ คา๎

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบมอบหมาย หน๎าท่ี
13
ช่ือวิชา : การบัญชธี ุรกิจซือ้ ขายสนิ คา้ รหสั วชิ า 30201-0001 งาน
งาน : ข้ันตอนในการซ้อื ขายสินค๎า
แผํนที่ 1/1

จดุ ประสงค์การมอบหมายงาน
1. เพ่ือให๎ผ๎ูเรียนมีความรับผิดชอบ
2. เพอ่ื ใหผ๎ ๎ูเรยี นใช๎เวลาวาํ งใหเ๎ กดิ ประโยชน์

แนวทางการปฏิบตั ิงาน

ครมู อบหมายงาน นกั เรยี นค๎นคว๎า นักเรียนนําเสนอ นกั เรยี นสงํ ผลงาน
เป็นการบา๎ น งานตนเอง ครใู ห๎คะแนน

แหลง่ ค้นควา้
หนงั สอื เรยี น ตําราเรยี น

คาถาม/ปญั หา
1. ในการคน๎ คว๎างานนกั เรยี นพบปัญหาอะไรบ๎าง
2. นักเรียนแกป๎ ัญหาอยาํ งไร
3. นกั เรยี นไดอ๎ ะไรจากการไปคน๎ ควา๎ งาน

กาหนดเวลาสง่ งาน
กํอนครูสอนคาบตํอไป

25

แผนการจัดการเรียนรมู้ งุ่ เน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 2

ชือ่ หนํวย ความรูเ๎ บื้องตน๎ เกี่ยวกับภาษมี ลู คาํ เพม่ิ รวม 8 ช่ัวโมง
สอนคร้ังที่ 2-3

เรือ่ ง ผม๎ู ีหนา๎ ทีเ่ สียภาษมี ูลคําเพ่มิ จํานวน 8 ชว่ั โมง

1. สาระสาคัญ

ผู๎ประกอบการค๎าที่จําหนํายสินค๎าหรือการให๎บริการ ซึ่งได๎จดทะเบียนภาษีมูลคําเพิ่มจะต๎องมี
ภาระภาษตี ามประมวลรัษฏากร มาตรา 78 โดยมีหนา๎ ทชี่ าํ ระภาษซี ือ้ และเรียกเกบ็ ภาษีขายทุกครั้งทมี่ กี าร
ซ้ือขายสินค๎าหรือบริการ มีหน๎าที่คํานวณภาษีมูลคําเพิ่มที่ต๎องชําระ และนําสํงภาษีในกรณีภาษีขาย
มากกวําภาษซี อ้ื รวมทง้ั สามารถเรียกคนื ภาษี ในกรณีภาษซี ื้อมากกวาํ ภาษีขาย

ทัง้ นี้ ภาษีซอื้ และภาษขี ายจะต๎องเกิดขึ้นในเดือนเดียวกันและนําสงํ หรือเรยี กคืนในเดือนถัดไป
ปจั จุบันอตั ราภาษมี ูลคาํ เพ่ิมมี 2 อตั รา คือ
1. อตั ราร๎อยละ 7 สําหรับการขายสนิ คา๎ หรอื บริการทกุ ประเภทหรือนาํ เขา๎
2. อตั รารอ๎ ยละ 0 สําหรบั กิจการบางประเภท ได๎แกํ กจิ การสงํ ออกสนิ คา๎ บริการขนสงํ ระหวําง
ประเทศ โดยอากาศยานหรือเรอื เดินทะเล ท่ีกระทําโดยนติ บิ ุคคล การขายสินคา๎ หรือบริการกบั สํวน
ราชการรฐั วสิ าหกจิ องคก์ ารสายสหประชาชาติ สถานทูต

2. สมรรถนะประจาหนว่ ย

2.1 บอกความหมายของภาษมี ูลคาํ เพิ่มได๎
2.2 บอกผ๎มู ีหน๎าทเี่ สียภาษีมูลคําเพมิ่ ได๎
2.3 บอกผู๎ประกอบการทีไ่ มํต๎องจดทะเบียนภาษีมูลคําเพมิ่ ได๎

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (มาตรฐานการเรยี นรู)้

3.1 ดา้ นความรู้
3.1.1 อธบิ ายความหมายของภาษี มลู คําเพิ่ม
3.1.2 อธบิ ายเก่ียวกบั ผูม๎ หี นา๎ ที่เสียภาษีมูลคาํ เพ่ิม
3.1.3 อธิบายเกยี่ วกับผ๎ปู ระกอบการทไ่ี มตํ อ๎ งจดทะเบียนภาษีมูลคาํ เพมิ่

3.2 ดา้ นทักษะ
3.2.1 สามารถคํานวณภาษมี ูลคาํ เพมิ่ ได๎

3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์
3.3.1 นักศกึ ษามคี วามรสู๎ ามารถนําความรไ๎ู ปใชใ๎ นชวี ิตประจาํ วันได๎
3.3.2 นักศึกษากล๎าแสดงความคิดของตนเอง

26

แผนการจดั การเรยี นร้มู ุ่งเน้นสมรรถนะ หนํวยที่ 2

ชือ่ หนวํ ย ความร๎เู บอ้ื งต๎นเกีย่ วกบั ภาษีมูลคาํ เพ่ิม รวม 8 ช่วั โมง
สอนครั้งที่ 2-3

เรอื่ ง ผมู๎ ีหนา๎ ที่เสียภาษีมูลคาํ เพิม่ จํานวน 8 ชั่วโมง

3.4 การประยกุ ต์ 3D และน๎อมนาํ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3.4.1 ผ๎ูเรียนมีการทาํ เป็นขั้นตอน การทาํ ตามลําดบั ขน้ั
3.4.2 ผ๎ูเรียนมีวินัย มีความประหยดั
3.4.3 ผ๎สู อนสอดแทรกปรัชญาเกีย่ วกบั ความประหยัดอดออม

4. เนือ้ หาสาระการเรียนร๎ู

ผู้มีหน้าท่ีจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพมิ่ ไดแ้ ก่
1. ผ๎ูมีหน๎าทจี่ ดทะเบียนภาษีมลู คาํ เพ่มิ ตามกฎหมาย ไดแ๎ กํ ผปู๎ ระกอบการท่ขี ายหรือ ให๎บริการ
ในทางธรุ กจิ หรือ วิชาชีพ ซ่งึ อาจหมายถึงผูป๎ ระกอบการท้งั ทเี่ ปน็ บุคคลธรรมดา คณะบคุ คล หรือ หา๎ ง
หุน๎ สํวน ทมี่ ใิ ชํนิตบิ คุ คลหรอื นิตบิ ุคคลใด ๆ กต็ าม ดังตํอไปน้ี
1.1 เป็นผูป๎ ระกอบการท่ีมรี ายรบั จากการขายสินค๎าหรอื ให๎บรกิ ารเกนิ กวํา 1,800,000 บาท ตอํ ปีขึ้นไป
หรอื หากไมถํ ึงกส็ ามารถเข๎าสรํู ะบบภาษมี ลู คาํ เพ่มิ ได๎
1.2 เปน็ ผป๎ู ระกอบการที่ได๎รบั การยกเวน๎ ภาษมี ลู คําเพิ่มตามกฎหมายบางกรณี แตํมคี วาม
ประสงค์จะขอจดทะเบยี นภาษมี ูลคําเพ่มิ เชนํ มรี ายรับไมํเกนิ 1,800,000 บาทตอํ ปี หรอื ขายสนิ คา๎ ทาง
การเกษตร ขายหนงั สือพมิ พ์ นิตยสาร ตาํ ราเรียน เป็นตน๎
1.3 เปน็ ผปู๎ ระกอบการท่อี ยนูํ อกราชอาณาจักร และไดข๎ ายสนิ ค๎าหรอื ใหบ๎ รกิ าร
ในราชอาณาจักรเป็นปกติ

5 กิจกรรมการเรยี นการสอน

5.1 ขน้ั นาํ เข๎าสบูํ ทเรียน(M)
นําเขา๎ สํูบทเรยี นโดยกลาํ วถึงวิธีการจดทะเบยี น

5.2 ขัน้ การจดั เรียนรู๎(I)
5.2.1 ผู๎สอนและผู๎เรยี นรวํ มกนั อภปิ รายเร่ืองเกีย่ วกบั วิธีการจดทะเบยี น
5.2.2 แบงํ กลมํุ ผ๎เู รียนมารายงานหนา๎ ชั้นเรยี น
5.2.3 ซักถามผู๎เรยี นเป็นรายบุคคล
5.2.4 ผเู๎ รยี นศกึ ษาใบความรู๎

5.3 ข้ันสรปุ (A)
ประเมินผลหลังเรียนโดยทาํ แบบทดสอบ

27

แผนการจดั การเรียนรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หนวํ ยท่ี 2

ช่ือหนวํ ย ความรูเ๎ บือ้ งต๎นเกี่ยวกับภาษีมลู คําเพ่มิ รวม 8 ช่ัวโมง
สอนคร้ังที่ 2-3

เรือ่ ง ผู๎มีหนา๎ ที่เสยี ภาษีมูลคาํ เพิ่ม จํานวน 8 ช่ัวโมง

5.4 การวดั ผลและประเมนิ ผล(P)
5.4.1 การวดั ผล
(1) การสังเกต
 ความต้ังใจและสนใจของผ๎ูเรยี น
 ความรํวมมือในการอภิปราย
 การแสดงความคิดเหน็ อยาํ งมี
เหตุผล
(2) การตรวจผลงานภาคปฏบิ ัติ
 กจิ กรรมตรวจสอบความเขา๎ ใจ
 แบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ผลหลงั การเรยี นร๎ู
5.4.2 ประเมินผล
(1) การทดสอบด๎วยวาจาและข๎อเขยี น
 ตรวจแบบทดสอบ ไมนํ อ๎ ยกวาํ ร๎อยละ 60
 ต้งั คาํ ถามให๎ตอบและอธิบาย ไมํน๎อยกวํารอ๎ ยละ 80

6. ส่อื การการเรียนรู๎/แหลํงการเรียนรู๎

6.1 ส่อื สงิ่ พิมพ์
หนงั สือเรียนวชิ า หลกั การบญั ชเี บอื้ งตน๎ 2 : ของสาํ นกั พิมพ์เอมพนั ธ์

6.2 ใบความรู๎

7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู๎ (ใบความรู๎ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

7.1 ใบความรู๎
7.2 ใบทดสอบ
7.3 ใบสง่ั งาน

8. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวชิ าอื่น

8.1 วิชาภาษาไทย เกีย่ วกับการใช๎ภาษาด๎านการพดู การอําน และการเขียน
8.2 วิชาคณติ ศาสตร์ เกย่ี วกับการคาํ นวณ
8.3 วชิ าภาษาองั กฤษ ดา๎ นคาํ ศพั ท์ทางบญั ชี

28

แผนการจดั การเรียนรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 2

ชื่อหนํวย ความร๎ูเบอื้ งตน๎ เก่ยี วกบั ภาษมี ลู คาํ เพิม่ รวม 8 ชั่วโมง
สอนครงั้ ท่ี 2-3

เรือ่ ง ผม๎ู หี นา๎ ท่เี สียภาษมี ลู คาํ เพ่ิม จํานวน 8 ช่ัวโมง

9. การวดั ผลและประเมินผล

9.1 วิธีการ ดาํ เนินการวดั ผลในห๎วงเวลา

(1) กอํ นเรยี น โดยใช๎แบบทดสอบกํอนเรียน

(2) ระหวาํ งเรยี น โดยการถามตอบและการสังเกตการณ์ปฏบิ ัติงาน

(3) หลงั เสรจ็ ส้ินการเรยี น โดยทําแบบทดสอบ

9.2 เกณฑ์การประเมิน

(1) ผเ๎ู รียนมเี วลาเรียนไมํน๎อยกวําร๎อยละ 80

(2) ผูเ๎ รยี นมคี ะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนร๎อยละ 80

(3) ผู๎เรยี นบนั ทึกบัญชกี ารซอ้ื ขายสินคา๎ สมบูรณ์และถกู ต๎องทกุ คร้ัง

10. บนั ทกึ หลังการเรียนรู้

10.1 ผลการใช๎แผนการจัดการเรยี นรู๎

1. เน้ือหาสอดคลอ๎ งกับจดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม

2. สามารถนาํ ไปใชป๎ ฏบิ ัติการสอนไดค๎ รบตามกระบวนการเรียนการสอน

3. สือ่ การสอนเหมาะสมดี

10.2 ผลการเรยี นรขู๎ องผู๎เรยี น

1. นกั ศกึ ษาสวํ นใหญมํ ีความสนใจใฝร่ ู๎ เขา๎ ใจในบทเรยี นรวํ มกนั อภปิ ราย ตอบคําถาม

ในกลมุํ และรํวมกนั แสดงความคิดเหน็

2. นกั ศกึ ษากระตอื รอื ร๎นและรับผดิ ชอบในการทํางานกลุํมเพื่อให๎งานสาํ เร็จทนั เวลา

ท่ีกาํ หนด

10.3 แนวทางการพฒั นาคุณภาพการเรยี นรู๎

1. สอนเนื้อหาได๎ครบตามหลักสูตร

2. แผนการสอนและวธิ กี ารสอนครอบคลมุ เน้อื หาการสอนทําใหผ๎ ู๎สอนสอนได๎อยาํ งมั่นใจ

3. สอนไดท๎ ันตามเวลาท่ีกําหนด

………………………………………………
ผูบ๎ ันทกึ การสอน

29

สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู๎ หน๎าที่
แผนํ ท่ี 1/8 18
ช่อื วิชา: การบญั ชธี ุรกิจซือ้ ขายสนิ ค้า รหสั วชิ า 30201-0001

งาน : ความรูเ๎ บอื้ งตน๎ เก่ยี วกบั ภาษีมลู คําเพมิ่

1. ความหมายของภาษมี ูลคา่ เพมิ่ https://www.gotoknow.org/posts/300158

ภาษมี ูลคา่ เพ่มิ (Value Added Tax: VAT) หมายถงึ ภาษีท่ีจดั เกบ็ จากมลู คาํ ของสนิ คา๎ หรอื บรกิ าร ทเี่ พม่ิ ข้ึนในแตํ
ละขั้นตอนของการผลิตและการจาํ หนํายสินค๎าหรือบรกิ ารนั้นๆ โดยผ๎ูประกอบกจิ การเปน็ ผู๎มีหนา๎ ท่เี ก็บจากลกู คา๎ และนํา
ภาษีมูลคําเพิม่ ไปชาํ ระใหแ๎ กกํ รมสรรพากร

มูลคาํ เพิม่ หมายถึง มูลคาํ ของสํวนท่ีเพ่มิ ในแตํละขัน้ ตอนการผลิตและการจําหนาํ ยสินค๎าหรอื บริการ หรือกลําวอีกนัย
หน่งึ กค็ อื มลู คําเพิม่ กค็ อื คําของผลตาํ งระหวํางราคาของสนิ ค๎าหรอื บรกิ ารทผ่ี ลิตหรอื จาํ หนํายกบั ราคาของสินคา๎ หรือ
บรกิ ารท่ีซื้อมาเพ่อื ใช๎ในการผลิตหรือใน การจําหนํายสินค๎าหรอื บริการ

2. ผมู้ หี น้าท่ีเสยี ภาษมี ูลคา่ เพิ่ม (http://www.rd.go.th/publish/7061.0.html)

ผ๎ูมหี น๎าท่ีเสียภาษีมลู คาํ เพิ่มอาจแบงํ ตามประเภทของกิจการได๎เปน็ 3 กลุํมใหญๆํ ดังนี้

ผู้มีหนา้ ทจี่ ดทะเบียน กาหนดเวลาการจดทะเบยี น

1. ผู๎ประกอบกิจการท่มี ีรายรบั จากการขายสนิ คา๎ หรือ ให๎ย่ืนคาํ ขอจดทะเบยี นภายใน 30 วนั นบั แตวํ ัน

ให๎บรกิ ารเป็นปกติธรุ ะ เกนิ กวาํ 1.8 ล๎านบาทตอํ ปี ทมี่ รี ายรับเกิน

2. ผ๎ปู ระกอบกิจการขายสินค๎าหรอื ให๎บรกิ าร ซึง่ มี ให๎ย่นื คําขอจดทะเบียนภายในกาํ หนด 6 เดอื น กํอน

แผนงานท่ีสามารถพิสจู น์ได๎วํา ได๎มกี ารดําเนินการและ วนั เร่มิ ประกอบกิจการ เว๎นแตํ มสี ัญญา หรอื หลกั ฐาน

เตรียมการประกอบกิจการ อนั เป็นเหตุให๎ตอ๎ งมกี ารซ้อื จะดาํ เนินการกอํ สรา๎ ง ภายในเวลาที่เหมาะสม

สินคา๎ หรอื รบั บริการทอี่ ยูใํ นบังคับต๎องเสยี

ภาษมี ลู คําเพ่มิ เชนํ การกํอสร๎างโรงงาน กอํ สร๎างอาคาร

สํานกั งาน หรือการตดิ ตงั้ เคร่ืองจักร

3. ผูป๎ ระกอบการอยนํู อกราชอาณาจักร และได๎ขาย

สินค๎าหรือ ใหบ๎ ริการในราชอาณาจักร เปน็ ปกตธิ ุระโดย

มีตวั แทนอยํใู นราชอาณาจักร ให๎ตัวแทนเปน็ ผูม๎ ีหน๎าท่ี

รับผิดชอบการจดทะเบียน

ผู้มหี นา้ ท่ีจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพ่มิ และกาหนดเวลาการจดทะเบียน

3. ผู้ท่ไี ด้รบั การยกเว้นภาษีมลู คา่ เพมิ่

คอื ผู๎อยนูํ อกระบบการจดั เก็บภาษมี ลู คําเพ่มิ เมอื่ ขายสินค๎าหรือบริการไมตํ อ๎ งเรยี กเกบ็ ภาษีมูลคาํ เพ่ิมจากผ๎ูซ้ือ และ

ไมตํ อ๎ งย่ืนแบบแสดงรายการเพ่อื เสยี ภาษี แตํเม่อื ซื้อสนิ คา๎ หรือวตั ถุดิบ รวมท้ังสนิ ค๎าประเภททุนมาใช๎ในการประกอบ

กจิ การจากผปู๎ ระกอบกิจการทไ่ี ด๎จดทะเบยี นอยํูในระบบภาษมี ลู คาํ เพ่มิ ต๎องเสียภาษีมูลคําเพ่มิ ใหผ๎ ๎ูได๎รบั การจดทะเบียน

และผซ๎ู อ้ื ไมํมีสทิ ธิเรยี กคืนภาษมี ูลคาํ เพ่ิมซึ่งเทํากับวําผ๎ไู ด๎รับยกเวน๎ ภาษีมลู คําเพ่ิมตอ๎ งรบั ภาระภาษมี ูลคําเพม่ิ ในสวํ นนี้ การ

ประกอบกิจการประเภทตําง ๆ ที่ไดร๎ ับการยกเว๎นภาษมี ูลคําเพิ่มมาตรา 81 มีดังตํอไปนี้

30

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความร๎ู หน๎าที่
แผนํ ที่ 2/8 19
ชอื่ วิชา: การบญั ชีธุรกจิ ซือ้ ขายสินคา้ รหัสวิชา 30201-0001

งาน : ความร๎เู บือ้ งตน๎ เกี่ยวกับภาษมี ูลคําเพม่ิ

3.1 การขายสนิ คา๎ หรอื บริการในราชอาณาจกั รที่มรี ายรับไมํเกนิ 1,200,000 บาทตํอปี
3.2 การขายพืชผลทางการเกษตร
3.3 การขายสัตว์ท้ังมีชีวิตหรือไมํมีชวี ิต
3.4 การขายสินคา๎ ทเี่ กี่ยวเน่ืองกบั การเกษตร ไดแ๎ กํ ปุ๋ย ปลาป่น อาหารสัตว์ ยา หรือเคมีภณั ฑ์ทกุ ชนิดท่ีใชส๎ ําหรับ
การเกษตรเพือ่ บํารงุ รักษา ปอ้ งกัน ทาํ ลาย หรอื กาํ จัดศตั รขู องพืชและสัตว์
3.5 การขายหนังสอื พมิ พ์ นิตยสาร ตาํ ราเรยี น และหนงั สอื ตาํ ง ๆ ทุกชนิด รวมท้ังเทปประกอบตําราเรยี น
3.6 การนาํ เขา๎ ซ่งึ สนิ ค๎าตามขอ๎ 3.2, 3.3, 3.4 และ 3.5
3.7 การใหบ๎ รกิ ารขนสงํ ในราชอาณาจกั ร
3.8 การใหบ๎ รกิ ารขนสํงระหวาํ งประเทศเฉพาะทางบก
3.9 การใหบ๎ ริการการศึกษาของสถานศึกษาของทางราชการและเอกชน
3.10 การใหบ๎ ริการรกั ษาพยาบาลของสถานพยาบาลทางราชการและเอกชน
3.11 การใหบ๎ รกิ ารท่เี ปน็ งานทางศิลปะและวัฒนธรรมในสาขานาฏศิลป์และสาขาดุริยางคศิลป์และคตี ศลิ ป์

คําวํา “นาฏศลิ ป์”หมายถึง การแสดงศลิ ปะการราํ ยรําประเภทตาํ ง ๆ ได๎แกํ การแสดงพื้นเมอื ง ระบํา ละคร
และโขน

คําวํา “ดรุ ยิ างคศิลป์และคตี ศลิ ป์” หมายถงึ เฉพาะการแสดงดนตรีไทย หรอื การขับรอ๎ งเพลงไทยประกอบ
ดนตรไี ทย

3.12 การใหบ๎ รกิ ารหอ๎ งสมุด พพิ ิธภณั ฑ์ สวนสัตว์
3.13 การให๎บริการจัดแขํงขนั กีฬาสมคั รเลํน
3.14 การให๎บริการการประกอบโรคศิลปะ การสอบบญั ชี การวาํ ความ หรอื การประกอบวิชาชพี อิสระอ่ืนตามที่
อธิบดกี ําหนดโดยอนมุ ตั ริ ัฐมนตรี ท้งั นี้เฉพาะวิชาชพี อิสระท่ีมกี ฎหมายควบคุมการประกอบวิชาชพี อิสระนัน้
3.15 การใหบ๎ รกิ ารวิจยั หรือการให๎บรกิ ารทางวชิ าการในสาขาวิทยาศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
3.16 การให๎บรกิ ารตามสญั ญาจา๎ งแรงงาน
3.17 การใหบ๎ รกิ ารของนกั แสดงสาธารณะ
3.18 การใหบ๎ รกิ ารเชําอสังหารมิ ทรพั ย์
3.19 การใหบ๎ ริการของราชการสํวนทอ๎ งถ่นิ
3.20 การขายสนิ คา๎ หรอื ให๎บรกิ ารของกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งสงํ รายรบั ทัง้ สิ้นใหแ๎ กํ รฐั โดยไมหํ ักรายจําย
3.21 การขายสนิ ค๎าหรอื ให๎บรกิ ารเพือ่ ประโยชนแ์ กํการศาสนาหรือการสาธารณกศุ ลภายในประเทศ ซงึ่ ไมนํ าํ ผล
กาํ ไรไปจาํ ยในทางอ่ืน
3.22 การขายยาสูบของผ๎ปู ระกอบกจิ การท่ีมใิ ชํโรงงานยาสบู
3.23 การขายสลากกินแบํงของรัฐบาล สลากออมสินของรัฐบาล และสลากบํารุง กาชาดไทย
3.24 การขายแสตมป์ไปรษณยี ์ แสตมป์อากร หรือแสตมป์อ่ืนของรัฐบาล องค์กรของรฐั บาล หรือองค์การบริหาร
ราชการสวํ นทอ๎ งถิ่น ทงั้ น้ีเฉพาะท่ียังไมไํ ดใ๎ ชใ๎ นราคาที่ไมเํ กินมูลคําท่ี ตราไว๎

31

สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี
แผํนท่ี 3/8 20
ช่อื วชิ า: การบญั ชีธุรกิจซอื้ ขายสินคา้ รหสั วชิ า 30201-0001

งาน : ความรเ๎ู บ้ืองต๎นเก่ยี วกบั ภาษีมลู คาํ เพ่ิม

3.25 การให๎บริการสีขา๎ ว
3.26 การขนสํงระหวาํ งประเทศโดยผ๎ูประกอบกิจการที่เปน็ นติ บิ ุคคลทต่ี ้ังขนึ้ ตามกฎ หมายตาํ งประเทศ ซง่ึ ตามกฎหมายของ
ประเทศน้ันยกเว๎นภาษที างอ๎อมให๎แกํผ๎ูประกอบกจิ การทเี่ ป็นนิติบคุ คลที่ตงั้ ขน้ึ ตามกฎหมายไทยตามหลกั ปฏบิ ัติ
3.27 การนาํ เข๎าสินคา๎ ทไ่ี ดร๎ ับยกเวน๎ อากรขาเข๎าบางประเภท
สําหรับผูท๎ ่ีไดร๎ ับการยกเวน๎ ภาษมี ูลคําเพม่ิ ตามขอ๎ 3.1, 3.2, 3.3, 3.4, และ 3.5 จะขอเลอื กจดทะเบียนเปน็ ผ๎เู สยี
ภาษมี ลู คาํ เพ่มิ ได๎
4. ฐานภาษมี ูลค่าเพ่มิ
การคํานวณภาษมี ูลคาํ เพมิ่ จะคาํ นวณเปน็ รายเดือน และมวี ิธีการคาํ นวณโดยการนํา ภาษีขายหกั ด๎วยภาษีซื้อ ภาษี
ขายคาํ นวณไดจ๎ ากการนาํ ราคาสนิ ค๎าหรอื บรกิ ารทีเ่ รยี กเก็บ หรอื เรียกวาํ ฐานภาษีคูณด๎วยอตั ราภาษีตามประมวลรัษฎากร
มาตรา 79, 79/1 79/7 ไดก๎ าํ หนดฐานภาษใี นกรณตี ําง ๆ ไวด๎ ังนี้
4.1 ฐานภาษสี าหรับการขายสนิ คา้ หรือการใหบ้ รกิ าร

ฐานภาษีสาํ หรบั การขายสนิ ค๎าหรือการใหบ๎ รกิ าร ไดแ๎ กํ มูลคําสงิ่ ท่ไี ด๎รับ หรอื พงึ ได๎รบั จากการขายสนิ คา๎ หรือ
ให๎บริการ ไมวํ าํ จะเป็นเงิน ทรพั ยส์ นิ คาํ ตอบแทน คาํ บริการ หรือประโยชนใ์ ด ๆ ทค่ี ดิ ไดเ๎ ปน็ เงิน รวมภาษีสรรพสามติ (ถา๎ ม)ี

คําวํา “ภาษีสรรพสามิต” หมายความรวมถงึ ภาษีสุรา คําแสตมป์ ยาสูบ คําธรรมเนียมประทับตราไพแํ ละภาษี
หรอื คาํ ธรรมเนียมอ่นื ในลักษณะทาํ นองเดยี วกัน แตไํ มํรวมถึง

4.1.1 สํวนลดหรือคําลดหยํอนทีล่ ดใหใ๎ นขณะขายสนิ ค๎าหรอื ให๎บรกิ าร หรือทเ่ี รียกวาํ ส่วนลดการคา้
(Trade Discount) โดยไดแ๎ สดงไวช๎ ดั เจนในใบกํากบั ภาษี เว๎นแตํเป็นใบกาํ กับภาษอี ยาํ งยอํ จะไมํแสดงอยาํ งชดั เจนก็ได๎
และสว่ นลดเงินสด (Cash Discount) ซึ่งใหก๎ นั ภายหลังขายสนิ ค๎าหรือให๎บริการแล๎ว จะหกั ออกจากฐานภาษีไมไํ ด๎
ตัวอย่าง ขายสินคา๎ 20,000 บาท เง่ือนไข 2/10, n/30 ซงึ่ ผูข๎ ายสินค๎าต๎องจัดทาํ ใบกํากับภาษี โดยคํานวณจากมูลคาํ ขาย
20,000 บาท ภาษีมลู คําเพ่ิม 1,400 บาท ทง้ั นีเ้ พราะเงอื่ นไข 2/10, n/30 เป็นสวํ นลดเงินสด จะมีการใหส๎ วํ นลดในวนั ท่ีมี
การชําระเงนิ ภายในเง่ือนไขทก่ี าํ หนด ซง่ึ เกิดขน้ึ ภายหลังขายสนิ ค๎า จะหักออกจากฐานภาษไี มํได๎

4.1.2 คําชดเชยหรือเงนิ อดุ หนุนตามทก่ี ฎหมายกําหนด
4.1.3 ภาษขี าย ผู๎ประกอบกจิ การจดทะเบยี นไมตํ อ๎ งนําภาษขี ายมารวมเปน็ ฐานภาษี
4.1.4 คาํ ตอบแทนตามทีก่ ฎหมายกําหนด ในประกาศอธบิ ดฯี (ฉบับท่ี 40) ไดแ๎ กํ

1) มูลคําของสินคา๎ ท่แี ถมพรอ๎ มกบั ขายสินคา๎ หรือการให๎บริการ แตมํ ูลคําของแถมตอ๎ งไมเํ กินมลู คํา
ของสนิ ค๎าทีข่ ายหรือมลู คําของการใหบ๎ ริการ

ตัวอยา่ ง บริษัท กญั ชลยี ์ จํากัด ขายเคร่ืองรับโทรทศั น์ขนาด 14 นวิ้ 1 เคร่อื ง ราคา 8,000 บาท โดย
แถมพัดลม 1 เคร่อื ง ราคา 350 บาท ใหแ๎ กผํ ๎ูซือ้ ดงั น้ันมลู คําของพดั ลมไมํต๎องนาํ มารวมคํานวณเป็นมูลคําของฐานภาษี

2) มูลคําของสนิ คา๎ ทีแ่ จกหรอื ใหเ๎ ป็นรางวลั กับผซ๎ู ้อื สินค๎าหรือผ๎ูรบั บริการท่ีซือ้ สินคา๎ ในแตลํ ะวัน แตํ
มูลคาํ สนิ ค๎าทแ่ี จกหรอื ใหเ๎ ปน็ รางวลั ต๎องไมเํ กนิ มูลคาํ ของสนิ ค๎าท่ขี ายหรอื มลู คาํ ของการใหบ๎ ริการ

ตัวอย่าง บรษิ ัท อนงค์ จํากดั กําหนดวําถา๎ มผี ู๎ซ้อื สินค๎าครบ 4,000 บาท ในแตํละวันให๎รางวลั เปน็ รํม
1 อนั ราคา 120 บาท ดังนนั้ รมํ ท่ีใหเ๎ ป็นรางวลั ไมํตอ๎ งรวมคํานวณเปน็ มลู คําของฐานภาษี

32

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความรู๎ หน๎าที่
แผนํ ท่ี 4/8 21
ชอ่ื วชิ า: การบญั ชธี รุ กจิ ซ้อื ขายสนิ คา้ รหสั วชิ า 30201-0001

งาน : ความรู๎เบือ้ งต๎นเกยี่ วกับภาษมี ูลคาํ เพิ่ม

3) มลู คําของการใหบ๎ ริการเนื่องจากการเป็นนายหน๎าตัวแทนให๎แกํ ผปู๎ ระกอบกจิ การในตํางประเทศ
ทงั้ นีเ้ ฉพาะในกรณีทผ่ี ู๎ประกอบกจิ การในตํางประเทศขายสนิ คา๎ หรอื ใหบ๎ ริการแกํผู๎ซื้อสนิ คา๎ หรือผ๎ูรับบริการในตาํ งประเทศ
ดว๎ ยกนั

ตวั อย่าง บริษัท รัตนา จํากดั เป็นตัวแทนขายสนิ คา๎ ให๎แกํบริษัท AA จํากดั ในประเทศนวิ ซีแลนด์
โดยสงํ สินค๎าไมผํ าํ นประเทศไทยให๎แกํบรษิ ัท BB จาํ กัด ในประเทศฝรั่งเศส ดังนน้ั มูลคาํ ของฐานภาษที ่ไี ดจ๎ ากการใหบ๎ ริการ
ดงั กลําวไมํต๎องรวมคาํ นวณเปน็ มูลคําของฐานภาษี

4) มูลคําของสินคา๎ ทผี่ ปู๎ ระกอบกจิ การในเขตอุตสาหกรรมสํงออกตามกฎหมายวําดว๎ ยการนิคม
อุตสาหกรรมแหงํ ประเทศไทย ได๎ขายสินค๎าใหแ๎ กํผู๎ซ้ือสินค๎าในราชอาณาจักร และผ๎ูซื้อเปน็ ผูน๎ าํ เข๎าไดย๎ น่ื กระทําพิธีการ
นําเขา๎ ตามกฎหมายวาํ ด๎วยศุลกากร เม่ือนาํ สินคา๎ ออกจากเขตอุตสาหกรรมสํงออกแล๎ว และผซ๎ู ื้อสินคา๎ ดงั กลําวมใิ ชผํ ๎ู
ประกอบกิจการในเขตอตุ สาหกรรมสงํ ออกตามกฎหมายวาํ ดว๎ ยการนคิ มอตุ สาหกรรมแหํงประเทศไทย หรือคลังสนิ ค๎า
ทณั ฑ์บนตามกฎหมายวําดว๎ ยศุลกากร

ตวั อย่าง บริษทั อํานวย จํากัด เปน็ ผ๎ปู ระกอบกิจการจดทะเบยี นอยูใํ นเขตอุตสาหกรรมสํงออก ขาย
สินค๎าใหแ๎ กบํ ริษัท กนกอร จาํ กัด ซง่ึ เป็นบรษิ ัททีอ่ ยนูํ อกเขตอุตสาหกรรมสงํ ออก ราคาสนิ คา๎ 30,000 บาท บริษัท กนก
อร จาํ กดั เป็นผ๎ูนําเข๎า (นําออกจากเขตอตุ สาหกรรมสํงออก) และเสยี อากรขาเขา๎ พร๎อมกับภาษีมูลคาํ เพ่ิมจํานวน 2,100
บาท เมือ่ บริษทั อํานวย จํากัด ได๎เรยี กเกบ็ ราคาสินคา๎ จากบริษัท กนกอร จํากดั อีกครง้ั หน่งึ กไ็ มตํ อ๎ งเรียกเก็บภาษีขาย
จาํ นวน 2,100 บาท อีก (โดยหลักแล๎วกรณีดงั กลําวถอื เป็นการขายสินค๎าในราชอาณาจักรอยํูในบังคบั ตอ๎ งเสีย
ภาษมี ลู คาํ เพมิ่ แตเํ ม่อื มีข๎อกําหนดให๎ไมตํ ๎องนํามูลคาํ ฐานภาษีอนั เกดิ จากการขายสนิ ค๎ามารวมคาํ นวณภาษจี งึ ไมํต๎องเรยี ก
เกบ็ ภาษีขาย)

5) มลู คาํ ของสนิ ค๎าท่ีผปู๎ ระกอบกิจการในเขตอุตสาหกรรมสํงออก(ตามกฎหมายวําดว๎ ยการนิคม
อุตสาหกรรมแหํงประเทศไทย)ได๎ขายใหแ๎ กผํ ูป๎ ระกอบกจิ การ จดทะเบียนทีม่ ใิ ชํผู๎ประกอบกจิ การจดทะเบียนซ่ึงต๎องเสีย
ภาษีมลู คําเพิม่ และผป๎ู ระกอบกิจการในเขตอตุ สาหกรรมสํงออกดังกลาํ ว ซึ่งเปน็ ผ๎ูนําเขา๎ ได๎ยืน่ กระทําพธิ ีการนําเขา๎ ตาม
กฎหมายวาํ ด๎วยศลุ กากร เพือ่ นําสินค๎านน้ั ออกจากอุตสาหกรรมสํงออกแล๎ว และผ๎ูซอื้ สนิ คา๎ ดงั กลาํ วมิใชผ๎ ๎ปู ระกอบกิจการ
ในเขตอตุ สาหกรรมสงํ ออกตามกฎหมายวาํ ดว๎ ยการนคิ มอตุ สาหกรรมแหงํ ประเทศไทยหรือคลงั สนิ คา๎ ทณั ฑบ์ นตาม
กฎหมายวําด๎วยศุลกากร

ตวั อยา่ ง บริษทั สวุ ิมล จํากัด เป็นผปู๎ ระกอบกจิ การจดทะเบียน และประกอบกจิ การอยูใํ นเขต
อุตสาหกรรมสงํ ออกได๎นาํ เข๎าสินค๎ามาขาย โดยตรงใหแ๎ กํบรษิ ทั จรี วรรณ จาํ กดั ซึ่งเป็นผ๎ูประกอบกิจการจดทะเบยี นและ
ประกอบกิจการอยํูนอกเขตอตุ สาหกรรมสงํ ออก โดยสนิ ค๎ามรี าคา 30,000 บาท และบรษิ ทั สวุ ิมล จาํ กดั ไดเ๎ สียอากรขา
เขา๎ และภาษีมลู คาํ เพ่มิ ในฐานะเป็นผ๎นู ําเข๎า 2,100 บาท เมื่อบรษิ ัท สวุ มิ ล จํากดั สํงมอบสินค๎าใหแ๎ กํบรษิ ทั จรี วรรณ
จํากัด ไมตํ ๎องเรยี กเกบ็ ภาษีขายอกี (แตถํ า๎ หากบริษัท จรี วรรณ จาํ กัด ไมไํ ด๎จดทะเบียนภาษีมลู คําเพิม่ บรษิ ัท สุวิมล จาํ กัด
ต๎องเรยี กเกบ็ ภาษขี ายจากบริษัท จรี วรรณ จาํ กัด จาํ นวน 2,100 บาท และนาํ ไปคํานวณภาษีดว๎ ย)

33

สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู๎ หน๎าที่
แผนํ ท่ี 5/8 22
ชอ่ื วิชา: การบญั ชีธรุ กจิ ซือ้ ขายสินค้า รหัสวชิ า 30201-0001

งาน : ความรู๎เบอื้ งตน๎ เก่ยี วกบั ภาษีมูลคําเพิม่

6) มลู คําของสินคา๎ ทแี่ จกให๎เป็นของขวัญเนือ่ งในพิธีหรอื ตามโอกาสแหํงขนบธรรมเนียมประเพณี
เชนํ วนั ขนึ้ ปีใหมํ วนั สงกรานต์ การแนะนําสนิ คา๎ ใหมํ ทงั้ น้เี ฉพาะท่ีเปน็ ปฏิทนิ สมดุ บันทึกประจาํ วนั (Diary) หรอื สินคา๎ ท่ี
มลี กั ษณะทํานองเดยี วกนั ของขวัญหรอื ของชาํ รํวยทีม่ ชี ่ือผ๎ปู ระกอบกิจการ ช่ือการคา๎ หรอื เคร่ืองหมายการค๎าของผ๎ู
ประกอบกิจการปรากฏอยูํ โดยของขวัญหรอื ของชาํ รํวยดังกลาํ วต๎องเปน็ สงิ่ ของที่ให๎แกกํ นั ตามประเพณีทางธุรกิจ และ
ต๎องมรี าคาหรือมูลคาํ ไมํเกนิ สมควร

7) มูลคาํ ของสินคา๎ ตัวอยํางท่ีแจกเน่อื งจากการจดั กิจกรรมสํงเสรมิ การขาย
8) มลู คาํ ของอาหารและเครอ่ื งดม่ื ทีน่ ายจ๎างจัดหาให๎พนกั งานหรอื ลูกจา๎ ง ในระหวาํ งเวลา
ปฏิบตั ิงานตามระเบยี บเกี่ยวกบั สวัสดกิ ารของพนักงานหรอื ลูกจ๎าง โดยมูลคําของอาหารและเคร่ืองด่มื ดงั กลาํ วต๎องมีราคา
ไมํเกินสมควร
9) มูลคําของสนิ ค๎าท่ผี ๎ูประกอบกิจการจดทะเบยี นได๎ขายใหแ๎ กํผูซ๎ ้ือ โดยสนิ ค๎าดังกลาํ วผปู๎ ระกอบ
กิจการจดทะเบียนท่ขี ายได๎นําเข๎าจากตํางประเทศและโอนสนิ คา๎ ใหผ๎ ๎ซู ือ้ ยนื่ ใบขนสนิ ค๎าขาเข๎าตอํ เจ๎าพนักงานศุลกากร ณ
ดาํ นศุลกากรเพ่ือชําระภาษมี ลู คาํ เพิ่มตํอ เจ๎าพนกั งานศุลกากร ตามมาตรา 83/8 วรรคหนึ่ง แหงํ ประมวลรษั ฎากรแล๎ว
ท้งั น้ผี ปู๎ ระกอบกิจการจดทะเบยี นทีข่ ายสนิ ค๎าจะต๎องมีสาํ เนาใบเสร็จรบั เงนิ ของกรมศลุ กากรท่อี อกให๎ผ๎ซู อ้ื พรอ๎ มท่ีจะให๎
เจ๎าพนักงานประเมินตรวจสอบได๎
10) มลู คาํ ของเครอ่ื งแบบทผ่ี ูป๎ ระกอบกิจการจดทะเบยี นซงึ่ เปน็ นายจ๎างไดม๎ อบใหแ๎ กํลูกจ๎างใน
จาํ นวนคนละไมเํ กินสองชุดตอํ ปี และเส้ือนอกในจํานวนคนละไมเํ กินหน่ึงตัวตํอปี
“เครอ่ื งแบบ” หมายความวําเคร่ืองแตํงกายรวมทั้งส่ิงประกอบเคร่ืองแตํงกายทกี่ าํ หนดให๎แตงํ เพ่ือใช๎ในการปฏบิ ัตงิ าน แตํ
ไมํรวมถงึ รองเท๎าทอี่ าจใช๎งานได๎ทั่วไป ชุดชัน้ ใน หรือสิ่งประกอบเครื่องแตงํ กายทีท่ ําด๎วยโลหะ หรอื อัญมณมี คี ํา เชํน เงนิ
ทองคาํ ทบั ทมิ หยก เปน็ ตน๎
“เสื้อนอก” หมายความรวมถงึ ชุดไทยพระราชทาน และเสื้อทนี่ ิยมใชใ๎ นการแตงํ กายไปในงานสาํ คัญตาํ ง ๆ
11) มูลคาํ ของคําตอบแทนที่พงึ ได๎รับจากการสํงมอบสินค๎าให๎ผู๎ซอื้ สินคา๎ ทดลองใชง๎ านกอํ นซ้อื โดย
สนิ คา๎ ดงั กลาํ วไมใํ ชขํ องใชส๎ ้นิ เปลอื ง และตอ๎ งเปน็ สินคา๎ ท่มี ไี วส๎ าํ หรบั ให๎ทดลองใช๎เป็นการชว่ั คราว เพอื่ ทดลองคณุ ภาพ
หรือประสิทธิภาพของสนิ ค๎าเทาํ น้ัน และผูซ๎ ือ้ สินค๎าจะต๎องสํงมอบสินคา๎ ดงั กลําวคืนใหแ๎ กผํ ป๎ู ระกอบกิจการจดทะเบียน
ผ๎ขู ายสนิ คา๎ เมอื่ ทดลองใช๎เสรจ็
12) มลู คาํ ของสนิ คา๎ หรอื บริการท่ผี ู๎ประกอบกจิ การจดทะเบยี นได๎ขายหรือใหบ๎ รกิ ารแกผํ ๎ูซ้ือหรือ
ผู๎รบั บริการ

12.1) ผูท๎ ําสญั ญาแบงํ ปันผลผลิตกับองค์กรรวํ มไทย – มาเลเซยี ตามกฎหมายกฎหมายวํา
ดว๎ ยองค์กรรวํ มไทย – มาเลเซยี

12.2) ผข๎ู ายสนิ คา๎ หรือบริการซง่ึ ไดท๎ ําสัญญาเป็นหนงั สือโดยตรงกับผูท๎ าํ สัญญาแบํงปนั
ผลผลิตกบั องค์กรรํวมไทย – มาเลเซียตามกฎหมายวําดว๎ ยองค์กรรํวมไทย – มาเลเซีย ผ๎ูประกอบกิจการจดทะเบียน
ดังกลําวต๎องทําสญั ญากับผ๎ูซอื้ หรือผู๎รบั บริการเป็นหนังสือ และต๎องจดั ทํารายงานตามหลกั เกณฑ์ที่อธิบดกี าํ หนด

13) มูลคาํ ของสลากวินโต๏ดและเปรส๏ โต๏ดท่ีผ๎ูประกอบกิจการสนามแขํงขันมา๎ ขายใหแ๎ กํผ๎ูเลํน
พนนั แขงํ มา๎ เปน็ จาํ นวนเทํากับจาํ นวนเงินรางวัลท่ีจะตอ๎ งจาํ ยคืนใหแ๎ กํผ๎ูเลํนพนนั แขํงมา๎ ดงั กลําว

34

สาขาวิชา : การบัญชี ใบความรู๎ หนา๎ ท่ี
แผํนท่ี 6/8 23
ชอ่ื วิชา: การบญั ชีธรุ กจิ ซอ้ื ขายสินค้า รหัสวิชา 30201-0001

งาน : ความร๎ูเบื้องตน๎ เกีย่ วกับภาษีมูลคาํ เพ่มิ

14) มูลคาํ ของทองรูปพรรณทีข่ ายเปน็ จํานวนเทาํ กับราคาทองรูปพรรณท่สี มาคมคา๎ ทองคํา
ประกาศรบั ซ้ือคืนในวนั ที่ขายทองรูปพรรณ ท้ังนี้เฉพาะผ๎ปู ระกอบกจิ การจดทะเบียนทปี่ ระกอบกิจการขายทองรูปพรรณ
ซึง่ มีใบอนญุ าตค๎าของเกาํ ตามกฎหมายวาํ ดว๎ ย การค๎าของเกาํ และใช๎เครอ่ื งบนั ทึกการเกบ็ เงนิ ออกใบรับตามมาตรา 105
แหํงประมวลรษั ฎากร ตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทอี่ ธิบดีกาํ หนด

ทองรปู พรรณ หมายความวํา ทองคําทีท่ าํ สาํ เรจ็ เป็นเคร่ืองประดบั กาย เครอื่ งแตํงกาย ของ
ชํารํวย หรือสงิ่ ของตําง ๆ ทีม่ ไี วเ๎ พ่อื โชว์ ทง้ั นตี้ ๎องไมมํ อี ัญมณปี ระกอบอยดํู ว๎ ย

ทองรูปพรรณ หมายความรวมถึงนากทีส่ ามารถคํานวณราคารับซ้ือคนื ไดต๎ ามสํวนของ
ราคาทองรูปพรรณทส่ี มาคมค๎าทองคาํ ประกาศรับซื้อคืน

ข้อสังเกต
1. ผ๎ปู ระกอบกจิ การจดทะเบยี นซึ่งไมตํ ๎องนําคาํ ตอบแทนที่มลี กั ษณะและเง่ือนไขตามทอี่ ธิบดกี าํ หนด โดยอนุมตั ิ

รัฐมนตรตี ามประกาศอธบิ ดฯี (ฉบบั ที่ 40) มารวมคาํ นวณเปน็ มลู คาํ ของฐานภาษนี ั้น ไมํต๎องจัดทําใบกาํ กับภาษีเน่อื งจาก
ไมํมกี ารเรยี กเก็บภาษมี ลู คาํ เพิม่ จากผ๎ซู อ้ื หรือผรู๎ ับบรกิ าร แตํยังตอ๎ งมหี น๎าท่จี ัดทํารายงานภาษีขายโดยต๎องมรี ายการและ
ข๎อความอยาํ งน๎อยตามทกี่ าํ หนดโดยประกาศอธิบดี (ฉบับที่ 104 และฉบบั ที่ 110)

2. ถา๎ ขายสินค๎าหรอื ใหบ๎ รกิ ารโดยไมมํ ีคาํ ตอบแทนหรือมีแตํต่าํ กวําราคาตลาด โดยไมํมเี หตุอันสมควร ให๎ถอื ราคา
ตลาดในวนั ทค่ี วามรบั ผิดเกดิ เปน็ ฐานภาษี

3. กรณีขายสินค๎าแลว๎ เกบ็ ดอกเบ้ยี ในขณะขายสินคา๎ ต๎องรวมเปน็ มูลคําฐานภาษีดว๎ ย เชํน การขายสินคา๎ โดยการ
เชําซอ้ื แตถํ ๎าเป็นกรณเี รยี กเกบ็ ดอกเบย้ี หรือเบ้ียปรบั เนอ่ื งจากผดิ นดั ชําระคาํ สนิ คา๎ ไมํตอ๎ งนําดอกเบี้ยหรือเบยี้ ปรับรวม
เป็นมลู คาํ ฐานภาษีเพราะถือเปน็ ผลเสียหาย

4. กรณขี ายสินคา๎ แลว๎ มีการคดิ คําขนสํง จะนําคาํ ขนสงํ รวมเป็นมูลคําฐานภาษีดว๎ ย เชํน ขายสินค๎าราคา 30,000
บาท คิดคําขนสงํ 2,000 บาท มูลคําฐานภาษีของสนิ ค๎าคือ 32,000 บาท ไมํใชํ 30,000 บาท แตํถ๎าผข๎ู ายสนิ คา๎ ประกอบ
กิจการขนสํงกไ็ มตํ อ๎ งรวมคาํ ขนสงํ เปน็ มลู คาํ ฐานภาษี

5. กรณรี บั เงินมัดจําจะตอ๎ งนําเงนิ มดั จํามารวมเป็นมลู คาํ ฐานภาษี ยกเว๎นเงินมัดจําภาชนะทใ่ี ช๎บรรจสุ ินค๎า เชนํ
เงินมัดจาํ คาํ ขวดนา้ํ อดั ลมไมตํ อ๎ งนาํ มารวมเป็นมลู คาํ ฐานภาษี เปน็ ต๎น

6. กรณีเงินประกันผลงานซ่งึ มใิ ชํมลู คําที่กฎหมายกําหนดใหไ๎ ด๎รบั การยกเวน๎ ไมตํ ๎องนํามารวมเป็นมลู คาํ ฐานภาษี
ดังน้ันคาํ จ๎างทไี่ ดร๎ ับจะตอ๎ งนํามารวมเปน็ ฐานภาษโี ดยไมใํ ห๎หักเงินประกันผลงานออก

4.2 ฐานภาษสี าหรับการส่งสนิ คา้ ออก
ฐานภาษสี าํ หรบั การสงํ ออกสินคา๎ ได๎แกํ มลู คําสินคา๎ สงํ ออกโดยให๎ใช๎ราคา F.O.B ของสินค๎าบวกด๎วยภาษี

สรรพสามิตและภาษหี รือคําธรรมเนียมอืน่ ตามที่จะกําหนด แตทํ ้ังนี้ไมํรวมอากรขาออก
คําวํา F.O.B (Free on Board) หมายถึง ผ๎ูขายจะหมดภาระตํอเมอื่ ได๎นําสินคา๎ ไป สงํ มอบลงไว๎ในเรอื เดนิ

ทะเล ณ ทาํ เรอื ทีร่ ะบุไว๎ รวมท้ังผาํ นพิธีการและเสียภาษสี ํงออก หากสนิ คา๎ ต๎องขออนญุ าตสงํ ออกกต็ ๎องจดั ทาํ ใบอนุญาต
สํงออก หากมีภาษสี งํ ออกก็ต๎องชาํ ระคําภาษนี นั้ ดว๎ ยสํวน ผู๎ซอื้ จะต๎องรบั ภาระคําใชจ๎ ํายและความเสี่ยงจากจดุ ทีผ่ ขู๎ ายนาํ
สนิ คา๎ มาสํงมอบไวใ๎ นระวาง

35

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบความร๎ู หน๎าท่ี
แผนํ ท่ี 7/8 24
ช่อื วิชา: การบญั ชีธุรกจิ ซอื้ ขายสินค้า รหัสวิชา 30201-0001

งาน : ความรเ๎ู บอื้ งต๎นเก่ียวกับภาษมี ูลคาํ เพม่ิ

4.3 ฐานภาษีสาหรบั การนาเข้า
การใหบ๎ ริการขนสํงระหวํางประเทศมีฐานภาษดี งั น้ี
4.3.1 กรณีรับขนคนโดยสาร ไดแ๎ กํ มูลคาํ ของคําโดยสาร คําธรรมเนยี ม หรอื ประโยชน์อน่ื ใดท่ีเรียกเกบ็ ใน

ประเทศกอํ นหักรายจาํ ยใด ๆ เนอื่ งในการรับขนคนโดยสาร
4.3.2 กรณีรบั ขนสินคา้ ไดแ๎ กํ มูลคาํ ของคาํ ระวาง คาํ ธรรมเนียม และประโยชนอ์ นื่ ใดท่ีเรยี กเกบ็ ไมวํ าํ ในหรือ

นอกประเทศ กํอนหกั รายจาํ ยใด ๆ เนอื่ งในการรับขนสนิ คา๎ น้นั ออกนอกประเทศ
4.4 ฐานภาษสี าหรบั การนาเขา้
ฐานภาษสี าํ หรับการนาํ เขา๎ ได๎แกํ มูลคําของสินค๎านาํ เขา๎ โดยให๎ใช๎ราคา C.I.F. ของสินคา๎ บวกด๎วยอากรขาเขา๎

ภาษีสรรพสามิตตามท่ีกาํ หนด คําธรรมเนยี มพเิ ศษตามกฎหมายวําดว๎ ยการสงํ เสรมิ การลงทุน และภาษหี รอื คาํ ธรรมเนียม
อน่ื ทีก่ ฎหมายจะกาํ หนด

ราคา C.I.F.อาจถอื ตามราคาท่เี จา๎ พนักงานศลุ กากรประกาศหรือประเมินใหมํในบางกรณี สํวนอากรขาเขา๎ ท่ี
ได๎รบั ยกเว๎นหรอื ลดหยอํ นตามกฎหมายต๎องนํามารวมเปน็ ฐานภาษีดว๎ ย กรณสี ินคา๎ นาํ เขา๎ ทีไ่ ดร๎ บั ยกเว๎นภาษีอากรตาม
กฎหมายวาํ ดว๎ ยพกิ ดั อัตราศลุ กากรก็จะไดร๎ ับการยกเวน๎ ภาษีมูลคําเพิม่ ด๎วย ถา๎ ภายหลังสินคา๎ น้นั ต๎องเสยี ภาษอี ากรทาํ ให๎
ตอ๎ งเสยี ภาษมี ลู คําเพมิ่ ดว๎ ย ใหถ๎ ือมลู คาํ ตามสภาพหรอื ปริมาณของสินคา๎ ท่เี ป็นอยูใํ นวนั ท่คี วามรับผดิ เกิดขึน้

คาํ วาํ C.I.F. (Cost Insurance and Freight) หมายถึง ผู๎ขายจะหมดภาระตํอเม่อื ได๎นาํ สินค๎าไปสํงมอบลงไว๎ใน
ระวางเรอื เดินทะเล ณ ทาํ เรอื ทีร่ ะบไุ ว๎ อีกท้งั จัดการจองและจาํ ยคาํ ระวางเรือในการขนสํงสินคา๎ ไปจนถึงทําเรอื ในประเทศ
ผ๎ขู ายต๎องดาํ เนนิ การผาํ นวิธีการและเสยี ภาษสี ํงออก รวมท้ังต๎องจดั ทําและจํายคําประกนั ภยั ขนสงํ สินคา๎ ทางทะเล สํวนผู๎
ซื้อมีหนา๎ ท่ีผํานพิธกี ารและเสยี ภาษีนําเขา๎ ประเทศของตนเอง

4.5 ฐานภาษกี รณีขายยาสบู และผลติ ภัณฑ์น้ามันตามทก่ี ฎหมายกาหนด
หลักเกณฑ์พิเศษในการคํานวณภาษี การขายสินค๎าเหลํานีฐ้ านภาษี ได๎แกํ มลู คาํ สนิ ค๎าทีไ่ ดม๎ าจากการหกั

จาํ นวนภาษีมูลคําเพ่ิมออกจากจํานวนเตม็ ของราคาขายปลกี ของสินคา๎ โดยให๎คํานวณภาษมี ูลคาํ เพ่ิมตามอตั รา
ภาษมี ลู คําเพิม่ ที่รวมอยูํในจํานวนเตม็ ของราคาขายปลกี (ผลิตภณั ฑ์นาํ้ มันที่มรี าคาลอยตวั จะไมํเข๎าหลักเกณฑ์ขอ๎ นี้)

4.6 ฐานภาษกี รณีพิเศษ
ฐานภาษกี รณีพิเศษมีดังน้ี
4.6.1 กรณีผลติ สินคา๎ หรือให๎บริการโดยไมํมคี าํ ตอบแทน หรือมคี ําตอบแทน ตํ่ากวาํ ราคาตลาดโดยไมํมเี หตุ

อันสมควร ให๎ถอื ราคาตลาดในวันท่ีความรับผิดเกดิ เปน็ ฐานภาษี
4.6.2 กรณผี ๎ปู ระกอบกจิ การนําสินคา๎ ไปใช๎ หรือนาํ บริการไปใชเ๎ อง หรอื ใหบ๎ ุคคลอื่นใช๎โดยมใิ ชเํ พื่อการ

ประกอบกจิ การโดยตรง เชํน นาํ ผงซักฟอกและยาสระผมที่ซ้ือมาเพื่อขายไปใชส๎ ํวนตวั ตอ๎ งถอื วาํ เป็นการขายสินคา๎ ต๎อง
เสียภาษขี าย ฐานภาษีถือตามราคาตลาดในวันทค่ี วามรับผิดเกิด (กาํ หนดข้ึนเปน็ พิเศษ) เน่ืองจากผู๎ประกอบกจิ การ
กลายเป็นผบ๎ู ริโภคจงึ ต๎องรับภาระภาษีขายคลา๎ ยการเรยี กเกบ็ ภาษีจากผ๎บู ริโภคทวั่ ไป

4.6.3 กรณีสนิ ค๎าของผ๎ูประกอบกิจการจดทะเบยี นมจี ํานวนคงเหลอื ขาดจากจํานวนในรายงานสินคา๎ และ
วตั ถดุ บิ ถือเป็นการขายตอ๎ งเสียภาษีขาย โดยถือตามราคาตลาดของสนิ ค๎าในวนั ท่ีความรบั ผิดเกิด คือ วันท่ตี รวจพบ

36

สาขาวิชา : การบัญชี ใบความร๎ู หน๎าที่
แผนํ ท่ี 8/8 25
ชอื่ วชิ า: การบญั ชีธุรกิจซื้อขายสินคา้ รหัสวิชา 30201-0001

งาน : ความรเู๎ บือ้ งต๎นเกี่ยวกับภาษมี ูลคาํ เพิ่ม

4.6.4 กรณสี นิ คา๎ เสยี ภาษีมูลคาํ เพ่ิมอัตราร๎อยละ 0 ไปแลว๎ ตอํ มาผู๎ซอื้ ไดโ๎ อนกรรมสิทธิ์ไป ทําให๎ผู๎ซื้อทอด
หลังมีหน๎าที่เสียภาษมี ลู คําเพมิ่ ฐานภาษีใหถ๎ อื ตามราคาตลาดของสนิ คา๎ นนั้ ตามสภาพหรอื ปริมาณที่เป็นอยํูในวนั ทีค่ วาม
รับผดิ เกิด

4.6.5 กรณีผูป๎ ระกอบกจิ การมสี นิ ค๎าคงเหลอื และมีทรพั ยส์ นิ ท่ีใช๎ประกอบกิจการเหลือในวันเลกิ ประกอบ
กิจการ ถอื เปน็ การขาย โดยถือราคาตลาดของสนิ คา๎ และทรพั ยส์ ินน้นั ใน วนั เลิกประกอบกจิ การเปน็ ฐานภาษี

4.6.6 ราคาตลาดถอื ตามราคาเฉลี่ยทซ่ี อื้ ขายกนั ตามเปน็ จรงิ ทว่ั ไปตามท่กี าํ หนดหลักเกณฑ์ตรวจสอบราคา
ข้ึน กรณไี มํอาจทราบราคาตลาดทีแ่ นํนอนให๎ใช๎เกณฑ์คํานวณที่จะกาํ หนดข้ึน

4.6.7 กรณเี รียกเก็บมูลคาํ สินค๎าหรือบรกิ ารเพิม่ จากเดิม หลงั จากขายสินคา๎ หรอื ใหบ๎ รกิ ารและเสยี
ภาษีมูลคาํ เพิ่มไปแลว๎ ตํอมามีเหตกุ ารณท์ ่ตี อ๎ งคิดคาํ สินคา๎ หรอื บริการเพ่มิ จากเดมิ ผ๎ูประกอบกิจการจดทะเบียนต๎องออก
ใบเพมิ่ หนีใ้ ห๎ลูกค๎า และเสยี ภาษีขายเพ่มิ เตมิ ตามจํานวนของสนิ คา๎ หรอื บริการทเ่ี พ่ิมข้นึ ในเดอื นทีไ่ ด๎รับใบเพมิ่ หนี้เสมือน
หนงึ่ เป็นภาษซี ้อื ตามใบกาํ กับภาษีท่ัวไป เหตกุ ารณ์ทจ่ี ะเปน็ เหตุให๎ออกใบเพิ่มหนี้มีดังตอํ ไปน้ี

1) การเพิ่มราคาสนิ ค๎าที่ขายเนอ่ื งจากสนิ ค๎าเกนิ กวําจาํ นวนที่ตกลงซอ้ื ขายกันหรคื าํ นวณราคาสินค๎า
ตาํ่ กวาํ ทเี่ ป็นจรงิ หรือเน่ืองจากเหตอุ น่ื ตามทีอ่ ธบิ ดีจะกําหนด

2) การเพ่ิมราคาคําบรกิ ารเนือ่ งจากใหบ๎ ริการเกินกวําขอ๎ กําหนดทีต่ กลงกนั หรอื คํานวณราคา
คาํ บรกิ ารตํ่ากวาํ ทีเ่ ปน็ จรงิ หรือเนือ่ งจากเหตอุ ่ืนตามทีอ่ ธิบดจี ะกําหนด

4.6.8 กรณลี ดมูลคําสนิ ค๎าหรอื บริการเดิม ในกรณีตรงข๎ามกบั ขอ๎ 7 มเี หตุการณ์ ทําใหต๎ ๎องลดมูลคาํ สนิ ค๎า
หรือบริการจากเดมิ ผป๎ู ระกอบกิจการจดทะเบยี นตอ๎ งออกใบลดหนีใ้ ห๎ลกู คา๎ และสามารถนําภาษที ีค่ ิดตามจํานวนมลู คําที่
ลดลงไปหักจากภาษีขายไดใ๎ นเดือนท่ีออกใบลดหนี้ สวํ นลูกค๎าท่เี ป็นผ๎ูประกอบกิจการจดทะเบียนก็ตอ๎ งนาํ จํานวนภาษที ่ี
ปรากฏอยูใํ นใบลดหน้ีไปหกั ออกจากภาษีซือ้ ในเดอื นภาษีทไ่ี ด๎รับใบลดหน้ี เหตุการณ์ท่จี ะเปน็ เหตุใหอ๎ อกใบลดหนม้ี ี
ดังตํอไปน้ี

1) การลดราคาสินคา๎ ท่ขี ายเนอื่ งจากสนิ คา๎ ผดิ ขอ๎ กาํ หนดทีต่ กลงกัน สินค๎าชาํ รดุ เสียหาย หรอื ขาด
จํานวน หรอื คาํ นวณราคาสินคา๎ สงู กวําทเ่ี ปน็ จริง หรอื เนอื่ งจากเหตอุ ่นื ท่ีอธิบดีจะกําหนด

2) การลดราคาคาํ บริการเน่ืองจากการให๎บรกิ ารผดิ ขอ๎ กําหนดทีต่ กลงกนั หรือบรกิ ารขาดจํานวน
หรอื คาํ นวณราคาคาํ บรกิ ารสูงกวําทเี่ ป็นจริง หรือเนือ่ งจากเหตอุ ่นื ทอ่ี ธบิ ดีจะกาํ หนด

3) ไดร๎ บั สินคา๎ ทข่ี ายกลบั คนื มา เน่ืองจากสนิ ค๎าชาํ รดุ บกพรอํ งไมํตรงตามตัวอยําง ไมํตรงตามคํา
พรรณนา หรือเนื่องจากเหตุอ่นื ทีอ่ ธิบดจี ะกําหนด

4) มีการบอกเลิกสญั ญาบริการเนอ่ื งจากเหตแุ ละตามเงอื่ นไขท่ีอธิบดีจะกําหนด
4.6.9 หนส้ี ญู กรณผี ูป๎ ระกอบกิจการจดทะเบียนขายสนิ ค๎าหรอื ใหบ๎ รกิ าร และได๎นาํ ภาษีขายไปรวม
คํานวณเสยี ภาษมี ลู คําเพมิ่ แล๎ว ตํอมามีหนส้ี ญู เกดิ ขน้ึ ผปู๎ ระกอบกิจการจดทะเบยี นทําการจําหนาํ ยหนส้ี ญู ไดต๎ ามจํานวน
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกําหนด และนาํ ภาษีขายทีค่ ํานวณจากสวํ นของหนสี้ ญู ไปหกั ออกจากภาษีขายใน
เดือนทม่ี กี ารจําหนําย หนสี้ ูญได๎ ตํอมาลูกหนี้ที่จาํ หนาํ ยเป็นหนีส้ ูญไดน๎ ําเงนิ มาชําระหน้ภี ายหลัง ให๎นาํ ภาษีขายทคี่ ิดจาก
สวํ นของหนี้สญู ท่ีได๎รบั ชาํ ระหนี้รวมเป็นภาษีขายในเดอื นทไ่ี ด๎รบั ชาํ ระ

37

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบทดสอบ หนา๎ ท่ี
แผํนท่ี 1/1 26
ช่อื วชิ า: การบญั ชธี ุรกิจซอ้ื ขายสินค้า รหัสวิชา 30201-0001

งาน : ความรเ๎ู บ้อื งต๎นเกีย่ วกบั ภาษมี ลู คาํ เพม่ิ

ให๎เลือกคาํ ตอบท่ีถกู ต๎องที่สุด ลงในกระดาษคําตอบ
1. ภาษมี ูลคาํ เพม่ิ มคี วามหมายตรงกบั ข๎อใด

ก. ภาษีทเ่ี รียกเก็บจากบคุ คลทซี่ อื้ สนิ คา๎ หรือรบั บริการจัดเก็บตามมูลคําของสนิ ค๎า
ข. ภาษที เี่ รียกเก็บจากบคุ คลทขี่ ายสินคา๎ หรือให๎บรกิ ารจัดเกบ็ ตามมูลคําของสนิ คา๎
ค. ภาษที ี่เรียกเกบ็ จากรัฐบาลท้งั บคุ คลที่ขายและทีซ่ ้ือสินคา๎ หรอื บรกิ ารสํวนท่ีเพิม่ ขึน้
ง. ภาษที เ่ี รียกเก็บจากบุคคลทซ่ี ้อื สนิ คา๎ หรอื รบั บรกิ ารจัดเกบ็ เฉพาะมลู คําสํวนท่เี พมิ่ ขึ้น
จ. ภาษีทเี่ รียกเกบ็ จากบคุ คลทีข่ ายสินคา๎ หรอื ให๎บรกิ ารจัดเกบ็ เฉพาะมูลคําสวํ นทีเ่ พิม่ ข้นึ
2. กจิ การที่ต๎องจดทะเบียนภาษีมูลคําเพมิ่ ต๎องมรี ายรบั จากขายสินคา๎ หรอื บริการเป็นจํานวนเทําใด
ก. เกนิ กวาํ 1,000,000 บาท ตํอปี
ข. เกนิ กวาํ 1,500,000 บาท ตอํ ปี
ค. เกนิ กวํา 1,600,000 บาท ตํอปี
ง. เกนิ กวาํ 1,700,000 บาท ตอํ ปี
จ. เกินกวํา 1,800,000 บาท ตํอปี
3. หน๎าที่ของผูป๎ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คําเพม่ิ คอื ข๎อใด
ก. ออกใบกํากับภาษที ุกคร้งั ท่ขี ายสินค๎าหรือใหบ๎ ริการ
ข. ขายสนิ ค๎าหรือใหบ๎ รกิ ารท่ีมีราคาตาํ่ กวาํ ผู๎ขายรายอ่ืน
ค. ออกใบเสรจ็ รับเงินทกุ คร้ังที่มีการขายสินคา๎ หรือใหบ๎ ริการ
ง. ขายสนิ คา๎ หรือให๎บรกิ ารแล๎วจะตอ๎ งมีบริการหลงั การขายทุกคร้งั
จ. ให๎สํวนลดกบั ผู๎ซ้ือสินค๎าหรือผร๎ู บั บริการทุกคร้ังที่มกี ารขายสินค๎า
4. ขอ๎ ใดคืออตั ราภาษมี ูลคําเพม่ิ ท่นี าํ มาใชใ๎ นปัจจุบนั
ก. ร๎อยละ 2
ข. ร๎อยละ 3
ค. ร๎อยละ 4
ง. รอ๎ ยละ 5
จ. ร๎อยละ 7
5. ถ๎าภาษีซ้ือมากกวาํ ภาษีขาย แสดงวําผู๎ประกอบการจดทะเบยี นภาษมี ูลคาํ เพ่มิ จะปฏิบัติอยํางไร
ก. ชําระภาษี
ข. ขอคืนภาษี
ค. ไมํต๎องยนื่ ภาษี

ง. ได๎สํวนลดภาษี
จ. ลดภาษีใหล๎ กู ค๎า

38

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบเฉลยใบ หนา๎ ท่ี
ทดสอบ 27
ชือ่ วชิ า: การบญั ชีธุรกจิ ซอื้ ขายสินค้า รหสั วิชา 30201-0001
แผํนท่ี 1/1
งาน : ความร๎เู บ้อื งตน๎ เก่ยี วกับภาษีมลู คําเพมิ่

1. ภาษมี ลู คาํ เพิม่ มคี วามหมายตรงกบั ขอ๎ ใด
คําตอบ ง. ภาษที ี่เรียกเกบ็ จากบุคคลที่ซือ้ สนิ คา๎ หรอื รบั บริการจดั เก็บเฉพาะมลู คาํ สํวนท่ีเพิ่มข้นึ

2. กิจการที่ตอ๎ งจดทะเบียนภาษีมลู คําเพิม่ ตอ๎ งมรี ายรบั จากขายสินค๎าหรอื บรกิ ารเป็นจานวนเทาํ ใด
คําตอบ จ. เกินกวาํ 1,800,000 บาท ตอํ ปี

3. หนา๎ ทขี่ องผู๎ประกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู คาํ เพ่ิมคือขอ๎ ใด
คาํ ตอบ ก. ออกใบกํากับภาษีทกุ ครัง้ ท่ีขายสินคา๎ หรอื ให๎บริการ

4. ขอ๎ ใดคอื อตั ราภาษีมลู คําเพม่ิ ทน่ี าํ มาใชใ๎ นปจั จุบัน
คําตอบ จ. ร๎อยละ 7

5. ถา๎ ภาษีซือ้ มากกวําภาษขี าย แสดงวําผป๎ู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคาํ เพ่ิมจะปฏบิ ตั อิ ยาํ งไร
คําตอบ ข. ขอคืนภาษี

39

สาขาวชิ า : การบญั ชี ใบมอบหมาย หนา๎ ท่ี
งาน 28
ช่อื วชิ า: การบญั ชีธุรกิจซอ้ื ขายสินคา้ รหสั วิชา 30201-0001
แผนํ ท่ี 1/1
งาน : ความรเ๎ู บื้องตน๎ เกี่ยวกบั ภาษีมูลคําเพม่ิ

จดุ ประสงคก์ ารมอบหมายงาน
1. เพือ่ ให๎ผ๎เู รยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบ
2. เพอื่ ให๎ผเ๎ู รยี นใชเ๎ วลาวาํ งใหเ๎ กิดประโยชน์

แนวทางการปฏิบตั ิงาน

ครมู อบหมายงาน นักเรยี นคน๎ คว๎า นักเรียนนําเสนอ นกั เรยี นสงํ ผลงาน
เป็นการบา๎ น งานตนเอง ครูให๎คะแนน

แหล่งค้นควา้
หนังสือเรียน ตาํ ราเรยี น

คาถาม/ปัญหา
1. ในการค๎นควา๎ งานนกั เรียนพบปัญหาอะไรบา๎ ง
2. นกั เรียนแกป๎ ญั หาอยาํ งไร
3. นกั เรยี นไดอ๎ ะไรจากการไปคน๎ ควา๎ งาน

กาหนดเวลาสง่ งาน
กอํ นครูสอนคาบตอํ ไป

40

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ หนวํ ยที่ 3

ชื่อหนวํ ย การบนั ทึกรายการเก่ยี วกับสนิ ค๎าในสมุดรายวนั ทว่ั ไป รวม 8 ชั่วโมง
สาํ หรับกจิ การท่ีไมํจดทะเบียนและจดทะเบยี นภาษมี ูลคาํ เพม่ิ สอนครั้งที่ 4-5

เรอ่ื ง การบนั ทกึ รายการเกี่ยวกบั สนิ คา๎ ในสมดุ รายวันท่ัวไป จาํ นวน 8 ชั่วโมง

1. สาระสาคัญ

ในกรณีท่ีกิจการค๎าเป็นกิจการขนาดเล็ก อาจใช๎สมุดบันทึกรายการข้ันต๎นเลํมเดียวคือสมุดรายวัน
ท่ัวไปบันทึกรายการทุกรายการท่ีเกิดข้ึนในกิจการ การบันทึกรายการจะแยกเป็นกรณีท่ีกิจการไมํจด
ทะเบียนภาษีมูลคําเพ่ิมและจดทะเบยี นภาษีมูลคําเพ่ิม สํวนวธิ ีการบันทึกบญั ชีเกี่ยวกับสินค๎านั้นจะมี 2 วิธี
คือ Periodic Accounting System และวิธี Perpetual Accounting System ซึ่งแสดงตวั อยํางเพ่ือให๎
เห็นความแตกตําง สํวนการบันทึกบัญชีท่ีใช๎ในหนังสือเลํมนี้จะแสดงเพียงวิธีเดียวคือวิธี Periodic
Accounting System ซงึ่ เป็นวีทน่ี ิยมใชโ๎ ดยท่ัวไป

2. สมรรถนะประจาหน่วย

2.1 การบนั ทึกรายการในสมดุ รายวนั ขายสินค๎า
2.2 การบนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนั รบั คืนสินค๎า
2.3 การทาํ รายละเอียดลูกหนี้

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (มาตรฐานการเรยี นร๎ู)

3.1 ด๎านความร๎ู
3.1.1 อธิบายเกี่ยวกบั เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชไี ด๎
3.1.2 อธิบายเกี่ยวกับประเภทของเอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชไี ด๎

3.2 ด๎านทักษะ
3.2.1 แสดงวธิ กี ารบันทกึ บัญชเี ก่ยี วการการซื้อขายสินค๎า
3.2.2 บนั ทกึ รายการกรณีจดทะเบียนและไมํจดทะเบียนภาษมี ูลคําเพ่มิ

3.3 คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์
3.3.1 นักศึกษาแบงํ เวลาในการเรยี นและการทํางานได๎
3.3.2 นกั ศึกษามคี วามรับผดิ ชอบตํอตนเองและสวํ นรวม

3.4 การประยกุ ต์ 3D และน๎อมนําหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
3.4.1 ผูเ๎ รยี นมกี ารทาํ เป็นขน้ั ตอน การทําตามลาํ ดบั ขนั้
3.4.2 ผเู๎ รียนมีวินัย มีความประหยดั
3.4.3 ผู๎สอนสอดแทรกปรัชญาเกีย่ วกับความประหยัดอดออม

41

แผนการจัดการเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หนวํ ยที่ 3

ชื่อหนวํ ย การบันทกึ รายการเกี่ยวกับสินค๎าในสมุดรายวันท่วั ไป รวม 8 ชว่ั โมง
สําหรบั กจิ การท่ีไมจํ ดทะเบยี นและจดทะเบียนภาษมี ูลคาํ เพ่ิม สอนครง้ั ที่ 4-5

เรื่อง การบันทกึ รายการเก่ยี วกบั สนิ ค๎าในสมุดรายวันท่วั ไป จาํ นวน 8 ชัว่ โมง

4. เน้อื หาสาระการเรยี นร๎ู

3.1 เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี
3.2 การกาํ หนดเลขทเ่ี อกสารทีใ่ ชใ๎ นการบนั ทึกบัญชี
3.3 การจัดประเภทเอกสารในการบนั ทกึ บัญชี
3.4 การจดั เก็บรกั ษาบัญชีและเอกสารที่ต๎องใชป๎ ระกอบการบันทึกบญั ชี

5 กจิ กรรมการเรยี นการสอน

5.1 ข้ันนําเขา๎ สบํู ทเรยี น(M)
นาํ เข๎าสบูํ ทเรยี นโดยกลาํ วถงึ เอกสารเกีย่ วกับการบันทกึ บญั ชี

5.2 ข้ันการจดั เรียนร๎(ู I)
5.2.1 ทําแบบประเมนิ ผลกํอนการเรยี น
5.2.2 ผูส๎ อนและผ๎ูเรยี นรํวมกนั อภิปรายเร่อื งเกย่ี วกับเอกสารเก่ียวกบั การบนั ทึกบัญชี
5.2.3 แบํงกลุํมผ๎ูเรยี น
5.2.4 ผเ๎ู รียนศกึ ษาใบความร๎ู

5.3 ขนั้ สรปุ (A)
5.3.1 แบํงกลุํมผูเ๎ รียนมารายงานหน๎าช้นั เรยี น

5.4 การวดั ผลและประเมนิ ผล(P)
การวดั ผล
5.4.1 การสังเกตความต้ังใจและสนใจของผ๎ูเรยี น, ความรํวมมอื ในการอภปิ ราย
5.4.2 ซักถามผเู๎ รยี นเป็นรายบุคคล
5.4.3 ทาํ แบบทดสอบเพือ่ ประเมินผลหลงั การเรียนร๎ู
5.4.4 การตรวจผลงานภาคปฏบิ ตั ิ
ประเมินผล
5.4.5 การทดสอบดว๎ ยวาจาและข๎อเขียน
 ตรวจแบบทดสอบ ไมนํ อ๎ ยกวํารอ๎ ยละ 60
 ตั้งคําถามใหต๎ อบและอธิบาย ไมํนอ๎ ยกวําร๎อยละ 80

42

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะ หนํวยที่ 3

ชือ่ หนํวย การบันทึกรายการเก่ยี วกบั สินค๎าในสมุดรายวนั ทว่ั ไป รวม 8 ช่วั โมง
สําหรบั กจิ การท่ีไมํจดทะเบยี นและจดทะเบียนภาษีมูลคําเพิ่ม สอนคร้งั ที่ 4-5

เรือ่ ง การบันทึกรายการเก่ียวกับสินคา๎ ในสมุดรายวันทว่ั ไป จํานวน 8 ชวั่ โมง

6. สือ่ การการเรยี นร๎/ู แหลงํ การเรยี นรู๎

6.1 สื่อสง่ิ พมิ พ์

หนังสือเรียนวชิ า หลกั การบัญชีเบือ้ งต๎น 2 : ของสํานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์

6.2 ใบความร๎ู

7. เอกสารประกอบการจดั การเรียนร๎ู (ใบความรู๎ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ฯลฯ)

7.1 ใบความร๎ู

7.2 ใบทดสอบ

7.3 ใบสง่ั งาน

8. การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กบั วชิ าอ่นื

8.1 วิชาภาษาไทย เกย่ี วกบั การใช๎ภาษาดา๎ นการพดู การอําน และการเขียน

8.2 วชิ าคณติ ศาสตร์ เก่ยี วกบั การคํานวณ

8.3 วชิ าภาษาองั กฤษ ดา๎ นคาํ ศัพท์ทางบัญชี

9. การวดั ผลและประเมินผล

9.1 วธิ กี าร ดาํ เนนิ การวัดผลในห๎วงเวลา

(1) กอํ นเรยี น โดยใช๎แบบทดสอบกอํ นเรียน

(2) ระหวํางเรยี น โดยการถามตอบและการสงั เกตการณ์ปฏบิ ตั งิ าน

(3) หลังเสรจ็ สิน้ การเรยี น โดยทําแบบทดสอบ

9.2 เกณฑก์ ารประเมิน

(1) ผ๎ูเรยี นมีเวลาเรยี นไมนํ ๎อยกวาํ ร๎อยละ 80

(2) ผ๎ูเรยี นมคี ะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียนร๎อยละ 80

(3) ผเู๎ รียนบันทึกบัญชกี ารซ้ือขายสินคา๎ สมบรู ณแ์ ละถูกต๎องทุกครง้ั

43

แผนการจัดการเรยี นรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หนํวยท่ี 3

ชือ่ หนวํ ย การบนั ทึกรายการเกย่ี วกบั สินค๎าในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป รวม 8 ช่วั โมง
สาํ หรบั กจิ การท่ไี มจํ ดทะเบยี นและจดทะเบยี นภาษีมูลคําเพม่ิ สอนคร้ังท่ี 4-5

เรอื่ ง การบนั ทกึ รายการเก่ียวกบั สนิ คา๎ ในสมดุ รายวันทวั่ ไป จาํ นวน 8 ชัว่ โมง

10. บันทกึ หลังการเรยี นร๎ู

10.1 ผลการใช๎แผนการจัดการเรียนรู๎
1. เน้อื หาสอดคลอ๎ งกับจดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม
2. สามารถนาํ ไปใช๎ปฏบิ ัตกิ ารสอนได๎ครบตามกระบวนการเรียนการสอน
3. สื่อการสอนเหมาะสมดี

10.2 ผลการเรยี นรข๎ู องผเ๎ู รยี น
1. นักศกึ ษาสวํ นใหญํมีความสนใจใฝร่ ๎ู เขา๎ ใจในบทเรียนรวํ มกนั อภปิ รายตอบคําถามใน

กลมุํ และรวํ มกนั แสดงความคิดเห็น
2. นกั ศึกษากระตือรือรน๎ และรับผดิ ชอบในการทาํ งานกลมุํ เพ่อื ใหง๎ านสําเรจ็ ทันเวลาที่กาํ หนด

10.3 ผลการจดั กจิ กรรมการสอนของครู
1. สอนเนือ้ หาไดค๎ รบตามหลักสตู ร
2. แผนการสอนและวิธกี ารสอนครอบคลุมเนอื้ หาการสอนทําให๎ผ๎ูสอนสอนไดอ๎ ยาํ งมั่นใจ
3. สอนไดท๎ ันตามเวลาที่กาํ หนด

………………………………………………
ผ๎ูบนั ทกึ การสอน

44

สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี
33
ชอ่ื วชิ า : การบัญชีธุรกจิ ซ้ือขายสนิ ค้า รหสั วิชา 30201-0001

งาน : การบนั ทึกรายการเกีย่ วกบั สินค๎าในสมุดรายวันท่วั ไป แผนํ ท่ี 1/4

ความสาคญั ของเอกสารประกอบการบนั ทึกบญั ชี

ดว๎ ยตามมาตรา 8 แหงํ พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓ บญั ญตั ิใหผ๎ มู๎ หี นา๎ ทจ่ี ดั ทําบญั ชที ี่เปน็ หา๎ งหนุ๎ สวํ น
จดทะเบยี น บรษิ ทั จาํ กดั บรษิ ัทมหาชนจาํ กดั ทีจ่ ดั ตัง้ ข้นึ ตามกฎหมายไทย นิตบิ คุ คลทต่ี ั้งข้นึ ตามกฎหมายตาํ งประเทศที่
ประกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย และกิจการรํวมค๎าตามประมวลรัษฎากร (ซง่ึ ตํอไปในคูมํ อื จะใชค๎ าวํา “กิจการ”) ตอ๎ งจัดทาํ
บญั ชใี ห๎ครบถว๎ นถกู ต๎องตามมาตรฐานการบัญชี ประกอบกับ ตามมาตรา ๗ (๔) แหงํ พระราชบัญญัติการบญั ชี พ.ศ.
๒๕๔๓ และประกาศกรมทะเบยี นการค๎าเรื่อง กาํ หนดชนิดของบัญชีทต่ี อ๎ งจัดทํา ขอ๎ ความและรายการทีต่ อ๎ งมีในบัญชี
ระยะเวลาที่ต๎องลงรายการในบญั ชแี ละเอกสารทต่ี ๎องใช๎ประกอบการลงบญั ชี พ.ศ. ๒๕๔๔ หมวด 4 ขอ๎ 8 ไดก๎ าํ หนด
ประเภทของเอกสารทีใ่ ช๎ประกอบการลงบญั ชีไว๎ ๓ ประเภท คือ

๑. เอกสารทีต่ ๎องใชป๎ ระกอบการลงบญั ชีทจี่ ดั ทาํ ขน้ึ โดยบคุ คลภายนอก
๒. เอกสารทีต่ อ๎ งใช๎ประกอบการลงบัญชีทจ่ี ดั ทําขน้ึ โดยผู๎มีหน๎าที่จัดทําบญั ชีเพื่อออกให๎แกํบคุ คลภายนอก
๓. เอกสารที่ตอ๎ งใชป๎ ระกอบการลงบญั ชที จี่ ดั ทําขึน้ โดยผมู๎ ีหน๎าท่จี ดั ทาํ บัญชเี พ่ือใช๎ในกิจการของตนเอง
โดยท่ัวไปเอกสารที่ใชป๎ ระกอบการลงบัญชที ง้ั สามประเภทข๎างต๎นสามารถเปน็ รายจํายได๎ในทางภาษีอากร ได๎แกํ
ใบกาํ กับภาษี (กรณีผขู๎ ายหรอื ให๎บรกิ ารเป็นผป๎ู ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ูลคําเพิม่ ) หรือใบเสร็จรับเงนิ ท่มี ีรายการ
สมบูรณ์ ซ่ึงผ๎รู บั เงินคําสนิ ค๎าหรือบริการมีหนา๎ ทตี่ ๎องออกหลกั ฐานการรับเงนิ ใหแ๎ กํผจู๎ ํายเงินคําสนิ คา๎ หรือบรกิ ารในแตํ
ละคราว และผ๎ูจํายเงินคําสินค๎าหรอื บริการสามารถรอ๎ งขอให๎ผร๎ู ับเงินคําสินค๎าหรือบรกิ ารออกหลกั ฐานการรบั เงนิ
ได๎ด๎วยเชนํ กนั แตํกรมสรรพากรมักพบปัญหาวาํ เอกสารที่ใช๎ประกอบการลงบญั ชใี นบางกรณไี มสํ ามารถเปน็ รายจาํ ยทาง
ภาษไี ด๎ ท้ังท่กี ิจการได๎มรี ายจาํ ยจรงิ

เอกสารที่ออกให๎กับบคุ คลภายนอก

45

สาขาวิชา : การบญั ชี ใบความร๎ู หน๎าที่
34
ชื่อวชิ า : การบัญชธี ุรกจิ ซือ้ ขายสนิ คา้ รหสั วิชา 30201-0001

งาน : การบนั ทึกรายการเกย่ี วกับสินคา๎ ในสมดุ รายวันทั่วไป แผนํ ท่ี 2/4

เอกสารทีร่ บั จากบุคคลภายนอก
เอกสารทจ่ี ดั ทําขึ้นเพ่อื ใช๎ในกิจการ

46

สาขาวชิ า : การบัญชี ใบความรู๎ หนา๎ ท่ี
35
ชอ่ื วชิ า : การบญั ชธี รุ กิจซอื้ ขายสนิ คา้ รหสั วิชา 30201-0001

งาน : การบันทกึ รายการเกยี่ วกับสินค๎าในสมดุ รายวันท่ัวไป แผนํ ที่ 3/4

ความหมายและประเภทของสมุดรายวันข้ันต้น
สมุดรายวนั ขนั้ ตน๎ (book of original entry) หมายถงึ สมุดบญั ชีเลมํ แรกที่บนั ทกึ รายการคา๎ ทเ่ี กิดขนึ้ โดยบันทึก

เก่ียวกบั ชอ่ื บญั ชีท่เี ดบติ และชอ่ื บัญชีทีเ่ ครดติ หลังจากทไี่ ดผ๎ ํานการวเิ คราะห์รายการค๎าแล๎ว โดยเรยี งตามลําดับกํอนหลัง
ประเภทของสมุดรายวันขัน้ ต๎น

สมุดรายวนั ขน้ั ตน๎ แบงํ เปน็ 2 ประเภท ดังนี้
1. สมดุ รายวันเฉพาะ (special journal) เป็นสมุดรายวนั ที่ใชบ๎ ันทกึ รายการค๎าเฉพาะเรอ่ื งใดเรือ่ งหนึง่ เฉพาะ
เหมาะสาํ หรับกิจการซื้อขายสินค๎าและเป็นกิจการขนาดใหญดํ ังนี้

1.1 สมดุ รายวันซ้อื (purchases journal) ใช๎บนั ทกึ รายการทีเ่ กยี่ วกับการซอ้ื สนิ คา๎ เป็นเงินเช่ือเทํานนั้
โดยมีวัตถปุ ระสงคซ์ อ้ื มาเพื่อขาย

1.2 สมดุ รายวันขาย (sales journal) ใช๎บันทึกรายการค๎าเก่ียวกบั การขายสนิ คา๎ เปน็ เงนิ เช่ือเทาํ นนั้
1.3 สมุดรายวันสงํ คืนและสํวนลด (purchases return and allowances journal) ใช๎บนั ทกึ รายการค๎าท่ี
เกีย่ วกับการสงํ คืนสนิ ค๎าทีเ่ คยซื้อมาเปน็ เงินเช่ือเทาํ นัน้
1.4 สมุดรายวนั รับคืนและสวํ นลด (sales return and allowances journal) ใช๎บันทึกรายการคา๎ ท่ี
เกี่ยวกบั การรบั คืนสนิ คา๎ ท่ีเคยขายไปเปน็ เงนิ เชื่อเทาํ น้ัน
1.5 สมุดรายวนั รบั เงิน (cash receipts journal) ใชบ๎ ันทกึ รายการคา๎ เก่ยี วกบั การรบั เงนิ ในกรณตี ําง ๆ เชนํ
การรบั เงินจากการขายสนิ ค๎าและบรกิ าร การรับชาํ ระหนี้ เป็นตน๎ ซึ่งการรับเงินหมายรวมทงั้ เงนิ สดและเงินฝากธนาคาร
1.6 สมดุ รายวนั จาํ ยเงิน (cash payment journal) ใช๎บนั ทกึ รายการคา๎ เกี่ยวกบั การจํายเงนิ ในกรณตี าํ ง ๆ
เชํน การจาํ ยเงินซอื้ วสั ดสุ ํานกั งาน จํายคํานาํ้ ไฟฟ้า โทรศัพท์ เปน็ ต๎น ซ่ึงการจํายเงนิ นห้ี มายรวมถงึ การจํายเงินสดและ
การจาํ ยเชค็ (เงนิ ฝากธนาคาร)
2. สมดุ รายวนั ท่ัวไป (general journal) เป็นสมุดรายวนั ขนั้ ต๎นที่ใช๎บันทกึ รายการบัญชที บ่ี นั ทึกในสมุด
รายวนั เฉพาะไมไํ ด๎ (ในกรณีทก่ี จิ การใชส๎ มุดรายวนั ขั้นตน๎ ท้ัง 2 ประเภท) เชํน รายการเปดิ รายการ รายการปรับปรงุ บญั ชี
รายการปิดบัญชี เปน็ ตน๎ แตถํ า๎ เปน็ กจิ การขนาดเลก็ จะใชส๎ มดุ รายทัว่ ไปเปน็ สมุดรายวันข้นั ตน๎ เพียงเลํมเดยี ว สาํ หรับ
กิจการประเภทธุรกิจบรกิ ารจะใชส๎ มดุ รายวนั ทัว่ ไปเปน็ สมุดบันทกึ รายวันข้ันตน๎ เทาํ น้ัน

ผังบญั ชี
ผงั บญั ชี(chart of account) หมายถึงรายชอ่ื บญั ชีท้ังหมดของกิจการทีจ่ ดั หมวดหมูํและกําหนดเลขทห่ี รือรหัส

บญั ชีตามมาตรฐานโดยท่วั ไป ซง่ึ จะกําหนดประเภทของบัญชีเป็น 5 หมวดดังน้ี
1. สินทรัพย์ ใหเ๎ ป็น หมวด 1
2. หน้ีสนิ ให๎เป็น หมวด 2
3. สวํ นของเจ๎าของ ให๎เปน็ หมวด 3
4. รายได๎ ใหเ๎ ป็น หมวด 4
5. คําใช๎จาํ ย ให๎เป็น หมวด 5

47

สาขาวิชา : การบัญชี ใบความร๎ู หนา๎ ท่ี
36
ชอื่ วิชา : การบัญชธี รุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ รหสั วิชา 30201-0001

งาน : การบันทกึ รายการเกี่ยวกบั สนิ คา๎ ในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป แผํนที่ 4/4

การบนั ทึกบัญชเี ก่ียวกบั การซอื้ ขายสินคา้ ในสมุดรายวันท่ัวไป

การบนั ทึกบัญชเี กย่ี วกับการซ้อื ซื้อขายสนิ ค๎ามี 2 วิธี คอื วธิ ีบันทกึ บัญชีแบบตอํ เนื่อง (Perpetual Inventory
Method) และวธิ บี นั ทึกบัญชแี บบสิ้นงวด (Periodic Inventory Method) สาํ หรับกจิ การที่จดทะเบียนเขา๎ สูํ
ภาษีมูลคําเพ่มิ 7% มวี ธิ ีการบันทึกบัญชีดงั ตํอไปนี้