หู ฟัง ไร้สาย samsung ใช้กับ iphone

ในงาน Samsung Unpacked ครั้งล่าสุด นอกจากจะมีการแนะนำพรีเมี่ยมสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip และ Galaxy S20 series ยังมีการเปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ด้วย นั่นก็คือ Galaxy Buds+ และตอนนี้มาอยู่ในมือของ MacRumors แล้ว 1 คู่ เพื่อพรีวิวและเปรียบเทียบกับ AirPods และ AirPods Pro ของ Apple

MacRumors พบว่า Galaxy Buds+ มีความสวยงามเหมือนกับ Galaxy Buds แต่มีตำแหน่งไมโครโฟนเพิ่มเข้ามา และพื้วผิวของหูฟังด๋มีความมันเงาแทนที่จะเป็นผิวด้าน ส่วนขนาดเท่ากับ Galaxy Buds ความสบายในการสวมใส่จึงไม่ต่างจากรุ่นเดิม

ดีไซน์ในภาพรวมของ Galaxy Buds+ ใกล้เคียงกับ AirPods Pro‌ มากกว่า AirPods เนื่องจากมีจุกซิลิโคนสอดเข้าไปในหูฟังเหมือน ทำให้สวมใส่ได้อย่างกระชับ ห้องกันเสียงรบกวนได้ดี แต่ Galaxy Buds+ ไม่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบเดียวกับที่พบใน AirPods Pro

Galaxy Buds+ เน้นการปรับปรุงคุณภาพเสียงทั้งการฟังเพลง และสนทนา ให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นเป็น 11 ชั่วโมง

Galaxy Buds+ สามารถจับคู่กับ iPhone ได้ สามารถควบคุมการเล่นเพลงและกดข้ามเพลงได้จากการสัมผัสหูฟัง แต่ถ้าจับคู่ Galaxy Buds+ กับสมาร์ทโฟน Android จะสามารถปรับแต่งฟังก์ชั่นแตะค้างได้ เช่น แตะค้างเพื่อเปิดแอพ Spotify

Galaxy Buds+ ยังรองรับฟีเจอร์อ่านการแจ้งเตือนได้ เมื่อจับคู่กับสมาร์ทโฟน Android เหมือนกับที่ AirPods‌ ทำได้ เมื่อจับคู่กับ iPhone

สรุปการทดสอบ MacRumors บอกว่า Galaxy Buds+ ได้รับการปรับปรุงและให้เสียงที่ดีกว่า ‌AirPods แต่ก็ไม่ได้ดีกว่ามากนัก และเทียบไม่ได้กับ ‌AirPods Pro แต่การเปรียบเทียบกับ ‌AirPods Pro นั่นไม่ค่อยยุติธรรม เนื่องจาก ‌AirPods Pro มีราคาที่สูงกว่ามาก

เมื่อพูดถึงราคา Galaxy Buds+ วางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท มาพร้อมเคสชาร์จไร้สาย จึงมีราคาถูกกว่า AirPods และ AirPods Pro โดย AirPods มีราคาเริ่มต้น 5,990 บาท มาพร้อมเคสชาร์จแบบใช้สาย ส่วนรุ่นที่มาพร้อมเคสชาร์จแบบไร้สายมีราคา 7,490 บาท และ AirPods Pro ราคา 9,490 บาท

ทั้งนี้ Samsung ได้มอบ Galaxy Buds+ เป็นของแถมฟรี!! ให้กับผู้ที่สั่งจองสมาร์ทโฟน Galaxy S20+ กับ Galaxy S20 Ultra ในระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคม 2563 ผ่านทาง Samsung Experience Store, Samsung Online Shop และร้านค้าที่ร่วมรายการ

Samsung Galaxy Buds Pro ผลิตภัณฑ์หูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่พัฒนาขึ้นต่อยอดจากหูฟังไร้สายรุ่นก่อนๆ ของ Samsung ทำให้การฟังเพลงไร้เสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น

• Facebook iconFacebook
• Twitter iconTwitter
• LINE iconLine

Samsung Galaxy Buds Pro ผลิตภัณฑ์หูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung ที่พัฒนาขึ้นต่อยอดจากหูฟังไร้สายรุ่นก่อนๆ ของ Samsung ทำให้การฟังเพลงไร้เสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีดีไซน์แบบใหม่ ไม่ตามใคร ดูเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ Samsung ส่วนจะมีความโดดเด่นเหนือชั้นแค่ไหน มาแกะกล่องลองดูกันเลย

แกะกล่องลองฟัง Samsung Galaxy Buds Pro

ภายนอกกล่องของรุ่นนี้มาในแนวสีดำ โดยเป็นรูปหูฟังสีเดียวกับในกล่องอยู่ด้านหน้า กล่องหูฟังรุ่นนี้ยังคงมาในแนวกะทัดรัด และที่ด้านหลังกล่องจะบอกคุณสมบัติเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ 2-way Speaker ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า, มีระบบ Active Noise Cancelling, การใช้งานที่ยาวนาน และมาตรฐานกันน้ำ IPX7 มาดูกันว่าในกล่องจะมีอะไรให้บ้าง

• Galaxy Buds Pro สี Phantom Silver
• Charging Case
• สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
• Ear tips 3 ขนาด (ขนาดกลางติดกับหูฟัง)
• คู่มือการใช้งาน

สีของหูฟังรุ่นนี้มีให้เลือก 3 สี โดยสีที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Phantom Silver และยังมีสี Phantom Violet และ Phantom Black ให้เลือกอีกด้วย รวมไปถึงสีของ Charging case ด้วย

หูฟัง Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังประเภท In ear โดยมี Ear tips ให้เลือก 3 ขนาด สามารถเลือกเปลี่ยนได้ในกล่องอุปกรณ์ที่มีมาให้ ภายในกล่องจะมีขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ส่วนขนาดกลางจะเสียบไว้ที่หูฟังอยู่แล้ว หากรู้สึกว่าสวมใส่แล้วไม่พอดีก็สามารถถอดเปลี่ยนได้ทันทีเพียงแค่ดึง Ear tips ออกมาเบาๆ การใส่กลับก็จะต้องดูร่องที่บากให้ดีแล้วดันใส่เข้าไปได้เลย

Charging Case ไม่ได้เป็นสีเงินซะทีเดียว แต่เป็นสีออกฟ้าเล็กน้อย มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเท่าๆ กับ Galaxy Buds Live รุ่นก่อน ด้านหน้ามีไฟบอกสถานะของแบตเตอรี่ของเคสแบ่งออกเป็น 3 สี คือสีเขียว เหลือง และแดง ด้านหลังเป็นพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ด้านบนสกรีนโลโก้ Samsung Sound by AKG ส่วนด้านล่างเป็นส่วนของที่ชาร์จไร้สาย

และเมื่อเปิดเคสออกมาก็จะพบกับหูฟังทั้งสองข้างวางชาร์จอยู่ พร้อมไฟบอกสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง หากเป็นสีเขียวบ่งบอกว่าแบตเตอรี่เต็ม และหากเป็นสีแดงเป็นสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง และเมื่อหยิบหูฟังออกมาก็จะพบกับหน้าสัมผัสชาร์จแบตเตอรี่กับตัวหูฟัง

หูฟังสี Phantom Silver ด้านนอกใช้วัสดุเป็นโลหะสีเงินเงางาม ส่วนด้านในเป็นพลาสติกสีขาว ที่ตัวหูฟังด้านนอกมีช่องไมโครโฟนรับเสียงมาให้ถึง 2 ตัวสำหรับตัดเสียงรบกวน และบริเวณด้านนอกนี้ยังทำหน้าที่เป็นปุ่มแบบสัมผัสสำหรับแตะสั่งงานต่างๆ ด้วย 

ส่วนด้านในจะเป็นส่วนของลำโพงที่มี Ear tips ครอบอยู่ และเรายังเห็นจุดสีดำเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ และหน้าสัมผัสสำหรับชาร์จแบตเตอรี่เมื่อเก็บหูฟังเข้าไปในเคส

รองรับสมาร์ทโฟน Android และ iOS ด้วยแอพฯ Galaxy Wearable

Galaxy Buds Pro สามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ทั้ง Android และ iOS เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพฯ Galaxy Wearable หากต้องการใช้งานให้เต็มฟังก์ชั่น เต็มประสิทธิภาพควรจะใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy จะใช้งานได้ครบกว่า 

โดยเฉพาะการเชื่อมต่อจะง่ายขึ้นหากใช้งานร่วมกับ Samsung เมื่อเปิดฝาหูฟังขึ้นมาจะมี Pop up แจ้งเตือนให้เชื่อมต่อทันที หรือหากไม่มีก็สามารถเข้าแอพฯ เพื่อเชื่อมต่อได้เลย เพียงแค่เลือกอุปกรณ์ให้ตรงกัน เมื่อเชื่อมต่อแล้วอาจจะมีให้อัพเดทก็สามารถกดอัพเดทได้ทันที

Galaxy Wearable สามารถใช้ควบคุม ปรับแต่งการใช้งาน Buds Pro ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดูระดับแบตเตอรี่ทั้งหูฟัง หรือ Charging Case, เปิด/ปิดระบบตัดเสียงรบกวน, ปรับโทนเสียง หรืออีควอไลเซอร์ของหูฟังได้, ปรับแต่งรูปแบบการแตะสั่งงานที่ตัวหูฟัง ไม่ว่าจะเป็นการหยุดเพลง/เล่นเพลง/ข้ามเพลง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งค้นหาหูฟังได้หากอยู่ในระยะเชื่อมต่อของบลูทูธ โดยตัวหูฟังจะส่งเสียงเบาๆ ออกมาให้เราได้ยิน แต่จะต้องอยู่ในที่เงียบๆ หน่อยจึงจะได้ยิน แต่หากอยู่ในที่เสียงอึกทึกอาจจะไม่ได้ยินเสียงจากหูฟังได้

ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่ Pro กว่าเดิม

ในเรื่องของระบบตัดเสียงรบกวนของหูฟังรุ่นนี้ก็ทำได้เหนือชั้นกว่าเดิม โดยตามสเป็คสามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 99% ซึ่งจากการใช้งานถือว่าสามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่า Galaxy Buds Live รุ่นก่อน ด้วยเพราะหูฟังเป็นแบบ In ear ที่ปิดกั้นเสียงจากภายนอกได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว ยังมีระบบ Active Noise Cancelling ที่เข้ามาช่วยตัดเสียงรบกวนได้อีก จึงทำให้แทบจะไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเลยก็ว่าได้ แต่จากการทดสอบก็ยังพอมีเสียงอื่นๆ เล็ดลอดเข้ามาได้ ส่วนเสียงโทนต่ำอย่างเสียงแอร์ เสียงเครื่องยนต์ถูกตัดจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่หากไม่ต้องการระบบตัดเสียงรบกวนก็สามารถปิด หรือเปิดโหมด Ambient sound ซึ่งจะช่วยให้ได้ยินเสียงภายนอกได้ชัดเจนขึ้น เหมาะกับการใช้งานนอกบ้าน หรือเดินริมถนนที่ต้องคอยระวัง และฟังเสียงรอบข้างด้วย

ระบบตัดเสียงรบกวนขณะสนทนาของรุ่นนี้ทำได้ค่อนข้างดี ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตัดเสียงได้ทั้งหมดจนเงียบ แต่ก็ถือว่าตัดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการใช้งานโทรศัพท์ก็ให้เสียงชัดเจน และเสียงฝ่ายสนทนาก็ได้ยินเสียงของเราชัดเจนด้วยเช่นกัน 

นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน แต่เสียงจะดังที่อุปกรณ์เครื่องเดียวเท่านั้น ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือระบบ Auto Switch ซึ่งหากเราใช้งานกับแท็บเล็ตเพื่อฟังเพลง หรือดูหนัง แต่โทรศัพท์ดังที่สมาร์ทโฟน ระบบก็จะตัดการทำงานไปรับโทรศัพท์ได้แบบไร้รอยต่อ สะดวกมากๆ เมื่อใช้งานร่วมกับหลายอุปกรณ์

ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียง 360 องศา เล่นเกมได้ไม่มีดีเลย์

ด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงเสมือนจริงรอบทิศทาง 360 องศา จึงทำให้การดูหนัง ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้น และด้วยเทคโนโลยี Dolby Head Tracking™ พร้อมเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวอัจฉริยะที่สามารถระบุทิศทางของเสียงขณะที่ขยับศีรษะ ทำให้การดูหนังที่มีระบบเสียง Dolby Atmos สมจริงมากยิ่งขึัน

สำหรับการ Galaxy Buds Pro ในการฟังเพลงคงจะไม่มีปัญหาเรื่องเสียงดีเลย์เท่าใดนัก แต่สำหรับการใช้ดูหนัง หรือเล่นเกม เสียงจะค่อนข้างดีเลย์พอสมควร ทาง Samsung จึงมีฟีเจอร์ Game mode ที่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงดีเลย์ได้ เพียงแค่เปิดแอพฯ Galaxy Wearable แล้วเข้าไปที่เมนู Labs แล้วเปิดโหมดเกม เสียงก็แทบจะไม่ดีเลย์เลย เรียกได้ว่าดีเลย์น้อยมากๆ ไม่เป็นปัญหาสำหรับการเล่นเกม ดูหนังแล้วเสียงไม่ตรง

บทสรุป Galaxy Buds Pro จากความเห็นของ What Phone

Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังไร้สายอีกรุ่นหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเป็นหูฟังที่เสียงดีที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงทุ้ม กลาง แหลมก็ทำออกมาได้ดีครบทุกย่าน สามารถปรับเสียงได้ตามต้องการด้วยแอพฯ Galaxy Wearable มีระบบตัดเสียงที่เยี่ยมยอดจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก ตัวหูฟังสวมใส่สบายไม่รู้สึกอีดอัดหูมากนัก สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้อย่างยาวนาน สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,990 บาท อาจจะดูแพงไปสักนิด แต่เพื่อการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมที่ได้สมจริง ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น ่และฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ มากมายก็ถือว่าคุ้มค่า หากจะหาซื้อมาเป็นหูฟังคู่กายรุ่นต่อไป