หลวง ปู่ทวด หลังหนังสือ ท. ใหญ่ ราคา

เปิดตำนาน "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" ทรงอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง

Photo Credit : Wanich Jewelry

ความนิยมในการบูชาพระเครื่องดำเนินมาอย่างต่อเนื่องถึงหลายร้อยปี นอกจากจะเกิดขึ้นเพราะผู้เช่าบูชาต้องการหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และปกป้องให้แคล้วคลาดจากภัยต่าง ๆ แล้ว ยังเกิดจากความชื่นชอบในพุทธศิลป์ ความศรัทธาในพุทธคุณหรือพุทธศาสนา และความศรัทธาในตัวผู้สร้างหรือเกจิอาจารย์ด้วย และหนึ่งในตำนานพระเครื่องที่หลาย ๆ คนให้ความศรัทธาอย่างแพร่หลายก็คือ "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" หรือที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่าหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดนั่นเอง หลวงปู่ทวดองค์นี้จะมีความเป็นมาอย่างไร ? แล้วมีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง ? เราลองไปติดตามพร้อมกันเลยดีกว่า

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ (หรือสมเด็จเจ้าพะโคะ, หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด, สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์) เป็นที่รู้จักกันดีในประเทศไทยจากตำนานท้องถิ่นซึ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานในทางประวัติศาสตร์ยืนยันความมีอยู่จริง ประวัติที่พิมพ์เผยแพร่กล่าวว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รูปสำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ในตำนานที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก รูปสำคัญ 1 ใน 2 มหาเกจิอาจารย์ของเมืองไทยคู่กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (หลวงปู่โต) ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์

หลวงปู่ทวดมีนามเดิมว่า “ปู” เป็นบุตรของนายหู และ นางจัน ชาวบ้านวัดเลียบ ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าบิดามารดาของเด็กชายปูนั้นเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “ปาน” อีกด้วย เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ (พ.ศ. 2132) บิดามารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัด เพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎหลวง หรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ต่อมาสมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี

ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลา สมภารจวงได้นำสามเณรปูไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้น สมัยนั้นเรียกว่ามูลบทบรรพกิจ ปัจจุบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเรียนหนังสือให้สูงขึ้น โดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียน และมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก รวมทั้งได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นราคาแพงที่สุดคือรุ่นไหน ?

ไม่น่าเชื่อว่าด้วยระยะเวลาแค่ไม่กี่สิบปี เหรียญหลวงปู่ทวดในรุ่นแรกที่มอบให้ผู้บริจาคทรัพย์สร้างอุโบสถที่ตกเหรียญละ 20 บาทจะทวีมูลค่าขนาดนี้ ซึ่งหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ราคาแพงที่สุดที่ว่านี้ก็คือ "พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕" หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า เบตง ๑ โดยเฉพาะหมายเลข 999 ทั้งนี้มีการตั้งประเมินค่านิยมไว้ว่าหากใครอยากได้พระหลวงปู่ทวด รุ่นเลขใต้ฐาน ปี ๐๕ หมายเลข 999 ต้องใช้เงินเช่าอย่างน้อย 15 ล้านบาทเลยทีเดียว เหตุผลของค่านิยมที่ทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นก็คือ เนื้อนวโลหะที่นำมาหล่อขึ้นรูปเทได้ดีมาก เลขตัวเดียวแพงกว่า 2 ตัว เลข 2 แพงกว่า 3 ตัว นอกจากจากนี้ถ้าเป็นเลขมงคลก็จะเแพงขึ้นไปอีก และเป็นเรื่องอำนาจพุทธคุณและบารมีคุณของหลวงปู่ทวด ที่นำส่งให้ผู้บูชามีประสบการณ์แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายนานัปการ จนเป็นที่กล่าวขานถึงกันอย่างไม่รู้จบ

เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นนี้มีบล็อกเดียวคือ บล็อกที่ปรากฏอยู่ในรูปทรงเสมา และแน่นอนว่ามีการปลอมแปลงนั้นมีมาแน่นอน เพราะฉะนั้นหากท่านจะเช่าบูชาหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ควรพิจารณาให้รอบคอบ หรือควรปรึกษาผู้ชำนาญการ สำหรับเหรียญนี้แม้ไม่ใช่เหรียญสวยเต็มร้อย แต่จัดว่าเป็นเหรียญสภาพเดิม ที่กะไหล่เงินก็ยังคงมีอยู่ และมีเสน่ห์ตรงเป็นบล็อกเขยื้อน จึงเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของคุณบุญรอด ทองดี นักธุรกิจตกแต่งภายในอัธยาศัยดีแห่งเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ มรณภาพปีไหน ?

หลวงปู่ทวดได้มรณภาพลงในวันที่ 6 มีนาคม 2225 อายุกาลครบ 100 ปี ที่เมืองไทรบุรี ซึ่งเดิมเคยเป็นหัวเมืองทางใต้ของไทย แต่ตกเป็นของอังกฤษตามสนธิสัญญาที่ทำกันเมื่อปี พ.ศ. 2451 แต่ข้อมูลบางแหล่งยังระบุว่ามีวัดหลวงปู่ทวดตั้งอยู่ในพื้นที่เมืองเล่งกง อ.กริ๊ก รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ที่นี่เคยถูกบันทึกไว้ว่าเป็นสถานที่ที่หลวงปู่ทวดมรณภาพเช่นกัน โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำสุไหงบ๊ะห์ และสุไหงเกอร์นาริงค์ ต.เกอร์นาริงค์ อ.กริ๊ก มีชื่อเรียกว่า “สมีมาตี” และมีการสร้างสถูปหลวงพ่อทวดไว้ที่ริมแม่น้ำเกอร์นาริงค์

ภายหลังจากที่ท่านมรณภาพ ลูกศิษย์ลูกหาก็ได้ทำตามสิ่งที่หลวงปู่ได้สั่งเสียไว้ จึงมีการเคลื่อนย้ายสังขารหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาจนถึง จ.ปัตตานี โดยผ่านเส้นทางพักการเคลื่อนย้าย จากมาเลเซียถึงปัตตานีถึง 18 จุด ด้วยกัน เช่น จุดที่ 1 คือสถานที่มรณภาพริมฝั่งน้ำสุไหงเกอร์ และสุไหงเกอร์นาริง รัฐเปรัค, จุดที่ 4 สถานที่พักศพโคกเมรุ อำเภอบาลิง รัฐเคดะห์, จุดที่ 16 สถานที่พักศพบ้านถ้ำตลอด ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นต้น

หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ช่วยดลบันดาลให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ชาวใต้จะนิยมนำองค์หลวงปู่ทวดกลัดไว้กับเสื้อของทารกเพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคล อีกทั้งสวดบทคาถาของหลวงปู่เมื่อต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ที่สวดบูชาเพื่อขอให้บารมีของหลวงปู่ทวดคุ้มครอง แต่จะต้องเป็นผู้ประพฤติดี ปฏิบัติดี อยู่ในศีลธรรม และดำเนินชีวิตด้วยการทำมาหากินที่สุจริตด้วย หากคุณกำลังอยากเช่าหลวงปู่ทวดล่ะก็ มาลองเช็คราคา เปรียบเทียบราคาหลวงปู่ทวดจากร้านค้าออนไลน์ทั่วประเทศ เลือกเช่าพระเครื่องหลากหลายรุ่น และอัพเดทส่วนลดโปรโมชั่นมากมายได้ที่ iPrice Thailand