กองคลังมีหน้าที่ความรับผิดชอบ เกี่ยวกับงานการจ่าย การรับ การนำส่งเงิน การเก็บรักษาเงิน และเอกสาร ทางการเงินอื่นๆ งานเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณทางการเงิน การจัดสรรงบประมาณต่างๆ การจัดทำบัญชีทุกประเภท ทะเบียนคุมเงินได้และรายจ่ายต่างๆ งานทำงบทดลองประจำเดือน ประจำปี การจัดเก็บภาษี งานแผนที่ภาษี งานเกี่ยวกับเทศบาลและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้รับมอบหมาย กองคลัง แบ่งส่วนราชการภายใน ดังนี้ 1. ฝ่ายบริหารงานคลัง มีหน้าที่ควบคุมและดูแลรับผิดชอบการปฏิบัติงานในหน้าที่ ประกอบด้วย 1.1 งานการเงินและบัญชี มีหน้าที่ - ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินทุกประเภท - งานควบคุมและจัดทำทะเบียนงบประมาณรายจ่าย - งานจัดทำเช็คและจัดเก็บเอกสารการจ่ายเงิน - งานการจ่ายเงินและตรวจสอบหลักฐานใบสำคัญจ่าย - งานจัดทำบัญชีและทะเบียนที่เกี่ยวข้องทุกประเภท - งานจัดทำรายงานประจำวัน ประจำเดือน ประจำปี และรายงานอื่นๆ - งานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย 1.2 งานพัสดุและทรัพย์สิน มีหน้าที่ - งานการซื้อและการจ้าง - งานการซ่อมและบำรุงรักษา - งานการจัดทำทะเบียนพัสดุ - งานทางการตรวจสอบและรับจ่ายพัสดุ และการเก็บรักษาพัสดุ - งานการควบคุมและจำหน่ายพัสดุ - งานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมาย 2. ฝ่ายพัฒนารายได้ มีหน้าที่ความรับผิดชอบ การปฏิบัติงานประกอบด้วย 2.1 งานผลประโยชน์ มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ - งานจัดทำประกาศให้มายื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินเพื่อชำระภาษี - งานตรวจสอบและจัดทำบัญชีที่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีในปีงบประมาณจัดเก็บจาก ทะเบียนคุมผู้ชำระภาษี (ผ.ท.5) - งานรับและตรวจสอบแบบแสดงรายการทรัพย์สิน หรือแบบคำร้องของผู้เสียภาษี ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ - งานพิจารณาการประเมินและกำหนดค่าภาษี ค่าธรรมเนียมในเบื้อต้น เพื่อนำเสนอพนักงานเจ้าหน้าที่ - การแจ้งผลการประเมินภาษีแก่ผู้เสียภาษี - งานจัดเก็บและรับชำระเงินรายได้จากภาษีอากร ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่น - งานลงรายการเกี่ยวกับภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีบำรุงท้องที่ และภาษีป้าย ในทะเบียนเงินผลประโยชน์ และทะเบียนคุมผู้ชำระภาษี (ผ.ท.5) ของผู้เสียภาษีแต่ละรายเป็นประจำทุกวัน - งานดำเนินงานเกี่ยวกับการพิจารณาอุทธรณ์ภาษี - งานเก็บรักษา และการนำส่งเงินประจำวัน - งานเก็บรักษาและเบิกจ่ายแบบพิมพ์ต่างๆ - งานเก็บรักษาเอกสารและหลักฐานการเสียภาษี ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่น - งานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือตามที่ได้รับมอบหมาย - งานทำหนังสือแจ้งให้ผู้อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีทราบล่วงหน้า - งานตรวจสอบและจัดทำบัญชีรายชื่อของผู้ไม่ยื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินหรือ คำร้องภายในกำหนด และรายชื่อผู้ไม่ชำระภาษี ค่าธรรมเนียมและรายได้อื่นๆ ภายในกำหนดของแต่ละปี - งานจัดทำหนังสือแจ้งเตือนแก่ผู้เสียภาษี กรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินภายในกำหนด - งานจัดทำหนังสือแจ้งเตือนแก่ผู้เสียภาษี กรณีไม่มาชำระภาษี ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นภายในกำหนด - งานประสานงานกับฝ่ายนิติกร เพื่อดำเนินคดีแก่ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายภาษีท้องถิ่น (ไม่ยื่นแบบฯ และไม่ชำระภาษี) โดยเสนอให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการ - งานเกี่ยวกับการดำเนินการยึดอายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน - งานประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการเร่งรัดรายได้ - งานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือตามที่ได้รับมอบหมาย 2.2 งานแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ - จัดทำแผนที่ภาษีและทะเบียนทรัพย์สิน - ปรับข้อมูลเกี่ยวกับที่ดิน โรงเรือน ป้ายและการประกอบการค้า - สำรวจข้อมูลภาคสนามให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน - อำนวยความสะดวกการนำข้อมูลไปใช้พัฒนาท้องถิ่นด้านอื่น การจัดเก็บและการจัดหารายได้ 1. ภาษีท้องถิ่นจัดเก็บเอง ได้แก่
2. ภาษีท้องถิ่นมอบให้รัฐจัดเก็บแทน ได้แก่
3. ภาษีที่รัฐจัดเก็บแล้วมอบให้ท้องถิ่นทั้งจำนวน ได้แก่
คำแนะนำการชำระภาษี 1. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีโรงเรือนและที่ดิน หมายถึง ภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นๆ กับที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน ได้แก่ โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างและที่ดินซึ่งใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างนั้น และปีที่ผ่านมาได้มีการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินนั้น เช่น บ้านเช่า อาคาร ร้านค้า ตึกแถว บริษัท ธนาคาร โรงแรม โรงภาพยนต์ แฟลต อพาร์ตเมนท์ หอพัก ท่าเรือ คอนโดมิเนียม โรงเรียนสอนวิชาชีพ ฟาร์มสัตว์ สนามกอล์ฟ โรงงานอุตสสาหกรรมสนามม้า สนามมวย บ่อนไก่ บ่อนปลา คลังสินค้า ให้ญาติ บิดา มารดา บุตร หรือผู้อื่นอยู่อาศัย หรือใช้ประกอบกิจการอื่น ๆ เพื่อหารายได้ อัตราภาษี **ร้อยละ 12.5 ของค่ารายปี การยื่นแบบประเมินและการชำระภาษี 1. เจ้าของทรัพย์สินหรือผู้รับมอบอำนาจยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินทรัพย์สิน (ภ.ร.ด.2) ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี 2. พนักงานเจ้าหน้าที่จะแจ้งการประเมินให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีทราบว่าจะต้องเสียภาษีเป็นจำนวนเท่าใด (ภ.ร.ด.8) 3. ผู้รับการประเมินต้องชำระเงินค่าภาษีภายใน 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแบบแจ้ง การประเมิน (ภ.ร.ด.8) การอุทรณ์ หากผู้รับการประเมินไม่พอใจในการประเมินให้ยื่นคำร้องขออุทรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแบบแจ้ง การประเมิน (ภ.ร.ด.8) อัตราโทษและค่าปรับ 1. ผู้ใดละเลยไม่ยื่นแบบแสดงรายการมีความผิดโทษปรับไม่เกิน 200 บาท และเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ไม่เกิน 10 ปี 2 ผู้ใดยื่นแบบแสดงรายการไม่ถูกต้องตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์ มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเรียกเก็บภาษีย้อนหลังได้ไม่เกิน 5 ปี 3. ถ้าชำระค่าภาษีเกินกำหนด 30 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ให้เสียเงินเพิ่มดังนี้ - ไม่เกิน 1 เดือน เสียเพิ่ม 2.5 % - เกิน 1 เดือน แต่ไม่เกิน 2 เดือน เพิ่ม 5% - เกิน 2 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน เพิ่ม 7.5% - เกิน 3 เดือน แต่ไม่เกิน 4 เดือน เพิ่ม 10% - เกิน 4 เดือน ขึ้นไป ให้ยึด อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน โดยมิต้องขอให้ศาลสั่งหรือหมายยึด 2. ภาษีบำรุงท้องที่ เป็นภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินผู้ครอบครองที่ดินหรือผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามเอกสารสิทธิ์ต่าง ๆ อัตราภาษี การยื่นแบบแสดงรายการที่ดินและชำระภาษี 1. ให้เจ้าของที่ดิน ผู้ครองครองที่ดิน ยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท.5) และชำระภาษีปีละครั้ง ตั้งวันที่ 1 มกราคม ถึง 30 เมษายน ของทุกปี 2. ผู้ที่ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ใหม่หรือเนื้อที่ดินเปลี่ยนแปลง ให้ยื่นแบบแสดงรายการที่ดิน (ภ.บ.ท.5) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่โอนกรรมสิทธิ์ อัตราโทษและค่าปรับ 1. ไม่ยื่นแบบภายในกำหนดเสียเงินเพิ่ม 10 % ของค่าภาษี 2. ยื่นรายการไม่ถูกต้อง ค่าภาษีน้อยลงเสียเงินเพิ่ม 10% ของค่าภาษีประเมินเพิ่มเติม 3. ชี้เขตแจ้งจำนวนเนื้อที่ดินไม่ถูกต้อง ค่าภาษีน้อยลง ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 1 เท่า ของค่าภาษีประเมินเพิ่มขึ้น 4. ชำระภาษีเกินกำหนดวันที่ 30 เมษายน ต้องเสียเงินเพิ่ม 24 % ต่อปีของค่าภาษี เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน 3. ภาษีป้าย เป็นภาษีที่จัดเก็บจากป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายการค้า หรืโฆษณา หรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษรภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึก หรือทำให้ปรากฎด้วยวิธีอื่น อัตราภาษี 1. ป้ายที่มีอัตราไทยล้วน คิดอัตรา 3 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร 2. ป้ายที่มีอักษรไทยปนอักษรต่างประเทศ หรือปนกับภาพและหรือเครื่องหมายอื่น คิดอัตรา 20 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร 3. ป้ายดังต่อไปนี้ คิดอัตรา 40 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร - ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย ไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ - ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วน หรือทั้งหมดอยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ 4. ป้ายที่คำนวณพื้นที่และประเภทของป้ายแล้วเสียภาษีต่ำกว่า 200 บาท ให้เสียในอัตรา 200 บาท การยื่นแบบประเมินและการชำระภาษี เจ้าของป้ายซึ่งจะต้องเสียภาษีป้าย ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม ของทุกปี โดยเสียเป็นรายปี ยกเว้นป้ายที่เริ่มติดตั้งหรือแสดงในปีแรกให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายใน 15 วัน ชำระภาษีป้ายภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมินจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การอุทรณ์ อัตราโทษและค่าปรับ 1. ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายภายในเดือนมีนาคม หรือหลังติดตั้งป้าย 15 วัน เสียเงินเพิ่ม 10 % ของค่าภาษี 2. ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายโดยไม่ถูกต้อง ทำให้ค่าภาษีน้อยลงต้องเสียเงินพิ่ม 10 % ของค่าภาษีประเมินเพิ่มเติม 3. ไม่ชำระเงินภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน เสียเงินเพิ่ม 2 % ต่อเดือน ของค่าภาษี เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน 4. ผู้ใดจงใจไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท 5. ผู้ใดไม่แจ้งการรับโอนป้าย ภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันรับโอนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 - 10,000 บาท 6. ผู้ใดไม่แสดงชื่อ–ที่อยู่ เจ้าของป้ายเป็นอักษรไทยให้ชัดเจนที่มุมขวาด้านล่างของป้าย ซึ่งติดตั้งบนอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น และมีพื้นที่เกิน 2 ตารางเมตร ต้องระวางโทษปรับวันละ 100 บาท เรียงรายวันตลอดระยะเวลาที่กระทำความผิด 7. ผู้ใดโดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้ถ้อยคำเท็จ ตอบคำถามด้วยถ้วยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดงเพื่อหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีป้าย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |