มะม่วงหาวมะนาวโห่ (ภาษาอังกฤษ : Bengal currants) เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ออกผลรวมกันเป็นช่อ ลักษณะคล้ายมะเขือเทศราชินี ผลสุกมีสีแดง สามารถรับประทานได้ ผลไม้ชื่อแปลกชนิดนี้มีความเป็นมาอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้าง ติดตามได้จากบทความนี้ Show
ประวัติ และที่มาของชื่อ "มะม่วงหาวมะนาวโห่" ผลไม้ชื่อแปลกจากวรรณคดีไทยผลไม้ชื่อแปลก "มะม่วงหาวมะนาวโห่" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carissa carandas L. พบมากในแถบพื้นที่เขตอบอุ่น เช่น ประเทศอินเดีย ศรีลังกา พม่า ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีน จัดเป็นผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่ที่ใช้ทำอาหารและมีสรรพคุณทางยา คนไทยบางส่วนเรียกมะม่วงหาวมะนาวโห่ว่า "หนามแดง" เนื่องจากลำต้นมีหนามจำนวนมากนั่นเอง คนไทยสมัยก่อนนิยมใช้ "มะม่วงหาวมะนาวโห่" ทำเป็นยาสมุนไพร สำหรับรักษาอาการต่างๆ โดยตั้งชื่อตามพืชที่ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยเรื่อง "พระรถเมรี" หรือนางสิบสอง ซึ่งกล่าวถึงผลไม้ชนิดหนึ่ง มีรสเปรี้ยวจัด หากกำลังง่วงนอน เมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าทันที จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ไม้แปลกๆ ชนิดนี้
ประโยชน์ของมะม่วงหาวมะนาวโห่มะม่วงหาวมะนาวโห่ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งมีสรรพคุณทางยา ช่วยรักษาโรคและบรรเทาอาการต่างๆ แทบทุกส่วนของต้นมะม่วงหาวมะนาวโห่ สามารถนำมาทำเป็นสมุนไพรได้ ดังนี้
มะม่วงหาวมะนาวโห่ กินเวลาไหน ใช้ทำอะไรได้บ้าง?ส่วนใหญ่จะนิยมกินผลของมะม่วงหาวมะนาวโห่ โดยเลือกผลที่กำลังสุกแดงก่ำ นำมาล้างให้สะอาด มาต้มทำเป็นเครื่องดื่มคลายร้อน ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น รวมถึงดัดแปลงเป็นมะม่วงหาวมะนาวโห่ปั่น และนำไปถนอมอาหารด้วยวิธีแช่อิ่ม, เชื่อม, กวน แช่ตู้เย็นเก็บไว้กินก็ได้เช่นกัน มะม่วงหาวมะนาวโห่ สามารถนำมากินเวลาไหนก็ได้ บ้างก็เลือกกินหลังมื้ออาหาร บ้างก็กินก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินไปใช้ แต่ทั้งนี้ ไม่ควรกินพร้อมยา เนื่องจากอาจไปยับยั้งประสิทธิภาพการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกายได้
มะม่วงหาวมะนาวโห่ คนท้องกินได้ไหม?สตรีมีครรภ์ คนท้องสามารถกินมะม่วงหาวมะนาวโห่ได้ แต่ไม่ควรกินปริมาณมากเกินไป เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ถ่ายท้อง จนร่างกายขาดน้ำ หรืออ่อนเพลียได้ ส่วนข้อความที่มักแชร์ต่อๆ กันบนโลกออนไลน์ว่า หากคนท้องกินมะม่วงหาวมะนาวโห่ แล้วจะแท้งนั้น ไม่เป็นความจริง ให้กินได้ แต่ไม่ควรเยอะเกินไปนั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามะม่วงหาวมะนาวโห่ จะอุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา และมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรคเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาตามกระบวนการทางการแพทย์ ย่อมเป็นผลดีและปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่าการกินพืชสมุนไพรเพื่อรักษาโรคต่างๆ เพียงอย่างเดียว Skip to content
❝ ถ้าจะพูดถึงผลไม้ในบ้านเราที่ให้สรรพคุณทางยาก็มีอยู่หลากหลายชนิด แต่มีอยู่ชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกสะดุดหูซะเหลือเกิน คือ “มะม่วงหาวมะนาวโห่” หลายคนที่เคยได้ยินชื่อนี้ ก็อาจจะสงสัย สรุปแล้วมันเป็นมะม่วง หรือเป็นมะนาว แล้วทำไมต้องทั้งหาวและร้องโห่? มีสรพพคุณอย่างไรบ้าง? ในบทความนี้ SGE ขอพาไปรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้ให้มากขึ้นกัน… ❞
ในความเป็นจริงแล้วผลไม้ชนิดนี้ ไม่ได้เป็นทั้งมะม่วง และมะนาวแต่อย่างใด ซึ่งที่มาของชื่อนั้นก็ถูกตั้งโดยนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร โดยระบุไว้ว่าที่ตั้งชื่อนี้ เพื่อให้คล้องกับชื่อผลไม้ในวรรณคดี เรื่อง นางสิบสอง ตอน พระรถเมรี ที่ความตอนหนึ่งของเรื่องได้พูดถึงผลไม้สดที่มีรสชาติเปรี้ยวจัด ที่ว่าทำให้คนที่ง่วงนอนอยู่รู้สึกกระชุ่มกระชวย และตื่นตัวขึ้นมาในทันควันนั่นเอง วิธีการปลูกและการดูแลรักษามะม่วงหาวมะนาวโห่มะม่วงหาวมะนาวโห่ มักนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกและผลที่สวยงาม และออกดอกตลอดปี ทนต่อสภาพอากาศได้ดี จึงพบว่าเจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อน และเขตอบอุ่น อีกทั้งยังสามารถเติบโตได้ดีในเขตดินทราย และในดินเกือบทุกชนิด ตั้งแต่ดินเค็มไปจนถึงดินเปรี้ยว แต่มะม่วงหาวมะนาวโห่จะให้ผลผลิตที่ดีในสภาพดินที่มีความสมบูรณ์ และต้องมีการระบายน้ำที่ดีด้วย เพราะเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อยมาก การขยายพันธุ์นิยมขยายพันธุ์มะม่วงหาวมะนาวโห่ด้วยเมล็ด ซึ่งเมล็ดของพืชชนิดนี้มีอายุการเก็บรักษาสั้น ดังนั้น หลังจากแยกเมล็ดออกจากผลแล้ว จึงควรเพาะพันธุ์เมล็ดทันที ซึ่งการเพาะปลูกนิยมทำในโรงเรือนช่วงเดือนสิงหาคม และต้องย้ายเมื่อต้นกล้าอายุได้ 1 ปี การเก็บเกี่ยวผลผลิตผลของมะม่วงหาวมะนาวโห่จะเริ่มแก่เมื่อมีอายุได้ 100-110 วัน หลังจากติดผล จากนั้นจะเริ่มสุก สังเกตได้ว่าผลจะเริ่มนุ่ม และเปลี่ยนไปสีม่วงเข้ม รวมเวลาแล้วประมาณ 120 วันหลังติดผล ซึ่งควรเก็บผลไว้ในที่ร่ม โดยสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 1 สัปดาห์ ส่วนระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวนั้น จะมีส่วนสำคัญต่อการรักษาปริมาณสารสำคัญ และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่าการเก็บเกี่ยวผลสุกจะให้สารต้านอนุมูลอิสระได้สูงที่สุด ความเป็นพิษของมะม่วงหาวมะนาวโห่ยังไม่มีรายงานความเป็นพิษจากการใช้มะม่วงหาวมะนาวโห่ แต่น้ำยางสีขาวอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรืออาการแพ้ได้ ดังนั้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหากจำเป็นต้องสัมผัสให้รีบทำความสะอาดทันที 🤔 รู้หรือไม่? มะม่วงหาวมะนาวโห่นั้นเป็นพืชคนละชนิดกัน!จากผู้ที่นิยมสมุนไพรให้ความรู้กับเราเพิ่มเติมว่า มะม่วงหาว มะนาวโห่ นั้นสามารถใช้ประโยชน์ได้จากทุกส่วนของลำต้น อีกทั้งยังมีส่วนน้อยที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นั้นเป็นคนละต้น หรือเป็นพืชคนละชนิด คนละสายพันธุ์กัน โดย มะม่วงหาว คือ มะม่วงหิมพานต์ ส่วน มะนาวโห่ คือ หนามแดง ซึ่งพืชทั้ง 2 ชนิดนี้ มีสรรพคุณเพียบ และช่วยบำรุงร่างกายได้ดีไม่แพ้กันเลยทีเดียว ข้อมูลจาก องค์กรสวนพฤกษาศาสตร์ ได้อธิบายขยายความแตกต่างของพืชทั้ง 2 ชนิดนี้ ดังนี้
มะม่วงหาว คืออะไร?มะม่วงหาว หรือชื่อเรียกจริง ๆ คือ มะม่วงหิมพานต์ เป็นไม้ต้นขนาดกลางที่สามารถสูงได้ถึง 10 เมตร มีใบเป็นสีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นช่อหลวม ๆ สีแดงอมม่วง หรือสีครีม มีกลิ่นหอมออกเอียน ๆ โดยที่แต่ละดอกจะมี 5 กลีบ เมื่อดอกแก่ ฐานรองดอกก็จะขยายใหญ่ขึ้น มีลักษณะคล้ายกับชมพู่ยาวประมาณ 6-7 เมตร มีสีเหลืองอมชมพู เมื่อแก่จัดก็จะมีกลิ่นหอม มีเมล็ด 1 เมล็ดติดอยู่ที่ส่วนปลายเป็นสีน้ำตาลอมเทา มีเปลือกแข็งหุ้ม เรียกว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์ นั่นเอง สรรพคุณทางยาของมะม่วงหาว
มะนาวโห่ คืออะไร?มะนาวโห่ หรือชื่อเรียกจริง ๆ คือ หนามแดง เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรืออาจเรียกว่าเป็นไม้ต้นขนาดเล็กก็ได้ มีความสูงเพียง 5 เมตร มียางสีขาว ออกใบเดี่ยว ออกดอกเป็นช่อยาว
มีกลีบดอกสีขาว หรือสีชมพู ออกผลเป็นรูปไข่สีแดงชมพู หรือดำ สรรพคุณทางยาของมะนาวโห่
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาวมะนาวโห่มะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นผลไม้สีม่วงแดง มีสารสำคัญเป็นพวกกลุ่มแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และยังมีพวกสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic Compounds) และกรดไตรเตอพีนอยด์ (Triterpenoid Acid) การศึกษาฤทธิ์เภสัชวิทยาในผลไม้ชนิดนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพียงการศึกษาในระดับเซลล์ และห้องทดลองเท่านั้น ซึ่งมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ดังนี้
จะเห็นได้ว่ามะม่วงหาวมะนาวโห่ เป็นพืชสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่เปี่ยมไปด้วยสรรพคุณทางยา สามารถนำมาบำบัดรักษา และบำรุงสุขภาพได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ การหันมาใช้สมุนไพรก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ควรรับประทานอย่างเหมาะสม เลือกบริโภคอาหารให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ และหากต้องการรับประทานมะม่วงหาวมะนาวโห่เป็นยารักษา หรือบำรุงร่างกายควบคู่ไปกับการรับประทานยาประจำ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ 👌 สามารถติดตาม บทความอื่นๆ ได้ที่นี่ Ammk.2022-05-03T17:15:25+07:00Share The SGE Post!Related PostsTitlePage load link
มะม่วง หา ว มะนาว โห่ ควร กิน วัน ละ กี่ ลูกสิ่งที่น่าสนใจคือ เป็นสมุนไพรที่ช่วยซ่อมร่างกาย แค่กินสด-ต้องเลือกลูกที่สีดำ กินวันละ 5-7 ลูก แต่ให้ระวังยางสักหน่อย ไม่แนะนำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ ส่วนคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ อาจเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้เริ่มจากกินวันละ 1 ลูกก่อนเพื่อปรับสภาพร่างกาย สักพักถึงเพิ่มปริมาณ ไม่ควรเกิน 10 ลูกต่อวัน กินติดต่อกันจะ ...
ควรกินมะม่วงหาวมะนาวโห่อย่างไรมะม่วงหาวมะนาวโห่ ประโยชน์มากมายแต่ก็มีเวลาเฉพาะที่เหมาะสำหรับรับประทาน คือในช่วงเช้า หรือก่อนนอนเพื่อช่วยในการดูดซึมของสารอาหารไปใช้ในแต่ละส่วนของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ควรทานควบคู่กับยาอื่น ๆ เพราะอาจจะไปลดความสามารถในการดูดซึมสรรพคุณของยา อีกทั้งยังอาจส่งผลข้างเคียงต่อผู้ที่รับประทาน
มะม่วงหาวมะนาวโห่ช่วยอะไรได้บ้าง- ผลของมะม่วงหาวมะนาวโห่มีประโยชน์ช่วยลดอาการไอ - มีส่วนช่วยลดอาการภูมิแพ้ - ผลสุกมีวิตามินซีสูง ช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟัน - ผลมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ
มะม่วงหาวกินยังไงหากเก็บจากต้น จะมียางติดกับผล ล้างน้ำเอายางออกก่อน จากนั้นนำผลมาผ่าแกะเม็ดตรงกลางออก(จะทุบทั้งเม็ดก็ได้แต่จะทานยากค่ะ เพราะเม็ดจะออกรสขมต้องคายเม็ดออกอีก) ขั้นตอนที่ 2. เมื่อผ่า และเเกะเม็ดออกจนเสร็จ แช่น้ำไว้ล้างเอายางออก จากนั้นเทน้ำทิ้งนำเกลือ เทลงไปคลุกเคล้าเพื่อเอายางออกและรสความเปรี้ยว จากนั้นล้างน้ำ
|