พ่อขุน ศรี อินทรา ทิต ย์ วัดมหาธาตุ

แน่นอน… หลายคนรู้จัก“สุโขทัย” เนืองจากเป็นเมืองมรดกโลก แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่มีโอกาสไปเยือนเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนที่อื่น เราเคยไปเยือนเมืองท่องเที่ยวมากมาย แต่กลับมาตกหลุมรักเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า“สุโขทัย” เมืองที่เป็นทางผ่านไปสู่เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ที่หลายคนมองข้าม วันนี้ “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” จึงพาเที่ยวเมืองเล็กๆ ที่ต้องมนต์ ซึ่งสถานที่แรกนั้น คือ“วัดพระธาตุ”

พ่อขุน ศรี อินทรา ทิต ย์ วัดมหาธาตุ

เริ่มจากการเดินทางเข้าไปยัง “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” หรือที่เรารู้จักกัน คือ มรดกโลก ซึ่งคอบคลุมไปด้วยพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัย ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยซึ่งมีอำนาจอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยในช่วงพุทธศตวรรษที่ 18–19 ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า (เขตเทศบาลตำบลเมืองเก่า) อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ห่างจากตัวเมืองสุโขทัยปัจจุบัน (เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี) ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ถนนจรดวิถีถ่อง) มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1.6 กิโลเมตร มีประตูเมืองอยู่ตรงกลางกำแพงเมืองแต่ละด้าน ภายในยังเหลือร่องรอยพระราชวังและวัดอีก 26 แห่ง การบูรณปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากรด้วยความช่วยเหลือจากยูเนสโก

และวันนี้เราจะพาทุกคนไปวัดที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ คือ “วัดมหาธาตุ”  ซึ่งเป็นวัดประจำอาณาจักรสุโขทัย ได้ชื่อว่าเป็นวัดใหญ่ใจกลางเมืองสุโขทัย พื้นที่โดยรวมมีรั้วรอบขอบชิด โดยภายในวัดประกอบด้วย เจดีย์ประธานทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือทรงยอดดอกบัวตูม, วิหาร, มณฑป, อุโบสถ และเจดีย์เรียงรายถึง 200 องค์

แต่รู้หรือไม่? “วัดมหาธาตุ” นั้นถูกสร้างขึ้นมาในสมัย “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” เมื่อเราเดินเข้าไปภายในวัดจะเห็นได้ว่ามีพื้นที่กว้างขวาง สะท้อนให้เห็นอาณาจักรสุโขทัยในอดีต และที่น่าตื่นตาเป็นอย่างมาก คือ เจดีย์ประธานวัดมหาธาตุ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรง “ดอกบัวตูม” แสดงถึงเอกลักษณ์ของศิลปะสุโขทัยแบบบริสุทธิ์รายล้อมด้วยปรางค์ทิศ 4 องค์ ที่แสดงอิทธิพลศิลปะขอม และเจดีย์ประจำมุมอีก 4 องค์เป็นเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอด ที่มีอิทธิพลของศิลปะล้านนา รอบฐานเจดีย์ประธานประดับด้วยภาพปูนปั้นรูปพระสาวกในท่าอัญชุลีเดินประทักษิณโดยรอบ จำนวน 168 รูป

ไม่แปลกเลยที่ “วัดพระธาตุ” กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่น่าหลงใหลมาก ยิ่งเข้าไปใกล้ๆ เหมือนถูกต้องมนต์ให้พินิจอยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เหลือเชื่อว่าวัยรุ่นอย่างเราจะหลงใหลยืนมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นเวลานานๆ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนแบบนี้ได้

อย่างที่บอกไว้ว่าภายในอุทยานฯ มีวัด 26 แห่ง และวัดมหาธาตุคือวัดที่เราพามาเที่ยวเป็นวัดแรก ตอนต่อไปเราจะพาไปเที่ยววัดไหนต่อ ติดตามอ่านและชมได้ที่ “แนวหน้าออนไลน์” บอกได้เลยว่าสถานที่ต่อไปไม่แพ้วัดมหาธาตุอย่างแน่นอน…

ส่วนเวลาในการเปิด-ปิดทำการ คือ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) ทั้งนี้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน

การซื้อบัตรเข้าชม อัตราค่าเข้าชม สำหรับชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท หรือสามารถซื้อตั๋วรวมได้ โดยชาวไทยราคา 30 บาท และชาวต่างชาติ 150 บาท ซึ่งบัตรนี้สามารถเข้าชมอุทยานฯ ต่างๆ ในจังหวัดสุโขทัยได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน

สำหรับ ใครที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลก สามารถเดินทางโดยรถยนต์จาก กรุงเทพฯ ผ่านทางหลวงหมายเลข 1 มุ่งหน้าไปจังหวัดนครสวรรค์ กำแพงเพชร เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านอำเภอพราน กระต่าย อำเภอคีรีมาศ ระยะทาง 440 กิโลเมตร และเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 12 (ถนนสิงหวัฒน์) เข้าสู่จังหวัดสุโขทัย

ส่วน รถประจำทาง มีรถโดยสารทั้งแบบธรรมดาและปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่ง หมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง ถึงจังหวัดสุโขทัย

แต่หากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถไฟ เริ่มจากหัวลำโพง ไปลงที่สถานีพิษณุโลก จากนั้นให้เดินทางต่อโดยรถประจำทางไปสุโขทัย อีกประมาณ 59 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง

และหากใครอยากย่อระยะเวลาเดินทางโดยเครื่องบิน ก็มีเที่ยวบินตรงไปจังหวัดสุโขทัย หรือบินไปลงที่จังหวัดพิษณุโลก เดินทางโดยรถโดยสารต่อไปจังหวัดสุโขทัยอีกประมาณ 118 กิโลเมตร

แต่อย่าลืมหาเวลาไปเยือนเมืองสุโขทัยดูสักครั้ง ทั้งนี้ จะต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวด้วย นั้นคือ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม – มกราคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวของไทยทำให้มีอากาศเย็น เหมาะแก่การเดินชมโบราณสถาน ไปเดินถ่ายรูปชิวๆ กันโล๊ด…