ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักคำว่าร้อยละและเปอร์เซนต์ พี่ๆ At Home มีคอร์สเรียนสำหรับน้องๆ ที่ต้องการปูพื้นฐานเรื่องอัตราส่วน สัดส่วนและร้อยละมาแนะนำ ที่สำคัญคอร์สนี้ติวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ใครอยากได้ความรู้แน่นๆ ตามไปเรียนกันได้เลย Show “ร้อยละ” หรือ “เปอร์เซนต์” เป็นสิ่งที่เรารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในกิจกรรมต่างๆเราจะต้องใช้ทักษะการคิดเปอร์เซนต์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลบนฉลากผลิตภัณฑ์และอาหาร การหากำไรขาดทุน การคำนวณดอกเบี้ย การคิดค่าคอมมิชชั่น การคิดเงินเดือน การทำขนม ฯลฯ เพราะฉะนั้นความรู้เรื่องร้อยละจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราคิดคำนวณและวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นกับเราในชีวิตประจำวันได้ ร้อยละคืออะไร“ร้อยละ” หรือ “เปอร์เซนต์” คือ การเปรียบเทียบจำนวนที่ต้องการหากับจำนวนทั้งหมด โดยกำหนดให้จำนวนทั้งหมดเป็น 100 หรืออธิบายสั้นๆก็ คือ การเปรียบเทียบของปริมาณใดปริมาณหนึ่ง ต่อหนึ่งร้อย ถ้าเขียนเป็นเศษส่วนก็คือเศษส่วนที่มีส่วนเป็น 100 เสมอนั่นเอง และใช้ตัวสัญลักษณ์ % หรือเรียกอีกอย่างว่า “เปอร์เซนต์” สูตรการหาค่าร้อยละ“เปอร์เซนต์” หรือ “ร้อยละ” คือ เลขเศษส่วน โดยตัวเศษเป็นจำนวนใดๆก็ตาม แต่ตัวส่วนต้องเป็น 100 การคำนวณหาค่าร้อยละ จึงทำได้ง่ายๆโดยการเขียนปริมาณนั้นให้อยู่ในรูปของเศษส่วนก่อน ตัวอย่าง กระเป๋าลดราคา = 20% ทำให้อยู่ในรูปของเศษส่วน = 20100 สมมติราคากระเป๋าจากป้าย = 3,000 บาท ดังนั้น 20% ของ 3,000 บาท = 201003000 = 600 บาท เพราะฉะนั้นกระเป๋าลดราคา = 600 บาท จากตัวอย่างด้านบน ซึ่งเป็นการคำนวณหาร้อยละของสิ่งต่างๆ มีค่าเท่ากับเท่าไหร่ ในทางกลับกัน การคำนวณหาค่าของสิ่งต่างๆจากเปอร์เซนต์ที่กำหนด จะต้องใช้วิธีการเทียบบัญญัติไตรยางศ์ ตัวอย่าง จงหาว่า 60 คิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของ 48 วิธีทำ สมมติให้เปอร์เซนต์ที่ต้องการหาคือ x (x100)48 = 60 X = 6048100 = 125% ดังนั้น 60 คิดเป็น 125% ของ 48 วิธีเทียบบัญญัติไตรยางศ์ จำนวนทั้งหมด 48 จำนวนที่สนใจเท่ากับ 60 ถ้าให้จำนวทั้งหมด 100 จำนวนที่สนใจจะเท่ากับ (60×100)/48 ดังนั้น 60 จาก 48 คิดเป็น 125% สูตรคำนวณหาร้อยละในชีวิตประจำวันอย่างที่รู้กันดีว่าในชีวิตประจำวัน เราจำเป็นต้องใช้ทักษะในการคิดคำนวณเรื่องร้อยละในหลายๆ กิจกรรมที่เราทำ พี่ At Home จึงรวบรวมสูตรคำนวณหาเปอร์เซนต์(ร้อยละ)ในชีวิตประจำวันที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที และนำไปใช้ในการสอบหรือทำแบบฝึกหัดเรื่องร้อยละได้อีกด้วย
ใช้สูตร ส่วนต่างที่หายไปต้นทุน / 100 = เลขเปอร์เซนต์ โดยที่ ต้นทุน คือ ราคาที่ซื้อสินค้านั้นๆ มา หรือเงินลงทุนในการผลิตสินค้านั้นๆ ราคาขาย คือ ราคาที่ผู้ขายขายสินค้านั้นไป กำไร = ราคาขาย – ต้นทุน ขาดทุน = ราคาต้นทุน – ราคาขาย ตัวอย่าง นายแสนดีซื้อเสื้อมาในราคาต้นทุน ชิ้นละ 200 บาท นำไปขายในราคา 250 บาท ได้กำไร 50 บาทต่อหนึ่งตัว แสนดีได้กำไรกี่เปอร์เซนต์ แทนค่าในสูตร กำไรต้นทุน 100= เลขเปอร์เซนต์ จะได้ 50200 / 100=25% เพราะฉะนั้นแสนดีได้กำไร 25%
ใช้สูตร ตัวอย่าง น้องเอขายที่ดินในราคา 5 ล้านบาท ได้ค่านายหน้า 7 เปอร์เซนต์ ต้องการทราบว่าน้องเอได้ค่านายหน้าเท่าไหร่ แทนค่าในสูตร ค่านายหน้าราคาขาย / 100 =เลขเปอร์เซนต์ จะได้ ค่านายหน้า5,000,000 / 100 =7 ค่านายหน้า = 7/100 x 5,000,000 = 350,000 บาท ตอบ น้องเอได้ค่านายหน้าทั้งสิ้น 350,000 บาท ตัวอย่าง กางเกงตัวละ 800 บาท ลดราคา 20% จากราคาป้าย ต้องการทราบว่ากางเกงตัวนี้ลดเหลือเท่าไหร่ แทนค่าในสูตร ราคาส่วนลด / ราคาเต็มจากป้าย x 100 =เลขเปอร์เซนต์ ราคาส่วนลด = 20/100 x 800=160 เพราะฉะนั้นราคากางเกง = 800 – 160 = 640 บาท มีอีกหนึ่งสูตรที่ใช้สำหรับการหาราคาหลังหักส่วนลด ดังนี้ ราคาเต็ม / 100 x (100-เลขเปอร์เซนต์)= ราคาหลังหักส่วนลด จากตัวอย่างก่อนหน้านี้ แทนค่าในสูตรจะได้ดังนี้ ราคาเต็ม / 100 x (100-เลขเปอร์เซนต์)= ราคาหลังหักส่วนลด 800 / 100 x (100-20)= ราคาหลังหักส่วนลด จะได้ราคาหลังหักส่วนลด = 640 บาท
ใช้สูตร จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น / เงินเดือนเดิม x 100 =เลขเปอร์เซนต์ ตัวอย่าง ปีนี้มานีเงินเดือน 20,000 บาท หากปีหน้ามานีเงินเดือนเพิ่มขึ้น 20% ปีหน้ามานีเงินเดือนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แทนค่าในสูตร จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นเงินเดือนเดิม100 =เลขเปอร์เซนต์ จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น20,000100 =20 จำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น = 20/10020,000 = 4,000 บาท เพราะฉะนั้นมานีได้เงินเพิ่มขึ้น 4,000 บาท
ใช้สูตร เงินเดือนใหม่-เงินเดือนเดิม / เงินเดือนเดิม x 100 =เลขเปอร์เซนต์ ตัวอย่าง หากมานีเดิมได้เงินเดือน 20,000 บาท หากเงินเดือนเพิ่มขึ้น 4,000 บาท มานีเงินเดือนเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซนต์ แทนค่าในสูตร เงินเดือนใหม่-เงินเดือนเดิม / เงินเดือนเดิม x 100 =เลขเปอร์เซนต์ จะได้ 24,000-20,000 / 20,000 x 100 =เลขเปอร์เซนต์ = 20% เพราะฉะนั้นมานีได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 20%
ใช้สูตร ตัวเลขมาก-ตัวเลขน้อย / ตัวเลขเดิม x 100 =เลขเปอร์เซนต์ ตัวอย่าง แทนค่าในสูตร ตัวเลขมาก-ตัวเลขน้อย / ตัวเลขเดิม100 =เลขเปอร์เซนต์ จะได้ 500 -400 / 400 x 100 =เลขเปอร์เซนต์ = 25 % เพราะฉะนั้นราคาเนื้อไก่ลดลง 25 %
ใช้สูตร ดอกเบี้ย = เงินต้น x ระยะเวลา (ปี) x อัตราดอกเบี้ย (%) / 100 เงินรวม = เงินต้น+เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย% x ระยะเวลา(ปี) / 100 โดย ดอกเบี้ย คือ เงินที่เราได้รับจากการฝากหรือกู้ยืม อัตราดอกเบี้ย คือ อัตราของผลประโยชน์ที่ตกลงกันระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ เงินต้น คือ เงินที่เรานำไปฝากธนาคารตอนเริ่มต้น หรือ เงินที่กู้จากเจ้าของเงิน เงินรวม คือ เงินต้นรวมกับอัตราดอกเบี้ยในตอนสิ้นปี ระยะเวลา คือ ช่วงเวลาที่กู้ยืมหรือฝากเงินตามตกลง นิยมคิดเป็นปี ตัวอย่าง วีระฝากเงิน 10,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย 3 เปอร์เซนต์ต่อปี เมื่อฝากครบสามปี จะได้รับเงินรวมเป็นเท่าไหร่ แทนค่าในสูตร เงินรวม = เงินต้น +เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย% x ระยะเวลา(ปี) / 100 =10,000 +10,000 (3 x 3 / 100 ) = 10,900 บาท เพราะฉะนั้นวีระจะได้เงินรวมเท่ากับ 10,900 บาท ความสัมพันธ์ของอัตราส่วนและร้อยละมีหลายๆคน ยังคงสงสัยในความสัมพันธ์ของสองสิ่งนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร “อัตราส่วน” นั้นก็คือ การเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณซึ่งอาจจะมีหน่วยเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ เช่น 1:2, 30:80 ส่วนคำว่า “ร้อยละ” ก็เป็นอัตราส่วนแสดงการเปรียบเทียบปริมาณใด ปริมาณหนึ่งต่อ 100 นั่นเอง การเขียนอัตราส่วนให้อยู่ในรูปร้อยละการเขียนอัตราส่วนใดๆ ให้อยู่ในรูปร้อยละ เราจะต้องเขียนอัตราส่วนนั้นๆ
ให้อยู่ในรูปที่มีจำนวนหลังของอัตราส่วนเท่ากับ 100 แล้วเราจะได้จำนวนแรกของอัตราส่วนเป็นค่าของร้อยละที่เราต้องการ 3 : 10 = 3×10 : 10×10 = 30 : 100 = 30% 4 : 5 = 4×20 : 5×20 = 80 : 100 = 80% 0.25 = 25/100 = 25 : 100 = 25% การเขียนร้อยละให้อยู่ในรูปอัตราส่วนการเขียนร้อยละให้อยู่ในรูปอัตราส่วนทำได้โดยเขียนเป็นอัตราส่วนที่มีจำนวนแรกเป็นค่าของร้อยละนั้นๆ และจำนวนหลังเป็น 100 ดังตัวอย่าง 33% = 33 : 100 7% = 7 : 100 0.1% = 0.1 : 100 = 1 : 1000 25.75% = 25.27 : 100 = 2527 : 10000 |