มาร์คซัคเคอร์เบิร์ก เสียชีวิต

นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเฟซบุ๊ก เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการของรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นวันที่สองเมื่อ 11 เม.ย. เพื่อตอบข้อซักถามกรณีอื้อฉาวที่เฟซบุ๊กปล่อยให้บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลของอังกฤษ "เคมบริดจ์ อะนาลิติกา" นำข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อาจมากถึง 87 ล้านบัญชีไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ในระหว่างการเข้าให้การครั้งนี้ นายซัคเคอร์เบิร์ก ตอบคำถามนางแอนนา เอชู ส.ส.พรรคเดโมแครต จากรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยยอมรับว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายหลายล้านรายที่ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลและถูกบริษัทเคมบริดจ์ อะนาลิติกานำไปหาประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต

พร้อมกันนี้ นายซัคเคอร์เบิร์ก ยังเปิดเผยด้วยว่าขณะนี้บริษัทของเขากำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในอังกฤษ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนักวิจัยซึ่งเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กแล้วนำไปขายให้บริษัทเคมบริดจ์ อะนาลิติกา

"ข้อมูลที่เราพบในตอนนี้คือเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์...ซึ่งมีนักวิจัยหลายคนได้สร้างแอปพลิเคชันคล้ายกันขึ้นมา...ดังนั้นเราจึงต้องทำความเข้าใจว่ามีเรื่องไม่เหมาะสมเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์หรือไม่ ซึ่งจะทำให้เราต้องออกมาตรการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นหรือไม่" ซีอีโอเฟซบุ๊กกล่าว

คำบรรยายภาพ,

นายสกาลิส แสดงภาพโฆษณาขายยาเสพติดที่โพสต์ทางเฟซบุ๊กต่อนายซัคเคอร์เบิร์ก

นอกจากนี้ ซีอีโอวัย 33 ปีของเฟซบุ๊กยังเผชิญข้อกล่าวหาจากนายสตีฟ สกาลิส ส.ส.พรรครีพับลิกัน ที่ระบุว่า อัลกอริทึมในระบบนิวส์ฟีดของเฟซบุ๊กมีการคัดกรองที่ไม่เป็นธรรมต่อข่าวที่มีเนื้อหาเชิงอนุรักษ์นิยมและสนับสนุนโพสต์ที่มีเนื้อหาเสรีนิยม แต่นายซัคเคอร์เบิร์กปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง

นายสกาลิส ยังเปิดเผยภาพโฆษณาขายยาเสพติดที่โพสต์ทางเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งประเด็นนี้นายซัคเคอร์เบิร์กยอมรับว่า เฟซบุ๊กยังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการตรวจตราการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยชี้ว่าเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์จะช่วยแก้ไขเรื่องนี้ได้ในอนาคต

คำบรรยายวิดีโอ,

ข้อมูลส่วนตัวจากสื่อสังคมถูกนำไปใช้หาเสียงเลือกตั้งได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้ นายซัคเคอร์เบิร์ก ได้กล่าวขออภัยที่เฟซบุ๊กไม่ได้ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเคมบริดจ์ อะนาลิติกา ได้ลบข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายล้านรายที่เก็บรวบรวมไว้แล้วหรือไม่ในปี 2015 แต่กลับปล่อยให้บริษัทดังกล่าวอ้างอย่างลอย ๆ ว่าได้ทำลายข้อมูลไปแล้ว ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎของสื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์

นายซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวว่า "เรามีหน้าที่ที่จะทำให้แน่ใจว่ากรณีที่เกิดกับ โคแกน (ผู้พัฒนาแอปฯ) และเคมบริดจ์ อะนาลิติกา จะไม่เกิดขึ้นอีก" พร้อมระบุว่าการตรวจสอบแอปฯ อื่น ๆ ของเฟซบุ๊กนั้นจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเสร็จสิ้น แต่จนถึงบัดนี้บริษัทยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียหรือจีนพยายามล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊ก

ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้าน บริษัทเคมบริดจ์ อะนาลิติกา ได้ประกาศว่า ดร.อเล็กซานเดอร์ เทย์เลอร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทได้ก้าวลงจากตำแหน่งแล้วโดยจะกลับไปทำหน้าที่เดิมในตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูล เคมบริดจ์ อะนาลิติกา ยังปฏิเสธเรื่องทำผิดกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าได้ลบข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กไปแล้วตามที่ระบุก่อนหน้านี้

เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กำลังเจอศึกหนัก จากการที่หลายธุรกิจในสหรัฐอเมริกา ประกาศบอยคอตเบรกซื้อโฆษณาในเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม จนกว่าจะจัดการกับ Hate Speech ได้

มาร์คซัคเคอร์เบิร์ก เสียชีวิต

ผลกระทบนี้ เกิดขึ้นจากกลุ่มสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกา ได้รณรงค์แคมเปญที่ชื่อว่า The Stop Hate for Profit หลังจากเกิดเหตุการณ์ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตขณะถูกตำรวจจับกุม จากนั้นมีกลุ่มผู้ประท้วงไปทั่วสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มสิทธิพลเมืองเห็นว่า เฟซบุ๊กไม่พยายามที่จะจัดการข้อความที่สร้างความเกลียดชัง ในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก

กลุ่มรณรงค์ระบุว่าขณะนี้มีกว่า 100 บริษัทที่บอยคอตเฟซบุ๊ก ตั้งแต่แบรนด์ไอศกรีมอย่าง Ben & Jerry’s เสื้อผ้า The North Face และยักษ์ใหญ่สื่อสาร อย่าง Verizon ล่าสุดยูนิลีเวอร์ ฮอนด้า และโคคา-โคล่า ก็ประกาศร่วมแคมเปญนี้

มาร์คซัคเคอร์เบิร์ก เสียชีวิต

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้จับตาราคาหุ้นของเฟซบุ๊ก พบว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาร่วงไป 8.3% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากยูนิลีเวอร์ประกาศร่วมแผนบอยคอตนี้เป็นรายล่าสุด  

ราคาที่ร่วงไป 8.3% ทำให้มูลค่าตลาดของเฟซบุ๊กหายไป 56,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท และทำให้ความมั่งคั่งของมาร์ค ลดลงไปอยู่ที่ 82,300 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.46 ล้านล้านบาท แน่นอนว่าอันดับตำแหน่งมหาเศรษฐีโลกของมาร์คก็ตกไปอยู่อันดับที่ 4 จากเดิมอยู่อันดับ 3

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก เสี่ยงที่จะสูญเสียความมั่งคั่ง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 8 แสนล้านบาท ท่ามกลางความมั่งคั่งที่ลดลงมากที่สุดในหนึ่งวันเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่รายรับในไตรมาสที่สี่ของ Meta Platforms, Inc. ออกมาน่าผิดหวัง

 

Meta รายงานว่าไม่มีการเติบโตของผู้ใช้ Facebook รายเดือนในไตรมาสที่สี่เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคตของตัว Meta เอง ราคาหุ้นของ Meta ลดลงประมาณ 20% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหายไปกว่า 1.75 แสนล้านดอลลาร์

 

Bloomberg ประเมินว่า ความมั่งคั่งของซักเคอร์เบิร์กจะลดลงเหลือ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์ จากที่เคยมี 1.206 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้เขาหลุดจากรายชื่อ 10 คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2015 ตามดัชนี Bloomberg Billionaires Index

 

ความมั่งคั่งที่ลดลงใน 1 วันมูลค่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์จะจัดอยู่ในกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งคนที่สามารถเทียบได้นั้นมีเพียง ‘อีลอน มัสก์’ เท่านั้น

 

บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกสูญเสียเงิน 3.5 พันล้านบาท หรือหมื่นล้านดอลลาร์ใน 1 วันในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากหุ้นของ Tesla, Inc. ร่วงลงหลังจากการสำรวจความคิดเห็นบน Twitter ที่มัสก์ออกมาถามว่าควรขายหุ้น 10% ใน Tesla หรือไม่

 

สำหรับ Meta รายได้ที่น่าผิดหวังเพิ่มความท้าทายให้กับตัวเอง ซึ่งการต่อสู้ด้านกฎระเบียบจำนวนหนึ่ง และยังต้องการพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในการเดิมพันที่เทหมดหน้าตักให้กับ Metaverse ในขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น TikTok และ YouTube กำลังได้รับความสนใจจากผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้นำที่เลวร้าย! ผู้เชี่ยวชาญฮาร์วาร์ดวิเคราะห์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก คือต้นเหตุที่ทำให้ Facebook หลงทาง
  • วันวานแห่งการถนอมพนักงานจบลง เมื่อ Meta โตช้าลง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เลยต้องการให้ทำงานหนักขึ้น แต่จะมีคนทนได้มากแค่ไหน?
  • ราคาที่ดิน Metaverse ดิ่งหนัก 85% วอลุ่มเทรดทรุดต่อเนื่อง หลังภาวะตลาดหมีปกคลุม

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต

ภาพ: Drew Angerer/Getty Images

อ้างอิง:

  • https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-02-02/mark-zuckerberg-risks-24-billion-wealth-wipeout-after-meta-mis