��ٺ�ҹ�͡�ͷ��� ���䫵�ͧ��ٵ������ ��˹�� �����ѧ��§ ���繪�ͧ�ҧ㹡��������� �š����¹ �����ٹ������� ������������ ���ѹ���µ���˵ء�ó���س��� ��黯Ժѵԧҹ㹷ء��鹷��ͧ������� ���ͤ�����ԭ�͡���㹻ѭ�� �����ԭ����˹����ԪҪվ ��纹���͡��Դ����� 5 ���Ҥ� 2548 Email : [email protected] สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอด ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม/แหล่งที่อยู่ต่าง ๆ ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่ แต่ละแหล่งจะมีโครงสร้าง ที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิตในแหล่งที่อยู่นั้น เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ไม่เหมาะสมกับ ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
การวัดผลและประเมินผล- สังเกตการตอบคำถามในชั้นเรียน หนังสอื เรยี นe-book รายวชิ าพื้นฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 สิ่งมชี วี ติ กบั จัดทาโดย นางสาวผกาวรรณ ขนั วิเศษ สาขาวิทยาศาสตรท์ ั่วไป สารบญั เรื่อง หนา้ ระบบนิเวศ 1 1 ระบบนิเวศ ระบบนิเวศ (Ecosystem) หมายถึง หน่วยพนื้ ทีห่ นึ่งประกอบดว้ ยสังคมของ 1. หน่วยพ้ืนท่ี 2. องค์ประกอบท่ีมชี วี ติ (Biotic component) 3. องคป์ ระกอบที่ไม่มีชีวิต (Abiotic component) 4. ความสมั พนั ธต์ อ่ กนั ระหว่างสิง่ มีชวี ติ กบั สง่ิ แวดลอ้ ม 2 ระบบนเิ วศ ประเภทของระบบนเิ วศ ระบบนิเวศสามารถแบง่ ออกได้เปน็ 2 ประเภท ดงั นี้ 1. ระบบนเิ วศบนบก (Terrestrial Ecosystems) เปน็ ระบบนเิ วศที่ปรากฏอยู่บนพ้นื ดินซ่ึง • 1.1 ระบบนเิ วศป่าไม้ (Forest Ecosystem) เปน็ ระบบ • 1) ระบบนเิ วศป่าไม้เขตร้อน ไดแ้ ก่ ระบบนเิ วศป่าเบญจ 3 ระบบนิเวศ ประเภทของระบบนิเวศ 1.2 ระบบนิเวศน์ทงุ่ หญ้า (Grassland 1.3 ระบบนเิ วศน์ทะเลทราย (Desert 4 ระบบนิเวศ ประเภทของระบบนิเวศ 2. ระบบนเิ วศทางน้า (Aquatic Ecosystems) เป็นระบบนเิ วศ 2.1 ระบบนิเวศนา้ จืด (Fresh water Ecosystem) เป็นระบบท่นี ้าเปน็ น้าจืดอาจแบง่ ย่อยเปน็ 2.2 ระบบนิเวศน้ากรอ่ ย (Estuarine Ecosystem) เป็นระบบนิเวศที่เกิดขึ้นตรงรอยต่อ 5 ระบบนเิ วศ ประเภทของระบบนิเวศ 2.3 ระบบนเิ วศน้าเคม็ (Marine Ecosystem) เปน็ ระบบนเิ วศทม่ี ีนา้ เป็นนา้ เค็ม โดยปกติ ขนาดใหญ่ จึงนยิ มแบ่งออกเปน็ ระบบนิเวศย่อยตามความลกึ ของนา้ อกี ดว้ ย คอื 2.3.1 ระบบนิเวศชายฝง่ั (Coastal Ecosystem) เป็นบรเิ วณที่ตกอยู่ภายใต้ 2.3.2 ระบบนิเวศนา้ ตน้ื เปน็ ระบบนเิ วศท่ีนับจากระบบนเิ วศ 2.3.3 ระบบนเิ วศทะเลลกึ เป็นระบบนเิ วศท่ีนับต่อเนอ่ื งจาก 6 กล่มุ สง่ิ มชี ีวติ ในระบบนิเวศ กลุม่ สิ่งมีชีวิต หมายถงึ การอยรู่ ่วมกนั ในบรเิ วณแหล่งที่อยเู่ ดยี วกนั ของ สงิ่ มชี วี ิตตา่ ง ๆ ท่ีอาศยั ในแหลง่ ทอี่ ย่หู น่งึ ๆ จะมีความสมั พันธ์ น้ัน ๆ โดยเฉพาะการกนิ กนั เป็นอาหาร จนเกดิ เป็นวงจรทมี่ ี กลุ่มส่ิงมชี ีวติ ในขอนไมผ้ ุ ประกอบด้วย เห็ด, รา, ไลเคน, หนอน, แมลง กล่มุ สิง่ มีชีวิตในบ่อนา้ ประกอบดว้ ย พชื นา้ , สาหรา่ ย, ลูกอ๊อด, กบ, เตา่ , ปลา, ปู กลุม่ ส่ิงมีชีวิตในนาขา้ ว ไดแ้ ก่ ต้นขา้ ว, เพลย้ี , ตั๊กแตน, นกกระจบิ , กบ, ปู, หนู, ปลา, งู 7 กลมุ่ สิ่งมีชีวิตในระบบนเิ วศ ในระบบนิเวศมสี ิ่งชีวติ หลายระดบั ซึ่งอาศัยอยรู่ วมกนั ในแหลง่ ทีอ่ ยู่อาศยั แหง่ 1. ผูผ้ ลติ (Producer) ได้แก่ พืชต่าง ๆ เช่น สาหรา่ ยสีเขียวแกมน้าเงนิ ตน้ หญา้ ต้นถั่ว ต้นสม้ พชื เหลา่ นี้ 2. ผบู้ รโิ ภค (Consumer) 2.1 ส่ิงมีชีวิตท่กี ินพชื เป็นอาหาร (Herbivore) เราเรียกสิง่ มีชีวิตน้ีว่า ผบู้ รโิ ภคอันดบั 1 เปน็ 8 กล่มุ ส่งิ มีชวี ติ ในระบบนเิ วศ 2.2 สิ่งมชี ีวติ ทก่ี ินสตั วเ์ ปน็ อาหาร (Carnivore) สตั วเ์ หลา่ นี้เปน็ ผลู้ า่ เช่น สงิ โต 2.3 ส่ิงมีชีวติ ท่ีกินทง้ั พชื และสัตว์เปน็ อาหาร (Omnivore) เช่น มนุษย์ 3. ผู้ย่อยสลาย (Decomposer) 9 หว่ งโซอ่ าหาร ห่วงโซอ่ าหาร (Food chain) หมายถงึ กระบวนการถา่ ยทอด ชนิดของหว่ งโซ่อาหาร 1. Decomposition food chain เปน็ ห่วงโซอ่ าหารท่เี ร่มต้นจากการยอ่ ยสลายซากอนิ ทรยี ์โดย ซากพืชซากสัตว์ → ไส้เดอื นดิน → นก → งู 2. Parasitism food chain เป็นห่วงโซอ่ าหารทเี่ ริ่มตน้ จากภาวะปรสิต ตวั อย่างเชน่ 3. Predation food chain เปน็ ห่วงโซ่อาหารที่เปน็ การกนิ กันของสัตว์ผูล้ ่า (สตั ว์กนิ พชื สตั ว์ 4. Mix food chain เปน็ หว่ งโซ่อาหารแบบผสม โดยมกี ารกินกัน และมปี รสิต เชน่ 10 ห่วงโซอ่ าหาร หว่ งโซอ่ าหารแบง่ เปน็ 4 แบบ 1. ห่วงโซอ่ าหารแบบผ้ลู า่ (Predator chain or Grazing food chain) เรมิ่ จากผูผ้ ลิตคือพชื 2. หว่ งโซอ่ าหารแบบปรสิต (Parasitic chain) เร่ิมจากผู้ถูกอาศยั (Host) ถา่ ยทอด 3. หว่ งโซ่อาหารแบบเศษอนิ ทรยี ์ (Detritus chain) เรม่ิ จากซากพืชหรือซากสตั ว์ 3. ห่วงโซ่อาหารแบบเศษอินทรยี ์ (Detritus chain) เร่มิ จากซากพืชหรือซากสตั ว์ 11 สายใยอาหาร สายใยอาหาร (Food Web) ก็คอื โซ่อาหารท่ซี บั ซ้อนโยงใยเหมอื นใยแมงมุม การถ่ายทอดพลังงานในโซอ่ าหาร การถ่ายทอดพลังงานในโซอ่ าหารอาจแสดงในในลกั ษณะของสามเหล่ยี มพรี ามิดของสิ่งมีชีวิต 1. พีรามดิ จานวนของสง่ิ มชี ีวิต (pyramid of number) แสดงจานวนส่งิ มีชวี ิตเปน็ 12 สายใยอาหาร การถ่ายทอดพลงั งานในโซอ่ าหาร 2. พีรามดิ มวลของสิ่งมีชีวิต (pyramid of mass) โดยพิรามดิ นแ้ี สดงปรมิ าณของส่ิงมีชีวติ 3. พีรามิดพลังงาน (pyramid of energy) เป็นปิรามดิ แสดงปรมิ าณพลังงานของแตล่ ะ 13 สายใยอาหาร การถ่ายทอดพลงั งานในโซ่อาหาร 1. พรี ามิดจานวนของสง่ิ มชี ีวิต (pyramid of number) แสดงจานวนสิ่งมชี วี ิตเป็น 2. พีรามดิ มวลของสิง่ มชี วี ติ (pyramid of mass) โดยพริ ามดิ น้ีแสดงปริมาณของสง่ิ มีชีวติ 14 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งส่งิ มชี วี ติ กับสง่ิ มีชวี ติ 1. ภาวะการล่าเหย่อื (predation) + , - ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งถูกผลู้ า่ กินเป็นอาหารเรยี กว่า “เหย่ือ(prey)” มีความสัมพนั ธ์แบบ +,- เชน่ 2.ภาวะปรสิต (parasitism) + , - อีกชนิดหนง่ึ โดยผอู้ าศัย(parasite) ไดป้ ระโยชน์ และผถู้ กู อาศัย (host) เสียประโยชน์ มี 15 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มชี วี ิตกบั ส่งิ มีชีวติ 3.ภาวะพ่ึงพากนั (mutualism) + , + ออกจากกนั จะไม่สามารถดารงชีวิตอย่ไู ด้ มีความสัมพันธ์แบบ +, + เช่น แบคทีเรยี ไร 4.ภาวะองิ อาศยั (commenselism) + , 0 ฝ่ายไมไ่ ด้ประโยชนแ์ ละไม่เสียประโยชน์ มีความสมั พันธ์แบบ + , 0 เชน่ เฟนิ เกาะบนต้นไม้ 16 ความสมั พันธร์ ะหว่างสง่ิ มชี ีวติ กบั สง่ิ มชี วี ติ 5.ภาวะได้ประโยชน์ซงึ่ กนั และกนั (protocooperation) + , + แยกออกจากกนั ได้โดยดาเนนิ ชีวิตตามปกติ มคี วามสัมพนั ธแ์ บบ +, + เชน่ ดอกไม้กบั แมลง 6.ภาวะแขง่ ขัน(competition) อย่างหน่ึงร่วมกนั แตป่ ัจจัยนัน้ มนี อ้ ยจึงตอ้ งแข่งขนั กนั เชน่ การแยง่ อาหารของจระเข้ การ 17 ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มชี ีวิตกับสงิ่ มีชีวิต 7.ภาวะเปน็ กลาง(neutralism) กระต่ายในทงุ่ หญา้ 8.ภาวะตอ่ ต้าน (antibiosis) นิซลิ เลยี มจะหลัง่ สารยับย้ังการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย |