ปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา
" ธรณีวิทยา " หรือ " Geology " คือ การศึกษาว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เกิดขึ้นอย่างไร และประกอบด้วย หินอะไรบ้าง กุญแจไขประวัติศาสตร์ของโลกซ่อนอยู่ในหินทั้งหลายนั้นเอง นักธรณีวิทยาจะสำรวจพื้นที่และขุดลงไปยังหินในเปลือกโลก อายุกับธรรมชาติของหินและฟอสซิลจะช่วยให้นักธรณีวิทยาเข้าใจกระบวนการของโลกได้ นักธรณีวิทยายังช่วยในการค้นหาแหล่งถ่านหิน น้ำมัน และแร่ที่มีประโยชน์อื่นๆ นอกจากพวกเขาจะศึกษาพื้นที่ก่อนทำการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น เขื่อน เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นดินสามารถรองรับน้ำหนักมหาศาลได้ วิชาธรณีวิทยา ก่อให้เกิดวิชาแขนงที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตามมาอีกมาก เช่น - วิชาแร่วิทยา (Mineralogy) - วิชาศิลาวิทยา (Petrology) - วิชาธรณีสัณฐาน (Geomorphology) - วิชาธรณีเคมี (Geochemistry) - วิชาธรณีฟิสิกส์ (Geophysics) - วิชาตะกอนวิทยา (Sedimentology) - วิชาธรณีวิทยาโครงสร้าง (Structural Geology) - วิชาเศรษฐธรณีวิทยา (Economic Geology) - วิชาวิศวกรรมธรณี (Engineering Geology) - วิชาการลำดับชั้นหิน (Stratigraphy) - วิชาซากบรรพชีวิน หรือซากดึกดำบรรพ์ (Paleontology) - วิชาธรณีวิทยาปิโตรเลียม (Petroleum Geology) และอื่นๆ อีกมากมาย แผ่นดินไหว
http://dvice.com - เกิดจากการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกตามแนวรอยต่อของแผ่นธรณีภาค จนชั้นหินแตกหัก/เลื่อนตัวแล้วถ่ายโอนพลังงานศักย์ให้ชั้นหินอื่นที่ติดกันในรูปของคลื่นไหวสะเทือน - ตำแหน่งของจุดกำเนิดแผ่นดินไหว เรียกว่า ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ส่วนตำแหน่งบนผิวโลกที่อยู่เหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวเรียกว่า จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว - เครื่องตรวจวัดและบันทึกการเกิดแผ่นดินไหวเรียกว่า ไซสโมกราฟ ทำงานโดยรับคลื่นไหวสะเทือนแล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า - มาตราเมอร์คัลลี่ เป็นมาตราที่นักธรณีวิทยาแผ่นดินไหวชาวอิตาเลียน กิเชปเป เมอร์คัลลี่ เป็นผู้คิดค้น สำหรับใช้ในการวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหว - มาตราวัดขนาดของแผ่นดินไหว เรียกว่า มาตราริคเตอร์ เป็นมาตราที่นักธรณีวิทยาแผ่นดินไหว ซี.เอฟ.ริคเตอร์ เป็นผู้คิดค้นสำหรับใช้ในการกำหนดขนาดของแผ่นดินไหว บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว คือบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณีภาค แนวรอยรอยต่อที่สำคัญ มี 3 แนวคือ 1. แนวรอยต่อล้อมรอบมหาสมุทรแปซิฟิก จัดว่าเป็นบริเวณที่เกิดค่อนข้างรุนแรงและมากที่สุด (80 %ของการเกิดแผ่นดินไหนทั่วโลก) 2. แนวรอยต่อภูเขาแอลป์ในยุโรปและหิมาลัยในเอเชีย (15 %) 3. แนวรอยต่อบริเวณแนวสันกลางมหาสมุทรต่างๆ (5%) เช่น เทือกเขากลางมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย
และ อาร์กติก ภูเขาไฟ
http://www.rmutphysics.com/ - เกิดจากการประทุของแมกมา
ก๊าซ และเถ้าจากใต้เปลือกโลก - แมกมาจะถูกพ่นออกมาทางปล่องภูเขาไฟ หรือรอยแตกของภูเขาไฟ เมื่อขึ้นสู่ผิวโลกแล้วเรียกว่า ลาวา - เมื่อลาวาเย็นตัว จะกลายเป็นหินหลายชนิด เช่น หินบะซอลต์ หินพัมมิช เป็นต้น - เมื่อเกิดการระเบิดของภูเขาไฟแล้วจะทำให้เกิดภูมิประเทศใหม่ขึ้นมาหลายแบบ แต่แบบที่รู้จักกันมากและสวยงามคือ ภูเขาไฟรูปกรวย เกิดจาการทับถมซ้อนกันของลาวา เช่น ภูเขาไฟฟูจิยามา ภูเขาไฟเซนต์ เฮเลนส์ ในอเมริกา เป็นต้น บริเวณที่มีภูเขาไฟของโลก - บริเวณที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ ได้แก่ประเทศ ประเทศญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ด้านตะวันตกของประเทศเม็กซิโก และด้านตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา - เป็นบริเวณเดียวกันกับแหล่งที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยๆ - แผ่นธรณีภาคมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะถ้าที่ชนกันแล้วมุดลอดเข้าไปใต้แผ่นธรณีภาคอีกแผ่นที่เป็นแผ่นทวีป จะเป็นสาเหตุการเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด
|