จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี Show แผ่นดินไหวในอำเภอแม่ลาว พ.ศ. 2557
แผ่นดินไหวในอำเภอแม่ลาว พ.ศ. 2557 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.08.43 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย (UTC+7) ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ในตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย[4] ต่อมา กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า การใช้เครื่องมือตรวจวัดได้ข้อสรุปใหม่ว่าศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ที่ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เนื่องจากพบแนวรอยแยกปรากฏอยู่จำนวนมาก[5] ส่วน USGS รายงานว่าจุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากอำเภอแม่ลาวไปทางใต้ 9 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงรายไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 27 กิโลเมตร[1][6] แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 6.3 (ML) จากการวัดของกรมอุตุฯ มีขนาด 6.1 จากการวัดโดย USGS ลึก 7.4 กิโลเมตร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย[7] ข้อมูลทางธรณีวิทยา[แก้]แผนที่ของ USGS แสดงความรุนแรงของแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นจากการปลดปล่อยพลังงานของรอยเลื่อนพะเยา จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 6 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าตื้น ทำให้มีความรุนแรงและความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยแรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างในระยะ 30 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลาง และมีแผ่นดินไหวตามกว่า 730 ครั้ง [8] ทั้งนี้ยังมีการให้เฝ้าระวังแผ่นดินไหวตามที่อาจเกิดขึ้นจากรอยเลื่อนพะเยาในจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยาและจังหวัดลำปาง[9] แผ่นดินไหว[แก้]แผ่นดินไหวครั้งนี้ถูกบันทึกว่าเป็นแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง เกิดแรงสั่นสะเทือนทั้งภาคเหนือของประเทศไทยและพม่าในช่วงเย็น ประชาชนหลายจังหวัดภาคเหนือ (รวมถึงเชียงราย เชียงใหม่และลำปาง) สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้[10] หน้าต่าง ผนัง ถนนและวัดได้รับความเดือดร้อนจากแรงสั่นสะเทือน ในช่วงแรกยังไม่มีการค้นพบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต[11] จนต่อมามีรายงานข่าวพบผู้เสียชีวิตสองราย และผู้บาดเจ็บอีกหลายคน[3] ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ได้อพยพผู้โดยสารออกจากอาคารผู้โดยสารในทันที ขณะที่ดำรง คล่องอักขระ ผอ.การท่าอากาศยานฯ กล่าวว่า รันเวย์และเที่ยวบินไม่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน[3][11] เจ้าหน้าตำรวจในจังหวัดเชียงรายนายหนึ่งเล่าว่า สิ่งของในร้านค้ากระจัดกระจายไปทั่ว มีรอยแตกปรากฏตามอาคาร และพบถนนบางสายมีรอยแตกขนาดใหญ่[12] อาคารสูงในกรุงเทพมหานครได้รับอิทธิพลจากแผ่นดินไหว และยังรู้สึกได้จากย่างกุ้ง ประเทศพม่า ด้วย[12] ผลกระทบ[แก้]สภาพความเสียหายของวัดอุดมวารีและพระพุทธอุดมมงคล จะเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงในรัศมีประมาณ 30 กิโลเมตร จากศูนย์กลางแผ่นดินไหว[13] ส่วนใหญ่เป็นความเสียหายด้านอาคารสถานที่ ทั้งโบราณสถาน สถานที่ราชการ เส้นทางคมนาคมและบ้านเรือนของประชาชน ในพื้นที่ที่รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนโดยมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง และกำแพงเพชร[14] ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแผ่นดินไหว จังหวัดเชียงราย สรุปสถานการณ์พื้นที่ประสบภัยในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ว่ามีพื้นที่ประสบภัยพิบัติ รวมทั้งสิ้น 7 อำเภอ 47 ตำบล 478 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหายรวม 8,935 หลัง โดยที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง 116 หลัง ได้รับความเสียหายบางส่วน 8,463 หลัง, วัด 99 แห่ง, โบสตถ์คริสต์ 7 แห่ง, โรงเรียน 35 แห่ง, มหาวิทยาลัย 1 แห่ง, สถานพยาบาล 25 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรม 6 แห่ง, โรงแรม 1 แห่ง, ถนน 5 สาย ตลิ่งพัง 1 แห่ง สะพาน 1 แห่ง และคอสะพาน 5 แห่ง[15] โบราณสถาน ศาสนสถาน[แก้]วัดร่องขุ่น มีรูปภาพบนผนังในโบสถ์ ที่ใช้เวลาสร้างมากกว่า 20 ปี และคาดว่าต้องใช้เวลาในการซ่อมกว่า 2 ปี โดยความเสียหายปัจจุบัน ได้แก่ ผนังภาพจิตรกรรมในโบสถ์ เป็นรอยร้าวยาว แผ่นสีภาพแตกร่อนออกมา สะพานด้านข้างโบสถ์แตกเสียหาย ยอดเจดีย์หักเบี้ยว หลังคาหอแสดงภาพจิตรกรรมแตก ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมานานต้องมาพังพินาศภายในวันเดียว เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้บุกเบิกสร้างวัดร่องขุ่น กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นความเสียหายที่มีค่ามาก ไม่ใช่มูลค่าของสิ่งที่สร้าง แต่เป็นคุณค่าทางจิตใจ สร้างวัดนี้ขึ้นมาไม่เคยขอเงินใคร เป็นเงินที่ตนหามาเอง เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ส่วนไหนที่สามารถซ่อมได้ก็จะซ่อม แต่ถ้าส่วนไหนที่ซ่อมไม่ได้ก็จะปล่อยให้มันคงอยู่อย่างเดิม ไม่ทำลาย เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว[16] วัดอุดมวารี ตำบลทรายขาว เศียรพระพุทธรูปปูนปั้นนามว่า พระพุทธอุดมมงคล หักลงเนื่องจากได้รับความเสียหาย และอาคารของวัดเกิดรอยแตก และเพดานได้รับความเสียหาย[11] วัดอื่น ๆ ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน[3] มีโบราณสถานเสียหาย 17 แห่งแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ยอดหักเอียงตามแรงเหวี่ยงของแผ่นดินไหว รวมถึงโครงสร้างแตกร้าว สถานที่ราชการ[แก้]มีสถานพยาบาลในสังกัดได้รับความเสียหาย 7 แห่ง ส่วนใหญ่มีรอยร้าว แต่ไม่กระทบต่อโครงสร้างอาคาร ที่รุนแรง เช่น โรงพยาบาลแม่ลาว มีอาคารผู้ป่วยเดิมร้าวและทรุด เสาบางแห่งเห็นเหล็กโครงสร้าง สามารถให้บริการเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินได้เท่านั้น[17] ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อาคารเกิดรอยแยกและ แผ่นหินแตกออก กระจกในอาคารแตก โรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดได้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดงเทพนิมิตร ตำบลป่าอ้อดอนชัย[18] มีโรงเรียนได้รับผลกระทบ 73 แห่ง มีโรงเรียนที่เสียหายหนัก 5 โรงเรียน อยู่ในอำเภอพาน อำเภอแม่ลาว และอำเภอแม่สรวย[19] เส้นทางคมนาคม[แก้]ในอำเภอพาน มีถนนถูกฉีกตามรอยแตกที่รุนแรง กรมทางหลวง เปิดเผยข้อมูลหลังเกิดหลังแผ่นดินไหวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นบนทางหลวง ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มี 2 แห่ง ในทางหลวงสาย 118 ที่ตัดผ่านอำเภอแม่ลาว ช่วง กม. 147-152 มีการบิดตัวเสียรูปทรงเกือบทั้งหมด ผิวการจราจรแตกหักเสียหาย ทำให้ผิวจราจรต่างระดับกันเล็กน้อย[20] ประชาชนบาดเจ็บเสียชีวิต[แก้]มีผู้เสียชีวิต 2 คน คนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ ตำบลโป่งแพร่ อำเภอแม่ลาว เนื่องจากถูกผนังบ้านล้มทับบริเวณศีรษะ[7] อีกคนหนึ่ง อยู่ในพื้นที่ ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว เนื่องจากหัวใจวาย[21] มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 ราย[22] ความช่วยเหลือ[แก้]สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ตั้ง ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแผ่นดินไหว จังหวัดเชียงราย ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย มีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธาน[23] โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยด้วยการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 จุด และการช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ประสบภัย และส่งทีมสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัยของประชาชน โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ร่วมกับสถาวิศวกรรมสถาน ชมรมช่างท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย ชมรมช่างท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ และวิศวกรอาสา จัดทีมช่างและวิศวกรลงพื้นที่ออกตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและสิ่งกอ่สร้าง บ้านเรือนประชาชนก่อนที่เข้าไปอยู่อาศัย กว่า 200 คน จัดทีมแพทย์และเตรียมทำหนังสือขอขยายวงเงินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเสียหายทั้งหลัง จากเดิมที่สามารถชดเชยเงินให้ 33,000 บาท ให้สามารถชดเชยเงินได้สูงขึ้น อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
|