การทักทายภาษาอังกฤษมีกี่แบบ

คำทักทาย ภาษาอังกฤษ

👉 ดูคอร์สเรียนออนไลน์ 👈

คำทักทาย ภาษาอังกฤษ

Good morning. สวัสดีตอนเช้า
ใช้ได้ตั้งแต่ ตี 5 ถึงก่อนเที่ยง

Good afternoon. สวัสดีตอนกลางวัน
ใช้ได้ตั้งแต่ เที่ยง ถึงก่อน 6 โมงเย็น

Good evening. สวัสดีตอนเย็น
ใช้ได้ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึงก่อนตี 5

ส่วน Good night. ไม่ใช่คำทักทาย
แต่เป็นคำบอกลานะคะ แปลว่า ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



คำที่แทนคำพวกนี้ได้
ได้แก่

Hello. หรือ Hello there.

Hi. หรือ Hi there.


ส่วนคำว่า Hey ให้ใช้กับคนรู้จัก


Nice to meet you. ยินดีที่ได้รู้จัก

Nice to see you. ดีใจที่ได้เจอนะ


ประโยคเหล่านี้เป็นการถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง

How are you?

How are you doing?

How are you feeling?

How’s it going?

How’s everything?

ถ้าสบายดีก็ตอบว่า

Good.

I’m good.

I’m okay.

I’m doing well.

It’s going well.

Everything’s good.

Not bad.

ถ้าไม่สบายก็ตอบว่า

Not well.

I don’t feel well.

I’ve been better.

I’ve been better แปลว่าไม่ดีเลยเคยดีกว่านี้
ไม่ได้แปลว่าฉันดีขึ้นแล้วนะคะ


What’s up? 

What’s new?

แปลว่ามีอะไรใหม่ ๆ อัพเดทบ้างไหม

สามารถตอบสั้น ๆ ว่า Nothing Much. หรือ Not much.
แปลว่าเรื่อยๆไม่มีอะไรมาก


ดูคอร์สเรียนออนไลน์Facebook Page : เรียนเหอะ อยากสอน✨เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน✨

1. ……………… morning.

2. ………………are you?

3. ……………… ‘m fine.

4. ……………… ‘s up?

5. ………………to meet you.

6. Nice to meet you , ………………

7. ……………… me introduce myself.

8. How do you ………………?

9. May I introduce ………………?

10. My ………………is John.

11. ………………you.

12. I ‘d like you to ……………… Mary.

13. Good ………………

14. See you ………………

15. Jack , ……………… is Mary.

16. This is a ………………of mine, Jack.

คะแนนที่ได้ = 
คำตอบที่ถูกต้อง

ภาษาอังกฤษมีวิธีทักทายหลายแบบ ใครที่อยากรู้ว่าคำทักทายภาษาอังกฤษเขียนยังไง และมีคำกล่าวทักทายอะไรบ้าง ครูภาษาอังกฤษของเราจะมาสอนวิธีทักทายภาษาอังกฤษทั้ง 23 วิธีให้คุณได้เรียนวิธีทักทายภาษาอังกฤษง่ายๆ จากบทความนี้เลย

คำทักทายภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการ

การทักทายอย่างสุภาพนั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นการสนทนาที่ดีในสถาณการณ์เชิงธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องรู้เมื่อเราเรียนภาษาอังกฤษสำหรับทำงาน คือเราควรจะหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์แสลงทั้งหมดในการทักทายอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับการพบกันครั้งแรกเราต้องสร้างความประทับใจให้กับคู่สนทนาให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทักทายผู้สัมภาษณ์งาน, ทักทายหัวหน้างาน, ทักทายลูกค้า เป็นต้น คำทักทายแบบเป็นทางการที่ใช้บ่อย มีดังต่อไปนี้

1. Good morning./Good afternoon./Good Evening.

คำทักทายเหล่านี้ คือการพูด “hello” อย่างสุภาพในภาษาอังกฤษซึ่งจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับเวลาของวัน จำไว้เสมอว่า “good night” คือ ราตรีสวัสดิ์ ใช้เมื่อต้องการบอกลา คุณจะใช้คำนี้ในการทักทายตอนกลางคืนไม่ได้ มีกฏการจำคำทักทายชนิดนี้ง่ายๆ ดังนี้

  • Good morning แปลว่า สวัสดีตอนเช้า (ใช้ตั้งแต่ช่วงตื่นนอนจนถึงก่อนเที่ยง)
  • Good Afternoon แปลว่า สวัสดีค่ะตอนกลางวัน (ใช้ตั้งแต่เที่ยงจนถึงประมาณ 4 โมงเย็น)
  • Good Evening แปลว่า สวัสดีค่ะตอนเย็น (ใช้ตั้งแต่ 4 โมงเย็นขึ้นไป)
  • Good night แปลว่า ราตรีสวัสดิ์ (ใช้ในการบอกลาก่อนนอน ไม่ใช้เป็นคำทักทาย)

2. How do you do?

  • How do you do? แปลว่า สวัสดี, สบายดีไหม?

คำถามนี้ถือว่าเป็นการทักทายที่สุภาพมากๆ และถือว่าไม่ใช่ทำทักทายทั่วๆไป มักจะใช้โดยกลุ่มคนที่มีอายุ การตอบกลับที่เหมาะสมคือ “I’m doing well” อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่คนบางคนก็ย้อนถามคำถามกลับไปว่า “how do you do?” เป็นการตอบรับการทักทาย

3. Hello, nice to meet you.

  • Hello, nice to meet you. แปลว่า สวัสดี ยินดีที่ได้พบคุณ

การทักทายเมื่อเราเจอคนที่ไม่รู้จัก ประโยคนี้นี้ถูกนำมาใช้กันมากที่สุดสำหรับเริ่มต้นบทสนทนากับคนที่เพิ่งรู้จักกันในโอกาสที่เป็นทางการต่างๆ

4. Hello, nice to see you.

  • Hello, nice to see you (again). แปลว่า สวัสดี ยินดีที่ได้เจอคุณ (อีกครั้ง)

วลีนี้คล้ายกับวลีก่อนหน้า แต่จะใช้สำหรับคู่สนทนาที่รู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้รู้จักดีพอที่จะแสดงออกอย่างไม่เป็นทางการ สามารถเปลี่ยน Hello เป็น How do you do? ได้

5. Hello, how have you been?

  • Hello, how have you been? แปลว่า สวัสดี คุณเป็นอย่างไรบ้าง

How have you been? เป็นการถามว่า คุณเป็นอย่างไรบ้าง ในภาษาอังกฤษอย่างสุภาพ คำทักทายนี้แม้จะเป็นการถามความเป็นไปของคุณ แต่ก็สามารถใช้ในการทักทายอย่างเป็นทางการแบบสุภาพได้ โดยผู้ทักอาจจะไม่ได้ต้องการทราบจริงๆ ว่าคุณเป็นอย่างไร มีความสุขดีหรือไม่ เป็นแค่การถามอย่างเป็นมารยาทเท่านั้น คำตอบอาจจะเป็นการตอบสั้นๆ ว่าคุณสบายดี และขอบคุณที่ผู้ทักแสดงความสนใจ เช่น

  • I’m doing good. Thank you. แปลว่า ฉันสบายดี ขอบคุณ (ที่ถาม)
  • I’ve been well. Thanks. แปลว่า ฉันสบายดี ขอบคุณนะ
  • I’m great. Thank you. แปลว่า ฉันสบายดีมาก ขอบคุณ (ที่ถาม)

คุณสามารถถาม How have you been? กลับแบบเป็นมารยาทได้เช่นกัน และพึงระลึกไว้ว่าผู้ตอบก็คงจะตอบกลับวิธีเดียวที่คุณตอบ คือ ฉันสบายดี ขอบคุณที่ถาม

คำทักทายคนแปลกหน้าภาษาอังกฤษ

เมื่อเราทักทายคนแปลกหน้า เราอาจจะต้องมีการแนะนำตัวร่วมด้วย เราสามารถใช้ประโยคเหล่านี้ในการทักทายคนแปลกหน้าได้

6. Hello, my name is…

  • Hello, my name is…(ชื่อ) แปลว่า สวัสดี ชื่อของฉันคือ…

ประโยคนี้สามารถใช้เปิดสนทนากับคนที่เรายังไม่รู้จักดีด้วยการแนะนำตัวเองก่อน อีกทั้งยังใช้สำหรับโอกาสที่เป็นทางการอื่นๆที่เราต้องการแนะนำตัวเองกับคนหลายๆคนพร้อมกัน โดยเน้นไปที่กล่าว “สวัสดี” ก่อน จากนั้นจึงกล่าวแนะนำตัวภาษาอังกฤษ วิธีทักทายพร้อมแนะนำตัวแบบอื่นๆ เช่น

  • Hello, I’m…(ชื่อ)… แปลว่า สวัสดี ฉันชื่อ…
  • Hello, you can call me…(ชื่อ) แปลว่า สวัสดี คุณสามารถเรียกฉันว่า…ได้

ประโยคนี้มีความสุภาพ และเหมาะสอนการใช้ประโยคนี้แก่ผู้เรียนภาษาอังกฤษทุกคน แม้แต่ผู้เรียนภาษาอังกฤษวัยเด็ก ก็สามารถใช้ประโยคนี้ในการทักทายและแนะนำตัวภาษาอังกฤษได้

7. Hi/Hello! What’s your name?

  • Hi/Hello! What’s your name? แปลว่า สวัสดี คุณชื่ออะไร

Hi เป็นคำกล่าวทักทายแบบเป็นกันเอง และเราใช้ประโยค What’s your name? เมื่อเราต้องการทราบชื่อของคู่สนทนา ประโยคนี้ค่อนข้างไม่เป็นทางการ เรามักต้องต่อท้ายประโยคด้วยการบอกชื่อของผู้ทัก หรือบอกชื่อของเราก่อนการถามชื่อก็ได้ ใช้ได้กับสถานการณ์เฉพาะอย่าง ควรระมัดระวังในการใช้ด้วย ตัวอย่างเช่น

  • Hi, what’s your name? I’m Anne. แปลว่า สวัสดี คุณชื่ออะไร ฉันชื่อแอนนะ
  • Hello! I’m Mike. What’s your name? แปลว่า สวัสดี ผมชื่อไมค์ คุณชื่ออะไร

8. Hi! May I talk to you, please?

  • Hi! May I talk to you, please? แปลว่า สวัสดี ขอคุยด้วยสักหน่อยได้ไหม

เป็นประโยคคำถามแบบสุภาพ ใช้เมื่อต้องการกล่าวทักทายและต้องการถามบางสิ่งบางอย่างจากคู่สนทนา คุณสามารถเลือกใช้คำทักทายที่แปลว่า “สวัสดี” แทนคำว่า Hi ได้ เช่น

  • Good morning. May I talk to you, please? แปลว่า สวัสดีตอนเช้า ขอคุยด้วยสักหน่อยได้ไหม
  • How do you do? May I talk to you, please? แปลว่า สวัสดี สบายดีไหม ขอคุณด้วยสักหน่อยได้ไหม

การทักทายเพื่อน/ไม่เป็นทางการภาษาอังกฤษ

การพูดคุยกับเพื่อนหรือมิตรสหายย่อมดูเป็นทางการน้อยกว่าการสนทนาทางธุรกิจหรือการสัมภาษณ์งาน ดังนั้นเราสามารถใช้คำทักทายสบายๆ เป็นกันเองในการเริ่มต้นบทสนทนา ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างคำทักทายเพื่อนๆ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

9. What’s up?, What’s new?, What’s going on?, What are you up to?, What have you been up to?

  • What’s up? แปลว่า ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
  • What’s new? แปลว่า มีอะไรใหม่เกิดขึ้นไหม
  • What’s going on? แปลว่า ช่วงนี้ทำอะไรอยู่
  • What are you up to? แปลว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้
  • What have you been up to? แปลว่า เธอทำอะไรอยู่ช่วงนี้

เป็นสำนวนทักทายภาษาอังกฤษที่ใช้ได้ทั่วไปในหมู่เพื่อนฝูง เป็นการถามสารทุกข์สุขดิบ และใช้ทักทายแบบไม่เป็นทางการเท่านั้น เปรียบได้กับเวลาเราเจอเพื่อน แล้วเราทักเพื่อนว่า “เฮ้ย แก เป็นไงบ้าง” เป็น เราอาจพบว่าบางคนอาจทำให้คำทักทายที่ไม่เป็นทางการนี้สั้นลง และยิ่งไม่เป็นทางการมากขึ้นไปอีก เช่น

  • Sup?
  • Wassup?
  • Whassup?

การใช้สำนวนทักทายเช่นนี้มักใช้กับคนสนิท ยิ่งไม่เป็นทางการมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสนิทมากเท่านั้น เราจึงควรใช้สำนวนเช่นนี้ให้ถูกที่ถูกเวลา การตอบคำทักทายเช่นนี้มีหลายรูปแบบ โดยอาจจะเป็นการตอบกลับด้วย What’s up? เหมือนกัน หรือตอบกลับด้วยคำตอบตัวอย่างต่อไปนี้

  • Nothing much./ Not a lot. แปลว่า ไม่มีอะไรมาก
  • Nothing แปลว่า ไม่มีอะไรเลย
  • As usual แปลว่า ก็เหมือนเดิมแหละ

หากมีอะไรที่เราต้องการแชร์กับเพื่อน เราสามารถเล่าไปได้เลยว่าเราเป็นอะไร กำลังทำอะไรอยู่ เช่น

Hi, Mike. What’s up?
สวัสดีไมค์ เป็นไงบ้าง

Hi, Tyler! I’m going on a holiday next week!
สวัสดีไทเลอร์ ฉันกำลังจะไปเที่ยววันหยุดสัปดาห์หน้านี้แหละ!

หากคุณถูกถามว่า เป็นไงบ้างในภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้จะตอบยังไง ให้สังเกตุผู้ถาม ว่าผู้ถามนั้นถามเป็นมารยาท หรือถามเพราะต้องการทราบจริงๆ ว่าเราเป็นอย่างไรบ้าง หากถามเป็นมารยาทเท่านั้นก็สามารถตอบแบบข้างต้นได้ แต่ถ้าเป็นการเพราะต้องการทราบจริงๆ ให้กดที่ลิ้งค์ต่อไปนี้เพื่อดูวิธีตอบเป็นไงบ้างภาษาอังกฤษสำหรับสถานการณ์ต่างๆ ในบทความนี้ได้

10. Long time no see!

  • Long time no see! แปลว่า ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

เป็นคำทักทายสำหรับเพื่อนเก่าหรือคนที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว อาจจะตามหลังด้วยประโยค “What’s up?” หรือ “What have you been up?” ก็ได้ เพื่อนที่สนิทมักกอดกันเวลาที่ทักทาย โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมาเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณอาจจะกล่าวคำทักทายนี้ในขณะที่กอดหรือจับมือ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับคู่สนทนา

คำทักทายอื่นๆ หรือแสลงที่ใช้ทักทายคนที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เช่น

  • I haven’t seen you in ages. แปลว่า ไม่เจอกันนานมากแล้วนะ
  • It’s been a while. แปลว่า ไม่เจอกันสักพักแล้วนะ

กดที่นี่เพื่อดูคำทักทาย Long time no see แบบอื่นๆ อีก 8 วิธีที่คุณอาจจะสนใจ

11. Hi!, Hey!

  • Hi! แปลว่า สวัสดี, หวัดดี (แสลง) เป็นทางการน้อยกว่าคำว่า Hello
  • Hey! แปลว่า เฮ้, เฮ้ย อาจใช้ในการทักทาย หรือแสดงอารมณ์ตกใจก็ได้

เป็นคำทักทายภาษาอังกฤษที่ง่ายที่สุด สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ใช้กับเพื่อนหรือคนแปลกหน้าก็ได้ จำไว้ว่า “Hey” เป็นคำทักทายที่ค่อนข้างเป็นกันเองมากกว่า “Hi” ดังนั้นควรนำไปใช้พูดคุยกับเพื่อนสนิทมากกว่า คำแสลงที่ใช้ในการทักทายอื่นๆ ที่น่าสนใจเมื่อคุณเรียนพูดภาษาอังกฤษ เช่น

  • Howdy! — เป็นตัวย่อของคำถาม “how do you do?” นั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในแคนาดาบางส่วนและสหรัฐอเมริกา
  • G’day mate! — เป็นคำทักทายอย่างเป็นกันเองของชาวออสเตรเลียซึ่งย่อมาจาก “good day” จำไว้ว่าการทักทายของคนออสเตรเลียมักจะใช้คำว่า “ya” แทนคำว่า “you” ซึ่ง “how are ya?” ซึ่งจะมีความหมายเดียวกับ “how are you?” และ “how are ya going?” ก็จะหมายถึง “how’s it going?” หรือ “how are you doing?”
  • Hiya! — ย่อมาจาก “how are you?” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในบางพื้นที่ของประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องตอบกลับคำถามนี้ คุณอาจจะพูดเพียง “hey!” กลับไปก็ได้
  • Yo! — เป็นคำทักทายที่ไม่เป็นทางการ มักใช้ในประเทศอเมริกา มีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มฮิบฮอปสมัย 1990 และนำมาใช้กันเล่นๆจนถึงปัจจุบัน

12. What’s good?, What it do?

  • What’s good?, What it do? แปลว่า เป็นไงบ้าง

แปลเป็นภาษาไทยได้ง่ายๆ ว่า “ว่าไง” ใช้สำหรับการทักทายเพื่อนฝูงและถามถึงและอัพเดทข่าวคราวซึ่งกันและกัน ไม่ควรนำไปทักทายกับคนผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าเรา

13. How you doin’?

เป็นประโยคเด็ดของโจอี้จากซีรีย์ “Friends“ อันโด่งดังมากว่าสิบปี ใช้เพื่อเปิดบทสนทนากับเพื่อนสนิท หรือใช้ทักคนหนุ่มสาวที่เราสนใจ อยากจะจีบก็ได้ แต่จำไว้ว่าประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่เป็นทางการมาก และมักสื่อถึงความสนใจเชิงชู้สาวแบบกลายๆ ตัวอย่างเช่น

Hi, Annie. How you doin’?
สวัสดีแอนนี่ เป็นไงบ้างครับ

14. Are you OK? You alright?, Alright mate?

  • Are you OK? แปลว่า คุณโอเคดีหรือเปล่า
  • You alright? แปลว่า คุณสบายดีใช่ไหม
  • Alright mate? แปลว่า สบายดีหรือเปล่าคุณ

เป็นการทักทายกันเองที่ใช้แทนได้ทั้ง “hello” และ “how are you” เป็นที่นิยมในประเทศอังกฤษ คุณสามารถตอบกลับได้ว่า “yeah, fine” หรือ ง่ายๆ “alright”

15. Lovely to meet you.

  • Lovely to meet you. แปลว่า ยินดีที่ได้พบคุณ

เหมือนกับการบอกว่า “Nice to meet you.” ซึ่งเป็นการพูดสไตล์อเมริกัน ส่วน Lovely to meet you. เป็นการพูดสไตล์อังกฤษ ถือว่าเป็นการทักทายที่สุภาพเหมาะสม คุณสามารถใช้คำทักทายนี้กับคนที่เจอกันครั้งแรกจะทำให้คุณดูเป็นคนสุภาพอัธยาศัยดี จำไว้ว่าจะใช้คำทักทายนี้ก็มักเมื่อเจอกันครั้งแรกเท่านั้น เมื่อเจอกันครั้งต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณจำเขาหรือเธอได้ คุณสามารถพูดว่า “Lovely to see you again.”

16. What’s up, buttercup?

  • What’s up, buttercup? แปลว่า เป็นไงบ้าง สาวน้อย

Buttercup เป็นชื่อดอกไม้ดอกเล็กๆ สีเหลือง แสดงถึงความอ่อนโยน นุ่มนวล ในประเทศอังกฤษมักใช้คำนี้เรียกแฟนหรือผู้หญิงน่ารักอ่อนโยน อาจแปลว่า “ที่รัก” ในภาษาอังกฤษได้ ข้อควรระวังเมื่อใช้คำนี้ คือคำนี้สามารถนำไปใช้ดูถูกคนได้เช่นกัน เราจึงต้องคอยสังเกตุสถานการณ์และน้ำเสียงของผู้พูด เช่น

Suck it up, buttercup!
ทนไว้ อย่ามาบ่น อ่อนไหวเหลือเกินนะเธอน่ะ

17. Oi!

  • Oi! แปลว่า เอ่ย, โอ่ย เป็นการทำเสียงเรียก คล้ายการเรียก “เฮ้” หรือ “เฮ้ย”

เป็นวลีทักทายตามแบบฉบับของชาวออสเตรเลียน เราจะได้ยินคนท้องถิ่นทักทายกันในลักษณะนี้ เป็นคำทักทายที่ไม่เป็นทางการ และใช้สำหรับเปิดสนทนาทั่วไป

18. How’s this weather?

  • How’s this weather? แปลว่า อากาศเป็นไงบ้าง

เป็นคำทักทายที่นิยมใช้ในประเทศออสเตรเลีย โดยปกติจะใช้กับสถานการณ์ที่ต้องการเปิดบทสนทนากับคนแปลกหน้า

19. How’s she cuttin’?

  • How’s she/he cuttin’? แปลว่า เธอเป็นไงบ้าง, เขาเป็นไงบ้าง

เป็นการกล่าวทักทายโดยทั่วไปที่ใช้กันในแถบไอร์แลนด์เหนือ ใช้ถามถึงเพื่อน หรือคนที่เรารู้จัก

How’s he cuttin’? Is he coming to the meeting today?
เขาเป็นไงบ้าง เขาจะมาประชุมวันนี้ไหม

20. How’re yer doin’, pet?

  • How’re yer doin’, pet? แปลว่า คุณเป็นยังไงบ้าง

ถ้าคุณได้เดินทางไปเที่ยวสก็อตแลนด์ คุณจะได้ยินประโยคนี้จากคนท้องถิ่น ซึ่งเป็นทั้งคำทักทายและถามไถ่ความเป็นอยู่ด้วย

How’re yer doin’, pet? You look a bit peaky.
เป็นไงเพื่อน เธอดูซึมๆไปนะ

คำทักทายอย่างเป็นทางการสำหรับการเขียนจดหมายหรืออีเมล์

นอกจากการสื่อสารแบบเจอตัวแล้ว ยังมีบทสนทนาที่เราไม่เห็นหน้ากันเช่นการเขียนภาษาอังกฤษในจดหมายหรืออีเมล์ ซึ่งคำทักทายที่เหมาะสมสำหรับในสถานการณ์นี้มีหลายแบบดังต่อไปนี้

21. Dear Sir/Mam. 

สามารถใช้คำทักทายแบบนี้เป็นมาตรฐานในการเขียนจมหมายหรืออีเมล์ไปยังคนที่เราไม่รู้จัก เป็นคำที่ค่อนข้างเป็นทางการและสุภาพมากๆ สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับได้อย่างดีเยี่ยม

Dear Sir. I’m writing to you regarding the advertisement you’ve posted on your website. 
กราบเรียนท่านท่ีเคารพ กระผมเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโฆษณาที่ท่านโพสบนเว็บไซต์

22. To whom it may concern. 

เป็นอีกหนึ่งการทักทายที่เป็นกิจลักษณะมากที่สุด สำหรับจดหมายที่เป็นทางการ โดยปกติจะใช้เมื่อเราไม่ทราบว่าแน่นอนว่าบุคคลที่เราเขียนจดหมายหรืออีเมล์ถึงนั้นคือใคร

To whom it may concern, please accept this resignation letter. 
ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง โปรดรับทราบเกี่ยวกับจดหมายลาออกนี้

23. Dear Mr./Ms./Mrs./Miss

ถ้อยคำที่ใช้เป็นคำเริ่มต้นการเขียนจดหมาย และใช้เมื่อทราบแน่ชัดว่าจดหมายนั้นต้องการเขียนถึงใคร เราใช้คำนำหน้านี้และตามด้วยชื่อผู้รับ หรือตามด้วยนามสกุลหากเราต้องการแสดงความเป็นทางการให้มากขึ้น

Dear Miss Sarah. Have you had a chance to read my last email?
เรียนคุณซาร่าห์ ไม่ทราบว่าคุณได้มีโอกาสอ่านอีเมล์ฉบับสุดท้ายของดิฉันบ้างหรือยัง

เราหวังว่าคุณจะสนุกกับการลองใช้คำทักทายต่างๆเหล่านี้กับเพื่อนต่างชาติของคุณ แล้วคุณจะเห็นว่าการทักทายผู้คนด้วยคำทักทายที่หลากหลายจะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และอาจจะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษสนุกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับคุณ