พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 Show
ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน มีบัญญัติและอธิบายไว้แล้วใน พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 100 ถึง มาตรา 107 หลักส่วนใหญ่เป็นการคุ้มครอง แรงงานทั่วไป ได้ถูกยกเลิกไปแล้วตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2553 และเพื่อ ประโยชน์ในการวางมาตรการควบคุม กํากับดูแล และบริหารจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานเพื่อป้องกันและรักษาทรัพยากรบุคคลอันเป็นกําลังสําคัญของชาติ จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติคุ้มครองความปลอดภัยฉบับใหม่ขึ้น คือ “พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2554” ใช้บังคับในปัจจุบันขึ้นแทน ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน หมายความว่า “การกระทําหรือ สภาพการทํางานซึ่งปลอดจากเหตุอันจะทําให้เกิดการประสบอันตรายต่อชีวิต ต่อร่างกาย จิตใจ หรือ สุขภาพอนามัยอันเนื่องจากการทํางาน หรือเกี่ยวกับการทํางาน จากความหมาย และคําจํากัดความคําว่า ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทํางาน จึงหมายถึง การป้องกันมิให้ผู้ใช้แรงงานซึ่งหมายถึงลูกจ้างที่เกี่ยวข้องในการประกอบอาชีพ ที่รับจ้าง และทํางานให้นายจ้าง สามารถทํางานอย่างมั่นคงปลอดภัยได้รับการป้องกันและส่งเสริมคุ้มครอง ด้านชีวิต ร่างกาย จิตใจ สุขภาพอนามัย และอารมณ์ในการทํางาน ดังคําขวัญขององค์การอนามัยโลก ที่กล่าวไว้ว่า อาชีวอนามัยเพื่อทุกคน (Health for all) วิธีการที่จะให้ลูกจ้างหรือผู้ใช้แรงงานได้รับความปลอดภัยในอาชีวอนามัย ซึ่งหมายถึง ปลอดภัยจาก อันตรายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ และปลอดภัยจากอันตรายเกิดจากสภาพแวดล้อม ปลอดภัยจาก อันตรายที่เกิดจากเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ในการทํางาน สารเคมีอันตรายต่างๆ ที่ใช้ในการผลิต การก่อสร้าง และบริการ นายจ้างควรมีความรับผิดชอบและยึดหลักการทํางานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ในอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทํางานของลูกจ้าง ดังนี้ 1. การจัดการ เนื่องจากความแตกต่างและความสามารถของลูกจ้างแต่ละคน รวมทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ อาจแตกต่าง เหมือน หรือใกล้เคียง การดูแลจัดการและควบคุม ย่อมมีความจําเป็นอย่างยิ่ง ตามหลักที่ว่าใช้หนให้เหมาะสมกับงานและความรู้ความสามารถ 2. การคุ้มครอง ด้วยการปกป้องคุ้มครองป้องกันลูกจ้างที่ทํางานเสี่ยงอันตราย อันอาจเป็นเหตุ ให้เกิดการบาดเจ็บ เป็นอันตรายแก่กายหรือเสียชีวิตจากการทํางานได้ 3. การป้องกัน ด้วยการดูแลป้องกันมิให้ลูกจ้างทํางานในสภาพแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดเป็น อันตรายต่อร่างกาย ต่อสุขภาพ ได้แก่ การได้รับกลิ่น ฝุ่นละออง และเสียงขณะทํางานเกินเกณฑ์มาตรฐาน อันจะนํามาซึ่งการเจ็บป่วย และเสียชีวิตได้ 4. การส่งเสริม คือ การทะนุบํารุงสุขภาพอนามัย รักษาไว้ซึ่งความแข็งแรง ความสมบูรณ์ ในร่างกายของลูกจ้าง และผู้ประกอบอาชีพในสถานประกอบการทุกคน เช่น ให้มีการตรวจร่างกาย เพื่อสุขภาพเป็นประจําทุก 6 เดือน หรือหนึ่งปี มีสถานที่ออกกําลังกายหลังเลิกงาน อันจะทําให้ลูกจ้าง คือผู้ใช้แรงงานอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติและมีความสุข ข้อมูลเพิ่มเติม สาระสำคัญ บททั่วไป : โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ส่วนราชการดำเนินการตามมาตรฐานด้านการบริหารและจัดการด้านความปลอดภัยฯ ให้เกิดความปลอดภัยแก่บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องในองค์กร เช่นเดียวกับหน่วยงานเอกชน โดยหัวหน้าส่วนราชการมีหน้าที่จัดและดูแลสถานที่ราชการที่รับผิดชอบและผู้ใต้บังคับบัญชา ให้มีสภาพการทำงานและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ให้ได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ และสุขภาพอนามัย พร้อมกันนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชามีหน้าที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการและส่งเสริมด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของส่วนราชการ
ในขั้นต้น มีดังนี้ ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
จัดทำคู่มือการปฏิบัติตามมาตรฐานการบริหารจัดการและการจัดการด้านความปลอดภัยฯ ให้สอดคล้องตามพรบ.ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 สำหรับส่วนงานราชการ เพื่อใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการดำเนินการของราชการในการปฏิบัติตามพรบ.นี้ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่
1 : แนวปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับทุกหน่วยงาน ทุกส่วนราชการ ต้องดำเนินการ มีดังนี้ ส่วนที่ 2 : แนวปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับหน่วยงานที่มีความเสี่ยงเฉพาะ หน่วยงานที่มีความเสี่ยงเฉพาะ
ต้องดำเนินการ มีดังนี้
หน่วยงานราชการที่มีการดำเนินการเข้าข่ายประเภทกิจการเฉพาะ ต้องดำเนินการ มีดังนี้ ศึกษารายละเอียดตามปฏิบัติตามคู่มือ ตามไฟล์แนบท้ายนี้ พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 มีผลใช้บังคับตั้งแต่เมื่อใดรศ.พญ. เนสินี ไชยเอีย พบ. MMedSc PhD อว. อาชีวเวชศาสตร์ สานักงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น Page 2 Page 3 พระราชบัญญัติความความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ มีผลบังคับใช้๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔
พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ตราขึ้นเพราะวัตถุประสงค์อะไรบ้างพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2554. มีเจตนารมณ์เพื่อวางมาตรการควบคุม กํากับ ดูแล และบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลอันเป็นกําลังสําคัญของชาติให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
พระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใดหน้า ๕ เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๔ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ มกราคม ๒๕๕๔ พระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. ๒๕๕๔
นายจ้าง ตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ได้กล่าวถึงใครบ้าง“นายจ้าง” หมายความว่า นายจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานและให้หมายความ รวมถึง ผู้ประกอบกิจการซึ่งยอมให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาทํางานหรือทําผลประโยชน์ให้แก่หรือในสถานประกอบกิจการ ไม่ว่าการทํางานหรือการทําผลประโยชน์นั้น จะเป็นส่ว นหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดในกระบวนการผลิตหรือธุรกิจในความรับผิดชอบของผู้ประกอบกิจการนั้นหรือ ...
|