พักหลังมานี้เราจะเห็นประเด็นของคนที่ ‘มีเพื่อนเยอะ แต่ไม่มีใครที่พอจะใช้คำว่าสนิทด้วยได้’ ผ่านตากันบ้าง เพราะปัจจุบันความรู้สึกโดดเดี่ยวไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนที่มีเพื่อนน้อย ไม่ค่อยเข้าสังคมเท่านั้น แต่ความรู้สึกโดดเดี่ยวสามารถเล่นงานคนที่มีเพื่อนเยอะ ชอบเข้าสังคม ไปไหนก็มีแต่คนรู้จักได้ด้วย*คำเตือน บทความนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น ควรอ่านอย่างระมัดระวัง Show
“What if you had it all but nobody to call?” จะเป็นยังไงถ้าคุณมีทุกอย่าง แต่กลับไม่มีใครให้โทรหาเลยสักคนเคยไหมที่ยอมแกล้งไม่เป็นตัวเองเพื่อที่จะได้มีเพื่อน ลองเข้าไปในสังคมที่ไม่คุ้นเคย ออกจาก comfort zone ตามสูตรเพื่อหวังที่จะได้มิตรภาพที่ตัวเองรู้สึกขาด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือจำนวน follower ที่มากขึ้นแต่ไม่ใช่เพื่อนที่ต้องการ ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวตัวคนเดียวไม่ต่างกับคนที่ไม่มีเพื่อน เพราะความรู้สึกที่เหมือนจะมี แต่จริง ๆ กลับไม่มี มันอาจจะทำให้เหงาได้มากกว่าการไม่มีอยู่เลยก็ได้ และอีกมากมายหลายความรู้สึกที่คนมีเพื่อนเยอะแต่ไม่มีเพื่อนสนิท เช่น • รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับใครเลย • มีคนรู้จักมากมาย แต่ไม่มีใครที่รู้สึกสนิทด้วย • เวลามีเรื่องทุกข์ใจ ก็ไม่รู้ว่าจะโทรหาใคร คุยกับใคร • ไม่กล้าใช้คำว่าสนิทกับใคร กลัวจะคิดไปเอง • เหนื่อยที่จะเข้าสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถบอกได้ครบว่าทำไมคนที่มีเพื่อนเยอะกลับไม่มีเพื่อนสนิทเลย เพราะบางทีเราอาจจะยังไม่เจอคนที่ใช่ (เหมือนหาแฟน) เพราะการที่คนเราจะพัฒนาความสัมพันธ์จนซี้กันได้เนี่ย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนต้มบะหมี่ เพราะบางคนสามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้แต่จะให้สนิทกับทุกคนเลยคงยาก เหมือนอย่างที่เราเป็นเพื่อนกับทุกคนในห้องแต่เราก็จะสนิทอยู่แค่ไม่กี่คน ส่วนในกรณีนี้คือ เป็นเพื่อนกับทุกคนในห้อง แต่กลับไม่มีเพื่อนสนิทเลยสักคน Cr. IMDbทำไมบางคนมีเพื่อนเยอะ แต่กลับไม่มีเพื่อนสนิท ?เฟรนด์ลี่กับทุกคนไปหมดคนมีเพื่อนเยอะแน่นอนว่าต้องเป็นคนเฟรนด์ลี่ เข้ากับคนได้หลายกลุ่ม ไปไหนใครก็เรียกเพื่อน แต่เอาเข้าจริงคนที่พอจะเรียกได้ว่าเพื่อนสนิทแทบจะไม่มี เหมือนในเนื้อเพลงของ Taylor Swift ที่ว่า A friend to all is a friend to none หมายความว่า คนที่สามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้ ก็อาจจะไม่ได้เป็นเพื่อนกับใครเลยสักคน เพราะถ้าให้ความสำคัญกับทุกคนเท่ากันหมด ไม่มีใครที่พิเศษขึ้นมาเลยสักคน ก็อาจแปลได้ว่าคน ๆ นั้นมีเพื่อนนะ แต่ถ้าถามว่าสนิทกับใครก็อาจจะตอบไม่ได้ หรือไม่มีใครนับเป็นเพื่อนจริง ๆ ไม่สานต่อความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งมีเพื่อนเยอะแล้ว แต่กลับไม่รู้จักที่จะสานต่อความสัมพันธ์ก็อาจจะทำให้เป็นได้แค่เพื่อน ไม่ได้เลื่อนมาเป็นเพื่อนสนิท เพราะคนเราไม่ได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันทันทีที่สบตา นั่งใกล้กันหรือรู้จักชื่อพ่อแม่กัน มันต้องมีสถานการณ์วัดใจ มีการเปิดใจ เจอปัญหาเพื่อที่จะได้เรียนรู้อีกฝ่ายมากขึ้น หากเราพลาดที่จะสานต่อความสัมพันธ์ ทุกคนก็เป็นได้แค่เพื่อนทั่ว ๆ ไปที่เราจะไม่สนิทใจพอที่จะคุยเรื่องยาก ๆ ได้เพราะไม่เคยผ่านอะไรมาด้วยกันเลยยังไงล่ะ ไม่ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากพอบางทีมันอาจจะมีเพื่อนคนหนึ่งที่แคร์เรามาตลอด แต่เรามองไม่เห็นเอง อาจจะเป็นเพราะว่าเรามีเพื่อนเยอะเลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพื่อนคนนั้น ถ้าลองมองเห็นความสำคัญของเขา แล้วให้ความสำคัญเขากลับ เขาอาจกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของคุณก็ได้ บางคนไปให้ความสำคัญกับคนที่เขามีเพื่อนเยอะ แต่ก็เหมือนกับว่าเราไม่เคยเป็นเพื่อนที่สำคัญของเขาเลยก็มี กลัวการปฏิเสธบางคนก็ไม่กล้าที่จะทำความรู้จักใครมากกว่าผิวเผิน เพราะกลัวว่าจะไปทำลายความสัมพันธ์ที่มันดีอยู่แล้วให้พัง กลัวจะเสียเพื่อนไป เช่น บางคนไม่กล้าชวนเพื่อนไปเที่ยวเลยเพราะกลัวไปแล้วจะทะเลาะกันจนเลิกคบ กลัวเพื่อนจะรู้ข้อเสียของตัวเองก็เลยไม่กล้าชวนกันออกไปทำอะไรใหม่ ๆ จนสุดท้ายรู้ตัวอีกทีเวลามีเรื่องไม่สบายใจก็ไม่รู้จะคุยกับใคร เพราะมีเเต่เพื่อนที่ไม่สนิท ยังไม่เจอคนที่รู้สึกสนิทด้วยแต่บางคนที่ยังไม่มีเพื่อนสนิทก็เพราะยังไม่เจอใครที่ทำให้รู้สึกสนิทจริง ๆ ดูแล้วไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน ความคิดยังไม่แมทช์กัน ศีลไม่เสมอกันและเขามีบางอย่างที่เราไม่ชอบ แนะนำให้ลองโยนหินถามทางแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเวลา ลองเปิดใจกับเพื่อนหลาย ๆ คนดู หรือสังเกตว่าวันไหนที่เราไม่โอเค เขายื่นมือมาหาเราไหม ถ้าเขาอยู่กับเราได้ในวันแย่ ๆ โดยไม่รำคาญเรามาก ก็แปลว่าน่าจะสนิทกันได้ในอนาคต แต่กว่าที่เราจะเจอคนที่สนิทด้วย ความรู้สึกโดดเดี่ยวก็อาจจำเป็นเพื่อที่จะได้รู้ว่าคนแบบไหนที่อยู่ด้วยแล้วยังไม่ใช่ เราจะได้ออกไปหาและเปิดใจให้กับคนใหม่ ๆ เพราะการอยู่ท่ามกลางเพื่อนเยอะ ๆ โดยที่ไม่มีใครพอที่จะสนิทด้วยจริง ๆ มันอาจจะทำให้เราเหนื่อยมากขึ้นก็ได้ แหล่งข้อมูล |