แปลว่า ความรู้ทั่ว คือรู้ทั่วถึงเหตุถึงผล รู้อย่างชัดเจน, รู้เรื่องบาปบุญคุณโทษ, รู้สิ่งที่ควรทำควรเว้น เป็นต้น เป็นธรรมที่คอยกำกับศรัทธา เพื่อให้เชื่อประกอบด้วยเหตุผล ไม่ให้หลงเชื่ออย่างงมงาย ปัญญา ทำให้เกิดได้ 3 วิธี คือ
ปัญญา ที่เป็นระดับ อธิปัญญา คือปัญญาอย่างสูง จัดเป็นสิกขาข้อหนึ่งใน สิกขา 3 หรือ ไตรสิกขา คือ อธิศีล อธิสมาธิ อธิปัญญา ปัญญา คือ ความรู้ หรือ ความเข้าใจ ทั้งรู้ในตน รู้ในงาน รู้ในตำรา และรู้ในคน อันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำรงชีพในชีวิตประจำวัน ปัญญา 3 ประการ อรรถาธิบายเพิ่มเติม
ปัญญา 3 ประการ 2. จินตามยปัญญา กาลามสูตร 10 ประการ คือ พึงอย่าเพราะฟังตามกันมา อย่าเชื่อเพราะถือปฏิบัติสืบๆกันมา อย่าเชื่อเพราะการเล่าลือ อย่าเชื่อเพราะอ่านในตำรา อย่าเชื่อเพราะเพราะคิดด้วยตนเอง อย่าเชื่อเพราะการคาดเดา อย่าเชื่อเพราะมีเหตุผลประกอบ อย่าเชื่อเพราะมีทฤษฎีที่คนอื่นกล่าวไว้ อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณ์ อย่าเชื่อเพราะเขาเป็นครูเรา หรือใช้หลักธรรมอื่นที่เป็นพื้นฐานสำคัญของปัญญา คือ โยนิโสมนัสสิการ เมื่อคิดวิเคราะห์ตามประเด็นใดประเด็นหนึ่งที่เราสนใจในมูลเหตุต่างๆด้วยการใช้หลักกาลามสูตร 10 ประการ และโยนิโสมนัสสิการ ย่อมจะเกิดปัญญารู้แจ้งหรือได้ข้อเท็จจริงในสิ่งนั้น ว่าเป็นจริงหรือเป็นเท็จประการใด 3. ภาวนามยปัญญา วรรณกรรมของสุนทรภู่ในเพลงยาวถวายโอวาทที่แต่งขึ้นเพื่อถวายแด่เจ้าฟ้ากลาง และเจ้าฟ้าปิ๋ว ซึ่งเป็นเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วยเนื้อหาที่มุ่งเน้นปัญญา โดยปัญญาเปรียบเสมือนอาวุธประเภทหนึ่ง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันตน หรือ ต่อสู้กับศัตรูหมู่มาร สอดคล้องกับหลักธรรมที่ใช้เป็นอาวุธได้ที่เรียกว่า อาวุธทางธรรม 3 ประการ คือ สุตาวุธ, ปวิเวกาวุธ และปัญญาวุธ สรุปลักษณะปัญญาทั้ง 3 ประการ ปัญญานั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญของการดำเนินชีวิต เพราะปัญญาถือเป็นอาวุธประเภทหนึ่งที่มีทั้งคุณ และโทษ หากผู้มีปัญญาที่ไม่แท้จริง คือ มีปัญญาด้วยความหลงผิด เชื่อผิด ย่อมที่จะเป็นอาวุธทำร้ายผู้ใช้ปัญญานั้นได้เช่นกัน แต่หากเป็นผู้มีปัญญาที่รู้แจ้งด้วยตน มิใช่เพียงเพราะความรู้ในตำรา หรือ เพราะเขาพูดมา ย่อมที่จะก่อประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้ ทั้งในปัจจุบัน และภายภาคหน้า |