ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล Show | 25 มี.ค. 2565 เวลา 5:12 น. 6.7kสิทธิประกันตนมาตรา 33 และ มาตรา 39 สำนักงานประกันสังคมออกมาแนะ กรณีเสียชีวิตทายาทได้สิทธิอะไรบ้างเช็ครายละเอียดที่นี่
สาระ Fund วันละนิด: วันนี้ จะพาเหล่า “ผู้ประกันตน” ในระบบ “ประกันสังคม” มารู้จักกับสิทธิประโยชน์ที่หลายคนอาจจะละเลยกันไป นั่นก็คือ “กรณีเสียชีวิต” !!!แน่นอนว่า...“ไม่มีใครอยากตาย”แต่ “ความตาย” ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเลี่ยงได้ เชื่อว่าทุกคนตระหนักและเข้าใจในความจริงนี้เป็นอย่างดี สำหรับ “ผู้ประกันตน” แม้จะตายไปแล้ว เรียกว่า “ชีวิตจบแล้ว” ...แต่สิทธิประโยชน์ยังไม่จบนะ ทาง “ประกันสังคม” ยังมีผลประโยชน์ที่จะจ่ายให้แม้คุณจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตามวันนี้ ทีมงาน ‘Wealthythai’ มีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน “ประกันสังคม” จ่ายสิทธิประโยชน์กรณีตายช่วงวิกฤติ COVID-19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อและคนตายยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เทศกาลสงกรานต์ก็จะต้องมีเรื่องของ 7 วันอันตรายนับจำนวนอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์กันเป็นเรื่องปกติประจำปีไปแล้ว นี่ยังไม่นับรวมการจากไปจากเรื่องอื่นๆ ซึ่งมองให้เห็นธรรมดาก็ถือว่า “ความตาย” เป็นหนึ่งในเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เรานี่เองสำหรับ “ผู้ประกันตน” ในระบบของ “ประกันสังคม” นั้น ถือว่าที่ส่งเงินมาตลอดไม่ได้เสียเปล่าแต่ประการใด เพราะในวันที่คุณเสียชีวิตไปแล้วนั้น ประกันสังคมก็ยังมีสิทธิประโยชน์กรณีตายที่จะจ่ายให้ หลักๆ ได้แก่ “ค่าทำศพ” และ “เงินสงเคราะห์กรณีตาย” นั่นเอง “เงินค่าทำศพ” (adsbygoogle = window.adsbygoogle || []).push({});กรณีที่ “ผู้ประกันตนถึงแก่ชีวิต” ที่ไม่ใช่เหตุจากการทำงาน (มาตรา33 และมาตรา 39) และจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนเดือนที่เสียชีวิต ประกันสังคมจะจ่ายเพื่อช่วยเหลือการจัดการศพของผู้ประกันตนเป็นจำนวน 50,000 บาท ให้กับผู้จัดการศพ ได้แก่
ส่วนผู้ประกันตน (มาตรา 40) ที่จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 ใน 12 เดือน เว้นแต่กรณีเสียชีวิต จากอุบัติเหตุ จ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 1 ใน 6 เดือน ก่อนเดือนที่เสียชีวิต ประกันสังคมจะจ่ายให้ดังนี้- ทางเลือกที่ 1 และ 2 จะได้รับค่าทำศพ 25,000 บาท- ทางเลือกที่ 3 ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท“เงินสงเคราะห์กรณีตาย”ส่วน “เงินสงเคราะห์” กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตายนั้นจะจ่ายตามจำนวนและระยะเวลาที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบไว้ โดยเป็นเงินที่ “ประกันสังคม” จะจ่ายให้กับบุคคลที่ผู้ประกันตนได้ทำหนังสือระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์นั้น “แต่หากผู้ประกันตนไม่ได้ทำหนังสือระบุไว้ ทางสำนักงานประกันสังคมจะนำเงินสงเคราะห์นั้นมาเฉลี่ยจ่ายให้กับ สามีหรือภรรยา บิดา มารดา หรือบุตรของผู้ประกันตน ในจำนวนเท่าๆ กัน” สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39- เมื่อจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 36 - 119 เดือน จะได้เงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้าง เฉลี่ย 4 เดือน- หากจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป จะได้เงินสงเคราะห์ 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย 12 เดือน “เงินบำเหน็จชราภาพ”...ที่ทายาทสามารถเบิกเพิ่มเติมได้นอกจากสิทธิประโยชน์ทดแทนที่ทายาทจะได้รับ “กรณีที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต” แล้ว ยังมีเงินที่ทายาทสามารถเบิกเพิ่มเติมได้คือ “เงินบำเหน็จชราภาพ” ซึ่งสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้กับผู้มีสิทธิรับผลประโยชน์ตามจำนวนและระยะเวลาการสบทมเงินประกันสังคมดังนี้ - ผู้ประกันตนเสียชีวิตก่อนอายุครบ 55 ปี และจ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน ผู้รับประโยชน์จะได้ประโยชน์ทดแทนแบบบำเหน็จชราภาพ เป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายไว้ - ผู้ประกันตนเสียชีวิตก่อนอายุครบ 55 ปี และจ่ายเงินสมทบมากกว่า 12 เดือน ผู้รับประโยชน์จะได้ประโยชน์ทดแทนแบบบำเหน็จชราภาพ เป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายไว้ - ผู้ประกันตนเสียชีวิตภายในระยะเวลา 5 ปี หลังรับสิทธิบำนาญชราภาพ ผู้รับประโยชน์จะได้ประโยชน์ทดแทนเป็นเงิน 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือนอ่านถึงตรงนี้แล้ว ใครที่เป็น “ผู้ประกันตน” ในระบบของ “ประกันสังคม” อยู่ ไม่ควรนิ่งเฉยและแนะนำให้บอกกล่าวเรื่องราวเหล่านี้แก่ทายาทหรือคนใกล้ชิดของตัวเองเอาไว้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา คนข้างหลังก็จะไม่ลำบากเกินไป เพราะบางคนอาจ “ไม่รู้” จนทำให้ไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ตรงนี้ไป หรือใครมีคนในครอบครัวอยู่ในระบบประกันสังคม ก็ไปกระซิบบอกกันดูว่า...มันมี “สิทธิประโยชน์กรณีตาย” ตรงนี้อยู่นะ “รู้หรือยัง?” หากใครมีข้อสงสัยสามารถติดต่อทาง “ประกันสังคม” ในพื้นที่ได้เลย หรือโทร 1506 หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sso.go.th แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ “สาระ Fund วันละนิด” ครับ |