ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงาน ประวัติศาสตร์ อารยธรรมจีน - อินเดีย
ใบงาน ประวัติศาสตร์ อารยธรรมจีน - อินเดีย
 ID: 3147373
Language: Thai
School subject: ประวัติศาสตร์
Grade/level: ป.5
Age: 11-12
Main content: ใบงานประวัติศาสตร์
Other contents:

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Add to my workbooks (0)
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Download file pdf
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Embed in my website or blog
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Add to Google Classroom
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Add to Microsoft Teams
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Share through Whatsapp

Link to this worksheet:  Copy
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

SuriyonX


ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

What do you want to do?

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
Check my answersEmail my answers to my teacher

Enter your full name:

Group/level:

School subject:

Enter your teacher's email or key code:

Cancel

Please allow access to the microphone
Look at the top of your web browser. If you see a message asking for permission to access the microphone, please allow.

Close

ใบงานที่ 2 อารยธรรมจีน
ตั้งใจทำนะค้าบ
 ID: 2683815
Language: Thai
School subject: ท่าใหม่
Grade/level: ม.4
Age: 12+
Main content: อารยธรรมจีน
Other contents: วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Add to my workbooks (1)
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Download file pdf
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Embed in my website or blog
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Add to Google Classroom
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Add to Microsoft Teams
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
 Share through Whatsapp

Link to this worksheet:  Copy
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

chalop


ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

What do you want to do?

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
Check my answersEmail my answers to my teacher

Enter your full name:

Group/level:

School subject:

Enter your teacher's email or key code:

Cancel

Please allow access to the microphone
Look at the top of your web browser. If you see a message asking for permission to access the microphone, please allow.

Close

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุดประเทศหนึ่ง โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ สามารถค้นคว้าได้บ่งชี้ว่าอารยธรรมจีนมีอายุถึง 5,000 ปี รากฐานที่สำคัญของอารยธรรมจีนคือ การสร้างระบบภาษาเขียน และการพัฒนาแนวคิดลัทธิขงจื๊อ เมื่อประมาณ ศตวรรษที่ 2 ก่อน ค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมีทั้งช่วงที่เป็นปึกแผ่นและแตกเป็นหลายอาณาจักรสลับกันไป ในบางครั้งก็ถูกปกครองโดยชนชาติอื่น วัฒนธรรมของจีนมีอิทธิพลอย่างสูงต่อชาติอื่นๆ ในทวีปเอเชีย ซึ่งถ่ายทอดไปทั้งการอพยพ การค้า และการยึดครอง

ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

1 นักเรียนเข้าใจลักษณะเด่นของวัฒนธรรมจีน

2 เกิดทักษะในการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน

3 สามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคมพหุวัฒนธรรมได้

การวัดผลและประเมินผล

ชื้นงานหรือภาระงาน

1 ใบงานที่ 2 เรื่อง อารยธรรมอินเดีย

2 ความถูกต้องของการทำใบงาน

สตีเฟ่น บอดลีย์ (Steven Bodley) หรือ อาจารย์สตีฟ แห่งมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี คือชาวออสเตรเลียที่พูดภาษาไทยชัดแจ๋วจากไวรัลดังบนอินเทอร์เน็ตซึ่งบันทึกโดยฝีมือนิสิต นั่นเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เราอยากทำความรู้จักอาจารย์สอนภาษาอังกฤษท่านนี้อย่างมาก

การสนทนาร่วม 3 ชั่วโมงดำเนินด้วยภาษาไทย แน่นอนว่าชัดแจ๋ว ขนาดว่า ร.เรือ กระดกลิ้นแบบถูกต้องไม่มีผิดเพี้ยน แถมด้วยศัพท์แสงที่ไม่ธรรมดา จนเราถึงบางอ้อ เมื่ออาจารย์สตีฟเฉลยว่าอยู่ประเทศไทยมานานราว 30 ปี แม้เริ่มต้นด้วยความคิดที่ไม่อยากมาเยือนประเทศนี้เสียด้วยซ้ำ

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

เขาจับพลัดจับผลูเข้ามาทำงานในประเทศไทยกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สถาบันฝึกอบรมวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว (สรท.), มหาวิทยาลัยบูรพา บางแสน และมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี ปัจจุบันอาจารย์สตีฟย้ายมาสอนและใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีเข้าสู่ปีที่ 5 

ความน่าสนใจ คือ เขาเกิดและเติบโตในชนบทของประเทศออสเตรเลีย มีเพื่อนเป็นไก่ เป็ด แมว บางทีก็หนังสือและต้นไม้ เขามีความฝันว่าอยากเป็น ‘ครู’ เป็นครูเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคม เป็นครูเพื่อช่วยเหลือคนด้อยโอกาสให้หลุดพ้นจากกรงขังแสนคับแคบ ดังเช่นเรื่องราวชีวิตของเขาในวัยเด็ก

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ภายในหน้าต่างออนไลน์ตรงหน้า ชายตาน้ำข้าวท่าทางใจดีสวมเสื้อม่อฮ่อมสีซีด พร้อมด้วย ‘มุทิตา’ แมวหญิงสีดำขลับ แววตาสีฟ้าเขียว ที่เจ้าของบอกว่าเป็นแมวแปลก เกลียดแมว รักหมา และไม่กลัวคน นั่งอยู่บนตักและคลอเคลียไม่ห่าง สตีเฟ่นยินดีแบ่งปันเรื่องราวของเขาตั้งแต่ยังเยาว์ เยือนไทยครั้งแรก อาชีพครูตามฝัน เรียนภาษาไทย จนกระทั่งการตัดสินใจดำเนินชีวิตบั้นปลายในจังหวัดจันทบุรี 

เด็กบ้านนอกจากออสเตรเลีย

สตีเฟ่นเป็นลูกหลง ในวันที่เขาอายุครบ 1 ขวบ ก็มีอายุห่างจากพี่สาวคนแรกและพี่สาวคนที่สอง 16 ปี และ 14 ปี ตามลำดับ แถมเขายังกลายเป็นน้า โดยมีหลาน ๆ อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

“ครอบครัวผมผู้หญิงเป็นใหญ่ ผู้ชายเป็นรอง ผู้หญิงขับเคลื่อน ผู้ชายทำกับข้าว”

การเติบโตมาในครอบครัวที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ สอนอะไรคุณบ้าง – เราถาม

“เยอะมาก ผมกล้าแสดงออก ไม่อายที่จะพูดว่าผมร้องไห้เป็น มันทำให้ผมเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากกว่าเดิม ผมเคารพนับถือผู้หญิงมาก ๆ และเคยเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับทฤษฎีสิทธิสตรีกับการนำไปประยุกต์ใช้กับผู้ชาย ผมนี่เป็นเฟมินิสต์ตัวดุเลยครับ” สตีเฟ่นเล่าด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

เด็กหนุ่มเติบโตมาอย่างเดียวดายทว่าเด็ดเดี่ยว เพราะพี่สาวทั้งสองคนย้ายออกจากบ้านไปอยู่กับครอบครัวตั้งแต่เขาอายุ 4 ขวบ พ่อแม่จำเป็นต้องออกไปทำงานเลี้ยงชีพ หลังเลิกเรียนสตีเฟ่นใช้เวลาอยู่กับตัวเองเป็นหลัก หุงหาอาหารด้วยตัวเอง มีบัดดี้เป็นแมว ไก่ เป็ด บางทีก็ต้นไม้

“บ้านผมยากจนนะ พ่อเป็นเทศกิจ แม่เป็นพนักงานขายของในร้านชำ ผมมั่นใจว่าถ้าพ่อไม่เลี้ยงวัว ไม่เลี้ยงไก่ ไม่ตกปลา บางทีเราก็ไม่มีกิน ส่วนหมู่บ้านที่ผมอยู่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีรถไฟ ไม่มีรถเมล์

“ไม่มีแม้แต่ความหวัง” เขาเปรยถึง ‘บ้านเกิด’ ในชนบทของประเทศออสเตรเลีย

“มันบ้านนอกมาก ๆ เป็นสังคมการเกษตร มีประชากรแค่ 600 คน คนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ย้ายออกและทิ้งบ้านให้ร้าง เพราะอยู่ที่นี่เขาไม่มีอนาคต ส่วนเด็กในชั้นเรียนเดียวกันกับผมก็มีไม่ถึง 20 คน กระจัดกระจายกันตามฟาร์ม ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมเอาตัวรอดจากตรงนั้นมาได้คือหนังสือ”

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

หนังสือเป็นเพื่อน เป็นประตู และเป็นความวิเศษที่โลกใบนี้มอบให้เด็กชายสตีเฟ่น

“หนังสือทำให้ผมท่องโลกกว้าง ท่องจักรวาล ผมได้อ่านเรื่องชีวิตสมัยก่อนของคนในอังกฤษ อ่านเรื่องชีวิตของคนในมหานครนิวยอร์ก มันเหมือนผมมีปีก ปีกที่ทำให้ผมบินออกจากกรงและสังคมแคบ ๆ ในหมู่บ้านยากจน ผมใช้จินตนาการเดินทางทะลุมิติและข้ามเวลาไปอยู่ในโลกของหนังสือเล่มนั้น 

“ผมอยากทำให้คนอื่นบินได้ด้วยหนังสือเช่นเดียวกันกับผม และผมรู้นะว่ารัฐบาลออสเตรเลียมองหมู่บ้านผมและผมเป็นคนด้อยโอกาส มันผิดนะ ในเมื่อเรามีการศึกษา เรามีหนังสือ เรามีความรู้เป็นอาวุธ เท่ากับว่าเราไม่ได้ด้อยโอกาส เพราะเรามองเห็นความจริงของสถานการณ์ เราวิเคราะห์และหาหนทางออกได้ ผมกลับมองว่าส่วนหนึ่งของความด้อยโอกาสและความยากไร้เกิดขึ้นเพียงแค่ทัศนคติ

“ซึ่งผมเห็นหนทางที่จะช่วยผู้อื่นไม่ให้ด้อยโอกาสเหมือนผม นั่นคือการเป็น ‘ครู’ มันเป็นโอกาสที่จะช่วยให้คนอื่น ๆ ไม่ต้องติดอยู่ในกรง” นี่คือจุดเริ่มต้นความฝันของเด็กชายสตีเฟ่นในวัยเยาว์

แม้คะแนนสอบเอนทรานซ์ของสตีเฟ่นจะยื่นเรียนแพทยศาสตร์ได้สบายบรื๋อ แต่เขาส่ายหัว

เพราะหัวใจทั้งดวงเขามอบให้กับวิชาชีพ ‘ครู’ ไปเรียบร้อยแล้ว

มาทัศนศึกษาประเทศไทย

สตีเฟ่นและคณะเพื่อนมาประเทศไทยครั้งแรก ด้วยทริปทัศนศึกษาสมัยเรียนปริญญาตรี

“พูดตรง ๆ นะ ใจไม่ค่อยอยากมา” เขาเปรยพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ 

“แต่อาจารย์คะยั้นคะยอ ตื๊อจนผมยอม พอมาแล้วก็ชอบมาก ที่ยั่วใจที่สุดคือ พอไปอยู่ชนบทในเมืองไทย ทำไมมันเหมือนชนบทที่บ้านจัง ทั้ง ๆ ที่ต่างทวีป ต่างวัฒนธรรม ต่างเผ่าพันธุ์ ทุกสิ่งก็น่าจะต่างกัน แต่มันเหมือนกันจนน่าตกใจ นั่นเลยจุดประกายไฟให้ผมสนใจวัฒนธรรมและสังคมไทย

“ผมสำเร็จการศึกษาแล้ว ก็ทำงาน เก็บตังค์ ช่วงนั้นเศรษฐกิจในออสเตรเลียไม่ค่อยดี เพื่อนสนิทในไทยเขาบอกว่าเศรษฐกิจไทยดีอยู่ค่า เชิญมาทำงานที่นี่ค่า ผมคิดว่าไม่เลวนะ ก็เลยมา ลองดู”

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

เขาเริ่มต้นอาชีพแรกในสยามเมืองยิ้มด้วยการทำงานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพราะเคยเป็นมัคคุเทศก์และบังเอิญว่าบ้านเกิดของเขาอยู่ในภูมิภาคที่โด่งดังเรื่องการท่องเที่ยวระดับโลก ทำให้เขาข้องเกี่ยวกับภาษา การแปล การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและสังคม มาโดยตลอด

ถนนสายอาชีพพาเขาเดินทางมาปักหลักที่จังหวัดชลบุรี เริ่มต้นอาชีพที่สองกับสถาบันฝึกอบรมวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว (สรท.) หลังจากนั้น 4 ปี เขาก็กลายมาเป็น ‘ครู’ วิชาชีพที่เขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กที่มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี และมหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี

จนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้คนไทย

แล้วสอนอะไร – เราสงสัย คงพอจะเดาออกว่าหนีไม่พ้นวิชาภาษาอังกฤษเป็นแน่

“ผมเป็นอาจารย์เก็บตกครับ” เขาไม่รอให้ฉงนนาน “หมายความว่าวิชาไหนไม่มีคนอยากสอน ผมต้องสอน เช่น วิชาการพูด-ฟัง วิชาการแปล วิชาการล่าม ซึ่งผมไม่ชอบการแปลเท่าไหร่ แต่ด้วยเหตุจำเป็นทำให้ผมต้องสอน การที่ผมตั้งใจรับรู้ภาษาไทยทำให้ผมเป็นทรัพยากรสำคัญในวิชาการแปล ยิ่งสอนคู่กับอาจารย์คนไทยที่เรียนด้านวรรณกรรม ฟินเวอร์ ช่วยกันคิดภาษา ช่วยกันเกลา มันดี”

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

อาจารย์สตีฟสอนวิชาเก็บตกเป็นเวลามากกว่า 20 ปีในวิทยาเขตบางแสน 

เมื่อย้ายมาวิทยาเขตจันทบุรี ก็ยังสอนวิชาเก็บตกอยู่หรือไม่ – เราสงสัย ครั้งที่สอง 

“Yes! ตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ ครับ” เป็นคำตอบที่มาพร้อมเสียงหัวเราะ 

“ผมสอนในสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารเชิงธุรกิจ มุ่งเน้นภาษาอังกฤษ แต่เนื้อความเป็นเชิงธุรกิจ นี่เป็นความต้องการของคนในละแวกนี้ ทางมหาวิทยาลัยทำการสำรวจระยอง จันทบุรี สระแก้ว ตราด ปราจีนบุรี ว่าเขามีความต้องการใช้ภาษาอังกฤษอย่างไร ซึ่งเขาต้องการรู้ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ การสอนก็จะยกตัวอย่างเกี่ยวกับการเกษตรค่อนข้างเยอะ การท่องเที่ยวเชิงทะเล เชิงอาหาร 

“ที่นี่ปรับหลักสูตรทุก 4 ปี เรากำลังจะมีวิชาหนึ่งที่มีแต่ผมสอนได้ นั่นคือวิชาล่าม วิชานี้เกิดขึ้น เพราะหลังจากนิสิตฝึกงานและสำเร็จการศึกษาจนออกไปทำงาน อาจารย์มีหน้าที่ออกไปติดตามผลแล้วก็ขอคำแนะนำมาปรับปรุงหลักสูตร มีฟีดแบ็กค่อนข้างหนักจากภาคอุตสาหกรรมในระยอง ชลบุรี กรุงเทพฯ ว่าต้องการคนที่ทำล่ามเป็น ทุกคนในที่ประชุมก็หันหน้ามามองผม (หัวเราะ) ก็ได้วะ!

“ผมถึงเรียกว่าวิชาเก็บตก ผมยินดีครับ ถ้าทำให้เด็กผมเก่ง ผมทำ และการทำงานกับมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก มันดีมาก ๆ วิทยาเขตจันทบุรีไม่ใหญ่เหมือนบางแสน เราทำงานเป็นทีมที่แน่นแฟ้นมาก เรารู้จักชื่อเด็กทุกคน สิ่งที่ผมภูมิใจมาก คือ วิทยาเขตของเราเด็กพิเศษมาอยู่เยอะมาก เรามีนิสิตในกลุ่ม LGBTI เยอะ มีนิสิตที่เป็นออทิสติก มีนิสิตที่เป็นโรคซึมเศร้า ผมภูมิใจที่เขากล้ามาอยู่กับเราและไว้ใจเรา”

อยากเป็นครูเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม

“ตอนเริ่มเรียนมหาวิทยาลัย ผมเห็นว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือที่เปลี่ยนแปลงสังคมได้

“และการเป็นครู ก็เหมือนผมมีบทบาทลับ ๆ ผมไม่ใช่นักการเมืองหน้าใหญ่ที่ต้องออกมาชี้ทางนโยบาย ผมเพียงแต่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลัง แล้วค่อย ๆ แนะแนวทางให้ศิษย์ และผมสำนึกตลอดเวลาที่สอนอยู่ในห้องเรียน สิ่งที่ผมพูด สิ่งที่ผมทำ มันคือสิ่งที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมได้ในอนาคต”

เป้าหมายใหญ่ของการเป็นครูคือการเปลี่ยนแปลงสังคม – เราทวนความคิด

“ถูกครับ เพราะสังคมที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือสังคมที่ตายไปแล้ว” – เขาตอบทันที

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

จากที่อยู่ไทยมาเกือบ 30 ปี อาจารย์สตีฟคิดว่าสังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้ดีขึ้น

“เหนื่อยใจ” (ทำท่าปาดเหงื่อ) “ผมไม่อยากให้คนไทยทิ้งกำพืด การที่เมืองไทยเป็นเมืองเกษตร สำคัญมาก อย่าทิ้งการเกษตร และอย่าคิดว่าการพัฒนาเท่ากับความร่ำรวย ผมยอมรับว่าเงินมันอำนวยความสะดวกได้หลายสิ่ง แต่เงินไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ในวันที่เราท้อแท้ เงินมันจะเอื้อมมากอดเรามั้ย เงินมันจะกระซิบข้างหูเรามั้ยว่า รักเธอนะ เงินมันมีประโยชน์ในวงจำกัดมาก ๆ สิ่งที่มีประโยชน์กว่าเงิน คือเพื่อนบ้าน คือคุณพ่อ คุณแม่ คือต้นกะเพราหน้าบ้านที่มีใบให้กินและรักษาดินไว้ให้เรา

“ผมอยากให้คนใส่ใจเรื่องสังคมมากกว่าใส่ใจเรื่องเงินทอง เช่น บ้านผมอยู่ที่อำเภอท่าใหม่ ก่อนหวยออก 2 สัปดาห์ ชาวบ้านบอกว่าเกลียดนายกนักหนาสาหัส แต่พอกลางเดือนกับสิ้นเดือนก็หาเงินเพื่อเขวี้ยงใส่เขาตลอดเวลา ผมว่าคนเราชอบลืมว่าการกระทำของเราเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดสังคม ถ้าเราต้องพัฒนาสังคม ก็จำเป็นต้องพัฒนาคนให้เจริญก้าวหน้า ให้คนมีเหตุมีผลและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น 

“ถ้าวันใดสังคมไม่มีความก้าวหน้า คุณนั่นแหละต้องเป็นจุดเปลี่ยน คุณต้องกล้าและมั่นใจพอที่จะเป็นจุดริเริ่มของการเปลี่ยนแปลง โดยให้การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นในตัวคุณก่อน ซึ่งผมไม่ใช่คนโลกสวย แต่ผมเชื่อว่าถ้าคนเราอยากเปลี่ยนโลก ก็เปลี่ยนสิวะ มันอยู่ที่มือของคุณ อยู่ที่การกระทำของคุณ”

เขาเชื่อมั่นเช่นนั้นเสมอมา

จนค้นพบว่า นี่แหละ หัวใจของความเป็นครู

เราถามผู้ประกอบวิชาชีพครูมากว่าค่อนชีวิต ว่าเขายังสนุกกับการเป็น ‘ครู’ อยู่ไหม

“สนุกครับ ถ้าไม่สนุก ผมจะทำไปทำไม เหนื่อย ถ้าผมไม่รักอาชีพครู ผมไม่เป็นหรอก และในความรู้สึกของผม ไม่มีผู้ใดเลือกเป็นครูเพราะอยากรวย อาชีพครูไม่รวยครับ รวยแต่เขือน่ะสิ” หัวเราะ

“มีครั้งหนึ่ง เด็กที่ผมสอนออกเสียง S ท้ายคำไม่ได้ ปีหนึ่งก็ไม่ได้ ปีสองก็ไม่ได้ พอปีสาม ผมขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน วันนี้อีน้องไมค์มันออกเสียง S ท้ายคำได้ วันนี้กูพร้อมตาย ชีวิตนี้กูคุ้มแล้ว 

“นี่แหละครับค่าตอบแทนและความสุขที่แท้จริงของครู คือความรู้และความสำเร็จผลของลูกศิษย์ เหมือนผมเป็นพ่อแม่เขา ผมมีส่วนร่วมในการหล่อหลอมเขา นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกมีคุณค่า มันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่นะ ผมว่าเด็ก ๆ เขาไม่ค่อยรู้ว่าครูส่วนใหญ่รู้สึกแบบนี้” ครูคนนี้เล่าด้วยแววตาภูมิใจ

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ตลอด 30 กว่าปีของการเป็นเรือจ้าง คุณว่าคุณค่าของความเป็น ‘ครู’ คืออะไร

“ศักดิ์ศรีครับ ผมเป็นครูด้วยใจ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและหวังดี ซึ่งก่อให้เกิดการเข้าใจคุณค่าในตัวเอง ผมไม่สนใจเกียรตินะ ใครมาชี้หน้าด่าผม ผมจะมองหน้าแล้วบอกว่า ครับ ใครจะชื่นชมว่าผมดี คำชื่นชมยกย่อง ผมแดกไม่อิ่ม แต่การที่ผมรู้แก่ใจว่าผมรักนิสิต ผมทำให้เขาก้าวหน้า นั่นคือศักดิ์ศรีของผม”

เรารู้ว่าครูเป็นผู้ให้ ‘ความรู้’ ในทางกลับกัน การเป็นครูทำให้คุณ ‘เรียนรู้’ อะไรบ้าง

“ผมเรียนรู้ถึงคุณค่าของความเป็นระเบียบ เรียนรู้ถึงความเก่ง ความแกร่งของวัยรุ่น เรียนรู้ถึงจรรยาบรรณและศีลธรรมของวัยรุ่น วัยรุ่นมีใจให้ซึ่งกันและกัน ผมได้รับมิตรสหายจากครูด้วยกัน พวกเราเป็นนักรบต่อต้านความโง่และต่อสู้กับความทุจริตในสังคม เหมือนเรากลายเป็นพรรคพวกเดียวกัน”

ซึ่งจำเป็นต้องเรียนภาษาไทย

จากไวรัลที่อาจารย์สตีฟพูดไทยชัดแจ๋วก็อดถามถึงการเรียนภาษาไทยของเขาไม่ได้ การอยู่ไทยจะปาเข้าปีที่ 30 ก็พอตอบข้อสงสัยนั้น แต่ขอถามอีกหน่อยน่า ว่าเริ่มเรียนภาษาไทยตั้งแต่ตอนไหน

“ตอนจำเป็นที่ต้องขึ้นสองแถวและมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ความจำเป็นเป็นครูที่ดีที่สุด” เขาเปรย 

“ในเมื่อคุณจำเป็นต้องพูดให้รู้เรื่อง คุณจะพูดรู้เรื่อง วิธีการรับรู้ภาษาคือการใช้แล้ว ใช้เล่า ใช้อีก ใช้ซ้ำ คุณต้องฝึกและเอาภาษามาใช้จริงในชีวิตประจำวัน ผมขออภัยนะครับ แต่ทำไมโสเภณีถึงใช้ภาษาเก่ง เพราะเขาจำเป็นจะต้องพูดรู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นเขาหาเงินหาทองไม่ได้ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ

“ผมบอกนิสิตเสมอว่าการเรียนภาษาให้เก่งก็เหมือนการปั่นจักรยานให้เป็น ถ้าคุณอ่านหนังสือประวัติความเป็นมาของจักรยาน คุณอ่านหนังสือวิธีการประกอบจักรยาน คุณอ่านนวนิยายเกี่ยวกับการปั่นจักรยาน คุณดูหลักการทฤษฎีการทรงตัวของมนุษย์ คุณไปอ่าน ไปสัมภาษณ์ ไปพูดคุย ไปเก็บตัวอย่างงานวิจัยเกี่ยวกับจักรยานมากแค่ไหน คุณจะปั่นไม่ได้จนกระทั่งคุณแหกตูดนั่งบนอานจักรยาน 

“คุณต้องล้มแล้ว ล้มเล่า ต้องเลือดออก ถึงจะปั่นจักรยานเป็น ภาษาก็เช่นเดียวกัน กว่าคุณจะเก่งภาษาต่างประเทศคุณต้องร้องไห้ ต้องเสียเหงื่อ ต้องเสียเวลา ต้องเจ็บ ไม่เช่นนั้นคุณไม่จำ”

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

แล้วการเรียนภาษาไทยของอาจารย์สตีฟเหมือนการปั่นจักรยานไหม 

“โอ้โห เสียเวลา เสียเหงื่อ เสียเลือด แล้วก็เสียน้ำตาเยอะมาก” – เสียน้ำตาเพราะอะไร

“เพราะมีคนด่า มีคนเข้าใจผิด ผมใช้ภาษาผิด สื่อสารไม่ได้ แต่มันก็ทำให้ผมจำนะเว้ย”

อาจารย์สตีฟก้าวผ่านหยดน้ำตาและหยาดเหงื่อเหล่านั้นมาได้อย่างไร

“ด้วยการต่อสู้สิครับ ไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่ได้มาฟรีนะลูก แม้แต่ความรักก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง ผมพ้นผ่านด้วยความแกร่ง ความตั้งใจ เช่น วันนี้คนขับสองแถวหัวเราะเยาะเย้ยผมเวลาผมพูดไม่ชัด สัปดาห์หน้า ถ้ากูขึ้นสองแถวมึงนะ มึงไม่มีวันหัวเราะกูอีกต่อไป ครั้งหน้ากูจะพูดถูก ต้องสู้” 

แล้วใครเป็นคนสอนภาษาไทยให้คุณ (รู้ว่าเป็นคำถามพื้นฐานที่สุด แต่ก็อยากรู้อยู่ดี)

“ครูสอนภาษาไทยผมที่ดีที่สุดของผม คือ มอเตอร์ไซค์รับจ้างครับ” – ทำไมคะ

“เขามีเวลาว่างระหว่างรอคิว”

“ผมคุยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอยากคุย เพราะเขาเป็นเจ้าของภาษา บางทีเขาถามว่าออสเตรเลียเป็นยังไง ผมก็ต้องพยายามหาคำศัพท์เกี่ยวกับพืชพันธุ์ที่ปลูกในออสเตรเลีย เกี่ยวกับการเกษตรที่พ่อของผมทำ เกี่ยวกับภูมิอากาศ สภาพอากาศ เศรษฐกิจ การปกครอง เขาถาม ผมก็ต้องหาคำตอบ บางทีดึกดื่นก็นั่งคุยกับคุณยาม บางทีนั่งสองแถวไปทำงาน เห็นคุณป้าหน้าตาใจดีนั่งตรงกันข้ามก็ชวนกันคุย 

“แม่ค้าที่ตลาดก็ใจดีนะ ผมไปเดินตลาดวัดกลาง จังหวัดชลบุรี หยิบมังคุดขึ้นมา ถามเขาว่านี่เรียกว่าอะไร เขาก็ตอบว่า ‘มังคุด’ – มังคุด ฉันพูดถูกมั้ยจ๊ะพี่ ขอซื้อหนึ่งกิโลครับ พอนั่งสองแถวกลับบ้าน ผมก็หยิบมังคุดขึ้นมา แล้วก็ท่องว่า มังคุด มังคุด มังคุด หอมหวาน เนื้อขาว ผมต้องหาเรื่องคุยเกี่ยวกับมังคุด ต้องใช้คำว่ามังคุดให้เป็น แล้วก็ยั่วยุให้คนอื่นอยากจะพูดเรื่องมังคุดด้วย เพื่อผมจะได้จำ

“สิ่งสำคัญคือแอตติจูด ถ้ามีทัศนคติที่ดีต่อภาษา จะยิ่งเป็นแรงบันดาลใจและแรงกระตุ้น”

หัวใจหลักของภาษาคือการใช้ซ้ำและใช้จริง อาจารย์สตีฟบอกเราว่า ตอนเป็นเด็กคุณรับภาษาไทยมาเยี่ยงไร ก็จงรับภาษาอังกฤษเยี่ยงนั้น แล้วคุณจะเก่งภาษาอังกฤษเท่าเทียมกับภาษาไทย 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

พอพูดกันด้วยภาษาไทยแล้วยิ่งมันปาก ซึ่งอาจารย์สตีฟก็เห็นพ้องกับเรา 

“ภาษาไทยเป็นภาษาที่สนุก ๆ จริงนะ เป็นภาษาที่พร้อมจะหาเรื่องทะลึ่งมาแทรกตลอดเวลา แต่มีหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมเกือบยอมแพ้ต่อภาษาไทยคือคำศัพท์ ภาษาไทยคำศัพท์มันเยอะฉิบหายเลย 

“สำหรับคนอ้วนอย่างผม คำว่ากินเป็นคำที่สำคัญ มีครั้งหนึ่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างถามผมว่า ‘จารย์แดกข้าวกันมั้ย’ ผมก็นึกว่าฟังผิด ‘อะไรแตกนะครับพี่ จานแตกหรอ’ เขาบอกว่า ‘ไม่ใช่แตก แดก’

“ถึงมารู้ว่าแดกแปลว่ากิน เขาบอกว่าพูดแดกแล้วมันสะใจกว่า พอผมรู้จักคำว่ากิน คำว่าแดก ยังโดนคำว่าทานอีก ยังมีรับประทาน เสวย ฉัน ยัดห่า ฟัด ฟาด สวาปาม มันเยอะมาก เหนื่อยนะ

“ตอนนี้เริ่มติดภาษาตะวันออก อย่างคำว่า อร่อยเหาะ แปลว่า อร่อยจัง หรือคำว่า เต็มเช่ด แปลว่า เต็มไปหมดเลย, จะนั่งสองแถวก็ไม่ได้ เต็มเช่ด แล้วมีบางคำที่นิสิตสอน เช่น อยู่ แปลว่า ไม่ได้ ถ้าพูดว่า ได้อยู่ ก็แปลว่า ไม่ได้” อาจารย์สตีฟเล่าด้วยอารมณ์ขัน พร้อมยกสถานการณ์ที่เอาไปใช้จริง

และความเป็นไทยสอนให้รู้ว่า

“ในภาพรวม ผมมองว่าวัฒนธรรมไทย สังคมไทย สอนคนให้เคารพกัน ผมค่อนข้างชอบยกมือไหว้นะ และความเป็นไทยสอนให้คนมีความเกรงใจ บางทีเกรงใจก็ดี บางทีเกรงใจมากเกินไปก็ไม่ดี แล้วก็สอนคนให้เป็นมิตร ต้อนรับเก่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมประเทศไทยติดอันดับการท่องเที่ยวของโลก 

“อีกอย่างคนไทยพร้อมที่จะสนุกสนานเฮฮาตลอดเวลา จิตใจกว้างไม่รังเกียจใครง่าย ๆ ในแง่ลบก็มีนะ สังคมและวัฒนธรรมไทยอาจจะสอนคนไทยให้ขี้อิจฉา สอนคนไทยให้หน้าใหญ่เกินไปหน่อย คนไทยจะสนใจหน้าตัวเองมากเกินไป และขี้ดราม่าเกินไปหน่อยด้วย ชอบเอาเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนว่าคนไทยพร้อมจะถือสาตลอด จะถืออะไรกันนักหนา ไม่หนักเหรอครับ (หัวเราะ) 

“บางทีคนไทยขี้น้อยใจ แล้วก็เชื่อคนง่ายเกินไป ควรเข้มแข็งกว่านี้หน่อยหนึ่ง อย่าไปบ้าเห่อนอก บ้าเห่อฝรั่ง อย่าไปคิดว่าโลกตะวันตกมันดีทุกอย่าง ทำไมมองไม่เห็นสิ่งดี ๆ ในบ้านตัวเองบ้าง 

“ที่เห็นบ่อยเลย คือ ผู้ใหญ่ชอบพูดว่าโลกตะวันตกดี อเมริกามันเลิศ เมืองไทยต้องไปทางนี้, ทำไมอะ เพราะอะไร เมืองไทยเป็นแบบไทย ๆ ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องไปทำเหมือนโลกตะวันตก ทำไมต้องทำตัวเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ วะ ฝรั่งตดที่ไหน คนไทยไม่ต้องสูดลึก ๆ หรอก ผมไม่ชอบ มันย้อนแย้งในตัวเองนะ เช่น ผู้ใหญ่ชอบดูถูกไทย ชื่นชมฝรั่ง พอวัยรุ่นแต่งตัว ใส่ไนกี้ ผู้ใหญ่ก็ว่า แล้วใครกันมาพูดให้วัยรุ่นไม่สนใจความเป็นไทย คุณนั่นแหละ คำพูดของคุณเป็นสิ่งที่ทำให้วัยรุ่นไม่เห็นคุณค่าของความเป็นไทย”

ส่วนบั้นปลายชีวิตขออยู่ที่ ‘จันทบุรี’

อาจารย์สตีฟยอมรับกับเราว่าเขาคือ ‘เด็กชล’ ยังคิดถึงอาหารรสอร่อยและเพื่อนพ้อง เราชวนคนวัย 54 คุยถึงแผนเกษียณ เขาว่าถ้าวันใดคนไทยเก่งภาษาอังกฤษทั้งประเทศ อาจารย์ท่านนี้คงหมดหน้าที่ และขอลาสิกขาไปบวชเป็นพระ ละทางโลก ไม่ข้องเกี่ยวฆราวาส แต่ไม่ละทิ้งความเป็นครูอย่างแน่นอน

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

“ผมอยากบวชนะครับ เคยติดต่อวัดในจังหวัดชลบุรี คุยกับเจ้าอาวาสแล้ว เจ้าอาวาสยินดีต้อนรับแต่ท่านถามว่า โยมเคยคิดมั้ยว่าการเป็นครู เป็นการทำงานและทำบุญในเวลาเดียวกัน โยมควรพิจารณาว่าการที่โยมลางานมาบวชพระ จะเป็นการละเลยนิสิตหรือเปล่า, มันโดนใจผมนะ ผมสะดุ้งเลย 

“เจ้าอาวาสแนะนำว่าถ้าคิดจะบวชหลังเกษียณเห็นจะเป็นสิ่งที่ดีงามกว่า ผมก็เห็นชอบด้วย หลวงพ่อมีเหตุผลที่ดี คนเราจะถือสาอะไรกันหนักหนา เหตุผลของเขาดีกว่าก็ยอมเขาสิ ก็เลยรอเกษียณ

“ภายในชีวิตนี้ ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะมีที่เพาะปลูกในจังหวัดจันทบุรีไว้ปลูกผักสวนครัวอยู่หลังเขา อยู่เงียบ ๆ พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แค่นี้ผมแฮปปี้แล้ว และผมจะปักหลักอยู่ที่จันทบุรีไปตลอด จะใช้บั้นปลายชีวิตที่นี่ ผมเป็นเด็กบ้านนอก อยู่กับอากาศบริสุทธิ์และอยู่กับธรรมชาติมาโดยตลอด

“อีกอย่างที่นี่มีคนแก่ในหมู่บ้าน ผมมีความสุขเวลาคนแก่มาเด็ดพริก เด็ดผัก มีเด็กหนุ่มเล่นว่าวดุ๊ยดุ่ย บรรยากาศมันชวนให้มีความสุขนะ ส่วนกิจวัตรทุกวันนี้ ผมชอบปลูกต้นไม้มากเลยครับ

“ผมเป็นคนมือเย็น ปลูกดาหลาสองสี ตอนนี้เพิ่งลงฟักทอง มีพวกผักสวนครัว ตะไคร้ ข่า ถัดออกไปอีกมีลำไย เงาะ ทุเรียน มังคุด ชะมวง พริกไทย ต้นพริกไทยโคตรขยันออกผล พริกเต็มสวนเลย เผ็ดจะตายห่าสวนนี้เป็นอะไรไม่รู้ หน้าบ้านมีกล้วยไม้ เฟิร์น บอนสี เจ้าบอนสีมีคนเอามาให้ ก็เลยปลูกให้เขาเห็นทั้ง ๆ ผมที่ไม่ชอบเลย อยากให้เขาเห็นว่าผมไม่ได้ทิ้งนะ” นักปลูกมือเย็นพูดพลางหัวเราะ

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

“แล้วก็เป็นคนชอบทำกับข้าวครับ อาหารที่ผมชอบกิน จะทำไม่อร่อย อาหารที่ผมไม่ชอบกิน ผมทำอร่อย ทำโจ๊กอร่อย มีแต่คนชม ผมไม่ชอบกิน และชาวบ้านฮือฮากันมากเวลาทำผมห่อหมก เขาตื่นเต้นกันมากเลย อะไรกันหนักหนาสาหัสแค่ห่อหมกอะ” เรายิ้มให้กับความน่ารักของคนจันท์ตาน้ำข้าว 

“ถ้ามีเวลาว่าง ผมจะไปซื้อของตามชุมชนเข้มแข็งต่าง ๆ อยากให้เงินเข้าไปถึงชุมชนดี ๆ ไปเป็นกำลังใจให้ชาวบ้าน ‘ขนมอร่อยมากเลยพี่’ ‘พริกไทยเจ้านี้หอมที่สุด’ ให้เขารู้สึกถึงคุณค่าของตัวเอง ผมอยากให้เขามั่นใจในตัวเอง ส่วนผ้าไทยก็ใส่ทุกวัน รักมาก มีหลายเจ้าที่ผมเป็นลูกค้าประจำ

“ผมไปถึงแหล่งเลย ในจังหวัดอุบลฯ จังหวัดสระแก้ว เวลาขับรถในภาคอีสานหรือเจอกี่อยู่ใต้ถุนบ้าน จอดรถเลยครับ ‘คุณน้องใส่ผ้าสวยมากเลย ทอเองหรือเปล๊า’ – ‘คุณแม่ทอค่ะ’ เอ้า คุณแม่อยู่มั้ย ผมอยากให้วัยรุ่นเห็นคุณค่าของสิ่งดี ๆ และ อยากให้เด็ก ๆ เห็นคุณค่าของความเป็นไทย”

อาจารย์สตีเฟ่น บอดเลย์ ไม่เพียงแต่พูดไทยชัดแจ๋ว แต่ชายชาวออสเตรเลียคนนี้เข้าใจสังคม วัฒนธรรม และความเป็นไทยชัดแจ๋วต่างหาก ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เล่าเรื่องราวความประทับใจตลอด 30 ปีในประเทศไทยด้วยภาษาไทยอย่างฉะฉาน ชัดเจน และสนุกปากดังเช่นการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

แถมอาจารย์สตีฟเล่าเรื่องภาษาใต้

nanounjit · Steven_John_Bodley

talk of the cloud ครู จันทบุรี อาจารย์

Home /Interview/Talk of The Cloud

22 ธันวาคม 2565

Share on

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

หากวาง 2 อัลบั้มแรกในชีวิตของผู้หญิงที่ชื่อ วิโอเลต วอเทียร์ ลงตรงหน้า

เอาเข้าจริง ดูจากแววตาบนหน้าปกและโทนสี Glitter and Smoke ก็น่าจะเป็นตัวแทนของวัยก้าวเข้าสู่เลข 3 ที่เผชิญเรื่องราวมามากจนมองเห็นแง่มุมต่างของชีวิต 

แต่เปล่าเลย Your Girl ต่างหากที่เป็นผลงานล่าสุดของเธอ และแม้มันจะดูแสบซนแก่นเซี้ยวเหมือนเด็กสาว แต่วีบอกว่าเธอไม่เคยคิดถี่ถ้วนขนาดนี้มาก่อน มากกว่าครั้งไหนที่ผ่านมา

อาจหมายความว่าอัลบั้มนี้มีอิทธิพลกับเธอถึงระดับตัวตนข้างใน ไม่เพียงแต่ผ่านร้อนหรือผ่านหนาว แต่มันบรรจุความพัง ๆ ของชีวิตในวันที่เธออ่อนแอ หลงทาง และน่าเกลียดชิงชังไว้เต็มไปหมด 

เธอใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อพังทลายลงซ้ำ ๆ หลังพบว่า นั่นคือหนทางเดียวที่จะทำให้เธอกลับมาหยัดยืนใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง

วันนี้ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ถูกบอกว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่จ้องตาเธอได้ตลอดการสนทนา เพราะวีคิดว่าดวงตาของเธอเป็นอวัยวะที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนัก กลับกัน คงเป็นเพราะเราเห็นพลังของผู้หญิงที่ผ่านการต่อสู้กับตัวตนและความเชื่อของตัวเองสะท้อนอยู่ในนั้น

วีที่อยู่ตรงหน้าเรามีความสุข เปี่ยมไปด้วยพลัง เล่าเรื่องในอดีตอย่างคนไม่มองกลับหลัง หัวเราะให้กับมัน สมกับที่เธอบอกว่านี่เป็นวีเวอร์ชันใหม่ล่าสุดที่รักที่สุดในชีวิต

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

Now playing…

ระวังเสียใจ (Warning)

คลิปเต้นทเวิร์กของวีเป็นไวรัลมาก ฟีดแบ็กบางส่วนบอกว่า ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวจริงเป็นแบบนี้ คุณคิดเห็นยังไงตอนอ่าน

อ้าว นี่คือภาพ Marketing ของฉันไม่ตรงกับสิ่งที่ฉันเป็นเหรอ (หัวเราะ) คิดแบบนั้นไปอีก เพราะจริง ๆ วีก็เป็นคนค่อนข้างซ่าอย่างเปิดเผยนะ เพียงแต่หน้าตาอาจจะดูเรียบร้อยมั้ง 

เข้าใจว่าวีไม่ได้เป็นคนเรียบร้อยมาตลอด เพราะรู้ตัวเองว่าเราเป็นคนแบบไหน หรือว่าเราวางตัวดีเกินไปในสังคมจนคนคิดว่าเราเป็นคนดี๊ดี เรียบร้อย ๆ มันก็อาจจะช็อกเขา แต่จริง ๆ ดูทรงในคอนเสิร์ตก็รู้แล้วนะว่าไม่ได้เป็นคนเรียบร้อย (หัวเราะ) ก็เลยเซอร์ไพรส์นิดหน่อยที่คนตกใจมาก 

แล้วภาพ Marketing ที่วีถูกจัดวางไว้เป็นแบบไหน

วีไม่ได้มีทีม Branding ขนาดนั้น ไม่ได้มีใครวางใคร วีแค่เป็นตัวเองมาเรื่อย ๆ แหละ แต่เดาว่าอาจจะเป็นเพราะวิธีการเล่น Social Media มั้งที่ทำให้เขาเข้าใจผิดไปแบบนั้น จะโพสต์เป็นงานมาก ๆ รูปค่อนข้าง Official ขึ้นมาหน่อย ไม่ได้โพสต์อะไรเล่น ๆ มั่ว ๆ ซั่ว ๆ บอกตัวเองนะว่าจริง ๆ ควรเล่น แต่มันแค่เหนื่อย

รู้สึกว่าการเป็นคนมีชื่อเสียงต้องเป็นแบบอย่างที่ดีหรือไอดอลของคนอื่นไหม

เป็นแบบอย่างที่ดีได้ ก็ดี แต่ถ้ามันดันเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี มันก็คือเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี 

คนทุกคนในโลกใบนี้มันเป็นแบบอย่างกันได้หมด ยิ่ง Celebrity ทุกคน แต่ว่าจะเป็นแบบไหน ให้เรียนรู้จากอะไร อะไรที่มันไม่ดีก็แค่ไม่ต้องไปทำตาม แค่นั้นเอง เราก็มีมุมที่ไม่ดีแน่ ๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องพรีเซนต์ออกมา

วีไม่ได้กดดันที่จะต้องเป็นคนที่ดีมาก ๆ ให้กับสังคม วีอยากเป็นคนดีด้วยตัวของวีเอง วีไม่ได้พยายามจะดีเพื่อเป็นตัวอย่างของใคร 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

นอกจากรูปงานที่ดูเป็นทางการ สิ่งที่เห็นบ่อยพักหลังคือรูปคุณร้องไห้

เพิ่งมีอันล่าสุดที่วีร้องไห้ 2 รูป อันอื่นก็แค่เล่าให้ฟังแต่ไม่ได้โพสต์รูป เพราะเราเป็นคนหนึ่งที่แอบแอนตี้การโพสต์รูปตัวเองร้องไห้ ไม่แน่ใจว่ามันเป็นกลไกในหัวหรือเปล่า 

วีแค่รู้สึกว่า เวลาโพสต์อะไรที่เราอ่อนแอมาก ๆ หรือส่วนตัวมาก ๆ มันจะต้องมีอะไรมาย่ำยีอีกทีหนึ่ง รู้สึกว่ามันจะต้องมีอะไรมาซ้ำ 

อย่างเพลง โลกร้าย (Sick) เผยให้เห็นความอ่อนแอของเรามาก เราก็มี Bad Day ข้างหน้าฉากเราอาจจะดูดี ดูสวย หารู้ไม่กูแต่งหน้า 2 ชั่วโมง เหนื่อยมาก ทุก ๆ อย่างที่คนเห็นในโซเชียลมีเดีย มันคือสิ่งที่ถูกปั้นแต่งมาแล้วทั้งนั้น เรารู้สึกว่า I can be real about it และเราก็โพสต์สิ่งนั้น 

ซึ่งวันที่วีเลือกเล่าคือ เฮ้ย เราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่แน่นอน เจอคอมเมนต์แย่ ๆ มาเยอะมาก แล้วมันจะมีวันที่ไม่ดีวันหนึ่งที่คอมเมนต์พวกนี้จะแทงใจดำเราได้ เราจะรับมันไม่ค่อยไหว เราจะร้องไห้ ซึ่งเพราะเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันเลยเล่าสู่กันฟัง แล้วทุก ๆ อย่าง วีฮึบได้ภายใน 5 – 10 นาที มันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่กลายเป็นมันดราม่าใหญ่กว่าที่เป็นมาก ๆ 

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่อยากโพสต์อะไรที่เปราะบางหรืออ่อนแอ เพราะคนเอาไปตีให้มันเกินกว่าที่เราต้องการจะสื่อ บวกกับคอมเมนต์ที่เข้ามาพูด มีคนที่เข้ามาให้กำลังใจ มีคนที่เข้ามาสั่งสอน ซึ่งวีว่านี่คือหนึ่งในวิธีการย่ำยีเหมือนกัน

การเป็นคนมีชื่อเสียง ต้องใช้ความกล้ามากกว่าคนอื่นไหมที่จะบอกใคร ๆ ว่าเราเป็นคนอ่อนแอ

มันต้องใช้ความกล้าในการ Real 

หลาย ๆ คนไม่กล้าโชว์ไอ้ความเป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่เป็นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมความอ่อนแอ มุมความแตกต่าง มุมของความคิดเห็น หรืออะไรก็ตามที่สวนกระแสกับโลกใบนี้ สิ่งเหล่านี้มันต้องการความกล้ามาก ๆ ที่จะออกมาพูดและยืนหยัด โดยที่รู้ว่ามันจะมีกระแสน้ำมาพัดเราอีกเยอะมาก แต่เราต้องเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนั้นไม่เปลี่ยนไป 

ล่าสุดที่บอกว่ามีคอมเมนต์แทงใจดำ เขาว่าเพลงของเราไม่ดี แต่เราเลือกที่เราจะเป็นแบบนี้ เราเลือกที่จะทำเพลงแบบนี้ เพราะเราชอบเพลงแบบนี้ นี่คือตัวตนของเรา และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้แมสที่สุดในโลก แต่เราเลือกที่จะเป็นตัวของเราเองมากกว่าที่จะขายวิญญาณแล้วไปทำเพลงเพื่อติด Radio แต่ไม่เป็นตัวของเราเอง เราเลือกที่จะสู้แบบนี้ 

แล้วถ้าวันหนึ่งเราจะแมสขึ้นมา วีภูมิใจกว่าที่เราจะขายวิญญาณแล้วให้คนอื่นเอาคำมายัดใส่ปากเรา

รู้ไหมว่าความกล้าเหล่านี้มีที่มาจากไหน

เดาว่ามีที่มาจากครอบครัวของวี เราได้รับความรักพื้นฐานมาเต็มที่ และพ่อแม่วีส่งเสริมให้เรามั่นใจในตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้าเห็นแม่วีก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนมั่นใจล้น ๆ พ่อวีก็เหมือนกัน 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

มั่นใจล้น ๆ คือยังไง

มั่นใจล้น ๆ ก็คือ สมมติเย็บผ้า อันนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดมาก แม่ทำเสร็จก็จะชมตัวเอง เก่งมากเลยตัวฉัน แล้วเขาก็จะชอบบอกว่า วันนี้แม่ไปทำอันเนี้ยมานะ แม่เป็นคนดีมาก 

รู้สึกว่าวีได้สิ่งนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ววีก็เป็นแบบนั้นมาตลอด มันมีมุมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราจะรู้สึกว่าเราสวยมาก เราร้องเพลงเพราะมาก เรามีความมั่นใจ เพราะเรารู้ในข้อดีที่เราชื่นชมตัวเอง แล้วเราก็ไม่พยายามไปกดสิ่งนั้นลง เต็มที่เลยค่ะ

ช่วงไหนบ้างที่ความมั่นใจของเด็กคนนั้นเริ่มเสียไป

มีหลายช่วงนะ ก็จะเสียเป็นเรื่อง ๆ แหละ 

มีช่วงหนึ่งที่วีโดนวิจารณ์โดยคนใกล้ตัวบางคนบ่อย ๆ จนเราตั้งคำถามเหมือนกันว่า นี่สิ่งที่กูเป็นมันไม่ดีเหรอวะ หรือการเป็นเรามันผิด สิ่งที่เธอคอมเมนต์ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มันเป็นระดับตัวตนที่เรารู้สึกว่า เราไม่รู้จะเปลี่ยนยังไงแล้ว พอน้ำเซาะตรงนี้บ่อย ๆ มันทำให้เราพังทลายข้างในเหมือนกัน มันทำลายชุดความเชื่อของเรา เพราะนี่คือแก่นของเรา นี่คือตัวตนของเรา จนเราตั้งคำถามกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ตั้งคำถามกับทุก ๆ อย่าง 

บางครั้งเราต้องพังตัวเองลงเพื่อที่จะสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ มันเลยทำให้เรา evolve ขึ้นเรื่อย ๆ มั้ง เพราะมันมีโมเมนต์ที่ต้องหยุดซ่อมตัวเองก่อนแล้วสร้างใหม่ขึ้นมา 

ซึ่งช่วงนี้โชคดีมากที่ได้สัมภาษณ์เราในโมเมนต์ที่แข็งแรงมากทางจิตใจ (หัวเราะ) วีเคยสัมฯกับสื่อหนึ่งตอนเพิ่งปล่อย Glitter and Smoke แล้วบทสัมภาษณ์นั้นไม่เคยออกมาเลย เพราะเขาน่าจะรู้ว่าตอนนั้นวีพังมาก

ชุดความคิดแบบนี้มันเกิดขึ้นในช่วงไหนของชีวิต

อืม เป็นรอบ ๆ ปีแหละ ไม่ใช่ใน 1 ปีนะ หลายปีมันจะพังทีหนึ่ง ถ้าเป็นช่วงมหาวิทยาลัยก็จะพังแบบรายเดือน 6 เดือนพังที เพราะมันอาจจะไม่ได้พังในเชิงตัวตน แต่มันจะพังในเชิงความรู้สึก อาจจะทำงานเยอะ เด็กมันเหนื่อย รับแรงกดดันไม่ไหว แต่ในเชิงตัวตน วีว่ามันจะค่อย ๆ เจอเป็นเหตุการณ์ ค่อย ๆ พังเราไปทีละจุด ค่อย ๆ ซ่อมไปทีละจุด

หลังซ่อมตัวเองที่พังได้สำเร็จ มันทำให้คุณโตกว่าคนอื่นไหม 

ไม่ได้รู้สึกว่าโตกว่าคนอื่น ยังรู้สึกว่าวีต๊องมากเลย 

เราโตขึ้นไหม ก็โตขึ้น แต่ในความโตขึ้นของวีมันไม่ใช่การเป็นผู้ใหญ่ แต่ความโตขึ้นคือการมี empathy เข้าใจมนุษย์มากขึ้น ไม่ได้ไปโกรธไปเกลียดใคร เป็นฟีล อ๋อ เออ เขาเป็นแบบนี้ เข้าใจมากกว่าที่จะไปทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่

แสดงว่าเมื่อก่อนวีเป็นคนแบบนั้นเหรอ

ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น แค่แบบ (จิ๊ปาก) ใช้คำว่าไม่เข้าใจมากกว่า 

เราไม่สามารถยอมรับได้ว่า ไอ้นี่มันก็แค่เป็นแบบนี้แหละ พยายามทำความเข้าใจยังไงก็ไม่เข้าใจ เพราะมันไม่เห็นภาพ แต่พอโตขึ้นก็เลยมองกว้างขึ้นมั้ง แล้วก็จะปล่อย อืม มันคงเป็นแบบนั้น แต่สุดท้ายไม่ได้รู้สึกว่าติ๊งต๊องน้อยลงไปกว่าตอนอายุ 20 (หัวเราะ)  

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

จริงเหรอ

จริง

10 ปีผ่านมาแล้วนะ

10 ปีผ่านมาก็ยังเล่น แฮ่ กับเพื่อนจนถึงตอนนี้ (หัวเราะ) แต่วีว่าเด็กรุ่นใหม่โตกว่าวี โตมากจนวีแบบ มึงคุยอะไรกันวะ ตอนนั้นวียังเล่นบาร์บี้ แล้วก็เล่นต่อคำไร้สาระ (หัวเราะ)

ตัวเองตอนนี้เป็นเวอร์ชันที่ชอบที่สุดไหม

So far 

น่าจะเป็น the best so far เดานะ 

อะไรเป็นตัววัดว่านี่คือ the best version ของฉัน

Happiness น่าจะอย่างนั้นมั้ง 

น่าจะวัดด้วยความสุขของตัวเราเอง ว่าเรามีความสุขกับตัวเองมากน้อยขนาดไหน มีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเราขนาดไหน โดยรวม ๆ ตอนนี้เราก็ไม่ได้แบกความทุกข์ไว้เยอะ

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

เทียบกับตัวเองในกี่ปีที่ผ่านมา

เอาจริง ๆ ไหม 2 ปีที่ผ่านมา วีทุกข์มาก เมื่อต้นปีวียังทุกข์อยู่เลย 

จริง ๆ วีก็มีความสุขนะ มีความรักที่ดี แต่ในระดับตัวตน มันมีอะไรบางอย่างที่ยังซ่อมไม่เสร็จอยู่จริง ๆ ช่วงประมาณเดือนกรกฎาของปีนี้มั้งที่วีกลับมาแข็งแรงจริง ๆ เราเพิ่งซ่อมตัวเองเสร็จมา อัพเดต IOS อัพเกรด Android มาเรียบร้อย กลายเป็นว่านี่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่น่าจะเร็วที่สุดและแรงที่สุด 

เรื่องอะไรที่ต้องซ่อมเยอะ

ไม่อยากลงไปแตะรายละเอียดมาก แต่พูดถึงตัวตนคือถ้าเราอยู่ร่วมกันกับคนบางประเภทที่เขาทำให้เรารู้สึกไม่ดี บางครั้งตัวเราจะเหี่ยวลง แล้วมันทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองอีกว่า ทำไมเธออย่างนู้น อย่างนี้ มันทำให้เราต้องซ่อมแซมตัวเองใหม่เพื่อที่จะทำให้ตัวเองแข็งแรง ไม่ว่าจะไปเจอใครที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี เราก็จะไม่รู้สึกแย่เพราะเขา ไม่เก็บความคิดเห็นแย่ ๆ หรือการกระทำที่ไม่ถูกใจ และเราจะยืนหยัดเพื่อตัวเองได้ 

อยากให้วีเล่ากระบวนการซ่อมแซมตัวเอง 7 เดือนที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง 

ถ้าอยู่ตรงนั้นต่อไปแล้วรู้ตัวว่าเราซ่อมตัวเองไม่ได้ วีเอาตัวเองออกมาก่อน เพราะอยู่ไปซ่อมตัวเองไปมันก็จะมีคนมาทำพังได้เรื่อย ๆ เราไม่ได้ blame เขานะ แต่ตัวเราอาจจะรับมือกับสิ่งนั้นได้ไม่ดีเอง งั้นเราถอยออกมาอยู่ในที่ที่เรารู้สึกปลอดภัยหรือสบายใจก่อน ค่อย ๆ ซ่อมจากตรงนั้น ค่อย ๆ แข็งแรงจากตรงนั้น กลับไปอยู่ในอ้อมอกแม่ 

โมเมนต์ที่วีเจอปัญหาหนัก ๆ วีรู้สึกว่า เราโชคดีมากที่มีครอบครัวเป็นรากฐานที่แข็งแรงที่เราสามารถกลับไปหาเขาได้

จากเด็กที่เติบโตมาด้วยความมั่นใจ รู้สึกยังไงที่มาถึงจุดที่ตั้งคำถามกับตัวเอง

มันสูญเสียตัวตนนะ 

เพราะว่าวีคงโตมาแบบมีความมั่นใจเป็นแก่นของเราไปแล้ว แล้วพอไม่มีสิ่งนั้น มันเลยเหมือนเราหลงทาง สูญเสียตัวตนของตัวเองไป เพราะฉะนั้นมันต้องใช้เวลาที่จะหาตัวเองให้เจอ หรือทำความเข้าใจกับตัวเองใหม่ ทำความรู้จักตัวเองใหม่ ต้องใจเย็น ๆ มาก ๆ มันไม่มีทางที่จะซ่อมได้ทันที 

อย่างล่าสุดที่วีก็พัง ในระดับเล็กมาก เพิ่งอาทิตย์ที่แล้วเอง มันมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย เรามั่นใจ เรา build สิ่งนี้มาอีกครั้งแล้ว แต่นี่กูดีไม่พออีกแล้วเหรอวะ 

ขึ้นอยู่กับเราจะรับมือยังไง เพราะมันจะมีอะไรที่มากระทบจิตใจเราอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วเราต้องยอมรับความรู้สึกนั้นและพยายามทำความเข้าใจใหม่ เป็น challenge ที่เราต้องพิสูจน์ 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

Now playing…

อย่าใจร้ายกับตัวเอง (It’s Okay)

The Cloud เคยคุยกับวีตอนอัลบั้ม Glitter and Smoke ตอนนั้นคุณบอกว่าการทำอัลบั้มเหมือนการบันทึกช่วงชีวิต อัลบั้มนี้ยังเป็นการบันทึกช่วงชีวิตอยู่ไหม

เป็น ชัดมาก 

คือมันไม่ได้ทำเพื่อบันทึก แต่เราดันใส่ความเป็นเราในตอนนั้น ๆ ลงไป ที่บอกว่าวีใช้เวลาในการทำอัลบั้มนี้เกือบ ๆ 2 ปี เห็นเลยว่าถ้าพัง เรากลับมาเยียวยาและรักตัวเองยังไง กว่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาว่า กูไม่ใช่คนที่จะเสียใจเว้ย มึงนั่นแหละ มันใช้เวลามาก ๆ ที่จะผลักดันตัวเองไปถึงจุดนั้นได้ 

ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของเพลงที่ดูสดใสจะดาร์คขนาดนี้

ใช่ จริง ๆ มันดาร์คมากนะ แต่เราอยากเป็นแสงที่สว่างที่สุดในที่มืดตรงนั้น 

แม้ว่าจุดเริ่มต้นมันจะดาร์ค แต่การที่เราคิดแง่บวกกับมันแล้วดึงตัวเองขึ้นมาได้ เลยเป็นสิ่งที่น่าเฉลิมฉลองมาก ๆ มันคือ I don’t give a fuck about you anymore 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

เพราะมีอิทธิพลกับชีวิตมาก ก็เลยพูดถึงอัลบั้มนี้เยอะมากเลยใช่ไหม

ถ้าถามว่ามันมีอิทธิพลต่อชีวิตไหม มี แต่วีแค่รู้สึกว่า กูทำเพลงมาดีขนาดนี้ กูจะไม่โปรโมตหน่อยเหรอ (หัวเราะ) 

เราอยากโปรโมตเยอะ ๆ เพราะเราภูมิใจ เราไม่เคยคิดถี่ถ้วนขนาดนี้มาก่อนกับการทำอัลบั้ม อัลบั้มที่แล้วก็ยังไม่ถี่ถ้วนขนาดนี้ เคยมีคนมาบอกว่าอัลบั้มก่อนดีกว่า ลึกว่า ซึ่งไม่ อัลบั้มนี้ลึกกว่าเยอะ มันเต็มไปด้วยเมสเสจต่าง ๆ นานา อัลบั้มก่อนมันเป็นแค่มู้ด แค่ดูดาร์ค แต่อัลบั้มนี้แม้มันจะดูสดใส แต่จริง ๆ แล้วความคิด กระบวนการ และเมสเสจข้างหลังมันลึกกว่านั้นมาก 

คุณเคยบอกว่าคำพูดที่ใจร้ายที่สุด ไม่ได้มาจากคนอื่น แต่มาจากตัวเอง 

ใช่

อะไรที่คุณมักจะด่าทอตัวเองบ่อย ๆ 

เธอเป็นภาระ แค่เป็นเธอก็ผิดแล้ว

เคยไปถึงจุดนั้นด้วยเหรอ

เคยไปถึงแล้ว 

เหมือนสิ่งที่เราเป็นมันผิด การมีอยู่ของเรามันผิด ไม่ได้ถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย แต่มันจะมีความรู้สึกว่า แล้วกูต้องเป็นแบบไหน ต้องเป็นอะไร แล้วเราเป็นอะไรอยู่ ทำไมสิ่งที่เป็นเรามันถึงไม่ดีเลยสักอย่าง

ส่วนหนึ่งวีว่า มันมาจากคำพูดคนอื่น ๆ ที่มันแทงใจดำด้วย แล้วที่ยากที่สุดกลายเป็นว่าตัวเราเองเชื่อคำพวกนั้น ด่าตัวเองด้วยคำพูดพวกนั้น กลายเป็นบอกตัวเองว่าสิ่งที่เราเป็นมันผิด แล้วทำให้รู้สึกว่าเราไม่เหลือใคร 

คุณเอาชนะความคิดตัวเองยังไง

มันก็ต้องใจเย็นกับตัวเองแหละ เหมือนวีนั่งมองกระจก เห็นตัวเองแล้วก็รู้สึกสงสาร ก็เลยค่อย ๆ บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ใจเย็น ๆ บวกกับว่ามีเพื่อนดี มีครอบครัวดี แล้วก็มีแฟนดีด้วย 

แม้ว่าจะมีช่วงที่เราไม่ได้ชอบตัวเองที่สุดแต่เราก็รู้ว่าเขารักเรา เราก็จะรู้สึกว่า (น้ำตารื้น) อืม เขายังรักเราได้ เราก็ต้องรักตัวเราได้สิ 

คุยกับตัวเองหน้ากระจกบ่อยไหม

ไม่บ่อย แต่จะมีวันที่เราส่องกระจกแล้วหลุดเข้าไป เหมือนมองเข้าไปจริง ๆ ไม่ได้มองแค่ภายนอก 

ขอบคุณตัวเองบ่อยไหม

ช่วงนี้บ่อยมาก 

ก่อนหน้านี้ล่ะ 

ไม่ค่อยขอบคุณเท่าไหร่ (หัวเราะ)

ถ้าคนรอบข้างไม่ได้มอบพลังงานดี ๆ และความรักให้ คิดว่าตัวเองจะเป็นยังไง

คงไม่ได้เป็นแบบนี้ วีอาจจะแข็งแกร่งมาก ๆ ก็ได้ แต่เป็นคนแข็งแกร่งที่ไม่มี Empathy หรืออาจจะแข็งแกร่งจนเห็นแก่ตัวก็เป็นไปได้ 

ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นเพราะว่าวีได้รับมากพอที่จะรู้ว่าการให้มันเป็นสิ่งที่ดีมาก  

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

การเข้มแข็งมันเป็นได้หลายแบบมากเลย ช่วงนี้รู้สึกว่าการร้องไห้ก็เข้มแข็งในแง่หนึ่งนะ เพราะมันเป็นการที่เรายอมรับตัวเอง ซึ่งสิ่งที่ยอมรับยากที่สุดก็คือข้อเสียของตัวเองนั่นแหละ ยอมรับความน่าเกลียดของตัวเองว่า เออ กูเป็นแบบนี้ว่ะ กูต้องโอเคกับสิ่งนั้น กูต้องยอมรับว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก่อนจะซ่อมแซมมันได้

จำวันที่ยอมรับความน่าเกลียดของตัวเองได้ไหม

จำได้ 

เป็นยังไงบ้าง

ก็พังอยู่นานเลย มีช่วงเวลาที่ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ฉันอ่อนแอหรือว่าโลกใจร้าย บางครั้งเราไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่เรายอมรับสิ่งนั้นมาก่อน 

งั้นคำตอบของคำถามที่ว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ฉันอ่อนแอหรือโลกที่ใจร้าย คืออะไร

เพลง โลกร้าย ไม่ได้มีคำตอบขนาดนั้น มันแค่ I just need you now ในตอนนี้คือเรารับไม่ไหว เราต้องการคนมาอยู่ข้าง ๆ เพลงมันเลยอุ่นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เพราะเราไม่ได้ตัวคนเดียว 100% เออ มันเจ็บปวดมากนะ 

ส่วนเพลง อย่าใจร้ายกับตัวเอง คือเราจะไปต่อยังไงดี เลยเกิดเป็นเหตุการณ์ว่า โอเค ถ้าไม่ไหว ก็ร้องไห้ ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยเริ่มใหม่ Take it day by day ไม่ต้องรีบเร่ง ไม่ต้องเอาความสำเร็จของคนอื่นมาเทียบกับเรา เพราะทุก ๆ คนมีจังหวะชีวิตต่างกัน เขาไม่มีวันเป็นเหมือนเรา และเราก็ไม่มีวันเป็นเหมือนเขา เพราะฉะนั้นต้องหยุดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับไม้บรรทัดของทุกคน 

มีคนหนึ่งเคยพูดกับวีแล้วสิ่งนี้มันติดค้างอยู่ในหัววีมาก ๆ เขาบอกให้วัดความสำเร็จของเธอด้วยความสุข ถ้าเราพอใจ นั่นคือสำเร็จแล้ว สมมติเธอประสบความสำเร็จมาก ๆ ในเชิงการงานแบบทุกคนชื่นชม แต่ตัวเธอยังไม่ได้พอใจ มันก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอยู่ดี 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ถ้าคอนเซปต์ของอัลบั้มนี้คือการรักตัวเอง ตอนนี้คุณรักตัวเองมากพอหรือยัง

คิดว่าเพิ่งจะเรียนรู้ที่จะรักตัวเองอย่างถูกวิธีก็ตอนนี้แหละ เมื่อก่อนก็ไม่ได้รักตัวเองถูกวิธีขนาดนี้นะ 

การรักตัวเองที่ถูกวิธีเป็นยังไง

เคารพตัวเอง ใจดีกับตัวเอง ไม่โกหกตัวเอง แล้วก็ยอมรับในทุกข้อดี-ข้อเสียและทุกความรู้สึกของตัวเอง เพราะบางครั้งเราบอกตัวเองว่าไม่เฮิร์ทเว้ย แต่กลายเป็นกดอารมณ์ตัวเองไว้ สุดท้ายวันหนึ่งมันกลายเป็นปมที่จะปะทุขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ 

ถ้างั้น จงซื่อสัตย์กับทุกความรู้สึก ถ้าเรารู้สึกอิจฉาก็บอกกับตัวเองเลยว่า เออ กูอิจฉาว่ะ แล้วจะแก้ความรู้สึกนี้ยังไงดี กูต้องอิจฉาต่อไปไหม หรือกูจะแก้ที่ตัวกู วีว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับยากมาก ๆ

คำว่าอิจฉาเป็นสิ่งที่ฟังดูแย่มาก แต่มนุษย์ทุกคนรู้สึกกันได้ทุกวัน แค่เปิดไอจีมา เชี่ย แม่งหุ่นดี อิจฉาว่ะ มันจะมีความรู้สึกที่น่าเกลียดแบบนี้อีกเยอะมาก ๆ ทำแบบนี้กูเห็นแก่ตัวปะวะ เออ ใช่ กูเห็นแก่ตัว มันต้องยอมรับ แล้วเราจะได้รู้ว่าต้องแก้ไขยังไง พอเราซื่อสัตย์กับตัวเองมาก ๆ เราก็จะไม่โกรธหรือเกลียดตัวเองที่มีข้อเสียพวกนั้น เราก็แค่รู้ว่า เออ แบบนี้ไม่ดีเลย ก็แก้ไขมันใหม่ วีว่าอันนี้คือการรักตัวเองที่ถูกต้อง เพราะมันจะทำให้เราได้พัฒนาจริง ๆ

ส่งผลไปถึงคนรอบข้างด้วยไหม หลังเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

เพื่อนก็ทึ่งว่า โห จิตมึงแข็งมากเลยนะตอนนี้ เพราะมันผ่านมาเยอะไง มันเห็นวีมาเยอะ 

ต้นปีมันเห็นว่าวีร้องไห้อยู่เรื่อย ๆ นั่งดาวน์ แล้วพอวันหนึ่งมันมานั่งคุยกับวีแล้ววีไม่ Give a fuck กับเรื่องนั้น เรื่องนู้น เราปล่อยวางได้จริง ๆ เพื่อนมันเลย เชี่ย กูยังปล่อยไม่ได้เลย กลายเป็นว่าเราแซงหน้าไปในบางเรื่อง เพราะเราปล่อยให้ตัวเองพังแล้วกลับขึ้นมาใหม่ แต่มันไม่จำเป็นต้องปล่อยให้พังขนาดนั้นนะ วีอาจจะเป็นคนที่สุดเหวี่ยงสุด ๆ ทางอารมณ์

ตัวตนที่ผ่านมาเกิดจากการรู้สึกอะไรแบบสุด ๆ เศร้าก็เศร้าสุด รักก็รักสุด ทุกวันนี้เผื่อใจเวลารักใครรึเปล่า

ตอนแรกก็เผื่อ แต่ตอนนี้ไม่ค่อย ลืมคำว่าเผื่อแล้ว (หัวเราะ) 

ลืมตัวเหรอ

ใช่ เวลาตกหลุมรักมันไม่มีใครค่อย ๆ ตกได้อยู่แล้ว ตกก็คือตก ถึงช่วงที่เป็นจังหวะทางลาดชัน เราจะค่อย ๆ ค่อย ๆ พอเบรกได้อยู่ แต่ถ้าเกิดมันเป็นหลุม เราก็คงตกลงไปแล้ว 

แสดงว่าทุกวันนี้ไม่กลัวที่จะเสียใจแล้ว

ก็กลัวนะ ไม่งั้นไม่เกิดเพลง จินตนาการ หรอก (หัวเราะ) 

แต่สุดท้ายชีวิตนี้ถ้าเราไม่กล้าหาญที่จะออกไปรู้สึกอะไรเลยมันก็จะน่าเบื่อ 

ไปเถอะ พออกหักเราก็รู้แล้วแหละว่ามันไม่ตายหรอก 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

Now playing…

ตั้งแต่มีเธอฉันมีความสุข (This Time)

เพลงของคุณมีเอกลักษณ์คือการเล่าเรื่องได้เห็นภาพ แต่เหมือนคนเพิ่งรู้ว่าคุณเป็นคนเขียนเอง

เออใช่ คนเพิ่งรู้ ทั้ง ๆ ที่วีเขียนมานานมากแล้วนะ

เป็นผลจากที่เรียนฟิล์มมารึเปล่า

เกี่ยวมาก ๆ ก่อนหน้านี้วีไม่ได้เขียนเพลงแบบนี้ วีจะเขียนด้วยอารมณ์

มีอยู่วันหนึ่งนั่งเรียนคลาสหนัง เขาก็สอนการเล่าเรื่องด้วยภาพ สมมติจะบอกว่าตัดสินใจ เธอจะแสดงออกมายังไงว่าตัดสินใจ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นมาในหัว เป็นเรื่องขอ Eexecution ทางภาพ วีเลยรู้สึกว่า จริง ๆ เราเล่าเพลงของเราให้เป็นภาพได้หนิ สร้างห้องนั่งเล่นขึ้นมา สร้างห้องนอน สร้างการกระทำ จะทะเลาะกันยังไงโดยที่ไม่ต้องบอกว่าทะเลาะ อ๋อ แบบข้าวของกระจายเต็มพื้น 

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

มีภาพไหนที่เห็นแต่ไม่กล้าเขียนลงไปไหม

ตอนนี้ยังไม่มีขนาดนั้นมั้ง 

อืม มี ๆ แต่ไม่กล้าเล่า (หัวเราะ) เป็นเรื่องความรัก 

พอคุยแบบนี้ก็เริ่มตั้งคำถามว่า หรือจริง ๆ เราไม่ควรจะกลัวสิ่งเหล่านี้วะ เพราะเราไม่ใช่คนผิด 

ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมันยังหาคำตอบไม่ได้มั้ง เราก็เลยไม่กล้าเล่าออกมา นี่คือเพิ่งตั้งคำถามตอนนี้เลย ว่าแล้วทำไมกูถึงไม่กล้าเล่า เราไม่ควรไม่กล้าเล่าด้วยซ้ำ เออ มันไม่ควรเลย 

ซึ่งปัญหาที่คุณเจอมันเป็นเรื่องของความเชื่อและตัวตน แต่การเขียนเพลงคือการเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองให้คนทั้งโลกรับรู้ไม่ใช่เหรอ

(หัวเราะ) 

ใช่ เวลามีคนคอมเมนต์แง่ลบเลยกระทบกับตัวเราเยอะอยู่เหมือนกันว่า อ๋อ เขาไม่ชอบตัวตนของฉัน เราก็รู้ว่าไม่ใช่อย่างงั้นแหละ แต่ความรู้สึกบางทีมันห้ามกันไม่ได้ 

วีรู้ว่ามีอีกหลาย ๆ คนที่เขารู้สึกเหมือนวีแน่ ๆ มันไม่ได้เกินมนุษย์ ไม่ได้ไกลตัวใคร มันคือชีวิตประจำวันมาก ๆ 

ในอัลบั้ม Your Girl วีว่า ถ้าวีเด็กกว่านี้แล้วมีคนมาพูดกับวีแบบนี้ วีคงไม่หลงทางขนาดนี้ การที่เราได้พูดออกไปมันอาจจะเป็นประโยชน์กับใครก็ได้ 

The Cloud เคยถามว่า วีช่วงอายุ 26 เป็นยังไง แล้วคุณตอบว่า เป็นวัยที่ถูกมองข้าม เพราะคนจะให้ความสำคัญแค่อายุ 25 กับข้ามไป 30 แล้ววีในวัย 29 ปี เป็นปีที่ถูกมองข้ามด้วยรึเปล่า 

ไม่ได้มองข้าม แต่เป็นวัยที่อยากทำอะไรก็รีบทำ (หัวเราะ) เริ่มไม่ Give a fuck ไม่ได้แคร์เยอะ เพราะฉันจะ 30 แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันอยากทำอะไรบ้าง ไม่ต้องสนใจใคร ฉันจะทำก่อน อย่ามัวแต่กังวลคนอื่นทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ไปสร้างความทุกข์ให้เขาเลย 

ตอนนั้นคุณบอกว่า การเข้าใกล้อายุ 30 เป็นเรื่องน่ากลัว ตอนนี้ยังกลัวอยู่ไหม

ไม่กลัว ไม่ได้อยากจะ 30 ทันที เพราะโควิดมันโกงอายุเราไป วีรู้สึกว่าไม่เป็นไร เราหน้าเด็กอยู่ ล่าสุดโกหกอายุตัวเองจนคนถามว่าจริง ๆ วีอายุเท่าไหร่ แล้ววีจำไม่ได้ (หัวเราะ) 

อยากเป็นคนอายุ 30 แบบไหน

อยากเป็นคนอายุ 30 ที่สวยและมีคุณภาพ แล้วมีคุณภาพในที่นี้ก็คือทุก ๆ ด้าน ทั้งตัวตน ผลงาน แต่เราจะไม่โปรโมตสิ่งนี้เยอะ เราจะโกงอายุต่อไป เพื่อที่เราจะได้อยู่ในวงการต่อนาน ๆ  (หัวเราะ)

พูดถึงวีในอนาคตไปแล้ว อยากให้พูดถึงวีในอายุเลข 2 หน่อยว่าเป็นยังไง เห็นพัฒนาการอะไรในรอบ 10 ปีบ้าง

โอ้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้เหมือนกัน ถ้าวีตอนอายุ 19 – 20 มองมา ก็น่าจะภูมิใจ แบบว่า มึงทำได้ดีนะ โตมาได้โอเคอยู่ 

คงเป็นคนที่ถ้ากลับไปแนะนำตัวเองในวัย 20 แล้วไอ้เด็ก 20 มันจะเชื่อฟัง

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย
ใบงานอารยธรรมจีน พร้อมเฉลย

ตอนนี้พูดได้หรือยังว่าวีคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง หรือรักตัวเองในทางที่ผิด ได้ตายไปแล้ว 

พูดไม่ได้ 100% แต่เรารักตัวเองในทางที่ถูกมากขึ้น สมมติถ้าเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นอีก คิดว่าครั้งนี้จะ aware แล้วก็จะตัดสินใจได้ดีขึ้น 

แต่เราอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งขนาดไม่ปล่อยให้ตัวเองไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรก เราอาจจะแค่ เอ๊ะ นี่เรากำลังไปในเส้นทางนั้นหรือเปล่า รู้สึกแปลก ๆ ไม่แน่ใจ แต่ว่าไปก่อน มันอาจจะยังเป็นแบบนั้นอยู่ ถลำไปนิดหนึ่งแล้วพอเริ่มเห็นชัดถึงจะค่อย ๆ ถอยออกมาได้

กลัวไหมที่จะกลับไปเป็นแบบเดิม

ไม่กลัว เพราะเคยออกมาได้แล้ว 

ออกแล้วก็ออกเลย?

เออ ก็รู้แล้วว่าเดี๋ยวก็หาย แต่ไม่ได้อยากกลับไปตรงนั้นอีกนะ แล้วก็หวังว่าคงจะไม่กลับไป เพราะมันรู้สึกแย่ เช่น ไม่อยากกลับไปอกหัก มันเหนื่อย 

แต่คนเราก็ต้องอกหักรึเปล่า

แต่ก็อกหักมาเยอะแล้วไง 

รักนี้จะเป็นรักสุดท้ายเหรอ

ไม่รู้ เราไม่กล้าเคลม ขอให้คบกันนาน ๆ แล้วกัน

ถ้าสมมติว่าชีวิตคุณเป็นทินเดอร์ คนแบบไหนที่จะปัดซ้าย 

อันนี้เป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุดว่าสเปคในวัย 20-29 ปีเปลี่ยนเยอะมาก คนที่เราคบด้วยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนเหมือนไม่มีสเปค ช่วงที่วีโสดยาว ๆ ก่อนหน้านั้น แฟนวีน่าจะเป็น Narcissist ทุกคนเลย (หัวเราะ)

ทำไมถึงดึงดูดคนแบบนั้น หรือคนแบบนั้นดึงดูดคุณเหรอ

เราคงยังรักตัวเองไม่เป็นจริง ๆ ถึงยังปล่อยให้ตัวเองอยู่ตรงนั้นได้นานขนาดนั้น

งั้นคนแบบไหนที่คุณจะปัดขวาในทินเดอร์

เราแทบไม่ปัดขวาเลย พอมาเจอเก้า จิรายุถึงเพิ่งปัดขวา

เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะหลังจากที่วีอกหัก ตั้งแต่ I’d do it again วีก็โสดยาว ๆ แบบไม่มีคนคุย ไม่คบกับใคร ใครเข้ามาจีบก็ปัดทิ้งเลย รู้เลยทันทีว่า You do not meet my standard and I am not gonna lower my standard แบบนี้

จะไม่ยอมเสียเวลาอีกแล้ว

ใช่ รู้สึกว่าเรามีค่าพอ 

ช่วงที่ต้องตัดสินใจว่า โอเค เปิดใจก็ได้ มันยากไหม

ตอนแรกคิดว่าจะยาก แต่ไม่ยาก

แค่แบบ เอ๊ะ หรือว่าผ่านวะคนนี้ เหมือนไม่แน่ใจ หรือจะลองดูก็ได้ เพราะไม่เจอมานานมากแล้วไง แต่ก็บอกตัวเองไว้ว่า ช่วงสโลปที่เราค่อย ๆ ยั้ง ๆ (ยั้งเท้าตัวเอง) ถ้าทำอะไรไม่เวิร์คขึ้นมา เราจะไปเลยนะ 

มั่นใจ?

มั่นใจมาก เรามั่นใจมาก ว่าถ้าเขาทำอะไรที่เราไม่โอเคขึ้นมา เราไม่คุยก็ได้ ตอนนั้นวีคุยกับเขาเลยว่า ถ้ามีนักข่าวมาถามว่า คุยกับเราเหรอ จะตอบว่าอะไร เพราะถ้าเกิดคุณปิดเรา ก็ไม่ต้องคุยกับเราแต่แรก