ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์

Skip to content

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์

  • น้ำยาขจัดคราบน้ำ
  • สเปรย์กำจัดไรฝุ่น
  • น้ำส้มควันไม้
  • บทความ
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ คุณสมบัติและประโยชน์ที่ควรรู้!

Home/Article/ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ คุณสมบัติและประโยชน์ที่ควรรู้!

  • View Larger Image
    ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ คุณสมบัติและประโยชน์ที่ควรรู้!

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) มีสูตรทางเคมีว่า H2O2 เป็นสารประกอบเปอร์ออกไซด์ มีสภาพเป็นของเหลวใส หนืดกว่าน้ำเล็กน้อย มีรสขม ไม่อยู่ตัว ซึ่งสามารถสลายตัวเป็นออกซิเจนกับน้ำ เมื่อเจือจางจะเป็นสารละลายไม่มีสี เนื่องจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์สามารถสลายตัวเป็นน้ำได้เมื่อถูกแสง และความร้อน จึงควรเก็บรักษาสารชนิดนี้ ไว้ในภาชนะทึบแสง

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์


โดยปกติไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จะสลายตัวไปเองอย่างช้า ๆ ซึ่งจะได้ผลิตภัณฑ์เป็นน้ำ และแก๊สออกซิเจน แสงสว่าง และความร้อน จะช่วยเร่งให้เกิดการสลายตัวเร็วขึ้น ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์มีปฏิกิริยาการสลายตัว ดังนี้
2H2O2(aq) → 2H2(1)+O2(g) นอกจากนี้ หากมีส่วนผสมของโลหะ โดยเฉพาะเหล็ก แมงกานีส ทองแดง จะทำให้เกิดการสลายตัวเร็วยิ่งขึ้น


ประโยชน์

การกำจัดเชื้อโรค ด้วยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำ ในอัตราส่วนเท่า ๆ กัน เพื่อใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาด และฆ่าเชื้อ เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถฆ่าเชื้อโรคในบ้านได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ เช่น

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์


1. ชำระล้างแบคทีเรียจากผักและผลไม้
นำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในน้ำแช่ผักซัก 5 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็จะสามารถชำระล้างแบคทีเรียที่อยู่ติดมากับผัก ผลไม้ได้อย่างหมดจด

2. ล้างจานให้ใสวิ้งค์ เพียงแค่ผสมไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์เพียงเล็กน้อย ผสมรวมกับผลิตภัณฑ์ล้างจาน แล้วล้างจานตามปกติ เท่านี้คราบสกปรก และคราบไขมันก็ไม่มีกวนใจอีกต่อไป

3.ผ้าขาวสะอาดเหมือนใหม่ ลองใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ผสมน้ำ แล้วแช่ทิ้งไว้สัก 5-10 นาที รับรอง ผ้าขาววิ้งไร้คราบกวนใจแน่นอน

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์


4.กระจกใสทันใจ
ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ผสมน้ำแล้วเช็ดตามปกติ กระจกใสวิ้งไม่แพ้น้ำยาเช็ดกระจกเลย

5. ไฮไลต์สีผมเองง่าย ๆ วิธีนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง และระวังอาการแพ้ด้วย วิธีทำเพียงแค่แบ่งผมที่ต้องการจะไฮไลท์ให้สว่างขึ้น แล้วแต้มเปอร์ออกไซด์ลงไปเบา ๆ ทิ้งไว้สักพักจนได้สีที่พอใจ ล้างออกตามปกติ เท่านี้ก็ได้สีผมแบบไม่ต้องง้อซาลอน

6. DIY ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สูตรประหยัดสำหรับแม่บ้าน สามารถ DIY ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดคู่บ้าน ในงบประมาณที่ไม่แพง ด้วยการผสมสบู่เหลวกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบง่าย และรวดเร็ว

7. กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ บ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงมักจะมีกลิ่น และคราบไม่น่ามองตามมา สูตรขจัดกลิ่น และคราบง่าย ๆ โดยการผสมสบู่เหลว ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และเบคกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำไปขัดบริเวณที่เป็นคราบ และฉีดลงบนบริเวณที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เท่านี้บ้านก็กลับมาสะอาด หอมสดชื่นอีกครั้ง


โดยทั่วไปไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จะอยู่ในรูปสารละลายความเข้มข้นตั้งแต่ 3–90% มักใช้เป็นสารฟอกสีในอาหาร สารทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ ใช้ฆ่าเชื้อโรคบนผิวหนัง ใช้ล้างภาพสีน้ำมันเก่า ๆ ให้สดใสขึ้น ทำน้ำยาบ้วนปาก และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้น 90% สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนจรวจ

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์


นอกจากนี้ ยังใช้เป็นสารฟอกขาวในภาคอุตสาหกรรมฟอกย้อม ซึ่งสามารถใช้ได้ดีกับเส้นใยเกือบทุกชนิด พร้อมทั้งเกิดอันตรายต่อเส้นใยน้อยที่สุด หรือเรียกว่า “ตัวฟอกขาวสากล” (Universal bleaching agent) การฟอกขาวด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ต้องใช้โซเดียมซิลิเกต (Na2SiO3) ควบคุมการสลายตัว นอกจากใช้ฟอกเส้นใยแล้ว ยังใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ฟอกงาช้าง และขนนก และอาจใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็นสารแอนติคลอร์ (antichlor) ซึ่งใช้ทำลายคลอรีนที่ตกค้างบนเส้นใย หลังผ่านการใช้คลอรีนฟอกขาว


อันตรายต่อสุขภาพอนามัย

เนื่องจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ มีฤทธิ์กัดกร่อน การหายใจหรือสูดดมสารชนิดนี้เข้าไป อาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ไอ หายใจติดขัด เมื่อสัมผัสผิวหนัง อาจเกิดผื่นแดง รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เมื่อรับประทานเข้าไป จะเกิดอาการเจ็บคอ ปวดท้อง และอาเจียนได้ และเมื่อสัมผัสถูกดวงตา จะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ตาแดง ปวดตา สายตาอาจพร่ามัวได้

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 50 เปอร์เซ็นต์


❝ หากได้รับสารโดยการหายใจเข้าไป ให้ผู้ป่วยออกไปอยู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ แต่ถ้าผู้ป่วยหยุดหายใจให้ช่วยผายปอด ถ้าหายใจติดขัดให้ ออกซิเจน ช่วย แล้วนำส่งไปพบแพทย์ หากสัมผัสถูกผิวหนังให้ฉีดล้างผิวหนังทันที ด้วยน้ำปริมาณมาก หากสัมผัสดวงตาให้ใช้นิ้วถ่างแยกเปลือกตาออก แล้วฉีดน้ำเย็นล้างตาทันทีเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที แต่ถ้าหากเกิดรับประทานเข้าไปในปริมาณมาก ให้นำส่งไปพบแพทย์ทันที ❞

Share This Story, Choose Your Platform!

Title

Page load link