ว ธ ทำ link บนสตร ม facebook xsplit

โปรแกรมสำหรับทำ Live Streaming

  • ตั้งค่าการใช้งานเบื้องต้น
  • ใช้โปรแกรมสร้าง Live Streaming
  • Live Streaming ผ่าน Facebook
  • Live Streaming ผ่าน YouTube

1. ติดตั้งโปรแกรมสำหรับทำ Live Streaming

โปรแกรมสำหรับทำ Live Streaming มีอยู่หลายตัว เช่น OBS, Wirecast หรือ XSplit แต่ในบทความนี้จะเลือกใช้ OBS เนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์ฟรี และสามารถใช้งานได้ทั้งบน Windows, Mac และ Linux

ดาวน์โหลดตัวติดตั้ง OBS Studio ได้จาก https://obsproject.com/download

2. ตั้งค่าการใช้งานเบื้องต้น

การจะทำการ Live Streaming เราจะต้องปรับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับความเร็วอินเตอร์เน็ตที่กำลังใช้งานอยู่ก่อน เพื่อให้เวลา live จริงๆ จะได้ไม่กระตุก

  • เปิดโปรแกรม OBS Studio เลือกเมนู Settings
  • ตั้งค่า Streaming ที่แถบ Output เพื่อปรับ video bitrate ให้เหมาะสมกับความเร็วการอัพโหลดของอินเตอร์ที่เรากำลังใช้งานอยู่ วิธีการคือ ให้ตั้งค่าน้อยกว่าความเร็วอัพโหลดจริงสัก 20% เช่น ความเร็วอัพโหลดอยู่ที่ 3 Mbps ก็ให้ตั้งค่าเป็น 3072–20% ก็จะได้ประมาณ 2500 และให้เลือก encoder ตามที่ต้องการ
  • ถ้าต้องการที่จะบันทึกไฟล์การ live เก็บไว้ด้วย ให้ตั้งค่าเพิ่มเติมที่ Recording โดยกำหนดตำแหน่งที่ต้องการให้บันทึกที่ Recording Path ปรับความละเอียดของไฟล์ที่ Recording Quality (ความละเอียดยิ่งเยอะยิ่งใช้งาน CPU เยอะ) สุดท้ายเลือกชนิดของไฟล์ว่าต้องการให้บันทึกเป็นอะไร เช่น flv หรือ mp4 ที่ Recording Format

3. ใช้โปรแกรมสร้าง Live Streaming

ในขั้นตอนนี้จะเป็นการใช้โปรแกรม OBS Studio เตรียมหน้าจอสำหรับการทำ Live Streaming โดยในบทความนี้จะแสดงวิธีการสตรีมหน้าจอ แทรกรูปโลโก้ และแทรกหน้าจอจาก Web Cam

  • เปิดโปรแกรม OBS Studio แล้วกดปุ่ม + ที่กรอบ “Source” เพื่อเพิ่มสิ่งที่เราต้องการจะแสดงในหน้าจอการ Live Stream (พื้นที่สีดำๆ)
  • เลือกเพิ่ม Display Capture เพื่อเพิ่มหน้าจอของเราลงไปในหน้าจอของ Live Streaming
  • เมื่อกด Display Capture แล้วจะมีหน้าต่างขึ้นมาให้ตั้งชื่อของ source อันนี้ เสร็จแล้วกดปุ่ม OK
  • หน้าต่างถัดมาคือการระบุเลือกหน้าจอ หรือจะเอาเฉพาะหน้าต่างโปรแกรมอะไรที่เราต้องการ live
  • ถ้าต้องการจะ Live เฉพาะหน้าต่างโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งให้เลือกที่ Crop แล้วเลือกเป็น To Window จากนั้นหน้าต่างโปรแกรมที่ Window เสร็จกด OK
  • เมื่อระบุหน้าจอที่จะ live เสร็จแล้วให้กดปุ่ม OK ก็จะเห็นว่าหน้าจอที่เราเลือกเข้ามาอยู่ในหน้าจอของ Live Streaming แล้ว
  • ถัดมาจะเป็นการเพิ่มภาพโลโก้คำว่า “Live” ให้อยู่ที่มุมบนขวา เริ่มกดที่ปุ่ม + ของ Sources อีกครั้ง แล้วเลือกที่ “Image”
  • ตั้งชื่อว่า “Live Logo” เสร็จแล้วกดปุ่ม OK
  • เลือกรูปที่ต้องการ โดยการกดปุ่ม Browse เสร็จแล้วกดปุ่ม OK
  • จะเห็นว่ามีโลโก้เพิ่มมาในหน้าจอ Live Streaming แล้ว ซึ่งสามารถเลือกปรับขนาด และปรับตำแหน่งได้ตามต้องการ
  • สุดท้ายจะเป็นการเพิ่มหน้าต่าง Webcam เข้าไปในหน้าจอ Live Streaming ให้กดปุ่ม + ที่ Sources อีกครั้ง คราวนี้ให้เลือกที่ “Video Capture Device”
  • ตั้งชื่อว่า “Webcam” เสร็จแล้วกดปุ่ม OK
  • หน้าต่างถัดมาให้เลือก Webcam ที่ Device และกำหนดขนาดที่ต้องการ
  • เสร็จแล้วกดปุ่ม OK ก็จะมีหน้าจอ Webcam แสดงอยู่ในหน้าจอ Live Streaming แล้ว ซึ่งสามารถปรับขนาด และตำแหน่งตามที่ต้องการได้
  • ก็จะเสร็จขั้นตอนการเตรียมหน้าจอสำหรับการ Live Streaming แล้ว แต่ยังไม่สามารถ Live Streaming เพราะเรายังไม่ได้เชื่อมต่อการสตรีมเข้ากับ Facebook หรือ YouTube
    หมายเหตุ การเพิ่ม source ตัวที่อยู่ลำดับบนสุด มันจะไปซ้อนทับตัวที่อยู่ต่ำกว่าตัวมันเป็นชั้นๆ ดังนั้นต้องเพิ่มโลโก้ และ Webcam ไว้บน Display Capture และสามารถแก้ไขลำดับได้ทีหลัง โดยการกดปุ่มลูกศรขึ้น-ลง

แนะนำควรเตรียมของว่างให้พร้อมก่อนอ่าน หาที่นั่งสบาย ๆ ด้วยนะคะ เนื่องจากบทความค่อนข้างยาวเอาเรื่องทีเดียว แต่สำหรับคนที่สนใจจะหารายได้ผ่านเฟซบุ๊ก ( Facebook ) อ่านจบแล้วก็ลุยลงมือทำได้เลยนะคะ

5 วิธีสร้างรายได้ จากการใช้ Facebook

หลายคนก็คงจะรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าเฟซบุ๊ก ( Facebook) คืออะไร เป็นโซเชียลที่ได้รับความนิยมทั่วโลก แม้ว่าจะมีชื่อเสียบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้จำนวนผู้ใช้หายไปไหน คนยังคงใช้งานปกติ โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา นั่นหมายความว่า เราก็ต้องหากินกับเฟสบุคได้นะสิ ป่ะ ลุย!

((((( 1. ))))) เปิดเพจเฟซบุ๊ก ( Facebook Page ) สำหรับขายสินค้า / บริการ / หน้าบ้านสำหรับติดต่อกับลูกค้า🎆🎆🎉🎉🎉🎁🎁🎁🎀🎊

เปิดแฟนเพจขายสินค้า / บริการ

แฟนเพจเฟซบุ๊ก (Facebook Page) คือ หน้าแยกของเฟซบุ๊กส่วนตัวของเรา ซึ่งเราจะเปิดกี่เพจก็ได้ ตามสะดวกเลยและที่สำคัญคือ "ฟรี" นะคะ ทุกคนสามารถเปิดเพจตัวเองได้ง่าย ๆ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เสร็จ เดี๋ยวจะเขียนวิธีเปิดเพจแบบเบื้องต้นเอาไว้ให้นะคะ

1.1. ถ้าเปิดผ่านคอมพิวเตอร์นะคะ สังเกตมุมขวามือบนจะมีคำว่า "สร้าง" จากนั้นกดตัวเลขที่มีรูปธงและเขียนว่า "เพจ" ค่ะ (ภาพประกอบด้านล่าง)

เปิดเพจเฟซบุ๊กบนคอมพิวเตอร์

สำหรับคนที่ต้องการเปิดเพจเฟซบุ๊กผ่านมือถือนะคะ ก็ให้เข้าไปที่แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก จากนั้นสังเกตมุมขวาบนจะมีขีด 3 ขีดอยู่ ให้กดตรงนั้นได้เลยค่ะ (ภาพประกอบด่านล่าง)

กดขีด 3 ขีดเพื่อหาเมนูสร้างเพจ

1.2. พอกดขีด 3 ขีดแล้วก็จะเจอหน้าตามภาพด้านล่างเลยค่ะ จากนั้นกดที่เมนูที่เขียนว่า "เพจ" มีภาพธงสีส้ม ๆ นั้นได้เลยค่ะ

1.3. แล้วต่อด้วยกดเมนู "สร้าง" เพื่อเข้าไปทำการสร้างเพจของตนเองค่ะ (ภาพประกอบด้านล่าง)

1.4. จากนั้นกดคำว่า "เริ่มต้นใช้งาน" ปุ่มสีน้ำเงินด้านล่างได้เลยนะคะ

1.5. ต่อไปก็ทำตามขั้นตอนได้เลยค่ะ

1.5.1. ตั้งชื่อเพจ >> อย่าลืมคิดชื่อเพจให้เรียบร้อยก่อนจะตั้งนะคะ เพราะบางครั้งเมื่อเราตั้งไปแล้วอยากเปลี่ยนชื่อทีหลัง มันอาจจะเปลี่ยนชื่อยากค่ะ พอได้ชื่อเพจแล้วก็กด "ถัดไป" เลยค่ะ

1.5.2. เลือกหมวดหมู่ของเพจ >> โดยการค้นหาหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ถ้าเปิดเพจขายของก็อาจจะเลือกหมวด "สินค้า/บริการ" หรือถ้าเป็นเพจส่วนตัว บุคคล ก็อาจจะเลือกหมวดหมู่ "เว็บบล็อกส่วนตัว" หรือหมวดหมู่อื่น ๆ ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของเพจเราค่ะ พอเลือกได้แล้วก็กด "ถัดไป" ได้เลยค่ะ

1.5.3. ใส่ลิงก์ (Link)เว็บไซต์ / บล็อก >> ถ้าใครมีเว็บไซต์ (Website) หรือบล็อก (Blog) ก็เอามาแปะเลย เป็นลิงก์ของบล็อกดิด (Blockdit) ก็ได้ค่ะ หรือถ้าไม่อยากจะใส่ก็ให้กดติ๊กที่ช่องสี่เหลี่ยมที่เขียนว่า "ฉันไม่มีเว็บไซต์" ก็ได้ เสร็จแล้วกด "ถัดไป" เลยค่ะ

1.5.4. ใส่ภาพโปรไฟล์ / ภาพหน้าปกเพจ >> เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างแล้วค่ะ ก็เลือกรูปภาพมาใส่ได้เลย ขนาดภาพโปรไฟล์ 1200 x 1200 pixels ไปเลยค่ะ จะได้ชัด ๆ หน่อย ส่วนภาพหน้าปก ( Cover) ขนาด 851 x 315 pixels นะคะ ใส่แล้วก็กดคำว่า "เรียบร้อย" เป็นอันเสร็จขั้นตอนการสร้างเพจ

พอได้แฟนเพจของตัวเองมาแล้วต่อไปก็โพสบทความ ภาพ แปะลิงก์เว็บไซต์ต่าง ๆ ได้เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเปิดเพจนั้นขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เช่น เปิดเพื่อขายของ เปิดเพื่อเขียนบันทึก เปิดเพื่อลงภาพ เขียนบทความ ฯลฯ ก็แล้วตามแต่ต้องการได้เลย

ในการโพสเนื้อหา (Content) บทเพจนั้น แนะนำว่าควรวางแผนให้ดี ๆ ก่อน อย่าโพสมั่ว อย่าจับฉ่ายมากเกินไป ถ้าเป็นเพจเฉพาะอย่างจะดึงคนเข้ามาได้มากกว่าส่วนตัวคิดอย่างอย่างนั้นนะคะ เช่น เปิดเพจขายเสื้อผ้า แต่ดันลงขาย รถยนต์ หม้อ กระทะ หมา แมว และอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ลงสินค้าเยอะไปหมด บางคนมันจับฉ่ายเกิดไปคนที่เข้ามาเขาจะไม่รู้ว่า ตกลงเพจนี้เขายอะไรกันแน่ ถ้าอยากจะขายหลายอย่างแนะนำว่าให้หาสินค้าที่เข้ากันได้นะคะ

ยกตัวอย่างเช่น เปิดเพจขายรถจักรยาน ก็ขายอุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับจักรยานด้วยได้ เปิดเพจขายเสื้อผ้า แต่ก็ขายกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ก็ยังพอไปด้วยกันได้นะคะ

แต่ไม่อยากให้โดดเกินไป ถ้าใครมีสินค้าและบริการที่อยากจะโปรโมท อยากจะลงขายบนออนไลน์แนะนำว่า "เปิดเพจแยก" นะคะ ก็คือ 1 สินค้า 1 เพจ ไปเลยจะดีกว่า มันอาจจะดูเยอะแต่ว่าก็ดึงลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ดีกว่าขายปนกันไปหมดค่ะ

ทำอย่างไรให้มีคำเข้าเพจ ?

ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า ไม่ใช่ทุกคนที่เปิดเพจมาแล้วขายได้เลย และยังคงย้ำกันอีกครั้งว่า ยอดกดไลก์ (Like) ไม่ได้การันตียอดขายนะคะ เพจที่มีไลก์เยอะ ๆ คนมีส่วนร่วม (Engagement ) เยอะ ก็ไม่ได้แปลว่าจะมียอดขายอีกนั่นแหละ เพราะถ้ามันง่ายแบบนั้นจะมีวิชาการตลาดเอาไว้ทำไม จะมีคอร์สสอนออนไลน์ เทคนิคต่าง ๆ เอาไว้ทำไมเนาะ

นักขายเก่ง ๆ ร้านค้าออนไลน์ที่ยอดขายดี ๆ เขาอาจจะลองผิดลองถูกมาเยอะแล้วก็ได้ แต่เรามองเห็นเพียงแค่ตอนเขาประสบความสำเร็จแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เขาล้มลุกคลุกคลานและเจออุปสรรคอะไรมาบ้างนั้น ก็ไม่มีใครรู้ถูกไหมคะ

เนื่องจากงานขายสินค้า/บริการออนไลน์ มันไม่ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยาก หากคุณคิดจะมาทางนี้ และหวังจะเอาดีทางนี้จริง ๆ ความตั้งใจจะทำให้คุณไปเจอสิ่งต่าง ๆ ที่จะเป็นตัวช่วย เช่น ทำให้คุณอยากจะใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าเทคนิคการขายของออนไลน์มีอะไรบ้าง หาคอร์สสอนการตลาด คอร์สสอนวิธีขาย เป็นต้น

ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายให้ตนเองได้นะคะ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะหาเทคนิคอะไรเจอ

วิธีทำให้คนเข้าเพจแบบเบื้องต้นนะคะ เป็นหลัก SEO (Search Engine Optimization) เบื้องต้นค่ะ มีดังนี้

ถ้าจะเอาแบบใช้เว็บนี้เทพจริง ๆ นั้นเขาจ้างสอนกันราคาหลายหมื่นเลยค่ะ แต่ถ้าใครเรียนรู้เองและมีเวลา แนะนำว่าลองหัดใช้เองจะดีกว่านะคะ แต่อย่าไปเสียเงินยิงโฆษณานะคะถ้าเราไม่ได้จะยิงแอดไปกูเกิ้ล ให้ใช้แค่วิเคราะห์และหาคีย์เวิร์ดก็พอค่ะ

ยังมีอีกหลายเว็บนะคะที่วิเคราะห์คีย์เวิร์ดได้ดี บางเว็บถ้าอยากจะเจาะลึก ๆ เลยอาจจะต้องเสียเงินค่ะ แต่ถ้าคิดว่าคุ้มก็จ่ายก็ได้นะคะ ตามสะดวก ถ้าจะพูดเรื่องคีย์เวิร์ดก็ยาวมากนะคะ ฉะนั้นขอข้ามไปก่อน เอาเป็นว่าหาคีย์เวิร์ดสำคัญมาตั้งเป็นชื่อเพจให้ได้นะคะ

2. พยายามเขียนแคปชั่น ให้ดึงดูดภายใน 2 - 3 บรรทัดแรก เพราะถ้าไปอยู่ในบรรทัดอื่น ๆ คนอ่านจะต้องกด "อ่านเพิ่มเติม" ซึ่งบางคนอาจจะไม่กดด้วยซ้ำ ถ้าใครสามารถดึงความสนใจในบรรทัดต้น ๆ ได้จะดีมากค่ะ

3.หากมีการวางลิงก์เว็บไซต์นะคะ เช่น ถ้าใครทำ Affiliate อาจจะมีการแปะลิงก์สินค้าแล้วเขียนว่า สั่งซื้อที่นี่ (ลิงก์สินค้า) พยายามให้ลิงก์อยู่ในบรรทัดที่ 2 - 3 จะได้สะดวก ถ้าเขาสนใจสินค้านั้น ๆ อาจจะกดลิงก์เข้าไปเลยโดยไม่ต้องกดอ่านเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก คือพฤติกรรมคนไทยไม่ได้ชอบอ่านอะไรเยอะแยะขนาดนั้นค่ะ

4.ภาพที่ใส่ในโพสนั้น ๆ จากที่สังเกตดูในเพจของตนเองนะคะ ลองโพสหลาย ๆ ภาพ เช่น 2 ภาพขึ้นไป การมองเห็นน้อยมาก แตกต่างจากภาพที่ลงแค่ 1 ภาพ คนมองเห็นเยอะมากค่ะ แต่ว่าก็อาจจะวัดอะไรไม่ได้ เพราะคงขึ้นอยู่กับ ช่วงเวลาที่โพส วันที่โพส ด้วย (อันนี้ก็ต้องวิเคราะห์ลึกลงไปอีกเหมือนกันค่ะ) แต่ส่วนตัวก็ยังคิดว่า 1 ภาพประกอบคำบรรยาย อัตราการเข้าถึงเยอะกว่าอยู่ดีนะคะ แต่ว่านะคะ มันก็ไม่ได้เสมอไปนะ บางเพจโพสหลายภาพแต่อัตราการเข้าถึงเยอะก็มีค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทางเฟซบุ๊กเขาวัดจากอะไร

5.ใส่แฮชแท็ก (Hashtag) ทุกครั้งที่โพส คือการใส่เครื่องหมาย # ให้กับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องค่ะ เช่น ขายจักรยาน อาจจะใส่แฮชแท็กว่า #ขายจักรยาน #จักรยานราคาถูก #รถจักรยาน #ขายจักรยานยี่(ชื่อยี่ห้อ) ฯลฯ และคำที่จะเอามาใส่เป็นแฮชแท็กก็แนะนำว่าให้วิเคราะห์คีย์เวิร์ดออกมาก่อนนะคะ เพราะถ้าใส่คีย์เวิร์ดที่คนเขาไม่ค้นหามันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

6. ลงคลิปวิดิโอ (Video) ควรเป็นคลิปสั้น ๆ เข้าใจง่าย น่าสนใจ นะคะ คลิปจะช่วยให้คนที่ไม่ชอบอ่านนั้นดูเอา ฟังเอาได้ และอย่าลืมนะ ตั้งชื่อคลิปให้น่าสนใจ ใส่แฮชแท็กในคลิปให้เรียบร้อย

7. ถ่ายทอดสดขายของ (Live Video) หรือ Face live หรือ Facebook Live สำหรับเพจที่คนติดตามเยอะแล้วไลฟ์สดก็คงไม่ยากที่จะดึงคนเข้ามาดูได้ แต่ว่าไม่ใช่ไลฟ์ปุ๊บแล้วขายได้เลย ส่วนใหญ่คนขายเก่ง ๆ ขายดิบขายดี เขามีเทคนิคนะคะ เขามีการวางแผนมาอย่างดีเลยว่าจะใช้วิธีไหนเรียกคน ทำอย่างไรถึงจะเรียกคนเข้ามาดูไลฟ์นั้นเยอะ ๆ เช่น บางร้านก็ใช้วิธีแจกของให้กับคนที่กดไลก์ แจกของคนที่แชร์ลงกลุ่ม ฯลฯ บางเพจก็มีสไตล์การขายในแบบของตนเอง ถ้าสนใจวิธีนี้ลองศึกษาวิธีการขายด้วยไลฟ์สดดูนะคะ

8. ยิงโฆษณาเฟซบุ๊ก ( Facebook Ad) สำหรับข้อนี้ "เสียเงิน" นะคะ คือการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย อย่ายิงแบบหว่านแหนะคะ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ดี

กลุ่มเป้าหมายก็คือ ลูกค้าที่คาดว่าจะซื้อสินค้าหรือบริการของเรา เช่น สินค้าหรือบริการของเราเป็นอะไร ใครคือกลุ่มเป้าหมาย ก็แบ่งย่อยออกมาเลย เช่น เพศ ชาย หรือ หญิง ทอม ดี้ เกย์ กระเทย ฯลฯ ช่วงอายุ อาชีพ เป็นต้น ยิ่งเราวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายออกมาได้ดีแค่ไหน ยิ่งทำให้โฆษณาที่ยิงไปนั้นตรงมากขึ้น ก็เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของเราได้

9.คุยกับแฟนเพจบ้าง แต่ไม่ถึงกับตอบกลับทุกคอมเมนต์ ( Comment)แต่ก็คุยกับลูกเพจบ้าง เพื่อสร้างความใกล้ชิดกันมากขึ้น ทำให้เกิดความคุ้ยเคยกัน ลูกเพจชอบแอดมินบางคนยังไม่ได้อยากจะอ่านโพสนั้น แต่ช่วยแชร์แบ่งปันออกไปก็มี บางทีถ้าแอดมินเพจเงียบเลย รอแต่ตอบคอมเมนต์ที่เพื่อขายของอย่างเดียว หรือตอบแค่แชทอย่างเดียวมันอาจจะทำให้เพจเหงาไปเลยก็ได้

10.แชร์เพจบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้ครอบครัวช่วยเป็นอีกทางหนึ่งที่ทำให้คนเห็นได้ อย่างน้อยก็มีเพื่อนในเฟซบุ๊กส่วนตัวเห็นบางส่วน ถ้าเนื้อหาที่โพสบนเพจน่าสนใจ ตอบโจทย์คนอ่าน หรือเป็นสินค้าน่าสนใจ จัดโปรโมชั่นดีดึงดูดใจคนก็แชร์ คนก็คอมเมนต์ยิ่งทำให้ Engagement สูงและอัตราการเข้าถึงสูงตามด้วย แน่นอนว่าโอกาสที่จะได้ขายสินค้าก็เพิ่มตาม

ก็คิดออกประมาณนี้นะคะ สำหรับการใช้เพจขายสินค้าหรือบริการ สำหรับเพจที่เป็นแนวอื่น ๆ ก็ลองนำไปปรับใช้กันได้นะคะ หากจะเอาแบบละเอียดมาก ๆ คงจะต้องนั่งวิเคราะห์กันเป็นประเภทไปเลยว่า เพจสไตล์นี้ต้องมีเทคนิคอย่างไร และแนะนำให้หาความรู้เพิ่มเติมเยอะ ๆ นะคะ สำคัญกว่านั้นคือ "อย่าท้อ" ค่ะ ไปที่การสร้างรายได้วิธีอื่นกันต่อเลยค่ะ

((((( 2. ))))) สร้างรายได้จากคลิปวิดิโอบนเฟซบุ๊ก (Facebook creator)🎆🎆🎉🎉🎉🎁🎁🎁🎀🎊

สร้างรายได้ด้วยวิดิโอบนเฟซบุ๊ก

เคยเขียนถึงการสร้างรายได้ด้วยวิดิโอบนเฟซบุ๊ก (Facebook creator)ไปแล้วก่องหน้านี้ในบทความชื่อ 5 วิธีหาเงินออนไลน์ที่เริ่มต้นได้ด้วยงบ 0 บาท ( อ่านต่อที่นี่ >> ) ซึ่งจะมาขอเขียนละเอียดขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อยนะคะ ส่วนตัวก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไรแต่เห็นว่ามีประโยชน์เลยอยากจะนำมาบอกต่อค่ะ

ถ้าใครเป็น Youtuber อยู่แล้วจะเข้าใจหลักการทำงานของ Facebook creatorค่ะ คล้าย ๆ กันเลย เพียงแต่ว่าเงื่อนไขการสมัครนั้นแตกต่างจาก Youtube โดยสิ้นเชิง ส่วนวิธีการได้เงินจากเฟซบุ๊กด้วยวิดิโอก็คือ มาจากคลิปที่มีโฆษณาขึ้นและมีคนดู เหมือนกับยูทูบเลยค่ะ หรือถ้าเพจไหนดังแล้ว คนติดตามเยอะก็จะมีสปอนเซอร์ (Sponsor) มาจ้างรีวิวสินค้า ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งได้เงินดีกว่าจากค้าโฆษณาบนคลิปอีกด้วยนะ

เหล่าดารา คนดัง ก็หันมาเอาดีทางนี้กันเยอะ แม้ว่าเขาจะไปได้เร็วกว่าเพราะฐานแฟนคลับแน่นกว่าคนธรรมดาแบบเรา ๆ แต่ว่าก็มีหลายคนที่สร้างตัวตน ดังได้บนช่องของตัวเองบนเเฟนเพจเฟซบุ๊กเหมือนกันนะคะ

ยกตัวอย่างช่องที่ดัง ๆ เดี๋ยวแปะลิงก์ (Link)ไว้ให้นะคะ อยากให้ทุกท่านเข้าไปส่องดูว่า แต่ละช่อง แต่ละเพจนั้นเขามีสไตล์การทำคลิปอย่างไร เผื่อได้แนวทางมาทำเป็นของตัวเองบ้าง

ฯลฯ

ยกมาให้ชมเป็นตัวอย่างประมาณนี้นะคะ ยังมีอีกหลายเพจหลายช่องมากที่น่าสนใจ ซึ่งทุกคนสามารถเริ่มได้เหมือนกันนะคะ แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ใช่ดาราคนดังอะไร จะให้ปัง ให้ดัง ให้มีคนติดตามเยอะ ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกเลยมันคงเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าคุณให้ความใส่ใจ ตั้งใจเต็มที่ว่าอยากจะสร้างรายได้ด้วยคลิปวิดิโอบนเฟซบุ๊ก อะไรก็มาขวางความพยามของคุณไม่ได้หรอก ยกเว้น ตัวคุณไม่ไปต่อเอง

อยากเป็น Facebook creator เริ่มอย่างไร ?

คำตอบก็คือ เริ่มเลย ณ วินาทีนี้ ค่ะ

โดยการเปิดเพจเฟซบุ๊ก (Facebook Page) ก่อน ย้อนกลับไปอ่านวิธีเปิดเพจในหัวข้อแรกได้เลยนะคะ

ขั้นตอนวางแผน

ลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วคิดว่าจะทำช่อง ทำเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับอะไรดี แนะนำว่าทำเรื่องที่คุณชอบ เพราะถ้าทำอะไรที่เราชอบมันมักจะสนุกและทำออกมาได้ดีค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าชอบเที่ยว ก็ทำคลิป ทำช่องแนวท่องเที่ยว ถ้าชอบแต่งตัว แต่งหน้าก็ไปแนวแฟชั่น หรือถ้าเป็นแบบไลฟ์สไตล์ก็ เป็นแบบ Vlog ไปเลย เป็นคลิปชีวิตประจำวัน คลิปเวลาไปโน่นมานี่ ที่คิดว่าคนจะสนใจ แล้วมันน่าสนใจ แสดงบุคลิกและความเป็นตัวเองออกมาในช่อง ที่แน่ ๆ คือ คุณต้องคิดให้ออกว่า ช่องหรือเพจที่คุณจะทำนั้น เป็นแนวไหนนะคะ

เงื่อนไขการเปิดขอเปิดสร้างรายได้ของ Facebook creator

1. เปิดเพจในประเทศที่ได้รับอนุญาติ ประเทศไทยเปิดได้ค่ะ

2. อายุเพจอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป (ก็ทยอยทำคลิป สร้างเนื้อหาไปเรื่อย ๆ)

3. มีผู้ติดตามครบ 10,000 คน จำนวนในการจำชมวิดิโอนานกว่า 1 นาที ในวิดิโอ ยาว 3 นาทีขึ้นไป จำนวน 30,000 ครั้ง ภายใน 60 วันค่ะ

5. ถ้าผ่านตามเงื่อนไขแล้วก็ทำคลิปลงให้ได้เรื่อย ๆ ก็ยืนยันข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการรับเงินต่าง ๆ แล้วรอรับเงินแต่ละเดือนได้เลย ใครจะได้มากได้น้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าคลิปบนช่องคุณที่มีความยาวอย่างน้อย 3 นาทีขึ้นนั้นมีคนดูเยอะแค่ไหนด้วยนะคะ

สิ่งสำคัญที่ไม่อยากให้มองข้ามเพราะจะมีผลในระยะยาวคือ การทำตามกฎของทางเฟซบุ๊กนะคะ โดยเฉพาะในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ถ้าจะให้ดีควรเป็นคลิปที่ทำเองทั้งหมด เพลงประกอบทางเฟซบุ๊กก็มีแหล่งเพลงฟรีให้ค่ะ หรือจะหาที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ที่อื่นมาใช้ก็ได้ เรื่องนี้ละเอียดอ่อน และถ้าถูกร้องเรียนขึ้นมามันไม่คุ้มนะคะ ที่แน่ ๆ เพจที่สร้างมาแสนเหนื่อยนั้นจะถูกแบน หรือหนักกว่านั้นคือเจ้าของลิขสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายค่ะ ต้องจ่ายเป็นเงินมิใช่น้อยกันเลยทีเดียว

((((( 3. ))))) สร้างรายได้จาก Facebook Instant Article ( FBIA)🎆🎆🎉🎉🎉🎁🎁🎁🎀🎊

สร้างรายได้จาก Facebook Instant Article

การสร้างรายได้จาก Facebook Instant Article ( FBIA) หรือเรียกภาษาไทยว่า "บทความทันใจ" นั้นมีมาก่อน Facebook creator เลยค่ะ แต่ว่ามันมีขั้นตอนการสมัครค่อนข้างซับซ้อนยุ่งยากกว่า และข้อนี้เราจะต้องมีเว็บไซต์ (Website) ด้วยนะคะ หรือจะใช้บล็อก (Blog) ก็ได้ แต่ถ้าเป็นเว็บจะผ่านง่ายกว่า ทำง่ายกว่าด้วย

ขอออกตัวก่อนว่าไม่ถนัดเหมือนกันนะคะสำหรับการทำ Facebook Instant Article ยังคงมือใหม่เหมือนกัน พยายามทำมาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวแรก ๆ เลย แต่ว่ามันหลายขั้นตอนเหลือเกินเลยพักไว้ก่อน และถ้าเลือกใช้เป็นเว็บไซต์แน่นอนว่าเราจะมีค่าใช้จ่ายมาเกี่ยวข้องค่ะ (มันไม่ฟรีแล้วนะ)

ที่ต้องบอกแบบนี้ก็เพราะว่า ตั้งแต่เริ่มทำเว็บไซต์เเล้วเราก็ต้องเสียค่าโดเมนเนม (domain name) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า โดเมน นั่นเอง ก็คือชื่อเว็บไซต์ของเรานั่นเอง ยังมีเค่าเช่าโฮส หรือโฮสติ้ง (Hosting) เพื่อเป็นเว็บโฮสติ้ง หรือเป็นบ้านให้กับเว็บของเราค่ะ ถ้างงเรื่องนี้นะคะ ก็เอาง่าย ๆ ว่าเราต้องมีทั้งโดเมนและโฮสติ้ง มีแค่โดเมนไม่ได้มันจะไม่เป็นเว็บไซต์ค่ะ

สำหรับที่จดโดเมนเนมและเช่าโฮสติ้งก็มีหลายเจ้าในบริการ จะค้นหาใน Google ดูเลยก็ได้มีเพียบ ยกตัวอย่างเช่น https://th.godaddy.com เว็บจดโดเมนที่นิยมใช้กันทั่วโลกเลยก็ว่าได้

พอมีเว็บไซต์แล้วก็ต้องมีแฟนเพจเฟซบุ๊กนะคะ เพราะว่าเราจะต้องทำการเชื่อมเพจกับเว็บเข้าด้วยกัน

วิธีสมัคร Facebook Instant Article ( FBIA)

1. สร้างแฟนเพจเฟซบุ๊ก ในเพจจะต้องมีผู้ติดตามด้วยนะ ถ้าไม่มีแล้วใครจะเข้ามาดูบทความเรา

2. ทำเว็บไซต์โดยใช้ WordPress เพราะจะสะดวกกว่าเนื่องจากมีปลั๊กอินสำหรับการทำ FBIA ให้เลยชื่อปลั๊กอินว่า Instant Articles for WP ค่ะ

3. คงต้องมีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการใช้โค้ด HTML ด้วยนะคะ มันก็จะดูวุ่นวาย ยุ่งยากก็ตรงนี้แหละ

5.พอเชื่อมเสร็จแล้วก็เขียนบทความลงเว็บไซต์ได้เลย แล้วเพจจะดึงบทความจากเว็บมาเผยแพร่อัตโนมัติ โดยก่อนจะเชื่อมแนะนำให้เขียนบทความไว้ก่อนสัก 10 - 15 บท เพื่อส่งให้ทางเฟซบุ๊กตรวจสอบนะคะ

6.พอผ่านแล้วทุกอย่างก็ง่าย หน้าที่ก็มีแค่ต้องขยันเขียนบทความลงเว็บค่ะ แล้วพอคนในเพจเห็นก็คลิกเข้าไปอ่าน ถ้าเจอโฆษณาขึ้นบนเว็บเรา ถ้าเขาคลิกเราก็ได้เงิน (ไม่แน่ใจว่าถ้าไม่คลิกเราจะได้ไหมนะคะ) และห้ามคลิกโฆษณาเว็บตัวเองเด็ดขาด (ผิดกฎนะคะ)

แม้มันจะมีขั้นตอนที่วุ่นวายสักหน่อยแต่มันก็มีคนทำเยอะนะคะ ตามที่เราเห็นเพจต่าง ๆ ชอบแชร์ข่าว บทความต่าง ๆ ลงเพจบ่อย ๆ นั้นส่วนมากก็เป็นเพจที่ทำ Facebook Instant Article ทั้งนั้นค่ะ ใครสนใจก็ลองศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมกันดูนะคะ และอย่าลืมว่าทุกอย่างมีกฎเสมออย่าลืมดูเรื่องนี้ด้วยนะคะ

((((( 4. ))))) สร้างรายได้จากสตรีมเกมบนเฟซบุ๊ก (Facebook gaming creator)🎆🎆🎉🎉🎉🎁🎁🎁🎀🎊

สายเกมไม่ควรพลาดเลยขอบอก ผู้เขียนเองก็ชอบค่ะ และทำ Facebook gaming creator อยู่เหมือนกัน (แต่ไม่ดัง 55+) นาน ๆ ทีจะสตรีมทางนี้ค่ะ ส่วนมากจะไปสตรีมบน Youtube มากกว่า แต่คราวนี้ขอมาพูดถึงในฝั่งของเฟซบุ๊กบ้าง "เล่นเกมแล้วได้เงินมันก็มีนะ"

หลักเกณฑ์ก็ง่าย ๆ เลยค่ะ เราเพียงแค่เปิดเเฟนเพจเฟซบุ๊กแนวเกม ย้ำว่าจะต้องเป็นเพจประเภทเกมนะคะ เวลาสร้างเพจให้เลือกหมวดหมู่ว่าเป็น "เกม" นะคะ พอมีเพจแล้วเราก็สตรีมเกมลงไปเลย โดยการเลือกดูก็ได้ว่าในเฟซบุ๊กนั้นมีเกมอะไรให้เราสตรีมลงเพจได้บ้าง

โปรแกรมสำหรับสตรีมที่ใช้ได้กับFacebook gaming creator นะคะจะมี

ทั้ง 3 โปรแกรมสตรีม สำหรับติดตั้งบนคอมพิวเตอร์นะคะ อยากใช้โปรแกรมไหนเลือกดาวโหลดมาใช้ได้ตามสะดวกเลย ส่วนการตั้งค่าการใช้งานแต่ละโปรแกรมนั้นมีสอนในลิงก์สมัครเรียบร้อยแล้วค่ะ ลองอ่านดูนะ

เงื่อนไขของเพจที่จะสามารถสร้างรายได้จากการสตรีมเกม

1. หมวดหมู่ของเพจจะต้องเป็นแนว เกม ค่ะ และเพจต้องใช้งานอย่างน้อย 30 วัน

2. สตรีมเนื้อหาวิดีโอเกมเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

3. สตรีมเนื้อหาวิดีโอเกมอย่างน้อย 2 วัน ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

4. มีผู้ติดตามเพจอย่างน้อย 100 คน

5. สตรีมจากประเทศที่ได้รับสิทธิ์ (ประเทศไทยก็มีสิทธิ์ค่ะ)

7. ทำครบหมดทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาถึงจะมีสิทธิ์ยื่นสมัครขอสร้างรายได้จากการสตรีมเกมนะคะ เอ้าลุย!

การรับเงินก็จะมีฟีเจอร์ Facebook Stars ให้คนที่ดูเรากำลัง Stream สามารถกด “Star” เพื่อทำการบริจาคเงินให้เราได้ โดยเงินที่เราจะได้คือเงินจริง ๆ ที่คนดูให้เราค่ะ หรือถ้าเป็นเกมเมอร์มีชื่อเสียงหน่อย คนติดตามเพจเยอะก็จะมีโฆษณาเข้ามาด้วยค่ะ

สนใจการสตรีมเกมสนุกด้วย ได้เงินด้วย ได้มีแฟนคลับด้วยแบบนี้ก็เพลิดเพลินดีนะคะ เช่นเดิมอย่าลืมศึกษารายละเอียดข้อมูลให้ดีทุกครั้งก่อนเริ่มทำนะคะ และอย่าผิดกฎของเฟซบุ๊กเกมมิ่งด้วยนะ

((((( 1. ))))) เขียนบทความขายในกลุ่มเฟซบุ๊ก🎆🎆🎉🎉🎉🎁🎁🎁🎀🎊

สำหรับงานนี้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวได้เลยค่ะ ท่านใดที่ชอบเขียนบทความ เขียนรีวิว เขียนอะไรต่าง ๆ รู้ไหมว่าสามารถเขียนขายได้นะคะ ส่วนเรตราคาบทความนั้นขึ้นอยู่กับความยาวของบทความว่ากี่คำ มือใหม่อาจจะเริ่มต้นที่ 500 คำ ประมาณ 40 - 60 บาท ค่ะ หรือแล้วแต่ตกลง

จะสร้างเพจขายก็ได้นะคะ แต่ว่าขายในกลุ่มเฟซบุ๊ก ( Fcebook Groups ) เกี่ยวกับการซื้อขายบทความจะง่ายกว่า เพราะว่าคนเยอะและเป็นคนที่ต้องการจะซื้อบทความจริง ๆ อยู่ในนั้นค่ะ มีหลายกลุ่มเลยนะคะ

วิธีการเขียนบทความขายใน Fcebook Groups

1. เขียนบทความให้เรียบร้อย จะแนวคุณภาพ ให้ความรู้โดยไม่เน้นคีย์เวิร์ด หรือจะเขียนคุณภาพแต่เป็นบทความ SEO ก็ได้ ซึ่งเป็นบทความ SEO ความต้องการซื้อจะมากกว่า ขายง่ายกว่า เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนมากเป็นคนทำเว็บไซต์ที่ต้องการทำอันดับให้ติดหน้า 1 บน Google ค่ะ

2. เขียนสะสมให้ครบสัก 10 บทขึ้นไป อย่าลืมตรวจคำผิด ตรวจสอบคุณภาพ (Unique) ด้วยนะคะ ซึ่งทุกบทความจะต้อง Unique 100 % ค่ะ ถ้าไม่ผ่าน Unique ก็อาจจะเพราะไปซ้ำกับบทความคนอื่น ที่แน่ ๆ คือ ห้ามลอก (Copy) บทความคนอื่นมาเด็ดขาด นอกจากจะขายไม่ได้แล้วยังเสียเครดิตตัวเองอีกด้วยนะคะ ฉะนั้นบทความจะต้องเขียนเอง

3.พอได้บทความพร้อมแล้ว ลงประกาศขายตามกลุ่มที่เกี่ยวกับบทความเลยค่ะ มีหลายกลุ่มนะคะ แนะนำให้ดังนี้

ประมาณนี้ค่ะ ยังมีอีกหลายหลุ่มเลยลองค้นหาดูนะคะ

4. นอกจากเขียนสำเร็จพร้อมขายแล้ว สามารถประกาศรับงานได้ค่ะ ประกาศไปเลยว่าเรารับงานเขียนบทความ ลองดูตัวอย่างการประกาศรับงานจากคนในกลุ่มนั้น ๆ ก็ได้ค่ะ

5. หากมีคนประกาศหาคนทำงาน / หาคนเขียนบทความ ก็เสมอตัวไปสมัครเลย อาจจะต้องแข่งกับคนอื่นหน่อยนะคะ แต่ถ้าฝีมือดี ๆ ยังไงก็มีคนจ้างแน่นอน

สำคัญคือ ทุกกลุ่มมีกฎนะคะ อย่าลืมอ่านกฎของแต่ละกลุ่มด้วย อีกทั้งหากทำงานให้กับลูกค้า อย่าลืมทำงานให้มีคุณภาพและส่งงานให้ตรงเวลาด้วยนะคะ เมื่อมีผลงานดีในอนาคตอาจจะต่อยอดไปได้อีกไกล สามารถอัพราคาบทความของตนเองขึ้นได้ด้วยน้าาา

จบแล้วค่ะ สำหรับการแนะนำ 5 วิธีสร้างรายได้จากการใช้ Facebook ท่านใดสนใจแบบไหนก็ลองนำไปศึกษาหาข้อมูลต่อ และที่สำคัญคือ "ลงมือทำ" นะคะ "เงิน" มันอยู่รอบตัวเราทั้งนั้น อยู่ที่ใครจะมองเห็นโอกาสและคว้ามันเอาไว้ได้เท่านั้นเอง

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามานะคะ ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ก็อย่าลืมกดหัวใจให้สักคนละดวงสองดวง กดไลก์ให้คนหน่อยสองหน่อยก็ยังดี หรือจะแชร์แบ่งปันก็ขอบพระคุณมากนะคะ