การพรีเซนต์งานที่ดีเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความน่าสนใจให้กับผลงาน เพราะการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพไม่ได้เป็นแค่การบอกเนื้อหาที่อยากสื่อเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับงานและสามารถโน้มน้าวให้ผู้ฟังเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณนำเสนอได้เป็นอย่างมาก Show แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาพร้อมกับความมั่นใจในการสื่อสาร แต่ทักษะการพรีเซนต์งานอย่างมืออาชีพเป็นเรื่องที่สามารถสร้างได้ ด้วย 5 เคล็ดลับพรีเซนต์งานที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น! Table of Contentsเคล็ดลับพรีเซนต์งานที่คุณควรรู้1. เปิดตัวให้น่าสนใจและเข้าใจง่ายVanessa Van Edwards นักวิจัยจาก Science of People ได้ให้ความเห็นว่า ความประทับใจแรกเป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดึงดูดความสนใจของผู้ฟังเป็นอย่างมาก ช่วงเวลาเพียง 7 วินาทีหลังจากที่พบหน้ากันอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความสำเร็จและความล้มเหลวได้เลยทีเดียว การเลือกการเปิดตัวที่มีความโดดเด่น กล่าวประโยคที่เข้าใจได้ง่าย ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ฟัง โดยคุณอาจเริ่มง่ายๆ เช่น การยกคำพูดของคนดังที่กลุ่มผู้ฟังส่วนมากอาจรู้จัก หรือเปิดด้วยประโยคคำถาม ทำให้ผู้ฟังเกิดความสนใจ และสร้างอารมณ์ร่วมก่อนการแสดงผลงาน เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่ดีในการพรีเซนต์ นอกเหนือจากนั้นคุณควรมี Agenda การพูดให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ฟังรู้ว่าพวกเขากำลังจะได้รับฟังอะไร หรืออย่างน้อยๆ ตัวคุณเองจะได้รู้ว่าต้องพูดอะไร และจบตรงไหน เพื่อให้การพรีเซนต์ทั้งหมดมีประสิทธิภาพ 2. สื่อสารด้วยภาพการพรีเซนต์งานไม่ได้เป็นการขึ้นแสดงเดี่ยวไมโครโฟนที่เน้นผู้พูดเป็นหลัก หากแต่เป็นการนำเสนอสิ่งที่ต้องการด้วยวิธีการต่างๆ มากมายโดยคาดหวังว่าผู้ฟังจะได้บางสิ่งบางอย่างกลับไป ดังนั้นภาพ หรือสไลด์ประกอบย่อมเป็นสิ่งจำเป็น สไลด์ที่ดีควรเป็นเพียงองค์ประกอบเสริมที่ช่วยให้ผู้ฟังเห็นภาพและนึกตามได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่จุดดึงความสนใจ การใช้ภาพประกอบที่สามารถสื่อความหมายให้ตรงกับเรื่องที่คุณต้องการสื่อสารในแต่ละบูลเล็ทจึงเป็นหนึ่งวิธีที่จะตรึงใจผู้ฟังให้จดจำเนื้อหาที่คุณพูดได้มากกว่า เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับการทดสอบความจำมนุษย์ของนักชีววิทยาระดับโมเลกุลอย่าง John Medina ที่เผยว่าการสื่อสารด้วยรูปภาพสามารถเพิ่มความสามารถในการจดจำเนื้อหาให้กับผู้ฟังได้มากกว่าการใช้ตัวอักษรสูงถึง 65% ทำให้เห็นชัดว่าการมีภาพประกอบที่เหมาะสมสำคัญกว่าการอัดเนื้อหาเยอะๆ ลงในสไลด์ 3. ใช้โทนเสียงที่เหมาะสมการใช้โทนเสียงสูงต่ำที่มีความแตกต่างกันและการเว้นจังหวะเพื่อเน้นความสำคัญของข้อความคือวิธีใช้เสียงที่มีพลังในการโน้มน้าวใจคนฟังอย่างแท้จริง โดยศาสตราจารย์ด้านการตลาดอย่าง Wharton และ Jonah Berger ได้เผยว่าผู้ที่ใช้ระดับโทนเสียงที่แตกต่างกันในการพูดจะมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น ทำให้สามารถนำเสนองานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าการควบคุมโทนเสียงในช่วงเวลาที่ตื่นเต้นจะม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณสามารถควบคุมน้ำเสียงให้มีความเหมาะสมได้ด้วยการฝึกควบคุมลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อเรียกพลังและกล้าที่จะพูดออกไปอย่างเต็มที่ 4. ภาษากายที่มั่นใจและเป็นธรรมชาติภาษากายคือสิ่งแรกที่ผู้ฟังสามารถสังเกตเห็นได้จากผู้นำเสนอ ซึ่งการแสดงออกถึงความมั่นใจในสิ่งที่พูดจะช่วยเสริมสร้างบุคลิคภาพที่ดีและเป็นมืออาชีพให้ผู้พูดได้เป็นอย่างมาก วิธีการสื่อสารภาษากายที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือนั้นได้แก่
5. ฝึกฝนและพัฒนาซ้ำๆการฝึกฝนซ้ำๆ จะช่วยสร้างความมั่นใจและความคุ้นเคยให้กับร่างกายของคุณ ทั้งในด้านของการจดจำเนื้อหาและความทรงจำของกล้ามเนื้อ ซึ่งความคุ้นช่วยให้การพูดของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การฝึกฝนผ่านการจำลองสถานการณ์นำเสนอจริงกับคนจริงๆ หรือการอัดวิดิโอยังช่วยให้ผู้พูดทราบแนวทางการพัฒนาทักษะการพูดจากมุมมองที่แตกต่างแต่เป็นตัวเองได้อีกด้วย สรุปการพรีเซนต์งานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับคุณได้เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องห้ามลืมคือการที่ดีเนื้อหาการพรีเซนต์ที่น่าสนใจเพื่อทำให้ดึงดูดผู้คนได้มากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าการพรีเซน์งานที่ดีต้องมีตัวช่วยเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสม การนำเสนองานผ่าน True VROOM ห้องประชุมออนไลน์ยุคใหม่ฝีมือคนไทย จะช่วยให้คุณสามารถนำเสนองานได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ด้วยฟังก์ชันช่วยงานที่หลากหลาย รองรับคนจำนวนมาก ทำให้คุณสามารถสร้างการพรีเซนต์ที่มีคุณภาพในแบบของคุณเองได้อย่างแน่นอน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ True VROOM |