ในวงการอุตสาหกรรม ก่อสร้าง หรืออุตสาหกรรมใดก็ตามที่ต้องอาศัยการใช้งานวัสดุหลากหลายประเภท สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การตรวจเช็ควัสดุว่ามีคึณสมบัติเป็นอย่างไร เช่น การทดสอบความแข็งของวัสดุ (Hardness Test) ซึ่งเป็นหัวข้อที่เราจะยกมาพูดถึงกันในวันนี้ เรื่องของ ‘การทดสอบความแข็ง’ ที่ว่ามันคืออะไรกันแน่ ต้องวัดกันอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไร เรามาดูไปพร้อมๆ กัน Show ยาวไปอยากเลือกอ่าน การทดสอบความแข็งของวัสดุ (Hardness Test) คืออะไรความแข็ง (Hardness) คือ คุณสมบัติของวัสดุที่สามารถต้านทานหรือทนต่อการเสียรูปซึ่งเกิดจากแรงกด รวมไปถึงความต้านทานต่อการเสียดสี กลึง และขีดข่วน การทดสอบความแข็งของวัสดุ (Hardness Test) คือ การวัดจากความสามารถในการต้านทานต่อการเปลี่ยนรูปแบบถาวร รวมทั้งดูว่าทำให้เปลี่ยนรูปมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสามารถทดสอบความแข็งของวัสดุได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะใช้แรงกด ขูด เจาะกระแทก ฯลฯ ค่าความแข็งของวัสดุถือได้ว่าเป็นค่าพื้นฐานที่สามารถชี้ให้เห็นคุณสมบัติโดยรวมของวัสดุนั้นได้ สำหรับงานเชิงอุตสาหกรรม จะต้องมีกระบวนการเลือกสรรวัสดุสำหรับชิ้นงาน ความแข็งของวัสดุคือปัจจัยที่สำคัญในกระบวนการ ต้องใช้การทดสอบด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม และการทดสอบควรเป็นไปภายใต้ความควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญ จะเห็นว่าการทดสอบความแข็งของวัสดุนั้นมีสำคัญอย่างยิ่ง เป็นกระบวนการที่เริ่มทำก่อนจะได้ข้อสรุปเรื่องวัสดุในชิ้นงานจริงเสียอีก เพราะผลของการทดสอบที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์และหาข้อสรุป ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถหยิบวัสดุไปใช้งานในการผลิตได้อย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งทำให้นำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ประเภทของการทดสอบความแข็งถึงแม้ว่า การทดสอบความแข็งส่วนใหญ่จะดูเหมือนมีวิธีการที่ไม่แตกต่างกันมากนัก คือ การใช้แรงกด แต่การทดสอบค่าความแข็งสำหรับงานโลหะก็ยังสามารถแบ่งได้หลากหลายประเภท ซึ่งปัจจุบันมีวิธีที่ได้รับความนิยม 3 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้
การทดสอบความแข็งแบบอื่นที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ก็ยังมีการทดสอบวัดความแข็งรูปแบบอื่นอีกมากมาย ซึ่งเหมาะกับการใช้งานวัสดุประเภทอื่นๆ ตามวิธีการที่แตกต่างกันไป การใช้เครื่องมือวัดความแข็งไม่ว่าจะเป็นการทดสอบแบบไหนต่างก็ต่างก็ต้องอาศัยความแม่นยำของผู้วัดและอ่านค่า เพราะปัจจัยแวดล้อมเล็กๆ น้อยๆ นั้นอาจส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ และความคลาดเคลื่อนนี้อาจส่งผลต่อกระบวนการผลิต ดังนั้น ในการใช้เครื่องมือวัดความแข็ง จึงต้องค่อยควบคุมปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมผิววัสดุ ระยะเวลาที่ใช้ในการกด ความรวดเร็วในการกด อุณหภูมิและความชื้นในอากาศ ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการทดสอบ จึงเป็นเหตุผลที่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการทดสอบ สรุปหากคุณกำลังมองหาการทดสอบความแข็งของวัสดุ ที่มีความแข็งแรงทนทาน อย่างประเภทโลหะ ให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแม่นยำ มีมาตรฐานตามระดับสากลจนสามารถนำไปใช้งานในธุรกิจหรืออื่นๆ ตามความต้องการได้จริง อย่าลืมเลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญ และเครื่องวัดความแข็งที่มีประสิทธิภาพดี ท้ายที่สุดนี้ ไทยปาร์คเกอร์ไรซิ่ง ในฐานะผู้นำทางด้านเทคโนโลยีการเคลือบเตรียมผิวและชุบโลหะสำหรับวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เรามีบริการรับวิเคราะห์และทดสอบทางเชิงกลที่ได้มาตรฐาน โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพของวัสดุและความปลอดภัยเป็นสำคัญ |