Tb ม มากเต มท แต ไม ร จะทำอย างไร

อาจเป็นชื่อโรคที่ไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อวัณโรคปอด แต่จริงๆแล้วเชื้อวัณโรคนี้ยังสามารถก่อโรคที่อวัยวะอื่นได้เช่นกัน หนึ่งในอวัยวะที่พบการติดเชื้อได้ก็คือต่อมน้ำเหลืองนั่นเอง

คืออะไร..?

วัณโรคที่ก่อโรคที่ต่อมน้ำเหลือง ส่วนใหญ่พบที่ต่อมน้ำเหลืองลำคอ โดยอาจมีต่อมน้ำเหลืองบวมโตเพียงต่อมเดียว หรือบวมต่อกันหลายๆต่อมเป็นสายเหมือนสายลูกประคำก็ได้.โดยต่อมน้ำเหลืองที่บวมขึ้นมามักจะไม่เจ็บ และไม่ได้เป็นก้อนแข็งมาก ก้อนจะโตขึ้นเรื่อยๆอย่างช้าๆหากไม่ได้รับการรักษา

เกิดจากอะไร?

เชื้อวัณโรคติดต่อกันทางการหายใจ ไอ จาม ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยวัณโรค หรืออาศัยในสภาพอากาศที่ไม่ถ่ายเท แออัด มีการทำความสะอาดได้ไม่ถูกสุขลักษณะ ก็จะมีโอกาสติดเชื้อมากกว่า โดยเชื้อจะสามารถแพร่กระจาย และลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง

อาการ

  • คลำได้ต่อมน้ำเหลืองบวมโตที่ลำคอด้านใดหรือที่ส่วนใดของลำคอก็ได้ หรือในส่วนอื่นๆของร่างกาย, อาจต่อมฯเดียวหรือหลายต่อมฯกระจายประมาณ 1-3 ต่อม
  • มักพบเกิดข้างเดียวของลำคอ/ของร่างกาย (85%ของผู้ป่วย)
  • ขนาดต่อมฯมักไม่เกิน 3 ซม.
  • ต่อมมักไม่เจ็บ และไม่แข็งมาก เคลื่อนที่ได้
  • ในระยะต่อมา ต่อมฯจะ’โตช้าๆ’ ต่อเนื่อง:
  • อาจโตได้มากกว่า 5-10 cm
  • จะค่อยๆแข็งขึ้นต่อเนื่อง
  • ยึดติดกับเนื้อเยื่อรอบๆต่อมฯจนเคลื่อนที่ไม่ได้
  • อาจเริ่มมีอาการเจ็บที่ต่อมฯ
  • ต่อมอาจแตกและมีสารคัดหลั่งสีขาวไหลออกมา (พบประมาณ 5-10%) ซึ่งสารคัดหลั่งนี้จะมีเชื้อวัณโรคปนและอาจก่อการติดเชื้อได้
  • ต่อมน้ำเหลืองอาจโตเป็นเม็ดๆเรียงเป็นสาย ลักษณะคล้ายสายประคำ มักอยู่ทางด้านหน้าของลำคอ

อาการทั่วไปที่มักจะมีร่วมด้วย คือ

  • อ่อนเพลีย
  • น้ำหนักลดผิดปกติโดยหาสาเหตุไม่ได้
  • มีไข้ต่ำๆ
  • มีเหงื่อออกกลางคืน

ติดต่อได้มั้ย?

ตัววัณโรคต่อมน้ำเหลือง ทั่วไปไม่แพร่เชื้อติดต่อสู่ผู้อื่น แต่ในกรณีผู้ป่วยมีวัณโรคปอดร่วมด้วย วัณโรคปอดจะเป็นตัวแพร่เชื้อฯสู่ผู้อื่นจากการไอ จาม หายใจ

การรักษา

  • ทานยาฆ่าเชื้อวัณโรค โดยจะต้องรักษานาน 6-9 เดือน

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)

คืออะไร?

มีเนื้องอกร้ายที่ต่อมน้ำเหลืองหรือโครงสร้างต่อม ซึ่งระบบน้ำเหลืองก็เป็นระบบหนึ่งของภูมิคุ้มกัน ประกอบไปด้วย อวัยวะน้ำเหลือง ได้แก่ ม้าม และไขกระดูก ซึ่งภายในอวัยวะเหล่านี้จะเต็มไปด้วยน้ำเหลือง มีหน้าที่นำสารอาหารและเซลล์เม็ดเลือดขาวไปทั่วร่างกาย และเมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวเหล่านี้เกิดความผิดปกติ จึงทำให้เกิดเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองขึ้นมา

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองสามารถเกิดได้ในทุกที่

เพราะต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น คอ รักแร้ ข้อพับแขน ข้อพับขา ช่องอก ช่องท้อง ลำไส้ หรือกระเพาะ

เกิดจากอะไร?

ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น

  • การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น การติดเชื้อไวรัสเอชทีแอลวี (Human T-lymphocytic virus - HTLV),
  • การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อเอชไพโลไร ที่ทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบ
  • การมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น โรคเอดส์,
  • เป็นโรคภูมิแพ้ตนเองบางชนิด
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม
  • การสัมผัสวัตถุทางเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็ง เช่น การสัมผัสยาฆ่าแมลง
  • การกินอาหารพวกโปรตีนและไขมันสูง
  • การที่ร่างกายมีความเป็นกรดในระยะเวลานานก็เป็นสาเหตุทั่วไปที่ทำให้เซลล์ต่อมน้ำเหลืองกลายเป็นมะเร็งได้

อาการ

อาการเริ่มต้น

  • พบก้อนเนื้อบริเวณ : คอ รักแร้ ขาหนีบ หรือ เต้านม มักไม่มีอาการเจ็บ
  • มีไข้ หนาวสั่น
  • เหงื่ออกตอนกลางคืน
  • คันทั่วร่างกาย
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ไอเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก
  • ปวดหัว (มักพบในผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในระบบประสาท)

อาการระยะลุกลาม

  • ซีด เลือดออกง่าย เช่น จุดเลือดออกจามตัว หรือเป็นจ้ำๆเลือด
  • อาจมีอาการแน่นท้อง ท้องโต อาหารไม่ย่อย (ในกรณีเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง)

การรักษา

  • การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
  • การรักษาด้วยการฉายรังสี (Radiation Therapy)
  • การรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Transplantation)

ต่อมน้ำเหลืองที่คอติดเชื้อ (Cervical Lymphadenitis)

ต่อมน้ำเหลืองซึ่งเป็นต่อมที่มีอยู่ทั่วร่างกาย ภายในประกอบด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่สำคัญในการช่วยต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค เชื้อไวรัส และแบคทีเรียต่าง ๆ ต่อมน้ำเหลืองโตเป็นอาการบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ส่วนน้อยเกิดจากภาวะอื่นๆ เช่น มะเร็ง

อาการของโรค

  • ต่อมน้ำเหลืองบวมโตขึ้น
  • รู้สึกปวด หรือกดเจ็บ
  • ผิวหนังบริเวณดังกล่าวแดง สัมผัสแล้วรู้สึกอุ่น
  • อาจมีอาการที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อบริเวณศีรษะร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ น้ำมูกไหล เป็นไข้ ปวดหู ฟันผุ

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

  • การซักประวัติและตรวจร่างกาย โดยจะซักประวัติรายละเอียดการโตของต่อมน้ำเหลืองและอาการอื่นๆ ที่พบร่วม ตรวจร่างกาย คลำต่อมน้ำเหลือง ตรวจช่องปาก จมูก หู
  • เจาะเลือด ตรวจชิ้นเนื้อต่อมน้ำเหลือง
  • ส่งตรวจเอกซเรย์ หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)

การรักษา

  • หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจะรักษาโดยใช้ยาปฏิชีวนะ
  • หากเกิดจากเชื้อไวรัสก็มักจะหายไปได้เอง
  • หากรู้สึกเจ็บหรือกดแล้วเจ็บก็อาจรับประทานยาบรรเทาอาการปวด เช่น ไอบูโพรเฟน หรือพาราเซตามอล พักผ่อนให้เพียงพอ

_______________________________________________________

อ้างอิง :

https://mahosot.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87.html

TB lymph node รักษากี่เดือน

ตามแนวทางการรักษาวัณโรคต่อมน้ำเหลืองกรณีรักษาด้วยยาสูตรมาตรฐานจะกำหนดระยะเวลาการรักษาไว้ที่ 6 เดือน และผู้ป่วยที่มีต่อมน้ำเหลืองขนาดใหญ่การผ่าตัดเพื่อระบายหนองออกและให้การรักษาร่วมกับยาต้านวัณโรคก็เป็นวิธีการที่มีประโยชน์เช่นกัน จากข้อมูลพบว่าในระหว่างการรักษาวัณโรคต่อมน้ำเหลืองอาจจะพบต่อมน้ำเหลืองต่อมใหม่โตขึ้นมา หรือ ...

วัณโรคต่อมน้ําเหลือง หายเองได้ไหม

โรควัณโรคต่อมน้ำเหลือง คืออะไร ? โรควัณโรคต่อมน้ำเหลือง หรือวัณโรคต่อมน้ำเหลืองที่คอ ถือว่าเป็นวัณโรคชนิดหนึ่งที่อยู่ภายนอกปอด พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในชุมชนแออัด สามารถเป็น ๆ หาย ๆ ชนิดเรื้อรังได้ แม้จะทำการรักษามาเป็นอย่างดีแล้ว หากผู้ป่วยดูแลตัวเองไม่ดี อาจอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

กิน ยา วัณโรค กี่ เดือน ถึง ไม่ แพร่ เชื้อ

ในช่วงแรกของการรักษาผู้ป่วยควรแยกห้องนอนและหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น หลังรับประทานยาแล้ว 2 สัปดาห์ สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ตามปกติ ขณะไอหรือจามต้องใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูก บ้วนเสมหะลงในภาชนะหรือถุงที่ปิดมิดชิด แล้วนำไปทิ้งในถังขยะเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

เชื้อวัณโรค อยู่ในอากาศได้นานเท่าไร

📍 ในห้องมืด อยู่ได้ 8 - 10 วัน 📍 ที่อับชื้น เช่น ในเครื่องปรับอากาศ อยู่ได้ 6 เดือนขึ้นไป