Scream 1996 สคร ม หว ดส ดข ด hd

หนังทำเงินอเมริกาเหนือ 14-16 มกราคม 2022: ‘Scream’ เปิดตัวโหด เชือดไอ้แมงมุมลงจากอันดับ 1 สำเร็จด้วยรายได้ 30.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

รายงานหนังทำเงินอเมริกาเหนือ 14-16 มกราคม 2022 จากวาไรตี: ‘Scream’ งานสยองภาคต่อ ที่กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ถูกมองว่าน่าจะหมดน้ำยาไปแล้ว เปิดตัวแรงด้วยอันดับ 1 รายได้สวย ๆ 30.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

หนังถูกมองไว้ว่าน่าจะทำรายได้ราว ๆ 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการฉาย 4 วันในสุดสัปดาห์รำลึกมาร์ทิน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าหวีดมาก ๆ เพราะอย่าลืมว่าหนังใช้ทุนสร้าง ‘แค่’ 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น แล้วที่ถือว่าเป็นข่าวดี สำหรับผู้คนในแวดวงอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ ที่เจ็บกันมาเยอะในช่วงปี- 2 ปีที่ผ่านมาก็คือ ความสำเร็จของ ‘Scream’ เป็นไปในช่วงที่ความแรงของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกำลังพีก แถมผู้ชมกลุ่มเป้าหมายของหนัง ก็คือบรรดาวัยรุ่น ที่เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจไม่กลัวการติดเชื้อที่ดูเหมือนว่า จะทำให้การระบาดของโควิด-19 ไม่มีวันสิ้นสุด

พาราเมานต์กับสปายกลาสส์ จับมือเป็นนายทุนหนุนหลังของหนัง ที่เป็นหนัง ‘Scream’ เรื่องแรกในรอบทศวรรษ โดยยังใช้ชื่อเดียวกันกับหนังต้นฉบับปี 1996 อีกด้วย รวมทั้งยังได้นักแสดงจากหนังภาคแรก อย่าง เนฟ แคมป์เบลล์, คอร์ตนีย์ ค็อกซ์ และเดวิด อาร์เคว็ตต์ กลับมาด้วย ร่วมด้วยหน้าใหม่ของหนัง เมลิสสา บาร์เรรา, เจนนา ออร์เทกา, แจ็ก เควด และดีแลน มินเน็ตต์ หนังเปิดตัว 3,664 จอ โดยมีแม็ตต์ เบ็ตติเนลลี-ออลพิน กับไทเลอร์ จิลเล็ตต์ ผู้กำกับคู่หูของ ‘Ready or Not’ มากุมบังเหียนต่อจากเวส คราเวน ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2015 ผู้บริหารของพาราเมานต์แสดงความชื่นชมสองผู้กำกับที่นำพลังและความสดมาให้ซีรีส์ได้ ทำให้ดึงผู้ชมที่เกิดไม่ทันหนังภาคแรกได้สำเร็จ

“พวกเขาสร้างพลังใหม่ ๆ ให้กับหนังชุดนี้สำหรับผู้ชมที่รู้จักอยู่แล้ว และแนะนำหนังให้กับคนรุ่นใหม่ ๆ ได้สำเร็จ” คริส แอรอนสัน หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายในประเทศของพาราเมานต์กล่าว “เราได้ยินมาว่า มีคนดูหนังมากกว่า 1 ครั้ง หรือกะว่าจะไปดูอีกหลาย ๆ รอบ”

สำหรับผู้ชม 53% เป็นเพศชาย และ 67% ของผู้ชมอายุระหว่าง 18 – 35 ปี นั้น “แสดงให้เห็นว่า แต่ละกลุ่มอายุตอบสนองต่อโอมิครอนแตกต่างกันขนาดไหน เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน” พอล เดอการาบีเดียน นักวิเคราะห์สื่ออาวุโสของคอมสกอร์กล่าว “หนังที่พุ่งเป้าไปที่ผู้ใหญ่อายุมาก ๆ ทำรายได้ไม่ดีเลย แต่สำหรับคนดูหนุ่ม-สาว ดูเหมือนว่าการระบาดไม่ได้ส่งผลกระทบในทางลบสำหรับการไปดูหนังในโรงภาพยนตร์”

เมื่อได้อันดับ 1 หน้าใหม่ หมายความว่า ‘Spider-Man: No Way Home’ แชมป์เก่าของโซนีก็ต้องลงจากบัลลังก์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่หนังเปิดตัวในเดือนธันวาคม แต่หนังก็ยังทำรายได้สวย ๆ โดยถูกมองว่าน่าจะเก็บเงินในช่วงสุดสัปดาห์นี้อีกราว ๆ 20.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับรายได้ 4 วัน ด้วยรายได้รวมที่ทำไปแล้ว 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ‘Spider-Man: No Way Home’ จะขึ้นเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนืออันดับที่ 4 แน่ ๆ โดยเป็นรองแค่ ‘Avatar’ - 760 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, ‘Avengers: Endgame’ – 858 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ ‘Star Wars: The Force Awakens’ - 936 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ความนิยมที่มีต่อหนังไปไกลถึงขั้นถูกกล่าวถึงในรายการ ‘Saturday Night Live’ ซึ่งเจมส์ ออสทิน จอห์นสัน ที่รับบทเป็นประธานาธิบดีไบเดน ถึงกับพูดกระตุ้นให้คนเลิกดู ‘Spider-Man’ แล้วให้ความสนใจกับโอมิครอนได้แล้ว

รายได้เปิดตัวของ ‘Scream’ เป็นไปในแบบเดียวกันกับหนังสยองในช่วงการระบาดเรื่องอื่น ๆ เช่น ‘Halloween Kills’ ที่ทำไว้ 49.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, ‘A Quiet Place Part II’ - 47.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังทำได้ดีกว่าหนัง ‘Scream 4’ เมื่อปี 2011 ที่เปิดตัวได้น่าช้ำมาก ๆ แค่ 19.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ยิ่งไปกว่านั้น หากเทียบกับหนังแรง ๆ เรื่องอื่นในช่วงโควิด-19 ‘Scream’ คืองานทุนต่ำ ซึ่งหมายความว่า จะสร้างผลกำไรในอัตราส่วนที่เป็นเนื้อเป็นหนัง เพราะกับงานอย่าง ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ หรือ ‘No Time to Die’ แม้จะขึ้นอันดับ 1 ในบ็อกซ์ออฟฟิศได้ แต่ด้วยทุนสร้างที่สูง ทำให้พวกเขาเก็บรายได้ไม่เป็นกอบเป็นกำสักเท่าไรนัก

แอนิเมชันของยูนิเวอร์ซัลและอิลลูมิเนชัน เอนเทอร์เทนเมนต์ ‘Sing 2’ มาเป็นที่สาม ด้วยรายได้ 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และน่าจะปิดรายได้สี่วันที่ราว ๆ 11 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หนังทำรายได้รวมไปแล้ว 122.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ ‘The 355’ ต้องแย่งอันดับ 4 กับ ‘The King’s Man’ ทำรายได้พอ ๆ กันที่ราว ๆ 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนที่ ‘The 355’ จะปาดหน้าเป็นที่ 4 ได้อย่างหวุดหวิด แต่ถึงกระนั้นทั้งสองเรื่องก็เป็นงานที่น่าผิดหวังทั้งคู่ โดย ‘The King’s Man’ ของทะเว็นตี เซ็นจูรี ทำรายได้รวมยังไม่ถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งน่าผิดหวังมาก ๆ สำหรับงานทุนสูงแบบนี้ ส่วน ‘The 355’ ก็ทำรายได้รวมแค่ประมาญ 8.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการฉายสองสัปดาห์

แม้สตูดิโอส่วนใหญ่จะเก็บหนังเจ๋ง ๆ เอาไว้ลงจอช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือหน้าร้อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่หนังชื่อดัง ๆ ปล่อยออกมา อย่างน้อย ‘The Batman’ และ ‘Uncharted’ ก็มีคิวจ่อฉายอยู่ และความสำเร็จของ ‘Spider-Man’ กับ ‘Scream’ ก็น่าจะทำให้สตูดิโอมั่นใจมากขึ้นในการปล่อยหนังภาคต่อเรื่องเด่น ๆ แม้สถานการณ์ด้านสุขภาพยังไม่ดีขึ้นก็ตามที

“เมื่อดูผลลัพธ์ของหนังบางเรื่อง มันเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นว่า เราอาจจะเข้ามาใกล้ช่วงของการฟื้นตัวจากโรคระบาดสำหรับโรงหนังและการชมมหรสพเฟสต่อไปแล้ว” แอรอนสันกล่าว

เป็นกำลังใจให้ www.facebook.com/Sadaos ด้วยการสนับสนุนทางการเงิน ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลข 100-2-10283-4 แล้วส่งสลิปการโอนเงินมาที่ [email protected] เพื่อดำเนินการมอบรางวัลให้กับผู้สนับสนุนที่โชคดีต่อไปเป็นประจำทุกเดือน

ดูหนัง "Clifford The Big Red Dog' แล้วอย่าลืมมาร่วมสนุกกันนะครับ เสื้อสวยทีเดียวเชียว คลิกเลยที่นี่ -->