นักเขียน : Woogie(วูจี้) INTRO : นิยามความรักของคนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่นิยามของ 'เติ๊ด' 'เมียกู ใครอย่าแตะ!' ผู้ชายที่เดินผ่านใคร คนนั้นก็ต้องหลบ วันนึงมาเสียท่าให้เด็กปีหนึ่งคนนึงเข้า ขนาดเด็กมันเฉยๆ พี่เติ๊ดยังเกรงใจ วันไหนดุขึ้นมา อันนี้พี่มันไม่อยากจะคิดเลย พี่เติ๊ดมันโฉด โหด หื่น แต่พี่เติ๊ดมันไม่กล้าลวนลามแฟน...(?) Ang pao (อั่งเปา) นักศึกษาปีหนึ่ง เด็กหนุ่มธรรมดาที่มาจากต่างจังหวัด ชีวิตก็ปกติสุขดี จนโดนพี่เติ๊ดบังคับขู่เข็ญมาเป็นแฟนนี่แหละ #เหนือเข่ายังมีกางเกง เหนือนักเลงยังมี 'เมีย' ถึงรูปร่างหน้าตามันจะโหด แต่ลึกๆในใจมันอ่อนโยนมาก คบมาเป็นเดือน นิ้วก้อยมันยังไม่กล้าแตะเลย และถึงปากมันจะร้าย แต่มันก็จริงใจ "เฮ้ย!!!มึงอ่ะ คบกับกูไหม" THIRD (เติ๊ด) หนุ่มลูกครึ่งที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ โหด โฉด เถื่อนกับทุกคนยกเว้นแฟน งานหลักเป็นเกมส์เมอร์ งานอดิเรกเป็นช่างสัก #ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องเกรงใจ 'เมีย เรื่องนี้ เอาจริงๆคือตลกแบบห่ามๆ555 พระเอกเราแบบโฉกฉกรรจ์มากๆ เป็นนายเอกนี่กลัวแทน จีบนายเอกหยังกะจะมาหาเรื่อง แต่จริงๆเป็นเรื่องแบบน่ารักๆ ไม่ค่อยมีพระเอกคาเรกเตอร์แบบนี้สักเท่าไร ไปอ่านนกันเล้ยย Young Insusceptible ★ สามสิบ :: สามีผมหึงโหดครับ ^^ ดิน วันนี้ผมสอบวิชาสุดท้ายแล้วดินกำลังจะเป็นไทยรอลุ้นผลตอนเกรดออกว่าจะดีแค่ไหน? แต่อย่างน้อยขออย่าตกก็พอครับผม! ^๐^ บ่ายนี้ไอ้ธามไม่ว่าง…ผมเลยต้องขับรถมาเองมันอนุญาตด้วยอะครับสงสัยจะผีเข้าแฮะ -_-‘ อีกอย่างผมก็มีสอบบ่ายสามเลิกก็เย็นติดมืดพอดี “ดินทำไมวันนี้ขับรถมาเองละ” คำถามแรกเมื่อยูเจอหน้าผมสงสัยจะคิดว่าผมกับไอ้ธามทะเลาะกันอีกแน่นอน อิอิ ^^ “ไอ้ธามมันไม่ว่างนะยูละ? ไอ้พี่แพทมาส่งเหรอ” ยูทำสีหน้าหายสงสัยก่อนจะส่ายหัวเป็นคำตอบให้ผม “อ้าว! ส่ายหัวทำไม” “พี่แพทมีงานเหมือนกันยูเลยให้คนที่บ้านมาส่งนะ” ผมพยักหน้าก่อนจะชวนยูขึ้นไปด้านบนเพราะนี่ก็ใกล้ได้เวลาสอบแล้ววันนี้สอบวิชาเดียวและก็วิชาสุดท้ายหลังจากนั้นก็จะคิดโปรแกรมเที่ยวไว้ให้ไอ้ธามพาไปคิดแล้วชีวิตแจ่มใสใจพร้อมจะสอบเต็มกำลังแล้วเนี่ย สอบเสร็จ จ๋อย!!! ทำไมวิชานี้ยากคูณล้านล้านแบบนี้ละแล้วผมจะผ่านไหมเนี่ย? แต่ยังดีที่ไอ้ธามมันติวให้บ้างผมเลยทำได้แต่ก็ไม่เท่าที่ควรแต่ช่างเหอะอย่าไปคิดให้ปวดหัวชวนยูไปหาอะไรกินก่อนกลับบ้านดีกว่านี่ก็ใกล้จะมืดแล้วด้วย สอบเอาโล่!!! “ยูสอบเสร็จแล้วไปหาอะไรกินกันเดี๋ยวดินไปส่งบ้านเอง” ว่าพลางลากยูไปที่รถไม่ต้องตอบหรอกถ้ายูไม่ตกลงผมก็ลากไปอยู่ดี ห้าง ลากมาได้ที่เดียวนี่แหละพอมาถึงก็ชวนยูขึ้นไปหาอะไรกินทันที…วันนี้จะฟาดให้หนำใจเลยคอยดูสิทั้งเคเอฟซี ซเว่นเซ่น เอ็มเค บลาๆ ถ้าผมกินไหว “ดินตกลงจะกินอะไรเนี่ย” ยูถามขึ้นหลังจากที่ผมพาเดินวนไปเวียนมาแหวกผู้คนอยู่นานก็เลือกไม่ได้สักที “ไอ้ที่อยากกินคนมันเยอะนี่อีกอย่างดินไม่อยากรอ” ทำหน้าแบกโลกทั้งใบให้ยูเห็นหิวจะบ้าอยู่แล้วทำไมวันนี้คนมันเยอะนักนะ “วันโลกแตกหรือยังไงเนี่ยคนเยอะซิบ” “เราไปหากินข้างนอกดีไหมยูชักจะหิวแล้วสิ” ผมหันไปมองก็เห็นว่ายูทำหน้าบู่มือข้างหนึ่งก็ลูบท้องตัวเองไปมาเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ “ดินขำอะไรเนี่ยคนมองแล้วนะ” ยูหันซ้ายหันขวามองคนที่เดินผ่านไปมามองพวกเราสองคน “ก็ท่าทางยูมันน่าขำนี่ดูสิยังกับเด็ก” ผมหยิกแก้มยูไปมาจนแก้มขาวๆ ช้ำไปหมดท่าทางของยูก็เขินจนผมดูออก “พอแล้วๆ คนมองไปหากินที่อื่นเถอะ” ยูปัดมือผมออกก่อนจะรีบลากลงไปข้างล่างที่ยูบอกมันก็ถูกเพราะผมเพิ่งสังเกตว่าพวกเราสองคนเป็นเป้าสายตาอยู่ ถูกลากมาถึงชั้นล่างหันไปมองอะไรเรื่อยเปื่อย...สายตาก็ไปเจอเข้ากับใครบ้างคน? “ยูเดี๋ยว” รีบรั้งมือของยูให้หยุดเดินก่อนจะลากไปที่ที่มีใครบ้างคนอยู่ “นั่นมันพวกพี่ธามนี่ดิน” ยูชี้เข้าไปในร้านผมไม่ได้ตอบอะไรแต่ก็เห็นว่าเป็นมันจริงๆ แถมยังมีไอ้พี่แพทไอ้พี่ธันแต่อีกสองคนนี่สิที่ผมเห็นไม่ถนัดนัก “แล้วอีกสองคนนั่นใครเหรอ?” “ดินก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครแต่ถ้าเราเข้าไปแบบนี้มีหวังได้โดนดุแน่ๆ เพราะดินบอกกับมันไปว่าสอบเสร็จจะรีบกลับบ้าน” “แล้วเราจะเอาไง?” “ไปผับมันกัน...” คิดไอเดียดีๆ ได้แล้วถ้ารอให้มันกลับบ้านเองคงอีกนานไอ้ที่บอกว่างานสำคัญแต่เช้าที่แท้ก็มารวมหัวกันอยู่ที่ห้าง “เพื่อ?” ยูถามทำหน้าสงสัย “เรียกร้องความสนใจอยากโกหกดีนักแบบนี้ต้องยั่วให้โมโหซะให้เข็ด” “โห่! เดี๋ยวยูก็โดนพี่แพทกักบริเวณอีกหรอกครั้งนั้นโดนไปหลายวัน” ยูเกาหัวแกรงๆ ทำสีหน้าบอกบุญไม่รับเลยทีเดียว “อย่าไปกลัวเพราะเราโดนกดขี่มานานต่อไปขอเป็นผู้นำบ้าง?” หันไปส่งยิ้มให้แล้วรอฟังคำตอบ “ว่าไง” “ไปก็ไป…แต่ขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ” ถ้าไปเปลี่ยนชุดผมกลัวว่ายูจะไม่ได้ออกมาอีกเพราะงั้นก็.. “ซื้อชุดใหม่เดี๋ยวดินจ่ายเองไอ้ธามมันให้บัตรไว้” ^_^ มีสามีรวยก็งี้แหละรูดปืดๆ ฮาๆๆๆ หลังจากที่พวกเราสองคนแปลงโฉมกันเสร็จเรียบร้อยผมก็เป็นคนจ่ายตังค์ ยื่นบัตรไปให้พนักงานก็ได้รับคำชมที่สุดจะสยิวกิ้วกลับมา “น้องสองคนน่ารักมากเลยนะค่ะถ้าไม่บอกพี่นึกว่าเป็นผู้หญิงซะอีก T[]T” ฮึย!!! “นึกถึงคำชมของพี่คนนั้นแล้วสยิวยังไงก็ไม่รู้อะยู” ผมทำสีหน้าบู่สั่นไปมาคล้ายๆ กับไข้จับสั่นยังไงก็ไม่รู้ “ยูก็ด้วย” “ว่าแต่โทรตามไอ้หนึ่งกับมานะหรือยัง” เมื่อเดินกลับมาที่รถผมก็ถามยูถ้าไปสองคนมันก็ไม่สนุกเพราะฉะนั้นต้องมีเพิ่ม “โทรแล้วยูบอกให้ไปเจอที่ผับ” ยูพูดจบเราสองคนก็ขึ้นไปนั่งบนรถกันพอดีวันนี้ผมกะทำให้ไอ้ธามมันกระอักเลือดตายไปซะเลย อยากโกหกดีนักบอกว่ามีนัดกับพวกพี่ๆ กูก็จะไม่ว่าอะไรสักคำนี่บอกว่าไม่ว่างมีงานด่วน สลัด!!! “งั้นไปกันนี่ก็ใกล้ได้เวลาผับเปิดพอดี” พูดจบก็ขับรถออกมาใส่ใจแค้นมากที่โดนหลอกแม้จะไม่ร้ายแรงอะไรมากแต่ผมก็เจ็บใจ T!_!T ในที่สุดก็มาถึงใจเต้นตุบตับไปหมดกลัวว่าพอเจอหน้ามันแล้วจะรับมือไม่ไหว…ยิ่งกลัวใจตัวเองอยู่ด้วย บ้าจริง!!! “ดิน…” ยูรั้งแขนผมเอาใจมือสั่นเชียว “ห้ามเปลี่ยนใจนะ” หันไปมองหน้ายูก่อนจะลากให้เข้าไปด้านในก้าวแรกที่ผ่านพ้นประตูเข้ามาหัวใจก็เต้นไปพร้อมๆ กับเสียงต้นตรีที่ดังกระหึ่มส่วนสายตาก็จับจ้องหาไอ้พวกเพื่อนๆ ที่ยูโทรนัดไป “เฮ้ย! ดิน ยู ทางนี้...” เสียงไอ้มานะดังขึ้นมาแข่งกับเสียงเพลงไอ้ที่ทำให้ผมรับรู้ได้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหนคงจะเป็นมือที่โบกไปมานั่นแหละ “พวกมันอยู่นั่น” “อืม” ผมสัมผัสได้ทันทีเลยว่าตอนนี้ยูกำลังสั่นสู้ผมก็ด้วยแต่มาถึงขั้นนี้แล้วจะถอยคงไม่ได้ “ทำไมพวกมึงสองคนมาช้าจังวะ” ไอ้หนึ่งทักขึ้นเมื่อเห็นหน้าผมไอ้สองคนนี้มันเป็นเพื่อนที่มหาลัยของผมครับไม่ค่อยได้ออกมาโชว์ตัวนักแต่รับรองว่าสนิทไม่ได้มีเท่านี้แต่ถ้าพามาเยอะเดี๋ยวจะไม่เนียน “รอนิดรอหน่อยทำบ่นแล้วนี่สั่งเครื่องดื่มไปรึยัง” “สั่งแล้วแต่ของมึงกับยูน้ำเปล่านะ...” ผมแทบอยากจะกระโดดถีบยอดหน้าไอ้หนึ่งสั่งน้ำเปล่าให้ทำยังกับกูเป็นเด็ก “สาสกูไม่ใช่เด็กนะโว้ย” “อย่าทำปากเก่งไอ้ดินมึงคอไม่แข็งกูสองคนขี้เกียจแบกไปส่งบ้าน” ไอ้มานะมันด่าผมทำสีหน้าแบบจริงจังมากๆ แต่ที่กูมาเนี่ยเพราะอยากดื่มนะโว้ย “วันนี้กูอยากฉลองสอบเสร็จถ้ากูเมาพวกมึงก็ต้องไปส่ง...” พูดอย่างมีชัยเพราะไอ้สองคนนี้ไม่เคยเถียงผมชนะหรอกเหลือก็แต่ยู “แล้วยูละตกลงว่าไง” “แล้วแต่ยูได้ทั้งนั้น” หือ!!! ตอบแบบนี้แสดงว่าโอเค “ยู!!!!!!!!” ทั้งไอ้หนึ่งและไอ้มานะเรียกชื่อยูขึ้นมาพร้อมกันแทบต้องแหกปากคุยกันก็ว่าได้เพราะเสียงเพลงมันดังมากครับแถมตอนนี้คนก็เริ่มเยอะแล้วด้วย “แค่วันเดียว” ยิ้มโปรยเสน่ห์จนไอ้สองคนนี่ต้องทำหน้าเซ็งยอมทำตามและแล้วเครื่องดื่มที่ถูกไอ้หนึ่งสั่งไปใหม่ก็มาเสิร์ฟไม่เมาให้มันรู้ไปครับ “อ้าว! น้องดิน น้องยู” ผมไม่ทันได้สั่งเกตว่าคนเสิร์ฟคือใครแต่พอถูกเรียกชื่อเท่านั้นแหละผมถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นผู้ดูแลผับคนใหม่ที่ไอ้ธามมันรับเอาไว้ “สวัสดีครับ” ทักทายตามมารยาทไอ้สองคนตรงหน้าผมก็มองสาวเจ้าด้วยสายตาหื่นกามมากครับ “เจ้านายละค่ะ” เจ้านายในความหมายของพี่แกคงหมายถึงไอ้ธามละมั้ง “ไม่ทราบครับ” “ถ้างั้นเชิญตามสบายนะพี่ไม่กวนละ” ผมยิ้มเป็นคำตอบพี่แกเลยเดินออกไปทั้งสวยทั้งเซ็กซี่รอดพ้นน้ำมือไอ้ธามมาได้ไงแล้วจะคิดให้ตัวเองเครียดไปเพื่ออะไร หยิบเครื่องดื่มมากระดกให้หายเครียดแถมตอนนี้ก่อนจะออกไปเต้นแถมตอนนี้ก็… มึนครับ! ดิ้นไปดิ้นมาอยู่บริเวณของตัวเองแต่ทำไมเต้นไปเรื่อยๆ ถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังดิ้นอยู่บนฟอร์ยังไงก็ไม่รู้แต่ช่างเถอะตอนนี้ผมรู้แค่ว่ามันส์มากครับ 555555555555 พรึบ!!! รู้สึกเหมือนมีข้างหนึ่งของผมจะถูกใครบ้างคนดึงเอาไว้เลยแฮะหลีตาไปมองก็เห็นว่าคนที่กำลังลากผมลงจากฟอร์ก็คือไอ้หนึ่ง “ทำอะไรของเมิงกูจาเต้น…จาเต้น” “เต้นบ้านมึงสิห่าเมาขนาดนี้กลับบ้านได้แล้ว” ไอ้หนึ่งตะโกนด่าผมแข่งกับเสียงเพลงแต่สมองมันประมวลผลอะไรไม่ค่อยได้เลย “ปล่อยกูดิสัส กูจา...” หมับ!!! จู่ๆ ไอ้หนึ่งมันก็ดึงผมเข้าไปกอดซะแน่นเหมือนร่างจะพังเป็นบ้าอะไรของมันวะเนี่ยดีนะที่คนเยอะและไม่ค่อยมีใครได้สังเกตกัน -_-‘ “กอดกูทามมาย” เสียงผมไม่ไหวจะเคลียร์ฟังก็รู้ว่าเมาเกินบรรยายส่วนยูนะเหรอล้มพับไปตั้งแต่แก้วแรกแล้วละครับ “กูอยากกอด” “ฮาๆๆ งั้นก็ต้องเต้นด้วยเพราะกูอยากเต้น” ยิ้มอย่างมีความสุขดึงไอ้หนึ่งเข้ามาใกล้ก่อนจะจับมือทั้งสองข้างของมันเอาไว้เต้นไปเต้นมา...สำหรับผมมันคือเพื่อนที่ดีที่สุดและไม่อยากคิดไปไกลว่าที่มันกอดผมนั้นเพราะอะไรแต่ยังไงซะผมกับมันก็ไม่มีวันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้หรอกครับ ผัวะ!!! ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียงที่ดังสนั่นตอนนี้นะใครเป็นคนก่อมันขึ้นแต่ที่แน่ๆ คนที่ยืนเต้นอยู่ข้างๆ ผมกลับล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น เวรกรรม…ไอ้หนึ่งมันโดนใครต่อยวะเนี่ย? “ร่านได้ใจกูมาก!!!!!!!” น้ำเสียงกดต่ำฟังยังไงก็ดูน่ากลัวผมแทบไม่อยากหันสายตาของตัวเองไปมองมันเลย…แถมตอนนี้เสียงเพลงก็สงบลงเพราะเจ้าของผับมันกำลังสร้างเรื่องอยู่คนอื่นๆ เลยถูกทยอยให้ออกไ ผมแอบเห็นไอ้พี่แพทอุ้มยูออกไปแล้ว “ไอ้ธามกูว่าใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า” เสียงไอ้พี่ธันดังขึ้น “คาตาขนาดนี้ต้องฟังอีกเหร กูอยากจะฆ่ามึงให้ตายนัก” พูดไม่ทันขาดคำไอ้ธามก็พุ่งทะยานเข้าไปหาไอ้หนึ่งดีนะที่ไอ้พี่ธันกับไอ้พี่ไฟรีบดึงเอาไว้ซะก่อน ส่วนผมก็เร็วเกินคาดรีบเข้าไปนั่งกันท่าเอาไว้ไม่งั้นไอ้หนึ่งได้ตายคามือไอ้โหดนี่แน่ๆ “เฮ้ย! ไอ้ธามมึงอย่าแม้แต่จะคิดอาละวาดเพราะพวกกูสองคนคงห้ามไม่ไหว” เสียงไอ้พี่ไฟดังขึ้นมา ผมก็เห็นด้วยเพราะเวลามันโกรธช้างม้าวัวควายก็ฉุดไม่อยู่ T[]T มึน!! แถมตอนนี้ยังต้องมายืนมึนฟังพวกมันทะเลาะกันก็แค่ไอ้หนึ่งมันกอดผมแล้วเต้นไปด้วยมันจะอะไรนักหนาวะเนี่ย “ปล่อยกูนะโว้ย” เสียงไอ้ธามเอะอะโวยวายไม่เลิก “โอ๊ย!! พอแล้วจะทะเลาะกันทำไมนักหนากูนี่สิเวียนหัวจะอ้วกแล้ว… อื้อ#@^%$&%(“ ส่ายหัวไปมาสมเพชสภาพตัวเองมากๆ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ นะครับพี่น้องใครก็ได้พาผมกลับบ้านไปพักผ่อนที่ ไอ้พวกที่กำลังทะเลาะกันอยู่เมื่อกี้ก็หันมามองผมกันเป็นตาเดียวเลยครับก็ผมมึนจริงๆ นี่ Y[]Y “ไอ้ธามพากลับบ้านหน่อยดิ” เดินเข้าไปหามันทั้งๆ ที่รู้ว่ามันโกรธผมอยู่ทำเนียนไปก่อนละกันเพราะตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วครับ “ว่าไงนะ” มันขึ้นเสียงสูงถ้าให้ผมเดาสีหน้ามันตอนนี้แทบอยากจะฆ่าผมให้ตายเลยก็ว่าได้ อิอิ ^^ “กลับบ้านจะกลับไหมเนี่ย?” ทำงอแงกลบเกลื่อนไปงั้นแหละเพราะผมรู้ว่าตอนนี้มันก็ไม่กล้าอาละวาดไปมากกว่านี้ “เจอเมียอ้อนเข้านิดเดียวพายุหายหมด…โธ่! ไอ้ธามหมดลายเลยนะมึง” ผมแอบได้ยินไอ้พวกพี่ๆ มันบ่นอะแต่ช่างเถอะเอาไว้ค่อยเคลียร์ “หุบปากไปซะไอ้ไฟอย่าให้ถึงตามึงบ้างก็แล้วกันสัส” ตอนนี้ผมถูกสามมีที่รักลากออกมาจากผับเป็นที่เรียบร้อย มันโยนผมเข้าไปในรถยังกับว่าไม่ใช่คนแต่เป็นกระสอบทราย โถๆ เจ็บก้นไปหมดเลย T[]T “กลับถึงบ้านเมื่อไหร่กูจะจัดการให้หายร่านเลยคอยดู…มันน่านัก ฮึย!!!” ไอ้ธามทั้งด่าทั้งสบถมั่วไปหมดผมมึนจนไม่อยากรับรู้แต่ที่แน่ๆ ตื่นมาตอนเช้าหูคงชา แพท เมื่อฟังคำพูดจากไอ้ธามเรื่องที่ไอ้เด็กดื้อทั้งสองแอบไปผับแทนที่จะกลับบ้าน...ความโกรธ หึง หวง เป็นห่วงก็แล่นเข้ามาแต่พอมาเจอยูนอนหลับสนิทอยู่ตรงโซฟาเท่านั้นแหละทุกอย่างในสมองก็หายไปหมด เฮ้อ!!! เจอแบบนี้โกรธไม่ลงหรอกครับ “มึงพายูกลับบ้านไปก่อนเดี๋ยวกูจะไปลากเมียแรดกลับบ้าน” ไอ้ธามว่าน้ำเสียงของมันโกรธเด็กดื้อมากๆ ผมเลยพยักหน้าก่อนจะอุ้มยูไปที่รถถ้าจะให้พาไปส่งบ้านทั้งสภาพอย่างนี้คงไม่ไหวเพราะฉะนั้นพากลับบ้านผมก่อนก็แล้วกันค่อยโทรไปบอกที่บ้านน้องมันเอา “อื้อ…พี่แพท” เด็กน้อยละเมอออกมาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ผมเองก็นึกขำไม่ได้ยูกินเหล้าไม่เก่งแต่ก็ชอบทำตัวเหมือนว่าโอเคทุกครั้งที่กินแบบนี้ไงผมถึงห้ามอยู่บ่อยๆ “พี่แพทขี้โกง...” ขี้โกงงั้นเหรอ? ผมไปทำแบบนั้นตอนไหนท่าทางแบบนี้กลับถึงบ้านถ้ายูรู้สึกตัวคงคุยกันยาวแน่ๆ ว่าแล้วก็รีบเร่งความเร็วรถไม่นานนักผมก็พาเด็กน้อยมาถึงบ้านตอนนี้ก็ดึกมากแล้วรีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นไปบนห้อง พอมาถึงก็วางร่างเล็กผม...ก่อนจะไปหาผ้าชุบน้ำหมาดๆ มาเช็ดตัวยู “หนาว…” ผ้าชุบน้ำหมาดๆ แตะลงที่ตัวเท่านั้น เด็กน้อยก็ครางออกมาค่อยๆ กระพริบตาถี่ๆ มองหน้าผม “พะ...พี่แพท” เสียงเอ่ยยานๆ ของยูทำให้ผมรู้ว่ายังไม่สร่างเมาดีนัก “ครับพี่เอง” “เอ่อ…ยู” “เช็ดตัวก่อนนะครับแล้วค่อยคุยกัน” น้ำเสียงอ่อนโยนของผมทำให้ยูผ่อนคลายสีหน้าตึงเครียดลง เด็กน้อยพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นนั่งผมเลยรีบเช็ดตัวให้พอเสร็จก็เอาไปเก็บก่อนจะเดินกลับมานั่งข้างๆ “ไหนเล่าให้พี่ฟังสิว่าทำไมต้องขัดคำสั่ง...แล้วพี่ไปขี้โกงยูตอนไหน” “ก็ตอนสอบเสร็จดินชวนยูไปหาอะไรกินที่ห้าง…เดินวนไปเวียนมาก็ไปเจอพวกพี่ๆ เข้า...ดินเลยโกรธพี่ธามมากแถมพี่แพทเองก็บอกยูว่าติดธุระด้วยไม่ใช่หรือไง” แบบนี้สินะเด็กดื้อสองคนนี้ถึงอยากขัดคำสั่งไปเที่ยวผับกัน “ดินก็เลยชวนยูไปที่ผับแต่ยูดื่มไปแค่นิดเดียวเองนะพี่แพท” ยูทำหน้างอใส่ผมคงรู้ว่าจะถูกโกรธ “พี่รู้แล้วไม่งั้นเราคงไม่หลับคาที่แบบนั้นหรอกแต่เรื่องที่พี่ต้องโกหก…พี่จำเป็นจริงๆ นะครับ” ผมบอกยูเองก็พยักหน้า “ยูเข้าใจครับแต่ว่าดินกับพี่ธาม” “ไอ้ธามมันไม่ทำอะไรเด็กดื้อหรอกนะครับเอาเป็นว่าเรื่องวันนี้พี่จะไถ่โทษละกัน...” ผมยิ้มยูย่นคิ้วสงสัยท่าทางน่ารักจนผมอดใจไม่ไหวอีกแล้ว “ยังไงครับ” “พรุ่งนี้พี่จะพาเราไปเที่ยว...แต่คืนนี้ต้องทำโทษอย่างอื่นก่อน” “พี่แพท…เดี๋ยวสิครับ…อ๊ะ!!!” ไม่ปล่อยให้ยูได้พูดมากผมก็ฉวยโอกาสจูบปากเล็กอย่างช้าๆ และค่อยเป็นค่อยไปมาถึงขั้นนี้แล้วอดใจไม่ไหวหรอกครับเอาไว้พรุ่งนี้ตื่นกันกี่โมงก็ไปเที่ยวกันตอนนั้นละกันแต่คืนนี้ขอกินขนมหวานแสนอร่อยก่อนละกัน บ๊าย บาย >///////< เสร็จแน่เด็กน้อย/// |