ประเด็นสำคัญ ในยุคก่อนนั้นค่านิยมยิ่งทำงานหนักยิ่งดี ทำให้ทุกคนทุ่มเทกับการทำงานแบบไม่คิดชีวิต ไม่รู้วันรู้เวลา เพื่อทำทุกอย่างให้กับองค์กรอย่างไม่ลืมหูลืมตา นั่นทำให้คนคนนั้นประสบความสำเร็จในงานก็จริง แต่ท้ายที่สุดแล้วชีวิตส่วนตัวกลับล้มเหลวและสูญหายไป ซ้ำยังสุขภาพย่ำแย่แบบที่ไม่มีใครมาดูแลแทนคุณได้ ยุคนี้จึงเริ่มมีการปรับตัวเพื่อสร้างสมดุลให้กับชีวิตกันใหม่ด้วยแนวคิด Work Life Balance ที่ทุกคนควรจะชั่งน้ำหนักแบ่งเวลาให้ดีระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้เกิดความสมดุลให้มากที่สุด 8 : 8 : 8 8 ชั่วโมง > สำหรับการการทำงาน 8 ชั่วโมง > สำหรับการการผ่อนคลาย-สันทนาการ 8 ชั่วโมง > สำหรับการนอนหลับ-พักผ่อน ใน 1 วัน คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่จะทำอย่างไรให้บริหารเวลาได้คุ้มค่าที่สุด … สูตร 8 : 8 : 8 นี้ คือสูตรสร้างสมดุลให้กับชีวิตที่มีการแบ่งเวลาได้ดีและเหมาะสมที่สุดเลยก็ว่าได้ เป็นการบริหารจัดการชีวิตที่มีประสิทธิภาพทีเดียว แต่ใครจะคาดคิดว่าสูตรยอดนิยมนี้จะเป็นสูตรคลาสสิกอมตะที่เกิดขึ้นมานานนับร้อยปีแล้ว ซึ่งแนวคิดการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวันนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยปี ค.ศ.1810 โดยผู้ที่คิดค้นหลักการนี้ขึ้นมาก็คือ โรเบิร์ต โอเวน (Robert Owen) นักเศรษฐศาสตร์และนักปฏิรูปทางสังคมชาวอังกฤษ โดยเขาได้ตั้งสโลแกนในการดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพไว้ว่า “Eight hours labour, Eight hours recreation, Eight hours rest – ทำงาน 8 ชั่วโมง, สันทนาการ 8 ชั่วโมง, พักผ่อน 8 ชั่วโมง” ซึ่งมันกลายมาเป็นมาตรฐานของการสร้างสมดุลให้กับชีวิตตลอดจนการแบ่งเวลาในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดมาจนถึงปัจจุบัน 20 เคล็ดลับกับการสร้างสมดุลให้ชีวิตและการทำงานการสร้างสมดุลให้กับชีวิตและการทำงานนั้นไม่เพียงแค่มีประโยชน์ต่อองค์กรเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อตัวบุคลากรเองด้วย ทั้งในด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ ซึ่งเมื่อพนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็ย่อมส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพได้มากขึ้นเช่นกัน และผลดีก็จะเกิดขึ้นกับองค์กรในที่สุด เราลองมาดูเคล็ดลับในการสร้างสมดุลให้กับชีวิตและการทำงานทั้งในมุมของพนักงาน และมุมขององค์กร ที่จะร่วมสร้างแนวคิด Work Life Balance ที่ดีให้เกิดขึ้นกับองค์กรได้อย่างไร เคล็ดลับสำหรับพนักงาน
เคล็ดลับสำหรับองค์กร
Coffee & Meeting เทรนด์ที่กำลังมาแรงในยุคนี้ก็คือการประชุมนอกสถานที่ตามร้านกาแฟ แต่เป็นการประชุมแบบจริงๆ จังๆ ที่มีสถานที่และอุปกรณ์พร้อมรองรับการปะชุม แน่นอนว่าผู้นำ ผู้สร้างเทรนด์ และเจ้าตลาดด้านนี้ก็คือ Starbucks นั่นเอง โดยหลายสาขา (โดยเฉพาะสาขาใหญ่ๆ) จะมีบริการโซนห้องประชุมไว้ให้ใช้บริการฟรีด้วย (ไม่เสียค่าเช่าห้องประชุม แต่มีการกำหนดจำนวนคนขั้นต่ำ และทุกคนจะต้องซื้อกาแฟ+อาหารของทางร้าน) ห้องประชุมนี้จะแบ่งเป็นสัดเป็นส่วน เป็นห้องส่วนตัวมีประตูเข้าออก ใช้เสียงได้เต็มที่ โดยสามารถลงจองเวลาไว้ล่วงหน้ากับพนักงานได้ ภายในห้องจะมีโต๊ะประชุมยาว มีทีวี กระดานเขียน ปากกาเขียนกระดาน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แล้วแต่มีบริการในแต่ละสาขา ไว้รองรับการประชุมนอกสถานที่นี้อย่างสะดวกสบายด้วย ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่ไม่ใช่เฉพาะบริษัทเล็กๆ ของคนรุ่นใหม่นิยมเท่านั้น แต่บริษัทใหญ่ๆ ก็นิยมการประชุมในรูปแบบนี้เพิ่มมากขึ้นด้วย
ความสมดุลสร้างศักยภาพให้องค์กรได้มากกว่าที่คุณคิดทำงานหนักหน่วงทำให้องค์กรมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ก็จริง แต่ระยะยาวแล้วศักยภาพจะลดลงตามประสิทธิภาพของร่างกายและจิตใจที่ย่ำแย่ลง หากสร้างสมดุลให้กับชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้อย่างลงตัวแล้วนั้น นั่นคือวินัยในการทำงานที่ยอดเยี่ยม
บทสรุปร่างกายมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร ดังนั้นควรมีการหยุดพัก บำรุงตัวเอง ทำงานอย่างพอเหมาะเพื่อป้องกันความเสื่อมของร่างกาย และรักษาให้มีคุณภาพเพื่อการทำงานในระยะยาวได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ การสร้างสมดุลในการทำงานและชีวิตส่วนตัวแบบ Work Life Balance นั้นเป็นสิ่งที่บุคลากรและองค์กรควรให้ความสำคัญทีเดียว เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้ชีวิตสมดุล ประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงาน การดูแลครอบครัว สุขภาพร่างกายดี สุขภาพจิตใจยอดเยี่ยม เมื่อทุกอย่างดีแล้วก็จะทำให้ขีวิตมีความมสุข ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ยิ่งขึ้น และมีพนักงานที่มีคุณภาพช่วยสร้างศักยภาพให้กับองค์กรได้ในระยะยาวอีกด้วยSupports Corporate Growth by PEOPLE สนับสนุนการเติบโตขององค์กรผ่านผู้คน เพราะเราเชื่อว่าคนคือหัวใจหลักขององค์กร นำเสนอคอนเทนต์คุณภาพเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล เทคโนโลยี HR และกรณีศึกษาที่น่าสนใจจากองค์กรชั้นนำ |