1.เหตุใดสารละลายกรด HCl เข้มข้น 0.2 M จึงทำปฏิกิริยากับสารละลาย Na2S2O3 เร็วกว่าสารละลายกรด HCl เข้มข้น 0.1 M Show เพราะสารละลายกรด HCl เข้มข้น 0.2 M มีความเข้มข้นมากกว่าจึงทำปฏิกิริยากับสารละลาย Na2S2O3 เร็วกว่าสารละลายกรด HCl เข้มข้น 0.1M 2. ปฏิกิริยาเกิดขึ้นดังสมการ A+2B → C ได้ผลดังข้อมูล
ก. อัตราการเกิดของ C สัมพันธ์กับความเข้มข้นของ A และ B อย่างไร จากการทดลองที่ 1 และ 2 [B] คงที่ แต่[A] เพิ่ม 2 เท่า อัตราการเกิดของ C เท่าเดิม แสดงว่า [A] ไม่มีผลต่อ อัตราการเกิดของ C จากการทดลองที่ 1 และ 3[A] คงที่ แต่ [B]เพิ่ม 2 เท่า อัตราการเกิดของ C เพิ่มขึ้น 2 เท่าด้วย แสดงว่า [B] มีผลต่อ อัตราการเกิดของ C ข. ในการทดลองที่ 1 ถ้าลดความเข้มข้นของสารตั้งต้นให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งจะมีผลต่ออัตราการเกิดของ C อย่างไร
3.ปฏิกิริยาต่อไปนี้ ปฏิกิริยาใดที่พื้นที่ผิวของสารมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี เพราะเหตุใด 3.1 3 Fe2+ (aq) + NO3– (aq) + 4 H+ (aq) → 3 Fe3+ (aq) + 2 H2O (l) + NO (g) 3.2 Zn (s) + 2 H+ (aq) + 2 Cl– (aq) → ZnCl2 (aq) + 2 H2 (g) ปฏิกิริยาที่พื้นที่ผิวของสารมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีคือ ปฏิกิริยาที่ 2 เพราะเป็นปฏิกิริยาเนื้อผสม สังเกตจากสถานะของสารต่างกัน มีทั้งของแข็งและสารละลายและเนื้อสารไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกัน พื้นที่ผิวจะมีผลต่อปฏิกิริยาเนื้อผสมเท่านั้น 4.ปฏิกิริยา Mg (s) + 2 HCl (aq) → MgCl2 (aq) + H2 (g) จงเปรียบเทียบอัตราของปฏิกิริยาต่อไปนี้ 4.1 ถ้าใช้โลหะแมกนีเซียม 10 กรัม กับ 20 กรัม จงเปรียบเทียบอัตราของปฏิกิริยา ตอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเหมือนเดิมคือ คงที่ เพราะ การใช้โลหะแมกนีเซียม 10 กรัม กับใช้ 20 กรัม ไม่ได้เป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวของแมกนีเซียม เพียงแต่เป็นการเพิ่มปริมาณ จะทำให้ได้สารผลิตภัณฑ์มากขึ้น แต่อัตราการเกิดปฏิกิริยาเท่าเดิม 4.2 ถ้าใช้สารละลายกรดไฮโดรคลอริก 0.1โมล/ลิตร จำนวน 20 cm3 กับใช้สารละลายกรดไฮโดรคลอริก 0.1 โมล/ลิตร จำนวน 30 cm3จงเปรียบเทียบอัตราของปฏิกิริยา ตอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเหมือนเดิมคือ คงที่ เพราะสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 0.1 โมล/ลิตรเท่ากัน ถึงจะใช้ปริมาตรต่างกัน แต่ความเข้มข้นเท่ากัน ดังนั้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาจึงเท่าเดิม 4.3 ถ้าเปลี่ยนความเข้มข้นของสารละลายกรดไฮโดรคลอริกจาก 0.1โมล/ลิตร เป็น 0.5 โมล/ลิตร ตอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความเข้มข้นของสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเพิ่มขึ้นจาก 0.1 โมล/ลิตร เป็น 0.5 โมล/ลิตร 5.ปฏิกิริยาต่อไปนี้ มีอัตราการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเทียบกับอัตราของปฏิกิริยาเดิม 5.1.CaCO3 (s) → CaO (s) + CO2 (g) เมื่อเพิ่ม CaCO3 เข้าไปอีก 10 กรัม ตอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเหมือนเดิมคือ คงที่ เพราะ เมื่อเพิ่ม CaCO3 เข้าไปอีก 10 กรัม ไม่ได้เป็นการเพิ่มพื้นที่ผิวของ CaCO3 เพียงแต่เป็นการเพิ่มปริมาณ จะทำให้ได้สารผลิตภัณฑ์มากขึ้น แต่อัตราการเกิดปฏิกิริยาเท่าเดิม 5.2. HCl (aq) + NaOH (aq) → NaCl (aq) + H2O (l) 5.2.1 ใช้ สารละลาย HCl 0.1 โมล/ลิตร จำนวน 20 cm3 กับใช้สารละลาย HCl 0.1 โมล/ลิตร จำนวน 10 cm3 ตอบ อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเหมือนเดิมคือ คงที่ เพราะสารละลายกรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น 0.1 โมล/ลิตร เท่ากัน ถึงจะใช้ปริมาตรต่างกัน แต่ความเข้มข้นเท่ากัน ดังนั้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาจึงเท่าเดิม 5.2.2ใช้ สารละลาย NaOH 0.5 โมล/ลิตร จำนวน 20 cm3 กับใช้สารละลาย NaOH 0.5 โมล/ลิตรจำนวนเดิมแต่เติมน้ำลงไปอีกจำนวน 10 cm3
6.เมื่อเผาโลหะ A ในอากาศจะลุกไหม้อย่างรวดเร็วได้ออกไซด์ของโลหะ A แต่เมื่อวางโลหะ A ไว้ในอากาศ จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนอย่างช้า ๆ เป็นเพราะเหตุใด ตอบ เพราะปฏิกิริยาเดียวกันแต่เกิดปฏิกิริยาได้แตกต่างกันเนื่องจากมีอุณหภูมิต่างกัน การวางไว้ในอุณหภูมิห้องจะเกิดปฏิกิริยาได้ช้า แต่การเผาเป็นการเพิ่มอุณหภูมิปฏิกิริยาจึงเกิดได้อย่างรวดเร็ว 7.เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นอัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นด้วยเพราะเหตุผลข้อใด ตอบ เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นจะทำให้จำนวนโมเลกุลของแก๊สที่มีพลังงานจลน์สูงพอที่จะทำให้การชนกันนั้นได้พลังงานสูงเท่ากับหรือมากกว่าพลังงานก่อกัมมันต์เพิ่มมากขึ้น เมื่อจำนวนโมเลกุลที่มีพลังงานมากพอมีจำนวนมากขึ้น การชนกันของโมเลกุลที่เป็นผลสำเร็จก็มีมากขึ้นหรืออัตราการเกิดปฏิกิริยาสูงขึ้นนั่นเอง 8. เมื่อเผาผงเหล็กกับแก๊สออกซิเจนจะเกิดการลุกไหม้ทันที แต่ถ้าเผาตะปูเหล็กแทนผงเหล็กปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นช้ามากเป็นเพราะเหตุใด ตอบ เพราะผงเหล็กมีพื้นที่ผิวมากกว่าตะปูเหล็ก จึงเกิดปฏิกิริยาได้เร็วกว่า 9.การเปลี่ยนแปลงสิ่งใดที่มีผลทำให้พลังงานก่อกัมมันต์ของปฏิกิริยาลดลง ตัวเร่งปฏิกิริยา 10.ตัวเร่งปฏิกิริยามีหน้าที่อย่างไร ตัวเร่งปฏิกิริยาทำหน้าที่ลดพลังงานกระตุ้นของปฏิกิริยา ทำให้ปฏิกิริยาเกิดเร็วขึ้น เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น อัตราการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นด้วย เพราะเหตุผลในข้อใดอุณหภูมิยิ่งสูง ปฏิกิริยาจะยิ่งเกิดขึ้นเร็ว เพราะ อุณหภูมิจะใหพลังงานความรอนกับปฏิกิริยา ทําใหพลังงานมีมากขึ้น ปฏิกิริยาจึงเกิดเร็วขึ้น พลังงานกระตุน พลังงาน การดําเนินไปของปฏิกิริยา พลังงานกระตุน การดําเนินไปของปฏิกิริยา พลังงาน
เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น 10 องศาเซลเซียส อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มขึ้นตามข้อใด28. จากการศึกษาผลของอุณหภูมิที่มีต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาพบว่า โดยทั่วไปถ้าอุณหภูมิ เพิ่มขึ้น 10° C อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะเพิ่มเป็นสองเท่าในการทดลองที่อุณหภูมิหนึ่ง สารตัวอย่างชนิดหนึ่งสลายตัวหมดในเวลา 30 นาที ถ้าเพิ่มอุณหภูมิขึ้น 20° C สารตัวอย่าง
ข้อใดเป็นผลทำให้อัตราการเกิดปฏิกิริยา เพิ่มขึ้นความเข้มข้นของสารตั้งต้นจะมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี เราวัดปริมาณของสารในสารละลายได้ จากความเข้มข้นของสารที่เข้าทำปฏิกิริยากัน ดังนั้น ในระหว่างเกิดปฏิกิริยาความเข้มข้นของสาร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลให้ปฏิกิริยาเกิดเร็วหรือช้า โดยสามารถทราบได้ว่า สารตัวใดมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาจากข้อมูลของผลการทดลอง
ปัจจัยใดมีผลโดยตรงต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา1. ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี : ปฏิกิริยาเคมีจะเกิดเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. ความเข้มข้นของสารตั้งต้น 2. พื้นที่ผิวของสารที่เข้าทำปฏิกิริยากัน 3. อุณหภูมิของระบบ 4. ตัวคะตะไลต์ และตัวอินฮิบิเตอร์ ( Catalyst and Inhibitor ) หรือสารตัวเร่ง และตัวยับยั้ง
|