เพราะ เหตุ ใด จึง ต้อง ตาก เสื้อผ้า สี ในที่ ร่ม

เข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการ ฝนตกไม่หยุดไม่มีช่องว่างของแสงแดดให้บ้านได้ระบายความชื้นออกไป อีกทั้งยังส่งผลต่อการซักทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ต้องซักให้ทันใส่ โดยเฉพาะการตากผ้าที่ไม่เคยได้สัมผัสแสงแดดหรือความร้อนจากภายนอก แน่นอนว่าทุกบ้านต้องประสบกับปัญหาการตากผ้า ยิ่งบ้านใดที่ไม่มีเครื่องอบผ้านั้นยิ่งต้องหาสารพัดวิธีมาทำให้ผ้าแห้งโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้นและส่งกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ต่อเสื้อผ้าของคุณ วันนี้ลีโอวูดมี 5 เคล็ดลับ ตากผ้าในร่มยังไงไม่ให้ผ้าเหม็นอับง่าย ๆ ได้ผลจริง แบบไม่ต้องใช้เครื่องอบให้เปลืองพื้นที่หรือค่าไฟในบ้านมาฝากกัน ไม่ว่าอยู่บ้านหรือคอนโดก็สามารถทำตามได้  

1. ตากผ้ากับไม้แขวนและอย่าตากผ้าแน่นเกินไป

 

เพราะ เหตุ ใด จึง ต้อง ตาก เสื้อผ้า สี ในที่ ร่ม

- การตากผ้าโดยการใช้ไม้แขวนเสื้อ จะทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้าเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น ทำให้ผ้าแห้งเร็วกว่าการตากแบบแขวนที่ราว ยิ่งช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นเยอะ ยิ่งเสี่ยงทำให้ผ้ามีกลิ่นเหม็นอับเพราะลมที่เข้าไม่ทั่วถึง อีกทั้งต้องตากผ้าให้มีช่องว่างและระยะห่างที่พอเหมาะ อย่าตากแน่นหรือเบียดเกินไป ความชื้นที่ทับซ้อนกันไม่มีช่องว่างของลมให้พัดผ่าน แน่นอนว่านอกจากผ้าจะไม่แห้งแล้วยังมีกลิ่นอับตามมาอีกด้วย

2. ซักผ้าไปพร้อมกันกับผ้าขนหนู

 

เพราะ เหตุ ใด จึง ต้อง ตาก เสื้อผ้า สี ในที่ ร่ม

- เคล็ดไม่ลับเรื่องการลดกลิ่นอับของจริง ทำยังไงไม่ให้ผ้าเหม็นอับ วิธีนี้ช่วยคุณได้ เพียงแค่นำผ้าขนหนูผืนแห้งใส่ลงในเครื่องปั่นตอนปั่นแห้ง พร้อมกับผ้าอื่น ๆ ที่กำลังซักอยู่ ปั่นประมาณ 15 นาที ผ้าขนหนูจะเป็นตัวช่วยในการดูดซับน้ำส่วนเกินและทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น เพราะความชื้นคืออีกหนึ่งสาเหตุของกลิ่นเหม็นอับ

3. ใช้ลมเป็นตัวช่วยในการตากผ้าลดกลิ่นอับได้

 

เพราะ เหตุ ใด จึง ต้อง ตาก เสื้อผ้า สี ในที่ ร่ม

- ใครที่อยู่ตึกสูง คอนโด หรืออพาร์ทเมนต์ ควรนำราวตากผ้ามาตั้งบริเวณพัดลมคอมเพรสเซอร์แอร์ของบ้าน ความร้อนจะช่วยเป่าเสื้อผ้าให้แห้งเร็วขึ้น แต่คอมเพรสเซอร์แอร์นั้นต้องทำความสะอาดก่อนตาก เพื่อที่ฝุ่นจะไม่มาเกาะสร้างความสกปรกให้กับผ้าที่ซักแล้ว

- ส่วนห้องใครที่ไม่มีระเบียงหรือพื้นที่ในการตากผ้าให้เลือกตากผ้าในห้องที่มีลมเข้ามามากที่สุด ยกเว้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอน เพราะความชื้นอาจทำให้ผ้าม่าน และโซฟาดูดความชื้นจนเป็นเชื้อราได้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในบ้าน

- อีกทั้งยังสามารถใช้พัดลม หรือแอร์เป็นตัวช่วยในการทำให้เสื้อผ้าแห้งเร็วขึ้นโดยการเปิดเป่า ให้เกิดอากาศถ่ายเทและหมุนเวียน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดกลิ่นเหม็นอับได้

4. เบกกิ้งโซดา / น้ำส้มสายชู / สารส้ม / กากกาแฟ

 

เพราะ เหตุ ใด จึง ต้อง ตาก เสื้อผ้า สี ในที่ ร่ม

- เบกกิ้งโซดา มีส่วนช่วยในการลดกลิ่นอับ เพราะกลิ่นส่วนใหญ่มีคุณสมบัติเป็นกรด เบกกิ้งโซดาคุณสมบัติเป็นด่างจึงสามารถช่วยลดกลิ่นอับได้ เพียงใส่เบกกิ้งโซดาลงบนผ้าแห้งไม่ต้องผสมน้ำ ก่อนนำไปซักหรือผสมเบกกิ้งโซดา 3-4 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 กะละมังก่อนซักตามปกติ

- น้ำส้มสายชู มีส่วนช่วยในการกำจัดเชื้อราและสามารถช่วยลดกลิ่นเหม็นอับได้ เพื่อให้เสื้อผ้ากลับมามีกลิ่นที่หอมสดชื่นเหมือนเดิม ให้เติมน้ำร้อนผสมน้ำส้มสายชู 1-2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4-5 ลิตรในรอบแรก ก่อนจะซักด้วยน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกในรอบที่สอง

- สารส้ม แกว่งสารส้มในน้ำก่อนซักและทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วค่อยใส่ผงซักฟอกและซักตามปกติ

- กากกาแฟ ช่วยลดกลิ่นอับได้ทั้งในตู้เย็นและตู้เสื้อผ้า เพียงใส่ถุงเล็ก ๆ แล้วไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า เพียงแค่นี้กากกาแฟจะมีส่วนช่วยลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าได้

5. ใช้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่ช่วยลดกลิ่นอับ

 

เพราะ เหตุ ใด จึง ต้อง ตาก เสื้อผ้า สี ในที่ ร่ม

แน่นอนว่าผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่ออกแบบมาเพื่อดกลิ่นอับเวลาตากผ้าในที่ร่มหรือช่วงหน้าฝน สามารถลดกลิ่นอับได้แน่นอน เนื่องจากการซักด้วยผงซักฟอกสูตรธรรมดาทั่วไปอาจทำให้มีสารตกค้างบางชนิดอยู่ในเสื้อผ้าที่มีส่วนในการทำให้เกิดเชื้อราหรือกลิ่นเหม็นอับ ดังนั้น ควรเลือกน้ำยาซักผ้าที่ออกแบบมาเพื่อลดกลิ่นเหม็นอับ อีกทั้งช่วยให้ผ้าแห้งไวมากขึ้น ลดการเกิดความชื้นในบ้านได้อีกด้วย

เลือกใช้พื้นไม้ หรือวัสดุที่อยู่ได้ในความชื้นสูง ๆ ไม่สะสมกลิ่นอับ

สภาพอากาศหรือการตากผ้าในที่ร่มบ่อยครั้งนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดกลิ่นเหม็นอับในเสื้อผ้าแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดความชื้นสะสมจนเกิดกลิ่นเหม็นอับในห้องและอาจส่งผลทำให้วัสดุ หรือเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั้น ๆ เสียหายได้ ยิ่งเป็นพื้นบริเวณที่ตากผ้านั้นยิ่งเสี่ยงเสียหายสูงสุด ดังนั้น ควรเลือกใช้พื้นที่ทนทานต่อความชื้น หรือน้ำได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว