จะแต่งงานครั้งหนึ่ง ต้องใช้งบเท่าไหร่ การแต่งงานคือสัญลักษณ์ของการประกาศความรักระหว่างบ่าวสาวออกมา เป็นการสัญญาต่อหน้าพยานหลากหลายคนว่าจะรักและดูแลกัน แต่เบื้องหลังภาพอันสวยงานในวันงาน มีความพยายามมากมาย มีรายละเอียดหลายอย่าง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งก็คือเงิน ลงทุนศาสตร์ชวนมาดูวิธีการคิดงบการแต่งงาน และดูว่าเราจะประเมินราคาค่างานทั้งหมดนี้อย่างไร การจะจัดงานแต่งงานครั้งหนึ่งต้องวางแผนเงินเก็บล่วงหน้า และหากมีการคิดรายละเอียดออกมาแล้วว่าต้องใช้ค่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง ถือเป็นการเรื่มต้นที่ดี แต่ต้องระวังงบบานปลายเช่นกัน โดยการแต่งงานสามารถจัดได้สองแบบคือจ้างบริษัทจัดงานแต่งงาน จ่ายค่ารายละเอียดทุกอย่างเป็นก้อน หรือไม่ก็จัดงานเอง เลือกรายละเอียดทุกอย่างเอง อ้างอิงจากบทความของ DeepLove 2005 ที่กำหนดโจทย์ว่างานแต่งงานแขก 200-300 คน ได้แจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายมา ดังนี้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเตรียมงาน (จำนวนแขก 200-300 คน)
ค่าใช้จ่ายส่วนของเจ้าบ่าวเจ้าสาว
ค่าใช้จ่ายงานเลี้ยง
นี่คือตัวอย่างตัวเลขกลมๆที่ทาง DeepLove 2005 คิดมา แต่หากในกรณีที่มีจำนวนแขกแตกต่างออกไป และมีความต้องการพิเศษในแบบของตนเอง การตั้งงบการแต่งงานก็สามารถวางแผนได้คร่าว ๆ ดังนี้ 1. ประเมินจำนวนแขก/จำนวนซอง: การประเมินเงินก้อนแรก จะประเมินจากสถานที่จัดงานแต่งงานที่เราสนใจ คิดให้ดีก่อนว่าจะเชิญแขกได้กี่คน แล้วประมาณว่าแขกแต่ละคนน่าจะให้ซองช่วยเหลือเราขั้นต่ำสุดประมาณเท่าไหร่ จากนั้นคูณกันออกมาก็จะได้เป็นจำนวนเงินก้อนแรก ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเชิญแขกมา 150 คน สถานที่จัดคิดหัวละ 1,000 บาท คุณต้องมี Budget อย่างน้อย 150,000 บาท สำหรับจ่ายในส่วนนี้ออกไปหลังจบงานแน่นอน แต่ถ้าแขก 90% จากจำนวน 150 คนที่มา ใส่เงินค่าซองซองละ 1,000 บาท ต่อคน (ซึ่งอาจมากหรือน้อยกว่านี้) เราก็จะได้เงินจากซองหลังเลิกงานในก้อนนี้อยู่ที่ 120,000 บาท 2. ประเมินรายได้ต่อเดือนของคู่แต่งงาน: การประเมินรายได้ของคู่แต่งงาน จะช่วยทำให้เราประเมินสถานการณ์ตัวเองได้ดีขึ้น ไม่จัดงานให้ยิ่งใหญ่จนเกินตัว เพราะเงินก้อนนี้จะเป็นเงินซัพพอร์ทการจัดงานแต่งงาน นอกเหนือไปจากเงินที่ออม (เก็บเงินสำหรับแต่งงาน) วิธีคิดคือ ให้นำเงินเดือนเจ้าบ่าว เจ้าสาว 4 เดือน ลบ1 เดือน (เงินใช้จ่าย 1 ส่วน 4 ) EX: เงินเดือนเจ้าบ่าว 30,000 x 3 เดือน เงินเดือนเจ้าสาว 25,000 x 3 เดือน จะมีเงินสำหรับซัพพอร์ทงบแต่งงานที่อาจจะมีบานปลายอีก 150,000 บาท 3. เงินช่วยเหลือจากครอบครัว: บางครอบครัวคุณพ่อคุณแม่อาจจะมีเงินช่วยเหลือสำหรับจัดงานแต่งงานบ้าง ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับฐานะของแต่ละครอบครัว หรืออาจจะไม่มีเงินในส่วนนี้เลยก็ได้ บ่าวสาวควรขอคำปรึกษากับครอบครัวของทั้งสองฝ่ายในเรื่องของรูปแบบการจัดงานแต่งที่เป็นไปตาม Budget ทีี่คุณมี ซึ่งถ้าหากญาติของทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหากับรูปแบบการจัดงาน บ่าวสาวก็ให้ผู้ใหญ่หาฤกษ์ยามงามดีและเตรียมตัวจัดงานแต่งงานกันได้เลย งบมากหรือน้อยก็จัดงานแต่งงานได้ ถ้าคุณพร้อม! โดยรูปแบบการจัดงานแต่งงาน/ธีมงานแต่ง สามารถช่วยประหยัดงบคุณได้ หลังจากที่บ่าวสาวได้ Budget แบบคร่าว ๆ แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการคิดรูปแบบการจัดงานแต่งงานหรือธีมงานแต่งงานนั้นเอง เช่น งานแต่งแบบไทยในช่วงเช้าอย่างเดียว งานแต่งแบบไทยตอนเช้า-เลี้ยงบ่าย งานแต่งแบบคริสต์ พิธียกน้ำชา งานฉลองวิวาห์ช่วงเย็น เป็นธีมงานแต่งในสวน ธีมรัสติก เป็นต้น รูปแบบการจัดงานที่มีขั้นตอนและพิธีการน้อย จะยิ่งเซฟค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก ก็ต้องดูความเหมาะสมและคำนึงถึงญาติผู้ใหญ่ของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวด้วย การลิสต์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อที่จะบอกถึงสิ่งที่จำเป็น/สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีในงานแต่งงาน ได้ง่ายขึ้น และเมื่อคิดรูปแบบการจัดงานแต่งได้แล้ว บ่าวสาวถึงค่อยมานั่งลิสต์ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ชุดแต่งงาน แหวนแต่งงาน พิธีกร ของชำร่วย การ์ดแต่งงาน สถานที่ อุปกรณ์สำหรับวันงาน ความสวยความงาม ดอกไม้ พรีเวดดิ้ง ช่างภาพ ดนตรี การแสดง พาหนะ ฮันนีมูนรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับงานแต่งงานของคุณที่จะมีขึ้นทั้งหมด แล้วค่อยมาดูยอดทั้งหมด ก่อนคำนึกถึงสิ่งที่จำเป็น/สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีในงานแต่งงานก็ได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจัดงานแต่งงานเองได้แล้ว ลงทุนศาสตร์ – Investerestติดตามบทความดีดีกดที่นี่เลย FACEBOOK , OFFICIAL LINE และ WEBSITE พิเศษ! เข้ากลุ่มเรียนหุ้นออนไลน์ฟรีกับลงทุนศาสตร์แบบไม่มีเงื่อนไขได้ที่ : เรียนหุ้นฟรีกับลงทุนศาสตร์ อ้างอิง อัพเดทล่าสุดเมื่อ : 15 มีนาคม 2022 บทความที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผู้เขียนผมเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุนตั้งแต่เบื้องต้น เหมาะสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะลงทุนที่รักหรือมีทีท่าว่าจะรักในศาสตร์ของการลงทุนเหมือนกัน |