หลังจากที่ประเทศจีนครองแชมป์ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดต่อเนื่องมาหลายปี แต่จากปัญหาในปัจจุบันที่มีคนแต่งงานกันน้อยลง และแม้จะมีการแต่งงานหรืออยู่กินฉันท์สามีภรรยาเกิดขึ้น แต่หลายคู่ก็เลือกที่จะไม่มีบุตรอย่างที่เราเคยเห็นข่าวตั้งแต่ปีที่แล้วว่าหนุ่มจีนขาดแคลนเจ้าสาว ทางรอดเดียวคือนำเข้าเจ้าสาวจากต่างประเทศ งานวิจัยบางชิ้นก็บอกเลยว่า ผู้หญิงชาวจีนไม่มีความสุขกับชีวิตแต่งงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 10 ปี
อีกทั้ง การควบคุมการเกิดของประชากรที่จีนมุ่งหน้าใช้นโยบายลูกคนเดียวมาเนิ่นนาน กว่าจะเลิกใช้นโยบายนี้หันมาสนับสนุนให้มีลูกมากเกิน 1 คน ก็สายเกินไปเสียแล้ว ล่าสุด องค์การสหประชาชาติออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2023 นี้หรืออีกครึ่งปีที่จะถึงนี้เอง อินเดียจะมีจำนวนประชากรแซงหน้าจีนแล้ว โดยในปี 2021 อินเดียมีประชากรจำนวน 1.412 พันล้านคน ส่วนจีนมีจำนวน 1.426 พันล้านคน ส่วนปี 2050 คาดว่าอินเดียจะมีประชากรจำนวน 1.668 พันล้านคน ขณะที่จีนจำนวนประชากรจะเหลือ 1.317 พันล้านคน นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2022 จะมีจำนวนประชากรโลกอยู่ที่ 8 พันล้านคน และจะเพิ่มเป็น 8.5 พันล้านคนในปี 2030 และเป็น 9.7 พันล้านคนในปี 2050 จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากสาเหตุการเสียชีวิตลดลง การมีอายุที่ยืนยาวขึ้น โดยอายุคาดเฉลี่ย (life excectancy) ในระดับโลกของปี 2019 อยู่ที่ 72.8 ปี ถือว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 9 ปีนับจากปี 1990 นอกจากนี้ เมื่ออัตราการตายลดลงและคนมีอายุยืนมากขึ้น จึงคาดว่าจะอายุยืนอยู่ที่ 77.2 ปีในปี 2050 ทั้งนี้องค์การสหประชาชาติยังคาดว่าประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งหนึ่งสำหรับ 8 ประเทศนี้ คองโก อียิปต์ เอธิโอเปีย อินเดีย ไนจีเรีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ และแทนซาเนีย ความน่าสนใจก็คือ อินเดียคือ 1 ใน 10 ประเทศที่มีจำนวนประชากรไหลออกเกินล้านคนในช่วงปี 2010-2021 อินเดียมีคนไหลออกจากประเทศราว 3.5 ล้านคน ส่วนใหญ่ก็คือการเคลื่อนย้ายแรงงานชั่วคราว ขณะที่ปากีสถานนั้นมีประชากรไหลออกมากถึง 16.5 ล้านคน บังคลาเทศราว 2.9 ล้านคน เนปาล 1.6 ล้านคน ศรีลังกา 1 ล้านคน ส่วนประเทศที่มีประชากรไหลออกด้วยเหตุผลด้านความขัดแย้งและรู้สึกไม่ปลอดภัย ดังนี้ ซีเรีย 4.6 ล้านคน เวเนซุเอลา 4.8 ล้านคนและเมียนมา 1 ล้านคน wpp 2022จากกราฟด้านบนจะเห็นว่าเส้นสีฟ้าอ่อนนั้น คือพื้นที่เอเชียกลางและเอเชียใต้มีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นสูงที่สุด รองลงมาคือซับซาฮาราน แอฟริกา ขณะที่จำนวนประชากรที่มีจำนวนคงที่คือประเทศที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ขนานไปกับโอเชียเนีย wwp 2022ผังอันดับด้านบนสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก 10 อันดับแรก พบว่า
ที่มา – Quartz, World Population Prospects 2022 ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา Share this:
Related
ปาริชาติ โชคเกิด สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต การเมือง ประชาธิปไตย เสรีภาพ ความยุติธรรมและความเท่าเทียม ชอบอ่าน ชอบเขียน ชอบสืบค้นข้อมูล ชอบทำคอนเทนต์ นสพ.ประชาชาติธุรกิจ : ปัจจุบัน "จีน" เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก แต่มีแนวโน้มจะถูกอินเดียแซงหน้าในอนาคตอันใกล้ จากผลของนโยบายลูกคนเดียวที่ทำให้ประชากรจีนขยายตัวในอัตราต่ำลงมาก ขณะที่ทวีปแอฟริกาจะมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีส่วนให้ประชากรโลกทะลุ 9,800 ล้านคนในปี 2593 จากปัจจุบัน 7,300 ล้านคน บลูมเบิร์กอ้างผลการศึกษาของสำนักอ้างอิงประชากร (PRB) ในกรุงวอชิงตันว่า ขณะที่สหรัฐและยุโรปตะวันตกกำลังประสบปัญหาประชากรจำนวนมากเข้าสู่วัยสูงอายุ ทวีปแอฟริกากำลังเกิดภาวะ "เบบี้ บูม" ทำให้ในอีก 35 ปีข้างหน้าหรือปี 2593 จะมี 3 ประเทศจากกาฬทวีปติดท็อปเท็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ได้แก่ ไนจีเรีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และเอธิโอเปีย นายปีเตอร์ โกลด์สไตน์ รองประธาน PRB ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของประชากรในแอฟริกาเป็นเพราะอัตราการตายลดลงจากอานิสงส์ของระบบสาธารณสุขที่ครอบคลุมมากขึ้น "แอฟริกาจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเพิ่มประชากรโลกในช่วงไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า" การผงาดของแอฟริกาเขี่ยเม็กซิโกหลุดไปอยู่ที่ 11 และรัสเซียร่วงไปอยู่ที่ 14 ทำให้ในรายชื่อ 10 อันดับแรกปี 2593 ไม่มีประเทศยุโรปติดโผเลย ส่วนในภูมิภาคเอเชีย นอกจาก 5 ประเทศที่อยู่ในท็อปเทนของโลกแล้ว เพื่อนบ้านอาเซียนของไทยอย่างฟิลิปปินส์มาเป็นอันดับ 6 ของเอเชียและที่ 13 ของโลก ตามมาด้วยเวียดนามอันดับที่ 7 ของภูมิภาคและ 16 ของโลก ส่วนไทยติดอันดับ 12 ของเอเชียและ 29 ของโลกด้วยจำนวนประชากร 66.1 ล้านคน จากปัจจุบันรั้งอันดับที่ 20 ของโลก |