วัดจุฬามณี ท้าวเวสสุวรรณที่ไหน


ใกล้เข้าสู่เทศกาลตรุษจีนของชาวจีนและคนไทยเชื้อสายจีนกันแล้ว หากใครกำลังมองหาสถานที่ไหว้พระขอพรกันอยู่ ที่ “วัดจุฬามณี” จ.สมุทรสงคราม ก็นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ยิ่งถ้าใครอยู่ในช่วงปีชง สามารถมาขอพรจาก “ท้าวเวสสุวรรณโณ” ให้ช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีได้อีกด้วย


“วัดจุฬามณี” ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เดิมมีชื่อเรียกว่า “วัดแม่เจ้าทิพย์” เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ตามประวัติสันนิษฐานว่าท่านท้าวแก้วผลึก (น้อย) ธิดาคนหนึ่งของท่านพลายต้นวงศ์ราชนิกูลบางช้าง เป็นผู้สร้าง

ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2459 วัดนี้ได้อยู่ในสภาพเกือบเป็นวัดร้าง มีพระจำพรรษาอยู่ไม่กี่รูป ก่อนที่กำนันตำบลปากง่าม (ปัจจุบันคือตำบลบางช้าง) ได้ขออาราธนาพระอาจารย์แช่ม โสฬส ศิษย์ของหลวงปู่คง จากวัดบางกระพ้อม มาปกครองที่วัดจุฬามณี


หลังจากที่หลวงพ่อแช่มได้ปฏิบัติภารกิจต่างๆ จนวัดกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2489 หลวงพ่อแช่มได้มรณภาพลง ทางการคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งพระเนื่อง โกวิโท ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อไป ซึ่งต่อมาก็คือ พระครูโกวิทสมุทรคุณ (เนื่อง โกวิโท) หรือ “หลวงพ่อเนื่อง” อีกหนึ่งพระเกจิชื่อดังของเมืองแม่กลองที่เป็นศิษย์ของทั้งหลวงปู่คงและหลวงพ่อแช่มนั่นเอง

โดยหลวงพ่อเนื่องได้ดูแลบูรณะปฏิสังขรณ์วัดจุฬามณี จนเป็นศาสนสถานอันร่มรื่น และได้สร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นเป็นทรงจตุรมุขสวยงาม แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จดี หลวงพ่อเนื่องได้ละสังขารจากไปอย่างสงบในปี พ.ศ. 2530 ต่อจากนั้นพระอาจารย์อิฏฐ์ ภทฺทจาโร ศิษย์เอกของหลวงพ่อเนื่อง ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสของวัดจุฬามณีสืบต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ และได้สร้างอุโบสถหลังใหม่จนแล้วเสร็จ


เมื่อมาถึงวัดจุฬามณีจุดแรกที่ควรไปคือที่ “อุโบสถจตุรมุข” อุโบสถหลังใหม่ที่หลวงพ่อเนื่องและพระอาจารย์อิฏฐ์ได้สร้างขึ้นจนแล้วเสร็จนั่นเอง โดยเป็นอุโบสถหินอ่อน จตุรมุข 3 ชั้น ชั้นฐานกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร สูง 10 เมตร ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย


ผนังทุกด้านมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวของพุทธประวัติและนิทานชาดกอันสวยงาม และที่เป็นไฮไลต์ภายในอุโบสถนี้ก็คือพื้นหินอ่อนหยกนำเข้าจากประเทศปากีสถาน ที่ปูอยู่ที่พื้นทั้งหลัง ซึ่งจะช่วยให้ความรู้สึกเย็นสบายและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก


ซึ่งหากใครมาที่วัดจุฬามณีในขณะนี้จะได้ปิดทองฝังลูกนิมิตร 9 ลูกด้วย ซึ่งทางวัดได้จัดบริเวณนำออกมาให้สาธุชนได้ปิดทองกันในรอบ 53 ปีเลยทีเดียว


กราบไหว้พระประธานในอุโบสถจตุรมุขแล้ว จุดถัดไปที่จะพาไปก็คือที่ “กุฏิหลวงพ่อเนื่อง” สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ภายในมี “สรีระสังขารของหลวงพ่อเนื่อง” ที่มรณภาพไปแล้วแต่สังขารของท่านกลับไม่เน่าเปื่อย ประดิษฐานอยู่ในโลงแก้วตั้งไว้บนมณฑปให้ผู้ศรัทธาได้กราบไหว้


และจุดสุดท้ายที่ถือเป็นอีกหนึ่งความเลื่องชื่อของวัดนี้ก็คือ ความศักดิ์สิทธิ์ของ “องค์ท้าวเวสสุวรรณโณ” ที่ดลบันดาลให้ลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่มีความศรัทธาได้ดังใจหวังกันมาแล้วมากมาย โดยท้าวเวสสุวรรณโณ (หรือท้าวกุเวร) เป็น 1 ใน 4 ของ ท้าวจตุโลกบาล ที่ทำหน้าที่รักษาทิศทั้ง 4 ในสวรรค์ชั้นแรก โดยท่านเป็นเทพประจำทิศเหนือ คอยผู้ปกปักรักษาดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

ซึ่งท้าวเวสสุวรรณโณของที่วัดจุฬามณีนั้นจะแตกต่างออกไปจากวัดอื่น เพราะจะมีอยู่ด้วยกันถึง 4 ปางด้วยกัน เริ่มที่องค์เก่าแก่ที่เป็นองค์แรกของที่วัดจะเป็น “ปางพรหมาสูติเทพ” เป็นองค์ปูนปั้นประทับนั่งสีขาว จะประทานพรในเรื่องของโชคลาภ การงาน การเงิน


ซึ่งตำนานในการสร้างปางนี้ขึ้นมานั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ตามคำบอกเล่าต่อกันมาว่า พระอาจารย์อิฏฐ์ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันของวัด ได้นิมิตเห็น “ท้าวเวสสุวรรณโณ” ซึ่งท่านได้พาพระอาจารย์อิฏฐ์ไปเที่ยวชมยมโลก พระอาจารย์อิฏฐ์จึงตั้งอธิษฐานและกล่าวไว้ว่า ถ้ากลับไปในโลกมนุษย์ครั้งนี้จะทำการตั้งรูปปั้นองค์ท่านไว้กลางวัด และท้าวเวสสุวรรณท่านจึงบอกกลับมาว่า หากจะปั้นฉันจะต้องไปตามช่างปั้นท่านหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ต้องให้ช่างผู้นี้เป็นผู้ปั้นเท่านั้น ซึ่งช่างปั้นผู้นั้นก็คือ “อาจารย์ทองร่วง เอมโอช” นั่นเอง


ถัดมาจะเป็น “ปางจาตุมหาราช” หรือปางยักษ์ที่เราทุกคนคุ้นตา ตั้งเด่นอยู่กึ่งกลางทั้งสี่ปาง โดยปางนี้จะประทานพรให้ผู้ที่ศรัทธาในเรื่องของการขจัดสิ่งชั่วร้าย คุ้มครองให้แคล้วคลาด ซึ่งหากใครกำลังอยู่ในช่วงปีชงหรือดวงตก แนะนำให้มาไหว้ท้าวเวสสุวรรณปางยักษ์นี้


ด้านหน้าของปางยักษ์จะเป็น “ปางเทพบุตรสูติเทพ” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “หน้าเทพ” เป็นองค์สีทองอร่าม ประทานพรในเรื่องของความรัก เมตตามหานิยม และสุดท้ายคือ “ปางมนุษย์” ปางนี้จะช่วยให้ดำเนินชีวิตราบรื่น ทำสิ่งใดไม่มีอุปสรรค


รวมถึงยังมีท้าวเวสสุวรรณโณปางยักษ์องค์ยืนสูงใหญ่ที่สุดในวัดและปางต่างๆ ให้ได้สักการะบูชากันอีกจุดหนึ่งด้วย โดยจะยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ที่บริเวณหลังอุโบสถจตุรมุข ส่วนด้านข้างขององค์ท่านยังมี “พญาปุริสาท” มหาอำมาตย์คู่บารมีขององค์ท้าวเวสสุวรรณ ที่ประทานพรในเรื่องป้องกันคุณไสย์มนต์ดำ ช่วยบันดาลให้อยู่เย็นเป็นสุข มั่งมีทรัพย์สินเงินทอง


และนอกจากทั้งสามจุดที่กล่าวมา ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์รูปเคารพอีกหลายจุดให้ได้สักการะขอพรกัน รวมถึงมี “สถานที่เช่าบูชารัตนมงคล” ที่มีวัตถุมงคล ของขลัง ของนำโชค (ตามวิจารณญานของแต่ละบุคคล) อย่าง เหรียญบูชารุ่นต่างๆ แผ่นยันต์ ผ้ายันต์ องค์ลอยรูปบูชาของท้าวเวสสุวรรณโณขนาดต่างๆ ให้ได้เช่าเปลี่ยนก่อนกลับบ้านเป็นที่ระลึกอีกด้วย


และนี่คือ “วัดจุฬามณี” จ.สมุทรสงคราม อีกหนึ่งวัดดังและศักดิ์สิทธิ์ใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางมาไม่นาน แถมยังอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดร่ม ตลาดแม่กลอง โบสถ์ปรกโพธิ์ค่ายบางกุ้ง ฯลฯ อีกด้วย เปิดให้เข้าทุกวัน เวลา 08.30-24.00 น.

#########################################

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline