กุสินาราเป็นหนุึ่งในพุทธสถานที่มีความสำคัญที่สุดของชาวพุทธ เนื่องจากเป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา กุสินาราเป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ใน 4 สังเวชนียสถาน Show
ความสำคัญ : เป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ตั้ง : ตำบลมถากัวร์ อำเภอกุสินคร ในเขตจังหวัดเทวริยา รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกุสินารากุสินารา (Kusinaga, Kushinagar) หรือ กุศินคร เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เดิมในสมัยพุทธกาล เมืองกุสินารานั้นเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นมัลละ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสาลวโนทยาน หรือสวนป่าไม้สาละสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ป่าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำหิรัญญวดี เป็นป่าไม้สาละร่มรื่น ซึ่งหลังการปรินิพพานของพระพุทธองค์แล้ว กษัตริย์แห่งมัลละก็ได้ประดิษฐานพระพุทธสรีระไว้ ณ เมืองกุสินาราเป็นเวลากว่า 7 วัน ก่อนที่จะประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ ในวันที่ 8 แห่งพุทธปรินิพพาน การที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกเมืองกุสินาราซึ่งเป็นเมืองเล็กเป็นสถานที่ปรินิพพานมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุสำคัญ คือ ทรงทราบดีว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พระสรีระและพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์จักถูกแว่นแคว้นต่าง ๆ แย่งชิงไปทำการบูชา หากพระองค์ปรินิพพานในเมืองใหญ่ เมืองใหญ่เหล่านั้นอาจไม่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้เมืองเล็กๆ เช่น เมืองกุสินารา เป็นต้น ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นเพราะหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เจ้าผู้ครองแคว้นต่าง ๆ ก็ได้ยกกองทัพหลวงของตนมาล้อมเมืองกุสินาราเพื่อจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ด้วยความที่กุสินาราเป็นเมืองเล็ก จึงต้องยอมระงับศึกโดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกเมืองโดยไม่ต้องเกิดสงคราม อนุสรณ์สถาน ณ กุสินารามหาปรินิพพานสถูป ตั้งอยู่ด้านหลังของมหาปรินิพพานวิหาร เป็นสถูปแบบทรงโอคว่ำขนาดใหญ่ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้สร้างและได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เชื่อกันว่าเป็นที่บรรทมครั้งสุดท้ายและเป็นสถานที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน ณ ใต้ต้นสาละคู่ ภายหลังได้สร้างสถูปครอบไว้ดังจะเห็นได้ในปัจจุบัน สถูปมีความสูง 6.10 เมตรเหนือระดับพื้นดิน ด้านบนของสถูปเป็นฉัตร 3 ชั้น มหาปรินิพพานวิหาร หรือวิหารพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่ด้านหน้าบนฐานเดียวกันกับมหาปรินิพพานสถูป มีบันไดอิฐสูงขึ้นไปบนเนิน ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดงหรือเรียกว่า จุณศิลา มีอายุมากกว่า 1,500 ปี ที่พระแท่นมีรูปสลักของสุภัททปริพาชกกำลังเข้าไปขอบวช และมีรูปสลักพระอนุรุทธะและพระอานนท์อยู่ด้วย พระพุทธรูปองค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ที่กำลังเสด็จดับขันธปรินิพพาน ประทับนอนบรรทมตะแคงขวา โดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก และมีซากศาสนสถานโบราณโดยรอบมากมาย ในจารึกระบุผู้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ คือ หริพละสวามี นายช่างผู้แกะสลักชื่อ ธรรมทินนา เป็นชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลในโลกทั้งปวง พระพุทธรูปปางมหาปรินิพพาน ในพระวิหารแห่งมหาปรินิพพานสถูป มกุฏพันธนเจดีย์ อยู่ห่างจากปรินิพพานสถูปไปทางทิศตะวันออก 1 กิโลเมตร ชาวท้องถิ่นเรียก รัมภาร์สถูป เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ มีสภาพเป็นเนินดินก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่ ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมไว้อย่างดี มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า พุทธสถานโบราณลุมพินี ปัจจุบันได้รับการบูรณะซ่อมแซมเป็นอย่างดีจากรัฐบาลอินเดีย โดยรอบมีสภาพเป็นสวนป่าสาละร่มรื่นเหมือนครั้งพุทธกาล ชวนให้เจริญศรัทธาแก่ผู้มาสักการะตลอดมาจนปัจจุบัน วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 มีเนื้อที่ราว 14 ไร่ (6 เอเคอร์) ตั้งอยู่บริเวณกุสินารา อยู่ห่างจากสาลวโนทยาน สถานที่ดับขันธปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันมีพระราชรัตนรังษีเป็นประธานสงฆ์ สถูปที่แสดงให้เห็นว่า สถานที่ตำแหน่งนี้ พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาธรรม ณ จุดแห่งนี้ สถูปแห่งนี้เป็นอนุสรเตือนสติเพื่อให้ระลึกถึงกุศลธรรม ผู้เห็นธรรมคือ พระอัญญาโกณทัญญะ สันนิษฐานกันว่าน่าจะสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (พ.ศ.269-311) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด และอาจมีการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อเติมขึ้นมาในสมัยราชวงศ์คุปตะ (ราว พ.ศ.900-1100) เพราะแผ่นอิฐด้านในพระสถูปนั้น มี อายุเก่าแก่กว่าแผ่นอิฐด้านนอก และลวดลายที่ปรากฏบนองค์พระสถูปด้านนอกนั้นเป็นลวดลายใบไม้ ดอกไม้ นก และรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งเป็นศิลปะที่นิยมมากในสมัยคุปตะ นอกจากนี้แล้วบริเวณยังมีส่วนที่สำคัญดังต่อไปนี้
สำหรับการจาริกแสวงบุญ ทางคณะแสวงบุญจะนำพาทุกท่านร่วมกิจกรรมบุญมากมาย อาทิเช่น
SARNATH SARNATH:It is said that Lord Buddha delivered his first sermon after attaining enlightenment here in Sarnath.The buildings and monuments of Sarnath were built by the emperor Ashoka. VISIT:Chowkhandi Stupa,Dhamekha Stupa,Ashok Pillar,Deer Park. ภาพประทับใจและกิจกรรมต่างๆ ณ เมืองสารนาถ พาราณสี ล่องเรือ ณ แม่น้ำคงคา เมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮินดู ต้องมาสักการะยังแม่น้ำคงคา เส้นทางสายน้ำที่ชาวเมืองพาราณสีและชาวอินเดียต้องมาทำพิธีอาบน้ำในช่วงเช้าของทุกวัน ทุกท่านจะได้พบกับวิธีชีวิตของชาวเมืองพาราณสีริมฝั่งแม่น้ำคงคาในยามเช้า พร้อมล่องเรือ ชมสถานที่สำคัญต่างๆรอบแม่น้ำคงคา อาทิเช่น ณ จุดที่เผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคา จะมีศพถูกนำมาเผาวันละประมาณ ๘๐-๑๐๐ ศพ ซึ่งท่าน้ำในเมืองพาราณสีมี ท่าน้ำทั้ง ๕ คือ ท่าอัสสี ท่าทศอัศวเมธ ท่าปัญจคงคา ท่ามณิกรรณิกา และท่าอธิเกศวร ที่สำคัญที่ชาวฮินดูต่างมาสักการะ ชาวฮินดูส่วนใหญ่ในหนึ่งวันจะอาบน้ำเพียงหนเดียวคือในยามเช้า โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่แถบริมแม่น้ำคงคา เนื่องด้วย ๑. เป็นการชำระร่างกายอันเป็นกิจประจำ ยังถือเป็นน้ำที่ล้างบาปไปด้วยในตัว ๒. การอาบในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เป็นการขอพรและบูชาพระสุริยเทพต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ฝั่งของแม่น้ำคงคามี ๒ ฝั่ง คือ ฝั่งสวรรค์ และอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามคือ ฝั่งนรกณ สถานที่แห่งนี้ทุกท่านๆจะได้ร่วมปลงสังเวช ร่างกายนี้เมื่อหมดลมหายใจไม่สามารถนำอะไรติดตัวไปได้เลย เหลือเพียงเถ้าถ่าน ดังคำของพระพุทธองค์ที่ว่า มะระณะธัมโมม๎หิ เรามีความตายเป็นธรรมดา มะระณังอะนะตีโต เราจะล่วงความตายไปไม่ได้ [insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’] เชิญร่วมแสวงบุญ [insert page=’packagetour’ display=’content’] 19,479 total views, 1 views today ชาตสถานสถานที่ประสูติสังเวชนียสถานแห่งที่ ๑ สวนลุมพินีสถานที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติเป็นสังเวชนียสถานหนึ่งในสี่ตำบลที่สำคัญอย่างยิ่งพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงประสูติได้ครู่หนึ่งทรงยืนได้อย่างมั่นคง ด้วยพระบาททั้งสองที่เสมอกันทรงผิน พระพักตร์ไปทางทิศเหนือ ทรงดำเนินไป ๗ ก้าวทอดพระเนตรไปยังทิศต่างๆ แล้วทรงเปล่งพระอาสภิวาจา “เราคือผู้เลิศของโลก เราคือผู้เจริญที่สุดในโลก เราคือผู้ประเสริญที่สุดของโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ไม่มีอีกแล้ว” ลุมพินีวันสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ตำบลลุมบินเด อยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสด์กับกรุงเทวทหะ ในปัจจุบันพื้นที่สวนลุมพินีวัน อยู่ห่างจากชายแดนประเทศอินเดีย เข้าไปยังประเทศเนปาลประมาณ ๒๕ กิโลเมตร การจาริกแสวงบุญยัง สังเวชนียสถานแห่งนี้ ถือเป็นส่วนที่สำคัญยิ่งเนื่องจากสถานที่แห่งนี้ พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสร้างอโศกขึ้นเพื่อเป็นที่จารึกว่า พระพุทธองค์ทรงประสูติ ณ สถานที่แห่งนี้
การเดินทางมายังลุมพินีวันสามารถเดินทางได้ ๒ วิธีโดยส่วนใหญ่คือ
สำหรับฟาฟา ทราเวล ได้จัดแผนการเดินทางเพื่อรองรับกิจกรรมทัวร์ในหลายๆโอกาสโดยเลือกใช้เส้นทางในวันที่พักเมืองกุสินารา จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองลุมพินีวัน เนื่องจากระยะทางและความสะดวกในการจัดที่พักและง่ายต่อการเดินทาง จึงถือว่าเส้นทางนี้มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ที่พักในเมืองลุมพินีในส่วนของ ฟาฟา ทราเวล ทุกๆทริปการให้บริการในทุกทัวร์สำหรับเมืองลุมพินีจะใช้บริการ โรงแรมระดับ3-4ดาวมาตรฐานเนปาล ยกตัวอย่างเช่น Zambala Hotel โดยที่พักมีเครื่องอำนวยความสะดวก ทั้งน้ำอุ่นและเครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งอาหารมาตรฐานโรงแรม สามมื้อ เช้า กลางวัน และ เย็น สะอาด ปลอดภัย ภาพตัวอย่างบรรยากาศแสวงบุญ ณ ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล วัดไทย ๙๖๐สำหรับการเดินทางก่อนข้ามเขตแดนอินเดีย จะมีวัดไทยตั้งอยู่ชื่อว่าวัดไทย ๙๖๐ ซึ่งวัดไทยแห่งนี้จะรองรับผู้แสวงบุญ ที่จะเดินทางสู่เมืองลุมพินี หรือจากลุมพีนีสู่เมืองอื่นๆ ทั้งห้องน้ำและอาหารเครื่องดื่มคอยให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรตีทอดกรอบพร้อมนมข้นหวาน ที่เป็นสูตรเฉพาะมีที่นี่แห่งเดียวเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นอาหารว่างที่อร่อยที่สุด และขึ้นชื่อที่สุด พูดง่ายๆ ถ้ามาวัดไทย ๙๖๐ แล้วไม่ได้ชิมโรตีที่นี่ เหมือนไม่ได้มาแสวงบุญ ฟาฟา ทราเวล ทุกๆทริปที่เดินทางแสวงบุญจะแวะพักผ่อนและร่วมถวายผ้าป่า ณ วัดไทย ๙๖๐ เป็นประจำ [insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’] เชิญร่วมแสวงบุญ [insert page=’packagetour’ display=’content’] 15,204 total views อภิสัมพุทธสถานสถานที่ตรัสรู้สังเวชนียสถานแห่งที่ ๒ พุทธคยาพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตตราสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ คือความจริงอันประเสริฐประกอบไปด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สาระของพระสัทธธรรมตอนหนึ่งว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นทั้งมวล ล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ” เมืองพุทธคยาสถานที่สำคัญยิ่งที่พุทธศาสนิกชนต้องเดินทาง มาสักการะบูชา ณ สถานที่สำคัญต่างๆอาทิเช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ มหาเจดีย์พุทธคยา องค์หลวงพ่อพระเมตตา เป็นต้น ก่อนที่จะกล่าวถึงข้อมูล สถานที่สำคัญต่างๆในเมืองพุทธคยา นั้นมีความสำคัญยิ่งนัก ผู้คนทั่วโลกก็ว่าได้ ถ้าถือได้ว่าเป็นพุทธศาสนิกชน ที่มีความศรัทธายิ่งในพระพุทธศาสนา ครั้งหนึ่งในชีวิตจำเป็นต้องมา ยังสถานที่สำคัญแห่งนี้ ที่เรียกว่าเมืองพุทธคยา ต้องมากราบนมัสการ ณ ต้นมหาโพธิ พร้อมทั้ง สถูปมหาโพธิเจดีย์ สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่าเป็นมงคลยิ่งในชีวิตหนึ่ง สถูปมหาโพธิเจดีย์สร้างเพื่อเป็นอนุสรสถานแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า สร้างมากว่า สองพันปีภายในยังมีสิ่งที่สำคัญยิ่งคือองค์พระประธานที่แสดงแทนพระพุทธองค์ที่ทรงยิ้มนามว่า “พระพุทธเมตตา” ความสำคัญยิ่งในพุทธคยานั้นทุกๆชนชาติต่างต้องมา ณ จุดแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ชาวไทย ชาวพม่า ศรีลังกา ฑิเบต ภูฏาน จีน มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ก็นิยมมายังสถานที่สำคัญแห่งนี้ไม่น้อยกว่าชาวไทยเอง เส้นทางการเดินทางมายังเมืองพุทธคยา ตั้งอยู่ในรัฐพิหาร ห่างจากเมืองคยาประมาณ 15 กิโลเมตร ห่างจากเมืองปัตนะ เมืองหลวงของรัฐพิหารประมาณ 105 กิโลเมตร ห่างจากเมืองกัลกาต้าประมาณ 500 กิโลเมตร การเดินทางมายังพุทธคยา ชาวไทยนิยมเดินทางดังนี้ บินจากประเทศไทยลงสนามบินเมืองกัลกาต้า(เมืองหลวงเก่าของอินเดีย)
บินจากประเทศไทยลงสนามบินเดลี
สำหรับฟาฟา ทราเวล จัดบริการนำเที่ยวมายังสังเวชนียสถาน ๔ ตำบล โดยเริ่มต้น ณ เมืองพุทธคยา โดยเลือกใช้เส้นทางการเดินทางดังนี้ [su_list icon=”icon: plane”]
[/su_list] [su_list icon=”icon: automobile”]
[/su_list] ที่พัก ณ เมืองพุทธคยาฟาฟา ทราเวลจัดการดูแลทัวร์ในแต่ละครั้งที่ร่วมแสวงบุญ เลือกใช้บริการทั้งโรงแรมที่พักในเมืองพุทธคยา อาทิเช่น โรงแรม Ohm Int Hotel และจัดการอาหารให้ทุกท่านที่ร่วมแสวงบุญโดยใช้บริการอาหารจากทางโรงแรมทั้งสามมื้อ ที่มีการปรุงที่สะอาด ปลอดภัย โดยอาหารนั้นมีทั้งไก่ ปลา และอาหารมังสวิรัต โดยมีเมนูเสริมเป็นอาหารไทย และการปรุงอาหารของครัวที่โรงแรมก็สามารถปรับประยุกต์อาหารไทยได้ค่อนข้างดี อาทิเช่น ต้มยำไก่ ผัดกระหล่ำดอก ไข่เจียว ซึ่งวัตถุดิบที่สดใหม่ และสะอาด คอยให้บริการแก่ทุกท่าน และมาตรฐานโรงแรมระดับ 3-4ดาวของเมืองพุทธคยา ซึ่งการพักผ่อนจะพักห้องละ ๒ ท่าน โดยถ้าท่านที่ต้องการพักเดี่ยวจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้ ภาพที่พัก อาหาร โรงแรมที่พัก เส้นทางแสวงบุญสังเวชนียสถาน ณ โรงแรม Ohm Int’สำหรับที่พักในบางทริปก็จะจัดที่พักโดยได้รับความเมตตาจากวัดไทยในเมืองพุทธคยา อาทิเช่น วัดไทยสาวิกา ซึ่งให้การต้อนรับที่อบอุ่น เป็นกันเอง พร้อมอาหารไทยจากคณะแม่ครัว แม่ชี ชาวไทย ห้องพักจะเป็นห้องนำ้ในตัวพักแยกหญิงชาย ห้องละ 4-5 ท่าน โดยค่าใช้จ่ายในการพักจะเป็นการร่วมทำบุญกับวัดไทย ตามกำลังศรัทธา ซึ่งในบางทริป ฟาฟา ทราเวล ก็นำทุกท่านพักยังวัดไทยดังที่กล่าวมา พุทธคยา สถานที่แห่งการตรัสรู้ BODH GAYA,THE PLACE OF ENLIGHTENMENTเมื่อทุกท่านเดินทางมาถึงเมืองพุทธคยา ฟาฟา ทราเวล จะนำพาทุกท่านร่วมกันแสวงบุญยังสถานที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งปัจจุบันเรียกบริเวณนี้ว่า พุทธคยา ทุกท่านจะได้ร่วมกันสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น และเจริญจิตภาวนา ภายในบริเวณรอบสถูปมหาโพธิ์ โดยสถานที่สำคัญที่จะร่วมจาริกแสวงบุญมีดังต่อไปนี้ [su_list icon=”icon: play-circle-o” icon_color=”#1762a8″]
[/su_list] ภาพตัวอย่างบรรยากาศแสวงบุญ ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย เชิญชมภาพบรรยากาศการแสวงบุญ จากทริปที่ผ่านมาที่ทาง ฟาฟา ทราเวลได้มอบบริการดีๆ [insert page=’buddhist-destinations-1′ display=’content’] เชิญร่วมแสวงบุญ [insert page=’packagetour’ display=’content’] 12,814 total views รอบพิเศษ จัดสิ่งนี้เพื่อคุณ เรากล้าทำในสิ่งใหม่ๆกับเส้นทางการเดินทางและพักผ่อนตลอดระยะเวลาแสวงบุญเรากล้าที่จะคิด และกล้าที่จะลงมือทำในสิ่งที่ดี ที่สุดเพราะเราตระหนักเสมอว่า คุณคือครอบครัวของเรา ที่ร่วมเดินทางไปกับเราฟาฟา ทราเวลขอเรียนเชิญ สาธุชนและผู้มีความประสงค์จะร่วมเดินทางแสวงบุญ ณ ประเทศอินเดีย เนปาล สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล พร้อมจุดสำคัญต่างๆพร้อมบินแล้วเดินทาง 9-17 ธค 59 พักโรงแรมทุกคืน!+บินภายในไป-กลับ ไม่เหนื่อยในเดือนแห่งมหามงคล “ทำดีเพื่อพ่อทั้งแผ่นดิน” มอบสิ่งดีที่สุดให้กับคนที่คุณรักและเคารพที่สุด ณ ดินแดนต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา กับกิจกรรมดีๆ ณ ดินแดนต้นกำเนิดของพระพุทธศาสนา ➽เชิญร่วมเดินทางกับคณะแสวงบุญ ฟาฟา ทราเวล ระหว่างวันที่ ๙ ถึง ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ แสวงบุญ ทำบุญ ณ ประเทศอินเดีย เนปาล ๙ วัน ๘ คืน ➽➽ นำพาบุญใหญ่ ด้วยความเมตตาจาก องค์หลวงปู่ประสิทธิ์ ฉันทาคโม ๕๗ พรรษา ๗๗ ปี วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พระสุปฏิปันโนที่เมตตา นำพาสาธุชน แสวงบุญ ทำบุญ ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ร่วมเจริญจิตภาวนา ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน และสถานที่สำคัญต่างๆตามเส้นทางแสวงบุญ อาทิเช่น เขาคิชฌกูฎ วัดเชตวันมหาวิหาร พร้อมทอดผ้าป่าร่วมบูรณะและก่อสร้างวัดไทย ในประเทศอินเดีย เป็นการร่วมทำความดีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเวลาแสวงบุญ ➽➽ สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่องค์หลวงปู่ประสิทธิ์ ฉันทาคโม ได้เดินทางสู่ประเทศอินเดีย เนปาล องค์หลวงปู่เมตตานำพาผู้แสวงบุญ ร่วม ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และ เจริญจิตภาวนา ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล พร้อมทั้งร่วมอุทิศส่วนกุศล สร้างบุญที่ยิ่งใหญ่สุดในหนึ่งชีวิต ณ สถานที่สำคัญต่างๆ ที่ได้จาริกแสวงบุญ ➽การเดินทาง ฟาฟาทราเวล ได้จัดเส้นทางการเดินทางแบบพิเศษสุดสำหรับ ให้บริการผู้ร่วมแสวงบุญ รวมถึงการดูแลธาตุขันธ์ขององค์หลวงปู่ ในราคาที่ประหยัดที่สุด มีเส้นทางการเดินทางและพักผ่อนดังต่อไปนี้ ด้วยเหตุนี้ระยะเวลาการเดินทางจึงได้เพิ่มเป็น 9 วัน 8 คืน เพื่อให้ทุกท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และพักโรงแรมทั้งหมดทุกวัน โปรแกรมทัวร์ โทรสอบถาม 089-1094455 หรือ LINE มาที่ fafatravelร่วมเดินทางแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน พร้อมด้วย ราชคฤห์ ยอดเขาคิชฌกูฎ มหาลัยนาลันทา เมืองปัตนะ เมืองพาราณาสี เมืองกัลกาต้า[su_label type=”important”]new!!![/su_label] [su_spacer]หลวงปู่ประสิทธิ์ ฉันทาคโม วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมตตานำพาท่านแสวงบุญ ณ ดินแดนพุทธภูมิ 9-17 ธค 59 โทรจองรอบเดินทางและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 089.109.4455 / 095.956.1811 /095.816.5225 /02.512.5568LINE ID: fafatravel[su_qrcode data=” fafatravel.softwarefly.com/2016/08/11/4holy-dec-2016-a01/” title=”SCAN..Me” margin=”10″ align=”center” link=” http://fafatravel.softwarefly.com/2016/08/11/4holy-dec-2016-a01/”] [su_spacer][su_divider top=”no” divider_color=”#535244″ size=”1″ margin=”20″] พิเศษเหนือใครกับสุดยอดบริการที่เรามอบให้ ในราคา 42,500 บาทContinue reading “9-17ธค.59 ทัวร์จาริกแสวงบุญ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล 9วัน8คืน เดินทางสบาย พักโรงแรมทั้งหมด บินภายใน 42,500” |