ผมเชื่อว่าหลาวคนสับสนกับชื่อของ แล็ปท็อป กับ โน็ตบุ๊ค พอสมควร และสับสนว่าจริงๆแล้ว laptop ใช้เรียกคอมพิวเตอร์ประเภทไหน และมีความแตกต่างอย่างไรกับ Notebook และเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ ต่างกับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะอย่างไร วันนี้เรามาทำความเข้าใจเกียวกับคอมพิวเตอร์ทั้งสองแบบนี้กันครับ ชนิดของคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทของการใช้งานใหญ่ๆด้วยกันได้แก่ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือที่เรียกว่า desktop computer กับอีกอย่างที่เรียกว่า คอมพิวเตอร์แบบพกพา บ้างก็เรียก laptop บ้างก็เรียก notebook โดยทั้งหมดเป็น PC คอมพิวเตอร์ (Personal computer) ที่หลายคนเข้าใจผิดว่า PC คอมพิวเตอร์เป็นเพียงคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะอย่างเดียว แล็ปท็อป คืออะไรคือคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่ทำให้มีขนาดเล็ก ย่อออกมาให้สามารถพกพาและนำไปไหนต่อไหนได้ โดยอาจมีขนาดหน้าอยู่อยู่ที่ 10-17 นิ้ว และใช้แบตเตอรี่ในตัว เพื่อใช้งานได้ทุกทีแม้ไม่มีไฟฟ้า โดยมีการจัดสเปคและราคาต่างกันตามรุ่นของแล็ปท็อปนั้นๆ ซึ่งจะบอกว่าจริงๆแล้วมันก็คือ Notebook ที่เรารู้จักกันนั้นเอง ความแตกต่างระหว่าง Laptop กับ Notebook ก่อนจะอธิบายเรื่องความแตกต่างของทั้งสองสิ่งนี้ เราต้องรู้จักชื่อเรียกของแล็ปท็อป ก่อน อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วว่าแล็ปท็อปคือการนำเอาคอมพิวเตอร์มาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง แต่ในยุคแรกเริ่มนั้นการย่อขนาดคอมพิวเตอร์ให้เป็นแล็ปท็อปยังมีขนาดใหญ่ แต่พักหลังๆการสร้างแล็ปท็อปมีขนาดเล็กลงบางลงจนเหมือนกับสมุดทำให้บ้างคนบางกลุ่มก็เปลี่ยนชื่อเรียกมาเรียก Notebook หรือบางกลุ่มก็จัดกลุ่มแบ่งออกไปเลยว่า คอมพิวเตอร์พกพา หากรุ่นไหนบางเล็ก ให้เรียก Notebook แต่บางรุ่นไหนหนาใหญ่ให้เรียก Laptop แต่สำหรับบางกลุ่มที่เรียก Laptop จนเป็นคำติดปากไปแล้วไม่ว่าพิวเตอร์แบบพกพาจะออกมาแบบไหนก็เรียก Laptop (ต่างประเทศเรียกคอมพิวเตอร์แบบพกพาส่วนใหญ่ว่า Laptop ) สรุป Laptop ก็คือคอมพิวเตอร์พกพา เช่นเดียวกันกับโน็ตบุ๊ค เพียงแต่เรามาเรียก Notebook ไปยุคหลังๆที่ตัวเครื่องมันบางลงเหมือนหนังสือ แต่ก็ยังมีคนเรียก Laptop อยู่ Notebook กับ Laptop ก็เป็นเพียงชื่อใหม่และชื่อเก่าเท่านั้น แต่มีบางคนพยามหาความต่างๆ ก็มาแยกจากความบางขนาด แต่จริงๆแล้วมันก็คือแบบเดียวกัน
1. คอมพิวเตอร์แบบ Notebook จัดเป็นคอมพิวเตอร์ประเภทใด 1. Workstation 2. Personal Computer 3. Supercomputer 4. Analog Computer 2. การพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นไปในแนวทางใด 1. ขนาดใหญ่ขึ้นและราคาถูกลง 2. ประมวลผลข้อมูลได้ถูกต้องมากขึ้น 3. ให้ประมวลผลงานที่มนุษย์ทำไม่ได้ 4. ให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น 3. กรมสรรพากรมีภาระหน้าที่จัดเก็บภาษีของผู้มีรายได้ทั่วประเทศ ดังนั้นกรมสรรพากรควรใช้คอมพิวเตอร์ ประเภทใดสำหรับประมวลภาษี 1. Workstation 2. Mainframe Computer 3. Supercomputer 4. Microcomputer 4. คอมพิวเตอร์สำหรับประมวลผลกับข้อมูลชนิด Discrete Data เป็นค่า 0 หรือ 1 เรียกว่า 1. Discrete Computer 2. Binary Computer 3. Digital Computer 4. Analog Computer 5. Minicomputer แตกต่างจาก Microcomputer คือ 1. Minicomputer เป็น Multi-user, Microcomputer เป็น Single User 2. Minicomputer มีขนาดเล็กกว่า Microcomputer 3. Microcomputer มีความจุข้อมูลสูงกว่า Minicomputer 4. ถูกทุกข้อ 6. ข้อใดมิใช่ตัวอย่างของการพัฒนาเทคโนโลยีโทรคมนาคม 1. Cellular Mobile Telephone 2. Picture Phone 3. Pager 4. Video Game 7. การแสดงสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น Text, Graphics, Animation, Voice, Music, Video เราเรียกกระบวนการทำงานนี้ว่า 1. Multimedia 2. Multi-user 3. Multipurpose 4. Multi-information 8. ข้อใดแสดงถึงการต่อร่วมกัน (Connectivity) ของคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อื่น ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยี ทางโทรคมนาคมแล้วทำให้เกิดประโยชน์ 1. Telecommuting 2. Telebanking 3. Voice mail 4. ถูกทุกข้อ 9. เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ 1. การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาพัฒนาเป็นเทคโนโลยีโทรคมนาคม 2. การนำเทคโนโลยีโทรคมนาคมมาพัฒนาเพื่อการสื่อสารข้อมูล 3. การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคมมาทำงานร่วมกันเพื่อเกิดการใช้สารสนเทศ 4. ไม่มีข้อใดถูก 10. ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศมีองค์ประกอบอะไรบ้าง 1. People, Procedures, Hardware, Software, Data 2. Hardware, Software, Data/Information, Communications 3. People, Data/Information, Communications 4. People, Procedures, Hardware, Software, Data/Information, Communications |