บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร

โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ มักจะเลือกใช้สิ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เพราะในยุคนี้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่หลายๆ แบรนด์ควรจะต้องเลือกใช้

การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพวกพลาสติก

มันก็อาจจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าก็จริง และเข้าถึงง่าย แต่ในทางกลับกัน มันก็ไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนัก

ถ้าหากเราทำแบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้นเราก็ควรที่จะต้องเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือ รักษ์โลก เพราะมันจะเป็นประโยชน์ต่อโลกและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์สินค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางนั่นเอง

แนะนำ 4 ขั้นตอน ออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร

  1. การเลือกใช้วัสดุที่เป็นกระดาษ

วัสดุชนิดนี้สามารถที่จะย่อยสลายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่าง 100% และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนที่น้อยที่สุดอีกด้วย การเลือกใช้กระดาษสามารถที่จะนำมาทำกล่องและถุงได้เป็นอย่างดี สามารถที่จะผลิตเป็นกล่องได้หลากหลายรูปแบบ ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากวัสดุกระดาษควรที่จะต้องเลือกใช้กระดาษที่ดีและมีมาตรฐาน หรือเป็นกระดาษที่ได้มีการรับรองจาก FSC เพราะจะดุดีและมีมาตรฐานสำหรับการนำไปทำเป็นบรรจุภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร

  1. การออกแบบและส่งเสริมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อพูดถึงบรรจุภัณฑ์นั้นแน่นอนเราก็จะต้องมีไอเดียในการออกแบบที่ตอบโจทย์กับความต้องการให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญจะต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น ในการเคลือบเงาหรือการลงสีต่างๆ ควรที่จะเลือกใช้สีจากธรรมชาติ และถ้าหากเทคโนโลยีหรือทางเลือกอื่นๆ ที่มันจะช่วยส่งเสริมทำให้กล่องบรรจุภัณฑ์ออกมาดูดีได้ เช่น การใช้น้ำหมึกจากถั่วเหลือง เป็นต้น

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร

  1. การขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อเรา ออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ดี และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในการขนส่งก็จะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งในแง่ของการขนส่ง ถ้าหากเราผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ก็ควรที่จะเลือกขนส่งทางทะเลจะดีกว่า เพราะมันจะไม่ปล่อยคาร์บอนและมลพิษมากนัก ถ้าเทียบกับการขนส่งทางอากาศ เพราะมันจะปล่อยคาร์บอนที่เยอะมาก ทำให้ส่งผลเสียต่อระบบธรรมชาติ ทำให้เกิดโลกร้อนได้นั่นเอง

บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมควรมีลักษณะอย่างไร

  1. การสื่อสารให้ลูกค้าได้ทราบว่าเป็นบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เมื่อกล่องบรรจุภัณฑ์ของเราผลิตเสร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนสุดท้ายเราก็ควรที่จะต้องสื่อสารหรือบอกกลับลูกค้าด้วยว่าบรรจุภัณฑ์ที่อยู่บนมือลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อโลก หรืออาจจะมีการติดป้ายหรือข้อความไว้บนบรรจุภัณฑ์ เพื่อที่จะได้บ่งบอกลูกค้าทำให้ลูกค้าได้ทราบ เพื่อที่จะเป็นการสร้างความประทับใจและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์สินค้าได้นั่นเอง

เนื่องมาจากหลายประเทศมีความตื่นตัวและให้ความสนใจผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมันมากขึ้น เห็นได้จากมาตรการและกฎหมายต่างๆที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม ISO 26000 ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล ISO 14001 หรือความรับผิดชอบต่อสังคม (Cooperate Social Responsibility; CSR) โดยมาตรการที่ออกมาเหลานี้เพื่อให้ส่วนธุรกิจหันมาให้ความสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนนี้จะขอกล่าวถึงบรรจุภัณฑ์ของสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งประเทศที่นำตราพระราชบัญญัติเกี่ยวกับขยะผลิตภัณฑ์มาใช้ คือประเทศในกลุ่มประเทศยุโรป อันได้แก่ ประเทศอิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ และเยอรมัน ซึ่งตราพระราชบัญญัตินี้มีข้อกำหนดว่าห้ามฝังกลบ หรือกำจัดโฟมพลาสติกด้วยการเผา

ความสำคัญของบรรจุภัณฑ์และแนวทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยในอดีตนั้นบรรจุภัณฑ์มีหน้าที่เพียงห่อหุ้มและปกป้องผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ในปัจจุบันหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์ถูกเพิ่มขึ้นในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และรูปลักษณ์ที่สามารถดึงดูดผู้ซื้อ ตลอดจนสามารถใช้ในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมด้านสังคมขององค์กร โดยเฉพาะในต่างประเทศ เช่น ในประเทศญี่ปุ่นที่มีการนำเรื่องของการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์นั้นๆ มาแสดงตัวเลขบนบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า ตลอดจนเพื่อแสดงให้บุคคลภายนอกได้เห็นถึงความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร ดังนั้น ในหลายๆ องค์กรจึงมีฝ่ายที่ดูแลเรื่องของการออกแบบบรรจุภัณฑ์และรูปแบบของฉลากสินค้าโดยเฉพาะ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลการออกแบบตามความต้องการของตลาด รวมทั้งปัจจัยด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จากการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของการบรรจุหีบห่อ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภค และให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ทำให้การออกแบบเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งต่อการบรรจุหีบห่อ เนื่องจากเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างภาชนะบรรจุกับผู้บริโภค ดังนั้น การออกแบบจึงควรได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับการบรรจุหีบห่อเสมอ และควรคำนึงถึงวัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงควรมองผลกระทบในด้านต่างๆ โดยเฉพาะผลกระทบที่มีต่อการขายทั้งระดับการขายส่งและการขายปลีก เมื่อพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรื่องของภาชนะบรรจุภัณฑ์จึงเป็นเรื่องที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้โดยง่ายและสามารถจับต้องได้ ดังนั้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีจึงต้องหากลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สามารถลดปัญหาจากขยะบรรจุภัณฑ์ การสิ้นเปลืองทรัพยกร การนำบรรจุภัณฑ์มาใช้ซ้ำ การนำกลับมาแปรรูปใหม่ และหากกำจัดทิ้งต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา ดังนั้นในที่นี้จึงขอนำเสนอตัวอย่างของกลยุทธ์ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ดังนี้
1) การออกแบบที่ลดส่วนประกอบที่เกินความจำเป็นในการประกอบบรรจุภัณฑ์ ปริมาณขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ที่มีสาเหตุมาจากการใช้ปริมาณบรรจุภัณฑ์เกินความจำเป็น การลดส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นต่อการทำหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์จึงเป็นการลดขยะไปในตัว ส่วนประกอบที่ควรนำมาพิจารณาได้แก่ บรรจุภัณฑ์ชั้นนอก ฟิล์มหุ้มชั้นนอก โบว์ ป้ายห้อยข้างบรรจุภัณฑ์ สติกเกอร์
2) การออกแบบให้บรรจุภัณฑ์มีน้ำหรักเบาและใช้วัสดุน้อย วัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นวัสดุภัณฑ์ที่ได้มาจากกระบวนการผลิตที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุภัณฑ์ การออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเป็นการลดปริมาณการใช้วัสดุ ซึ่งเปรียบเสมือนการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง โดยบรรจุภัณฑ์นั้นยังทำหน้าที่ในการปกป้องสินค้าให้เท่าเดิม
3) การออกแบบเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีก การทำให้บรรจุภัณฑ์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกหลายครั้งเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน การนำกลับมาใช้ซ้ำเป็นวิธีการที่สามารถลดผลกระทบที่เกิดกับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ซ้ำ บรรจุภัณฑ์ต้องแข็งแรงและทนทานต่อการนำกลับไปใช้ โดยเฉพาะในระหว่างการเก็บรักษา ควรมีระบบการจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว และระบบการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ การออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่าย
4) การออกแบบเพื่อให้นำกลับมาผลิตใหม่ การนำกลับไปผลิตใหม่เป็นการนำของที่ใช้แล้วนำกลับไปทำใหม่ หรือนำชิ้นส่วนเก่ากลับมาทำใหม่เพื่อให้ของเหล่านี้สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกคั้ง บรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วสามารถนำกลับมาสู้กรับวนการผลิตใหม่หรือการปรับปรุงใหม่ได้ โดยต้องมีระบบการจัดเก็บ รวบรวมและขนส่งที่เหมาะสม บรรจุภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ต้องมีภาพลักษณ์ที่สะดุดตามากขึ้นกว่าเดิม วิธีการนีจะเป็นการป้องกันไม่ให้มีขยะจากบรรจุภัณฑ์จึงเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดการกำจัดหลังการใช้งานแล้ว
5) การออกแบบเพื่อให้นำกลับมารีไซเคิล การรีไซเคิลเป็นการนำเอาบรรจุภัณฑ์ไปแปรรูปใหม่ อาจจะต้องมีการแยกเอาสารบางตัวออกก่อนเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ เช่น การแยกเหล็กออกจากเหล็กเคลือบดีบุก เป็นการนำวัสดุกลับไปเข้าสู่กระบวนการผลิตอีกครั้ง เช่น พลาสติก แก้ว และกระดาษ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุชนิดเดียวมีความเหมาะสมในการนำมารีไซเคิลมากที่สุด บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุหลายชั้นและเคลือบให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก่อให้เกิดปัญหาในการแยกชนิดวัสดุและการย่อยสลายเพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่ ด้วยเหตุนี้ผู้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันมักจะใช้วัสดุที่เป็นเนื้อเดียวกันในการทำบรรจุภัณฑ์เพื่อความสะดวกในการรีไซเคิล
6) การออกแบบเพื่อให้สามารถกำจัดทิ้งได้อย่างปลอดภัย บรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วถ้าไม่สามารถกำจัดทิ้งได้อย่างปลอดภัยจะทำให้เกิดปัญหาของขยะและมลพาตามมา โดยการกำจัดทิ้งสามารถทำได้ 3 วิธีคือ การหมักให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ (การทำปุ๋ย) การนำไปถมที่ และการเผาทำลาย โดยวิธีการกำจัดดังกล่าวมีข้อดี ข้อเสียและข้อจำกัดที่แตกต่างกันที่ควรต้องพิจารณา การหมักขยะให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ เกิดจากวัสดุที่เป็นสารอินทรีย์ที่ถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายได้ ทำให้เกิดปุ๋ยอินทรีย์ ดังนั้นคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาผลิตบรรจุภัณฑ์จึงต้องมีส่วนผสมหรือมาจากสารอินทรีย์ เช่น กระดาษ ไม้ พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทำจากแป้ง เป็นต้น การนำขยะไปถมที่เป็นการให้ขยะสลายตัวเองและถูกย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ วิธีนี้ต้องทำอย่างถูกต้อง เนื่องจากหากขาดอากาศและความชื้นที่เหมาะสม อาจไม่เกิดการย่อยสลายได้ การเผาทำลาย เป็นการทำลายขยะที่สามารถนำพลังงานกลับมาใช้ได้อีกและในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศเนื่องจากสารพิษสามารถแพร่กระจายได้ในอากาศเป็นวงกว้าง
7) การออกแบโดยไม่ใช้บรรจุภัณฑ์ เมื่อพิจารณาถึหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์อย่างถ่องแท้ มักจะพบว่าสามารถลดการใช้บรรจุภัณฑ์บางขั้นตอนออกไปได้ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ชั้นที่ 2 สิ่งที่เป็นปัญหาด้านบรรจุภัณฑ์คือการใช้บรรจุภัณฑ์เกินความจำเป็น
8) การออกแบบให้สินค้ามีความเข้มข้นสูงหรือวดปริมาณน้ำ สินค้าหลายชนิดที่สามารถผลิตให้มีความเข้มข้นสูงเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเติมน้ำหรือของเหลวได้เองเพื่อทำให้เจือจางและเหมาะสมกับการใช้งาน การทำให้บรรจุภัณฑ์มีขนาดเล็กลงหรือลดจำนวนบรรจุภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ลงได้เป็นการลดการใช้พลังงานในการขนส่งและลดการใช้วัสดุลง
9) การออกแบบให้มีดารรวมกลุ่มสินค้าต่อหน่วยบรรจุภัณฑ์ การรวมกลุ่มของหน่วยสินค้าย่อมมีโอกาสในการลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของบรรจุภัณฑ์ในอง่ของต้นทุนบรรจุภัณฑ์และค่าขนส่ง เช่น การบรรจุ 12 ขวดต่อกล่องย่อมประหยัดบรรจุภัณฑ์ๆด้ดีกว่าการบรรจุ 2 กล่องๆละ 6 ขวด
10) การออกแบบให้ลดจำนวนสีที่ใช้ในการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ ดารลดจำนวนสีในการพิมพ์ย่อมเป็นการลดค่าใช้จ่ายของบรรจุภัณฑ์ นักออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงจำเป็นต้องออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีจำนวนสีที่น้อน เช่น การพิมพ์สีเดียวและใช้ความสามารถในการออกแบบสร้างความเด่นและความเป็นเอกภาพของตัวบรรจุภัณฑ์ นอกจากสีที่ใช้แล้ว วัสดุเสริมต่างๆที่ใช้กับบรรจุภัณฑ์ เช่น กาวจะต้องไม่มีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น แคดเมียม สารหนู ทองแดง สังกะสี เป็นต้น

โดยศิริวรรณ โพธิ์ทอง
บัณพิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม
สาขาการจัดการโลจิสติกส์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

Share on Facebook Share

Share on TwitterTweet

Share on Google Plus Share

Share on Pinterest Share

Share on LinkedIn Share

Send email Mail

Print Print

บรรจุภัณฑ์ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร

ลักษณะของบรรจุภัณฑ์ที่ดี 1. จูงใจให้ซื้อ บรรจุภัณฑ์จึงต้องสะดุดตา น่าสนใจ 2. นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า 3. เร้าอารมณ์ให้อยากซื้อ ขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมของบรรจุภัณฑ์ช่วยเร้าอารมณ์ให้ผู้พบเห็นอยาก

สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คืออะไร

ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือ สินค้าที่ผลิตจากกระบวนการและเทคโนโลยีที่ใส่ใจกับผลกระทบที่จะเกิดกับสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบในการผลิต จนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ รอการบรรจุลงในหีบห่อและบรรจุภัณฑ์สำหรับเตรียมการขนส่งและจัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคต่อไป รวมถึงการ ...

บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งควรมีลักษณะอย่างไร

การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง(Transportationpack design) 1.ควรออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความแข็งแรง ต้านทาน เพียงพอสำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องคุ้มครองตัวสินค้า ไม่ให้เกิดความเสียหายจากการกระแทก กล่องกระดาษลูกฟูก หรือ วัสดุกันกระแทกรูปแบบต่างๆควรออกแบบให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อสิ่งกระทบภายนอก

กลยุทธ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมมีลักษณะอย่างไร

กลยุทธ์ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม 1. ออกแบบ! 2. ออกแบบให้บรรจุภัณฑ์มีน้ำหนักเบา / ใช้วัสดุน้อย 3. ออกแบบเพื่อให้สามารถน่ากลับมาใช้ซ้ำ 4 ออกแบบเพื่อให้น่ากลับมาผลิตใหม่ เพื่อลดส่วนประกอบที่เกินความจําเป็นในการบรรจุภัณฑ์.....................

บรรจุภัณฑ์ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คืออะไร บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่งควรมีลักษณะอย่างไร กลยุทธ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมมีลักษณะอย่างไร บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม มีลักษณะอย่างไร บรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ คือ บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง กลยุทธ์การออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมสามารถจำแนกได้ กี่ส่วน บรรจุภัณฑ์ มีอะไรบ้าง บรรจุภัณฑ์ที่ควรรณรงค์เพื่อนํากลับมาแปรรูปใช้ใหม่ มีอะไรบ้าง บรรจุภัณฑ์ คือ ปัญหาบรรจุภัณฑ์ทําจากวัสดุราคาแพงและย่อยสลายไม่ได้ สาเหตุ