ลำดับ ข้อสอบ 1 นักเรียนคิดว่า ใครเป็นคนแต่งบทละครพูด เรื่อง เห็นแก่ลูก Show 2.พระยาอุปกิตศิบปสาร 3.ดอกไม้สด 4.รัชกาลที่ ๖ 2 นักเรียนคิดว่าข้อใดมีความสำคัญที่สุดในบทละครพูด คำตอบ 1.ฉาก2.บทบรรยาย 3.บทสนทนา 4.ความสมจริง 3 พฤติกรรมทั่วไปของนายล้ำ แสดงให้เห็นว่าเป็นคนเช่นไร คำตอบ 1.ขี้โกง2.เกียจคร้าน 3.ไม่รับผิดชอบ 4.ไม่ชอบทำงานประจำ 4 นักเรียนคิดว่าบทละครพูด เรื่อง เห็นแก่ลูก มีกลวิธีการเขียนต่างจากปัจจุบันที่ข้อใด คำตอบ 1.สรรพนามที่ใช้2.การนำเสนอเรื่อง 3.เครื่องหมายวรรคตอน 4.การเรียงลำดับคำในประโยค 5 บทบรรยายในบทละครพูด มีประโยชน์มากที่สุดในข้อใด คำตอบ 1.เสริมเนื้อเรื่อง2.เสริมบทสนทนา 3.เชื่อมบทสนทนา 4.กำกับบทให้ตัวละครแสดง 6 “เครื่องประดับประดาเป็นของไม่มีราคา แต่ใช้ได้ดี ๆ” นักเรียนคิดว่าข้อความข้างต้นแสดงให้เห็นลักษณะของเจ้าของบ้านได้ตรงกับข้อใด คำตอบ 1.สมถะ2.ยากจน 3.ไม่ฟุ่มเฟือย 4.ตระหนี่ถี่เหนียว 7 “เห็นได้ว่าเป็นคนกินเหล้าจัด แต่งกายจะค่อนข้างจะปอน ๆ แต่ยังเห็นได้ว่าเคยเป็นผู้ดีมา ครั้งหนึ่งแล้ว” นักเรียนคิดว่าข้อใดแสดงให้เห็นว่าเคยเป็นผู้ดี คำตอบ 1.คำพูด2. รูปร่าง 3.หน้าตา 4.บุคลิกภาพ 8 นักเรียนคิดว่า อ้ายคำปฏิบัติต่อแขกของนายเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด 2.เหมาะสม เพราะแสดงท่าทางให้แขกเห็นว่าไม่ไว้ใจอย่างชัดเจน 3.ไม่เหมาะสม เพราะไม่ควรให้แขกเข้าบ้านเมื่อไม่น่าไว้วางใจ 4.ไม่เหมาะสม เพราะแสดงความสุภาพอ่อนน้อมมากเกินไป 9 นักเรียนคิดว่า ข้อใดเป็นคำกล่าวที่ไม่เหมาะสมแก่สถานการณ์ คำตอบ 1.แกไม่ต้องนั่งคอยอยู่กับฉันหรอก มีธุระอะไรก็ไปทำเสียเถอะ2.ถ้าจะต้องคอยอยู่เพราะฉันละก็ ฉันขอบอกว่าไม่จำเป็น แกจะไปก็ได้ 3.ฮะ ๆ ฮะ ๆ แกเห็นท่าทางฉันมันไม่ได้การกระมัง 4. แต่ที่จริงฉันนะเป็นผุ้ดีเหมือนกัน มีตระกูลไม่ต่ำไม่เลวไปกว่าเจ้าคุณภักดีเลย 10 นักเรียนคิดว่า เพราะเหตุใดพระยาภักดีฯ จึงให้เงินนายล้ำและขอร้องแกมบังคับให้รีบหนีไป คำตอบ 1.ให้ไปตั้งตัวใหม่2.ให้เป็นสินน้ำใจในฐานะเพื่อนเก่า 3.ตอบแทนนายล้ำที่ยกแม่ลออให้ 4.ให้ตอบแทนที่สำนึกตัวได้ บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เป็นบทละครพูดเรื่องแรกของไทยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ประพันธ์ โดยมุ่งหวังให้ละครเป็นตัวช่วยกล่อมเกลาจิตใจประชาชน แต่นอกจากตัวบทจะมีความโดดเด่นจนได้รับความนิยมอย่างมากแล้ว ยังแฝงแนวคิดมากมายไว้ในเรื่อง จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปเรียนรู้เรื่องพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ตัวบทเด่น ๆ ใน บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกตัวบทที่ 1 พระยาภักดี : ใครวะ อ้ายคำ : อ้างว่าเป็นเกลอเก่าของใต้เท้า ผมบอกว่าใต้เท้ายังไม่กลับจากออฟฟิศก็ไม่ยอมไป เดินเรื่อยขึ้นมาที่นี่ว่าจะคอยพบใต้เท้า พระยาภักดี : แล้วยังไงล่ะ บทสนทนานี้เป็นบทสนทนาของพระยาภักดีนฤนาถกับอ้ายคำบ่าวรับใช้ สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือระดับภาษาผ่านการสนทนาระหว่างนายกับบ่าวที่มีการใช้ภาษาแตกต่างกันตามสถานะของผู้พูด ตัวบทที่ 2 พระยาภักดี : (มองดู) ฉันไม่สู้แน่ใจ ดูเหมือนจะได้จำได้คลับคลา นายล้ำ : ก็ยังงั้นซิครับ ใต้เท้ามีบุญขึ้นแล้วจะมาจดมาจำคนเช่นผมยังไงได้ พระยาภักดี : ฮือ! พิศ ๆ ไปก็ออกจะจำได้ นายล้ำไม่ไหม บทสนทนาระหว่างพระยาภักนฤนาถกับอดีตเพื่อนเก่าอย่างนายล้ำที่เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ ในบทนี้จะเด่นเรื่องของคำศัพท์และสำนวนเก่า ๆ ที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักในยุคสมัยปัจจุบัน เช่น มีบุญขึ้นแล้ว หมายถึงมีชีวิตที่ดีขึ้น ตัวบทที่ 3 แม่ลออ : …ถ้าใครบอกดิฉันว่าเป็นคนไม่ดี ดิฉันไม่ยอมเชื่อเป็นอันขาดเทียว แต่ท่านก็เป็นคนดีจริง ๆ อย่างทิ่ดิฉันนึกเดาเอาใจ คุณพ่อนี่ก็ได้บอกดิฉันว่างั้น จริงไหมคะคุณพ่อ นายล้ำ : ถ้าใครบอกหล่อนว่าพ่อหล่อนที่ตายน่ะเป็นคนไม่ดีละก็หล่อนเป็นไม่ยอมเชื่อเลยเทียวหรือ? แม่ลออ : ดิฉันจะเชื่อยังไง ดูในรูปก็เห็นว่าเป็นคนดี บทสนทนาระหว่างแม่ลออกับนายล้ำ ซึ่งแม่ลออไม่รู้ว่านายล้ำคือบิดาแท้ ๆ จึงพูดถึงบิดาที่เข้าใจว่าเสียชีวิตไปแล้วในแง่ดีตามที่ได้ฟังมาจากพระยาภักดีนฤนาถ ซึ่งบทนี้โดดเด่นเพราะเป็นจุดที่ทำให้นายล้ำละอายแก่ใจจนในที่สุดก็ไม่บอกความจริงกับแม่ลออว่าเป็นบิดาแท้ ๆ เป็นที่มาของชื่อเรื่อง เห็นแก่ลูก คุณค่าคุณค่าด้านเนื้อหา ช้อคิดในบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก สะท้อนให้เห็นถึงความรักที่พ่อแม่มีให้ลูกถึงแม้จะมีช่วงเวลาที่หลงผิด แต่สุดท้ายก็นึกถึงความสุของลูกเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นายล้ำกับพระยาภักดีเป็เพื่อนที่เคยรัชราชการตำแหน่งเดียวกัน แต่ชีวิตของนายล้ำดิ่งลงเหวหลังจากทำเรื่องไม่ดีจนเป็นเหตุให้ต้องติดคุก ผลกรรมคือหมดอนาคตและไม่ได้อยู่กับลูกอีกต่อไปได้ คุณค่าด้านสังคม ในบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก สะท้อนค่านิยมวัฒนธรรมในยุคสมัยนั้นไดอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย และสภาพสังคม ทำให้เห็นถึงความเป็นอยู่ บ้านเมืองในสมัยรัชกาลที่ 6 คุณค่าด้านวรรณศิลป์ วรรณศิลป์ที่โดดเด่นในวรรณคดีเรื่องนี้คือการใช้ถ้อยคำที่สมจริง ทำให้แสดงอารมณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีการใช้ระดับภาษาที่เด่นชัดและถูกต้องเหมาะสม นอกจากนี้ในเรื่องยังมีทั้งสำนวนเก่า ๆ ที่หาฟังยาก การใช้คำเก่าที่ไพเราะและยังมีการทับศัพท์อีกด้วย จบไปแล้วนะสำหรับบทละครเรื่องเห็นแก่ลูกในส่วนของตัวบทเด่น ๆ ที่น่าสนใจและคุณค่าข้อคิดที่อยู่ในเรื่อง น้อง ๆ อ่านแล้วคงจะสัมผัสได้ถึงความงดงามของภาษาที่เรียบง่ายและข้อคิดที่ได้จากเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่อของครอบครัวที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ถือว่าเป็นวรรณคดีที่มีประโยชน์สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริงค่ะ สุดท้ายนี้น้องๆ อย่าลืมไปรับชมคลิปการสอนของครูอุ้มเพื่อฟังคำอธิบายเพิ่มเกี่ยวคำศัพท์ ตัวบทเด่น ๆ และเกร็ดความรู้อื่น ๆ อีกมากมาย ไปรับชมและรับฟังเลยค่ะ ประเมินค่าบทประพันธ์ อย่าพลาดการติดตามบทความภาษาไทยจาก nockacademy โครงเรื่องของบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกคือข้อใดเนื้อเรื่อง บทละครพูดเรื่อง เห็นแก่ลูก แสดงถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกผ่านพฤติกรรมของตัวละครแต่ละตัว โดยพระยาภักดีนฤนาถ เป็นตัวแทนของบิดาเลี้ยงที่ทำหน้าที่พ่อด้วยความเต็มใจ ส่วนนายล้ำ เป็นตัวแทนของบิดาผู้ให้กำเนิดซึ่งสามารถเปลี่ยนความเห็นแก่ตัวไปเป็นความเห็นแก่ลูกได้ในที่สุด ศิลปะการประพันธ์
พระมหากษัตริย์พระองค์ใดทรงประพันธ์บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เรื่องเห็นแก่ลูกเป็นบทละครพูดขนาดสั้น มีความยาวเพียงองค์เดียวและมีฉากเดียว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้พระนามแฝงในการพระราชนิพนธ์ว่า พระ ขรรค์เพชร บทละครพูดเรื่องนี้พระองค์ทรงคิดเค้าโครงเรื่องขึ้นเอง มิได้ทรงแปลหรือดัดแปลง
ผู้แต่งบทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกมีจุดประสงค์ในการแต่งอย่างไรละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงใช้พระนามแฝงในบทพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ว่า พระขรรคเพชร โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ เป็นบทส าหรับแสดงละครและใช้ส าหรับอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังทรงใช้การแสดงละคร เป็นสื่อช่วยกล่อมเกลาอบรมจิตใจของประชาชนและมีพระราชประสงค์เพื่อ ...
บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูกได้รับการแปลเป็นภาษาอะไรบ้างได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ถึง ๑๓ ภาษา ได้แก่ ภาษาญี่ปุ่น จีน นอร์เวย์ สเปน รัสเซีย อังกฤษ อินโดนีเซีย อาหรับ ฮินดี สิงหล มาเลย์ ฝรั่งเศส เกาหลี เพื่อเฉลิม พระเกียรติในงานฉลองวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มาของเรือง
|