บทความทางวิชาการ Show เรื่องความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน โดย นางสาวพนิดา แก่นสำโรง ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานนั้นเกี่ยวข้องกับความรู้สึกความคิดเห็นและอารมณ์ที่พึงพอใจสบายใจต่องานและนายจ้างอันมีผลมาจากได้รับการตอบสนองความต้องการและ ได้มีนักวิชาการได้ให้ความหมายของความพึงพอใจไว้หลากหลาย ดังนี้ กิติมาปรีดีดิลก (2529 : 321) กล่าวว่าความพึงพอใจในการปฏิบัติงานหมายถึงความรู้สึกชอบหรือ พอใจที่มีต่อองค์ประกอบและสิ่งจูงใจในด้านต่างๆของงานและผู้ปฏิบัติงานนั้นได้รับการตอบสนองความต้องการ เกรียงไกรเจริญพานิช (2541 : 10) ได้ให้ความหมายของความพึงพอใจในการปฏิบัติงานหมายถึงความรู้สึกหรือเจตคติที่ดีของบุคคลที่มีต่องานที่กำลังปฏิบัติอันเนื่องมาจากปัจจัยหรือองค์ประกอบต่างๆในการทำงานเช่นลักษณะงาน สภาพแวดล้อมการทำงานและผลประโยชน์ตอบแทนอื่นๆถ้าองค์ประกอบเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสมก็มีผลทำให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน ธงชัย สันติวงษ์ (2529 : 359) กล่าวว่าถ้าบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้เห็นช่องทางหรือโอกาสที่ตนจะสามารถตอบสนองแรงจูงใจที่ตนมีอยู่แล้วก็จะทำให้ความพึงพอใจของตนดีขึ้นหรืออยู่ในระดับสูง หากฝ่ายบริหารจัดให้คนงานได้มีโอกาสตอบสนองแรงจูงใจของตนแล้วความพึงพอใจของคนงานจะสูงและผลงานก็จะดีตามไปด้วย ประภาสเกตุแก้ว (2546 : 11 อ้างอิงจาก Morse 1953 : 27) กล่าวว่าความพึงพอใจหมายถึงสภาวะจิตที่ปราศจากความเครียดทั้งนี้เพราะธรรมชาติของมนุษย์มีความต้องการถ้าความต้องการนั้นได้รับการ ตอบสนองทั้งหมดหรือบางส่วนความเครียดก็จะน้อยลงความพึงพอใจก็จะเกิดขึ้นและในทางกลับกันถ้าความต้องการนั้นไม่ได้รับการตอบสนองความเครียดและความไม่พอใจก็จะเกิดขึ้น ปรียาพรวงศ์อนุตรโรจน์ (2535 : 156) กล่าวถึงความพึงพอใจการปฏิบัติงานไว้ ดังนี้ฝ่ายจัดการและฝ่ายบริหารแม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่เกี่ยวกับบุคคลเช่นอายุการศึกษาบุคลิกภาพ แต่ก็สามารถจัดและสรรหารวมทั้งบรรจุบุคลากรให้เหมาะสมกับงานที่ทำซึ่งควรพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีส่วนในการทำให้เกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานด้วย ไพศาล อุ่นโรจน์ (2546 : 23 อ้างอิงจากGood. 1973 : 320) ให้ความหมายความพึงพอใจว่าหมายถึงสภาพหรือระดับความพึงพอใจซึ่งเป็นผลจากความสนใจต่างๆ และทัศนคติของบุคคลต่อกิจกรรม ยงยุทธเกษสาคร (2544 : 158 อ้างอิงจากFrench. 1959 : 356) ได้กล่าวว่าคนจะเกิดความพึงพอใจในการทำงานได้ถ้าสถานภาพทางสังคมของคนดีซึ่งก็หมายถึงการบริหารงานดีทั้งนี้เพราะลักษณะงานที่ดีจะก่อให้เกิดสถานภาพทางสังคมสูงและทำให้บุคคลสามารถปรับบุคลิกภาพของคนเข้ากับสภาพสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้ปัจจัยที่สร้างความพึงพอใจในการปฏิบัติงานนั้น ได้แก่ความมั่นคงในอาชีพเงินเดือนหรือค่าจ้างความเป็นธรรม มนุษยสัมพันธ์มีสวัสดิการและผลประโยชน์เกื้อกูลสภาพการทำงานดีมีความก้าวหน้ามีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง ขึ้นค่าจ้างเงินเดือนและเพิ่มพูนคุณวุฒิงานที่ทำเป็นอาชีพที่มีเกียรติในสังคมดังนั้นเมื่อบุคคลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้ก็ย่อมมีความพึงพอใจในการทำงาน วงเดือนผ่องแผ้ว (2545 : 11 อ้างอิงจากDavis. 1967 : 81) ได้กล่าวถึงความพึงพอใจว่า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุคคลเมื่อความต้องการพื้นฐานทั้งร่างกายและจิตใจได้รับการตอบสนองพฤติกรรมเกี่ยวกับความพึงพอใจของมนุษย์เป็นความพยายามที่จะขจัดความตึงเครียดหรือความกระวนกระวาย หรือภาวะไม่สมดุลในร่างกายเมื่อสามารถขจัดสิ่งต่างๆ ดังกล่าวออกไปได้รับความพึงพอใจในสิ่งที่ต้องการ จากการศึกษาถึงความพึงพอใจในการปฏิบัติงานกล่าวโดยสรุปได้ว่า ความพึงพอใจใน การปฏิบัติงาน หมายถึง การได้รับการตอบสนองความมั่นคงในปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดแรงจูงใจหรือ กระตุ้นในการปฏิบัติงาน ทำให้เกิดกำลังใจเต็มใจที่จะปฏิบัติงาน มีความสุขในการทำงาน ซึ่งส่งผลให้ผลงานมีประสิทธิภาพ ปัจจัยและองค์ประกอบที่มีผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ปัจจัยที่ทำให้เกิดความรู้สึกยินดีมีความสุข และเต็มใจในการทำงานหรือมีเจตคติทางบวกต่องานที่กำลังปฏิบัติอยู่หรือทำให้เกิดความพึงพอใจในการปฏิบัติงานนั้นเป็นปัจจัยที่ทำให้บุคลากรเกิดความพยายามกระตุ้นให้อยากทำงาน จนประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์การปัจจัยดังกล่าวมีนักวิชาการได้แสดงเจตคติไว้ ดังนี้ โชคดีรักทอง (2523 : 19) ได้กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้บุคลากรเกิดความพึงพอใจในการทำงานนั้นมี ดังนี้ คือ 1. ความมั่นคงปลอดภัย (Security) เป็นความมั่นคงในการทำงานซึ่งผู้ปฏิบัติงานจะมีความรู้สึกว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเป็นอันดับแรกที่จะทำให้ตนรู้สึกพึงพอใจในการทำงาน และความต้องการความมั่นคงปลอดภัยนี้จะมากขึ้นตามอายุผู้ปฏิบัติงานนอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่มีการศึกษาสูงมักจะรู้สึกมั่นคงในการทำงานมีความสำคัญน้อยกว่าผู้มีการศึกษาต่ำ 2. โอกาสก้าวหน้าในการทำงาน (Opportunity) ได้แก่การมีโอกาสได้เลื่อนขั้นตำแหน่งการงานสูงขึ้นการมีโอกาสก้าวหน้าในการทำงานที่มีจากความสามารถของตนเองนั้นย่อมทำให้เกิดความภาคภูมิใจเกิดความพึงพอใจในการทำงาน นอกจากนี้ยังพบว่าเพศชายมีความต้องการในเรื่องนี้มากกว่าเพศหญิง (ตามผลงานวิจัย) แต่ความต้องการในลักษณะนี้จะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น 3. สถานที่ทำงานและการจัดการ (Company and management) ได้แก่ขนาดขององค์การชื่อเสียงรายได้และการจัดการประชาสัมพันธ์เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการทำงาน ผู้มีอายุมากจะมีความต้องการในปัจจัยนี้มากกว่าผู้ที่มีอายุน้อย 4. ค่าจ้างหรือรายได้ (Wages) ผู้ปฏิบัติงานจัดอันดับค่าจ้างไว้ในอันดับเกือบสูงสุดแต่ยังน้อยกว่าโอกาสก้าวหน้าในการทำงานและความมั่นคงปลอดภัยองค์ประกอบนี้มักจะก่อให้เกิดความไม่พึงพอใจในการทำงานมากกว่าความพึงพอใจเพศชายจะเห็นค่าจ้างเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าเพศหญิง 5. ลักษณะของงานที่ทำ (Intrinsic aspect the job) องค์ประกอบนี้จะมีส่วนสัมพันธ์กับความสามารถ ของผู้ปฏิบัติงานกล่าวคือหากผู้ปฏิบัติได้ทำงานตามที่ตนเองต้องการหรือถนัดแล้วจะเกิดความพึงพอใจในการทำงาน 6. การควบคุมดูแลหรือบังคับบัญชา (Supervisor) ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้เกิดความพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจต่องานได้เพศหญิงมักจะให้ความสำคัญต่อองค์ประกอบนี้มากกว่าเพศชายและ จะเป็นองค์ประกอบที่เป็นสาเหตุให้ผู้ปฏิบัติงานขาดงานหรือลาออกได้ 7. ลักษณะทางสังคม (Social aspects of the job) เป็นลักษณะที่ผู้ปฏิบัติงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมหรือต้องการให้สังคมยอมรับตนเอง หากผู้ปฏิบัติงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแล้วจะก่อให้เกิดความพึงพอใจในการทำงานขึ้นองค์ประกอบนี้มีความสัมพันธ์กับอายุและระดับงานและเพศหญิงจะให้ความสำคัญต่อองค์ประกอบนี้มากกว่าเพศชาย 8. การติดต่อสื่อสาร (Communication) ได้แก่การรับส่งข้อมูลต่างๆคำสั่งการทำงานรายงานการติดต่อทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้มีความสำคัญมากต่อการปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และผู้มีการศึกษาระดับสูงจะให้ความสำคัญต่อองค์ประกอบนี้ 9. สภาพการทำงาน (Working condition) ได้แก่สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น อุณหภูมิแสงสว่างเสียงห้องทำงานห้องอาหารองค์ประกอบเหล่านี้มีความสำคัญต่อเพศหญิงมากกว่าเพศชาย แต่เพศชายจะให้ความสำคัญต่อชั่วโมงการทำงานมากกว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานด้านอื่นๆ 10. ผลประโยชน์ตอบแทน (Benefits)ได้แก่เงินบำเหน็จบำนาญค่ารักษาพยาบาล เงินสวัสดิการวันหยุดวันพักผ่อนต่างๆ ยงยุทธเกษสาคร (2544 : 161) กล่าวว่าความพึงพอใจในการทำงานของบุคลากรมีองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ 1. ค่าตอบแทนและค่าจ้างหรือรายได้ (Compensationvsnd self) มีบทบาทสำคัญต่อความพึงพอใจในการทำงานเพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการที่จะให้ได้มาซึ่งความต้องการต่างๆ เช่นอาหารเครื่องแต่งกายนอกจากนี้รายได้ยังเป็นสัญลักษณ์ของสัมฤทธิผลและเป็นที่มาของบุคคลที่มีคุณค่าและได้รับการยอมรับ 2. ลักษณะงานที่ทำ (Work itself) เป็นลักษณะงานที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความพึงพอใจคือความหลากหลายและการควบคุมวิธีการทำงานและความสอดคล้องของงานโดยทั่วไปลักษณะงานที่น่าพอใจ จะต้องมีปริมาณความหลากหลายไม่น้อยเกินไปเพราะจะทำให้เกิดความเบื่อหน่ายส่วนงานที่มากเกินไปก็จะทำให้เกิดความเครียดของอารมณ์งานโดยทั่วไปจะให้อำนาจลูกจ้างในการทำงานเองถ้านายจ้าง เข้ามาควบคุมวิธีการทำงานต่างๆทุกอย่างก็จะทำให้เกิดความไม่พอใจ 3. การเลื่อนตำแหน่ง (Promotion) มีผลต่อความพึงพอใจในงานเพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่ ระดับที่สูงขึ้นท้าทายมากขึ้นมีอิสระมากขึ้นการเลื่อนตำแหน่งมีความแตกต่างกันแต่ละแห่งเงินเดือนเพิ่มมากน้อยต่างกันซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญต่อระดับผู้บริหารมากกว่าคนงานทั่วไป 4. การบังคับบัญชา (Supervision) ลักษณะของผู้บังคับบัญชามี2 แบบที่มีผลต่อความพึงพอใจในงานแบบแรกคือ การให้ลูกจ้างเป็นศูนย์กลางหรือให้สิทธิลูกจ้างมีส่วนร่วมในการพิจารณาผู้บังคับบัญชาต้องสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลโดยให้การสนับสนุนหรือให้ความสนใจส่วนบุคคล ในแบบที่สอง ลักษณะการบังคับบัญชาต้องมีการกระจายอำนาจในการตัดสินใจให้ลูกจ้างมีส่วนร่วมในการตัดสินใจลูกจ้างที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจมีผลต่อความพึงพอใจในงานในระดับที่สูงขึ้นต่อผู้บังคับบัญชาและสภาพการทำงาน 5. ทีมงาน (Team work) การมีมิตรภาพในการทำงานเป็นทีมและสัมพันธภาพของผู้ร่วมงานมีผลต่อความพึงพอใจในงานของลูกจ้างแต่ละคนบุคคลที่ชอบจะได้มีโอกาสได้พบปะสนทนากับบุคคลอื่นที่เขาต้องทำงานด้วย ไม่ชอบงานที่พวกเขาต้องแยกออกจากคนอื่นๆกลุ่มทำงานเป็นกลุ่มทางสังคมของลูกจ้างที่มีการสมาคมกันอย่างไม่เป็นทางการบุคคลมักจะมีผู้ร่วมงานเป็นที่ปรึกษาปัญหาของเขาเองและเป็นที่มาของความพอใจ 6. สภาพบรรยากาศในการทำงานวัสดุอุปกรณ์อุณหภูมิความชื้นการระบายอากาศแสงและเสียง ตารางการทำงานและความสะอาดของที่ทำงานซึ่งทั้งหมดมีผลต่อความพึงพอใจของงานทั้งสิ้น สมพงษ์เกษมสิน (2526 : 320-321) ได้กล่าวถึงปัจจัยที่ทำให้บุคลากรเกิดความพึงพอใจ ในการทำงานเป็น2 ปัจจัยคือ 1. ปัจจัยที่เป็นเงิน (Financial incentive) ได้แก่ค่าจ้างค่ารักษาพยาบาล บำเหน็จบำนาญและสวัสดิการเป็นต้น 2. ปัจจัยที่ไม่ใช่เงิน (Non financial incentive) ได้แก่สิ่งที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการทาง จิตใจเช่นการยกย่องชมเชยการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะโอกาสก้าวหน้าในการปฏิบัติหน้าที่เท่าเทียมกันเป็นต้น จากการศึกษาปัจจัยและองค์ประกอบที่มีผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบัติงานกล่าวโดยสรุปได้ว่า องค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้เกิดความพึงพอใจคือมนุษย์ต้องการความมั่นคงปลอดภัยโอกาสก้าวหน้าในการทำงานความพอใจในการจัดการ ค่าจ้างค่าตอบแทนลักษณะการทำงานการสื่อสารการบังคับบัญชาสภาพบรรยากาศในการทำงานสิ่งตอบแทนโดยมีองค์ประกอบในด้านเพศการศึกษาอายุความสามารถและบุคลิกภาพเป็นสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดความพึงพอใจจากการตอบสนองความต้องการนั้นๆดังนั้นผู้บริหารหน่วยงานต่างๆต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญในเรื่องความพึงพอใจของ บุคลากรในทุกๆด้านเมื่อบุคลากรภายในองค์กรได้รับการตอบสนองตามความพึงพอใจแล้วก็จะส่งผลให้องค์กรนั้นได้รับผลผลิตและบรรลุเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ความพึงพอใจในงานคืออะไร“ความพึงพอใจในการทํางาน” (Job Satisfaction) หมายถึง ความรูสึกนึกคิดหรือ ทัศนคติในทางที่ดีของบุคคลที่มีตอองคประกอบตางๆ ของงาน และผูปฏิบัตินั้นไดรับการ ตอบสนองความตองการทั้งทางดานรางกายและจิตใจ ทําใหบุคคลเกิดความพึงพอใจในการ ทํางานและสงผลใหทํางานบรรลุวัตถุประสงคขององคการ
ปัจจัยใดบ้างที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในอาชีพปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจของพนักงาน. 1.คน ... . 2.งาน ... . 3.โอกาสความก้าวหน้า ... . 4.อัตราจ้างและสวัสดิการ ... . 5.สภาพแวดล้อมในการทำงาน ... . 6.การบริหารงานบุคคล ... . 7.สถานการณ์ของธุรกิจและองค์กรในขณะนั้น ... . 1.ตั้งประเด็นในการสำรวจความพึงพอใจ. ความพอใจคืออะไรความพึงพอใจ (Satisfaction) หมายถึง ภาวะของอารมณ์ ความรู้สึกร่วม ของบุคคลที่มีต่อ การเรียนรู้ ประสบการณ์ที่เกิดจากแรงจูงใจซึ่งเป็น พลังภายในของแต่ละบุคคล อันเป็นความสัมพันธ์ ระหว่างเป้าหมายที่คาดหวังและความต้องการ ด้านจิตใจ นาไปสู่การค้นหาสิ่งที่ต้องการ มา ตอบสนอง เมื่อได้รับการตอบสนองความต้องการ แล้วจะเกิดความรู้สึกมี ...
นิสัยแห่งคุณภาพ 7 ประการมีอะไรบ้างอุปนิสัย 7 ประการสำหรับผู้มีประสิทธิภาพ. 1. ต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำก่อน (Be Proactive) ... . 2.เริ่มต้นโดยมีเป้าหมายชัดเจน (Begin with the end in mind) ... . 3.ทำสิ่งสำคัญกว่าก่อน (Put first things first) ... . 4.ชอบคิดแบบชนะ-ชนะ (Think Win-Win) ... . 5.การพยายามเข้าใจคนอื่นก่อน (Seek first to understand then to be understood). |