ความเชื่อที่ว่ายิ่งส่งเรซูเม่มาก ยิ่งมีสิทธิมาก เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะเราอาจได้งานที่ผิดเพี้ยนไปจากความต้องการจริง ๆ Show
การหางาน หรือฝากเรซูเม่ผ่านเว็บไซต์หางานเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก แต่อย่าลืมลองมองหางานผ่านช่องทางอื่นด้วยอย่าง Social Media เว็บไซต์ของบริษัท คนรู้จัก และการ Walk-in จดรายละเอียดการสมัครงานแต่ละที่ให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้สับสนและเกิดปัญหาเมื่อถูกเรียกไปสัมภาษณ์หรือได้รับแจ้งว่าได้งานแล้ว หากจะพูดถึงการหางานในปัจจุบัน ก็จะมีบริการ วิธี และช่องทางมากมายทำให้การหางานสะดวกขึ้น จากต้องเดินทางเพื่อส่งใบสมัครตามบริษัท ก็กลายมาเป็นส่งใบสมัครผ่านคอมพิวเตอร์ เว็บเบราว์เซอร์บนมือถือ จนเป็นแอปพลิเคชัน แต่เมื่อวิธีการง่ายขึ้น วิธีทำก็มีประสิทธิภาพน้อยลง ทำเรซูเม่ลวก ๆ หรือส่งใบสมัครแบบหว่านหลาย ๆ บริษัท ไม่ว่าปัจจุบันวิธีหางานจะง่ายแค่ไหน หรือในอนาคตจะง่ายกว่านี้ คนหางานก็ควรใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ให้มีน้อยลง เมื่อการหางานมีประสิทธิภาพก็จะได้ทำงานในบริษัทที่มีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของเรามากขึ้นตามมาด้วย JobThai จะมาบอก 4 วิธีที่จะทำให้การหางานของเรามีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมสำหรับคนหางานกัน 1. รู้จักตัวเองและวางเป้าหมายหากตัวเราคลุมเครือเอง การจะหางานให้ตรงกับที่ต้องการจริง ๆ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราควรรู้ก่อนว่าสิ่งที่เรียนหรือการทำงานในช่วงที่ผ่านมา กับสิ่งที่อยากทำตอนนี้ยังคงเป็นสิ่งเดียวกันอยู่ไหม จากนั้นค่อยวางเป้าหมายในอาชีพอีกครั้ง อยากทำงานที่ไหน และเติบโตขึ้นไปอย่างไร เป็นคนสำคัญในองค์กรเล็กที่อาจมาพร้อมกับความเสี่ยง หรือฟันเฟืองที่มั่นคงในองค์กรใหญ่ นั่นก็อยู่ที่เราจะตัดสินใจและเป็นคนกำหนด 2. คุณภาพและปริมาณการส่งเรซูเม่ที่พอดีเก็บความเชื่อที่ว่า ‘ยิ่งส่งมาก ยิ่งมีสิทธิมาก’ ใส่กระเป๋าไปเลยนะถ้าจะใช้กับการสมัครงาน การหางานแบบหว่านไปเรื่อย ๆ เพราะคิดว่าต้องมีสักที่ที่รับเป็นเรื่องที่ผิด การเลือกส่งเรซูเม่เพื่อสมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการทำ และเหมาะสมกับความสามารถของเราจริง ๆ มันจะส่งผลดีมากกว่าเมื่อถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน เพราะงานนั้นเป็นงานที่เราตั้งใจอยากจะทำจริง ๆ หากไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำงานอะไรเลยส่ง ๆ ไปก่อน รวมถึงสมัครงานหลายตำแหน่งในบริษัทเดียวกัน ผลเสียจะตามมาแน่นอนเพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความไม่เป็นมืออาชีพของเรา 3. อย่าลืมใช้ช่องทางเก่า ๆ ก่อนที่เราจะมีเทคโนโลยีมาช่วยแม้การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการหางานอย่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจะง่าย สะดวก รวดเร็ว และเป็นการเปิดโอกาสให้เราเจองานที่หลากหลาย แต่เราต้องไม่ลืมการหางานช่องทางอื่นด้วย เช่น การพูดคุยกับคนรู้จัก หรือเข้าไปสอบถามและสมัครที่บริษัทโดยตรงก็เป็นการเปิดโอกาสในการได้งานมากขึ้น นอกจากนั้นเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบริษัทก็เป็นช่องทางที่น่าสนใจเหมือนกัน ยิ่งถ้าเรามีบริษัทในใจอยู่แล้วการติดตามประกาศหางานของบริษัทนั้น ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย 4. จดรายละเอียดตำแหน่งและบริษัทที่ส่งใบสมัครไปการส่งใบสมัครงานแต่ละครั้งเราควรจดรายละเอียดและตำแหน่งที่เราสมัครของบริษัทนั้น ๆ ไว้ด้วย เพื่อกันความสับสนหรือจำตำแหน่งงานสลับกันเมื่อถูกติดต่อกลับมาเพื่อเรียกไปสัมภาษณ์ หรือแจ้งเรื่องรับเข้าทำงาน การฝากเรซูเม่บนเว็บไซต์หางานแล้วมีบริษัทติดต่อมา ในกรณีนี้ก็ควรจดชื่อบริษัท ตำแหน่ง รวมถึงชื่อคนติดต่อเอาไว้ด้วยเช่นกัน การถูกปฏิเสธจากบริษัท ทั้งไม่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์หรือเรียกไปสัมภาษณ์แล้วแต่ไม่รับเข้าทำงานเป็นเรื่องปกติที่คนหางานต้องเจอ สิ่งที่ต้องทำก็คือพิจารณาว่าข้อผิดพลาดคืออะไร เช่น เรซูเม่ของเรายังไม่น่าสนใจหรือทำอะไรพลาดระหว่างสัมภาษณ์ แล้วก็พัฒนามันให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป หรืออาจไม่ใช่เพราะความสามารถของเราไม่พอ แต่เป็นเพราะเราไม่เหมาะกับบริษัทหรือตำแหน่งเหล่านั้นต่างหาก การพลาดจากงานนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะพลาดตลอดไป ความสำเร็จจะมาหาคนที่มีความพยายามและไม่ย่อท้อเสมอ tags : นักศึกษาจบใหม่, อาชีพ, freshgrad, career & tips, หางาน, สมัครงาน, เคล็ดลับสมัครงาน, เทคนิคหางาน, เทคนิคสมัครงาน, เทคนิคสำหรับเด็กจบใหม่, เคล็ดลับสำหรับเด็กจบใหม่, เด็กจบใหม่, คนทำงาน, เคล็ดลับการทำงาน, fresh graduate, จบใหม่ต้องรู้ การสมัครงานผ่านอีเมล เป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้เพราะมีพื้นที่ให้สามารถแนะนำตัวเองคร่าว ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่อยู่ในเรซูเม่ได้ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าส่งอีเมลสมัครงานไปทีไรก็ไม่มีใครตอบกลับมาสักที ปัญหาตรงนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งหัวข้ออีเมล เนื้อหาอีเมล จนไปถึงชื่อและที่อยู่อีเมลของผู้รับก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้คุณไม่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์งานได้ทั้งนั้น บทความนี้จาก JobThai เลยจะมาบอก “วิธีเขียนอีเมลสมัครงาน” ที่คุณสามารถเอาไปเขียนตามง่าย ๆ และเข้าตา HR ได้มากขึ้น
นอกจากนี้การตั้งชื่อไฟล์ดี ๆ ก็สำคัญ อย่าตั้งชื่อไฟล์ประเภท 555.PDF หรือไม่ตั้งชื่อเลยจนทำให้ไฟล์กลายเป็นชื่อ Untitled.PDF คุณควรแยกประเภทไฟล์ผ่านชื่อให้ชัดเจน เช่น ชื่อจริง_Resume.PDF, ชื่อจริง_Portfolio.PDF เพราะนอกจากจะทำให้ HR เปิดอ่านไฟล์ได้ง่ายแล้วยังจะทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพในการสมัครงานมากขึ้นอีกด้วย *หากไม่มี หรือไม่แน่ใจว่า Resume ของตัวเองจะละเอียดมากพอไหม แต่มีประวัติที่ฝากไว้กับ JobThaiอยู่ ก็สามารถ Save ประวัติที่ฝากไว้กับเราออกมาเป็น “ไฟล์ PDF” เพื่อใช้แทน Resume ของคุณเองได้ STEP 1 ใส่ผู้รับและหัวข้อให้ครบ
*ควรส่งอีเมลครั้งละหนึ่งบริษัท เพราะไม่อย่างนั้น HR จะเห็นได้ว่าคุณส่งอีเมลไปที่ไหนบ้างที่ช่อง “To: ...” หากเค้าเห็นว่าคุณหว่านใบสมัครครั้งละเยอะ ๆ โอกาสในการได้งานก็อาจจะลดลง STEP 2 เขียนเนื้อหาอีเมลสมัครงานให้น่าสนใจอีเมลสมัครงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ 1. คำทักทาย และคำลงท้าย
2. รายละเอียดอีเมล
STEP 3 ตรวจสอบรายละเอียดในอีเมลอีกครั้ง
นอกจากนี้การเขียนอีเมลสมัครงานก็ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ ที่จะทำให้คุณได้คะแนนความน่าสนใจเพิ่มขึ้น
ถ้าคุณทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ คุณก็จะเป็นผู้สมัครที่เขียนอีเมลสมัครงานได้แบบเซียน ๆ และกลายเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจแล้ว บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 20 มีนาคม 2020 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai ที่มา: fdirecruit.co.thmailmaster.co.thhotcourses.in.thtags : jobthai, งาน, หางาน, สมัครงาน, คนทำงาน, คนหางาน, 10 วิธีหางาน, 4 วิธีสมัครงาน, อีเมล, ส่งอีเมลสมัครงาน, ส่งเมลสมัครงาน, สมัครงานผ่านอีเมล, สมัครงานด้วยอีเมล, เขียนอีเมลสมัครงาน, วิธีเขียนอีเมลสมัครงาน, อีเมลสมัครงาน การหางานมีวิธีใดบ้าง1. ศึกษาหาข้อมูลในอุตสาหกรรมต่างๆ และดูว่าตัวเองต้องการอะไร ... . 2. ทำงานอาสาสมัคร ... . 3. เขียนเรซูเม่ที่เกี่ยวข้องกับงานที่อยากทำ ... . 4. การฝึกงานอาจนำไปสู่การได้งาน ... . 5. เริ่มสร้างเครือข่ายตั้งแต่เนิ่นๆ ... . 6. รู้เท่าทันโลกโซเชียล ... . 7. วางแผนการหางาน. การหางานที่หลากหลายจะหาด้วยวิธีใดได้บ้างแม้การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการหางานอย่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจะง่าย สะดวก รวดเร็ว และเป็นการเปิดโอกาสให้เราเจองานที่หลากหลาย แต่เราต้องไม่ลืมการหางานช่องทางอื่นด้วย เช่น การพูดคุยกับคนรู้จัก หรือเข้าไปสอบถามและสมัครที่บริษัทโดยตรงก็เป็นการเปิดโอกาสในการได้งานมากขึ้น นอกจากนั้นเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของบริษัทก็ ...
การสมัครงานทางอินเทอร์เน็ตแตกต่างจากการสมัครงานปกติ อย่างไรการสมัครงาน Online มีข้อดีมากมายค่ะ ที่เห็นได้ชัดคงเป็นเรื่องของการประหยัดเวลา ประหยัดค่าเดินทาง และมีความสะดวกสบายมากกว่าไปสมัครเอง เพราะไม่ต้องฝ่ารถติดหรือเสียเวลาไปกับการเดินทาง โดยเฉพาะถ้าเราต้องการสมัครงานหลายบริษัท นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่มีงานทำอยู่แล้วแต่ต้องการจะเปลี่ยนงาน เพราะไม่ต้องการลาหยุดบ่อย ๆ ด้วย ...
ทำไมการหางานทางอินเตอร์เน็ตจึงน่าสนใจปัจจุบันนี้อินเตอร์เน็ตถือเป็นหนึ่งในช่องทางหลัก ของการสมัครงาน ผู้หางานหันมาใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือในการค้นหาและสมัครงานอย่าง แพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากความสะดวก รวดเร็ว และหลากหลายกว่าหากเปรียบเทียบกับการหางานจากช่องทางอื่นๆ โดยผู้สมัครงาน ทางอินเตอร์เน็ตสามารถค้นหางานได้จากแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ และใช้เวลาน้อยใน ...
|