ความแตกต่างระหว่าง “Invoice - Bill - Receipt”“Invoice - Bill - Receipt” ต่างกันยังไง? ได้ยินบ่อย ๆ มันก็จะงงหน่อย ๆ รู้ไว้จะได้สื่อสารไม่พลาดนะครับ Show ใบแจ้งหนี้ (Invoice) กับใบเรียกเก็บเงิน (Bill) จะทำหน้าที่คล้ายกัน คือแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าจะต้องชำระเงิน แต่จะแตกต่างกันที่ใบแจ้งหนี้ (Invoice) มักจะใช้กับสินค้าหรือบริการที่ซื้อขายเป็นเงินเชื่อ ในใบก็จะกำหนดเวลาที่ต้องจ่ายเอาไว้ เช่น ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต ส่วนใบเรียกเก็บเงิน (Bill) มักใช้กับสินค้าหรือบริการที่ต้องชำระเงินทันทีที่ออกใบให้ เช่น บิลในร้านอาหาร ส่วนใบเสร็จรับเงิน (Receipt) จะเป็นใบที่ออกให้ลูกค้า เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับชำระเงินถูกต้องแล้ว โดยอาจจะเป็นการชำระหนี้ตาม Invoice หรือจ่ายสดตาม Bill ก็ได้ครับ ถ้าเข้าใจความแตกต่างของ 3 ใบนี้ ก็จะได้สื่อสารไม่สับสน และลดความผิดพลาดในการทำบัญชีไปได้นะครับ สำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการในรูปแบบเงินเชื่อ ที่ให้เครดิตเทอมนาน ๆ แต่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องด่วน หรือเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ก็สามารถใช้บริการ “รับซื้อหนี้การค้า” (Factoring) ของ Lease It ได้ เพียงมีเอกสาร เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล หรือใบตรวจรับงาน ก็สามารถนำมาเบิกรับเงินกับ ลีซ อิท ได้สูงสุด 90% ของมูลค่าตามเอกสาร ไม่ต้องรอการชำระเงินที่ยาวนานอีกต่อไป ******************************************* เชื่อว่าคุณผู้อ่าน ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ คงเคยได้รับเอกสารนี้กันทุกคน เพราะในช่วงทุก ๆ สิ้นเดือนบริษัทผู้ให้บริการจะส่งเอกสารเพื่อเรียกเก็บค่าบริการที่เราติดค้างไว้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าจ้าง ค่าบริการ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าอินเตอร์เน็ต เราเรียกเอกสารนี้ว่า “ใบวางบิล” หรือ “ใบแจ้งหนี้” ครับ ด้วยเหตุนี้คุณผู้อ่านคงรู้สึกคุ้นเคยกับเอกสารนี้เป็นอย่างดี แต่เมื่อคุณต้องเป็นผู้ออกเอกสารให้กับลูกค้า คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า
เอกสารเหล่านี้มีความสำคัญอย่างไร ควรมีรายละเอียดใดบ้าง และเมื่อออกเอกสารไปแล้วทั้งผู้ประกอบการ (ผู้ออกเอกสารใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้) และลูกค้า (ผู้รับใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้) จะต้องปฎิบัติอย่างไร ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ คืออะไร Download ใบแจ้งหนี้-มาตราฐานบัญชี…. ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ ต่างกันอย่างไรก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่าจริง ๆ แล้ว ใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ คืออะไร?ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ เป็นเอกสารที่ผู้ประกอบการออกเพื่อ ให้ลูกค้าทราบถึงจำนวนเงินที่ต้องชำระ และใช้เป็นเอกสารสำหรับการชำระเงิน ส่วนใหญ่มักใช้กับบริษัทที่มีขนาดใหญ่ หรือธุรกิจที่มีการใช้เครดิตในการชำระเงิน โดยในแต่ละบริษัทจะมีวันสำหรับการวางบิลที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถสอบถามวันจากฝ่ายบัญชีของลูกค้าได้โดยตรง แต่ปัญหาที่มักพบบ่อยในการทำเอกสาร ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ คือ ความผิดพลาดของการออกเอกสาร เช่น การกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ครบถ้วน, ไม่ตรงตามใบเสนอราคา รวมไปถึงปัญหาการลืมส่งเอกสาร ทำให้ผู้ประกอบได้รับเงินช้ากว่ากำหนดครับ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดดังกล่าว เรามาดูกันว่า
ขั้นตอนการวางบิลสำหรับ ชาวHR หรือ ผู้ประกอบการ ที่อยู่ ธุรกิจขนาดเล็ก SME ที่อาจไม่อยาก เสียเวลา ในการกรอก เอกสาร ภงด1 แบบกระดาษเอง ด้วยมือ เรามีตัวช่วยท่าน
โปรแกรมบัญชีออนไลน์ FlowAccount.com จึงได้ออกแบบให้ผู้ประกอบการสามารถออกเอกสารได้อย่างถูกต้อง ข้อมูลครบถ้วนพร้อมทั้งยังสามารถนำเอกสารใบวางบิล ไปสร้างเป็น ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินต่อไปได้โดยไม่ต้องคีย์ข้อมูลใหม่ทั้งหมด สำหรับผู้ประกอบการการบริหารธุรกิจให้สามารถเก็บรายได้ตามวันที่คาดการณ์ไว้ การจัดทำเอกสารใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากจัดทำเอกสารผิด ต้องแก้ไข อาจทำให้ได้รับเงินล่าช้า ส่งผลให้ไม่มีเงินสดเพียงพอในการดำเนินธุรกิจครับ ติดตามเรื่องราวอื่นๆของ OFmessenger.com ได้ที่ เข้าสู่ระบบใบวางบิล และใบแจ้งหนี้ เหมือนกันไหมใบแจ้งหนี้ ไว้แจ้งเงินค่าสินค้าหรือบริการ โดยจะออกให้ทุกครั้งหลังจากงานนั้นๆ เสร็จ แต่ใบวางบิล จะถูกออกเมื่อเรียกเก็บเงิน ตามระยะเวลาครบกำหนดที่เราให้กับลูกค้า
ใบวางบิล คือใบแจ้งหนี้ไหมใบวางบิล ใบแจ้งหนี้ (Billing Note / Invoice) เป็นเอกสารที่ผู้ประกอบการ ร้านค้า ทำออกมาเพื่อแจ้งยอดชำระให้ลูกค้าได้ทราบจำนวนเงินที่ต้องชำระราคาสินค้าหรือบริการตามวันที่กำหนด เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้องค่ะ ขายของออนไลน์ จำเป็นต้องมีใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้มั๊ย?
Bill กับ Invoice ต่างกันอย่างไรใบแจ้งหนี้ (Invoice) กับใบเรียกเก็บเงิน (Bill) จะทำหน้าที่คล้ายกัน คือแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าจะต้องชำระเงิน แต่จะแตกต่างกันที่ใบแจ้งหนี้ (Invoice) มักจะใช้กับสินค้าหรือบริการที่ซื้อขายเป็นเงินเชื่อ ในใบก็จะกำหนดเวลาที่ต้องจ่ายเอาไว้ เช่น ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต ส่วนใบเรียกเก็บเงิน (Bill) มักใช้กับสินค้าหรือบริการที่ต้องชำระ ...
ใบวางบิลใช้ทำอะไรใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้ เป็นเอกสารที่ผู้ประกอบการออกเพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงจำนวนเงินที่ต้องชำระ และใช้เป็นเอกสารสำหรับการชำระเงิน ส่วนใหญ่มักใช้กับธุรกิจขายส่ง ที่มีการส่งของล็อตใหญ่ ส่งกันหลายรอบ หรือธุรกิจที่มีการวางเครดิตในการชำระเงิน
|