ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

“บีบแตร” อย่างไร ให้รู้ว่า ข้างหน้ามีเกิดอะไรขึ้น

  • “บีบแตร” อย่างไร ให้รู้ว่า ข้างหน้ามีเกิดอะไรขึ้น
    • ท่องไว้ว่า เสียงบีบแตร คือคำเตือน
    • 1 เสียงบีบแตรแบบเบา ๆ สั้น ๆ ต่อเนื่องหลายครั้ง
    • 2 เสียงบีบแตรแบบสั้น ๆ เบา ๆ
    • 3 เสียงบีบแตรแบบยาว และมีเสียงดัง
    • 4 เสียงบีบแตรแบบดัง ๆ ยาวๆ ต่อเนื่องหลายครั้งติดกัน
    • 5 เสียงบีบแตรยาวแบบต่อเนื่อง

การ “บีบแตรรถยนต์”  ถือว่า เป็นการส่งสัญญาณเตือนเพื่อนร่วมทาง ซึ่งวิธีนี้ สามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีหลายคนมองว่า การบีบแตรรถยนต์บนท้องถนนเป็นการกระทำที่เสียมารยาทไม่ควรทำ และหากดูตามสื่อต่าง ๆ พบข่าวคนหัวร้อน เพราะถูกบีบแตรใส่จนเกิดเรื่องกระทบกระทั่งกัน ถึงขั้นลงไม้ ลงมือทำร้ายร่างกาย บางกรณีอาจพลั้งมือทำคู่กรณีเสียชีวิต

แต่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเรา รวมถึงการสร้างวินัยในการขับขี่ ลองไปดูว่า ความสำคัญของการบีบแตร คืออะไร และต้องใช้แตรรถยนต์อย่างไรให้ถูกวิธี


ท่องไว้ว่า เสียงบีบแตร คือคำเตือน


ทุกคนต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หากวันดี คืนดี ระหว่างที่คุณขับรถอยู่ แล้วถูกเพื่อนร่วมทางบีบแตรใส่ นั่นเป็นเพราะเขาพยายามเตือนคุณ เนื่องจากรถของคุณอาจกำลังขับกินเลนมากเกินไป หรือเตือนให้คุณรู้ตัวว่า ยังไม่ควรขับรถพุ่งออกจากซอย ฉะนั้น ท่องให้ขึ้นใจว่า ” เสียงบีบแตร คือ คำเตือน” ไม่ใช่การด่า หรือการตะคอกใส่คนรอบข้าง

นอกจากนี้ การบีบแตรรถยังมีความหมายแฝงอื่น ๆ อีก ทั้งที่เป็นการทักทาย การส่งความหวังดี หรือการบอกให้ระวัง ถ้าอยากรู้ถึงความหมายแฝงที่ว่า ก็ตามมาเลย….

ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

1 เสียงบีบแตรแบบเบา ๆ สั้น ๆ ต่อเนื่องหลายครั้ง

หากคุณได้ยินเสียงบีบแตรแบบเบา ๆ สั้น ๆ ต่อเนื่องหลายครั้ง แบบเสียง “ปื๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด” เช่นนี้ เป็นกรณีที่เพื่อนร่วมทางกำลังส่งคำทักทายมาถึงคุณ ซึ่งการสางสัญญาณลักษณะมักเกิดขึ้น เมื่อเจอเพื่อนจอดรถติดไฟแดงอยู่ข้างเราเหมือนกัน ก็อาจมีการบีบแตรแบบสั้น ๆ ต่อเนื่องเพื่อทักทาย ประมาณว่า “เฮ้ย… เพื่อนหันมามองชั้นดิ”

2 เสียงบีบแตรแบบสั้น ๆ เบา ๆ

การบีบแตรรถยนต์แบบสั้น ๆ เบา ๆ ส่วนใหญ่เป็นการบีบแตรเพื่อเตือนคนรอบข้าง หรือรถคันอื่นระวัง อาทิ เราขับรถแล้วเห็นคนกำลังจะข้ามถนน ก็สามารถบีบแตรแบบสั้น ๆ เบา ๆ เพื่อเตือนว่า รถของคุณขับใกล้มาแล้วนะ อย่าเพิ่งข้าม อาจเกิดอันตรายได้

3 เสียงบีบแตรแบบยาว และมีเสียงดัง

หากคุณได้ยินเสียงบีบแตรแบบยาว ๆ และมีวอลลุ่มเสียงดังที่ผิดปกติ เสียงบีบแตรในลักษณะนี้ มักเกิดขึ้นเมื่อต้องการเตือนให้เพื่อนร่วมทางรู้ตัว เพราะเขาอาจกำลังเหม่อลอย หรือเล่นเกมมือถือเพลินจนไม่สนใจว่า สัญญาณไฟจราจรได้เปลี่ยนจากสีแดง เป็นไฟเขียวแล้ว

4 เสียงบีบแตรแบบดัง ๆ ยาวๆ ต่อเนื่องหลายครั้งติดกัน

หากคุณได้ยินเสียงบีบแตรรถลักษณะนี้ รู้เลยว่า เจ้าของเสียงบีบแตรที่ว่า กำลังอยู่ในอาการหัวร้อน เลเวล 1 ที่สุ่มเสี่ยงให้เกิดการปะทะอารมณ์จนถึงขั้นวางมวยกันได้ ดังนั้น ถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรหลีกเลี่ยง อย่าได้คิดทำเด็ดขาด

5 เสียงบีบแตรยาวแบบต่อเนื่อง

“เสียงปี๊ดดดดดดดด” ยาวแบบนี้ เข้าหูคุณเมื่อไหร่ รู้ไว้เลยว่า คนที่บีบแตรอยู่ในอาการหัวร้อนขั้นสุดแล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบการปะทะทางวาจา ก็คือ การยืนตะโกนด่ากันต่อหน้านั่นเอง เอาเป็นว่า หากใครจะใช้สัญญาณแตรแบบนี้ เผื่อใจรับแรงปะทะที่อาจตามมาได้เลย

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า การบีบแตรรถยนต์ไม่ใช่การกระทำที่เสียมารยาทเลย เพราะถือเป็นสัญญาณเตือนที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ดี เพียงคุณต้องเลือกปรับใช้ให้ถูกกับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ หากเราไม่ชอบให้ใครมาบีบแตรเสียงดังใส่เรา เราก็ไม่ควรไปบีบแตรเสียงดังใส่เขาก่อน อะไรที่ปล่อยผ่านได้ ก็ปล่อยเถอะ

และเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน การเลือกทำประกันรถยนต์ ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ทั้งช่วยคุ้มครองคุณตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ได้รับ อาทิ ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ค่าเงินชดเชยต่าง ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด ก็อุ่นใจได้ เพราะมีประกันรถยนต์คอยคุ้มครอง

Read more…

  • ขับขี่ปลอดภัย สร้างความสงบได้ง่ายบนท้องถนน
  • ขับขี่รถอย่างไรให้ปลอดภัย ในวันหยุดยาว!
  • สอบใบขับขี่รถยนต์ วันเสาร์-อาทิตย์ เดือน มิ.ย. ได้ที่ไหน ?

ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

ข้อสอบใบขับขี่ พร้อมเฉลย เรื่อง การขับขี่และการดูแลรักษา

13/10/2022 | 1951

ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

  • 1).ก่อนจะแซงหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ ต้องปฏิบัติอย่างไร?
    • ต้องให้สัญญาณแก่ผู้อื่นรับรู้
    • แซงแล้วเหยียบเบรกทันที
    • รีบเร่งเครื่องแซงอย่างรวดเร็ว
    • รีบเปลี่ยนช่องทางอย่างรวดเร็ว
  • 2).การปฏิบัติตนข้อใดไม่ถูกต้อง
    • ลดความเร็วเมื่อมีคนข้ามถนน
    • จอดรถบริเวณทางร่วมทางแยก
    • ลดความเร็วเมื่อถึงวงเวียน
    • ลดความเร็วเมื่อถึงที่คับขัน
  • 3).ข้อใดเป็นการเปิดไฟหน้ารถที่ไม่ถูกต้อง?
    • เมื่อเร่งรีบไปทำงาน
    • เมื่อฝนตกหนัก
    • เมื่อไม่สามารถมองเห็นทางในระยะต่ำกว่า 150 เมตร
    • เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน
  • 4).ผู้ขับขี่รถ ก ต้องการจะเลี้ยวขวาและมีรถทางตรงวิ่งสวนมาต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • หยุดรถให้รถทางขวามือผ่านไปก่อนจึงเลี้ยวขวาได้
    • หยุดรถให้รถทางตรงวิ่งสวนมาก่อนจึงเลี้ยวขวาได้
    • เลี้ยวขวาได้ทันที
    • ห้ามเลี้ยวรถ
  • 5).การเติมน้ำกลั่นควรอยู่ระดับใดของแบตเตอรี่
    • เติมให้สูงกว่าที่กำหนดเล็กน้อย
    • เติมให้ต่ำกว่าที่กำหนดเล็กน้อย
    • เติมให้อยู่ในระดับที่กำหนด
    • เติมจนล้นแล้วปิดฝา
  • 6).การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด
    • นิ้วมือทั้งห้าแตะที่พวงมาลัย สามารถหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว
    • ให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับพวงมาลัยเพียงสองนิ้ว
    • นิ้วมือทั้งห้ากำพวงมาลัยให้แน่นที่สุด
    • นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
  • 7).ข้อใดกล่าวถูกต้อง
    • รถเก่า แรงน้อย ต้องหลบซ้าย
    • รถทุกคันต้องวิ่งตามความเร็วที่กฏหมายกำหนด
    • รถใหม่ราคาแพง ต้องชิดขวา
    • รถวิ่งเร็วต้องเปิดไฟสูงตลอดเวลา
  • 8).การตรวจสอบความตึงหย่อนของสายพานเครื่องยนต์เบื้องต้น ควรตรวจสอบอย่างไร
    • ติดเครื่องฟังเสียงสายพานเครื่องยนต์
    • ใช้นิ้วมือกดสายพานเครื่องยนต์
    • ดูด้วยตาเปล่า
    • ใช้มือคลำสายพานเครื่องยนต์
  • 9).ข้อใดถูกต้อง
    • รถบรรทุกคนโดยสารต้องขับช่องขวาสุด
    • การเปลี่ยนช่องทางเดินรถไปซ้ายหรือขวาไม่ต้องดูกระจกด้านซ้ายหรือขวา
    • รถบรรทุกสิ่งของต้องขับช่องขวาสุด
    • รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องซ้ายสุด
  • 10).ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในขณะขับรถเข้าโค้งในตอนกลางคืน
    • บีบแตรเตือนหลายๆ ครั้งก่อนถึงโค้ง
    • เตือนด้วยการเปิดไฟสูง-ต่ำ
    • ขับรถด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
    • ชะลอความเร็วให้เหมาะสมกับโค้ง
  • 11).เมื่อคันข้างหน้าให้สัญญาณจะเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ ผู้ขับขี่ที่ขับรถตามหลังต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • หยุดรถ
    • ชะลอความเร็วและให้ทางแก่เขาไปก่อน
    • เร่งความเร็วเพื่อจะไปก่อน
    • จอดรถ
  • 12).พฤติกรรมการขับรถข้อใดไม่ปลอดภัย
    • ขับรถนอกเขตเทศบาลใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    • ขับรถตามความพอใจของตัวเอง
    • ขับช้าและชิดด้านซ้าย
    • ขับรถในเขตเทศบาลใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • 13).กรณีรถทั้งสองคันมาถึงพร้อมกันบนทางร่วมทางแยก รถคันใดมีสิทธิ์ขับผ่านไปได้ก่อน

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ทั้งรถ A และรถ B
    • คันที่มาถึงทางร่วมทางแยกก่อน
    • รถคัน B
    • รถคัน A
  • 14).การขับรถตามข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้อง
    • แซงรถในอุโมงค์
    • ขับรถกีดขวางการจราจร
    • ขับรถคร่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ
    • ขับรถใช้ความเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
  • 15).เมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บ ผู้ขับขี่ควรคำนึงถึงสิ่งใดเป็นอันดับแรก
    • รอประกันภัย
    • รอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    • การเคลื่อนย้ายรถที่เกิดเหตุ
    • การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
  • 16).น้ำที่ใช้เติมแบตเตอรี่ ควรใช้น้ำชนิดใด
    • น้ำสบู่
    • น้ำบาดาล
    • น้ำฝน
    • น้ำกลั่น
  • 17).การเติมน้ำในถังพักหม้อน้ำควรอยู่ในระดับใด
    • อยู่ระหว่างเกณฑ์สูง-ต่ำ ที่กำหนดไว้ข้างถังพักน้ำ
    • ครึ่งถัง
    • เติมเท่าไหร่ก็ได้
    • เต็มถัง
  • 18).การปลูกจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนควรกระทำที่บุคคลใดมากที่สุด
    • บุคคลทุกคน
    • ผู้โดยสารเท่านั้น
    • คนขับรถเท่านั้น
    • คนเดินเท้าเท่านั้น
  • 19).ก่อนขับรถเข้าโค้งหรือมุมเลี้ยว ควรใช้ความเร็วอย่างไร
    • ใช้ความเร็วคงที่
    • เพิ่มความเร็วให้มากขึ้นกว่าเดิม
    • ลดความเร็วลงให้มากที่สุด
    • ควบคุมความเร็วให้เหมาะสมกับโค้งหรือมุมเลี้ยว
  • 20).กรณีรถเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาพร้อมกันในเส้นทางเดียวกันผู้ขับขี่ต้องทำอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ผู้ที่จะเลี้ยวซ้ายต้องหยุดให้ทางแก่รถที่เลี้ยวมาจากทางขวาก่อน
    • ผู้ที่จะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวได้ทันที
    • ห้ามเลี้ยวซ้าย
    • ผู้ที่จะเลี้ยวขวาต้องหยุดให้ทางแก่รถที่เลี้ยวมาจากทางซ้ายก่อน
  • 21).อุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกิดจากอะไร
    • รถ
    • ถนน
    • ผู้ขับขี่
    • สิ่งแวดล้อม
  • 22).พฤติกรรมใดเป็นการเปิดไฟสูงที่ถูกต้อง
    • เปิดไฟสูงขณะที่ไม่มีรถสวนทางมา
    • เปิดไฟสูงเพื่อไล่รถคันหน้า
    • เปิดไฟสูงขณะรถสวนกัน
    • เปิดไฟสูงขณะขับรถตามหลังรถคันอื่น
  • 23).ข้อใดใช้คลัทช์ผิดวิธี
    • ขณะจะเปลี่ยนเกียร์
    • ขณะจะหยุดรถ
    • ขณะขับรถลงทางลาดชัน
    • ขณะจะสตาร์ทเครื่อง
  • 24).ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร
    • ต้องขับคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ
    • ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด
    • ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป
    • ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด
  • 25).ยางที่หมดอายุจะมีลักษณะอย่างไร
    • เวลาเปียกน้ำจะไม่เกาะยาง
    • ยางจะมีสีดำสนิท
    • มีรอยแตกร้าวตามแนวขอบยาง
    • ยางจะมีสีขาวนวล
  • 26).การตรวจสอบลมยางที่ถูกต้องควรปฏิบัติอย่างไร
    • เอาเหล็กมาตีที่หน้ายาง
    • ดูด้วยตาเปล่า
    • ใช้มือคลำ
    • ใช้เครื่องวัดลมยาง
  • 27).ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้าแตกร้าวควรปฏิบัติอย่างไร
    • ตั้งสติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
    • ตั้งสติ จอดรถข้างทาง
    • ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
  • 28).เมื่อการจราจรติดขัด รถคัน ข. ไม่สามารถเคลื่อนตัวข้างหน้าได้ ผู้ขับขี่รถคัน ก. ต้องการจะขับตรงไป จะต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ขับรถไปต่อท้ายรถคัน ข. เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง
    • ขับรถไปจอดคู่กับรถคัน ข. ทางด้านขวา
    • หยุดรถให้รถคัน ข. ขับผ่านไปก่อน
    • ขับรถไปต่อท้ายรถคัน ข. และเปิดไฟฉุกเฉิน
  • 29).เหตุใดขณะขับรถลุยน้ำต้องเลี้ยงคลัทช์และเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย
    • เพื่อให้ความร้อนของเครื่องยนต์สูงกว่าปกติ
    • เพื่อให้รถมีความเร็วมากขึ้น
    • เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน
    • เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
  • 30).เพื่อความปลอดภัยก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ควรเตรียมตัวอย่างไร
    • ต่อทะเบียนรถให้เรียบร้อย
    • รับประทานเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทชนิดเข้มข้น
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    • เติมน้ำมันให้เต็มถัง
  • 31).การหยุดรถกระทันหันสำหรับรถที่ไม่ติดตั้งระบบเบรก ABS ควรปฏิบัติอย่างไร
    • เหยียบเบรกและคลัทช์พร้อมกัน
    • เหยียบแบรกแรงๆ โดยไม่ต้องถอนเบรก
    • เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย้ำเบรกซ้ำๆ)
    • เหยียบคลัทช์ก่อน แล้วจึงเหยียบเบรก
  • 32).กรณีออกรถ ถ้าปล่อยคลัทช์เร็วจะมีผลอย่างไร
    • ออกตัวได้เร็ว
    • จะกระตุกและดับ
    • ควบคุมกำลังรถได้ง่าย
    • รถจะแรง
  • 33).ถ้าเหยียบคลัทช์ไม่สุด ขณะเข้าเกียร์จะมีผลอย่างไร
    • ออกตัวดีขึ้นกว่าเดิม
    • ประหยัดน้ำมัน
    • เข้าเกียร์ง่ายขึ้น
    • ทำให้เกียร์มีเสียงดัง
  • 34).ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก
    • ใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    • เปิดไฟหน้ารถในขณะขับรถ
    • ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
    • เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
  • 35).การหมุนพวงมาลัยรถขณะรถจอดอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร
    • ทำให้หมุนพวงมาลัยง่ายขึ้น
    • สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
    • สิ้นเปลืองน้ำมันพาวเวอร์
    • ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ
  • 36).ขณะขับรถลงทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับควรปฏิบัติอย่างไร
    • ปล่อยให้รถไหลไป แล้วค่อยประคองรถ
    • เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ เข้าเกียร์ว่าง และติดเครื่องใหม่
    • เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และติดเครื่องใหม่
    • เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ ดึงเบรกมือ และติดเครื่องใหม่
  • 37).ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
    • ให้ชะลอความเร็วและขับรถชิดด้านซ้าย
    • ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปก่อน
    • แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้
    • ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน
  • 38).จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • หยุดรอในตำแหน่งที่จะเลี้ยวและเลี้ยวได้เมื่อปลอดภัย
    • เร่งความเร็วเพื่อเลี้ยวขวาทันที
    • ควรเลี้ยวให้ทันทีเนื่องจากมีรถคันใหญ่ขวางรถฝั่งตรงข้าม
    • ขับรถไปในช่องทางด้านขวาเพื่อทำการเลี้ยว
  • 39).หลังจากขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม ท่านควรทดสอบระบบใดเป็นลำดับแรก
    • ระบบเบรก
    • ระบบไฟฟ้า
    • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
    • ระบบช่วงล่าง
  • 40).ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้นควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วลงแล้วขับต่อไป
    • หยุดรถทันทีกลางถนนห้ามเคลื่อนย้าย
    • จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค
    • ขับต่อไปเรื่อยๆ
  • 41).ในการถอดขั้วแบตเตอรรี่ ควรถอดขั้วใดก่อน
    • ขั้วลบ
    • ขั้วไหนก่อนก็ได้
    • ทั้งสองขั้วพร้อมกัน
    • ขั้วบวก
  • 42).ผู้ขับขี่ต้องการกลับรถต้องปฏิบัติอย่างไร
    • กลับรถที่บริเวณเส้นทะแยงเหลือง
    • เข้าช่องทางให้ถูกต้องและให้กลับรถได้เมื่อปลอดภัย
    • กลับรถในบริเวณที่คับขัน
    • กลับรถช่องทางไหนก็ได้
  • 43).ก่อนออกเดินทางข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้อง
    • ดื่มสุราก่อนออกเดินทาง
    • เตรียมสภาพรถให้พร้อมใช้งาน
    • ศึกษาเส้นทางที่จะไป
    • เตรียมความพร้อมของร่างกาย
  • 44).การขับรถแซงรถคันหน้าต้องแซงด้านขวามือ ยกเว้นกรณีใดที่สามารถแซงด้านซ้ายมือได้
    • เมื่อรถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวา หรือให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวขวา
    • แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายในทางเดินรถช่องทางเดียว
    • แซงรถคันอื่นในช่องทางซ้ายเมื่ออยู่ในเขตชุมชน
    • แซงรถคันอื่นทางด้านซ้ายขณะรถวิ่งบนสะพาน
  • 45).เขตปลอดภัย หมายความว่าอย่างไร
    • พื้นที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้ผู้ขับขี่เห็นว่าปลอดภัยขับต่อไปได้
    • เขตที่ผู้ขับขี่สามารถนำรถผ่านเข้าไปได้
    • พื้นที่ในทางเดินรถที่มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้ชัดเจนทุกเวลาสำหรับให้คนเดินเท้าที่ข้ามทางหยุดรอ หรือให้คนที่ขึ้นหรือลงจากรถหยุดรอก่อนจะข้ามทางต่อไป
    • เขตที่คนเดินเท้าสามารถข้ามทางได้โดยไม่ต้องหยุดรอ
  • 46).ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้าย ยกเว้นกรณีใดสามารถเดินรถทางขวาหรือ ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถได้
    • ไม่มีรถสวนทางมา
    • ทางเดินรถกว้างมาก
    • ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวาง
    • ทางเดินรถมีน้ำท่วมขัง
  • 47).ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร
    • ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัย
    • ไม่น้อยกว่า 2 เมตร
    • ไม่น้อยกว่า 1 เมตร
    • ไม่น้อยกว่า 3 เมตร
  • 48).บริเวณใดสามารถกลับรถได้
    • ทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ
    • บริเวณบนสะพาน
    • ระยะ 150 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน
    • เขตปลอดภัย
  • 49).เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด" ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
    • หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวซ้ายไปได้
    • หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป
    • เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
  • 50).เมื่อท่านกำลังขับรถจะออกจากถนนรอง เพราะเหตุใดจึงควรระมัดระวังรถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ
    • รถจักรยานยนต์ถูกบดบังจากสิ่งกีดขวางได้ง่าย
    • รถจักรยานยนต์มักจะใช้ความเร็วมากกว่ารถยนต์
    • รถจักรยานยนต์มีสิทธิ์ไปก่อน
    • ตำรวจสายตรวจมักจะใช้รถจักรยานยนต์
  • 51).เมื่อถึงทางรถไฟและมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร
    • หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร
    • ขับรถผ่านไปโดยเร็ว
    • ให้เสียงสัญญาณแตรเตือนและขับผ่านไปได้
    • หยุดรอสัญญาณไฟและเปิดไฟฉุกเฉิน
  • 52).เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่างไร
    • ไม่มีผล เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด
    • ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด
    • มีผลให้เป็นฝ่ายถูก
    • จะได้รับการกันไว้เป็นพยาน
  • 53).ข้อใดเปิดไฟฉุกเฉินได้ถูกต้อง
    • รถเสียหรือรถเกิดอุบัติเหตุ
    • ปิดได้ตลอดเวลา
    • มีหมอก
    • ผ่านทางแยก
  • 54).การลากจูงรถที่ไม่สามารถใช้พวงมาลัยหรือเบรกได้ควรทำอย่างไร
    • ใช้คนดันไป
    • ใช้รถดันไป
    • ใช้สายพ่วงลากจูงไป
    • ใช้วิธีการยกหน้าหรือยกท้ายลากไป
  • 55).รถที่ใช้ความเร็วต่ำ ผู้ขับขี่จะต้องปฏิบัติอย่างไร
    • ขับรถได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
    • ขับรถชิดขอบด้านขวา
    • ขับรถที่บริเวณไหล่ทาง
    • ขับรถชิดขอบด้านซ้าย
  • 56).การกระทำของผู้ขับขี่ข้อใด ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด
    • พูดคุยกับคนที่อยู่ข้างๆ
    • เปิดวิทยุฟังเพลง
    • ร้องเพลง
    • โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถ
  • 57).สำนวนใดที่เตือนใจผู้ขับขี่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
    • ความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความตาย
    • กล้าได้กล้าเสีย
    • ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้
    • กระต่ายตื่นตูม
  • 58).เมื่อเห็นคนเดินเท้าข้ามถนนผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • บีบแตรไล่
    • ขับผ่านไปได้โดยไม่ต้องหยุดรถ
    • ใช้การวัดใจ
    • รถต้องหยุดให้คนเดินเท้าผ่านไปก่อน
  • 59).การขับรถทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้ามากเกินไป จะมีผลอย่างไร
    • ลดอุบัติเหตุ
    • จะขับรถด้วยความปลอดภัยมากขึ้น
    • เกิดปัญหาการจราจรติดขัด
    • การจราจรคล่องตัวมากขึ้น
  • 60).ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ
    • ขับรถด้วยความระมัดระวังขณะฝนตก ถนนลื่น
    • ขับรถด้วยความเร็วสูงในที่ที่มีการจราจรพลุกพล่าน
    • ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
    • ให้สัญญาณไฟเพื่อขอแซง
  • 61).มารยาทที่ดีในการจอดรถ คือข้อใด
    • จอดรถซ้อนคัน
    • จอดโดยไม่กีดขวางผู้อื่นและไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร
    • จอดรถขวางทางเข้า-ออก
    • จอดบริเวณที่มีเครื่องหมายห้ามจอด
  • 62).การขับรถขณะฝนตก ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ
    • เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
    • เปิดที่ปัดน้ำฝน
    • ใช้ความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น
    • ลดความเร็วของรถลงกว่าปกติ
  • 63).เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร
    • จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
    • นำกิ่งไม้วางไว้ท้ายรถ
    • เผาป่าข้างทางหากเป็นกลางคืน
    • นำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน
  • 64).สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ
    • สีแดง
    • สีเขียว
    • สีเหลือง
    • สีฟ้า
  • 65).เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
    • เหยียบเบรกทันที แล้วค่อยๆออกตัวเร่งความเร็วใหม่
    • ถอนคันเร่ง เหยียบเบรกเพื่อใช้เกียร์ต่ำ
    • ถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
    • ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป
  • 66).ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฎิบัติอย่างไร
    • ตั้งสติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และขับรถต่อไป
    • ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน และหยุดรถทันที
    • ตั้งสติ จอดรถข้างทาง
  • 67).เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลำดับแรก
    • ที่ปัดน้ำฝน
    • น้ำในหม้อน้ำ
    • น้ำกลั่นแบตเตอรี่
    • ตรวจเช็คประตูหน้าต่างรถ
  • 68).รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก ABS) จะมีผลอย่างไร
    • จะหยุดรถได้ตามระยะที่กำหนด
    • ล้อจะล็อค และรถจะหมุน
    • รถจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลง
    • ล้อจะล็อค และรถจะหยุดทันที
  • 69).ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร
    • พวงมาลัยรถจะไร้น้ำหนัก
    • พวงมาลัยจะหนัก รถจะเอียง
    • รถหยุดกะทันหัน
    • เบรกจะไม่ทำงาน
  • 70).ในขณะที่กำลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
    • หักเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที เพื่อปิดฝากระโปรงให้เรียบร้อย
    • เบรกกะทันหัน
    • เหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อฝากระโปรงจะได้กระแทกปิด
  • 71).การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร
    • ทำให้เข้าเกียร์ได้ง่าย
    • ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจนดีมาก สามารถตัดสินใจได้ดี
    • บังคับพวงมาลัยลำบาก ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่สะดวก
    • ทำให้เบรกรถสะดวก
  • 72).การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร
    • กระตุกดึงสายเข็มขัดอย่างเร็ว แล้วสายเข็มขัดต้องล็อค
    • ดูว่าเป็นของใหม่หรือไม่
    • ดูว่าเข็มขัดมียี่ห้อหรือไม่
    • ต้องมีสีเข้มๆ
  • 73).การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร
    • ไม่มีผลต่อส่วนใดของรถ
    • เข้าเกียร์ยากและทำให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ
    • ทำให้น้ำมันเกียร์หมดเร็ว
    • เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่อง
  • 74).การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด
    • ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง
    • ถอยแบบไหนก็ได้
    • ถอยเหมือนกับเดินหน้า
    • ใช้ความเร็วตามสภาพของรถ
  • 75).ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง
    • ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง -ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
    • ปลดเกียร์ว่าง-ขึ้นเบรกมือ-สตาร์ทเครื่องยนต์
    • เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์
    • ปลดเบรกมือ-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์
  • 76).การขับขี่ขึ้นหรือลงทางลาดชัน ควรใช้เกียร์ใด
    • เกียร์ต่ำ
    • เกียร์สูง
    • เกียร์ว่าง
    • เกียร์ใดก็ได้
  • 77).ในการขับขี่ลงทางลาดชัน ผู้ขับขี่ควรใช้เกียร์ต่ำเนื่องจากสาเหตุใด
    • เพื่อเพิ่มกำลังของรถ
    • เพื่อหน่วงความเร็วของรถ
    • เพื่อลดความร้อนของเครื่องยนต์
    • เพื่อเพิ่มความเร็วของรถ
  • 78).ในการขับขี่ลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วลง แต่เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย
    • เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ขับรถด้วยความรวดเร็ว
    • ขับรถด้วยความเร็วปกติ
  • 79).ท่านควรปฏิบัติอย่างไรขณะขับรถผ่านบริเวณน้ำท่วม
    • ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร
    • พยายามไม่ใช้เบรกโดยเด็ดขาด
    • พยายามขับจี้ท้ายรถคันหน้าตลอดเวลา
    • เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
  • 80).เพราะเหตุใดรถจึงลื่นไถลได้ง่ายขณะฝนตกใหม่ๆ
    • ฝนตกทำให้ถนนชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่
    • น้ำฝนจะกลายเป็นแผ่นฟิล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน
    • ถนนคอนกรีตดูดซับน้ำฝนได้เป็นอย่างดี
    • น้ำฝนจะชะล้างถนนให้สะอาด
  • 81).การขับขี่ในทางลักษณะใดที่ไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว
    • ทางเลี้ยวซ้ายเข้าซอย
    • ทางบังคับเลี้ยว
    • ทางเลี้ยวซ้ายออกจากซอย
    • ทางกลับรถ
  • 82).เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบอะไรเป็นอันดับแรก
    • ทดสอบไฟสูง
    • ทดสอบไฟฟ้า
    • ทดสอบสัญญาณแตร
    • ทดสอบระบบเบรก
  • 83).การใช้เกียร์เพื่อขึ้นและลงเขาข้อใดถูก
    • ขึ้นและลงใช้เกียร์ต่ำ
    • ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์สูง
    • ขึ้นใช้เกียร์ต่ำและลงใช้เกียร์ว่าง
    • ขึ้นและลงใช้เกียร์สูง
  • 84).ก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ที่ดีควรเตรียมความพร้อมของตนเองอย่างไร
    • พักผ่อนให้เพียงพอ
    • ดื่มเหล้า
    • กินยาบ้า
    • เที่ยวดึก
  • 85).ข้อใดเป็นการเตรียมความพร้อมของรถก่อนขับรถ
    • ตรวจสภาพอากาศ
    • ต่อใบอนุญาตขับรถ
    • ดูหนังสือแผนที่ทางหลวงแผ่นดิน
    • ตรวจแรงดันลมยาง,เบรก,น้ำมันหล่อลื่น
  • 86).หลังจากขับรถลุยน้ำ ผ้าเบรกเปียกมีวิธีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร
    • เหยียบเบรกแรงๆ
    • ขับรถให้เร็วๆ
    • ขับรถช้าๆ เหยียบเบรกเบาๆ แล้วปล่อยหลายๆ ครั้ง
    • จอดรถเข้าเกียร์ว่างและเร่งเครื่องยนต์ไว้สัก 10 นาที
  • 87).ข้อใดเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด
    • ถนน
    • ผู้ขับขี่รถ
    • สัญญาณไฟจราจร
    • ไฟส่องถนนบริเวณทางร่วมทางแยก
  • 88).ก่อนออกรถจากไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด
    • มองกระจกมองข้างด้านขวา
    • เปิดไฟเลี้ยวซ้าย หันศีรษะไปด้านซ้าย
    • มองกระจกมองข้างด้านขวา เปิดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไปทางด้านหลังก่อนออกรถ
    • มองกระจกมองหลัง
  • 89).ขณะขับรถเครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ควรปฏิบัติอย่างไร
    • หยุดรถที่ปลอดภัย เอาน้ำเย็นมาราดเครื่องยนต์
    • หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วปล่อยให้เครื่องเย็นก่อน
    • หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเปิดฝาหม้อน้ำ เติมน้ำทันที
    • หยุดรถที่ปลอดภัย แล้วเอาน้ำมาราดเครื่องยนต์
  • 90).ลมยางล้อหน้าอ่อน จะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร
    • เวลานั่งรู้สึกเหมือนรถจะกระตุกอยู่ตลอดเวลา
    • ยางล้อหน้าสึกหรอ และรถกินน้ำมันมากขึ้น
    • ประหยัดน้ำมันแต่เปลืองยาง
    • ประหยัดยางแต่เปลืองน้ำมัน
  • 91).ข้อใดไม่ใช่การมองที่ถูกวิธีในขณะขับรถ
    • การมองถึงสภาพของถนนที่แตกต่างกัน
    • การมองการเคลื่อนไหวของรถและคน
    • มองไปยังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ
    • การมองเห็นฝูงสัตว์เลี้ยงกำลังข้ามถนน
  • 92).การตรวจลมยางควรตรวจเมื่อใด
    • ตรวจเมื่อไรก็ได้
    • ขณะที่บรรทุกของหนัก
    • ขณะวิ่งใช้งานแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
    • ขณะที่ยางยังเย็นอยู่
  • 93).หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • จอดรถบริเวณที่ปลอดภัย เปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน
    • เปิดไฟหน้าเร่งความเร็วผ่านบริเวณที่ฝนตกหนัก
    • เร่งความเร็วให้ผ่านบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว
    • จอดรถทันที
  • 94).ข้อใดที่ทำให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขึ้นจึงสามารถหยุดรถได้
    • ความรวดเร็วในการตัดสินใจ
    • ความเร็วในการเหยียบเบรก
    • น้ำหนักบรรทุกเพิ่มมากขึ้น
    • น้ำหนักบรรทุกลดน้อยลง
  • 95).ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ
    • หยุดรถติดไฟแดง
    • ขับรถลงทางลาดชัน
    • จอดรถ
    • หยุดบนทางลาดชัน
  • 96).ข้อใดไม่มีผลให้ระยะการหยุดรถ (ระยะเบรก) ยาวขึ้น
    • สภาพพื้นผิวถนน
    • น้ำหนักบรรทุก
    • น้ำมันหล่อลื่น
    • ความเร็วของรถ
  • 97).ถ้าขั้วแบตเตอรี่มีคราบกรด วิธีการใดเป็นการแก้ไขที่ดีที่สุด
    • ใช้น้ำอุ่นล้างและทาจาระบี
    • ใช้น้ำส้มสายชูล้าง
    • ใช้น้ำมะนาวล้าง
    • ใช้น้ำกลั่นล้าง
  • 98).การจอดลงทางลาดชัน ล้อหน้าควรอยู่ในลักษณะใด
    • หันเข้าหาขอบทาง
    • อยู่อย่างไรก็ได้
    • ตรงและขนานกับขอบทางหรือฟุตบาต
    • หันออกจากขอบทาง
  • 99).ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด
    • เปิดไฟส่องสว่างหน้า
    • ขับรถช้าๆ โดยไม่ต้องเปิดไฟ
    • บีบแตรแล้วขับให้เร็วเพื่อป้องกันรถคันหลังชนท้าย
    • เปิดไฟหรี่
  • 100).การเติมน้ำในหม้อพักน้ำควรเติมให้อยู่ในระดับใด
    • เติมให้ถึงฝาปิด
    • เติมให้สูงกว่าระดับสูงสุด
    • เติมให้อยู่ระหว่างระดับสูงสุดและต่ำสุด
    • เติมให้ต่ำกว่าระดับต่ำสุด
  • 101).การขับรถยนต์บนทางด่วนที่ถูกต้อง เหมาะสม ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ขับรถช้าในช่องทางด้านขวา
    • ไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
    • ไม่ให้ขับรถแซงทางด้านซ้าย
    • ขับรถอย่างรวดเร็วในช่องทางด้านขวา
  • 102).ท่านควรเติมน้ำมันเชื้อเพลิงรถเครื่องยนต์เบนซินอย่างไร
    • เติมค่าที่ต่ำกว่าค่าที่กำหนดเพื่อความประหยัด
    • เติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนตามที่ระบุไว้ในคู่มือรถ
    • เติมสูงกว่าค่าที่กำหนดเพื่อป้องกันเครื่องยนต์เสียหาย
    • เติมค่าเท่าใดก็ได้ตามความสะดวก
  • 103).ผู้ขับขี่ไม่ควรรับประทานยานอนหลับก่อนขับขี่ไม่ว่ากรณีใดๆ ใช่หรือไม่
    • ขึ้นอยู่กับอาหารการกิน
    • ไม่ใช่
    • ใช่
    • ขึ้นอยู่กับชนิดของยานพาหนะที่ขับขี่
  • 104).เมื่อท่านขับรถที่มีน้ำหนักบรรทุกมากข้อใดถูกต้องมากที่สุด
    • ระบบกันสะเทือนจะนุ่มนวลมากขึ้น
    • จะใช้ระยะในการเบรกยาวขึ้น
    • เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
    • ควันไอเสียจะมากขึ้น
  • 105).ข้อใดต่อไปนี้เป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง
    • เร่งความเร็วขณะที่รถข้างหลังกำลังแซงรถของท่าน
    • ไม่แซงหากรถคันหน้ากำลังแซงอยู่
    • แซงได้หากรถข้างหน้าของท่านเปิดไฟเลี้ยวซ้ายและชะลอความเร็วลง
    • ไม่แซงหากมีรถวิ่งสวนมาในระยะใกล้
  • 106).เหตุใดจึงไม่ควรเติมน้ำในถังพักหม้อน้ำให้เต็มถัง
    • เพราะ จะทำให้หม้อน้ำเป็นสนิมมากยิ่งขึ้น
    • เพราะ จะทำให้เครื่องยนต์ชำรุด
    • เพราะ น้ำในหม้อน้ำจะร้อนมากยิ่งขึ้น
    • เพราะ สำรองเนื้อที่การขยายตัวของน้ำเมื่อเกิดความร้อน
  • 107).ภายหลังออกรถไปประมาณ 3 ถึง 4 เมตร ควรทดสอบระบบใด
    • ไฟเลี้ยว
    • ปรับกระจกมองข้าม
    • ปรับกระจกมองหลัง
    • ระบบเบรก
  • 108).ในการประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ต้องคำนึงถึงข้อใด
    • ความรุนแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
    • ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ
    • พิจารณาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บว่ามีกี่คน
    • ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการรักษาพยาบาล
  • 109).สาเหตุสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้การขับรถในเวลากลางคืนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าในเวลากลางวันคือข้อใด
    • สภาพร่างกายของผู้ขับขี่และสภาพรถไม่พร้อม
    • คนขับหลับในเนื่องจากเหนื่อยล้า
    • ขับรถในขณะมึนเมา
    • แสงสว่างไม่เพียงพอต่อการมองเห็นในขณะขับรถ
  • 110).หากกระจกแตกขณะขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ขับรถตรงไปข้างหน้าเพื่อหาศูนย์บริการ
    • ขับรถถอยหลังเพื่อหาที่จอดรถ
    • ชิดทางด้านขวาเพื่อจอดรถ
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินและจอดรถชิดทางด้านซ้าย
  • 111).ยางมีหน้าที่อย่างไร
    • ตัดต่อเครื่องยนต์
    • ระบายความร้อน
    • ช่วยยึดเกาะถนนไม่ให้ลื่นไถล
    • ทำให้รถมีกำลังขับเคลื่อน
  • 112).ถ้าระดับน้ำมันเครื่องยนต์ต่ำเกินไปจะมีผลอย่างไร
    • เครื่องแรงสตาร์ทติดง่าย
    • ทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์สึกหรออย่างรวดเร็ว
    • ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
    • ยืดอายุการทำงานของชิ้นส่วนเครื่องยนต์
  • 113).เมื่อท่านต้องขับรถผ่านถนนที่มีระดับน้ำซึ่งมีความลึก ควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้เบรกทำงานได้เป็นปกติ
    • หลีกเลี่ยงการใช้เบรกในช่วงระยะทางสั้นๆ
    • เร่วความเร็วและรักษาความเร็วให้สูงในช่วงเวลาสั้นๆ
    • หยุดรถเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพื่อให้ระบบเบรกแห้ง
    • ขับรถอย่างช้าๆ ในขณะที่ค่อยๆ เหยียบเบรกเรื่อยๆ
  • 114).หากทราบว่าผู้ขับขี่รถคันข้างหน้าเป็นผู้สูงอายุ ท่านควรปฏิบัติอย่าไร
    • ขับตามหลังในระยะกระชั้นชิด
    • คาดการณ์ไว้ว่าผู้สูงอายุที่ขับรถอยู่ข้างหน้าท่านอาจขับรถแย่
    • ตระหนักไว้เสมอว่าผู้ขับรถสูงอายุอาจมีปฏิกิริยาตอบสนองไม่ว่องไว
    • ให้สัญญาณโดยกะพริบไฟและขับแซงขึ้นหน้าเลย
  • 115).เมื่อท่านขับรถถึงทางแยก ต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • หยุดเฉพาะเมื่อมีรถบนถนนหลัก
    • หยุดหลังเส้น และค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น
    • หยุดเฉพาะกรณีที่เลี้ยว
    • หยุดหน้าเส้นในจุดที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
  • 116).ในขณะที่ท่านขับรถและสังเกตเห็นว่าด้านหน้ามีผู้กำลังจะข้ามถนน ท่านจะทำอย่างไร
    • บีบแตรเสียงดัง และขับรถผ่านไปอย่างรวดเร็ว
    • ลดความเร็วและหยุดรถด้วยความปลอดภัย เพื่อให้คนข้ามถนน
    • พยายามขับรถผ่านไปอย่างรวดเร็ว
    • เบรกหยุดรถอย่างรวดเร็ว เพื่อให้คนข้ามถนน
  • 117).เมื่ออยู่ในอุโมงค์ หากรถเกิดเพลิงไหม้และไม่สามารถขับรถต่อไปได้ ควรปฏิบัติอย่างไร
    • อยู่ในตัวรถและปิดกระจกทั้งหมด
    • ปิดไฟทั้งหมด
    • เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงาน
  • 118).เมื่อพบผู้สูงวัยกำลังจะข้ามถนนควรปฏิบัติอย่างไร
    • คาดหวังว่าผู้สูงอายุจะรอ ให้รอผ่านไปก่อนจึงข้าม
    • ระมัดระวังเพราะผู้สูงวัยอาจจะประมาณความเร็วของรถผิดพลาด
    • หยุดรถและโบกมือให้ข้ามถนน
    • เร่งความเร็วเพื่อให้ผ่านไปโดยเร็วที่สุด
  • 119).เมื่อท่านรับประทานยาแก้ไอที่ได้จากเพื่อน ก่อนขับรถควรปฏิบัติอย่างไร
    • ถามเพื่อนว่ายาที่รับประทานมีผลต่อการขับรถหรือไม่
    • ดื่มกาแฟสูตรเข้มข้น 1 ชั่วโมงก่อนการขับรถ
    • ขับเป็นระยะสั้นๆ เพื่อสังเกตุดูว่ายาที่ใช้มีผลต่อการขับรถหรือไม่
    • ตรวจสอบฉลากว่ายาที่ใช้มีผลต่อการขับรถหรือไม่
  • 120).รถคันสีแดงเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาขอทางเพราะด้านซ้ายมีรถเสียจอดกีดขวาง รถคันสีเหลืองต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ให้สัญญาณแตรเสียงยาว
    • ขับไปจอดต่อท้ายให้ชิดกับรถคันหน้ามากที่สุด
    • หยุดรถให้รถที่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาไปก่อน
    • ขับไปจอดต่อท้ายรถที่เสียพร้อมกับเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
  • 121).กรณีที่ท่านเห็นรถคันอื่นให้สัญญาณเพื่อเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางการเดินรถ ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
    • หยุดรถ
    • ชะลอความเร็วและให้ทาง
    • จอดรถ
    • เร่งความเร็วเพื่อจะไปก่อน
  • 122).เมื่อท่านใช้เบรกแล้วรถเคลื่อนที่ไปด้านใดด้านหนึ่ง ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ใช้เบรกมือร่วมด้วย
    • เปลี่ยนเกียร์และเหยียบเบรกขึ้นลง
    • ตรวจสอบระบบเบรกโดยเร็วที่สุด
    • เพิ่มความดันของลมยาง
  • 123).เพราะเหตุใดคนขับรถจักรยานยนต์ควรมองข้ามหลังตนเองก่อนการเลี้ยวขวา
    • เพื่อตรวจสอบจุดบอดด้านหลัง
    • เพื่อสามารถทรงตัวได้เมื่อทำการเลี้ยว
    • รถจักรยานยนต์ไม่มีกระจก
    • เพื่อฟังเสียงรถที่วิ่งตามมา
  • 124).ผู้รับประทานยานอนหลับและยาคลายกังวลควรขับขี่ยานพาหนะหรือไม่
    • ได้เฉพาะรถสาธาณะ
    • ได้ทุกกรณี
    • ได้เฉพาะยานพาหนะส่วนตัว
    • ไม่ควรทุกกรณี
  • 125).วิธียืดอายุการใช้งานของผ้าเบรกควรทำอย่างไร
    • ควรกะระยะในการหยุดรถและเบรกอย่างนุ่มนวล
    • ควรเบรกแบบกะชั้นชิด
    • ควรเบรกและหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายและขวาเล็กน้อย
    • ควรใช้เบรกมือและเบรกเท้าพร้อมกันเมื่อต้องการหยุดรถ
  • 126).ท่านควรปฏิบัติอย่างไรต่อคนขับรถที่อ่อนประสบการณ์
    • กะพริบไฟเพื่อบอกคนขับรถว่าปลอดภัยที่จะไปได้
    • บีบแตรเพื่อเตือนว่ามีรถอยู่
    • อดทนและเตรียมพร้อม เนื่องจากคนขับอาจตอบสนองได้ช้า
    • แซงให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
  • 127).ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ถูกต้องและแสดงมารยาทที่ดีของผู้ขับรถ
    • จอรถขวางรถคันอื่นโดยเข้าเกียร์และเบรกมือ
    • ต้องการไปทางตรงแต่ขับรถในช่องจราจรเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาหรือกลับรถ
    • ไม่ใช่ผู้พิการแต่จอดรถในพื้นที่จอดรถของผู้พิการ
    • กลับรถที่จุดกลับรถทุกครั้งแม้จะอยู่ไกล
  • 128).ยาแก้เวียนศีรษะเมารถ มีผลข้างเคียงที่รบกวนต่อการขับขี่หรือไม่
    • มี แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับขี่
    • มี เช่น มึนงง เวียนศีรษะ มองเห็นไม่ชัด
    • ไม่มี
    • ขึ้นกับความรุนแรงของโรค
  • 129).ข้อใดคือวิธีป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนจัด
    • เติมยางรถยนต์ให้มากกว่าปกติ
    • เปิดเครื่องปรับอากาศรถยนต์ให้แรง
    • เปลี่ยนพัดลมให้แรงขึ้น
    • ตรวจระดับน้ำในหม้อในหม้อน้ำก่อนใช้งานทุกครั้ง
  • 130).เมื่อท่านขับตามรถบรรทุกเข้าสู่ทางแยก คนขับรถบรรทุกให้สัญญาณเลี้ยวซ้าย ควรปฏิบัติอย่างไร
    • แซงรถบรรทุกเฉพาะในกรณีที่ไม่มีรถสวน
    • แซงรถบรรทุก หากมีพื้นที่มากพอ
    • ห้ามแซงรถบรรทุกขณะอยู่ที่ทางแยก
    • ห้ามแซงรถบรรทุกจนกว่ารถบรรทุกจะเริ่มเลี้ยว
  • 131).แอลกอฮอล์มีผลอย่างไรกับผู้ขับรถ
    • ปฏิกิริยาการตอบสนองต่อเหตุการณ์ช้าลง
    • ช่วยเร่งปฏิกิริยาการตอบสนองต่อเหตุการณ์
    • ช่วยพัฒนาปฏิสัมพันธ์กับสภาวะรอบตัว
    • ทำให้สามารถรับรู้สถานการณ์เพิ่มขึ้น
  • 132).เมื่อท่านจะทำการแซงรถจักรยาน ควรเว้นระยะห่างให้มาก เพราะเหตุใด
    • ผู้ใช้รถจักรยาน อาจจำเป็นต้องเลี้ยวซ้าย
    • ผู้ใช้รถจักรยาน อาจลงจากรถ
    • ผู้ใช้รถจักรยาน อาจหักเลี้ยวกระทันหัน
    • ผู้ใช้รถจักรยาน อาจเร่งความเร็ว
  • 133).การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร
    • หากไม่มีสัญญาณไฟจราจรให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
    • เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
    • เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
    • ให้รถที่มีอยู่ในทางร่วมทางแยกขับผ่านไปก่อน
  • 134).ข้อใดไม่ใช่หลักการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ควรปฏิบัติ
    • ต้องเคลื่อนย้ายอย่างถูกต้อง
    • ต้องทราบว่าผู้บาดเจ็บได้รับบาดเจ็บบริเวณไหน
    • ต้องให้การปฐมพยาบาลก่อนการเคลื่อนย้าย
    • ต้องเคลื่อนย้ายทันทีไม่ต้องดูอาการ
  • 135).การเติมลมยาง ควรปฏิบัติอย่างไร
    • คาดคะเนด้วยสายตา
    • เติมเท่าไหร่ก็ได้
    • ปฏิบัติตามคู่มือการใช้รถ
    • ใช้วิธีเคาะแล้วฟังเสียงยาง
  • 136).เมื่อต้องการแซงรถบรรทุกที่วิ่งช้าบนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นควรปฏิบัติอย่างไร
    • เว้นระยะให้ห่างจากรถบรรทุกเพื่อที่จะสามารถเห็นด้านหน้าว่าสามารถแซงได้หรือไม่
    • กะพริบไฟเพื่อให้รถที่สวนมาให้ทาง
    • รอด้านหลังรถบรรทุก จนกว่าคนขับจะโบกมือให้สัญญาณว่าผ่านได้
    • ตามหลังอย่างกระชั้นชิดและคอยเคลื่อนที่ออกเพื่อมองถนนข้างหน้า
  • 137).ในการขับรถช่วงเวลากลางคืน ควรที่จะมีการใช้ไฟหน้ารถอย่างไร
    • เปิดไฟต่ำเมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าและรถสวนทางมา
    • เปิดไฟหน้า ไฟตัดหมอก และไฟกะพริบฉุกเฉิน
    • เปิดไฟสูง ตลอดเวลาที่ขับขี่
    • เปิดทั้งไฟหน้า และไฟตัดหมอก
  • 138).ยาทุกชนิดที่มีจำหน่ายในร้านขายยา สามารถรับประทานได้โดยไม่มีผลต่อการขับขี่ใช่หรือไม่
    • ขึ้นอยู่กับชนิดของยานพาหนะที่ขับขี่
    • ใช่
    • ไม่ใช่
    • ขึ้นอยู่กับอาหารการกิน
  • 139).วิธีปฏิบัติเป็นสิ่งแรกเมื่อรถยางแตกคือข้อใด
    • จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถให้ปลอดภัย
    • เหยียบคันเร่ง
    • ควรล็อกประตูรถทุกบาน
    • มองกระจกหลัง
  • 140).เมื่อผู้โดยสารเป็นเด็ก 5 ขวบที่มีความสูงน้อยกว่า 1.35 เมตร หากไม่มีที่นั่งสำหรับเด็กให้เด็กนั่งอย่างไร
    • ให้เด็กนั่งที่นั่งปกติและคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่
    • นั่งหลังที่นั่งผู้โดยสาร
    • ให้เด็กนั่งที่นั่งปกติและคาดเข็มขัดนิรภัยร่วมกับผู้ใหญ่
    • นั่งระหว่างเด็กคนอื่นๆ
  • 141).พฤติกรรมใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติขณะขับขี่บนถนน
    • ไม่ขับรถจี้หลังกระชั้นชิด
    • เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อวิ่งตรงบนทางแยก
    • ไม่แซงกระชั้นชิด
    • ใช้สัญญาณไฟเลี้ยวเมื่อต้องการเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน
  • 142).การตรวจเช็กแบตเตอรี่แบบง่ายๆ ว่ามีไฟปกติหรือไม่ กระทำได้อย่างไร
    • บีบแตรและฟังเสียงว่าปกติหรือเบาลง
    • หมุนพวงมาลัยไปด้านซ้ายและขวา
    • เหยียบคลัตช์และเข้าเกียร์ให้ครบ
    • ออกรถ 2-3 เมตรแล้วทดสอบเบรก
  • 143).จากรูป ในขณะสัญญาณไฟเขียว หากท่านต้องการจะขับตรงไป แต่ท่านได้ยินสัญญาณรถพยาบาลมาทางขวามือของท่าน ท่านควร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ใช้สัญญาณแตรเพื่อเตือนรถพยาบาลให้รู้ว่าท่านจะไปก่อน
    • ขับผ่านไปตามปกติ
    • หยุดรอรถพยาบาลไปก่อน
    • รีบๆ ขับผ่านไปจะได้ไม่ขวางทางรถพยาบาล
  • 144).อุปกรณ์ใดที่ไม่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเบรกรถ
    • ระบบช่วงล่าง
    • ยางรถยนต์
    • พวงมาลัย
    • เกียร์
  • 145).เมื่อท่านต้องการเลี้ยวซ้ายจากถนนรองเข้าถนนหลัก มีรถบรรทุกวิ่งมาทางด้านขวา เพราะเหตุใดจึงควรหยุดรอแม้ว่ามีเวลาพอที่จะเลี้ยวเข้าทางหลัก
    • รถบรรทุกควบคุมได้ยากในทางตรง
    • รถบรรทุกอาจบดบังรถทางด้านซ้ายได้
    • รถบรรทุกอาจเลี้ยวในทันทีทันใด
    • รถบรรทุกอาจบดบังรถยนต์ที่ทำการแซงได้
  • 146).เมื่อท่านขับรถตามหลังรถบรรทุกโดยเว้นระยะห่างไว้ แต่มีรถยนต์เข้ามาแทรกในระยะห่างนั้น ควรปฏิบัติอย่างไร
    • เริ่มทำการแซง
    • กะพริบไฟ
    • บีบแตร
    • เว้นระยะห่างออกไปอีก
  • 147).สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ
    • คน
    • คน รถ ถนน
    • คน รถ
    • คน รถ ถนน สิ่งแวดล้อม
  • 148).เมื่อท่านขับรถขณะจะเลี้ยวซ้ายตรงทางแยกและมีคนกำลังข้ามถนน ควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เลี้ยวซ้ายและเว้นระยะห่างจากคนข้ามถนนไว้
    • ให้ทางแก่คนข้ามถนน
    • บีบแตรและทำการเลี้ยว
    • หยุดและโบกมือให้คนข้ามถนนข้ามไปก่อน
  • 149).เมื่อขับรถในช่วงที่มีการจราจรเคลื่อนตัวช้า ก่อนเปลี่ยนช่องทางเดินรถควรปฏิบัตอย่างไร
    • เปลี่ยนเป็นเกียร์ 1
    • ตรวจจดูรถจักรยานยนต์ที่แทรกตามช่องว่างระหว่างรถ
    • ให้สัญญาณมือ 'ขับช้าลง'
    • บีบแตรและกะพริบไฟ
  • 150).เมื่อต้องการเลี้ยวขวาจากทางหลักเข้าสู่ทางรอง ควรปฏิบัติอย่างไรก่อนทำการเลี้ยว
    • หยุดและใช้เบรกมือ
    • ใช้เกียร์ 1
    • ตรวจดูว่ามีรถที่กำลังจะแซงหรือไม่
    • ปิดไฟเลี้ยวขวา
  • 151).เพราะเหตุใดจึงจำเป็นต้องหมุนกระจกให้น้ำไหลเข้าในรถ เมื่อขับรถตกน้ำ
    • เพื่อดูดอากาศหายใจให้เข้าปอดมากที่สุด
    • เพื่อเป็นทางออกสำหรับผู้ติดอยู่ในรถ
    • เพื่อไม่ให้กระจกรถแตก
    • เพื่อปรับความดันในรถและนอกรถให้เท่ากัน
  • 152).เมื่อเข้าสู่วงเวียนขนาดเล็ก หากเห็นรถบรรทุกให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายแต่ขับชิดขวา ควรทำอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เว้นระยะห่าง
    • บีบแตร
    • ทำตามรถบรรทุก
    • แซงจากทางด้านซ้าย
  • 153).จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวาที่ทางแยกรูปตัว T ท่านจะต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ให้ทั้งรถทางขวาและซ้ายไปก่อน
    • เลี้ยวขวาได้ทันที
    • ให้รถทางขวาไปก่อน
    • ให้รถทางซ้ายไปก่อน
  • 154).จากรูป รถคันใดจะต้องให้ทาง

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • รถคันสีขาว
    • รถที่มีความเร็วต่ำกว่า
    • รถคันสีแดง
    • รถที่มีความเร็วสูงกว่า
  • 155).จากรูป หากท่านกำลังขับขี่เข้าสู่บริเวณทางข้ามท่านควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ชะลอความเร็วและเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถ
    • เพิ่มความเร็ว
    • ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม
    • บีบแตรเพื่อเร่งให้คนรีบเดิน
  • 156).ท่านคิดว่าข้อใดเป็นการขับขี่ที่ไร้ซึ่งมารยาทอย่างมาก
    • ขับรถชิดซ้าย หรือให้ทางแก่รถฉุกเฉิน
    • ขับรถจี้ท้าย และบีบแตรไล่บนทางด่วน
    • ชะลอความเร็วให้รถคันอื่นแซง
    • ใช้ความเร็วรถปกติ เมื่อมีรถคันอื่นกระพริบไฟขอทาง
  • 157).เมื่อพบคนเดินเท้า ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ
    • เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ
    • ชะลอความเร็ว
    • บีบแตรเพื่อไล่คนเดินเท้า
    • หยุดรถให้คนเดินเท้าข้าม
  • 158).หากต้องขับรถผ่านผิวการจราจรชำรุด ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ใช้ความเร็วต่ำ
    • ขับขี่อย่างระมัดระวัง
    • ขับรถด้วยความเร็วสูง
    • ไม่เบรกกระทันหันระหว่างที่ขับขี่อยู่บริเวณที่มีผิวทางชำรุด
  • 159).ในการขับรถข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อคันด้านหน้าขับข้ามทางรถไฟไปแล้วท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • รอสัญญาณไฟเขียว
    • ก่อนข้ามทางรถไฟต้องตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง
    • ขับตามคันด้านหน้าไปได้เลย
    • หยุดรอเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ
  • 160).เมื่อท่านพบรถประจำทางเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อออกจากป้ายรถเมล์ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ชะลอความเร็วและให้รถประจำทางไปก่อน
    • ไม่ต้องสนใจและขับแซงรถประจำทางไปในทันที
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อบอกให้รถประจำทางไปก่อน
    • บีบแตรหรือกะพริบไฟสูง
  • 161).สิ่งใดต่อไปนี้ช่วยลดการบาดเจ็บที่คอได้เมื่อเกิดการชน
    • ระบบเบรก ABS
    • เบาะสปริงลม
    • แกนพวงมาลัยแบบยุบตัวได้
    • หมอนรองศีรษะที่ปรับระดับได้เหมาะสม
  • 162).สถานการณ์ใดใช้ไฟฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม
    • เปิดไฟฉุกเฉินในขณะที่หมอกลงจัด
    • เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อกำลังจะเลี้ยวซ้ายบริเวณทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร
    • เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อรถจอดเสียอยู่บริเวณไหล่ทาง
    • เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้ผู้ขับขี่ท่านอื่นทราบว่าตนจะวิ่งตรงไป
  • 163).ข้อใดเป็นการตรวจเช็กและบำรุงรักษาอุปกรณ์รถยนต์ที่ไม่ถูกต้อง
    • เติมน้ำบาดาลในถังหม้อพักน้ำ
    • ควรตรวจสอบการรัดตรึงของหัวขั้วแบตเตอรี่ให้มีสภาพพร้อมใช้งานเสมอ
    • เติมน้ำมันเครื่องโดยเติมให้อยู่ระดับบนเสมอ
    • ควรใช้น้ำกลั่นเติมลงในแบตเตอรี่
  • 164).เมื่อเห็นกลุ่มควันจากห้องเครื่องขณะขับรถ ผู้ขับรถควรปฏิบัติอย่างไร
    • แจ้งกู้ภัยทางหลวง
    • จอดและสละรถทันที
    • ขับรถลงแม่น้ำข้างทาง
    • ตั้งสติและขับรถจอดข้างทาง
  • 165).ฝาปิดจุ๊บลมยางมีประโยชน์อย่างไร
    • ป้องกันลมรั่วซึมและสิ่งสกปรกต่างๆ
    • ป้องกันการขโมยยาง
    • ป้องกันไม่ให้ใครมาเติมลม
    • ป้องกันยางแตก
  • 166).เมื่อกำลังจะเดินทางกลับบ้านหลังจากช่วงวันหยุดหลายวัน หากท่านไม่สบายและแพทย์สั่งยาที่มีผลต่อการขับรถ ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ไม่ขับรถเกินกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    • หลีกเลี่ยงการขับรถบนทางหลวงพิเศษ
    • ขับรถได้เมื่อมีคนโดยสารไปด้วยเท่านั้น
    • ให้ผู้อื่นขับรถแทน
  • 167).ข้อใดไม่ควรปฏิบัติหากพบอุบัติเหตุข้างหน้า
    • ชะลอความเร็วและให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
    • โทรเรียกสายด่วนรถพยาบาล
    • สังเกตการณ์อยู่บนรถ หากไม่ใช่คนรู้จักจึงขับรถไปต่อ
    • จอดรถข้างทางแสดงสัญญลักษณ์เตือนให้ระมัดระวัง
  • 168).ถ้าเติมลมยางแข็งเกินไป จะมีผลกับยางอย่างไร
    • การขับขี่จะนุ่มนวลขึ้น
    • ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง
    • ดอกยางด้านข้างจะสึกเร็วกว่าปกติ
    • ดอกยางตรงกลางจะสึกหรอเร็วกว่าปกติ
  • 169).หากผู้ขับขี่ทานยาแก้แพ้ ยาแก้เมารถ แล้วมีอาการเวียนศีรษะ มึนงง ควรปฏิบัติอย่างไร
    • งดเว้นการขับขี่ เนื่องจากมีอาการง่วง
    • ขับได้แต่ต้องดื่มน้ำตามเยอะๆ
    • นั่งพัก 10 นาทีจึงสามารถขับขี่รถได้
    • สามารถขับขี่รถได้ปกติ
  • 170).ข้อใดคือความสำคัญของการจัดตำแหน่งที่หมอนรองศีรษะให้เหมาะสม
    • ช่วยลดอากรบาดเจ็บที่คอกรณีเกิดอุบัติเหตุ
    • ช่วยทำให้รักษาตำแหน่งท่าในการขับรถได้ดีขึ้น
    • ช่วยทำให้ผ่อนคลาย
    • ช่วยทำให้สบายมากขึ้น
  • 171).การจอดรถขวางทางคันอื่น ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ใส่เกียร์เดินหน้า
    • ใส่เบรกมือไว้
    • ปลดเกียร์ว่าง ไม่ใช้เบรกมือ
    • ใส่เกียร์ถอยหลัง
  • 172).สิ่งใดที่ผู้ขับรถไม่ควรทำเมื่อได้รับสัญญาณไฟเขียวให้ขับเคลื่อนรถไปได้
    • บีบแตรเร่งรถคันหน้าให้เคลื่อนตัวออกโดยเร็ว
    • ชะลอให้รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าเคลื่อนออกไปก่อน
    • ตรวจสอบรถในทางแยกอื่นที่อาจวิ่งออกมาก่อนที่จะขับเข้าสู่ทางแยกด้านหน้า
    • ค่อยๆ เคลื่อนรถออกโดยทิ้งช่วงห่างกับคันหน้าพอสมควร
  • 173).การตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบเมื่อใด
    • ขณะที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่
    • ขณะที่จอดรถบนเนิน
    • หลังดับเครื่องยนต์ทันที
    • ขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน
  • 174).หากน้ำหล่อเย็นในระบบเครื่องยนต์ไม่เพียงพอสำหรับการระบายความร้อน จะส่งผลอย่างไร
    • น้ำมันหมด
    • เครื่องยนต์อุณหภูมิสูงผิดปกติ
    • ไม่มีข้อใดถูก
    • หัวเทียนดับ
  • 175).เมื่อรถที่ขับตามหลังมาให้สัญญาณขอแซง มารยาทที่ดีเพื่อแสดงการตอบรับว่ายินยอมให้แซง คือ
    • ให้สัญญาณแตร และลดความเร็วลง
    • ให้สัญญาณไฟฉุกเฉิน
    • ให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย ชิดซ้าย และลดความเร็วลง
    • ให้สัญญาณไฟสูง และลดความเร็วลง
  • 176).ท่านกำลังขับขี่ผ่านบริเวณที่มีรถจอดอยู่ข้างทาง แต่ท่านสังเกตเห็นลูกบอลกลิ้งออกมา ท่านควรปฏิบัติอย่างใด

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ขับรถด้วยความเร็วเท่าเดิมและให้สัญญาณไฟสูง
    • ลดความเร็วลงและเตรียมที่จะหยุดรถ
    • จอดรถและโบกมือให้เด็กไปเก็บลูกบอล
    • ขับรถด้วยความเร็วเท่าเดิมและให้สัญญาณแตร
  • 177).ผู้ขับขี่ต้องระมัดระวังทิศทางใดบ้างในระหว่างการขับขี่
    • ด้านการขับขี่
    • ด้านความปลอดภัย
    • ด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา
    • ด้านข้างๆ
  • 178).จากรูป เมื่อรถคันสีเหลืองต้องการที่จะขับตรงไป ควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เปิดไฟสัญญาณไฟฉุกเฉิน
    • บีบแตรไล่และพยายามขับเบียดแทรกอย่างรวดเร็ว
    • หยุดรอจนกว่ารถที่ขวางทางจะผ่านไป
    • บีบแตรอย่างต่อเนื่อง
  • 179).ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด
    • น้ำกลั่นแบตเตอรี่แห้ง
    • น้ำมันเครื่องแห้ง
    • น้ำในหม้อน้ำแห้ง
    • สายพานพัดลมขาด
  • 180).ข้อใดต่อไปนี้คือประโยชน์สูงสุดของการใช้เกียร์ต่ำในขณะลงทางลาดชัน
    • ช่วยประหยัดน้ำมัน
    • เพิ่มการทรงตัวของรถ
    • ลดการสึกหรอของผ้าเบรก
    • เพื่อเป็นการหน่วงความเร็วของรถ
  • 181).ข้อใดเป็นการขับรถเข้าทางโค้งอย่างปลอดภัย
    • เปลี่ยนเกียร์ขณะเข้าทางโค้ง
    • เหยียบเบรกกะทันหันขณะเข้าทางโค้ง
    • ใช้ความเร็วสูงกว่าที่กำหนด
    • ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง
  • 182).เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ให้ผู้ขับขี่ขับรถอย่างรวดเร็ว
    • ให้ผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลง และรีบเร่งเครื่องไปก่อน
    • ให้ผู้ขับขี่ ขับรถให้ช้าลง แล้วแซงได้
    • ขับรถให้ช้าลง หากเห็นรถคันอื่นหรือคนเดินเท้าในทางขวางหน้า ต้องหยุดรถก่อนถึงแนวเส้นให้ทาง
  • 183).หากท่านขับรถในตำแหน่งของรถคันสีเทา (ลูกศรชี้) ควรระมัดระวังสิ่งใดมากที่สุด

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ที่จอดรถที่ว่างอยู่
    • รถที่ตามหลังมา
    • รถที่จอดอยู่อาจเปิดประตู
    • พื้นผิวถนนที่ขรุขระ
  • 184).หากเข็มวัดอุณหภูมิสูงจนถึงตัว H หมายความว่าอย่างไร
    • ระบบระบายความร้อนเสีย
    • ระบบระบายความร้อนอยู่ในระดับดีมาก
    • เกิดความผิดปกติในระบบระบายความร้อน
    • ระดับปกติ
  • 185).เมื่อมีผู้อื่นแบ่งปันน้ำใจในการใช้รถใช้ถนนให้ท่าน ข้อใดไม่ควรปฏิบัติ
    • โค้งศีรษะแสดงความขอบคุณ
    • เปิดไฟสูงแสดงการขอบคุณ
    • ส่งยิ้มแสดงการขอบคุณ
    • ยกมือขวาขึ้นระดับคิ้วแสดงการขอบคุณ
  • 186).ผู้ขับขี่ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการขับขี่ ไม่ว่ากรณีใดๆ ใช่หรือไม่
    • ขึ้นอยู่กับอาหารการกิน
    • ขึ้นอยู่กับชนิดของยานพาหนะที่ขับขี่
    • ใช่ เพราะทำให้ร่างกายตอบสนองช้า
    • ไม่ใช่
  • 187).หม้อน้ำรถยนต์มีหน้าที่อะไร
    • ทำให้ประหยัดน้ำมัน
    • ทำให้รถวิ่งเร็วขึ้น
    • ระบายความร้อนในห้องผู้โดยสาร
    • ระบายความร้อนของเครื่องยนต์
  • 188).อุบัติเหตุบนถนนที่เกิดจากการแซง มักจะเกิดการชนแบบใด
    • ชนฟุตบาทหรือริมถนน
    • ชนแบบประสานงา
    • ชนจากทางด้านข้าง
    • ชนเดินคนเท้า
  • 189).ขณะที่ขับรถกลับบ้าน ถ้าท่านรู้สึกเหนื่อยและปวดหัวอย่างมาก ควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับรถมากที่สุด
    • รับประทานยาแก้ปวด แล้วขับรถกลับบ้าน
    • ขับรถกลับบ้าน ถ้ายังมีสติ
    • รอเป็นระยะเวลาสั้นๆ แล้วค่อยๆขับรถกลับบ้าน
    • รอจนกระทั่งร่างกายมีความพร้อมในการขับรถ
  • 190).เมื่อท่านขับรถที่มีระบบเบรก ABS ควรเหยียบเบรกอย่างไรในกรณีที่ต้องการหยุดเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    • เหยียบเบรกอย่างค่อยๆ และช้าๆ
    • เหยียบเบรกอย่างค่อยๆ อย่างรวดเร็ว
    • เหยียบเบรกอย่างช้าๆ แต่เต็มที่
    • เหยียบเบรกอย่างรวดเร็วและเต็มที่
  • 191).ถ้าเติมลมยางอ่อนเกินไป จะมีผลกับยางอย่างไร
    • การขับขี่จะแข็งกระด้าง
    • ดอกยางตรงกลางจะสึกเร็วกว่าปกติ
    • ทำให้ดอกยางทางด้านข้างทั้งสองสึกหรอ
    • ทำให้กินน้ำมันน้อยลง
  • 192).สิ่งที่ผู้ขับรถควรทำเมื่อเห็นคนยืนบนฟุตบาทและแสดงท่าทีจะข้ามถนนตรงทางข้าม
    • ขับรถตามหลังท้ายคันหน้าอย่างกระชั้นชิดโดยไม่หยุดให้คนข้ามถนน
    • แตะเบรกเตือนให้รถหลังรู้ว่าท่านกำลังจะหยุดรถ และหยุดรถตรงทางข้าม
    • ขับรถแซงคันที่จอดรถให้คนข้ามและขับผ่านไปโดยเร็ว
    • บีบแตรเตือนคนที่จะข้ามถนนและเร่งความเร็วผ่านไป
  • 193).การตรวจสอบลมยางข้อใดปลอดภัยที่สุด
    • สัปดาห์ละครั้ง
    • เดือนละครั้ง
    • ทุกครั้งก่อนใช้งาน
    • วันละครั้ง
  • 194).เมื่อขับเข้าใกล้บริเวณทางข้ามหน้าโรงเรียน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วลงและเพิ่มความระมัดระวัง
    • ให้สัญญาณเตือนผู้คนในระแวกนั้น
    • ขับรถชิดขอบทางด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง
    • พยายามใช้ความเร็วคงที่ในการผ่านบริเวณนั้น
  • 195).เหตุใดจึงไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำทันที เมื่อพบว่าเครื่องยนต์ร้อนจัด
    • เครื่องยนต์อาจจะระเบิด
    • เครื่องยนต์มีเสียงดัง
    • เครื่องยนต์จะดับ
    • เครื่องยนต์มีแรงดันสูง น้ำร้อนอาจพุ่งขึ้นมา
  • 196).หากไปถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรกในสถาณการณ์ที่มีคนบาดเจ็บรุนแรง เมื่อได้ทำการเปิดไฟฉุกเฉินและตรวจสอบว่าเครื่องยนต์ดับเรียบร้อยแล้ว ควรปฏิบัติอย่างไรต่อไป
    • ติดต่อรถช่วยเหลือฉุกเฉิน
    • พยายามให้ผู้บาดเจ็บดื่มอะไรบางอย่าง
    • เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากรถ
    • หยุดรถคันอื่นๆ และขอความช่วยเหลือจากคนขับรถ
  • 197).ข้อบกพร่องใดที่เป็นสาเหตุทำให้หน้ายางของรถสึกหรอ
    • ระบบปล่อยควันเสียบกพร่อง
    • กระปุกเกียร์บกพร่อง
    • ระบบเบรกบกพร่อง
    • ระบบไฟฟ้าบกพร่อง
  • 198).ขณะที่ขับรถอยู่นั้น หากมีรถขับตามหลังมาในระยะกระชั้นชิดท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • เปิดไฟเลี้ยวซ้าย และโบกมือให้รถทางด้านหลังแซง
    • เคลื่อนที่ไปติดด้านซ้ายและเส้นกลางของถนน
    • เพิกเฉยต่อคนขับรถด้านหลัง และขับต่อไปด้วยความเร็วภายใต้ที่กฎหมายกำหนด
    • ลดความเร็วลง โดยเพิ่มระยะห่างจากรถด้านหน้าเพื่อให้มีระยะหยุดรถเพียงพอ
  • 199).เมื่อรถคันสีขาวเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อขอทางดังรูป รถคันสีแดงต้องปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ลดความเร็วลง
    • ใช้สัญญาณแตรเตือน
    • เร่งความเร็วขึ้น
    • เปิดไฟสูงเตือน
  • 200).สิ่งใดที่ท่านควรระวังเป็นพิเศษเมื่อพบรถโดยสารจอดอยู่ในถนนฝั่งตรงข้าม
    • รถโดยสารอาจเคลื่อนที่โดยฉับพลัน
    • ผู้เดินเท้าอาจเดินออกมาทางข้างหลังรถโดยสาร
    • รถโดยสารอาจเสียอยู่
    • ไม่ต้องระวัง เนื่องจากเป็นถนนฝั่งตรงข้าม
  • 201).ข้อใดคือการกระทำที่ถูกต้องก่อนขับรถ
    • นางสาว ก. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนขับรถ
    • นางสาว ข. ทานยาแก้แพ้ก่อนขับรถ
    • นางสาว ค. อดนอนก่อนขับรถ
    • นาย ข ได้ยาเบาหวานแบบฉีดจึงหยุดขับรถ
  • 202).ข้อใดต่อไปนี้ หากผู้ขับขี่ปฏิบัติจะไม่ช่วยลดจุดบอดได้
    • ปรับกระจกมองข้างและมองหลังให้เหมาะสม
    • ติดตั้งเบรกที่มีสมรรถนะสูง
    • ขณะถอยหลัง ควรให้แน่ใจว่าไม่มีคนหรือสิ่งของอยู่ข้างหลัง
    • นั่งท่าขับรถที่ถูกต้อง
  • 203).ขณะที่รถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังจะแซงรถของท่าน ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • เร่งความเร็ว
    • ลดความเร็ว
    • เปลี่ยนทิศทาง
    • รักษาความเร็วให้คงที่
  • 204).สิ่งใดต่อไปนี้มีผลทำให้รถเปลืองน้ำมัน
    • ขับด้วยความเร็วคงที่
    • เปิดไฟหน้าในขณะขับรถ
    • บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด
    • ระยะการปรับเบรกปกติ
  • 205).หากท่านขับรถอยู่ในความเร็วที่กฎหมายกำหนดและมีรถด้านหลังพยายามจะทำการแซง ท่านควรปฏิบัตอย่างไร
    • เร่งความเร็วเพื่อทิ้งระยะจากรถด้านหลัง
    • รักษาระยะและให้รถด้านหลังทำการแซง
    • โบกมือให้รถด้านหลังแซงได้เมื่อเห็นว่าปลอดภัย
    • ขับรถเข้าใกล้รถคันหน้า เพื่อให้รถด้านหลังไม่มีพื้นที่ในการแซง
  • 206).การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยผู้ช่วยเหลือสองคน เหมาะกับผู้ป่วยแบบใด
    • ผู้บาดเจ็บที่มีน้ำหนักน้อย
    • สำหรับผู้บาดเจ็บที่ไม่รู้สึกตัว
    • เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่รู้สึกตัวดี
    • เหมาะที่จะใช้ในกรณีฉุกเฉิน
  • 207).หากเห็นคนพิการกำลังข้ามถนน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วและกะพริบไฟสูงใส่คนพิการ
    • หยุดรถให้คนพิการข้ามผ่านทางไปก่อน
    • เร่งความเร็วและขับอ้อมไปทางด้านขวาของคนพิการ
    • หยุดและให้สัญญาณแตรจนกว่าคนพิการข้ามจนพ้นทาง
  • 208).ภาพนี้แสดงว่าเครื่องยนต์มีอาการอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เครื่องยนต์เย็นจัด
    • เครื่องยนต์อุณหภูมิปกติ
    • ไม่มีข้อใดถูก
    • เครื่องร้อนจัด (Over Heat)
  • 209).วิธีเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ แบบนั่งบนมือทั้งสี่ที่จับประสานกันเป็นแคร่หรือยกโดยใช้เก้าอี้ เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บแบบใด
    • ผู้บาดเจ็บในกรณีฉุกเฉิน
    • ผู้บาดเจ็บที่ไม่รู้สึกตัว
    • ผู้บาดเจ็บที่ลำตัว หรือกระดูกหัก
    • ผู้บาดเจ็บที่ขาเจ็บ แต่รู้สึกตัวดี และสามารถใช้แขนทั้งสองข้างได้
  • 210).ท่านควรใช้สัญญาญไฟฉุกเฉินในกรณีใด
    • เมื่อท่านต้องการขับผ่านสี่แยกไปในทิศทางตรง
    • เมื่อท่านขับรถด้วยความเร็วต่ำเนื่องจากฝนตกหนัก
    • เมื่อรถของท่านเสีย หรือ เกิดอุบัติเหตุ
    • เมื่อท่านขับรถด้วยความเร็วต่ำขณะที่กำลังหลงทาง
  • 211).ข้อใดไม่ใช่มารยาทที่ดีในการแซงหรือเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
    • ถนนยิ่งแคบยิ่งต้องขับช้าๆ และแซงด้วยความระมัดระวัง
    • ให้สัญญาณไฟเลี้ยว ก่อนแซงทุกครั้ง
    • เมื่อแซงรถคันหน้าแล้วปาดหน้าชิดซ้ายทันที
    • ไม่แซงในที่คับขันหรือเขตห้ามแซง
  • 212).ทัศนคติและจิตสำนึกในการขับรถอย่างปลอดภัยของผู้ขับรถคืออะไร
    • ขับรถเก่งคล่องแคล่ว
    • ขับรถช้า ใจเย็น
    • ขับรถดีไม่เกิดอุบัติเหตุ
    • ขับรถอย่างมีสติเคร่งครัดวินัยจราจรแสดงออกถึงมารยาทและน้ำใจ
  • 213).ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของการสตาร์ทรถไม่ติด
    • สายพานหย่อน
    • น้ำมันเชื้อเพลิงหมด
    • ขั้วแบตเตอรี่หลวม
    • มอเตอร์สตาร์ทเสีย
  • 214).ข้อใดถูกต้อง
    • การเติมน้ำมันควรเติมในช่วงกลางวันเท่านั้น
    • เติมน้ำมันค่าออกเทน 95 แทนออกเทน 91 ไม่ได้
    • ไม่ควรเติมน้ำมันหล่อลื่นลงไปผสมในน้ำมันเชื้อเพลิง
    • น้ำมันที่แพงคือน้ำมันที่ดีที่สุด
  • 215).ข้อใดกล่าวถูกต้อง
    • ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ไม่สามารถขับรถได้
    • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ไม่สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวได้
    • ผู้ป่วยที่มีสายตาสั้น ไม่สามารถขับรถยนต์สาธารณะได้
    • ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงขณะปรากฏอาการไม่ควรขับรถ
  • 216).ก่อนทำการแซงรถบรรทุก ควรเว้นระยะห่างให้มากเพราะเหตุใด
    • เพื่อทัศนวิสัยในการมองเห็นได้ดีที่สุด
    • เพื่อให้มีพื้นที่ในการเร่งความเร็ว โดยจะช่วยให้ทำการแซงได้เร็วขึ้นในช่วงทางโค้งที่เป็นจุดบอด
    • เพื่อให้มีพื้นที่ให้รถคันอื่นสามารถแซงได้
    • เพื่อให้มีพื้นที่ในกรณีที่รถบรรทุกหยุด
  • 217).หากมีผู้ขับรถกำลังกลับรถเข้ามาในช่องทางที่ท่านขับรถอยู่ ท่านจะตัดสินใจทำอย่างไร
    • เร่งความเร็วเพื่อขอทางไม่ให้กลับรถ
    • หงุดหงิด บีบแตรไล่ แต่หยุดรถให้
    • หลบรถโดยแซงไปอีกช่องทางหนึ่ง
    • มีน้ำใจชะลอความเร็วและให้ทางแก่ผู้กลับรถ
  • 218).เมื่อท่านขับรถเข้าสู่ทางม้าลายแล้วพบว่ามีคนนั่งรถเข็นรอข้ามถนน ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • โบกมือให้คนนั่งรถเข็นหยุดรอ
    • ขับต่อไป
    • โบกมือให้คนนั่งรถเข็นข้ามได้
    • เตรียมพร้อมที่จะหยุด
  • 219).การแก้ไขสถานการณ์ จะต้องตั้งสมมุติฐานไว้ตามข้อใด
    • จะต้องปลอดภัยไว้ก่อน โดยไม่นึกถึงรถคันอื่นบนท้องถนน
    • การป้องกันไว้ก่อน เพื่อตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์
    • ไม่จำเป็นต้องคิดอะไร เพื่อจะเกิดอุบัติเหตุค่อยแก้ไขปัญหาทันที
    • ขับรถไปตามปกติเพราะรถเรามีการป้องกันอุบัติเหตุที่ดีอยู่แล้ว
  • 220).เมื่ออยู่ในสถานที่เกิดเหตุ สามารถช่วยผู้บาดเจ็บที่หมดสติได้อย่างไร
    • ตรวจสอบว่าหายใจเป็นปกติหรือไม่
    • ใช้น้ำเย็นสาดใส่หน้าผู้บาดเจ็บ
    • เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปยังที่ที่สบายกว่า
    • ถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุ
  • 221).ข้อใดต่อไปนี้จะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากที่สุด
    • การเหยียบเบรกและคันเร่งอย่างรุนแรง
    • การควบคุมพวงมาลัยที่ไม่ดี
    • การใช้เกียร์สูงเป็นเวลานาน
    • การเร่งความเร็วช่วงทางโค้ง
  • 222).ข้อใดไม่ควรปฏิบัติในการขับรถให้ถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย
    • มีจิตสำนึกในการขับขี่อย่างรับผิดชอบ
    • ขับรถด้วยความเร็วสูงเพื่อให้ถึงปลายทางก่อนที่จะมืด
    • ทำความคุ้นเคยกับรถที่จะขับขี่ ในกรณีที่เป็นรถที่ไม่เคยขับขี่มาก่อน
    • พักผ่อนให้เพียงพอและไม่ดื่มสุรา
  • 223).เมื่อต้องใช้เบาะนั่งสำหรับเด็กแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถบนที่นั่งด้านหน้าซึ่งมีระบบถุงลมนิรภัยติดตั้งอยู่ ต้องปฏิบัติอย่างไรก่อนออกเดินทาง
    • ให้เด็กนั่งที่นั่งปกติและคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใหญ่
    • เปลี่ยนเบาะนั่งสำหรับเด็กให้หันออกไปยังหน้ารถ
    • ขอให้คนโดยสารอุ้มเด็กไว้
    • ปิดการใช้ถุงลมนิรภัย
  • 224).หากท่านตรวจพบว่าท่อน้ำมันเริ่มมีรอยน้ำมันซึมออกมาท่านควรทำอย่างไร
    • ใช้เทปรัดให้แน่นขึ้น
    • ทำการเปลี่ยนท่อใหม่
    • ใช้ไปได้จนกว่าจะรอยหยดของน้ำมัน
    • สลับท่อไปไว้ในท่อแรงดันต่ำ
  • 225).ขณะที่ท่านกำลังรอเพื่อที่จะเคลื่อนรถออกจากข้างทางเพราะเหตุใดท่านต้องระวังรถจักรยานยนต์
    • เพราะรถจักรยานยนต์อนุญาตให้ต้องวิ่งทางด้านขวา
    • เพราะตำรวจจราจรมักใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ
    • เพราะรถจักรยานยนต์มีสิทธิ์ใช้ทางก่อนรถยนต์เสมอ
    • เพราะรถจักรยานยนต์มีขนาดเล็กและสังเกตเห็นได้ยาก
  • 226).ผู้ป่วยโรคใดสามารถขับขี่ยานพาหนะได้
    • โรคลมชัก
    • โรคเหงือกอักเสบ
    • โรคหัวใจขาดเลือด
    • เบาหวาน (ใช้ยาฉีด)
  • 227).หากท่านเติมน้ำมันผิดประเภทควรปฏิบัติอย่างไร
    • เติมชนิดที่ถูกเข้าไปเพื่อทำให้เจือจาง
    • ขับไปให้หมดถังแล้วเติมชนิดที่ถูกเข้าไป
    • ทำการเปลี่ยนถ่ายออกทันที
    • ขับไปถ้ามีผลต่อเครื่องยนต์ค่อยถ่ายออก
  • 228).สิ่งใดที่ผู้ขับรถควรทำเมื่อได้รับสัญญาณไฟเหลือง
    • ขับเปลี่ยนเลนเพื่อแซงรถขึ้นไปให้พ้นสัญญาณไฟแดง
    • บีบแตรเร่งรถคันหน้าให้ขับเร็วขึ้น
    • ชะลอรถและหยุดรถหลังเส้นให้หยุดรถ
    • ขับตามคันหน้าไปโดยฝ่าสัญญาณไฟแดง
  • 229).หากพบว่ารถของท่านเกิดท่อน้ำมันรั่วท่านควรทำอย่างไร
    • ไม่ควรขับรถต่อไปเนื่องจากอาจเกิดไฟไหม้ได้
    • นำขวดมารองน้ำมันที่รั่วและขับต่อไป
    • ใช้เทบรัดและขับไปหาช่าง
    • ขับไปหาศูนย์บริการเพื่อทำการซ่อม
  • 230).ในการตรวจสอบสิ่งอันตรายต่างๆ รอบตัวรถขณะขับรถ ข้อใดไม่ใช่ข้อที่ควรปฏิบัติ
    • ดูกระจกเป็นระยะ
    • มองป้ายโฆษณาบริเวณข้างทาง
    • ตรวจสอบจุดบอดของรถเป็นระยะๆ
    • มองไปข้างหน้าในระยะไกล 200-300 เมตร
  • 231).สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถไฟไหม้คือข้อใด
    • จอดรถข้างทาง
    • เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ตั้งสติ รีบออกจากตัวรถทันที
    • ถอดขั้วแบตเตอรี่
  • 232).เพราะเหตุใดจึงไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในขณะขับขี่ลงทางลาดชัน
    • จะทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า
    • จะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง
    • จะทำให้เปลืองน้ำมัน
    • จะทำให้ผ้าเบรกไหม้
  • 233).ข้อใดคือวิธีป้องกันอุบัติเหตุ หากกำลังมีคนข้ามถนน
    • เพิ่มความเร็วขึ้น
    • ขับตามปกติ
    • จอดรถทันที
    • การลดความเร็วลง
  • 234).เมื่อระดับน้ำในแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ ควรเติมด้วยน้ำอะไร
    • น้ำกรด
    • น้ำยาหล่อเย็น
    • น้ำกลั่น
    • น้ำมันเครื่อง
  • 235).ถ้าปรากฏสัญลักษณ์เตือนเครื่องยนต์ร้อนจัดไม่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • เติมน้ำในถังหม้อพักน้ำเมื่อเครื่องยนต์เย็นลง
    • เปิดฝากระโปรงเพื่อระบายความร้อน
    • ปิดแอร์ เปิดหน้าต่างและจอดรถ
    • เอาน้ำราดลงไปที่เครื่องยนต์จะทำให้เครื่องยนต์เย็น
  • 236).กรณีเกิดรถเสียไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติสิ่งใดเป็นอันดับแรก
    • แจ้งกู้ภัย
    • ให้สัญญาณเพื่อเตือนให้รถอื่นทราบ
    • แจ้งประกันภัยรถยนต์
    • แจ้งตำรวจ
  • 237).จากรูป หากท่านต้องการแซงรถข้างหน้า ท่านจะต้องให้สัญญาณไฟอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาก่อนและตามด้วยสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขณะแซง
    • เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขณะแซง
    • ไม่จำเป็นต้องเปิดสัญญาณไฟหากรถคันหน้าขับด้วยความเร็วต่ำ
    • เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา และแซงได้เมื่อปลอดภัย
  • 238).ในขณะที่ท่านกำลังหยุดรอสัญญาณไฟอยู่ที่ทางแยก แล้วไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว ท่านควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • รอจนกว่ารถคันข้างหลังของท่านจะให้สัญญาณแตร แล้วจึงออกรถ
    • ขับรถผ่านทางแยกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้รถคันหลังเสียเวลา
    • ตรวจสอบการจราจรรอบๆ ข้างก่อน เมื่อปลอดภัยจึงออกรถ
    • ปฏิบัติอย่างไรก็ได้ แล้วแต่ผู้ขับขี่
  • 239).ถ้าเครื่องยนต์ดับขณะกำลังเคลื่อนที่ออกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัติอย่างไรเป็นอันดับแรก
    • เปลี่ยนไปเข้าเกียร์ว่าง
    • ติดเครื่องใหม่
    • เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ทำการเบรกทันทีเพื่อไม่ให้รถไหล
  • 240).ข้อใดแสดงถึงการมีจิตสำนึกในการขับขี่อย่างปลอดภัย โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงภัย
    • ปรับแต่งท่อรถให้มีเสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
    • ดัดแปลงไฟหน้ารถให้สว่างโดยผิดจากที่กฎหมายกำหนด
    • ปฏิบัติตามกฎจราจรตลอดเวลาที่ขับขี่โดยไม่ต้องรอให้ตำรวจจราจรบังคับ
    • เปิดไฟฉุกเฉิน เมื่อจอดรถในที่ห้ามจอด
  • 241).การหมุนพวงมาลัยในขณะที่รถหยุดนิ่งจะส่งผลเสียแก่ส่วนใดของรถ
    • เครื่องยนต์
    • กระปุกเกียร์
    • เบรก
    • ยางรถ
  • 242).หากคาดการณ์ว่าข้างหน้าอาจจะเกิดอุบัติเหตุ เราควรเตรียมตัวอย่างไร
    • ขับรถให้เร็วขึ้น
    • ลดความเร็ว
    • จอดรถทันที
    • ขับตามปกติ
  • 243).ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติเมื่ออยู่บนถนน
    • ขับรถจี้ท้ายรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันรถอื่นวิ่งสวนทางเข้ามาชน
    • ขับรถย้อนศรเพื่อประหยัดน้ำมัน
    • ขับรถแล้วเจอแสงแดด ยกมือขึ้นมาป้องเพื่อป้องกันแสงเข้าตา
    • ขับรถด้วยความเร็วไม่เกินที่กำหนด และปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
  • 244).ข้อใดเป็นการขับรถอย่างปลอดภัย
    • เปิดไฟสูงตลอดเวลาในการขับรถเวลากลางคืน
    • แซงรถคันข้างหน้าขณะเข้าโค้ง
    • แซงด้านซ้ายในถนน 2 ช่องจราจร เมื่อรถคันหน้าขับช้า
    • เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้ทัน
  • 245).ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเปิดประตูเมื่อรถยนต์ตกน้ำ
    • ปลดล็อกประตูทุกบาน
    • พยายามสตาร์ทเครื่องยนต์
    • หมุนกระจกให้น้ำไหลเข้ารถเพื่อปรับความดันให้เท่ากับภายนอกรถ
    • เปิดประตูเมื่อความดันภายในและภายนอกรถเท่ากัน
  • 246).ถ้าไม่ปลดล็อกเบรกมือเมื่อเคลื่อนรถจะมีอาการอย่างไร
    • เครื่องยนต์มีอาการสะดุด
    • เมื่อรถเคลื่อนตัวจะรู้สึกว่ารถออกตัวเร็วขึ้น
    • เมื่อหมุนพวงมาลัยจะรู้สึกหนัก
    • เมื่อรถเคลื่อนตัวจะรู้สึกว่ารถเร่งความเร็วไม่ขึ้น
  • 247).ในกรณีที่ท่านขับรถทางตรงผ่านซอย ที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมากควรปฏิบัติอย่างไร
    • พยายามขับให้ชิดคันหน้าเพื่อไม่ให้รถในซอยแทรกออกมา
    • เปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
    • บีบแตรหรือให้สัญญาณไฟเตือนรถที่จะออกจากซอยก่อนขับผ่านไป
    • ขับรถผ่านซอยด้วยความเร็วเพื่อส่งสัญญาณว่าขอไปก่อน
  • 248).ในการขับรถลงทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อควบคุมความเร็วของรถให้มีความปลอดภัย
    • ใช้เกียร์ต่ำและค่อยๆเหยียบเบรก
    • ใช้เกียร์สูงและค่อยๆเหยียบเบรก
    • ใช้เกียร์สูงและเหยียบเบรกเต็มที่
    • ใช้เกียร์ต่ำและหลีกเลี่ยงการใช้เบรก
  • 249).ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
    • หากพบเห็นผู้ที่เมาแล้วขับให้ขับขึ้นไปปาดหน้า
    • หากพบรถที่ขับขี่ผิดปกติ ชะลอความเร็ว เว้นระยะห่างจากรถ ไม่เข้าใกล้หรือแซงระยะกระชั้นชิด
    • เมื่อผ่านสี่แยกในช่วงกลางคืน หากพบว่าไม่มีรถ ควรรีบเร่งความเร็วให้พ้นสี่แยก เพื่อไม่ให้เสียเวลา
    • ขับรถตามหลังอย่างกระชั้นชิด
  • 250).เมื่อรถของท่านเสียบริเวณกลางถนน ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • เปิดไฟฉุกเฉินและนำรถจอดเข้าข้างทาง
    • นำสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมมาไว้ท้ายรถของท่าน
    • ก่อกองไฟข้างทางในกรณีที่รถของท่านเสียเวลากลางคืน
    • จอดรถทิ้งไว้กลางถนน
  • 251).หากท่านกำลังขับรถตามหลังรถขนาดใหญ่ที่กำลังเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายแต่ตัวรถค่อยๆ เคลื่อนตัวไปทางขวา ท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • ขับตามรถใหญ่ในระยะกระชั้นชิด
    • รักษาระยะห่างในระยะปลอดภัย
    • แซงไปทางด้านซ้าย
    • ให้สัญญาณแตร
  • 252).การชะลอและหยุดรถทันทีเมื่อมีคนเดินข้ามถนน เป็นการป้องกันอุบัติเหตุอย่างไร
    • ป้องกันการแซง
    • ป้องกันรถสวนทางมา
    • ป้องกันรถจักรยานยนต์ตัดหน้า
    • ป้องกันการชนกรณีคนวิ่งข้ามตัดหน้ารถ
  • 253).เมื่อท่านขับรถผ่านรถที่จอดอยู่และสังเกตเห็นว่ามีล้อจักรยานยื่นออกมา ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วและโบกมือให้ผู้ใช้รถจักรยานข้ามไป
    • เร่งความเร็วผ่านไปและบีบแตรเตือน
    • ลดความเร็วและเตรียมหยุดให้รถจักรยานไปก่อน
    • เบรกอย่างรวดเร็วและกะพริบไฟ
  • 254).ท่านไม่ควรพยายามขับแซงรถจักรยานในเหตุการณ์ใด
    • ขณะขับในทางตรง
    • ขณะขับบนถนนที่รถขับสวนทางกัน
    • ขณะขับบนถนนเดินทางเดียว
    • ขณะที่กำลังจะเลี้ยวซ้าย
  • 255).ข้อใดเป็นขั้นตอนการตรวจเช็กและเติมระดับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ ที่ถูกต้อง
    • จอดรถบนพื้นราบ เช็กน้ำมันขณะยังไม่ติดเครื่อง หรือดับเครื่องยนต์อย่างน้อย 10 นาที
    • จอดรถบนพื้นราบ เช็กน้ำมันขณะยังติดเครื่องยนต์ หรือดับเครื่องยนต์ทันที
    • จอดรถบนพื้นราบ เช็กน้ำมันขณะยังติดเครื่องยนต์อยู่
    • จอดรถบนพื้นราบ เช็กน้ำมันหลังดับเครื่องยนต์ทันที
  • 256).ข้อใดคือหน้าที่ของน้ำมันเครื่องยนต์
    • ทำความสะอาดหม้อน้ำ
    • หล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่เพื่อลดการสึกหรอ
    • ระบายความร้อนออกจากหม้อน้ำ
    • ระบายความร้อนจากผ้าเบรก
  • 257).ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
    • การขับรถในเขตชุมชนต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ
    • เมื่อวิ่งตามหลังรถคันหน้าสามารถเปิดไฟสูงได้ เพราะไม่มีผลต่อการขับขี่ของรถคันหน้า
    • เมื่อมีรถวิ่งสวนมาเวลากลางคืนควรใช้ไฟต่ำ
    • ช่วงเวลากลางคืน จะต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าปกติ
  • 258).เมื่อรู้สึกตาพร่าจากแสงจากรถทางด้านหลังในตอนกลางคืน ควรปฏิบัติอย่างไร
    • เหยียบเบรกอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดรถ
    • ตั้งกระจกให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ทำให้ตาพร่า
    • เปิดปิดไฟข้างไปมา
    • ตั้งกระจกสะท้อนไปยังคนขับรถคันอื่น
  • 259).หากกำลังขับขี่รถอยู่บนถนน แล้วฝนเริ่มตกผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ลดความเร็วของรถลง
    • หยุดรถข้างทางทันที
    • เปิดไฟฉุกเฉินและรีบขับผ่านบริเวณนั้นไป
    • เร่งความเร็วของรถเพื่อให้ผ่านฝนไปให้เร็ว
  • 260).ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับการแซงรถคันหน้าที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกัน
    • ใช้ระยะทางมากขึ้น เวลาในการแซงเท่าเดิม
    • ใช้ระยะทางและเวลาในการแซงน้อยลง
    • ใช้ระยะทางเท่าเดิม เวลาในการแซงมากขึ้น
    • ใช้ระยะทางและเวลาในการแซงมากขึ้น
  • 261).ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่มีมารยาทที่ควรปฏิบัติเมื่ออยู่บนถนน
    • ขว้างกระป๋องเครื่องดื่มออกนอกตัวรถขณะรถวิ่ง
    • ทิ้งขยะบนไหล่ทางหรือเกาะกลางถนน
    • ไม่ใช้เสียงแตรไล่คนเดินเท้า
    • เปิดเพลงเสียงดังแล้วเปิดกระจกรถรบกวนผู้อื่น
  • 262).การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในทัศนวิสัยใด ที่ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่าปกติ
    • สภาพการจราจรคล่องตัว
    • เวลากลางคืนแสงไฟสว่างเพียงพอ
    • เวลากลางวันไม่มีฝนตก
    • ฝนตก มีหมอก ถนนลื่น
  • 263).หากช่องทางด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวางและมีรถวิ่งสวนมา ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร
    • หากท่านคิดว่าท่านขับได้เร็วกว่ารถที่สวนมาแล้ว จึงทำการแซงได้ทันที
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินแล้วแซงไปได้เลย
    • หยุดรอให้รถที่ขับสวนมาผ่านไปก่อนแล้วค่อยขับผ่านไปได้
    • ขับผ่านไปได้เลยโดยไม่ต้องสนใจรถที่สวนมา
  • 264).ทำไมผู้ขับรถจึงต้องคอยสังเกตรถจักรยานยนต์และรถจักรยานเป็นพิเศษเมื่อมาถึงทางแยก
    • เพราะรถจักรยานและรถจักรยานยนต์เป็นรถที่สังเกตเห็นได้ยากเนื่องจากขนาดเล็ก
    • เพราะรถจักรยานและรถจักรยานยนต์อาจต้องการจะเลี้ยวเข้าข้างทางได้
    • เพราะรถจักรยานและรถจักรยานยนต์อาจจะลดความเร็วเพื่อให้ท่านเลี้ยวไปก่อนได้
    • เพราะรถจักรยานและรถจักรยานยนต์อาจจะไม่เห็นว่าท่านต้องการเลี้ยว
  • 265).ในสถานการณ์ใดที่เสากระจกกันลมด้านหน้า (A pillars) จะบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เมื่อขับรถอยู่บนทางหลวงพิเศษ
    • เมื่อเข้าสู่ถนนเดินรถทางเดียว (one-way)
    • เมื่อขับรถอยู่บนทางคู่
    • เมื่อเข้าสู่ทางโค้งและทางแยก
  • 266).ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้องสำหรับการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดเวลา
    • ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นเข้าใจว่าเป็นรถที่ขับเร็ว
    • ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นสับสนว่ารถคันที่เปิดไฟฉุกเฉินกำลังเลี้ยวไปด้านใดด้านหนึ่ง
    • ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นคิดว่ารถกำลังเกิดอุบัติเหตุ
    • ทำให้ผู้ขับขี่คันอื่นคิดว่าเป็นรถที่จอดนิ่งอยู่
  • 267).ข้อใดไม่ใช่ความหมายของคำว่า "ความเร็วที่ควรใช้" ถูกต้องที่สุด
    • ความเร็วที่สามารถหยุดรถได้ทัน
    • ความเร็วตามความพึงพอใจ
    • ความเร็วจำกัดตามป้ายสัญญาณ
    • ความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ถนน
  • 268).การให้สัญญาณไฟที่ถูกต้องเมื่อขับรถเข้าสู่ทางร่วมทางแยก
    • ให้สัญญาณไฟเฉพาะเลี้ยวขวาเท่านั้น
    • ให้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อต้องการขับรถตรงไป
    • ให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อต้องการเลี้ยวซ้ายหรือขวา
    • ไม่จำเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวาหรือซ้าย
  • 269).การตรวจเช็คระดับน้ำมันหล่อลื่นในเครื่องยนต์ ตรวจเช็คที่อุปกรณ์ส่วนใดของเครื่องยนต์
    • ก้านวัดน้ำมันเครื่อง
    • กรองน้ำมันเครื่อง
    • ฝาเติมน้ำมันเครื่อง
    • อ่างน้ำมันเครื่อง
  • 270).ข้อใดต่อไปนี้ รถจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก
    • ใช้ยางรถที่มีลมยางน้อยเกินไป
    • ใช้ยางรถที่ต่างยี่ห้อกัน
    • ใช้ยางรถใหม่
    • ใช้ยางรถที่มีลมยางมากเกินไป
  • 271).หากท่านขับรถด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่ท่านรู้สึกว่าเร็วเกินไปท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • ชะลอความเร็วลงจนท่านคิดว่าปลอดภัย
    • ขับให้ใกล้เคียง 100 กม.ต่อชั่วโมง
    • ออกจากเส้นทางนั้น
    • หยุดรถของท่านทันที
  • 272).การขับรถผ่านบริเวณทางแยก ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • เปิดไฟฉุกเฉิน
    • ชะลอรถแล้วมองซ้าย-ขวา
    • ยกมือขอทาง
    • เร่งความเร็วแล้วบีบบแตรขอทาง
  • 273).เมื่อขับรถเข้าใกล้บริเวณทางข้าม แต่ไม่มีคนข้ามทาง ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ใช้สัญญาณแตรเสียงสั้นเพื่อเตือน
    • ใช้สัญญาณไฟสูงเพื่อเตือน
    • ชะลอความเร็วลง และสังเกตุซ้ายขวาเพื่อความปลอดภัย
    • ใช้สัญญาณแตรเสียงยาวเพื่อเตือน
  • 274).หากพบว่ารถจักรยานยนต์แซงขณะที่รถกำลังสวนทางมา ผู้ขับขี่ควรแก้ไขอย่างไร
    • รีบเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
    • จอดรถทันที
    • ลดความเร็วลง ชิดซ้าย เปิดช่องทางให้แซง
    • บีบแตร และให้สัญญาณไฟกะพริบรถคันที่สวนทางมา
  • 275).เทคนิคในการคาดการณ์นอกจากการคาดการณ์การ เคลื่อนไหวของรถคันอื่นแล้ว ผู้ใช้ถนนควรคาดคะเนข้อ ใดด้วย
    • คาดคะเนว่าเราขับรถอย่างไร
    • คาดคะเนว่ารถเราจะเกิดอุบัติเหตุไหม
    • คาดคะเนว่าคนที่ใช้ถนนจะเคลื่อนไหวไปอย่างไร
    • คาดคะเนว่าเราจะเลี้ยวไปทางไหน
  • 276).เมื่อท่านต้องการเลี้ยวขวาบนถนนที่มีรถวิ่งสวนทาง (มีกาะกลางถนน) ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องที่สุด
    • หยุดรถ โดยให้ส่วนหน้าของรถต้องไม่ล้ำเข้าไปในช่องทางเดินรถที่สวนทางกัน
    • เว้นระยะจากรถด้านหลังให้เพียงพอ
    • ขับรถให้อยู่ในตำแหน่งด้านซ้ายของถนน
    • หยุด จากนั้นใช้เบรกมือและเลือกใช้เกียร์ต่ำ
  • 277).เมื่อขับรถในเวลากลางคืน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
    • พยายามขับรถเข้าไปให้ใกล้กับรถค้นหน้าเพื่อให้รถค้นหน้าเห็นรถเราได้ชัดเจน
    • เปิดไฟฉุกเฉินขณะทำการแซงรถค้นหน้า
    • ทิ้งระยะห่างระหว่างรถค้นหน้าให้มากกว่าปกติ
    • ใช้ไฟสูงตลอดทางของการขับรถ
  • 278).การเว้นระยะห่างจากด้านข้างรถ กับรถที่จอดอยู่ อย่างน้อยควรเว้นระยะเท่าใด
    • อย่างน้อย 4 เมตร เหลือพื้นที่ให้รถบรรทุก
    • อย่างน้อย 1 เมตร เพราะอาจมีรถคันอื่นเปิดประตู
    • อย่างน้อย 2 เมตร เหลือพื้นที่ให้รถยนต์แซง
    • อย่างน้อย 3 เมตร เหลือฟื้นที่ให้รถจักรยานยนต์แซง
  • 279).เมื่อท่านขับรถถอยหลังเข้าสู่ถนนรองและมีคนกำลังรอข้ามถนนอยู่ ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ถอยหลังเข้าก่อนที่คนข้ามถนนจะเริ่มข้าม
    • บีบแตรเพื่อเตือนคนข้ามถนน
    • ให้ทางแก่คนข้ามถนน
    • ได้โบกมือให้คนข้ามถนนหยุดรอ
  • 280).ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก
    • เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเวลาที่ฝนตก
    • ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
    • เปิดไฟหน้า
    • ทิ้งช่วงห่างจากรถค้นหน้า เผื่อไว้มากๆ
  • 281).เมื่อมีสัญญาณไฟเหลืองกะพริบอยู่ใต้เครื่องหมายเตือนว่าเข้าใกล้บริเวณโรงเรียน ผู้ขับรถควรปฏิบัติอย่างไร
    • หยุดรอที่สัญญาณไฟจนกว่าสัญญาณฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว
    • รักษาคามเร็วเดิมและให้สัญญาณแดร
    • เร่งความเร็วเพื่อให้ผ่านทางข้ามไปให้เร็วที่สุด
    • ลดความเร็ว จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีเด็กข้ามถนนแล้วจึงไปต่อ
  • 282).จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อล้อรถอยู่ในสภาวะที่ไม่สมดุล
    • เบรกจะใช้ไม่ได้
    • ยางรถจะแบน
    • พวงมาลัยจะเกิดการสั่น
    • พวงมาลัยจะดึงไปยังด้านใดด้านหนึ่ง
  • 283).เมื่อขับรถตามหลังรถโดยสารประจำทางที่กำลังเข้าสู่ป้ายจอดรถโดยสารประจำทาง ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ระมัดระวังผู้โดยสารที่ลงจากรถโดยสารประจำทาง
    • บีบแตร
    • เร่งความเร็วแซงรถประจำทางไป
    • ตามหลังรถโดยสารประจำทางอย่างกระชั้นชิด
  • 284).ท่านได้แวะรับประทานอาหารในร้านที่มีสุราบริการด้วย ก่อนจะขับรถเดินทางไกล ท่านควรทำอย่างไร
    • ทานอาหารร้อน ๆ ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • ดื่มนมก่อนดีมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    • ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด
    • ดื่มเครื่องดื่มชูกำลังร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • 285).ในขณะที่ท่านเติมน้ำมันเชื้อเพลิงท่านควรปฏิบัติอย่างไร
    • ติดเครื่องยนต์ไว้
    • ดับเครื่องยนต์
    • ลงจากรถและเดินออกให้ไกล
    • ไม่ต้องทำอะไร
  • 286).เมื่อการจราจรติดขัดในเวลากลางคืน ต้องปฏิบัติอย่างไรเพื่อไม่ให้แสงจากไฟเบรกรถของท่านทำให้คนขับรถที่อยู่คันหลังตาพร่า
    • ใช้ครัชร่วมกับคันเร่ง
    • ใช้เบรกเท้าเท่านั้น
    • ใช้ทั้งเบรกมือและเบรกเท้า
    • ใช้เบรกมือเท่านั้น
  • 287).การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรควรปฏิบัติอย่างไร
    • ให้รถที่เข้าวงเวียนและจะตรงไปให้ไปก่อน
    • ให้รถทางขวามือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
    • ให้รถทางข้ายมือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
    • ให้รถที่เข้าวงเวียนและจะเลี้ยวซ้ายไปก่อน
  • 288).ไม่ควรเปิดฝาหม้อน้ำในกรณีใด
    • เครื่องร้อนจัด
    • เครื่องเย็น
    • เปิดถังพักสำรองหม้อน้ำเพื่อเดิมน้ำ
    • เปิดตอนเช้าขณะยังไม่ติดเครื่องยุนต์
  • 289).เมื่อท่านขับรถตามหลังและไม่มั่นใจว่ารถจักรยานยนต์ที่ขับด้านหน้าจะขับรถไปในทิศทางใด ควรปฏิบัติอย่างไร
    • แซงทางด้านซ้าย
    • เคลื่อนที่เข้าใกล้ขึ้น
    • ขับตามหลัง
    • แซงทางด้านขวา
  • 290).เมื่อพบนักขี่จักรยาน ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติตามข้อใด
    • บีบแตรทักทาย
    • เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
    • ควรสังเกตจากทั้งบนถนนและทางเท้าเป็นพิเศษ
    • เว้นระยะห่างให้เพียงพอ
  • 291).ปัจจัยใดต่อไปนี้มีผลต่อการเกิดสถานการณ์อุบัติเหตุมากที่สุด
    • การเคลื่อนที่ของรถ หรือคนเดินเท้า
    • สภาพผิวจราจร
    • ลักษณะทางภูมิประเทศ
    • ความไม่พร้อมของผู้ขับขี่
  • 292).เมื่อพบคนบาดเจ็บ ข้อใดไม่ควรปฏิบัติ
    • เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยทันที
    • ประเมินสถานการณ์สงบสติอารมณ์
    • ผู้ช่วยเหลือต้องแน่ใจว่าเราปลอดภัย
    • ประเมินผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มีจำนวนเท่าใด
  • 293).หลังจากขับรถลุยน้ำ เมื่อเราขึ้นที่แห้งแล้วควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
    • ทดสอบไฟสูงต่ำ
    • ทดสอบไฟเลี้ยวหลาย ๆ ครั้ง
    • ทดสอบสัญญาณแตร
    • ทดสอบเบรกหลาย ๆ ครั้ง
  • 294).ช่วงที่ท่านกำลังป่วย ความสามารถในการขับรถจะถดถอยลง ท่านต้อง
    • ขับรถตามปกติ
    • ลดปริมาณยาที่ทานลง
    • นำยาติดตัวไปด้วยทั้งหมดเมื่อท่านขับรถ
    • ไม่ขับรถหลังจากทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง
  • 295).เมื่อเราจะขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก
    • รีบเร่งเครื่องแล้วแซงได้เลย
    • ให้สัญญาณไฟก่อน
    • เปิดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย
    • ให้ดูกระจกก่อน ทั้งด้านข้างและด้านหลังเพื่อตรวจสอบจุดบอด
  • 296).ข้อใดไม่ใช่ผลที่เกิดจากการขับรถด้วยความเร็ว
    • สามารถหยุดรถได้ทันท่วงที
    • มีโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุสูง
    • ความรุนแรงในการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น
    • สิ้นเปลืองพลังงาน
  • 297).หากเกิดอุบัติเหตุขับรถชนคนเดินถนนที่ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งผลอย่างไร
    • คนผู้นั้นมีโอกาสสูงที่จะเสียชีวิต
    • คนผู้นั้นจะเสียชีวิตทันที
    • คนผู้นั้นจะไม่เป็นอะไรเลย
    • คนผู้นั้นมีโอกาสเจ็บแต่ไม่เสียชีวิต
  • 298).เมื่อเห็นรถด้านหน้าหยุดบริเวณทางร่วมทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรขณะถนนโล่ง ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ห้ามแซงโดยเด็ดขาด
    • บีบแตรเพื่อให้รถคันหน้าเคลื่อนตัว
    • แซงโดยทันที
    • ชะลอรถและแซง
  • 299).เมื่อท่านขับรถเข้าใกล้รถที่จอดอยู่ข้างทาง ท่านควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด
    • ให้สัญญาณไฟสูงเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
    • เร่งความเร็วผ่านไปทันที
    • เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เตรียมพร้อมที่จะหยุดเสมอ
    • ขับต่อไปโดยไม่ต้องระวังสิ่งใด
  • 300).เมื่อท่านขับรถตามหลังรถจักรยานยนต์บนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระหรือเป็นหลุมเป็นบ่อ ควรปฏิบัติอย่างไร
    • ขับในระยะปกติเพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่ในการใช้ถนน
    • เว้นระยะให้มากขึ้น เพื่อในกรณีที่รถจักรยานยนต์หักเลี้ยวเพื่อหลบหลุมที่พื้น
    • ขับตามระยะกระชั้นชิด เพื่อที่รถจักรยานยนต์จะได้มองเห็นผ่านกระจก
    • แซงในทันที
  • 301).เมื่อท่านมองเห็นว่ารถที่ขับอยู่ด้านหน้าลืมปิดไฟเลี้ยวขวา ควรปฏิบัติอย่างไร
    • บีบแตรก่อนทีจะแซง
    • แชงซ้าย ถ้ามีพื้นที่ให้สามารถแซงได้
    • กระพริบไฟเพื่อเตือนรถค้นข้างหน้า
    • ขับอยู่ข้างหลังต่อไปและไม่ทำการแซง
  • 302).ระบบเบรก ABS ช่วยลดโอกาสในการลื่นไถล ซึ่งมีส่วนสำคัญในสถานการณ์ใด
    • เมื่อทำการหยุดรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    • เมื่อขับรถบนถนนที่มีผิวถนนดี
    • เมื่อขับรถลงทางลาดชัน
    • เมื่อทำการหยุดรถในสถานการณ์ปกติ
  • 303).ในขณะขับรถที่มีลมพัดแรง เพราะเหตุใดจึงควรเว้นระยะห่างจากรถจักรยานยนต์ให้มากขึ้น
    • คนขับรถจักรยานยนต์อาจหยุดกระทันหัน
    • คนขับรถจักรยานยนต์อาจถูกพัดมาด้านหน้ารถ
    • คนขับรถจักรยานยนต์อาจขับเร็วกว่าปกติ
    • คนขับรถจักรยานยนต์อาจขับออกกระทันหันเพื่อหลีกเลี่ยงลม
  • 304).ข้อใดปฏิบัติถูกต้องในการขับขี่ออกจากซอยไปสู่ถนนใหญ่
    • ขับออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลา
    • หยุดรอให้รถในทางหลักและคนเดินเท้าไปก่อน
    • บีบแตรเพื่อขอทางจากรถคันอื่น
    • ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยวก็ได้
  • 305).หากผู้ขับขี่พบพื้นที่ปรับปรุงผิวถนน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติตามข้อใด
    • ลดความเร็วลงและขับด้วยความระมัดระวัง
    • หยุดรถแล้วหลึกเลียงสันทางนั้น
    • เปิดไฟฉุกเฉิน ใช้ความเร็วปกติ
    • เร่งความเร็ว
  • 306).ข้อใด ไม่ใช่การขับรถอย่างปลอดภัยและประหยัดพลังงาน
    • เร่งเครื่องยนต์ก่อนออกรถ
    • ไม่ควรติดเครื่องยนต์ระหว่างจอดรถคอย
    • ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม
    • ไม่บรรทุกของเกินพิกัด
  • 307).ถึงแม้เราจะได้รับสัญญาณไฟเขียวแล้ว การที่เราจะเร่งเครื่องออกรถโดยกะทันห้นเป็นสิ่งที่อันตรายมากเพราะเหตุใด
    • อาจมีคนขายพวงมาลัย
    • รถข้างหน้าอาจจะดับ
    • การจราจรติดชัด
    • อาจจะไปชนกับรถที่วิ่งผ่าฝืนสัญญาณไฟแดงมาอีกทาง
  • 308).ไดสตาร์ททำหน้าที่อะไร
    • ทำให้ระบบเบรกทำงานดีขึ้น
    • ทำให้แอร์ในรถเย็นขึ้น
    • ทำให้เครื่องยนต์ติด
    • ทำให้หมุนพวงมาลัยได้ดี
  • 309).เมื่อท่านกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนรอง ควรตรวจสอบกระจกด้านขวาก่อนเลี้ยวเพราะเหตุใด
    • เพื่อตรวจดูรถที่ออกมา
    • เพื่อมองหาคนข้ามถนนที่กำลังจะข้าม
    • เพื่อตรวจดูว่าถนนรองว่าง
    • เพื่อตรวจหารถที่จะทำการแซง
  • 310).เพราะเหตุใดจึงต้องเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยเมื่อขับรถตามหลังรถบรรทุก
    • เพื่อช่วยให้รถบรรทุกหยุดได้ง่ายขึ้น
    • เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดจากแรงดูดระหว่างรถ
    • เพื่อให้สามารถกันลมได้ดีขึ้น
    • เพื่อให้คนขับรถบรรทุกสามารถมองเห็นรถของท่านจากกระจกได้
  • 311).เหตุการณ์ใดเมื่อคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด
    • เมื่อแท็กซี่อาจหยุดกะทันหัน แก้ไขโดยเว้นระยะห่างให้เหมาะสม
    • เมื่อรถจอดกลางถนนอาจมีคนเปิดประตูแก้ไขโดยให้สัญญาณและลดความเร็ว
    • เมื่อเห็นทางโค้งอาจมีรถวิ่งกินเลนมา แก้ไขโดยลดความเร็ว
    • เมื่อเจอทางสามแยก แก้ไขโดยบีบแตรและเร่งความเร็วชิงเลี้ยวก่อน
  • 312).จากรูปรถคันสีน้ำเงิน หรือรถนสีเขียวมีสิทธิที่จะผ่านไปก่อน

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • รถคันไหนไปก่อนก็ได้ หากมาถึงก่อน
    • ให้รถคันสีเขียวไปก่อน
    • ให้รถคันสีน้ำเงินไปก่อน
    • รถค้นไหนไปก่อนก็ได้ หากมีความเร็วสูงกว่า
  • 313).จากรูป ในขณะสัญญาณไฟเขียว หากท่านต้องการจะเลียวขวาแต่ท่านได้ยินสัญญาณรถดับเพลิงมาทางขวามือของท่าน ท่านควร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อให้รถดับเพลิงรู้ว่าท่านจะไปก่อน
    • รอให้รถดับเพลิงไปก่อนแล้วจึงเลี้ยว
    • เลี้ยวไปได้เลยโดยไม่ต้องสนใจรถดับเพลิง
    • เลี้ยวขวาไปก่อนรถดับเพลิงจะมาถึง
  • 314).จากสถานการณ์ดังรูป ผู้ขับขี่ประสงค์ขับรถออกจากช่องจอดต้องปฏิบัติอย่างไรเป็นลำดับแรก

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • ขับรถออกจากช่องจอดรถได้ทันที
    • เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
    • ตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านขวา
    • ลดกระจกแล้วโบกมือชะลอความเร็ว
  • 315).เมื่อท่านขับรถเข้าใกล้รถโดยสารประจำทางที่ส่งสัญญาณว่ากำลังจะออกจากป้ายรถโดยสารประจำทาง ควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • กะพริบไฟเมื่อเข้าใกล้
    • ให้สัญญาณไฟเลี้ยวช้าย แล้วโบกให้รถโดยสารประจำทางออกไปก่อน
    • รีบแซงก่อนที่รถโดยสารประจำทางจะออกมา
    • ยอมให้รถโดยสารประจำทางออกมาก่อน
  • 316).จากรูป เมื่อท่านขับรถมาถึงทางแยกพบสัญญาณไฟเขียว แต่เกิดจราจรติดขัดในเส้นทางที่ท่านจะสัญจร ท่านควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • รอจนกว่ารถข้างหน้าของท่านจะเคลื่อนตัว แล้วจึงขับรถผ่านไปได้
    • พยายามขับแทรกไปทางขวาของรถคันหน้า
    • ขับรถเข้าไปตรงกลางแยก แล้วรอจนกว่ารถข้างหน้าจะเคลื่อนตัว
    • ขับรถเข้าไปต่อคันหน้า
  • 317).จากรูป ในกรณีที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร รถคันสีแดงหรือรถคันสีเหลืองมีสิทธิที่จะได้ไปก่อน

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • รถที่มาถึงทางแยกก่อน
    • รถคันสีเหลือง
    • รถที่มีความเร็วสูงกว่า
    • รถคันสีแดง
  • 318).จากรูป ผู้ขับขี่รถคันสีแดงควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • มองกระจกข้าง ให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวา และเปลี่ยนช่องทางเมื่อปลอดภัย
    • มองกระจกข้าง ให้สัญญาณไฟฉุกเฉิน และเปลี่ยนช่องทางเมื่อปลอดภัย
    • เร่งความเร็วไปข้างหน้าและรีบเปลี่ยนช่องจราจร
    • เร่งความเร็วขึ้นและแซงโดยไม่ต้องมองกระจกข้าง
  • 319).หากท่านกำลังขับตามหลังคนขี่จักรยาน แต่ท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • พยายามจะแซงจักรยานก่อนที่จะถึงทางเลี้ยว
    • ชะลอคามเร็วจนกว่าจักรยานจะผ่านทางเลี้ยว
    • ทำการเลี้ยวโดยไม่ต้องสนใจจักรยาน
    • จอดรถเพื่อรถคนขี่จักรยานจะผ่านทางเลี้ยว
  • 320).จากรูป หากท่านต้องการขับตรงไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร

    ลักษณะใดเป็นการทักทายคนข้ามถนนที่ดี

    • บีบแตรเพื่อให้รถคันหน้าเร่งความเร็ว
    • ขับต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิม
    • ลดความเร็วลง และให้ทางแก่รถที่เลี้ยวออกมา
    • เปิดไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปด้วยความรวดเร็ว

ลักษณะใดเป็นการทักทายที่ดี

การทักทายปราศรัยควรปฏิบัติดังนี้ 1. ยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความรู้สึกยินดีที่ได้พบผู้ที่เราทัก 2. กล่าวคำปฏิสันถาร หรือทักทายตามธรรมเนียมนิยมที่ยอมรับกันในสังคม เช่น “สวัสดีครับ...” “สวัสดีค่ะ...”

ข้อใดเป็นพฤติกรรมที่มีมารยาทที่ควรปฏิบัติเมื่ออยู่บนถนน

6 มารยาท ข้อปฏิบัติในการใช้รถใช้ถนน.
ขออภัยเมื่อทำผิด ... .
ให้สัญญาณขอบคุณ ... .
ไม่เปลี่ยนเลนบ่อย ไม่เบรคโดยไม่จำเป็น ... .
ไฟสูงไม่ใช้พร่ำเพรื่อ ... .
ระวังไฟแยงตา ... .
เคารพเพื่อนร่วมทาง.

พฤติกรรมใดเป็นการใช้สัญญาณไฟสูงที่ถูกต้อง

ควรเปิดไฟสูงเมื่อขับรถในที่มืด เพื่อจะได้เห็นสภาพของถนนและริมถนนและไม่มีรถขับสวนทางไปมา หากมีรถสวนมาควรปิดไฟสูงแล้วเปลี่ยนเป็นไฟธรรมดาทันที เพราะปิดไฟสูงจ่อใส่รถคันหน้าตลอดเวลา อาจจะเป็นอันตรายและถือว่าไม่มีมารยาทอย่างมาก

ข้อใดคือมารยาทขับรถ

กฏจราจรและมารยาทในการขับขี่.
ขับรถด้วยความเร็วที่ปลอดภัย.
ขับเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า.
อย่าขับรถตัดหน้ารถคันอื่น!.
ขับรถโปรดระวัง!.
อย่าหยุดหรือจอดรถบนทางด่วน!.
อย่าขับรถบนไหล่ทาง!.
อย่าขับรถแช่เลนขวา!.
วิ่งรถทางเดียวบนทางด่วน!.