��������õ������Թ��������Сͺ���¸ҵ���ѡ���ú�ҧ Show
��������õ��˹�ҷ�������觾�ѧ�ҹ �������Ѻ��ҧ�������ժ��Ե
�ٻ��� 2.13 �ç���ҧ��ӵ�����š������Ǻҧ��Դ �ٻ��� 2.14 �ç���ҧ��ӵ�����š�Ť��ҧ��Դ �ٻ��� 2.15 ���š�������������ʫ���繾����硤��ô����Դ�ҡ���š�š���� 1. ของแข็ง เป็นสถานะที่อนุภาคจะอยู่ชิดกัน และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ทำให้แรงยึดเหนี่ยวอนุภาคสูงกว่าสารเดียวกันในสถานะอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีรูปร่างและปริมาตรคงที่แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามรูปทรงของภาชนะที่บรรจุ ตัวอย่างของสารที่มีสถานะเป็นของแข็ง เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดง เงิน เป็นต้น 2. ของเหลว เป็นสถานะที่อนุภาคอยู่ห่างกันเล็กน้อย ทำให้อนุภาคสามารถเคลื่อนที่ได้ รูปร่างไม่แน่นอน โดยจะเปลี่ยนตามภาชนะที่บรรจุ แต่ปริมาตรไม่ขึ้นกับภาชนะ ตัวอย่างของสารที่มีสถานะเป็นของเหลว เช่น น้ำ แอลกอฮอล์ โบรมีน เป็นต้น 3. แก๊ส เป็นสถานะที่อนุภาคจะอยู่ห่างกัน แรงยึดเหนี่ยวมีค่าน้อย ทำให้เคลื่อนที่ได้มาก อีกทั้งยังมีปริมาตรและรูปร่างตามภาชนะที่บรรจุ ตัวอย่างของสารที่มีสถานะเป็นแก๊ส เช่น แก๊สออกซิเจน แก๊สไฮโดรเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สไนโตรเจน เป็นต้น ทั้งนี้ แก๊สยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
ทฤษฎีจลน์ของแก๊สเป็นทฤษฎีที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้อธิบายกฎ ปรากฏการณ์ หรือผลการทดลองที่เกี่ยวกับแก๊ส และพฤติกรรมของแก๊ส
แก๊สที่มีสมบัติเป็นไปตามทฤษฎีจลน์ของแก๊สทุกประการเรียกว่า แก๊สอุดมคติ (Ideal gas) โดยปกติแก๊สทั่วไปจะมีสมบัติเคียงกับแก๊สอุดมคติเท่านั้น สำหรับแก๊สที่มีอนุภาคขนาดเล็ก เมื่อควบคุมให้อยู่ในภาวะที่มีปริมาตรมาก ความดันต่ำ และอุณหภูมิสูง จะมีสมบัติใกล้เคียงกับแก๊สอุดมคติมากขึ้น โดยเฉพาะแก๊สเฉื่อยจะมีสมบัติใกล้เคียงกับแก๊สอุดมคติมากจนอาจจัดเป็นแก๊สอุดมคติได้ นอกจากนี้ สำหรับสถานะของสารแล้ว ในบางครั้งเราอาจจะนับพลาสมา (แก๊สในสภาพที่มีประจุ) ผลึกเหลว (Liquid crystal) และเกลือหลอมเหลว (Molten salt state) เป็นสถานะเพิ่มเติมด้วยก็ได้เช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงสถานะของสารมีรูปแบบ ดังนี้
สมบัติของของแข็ง ของเหลว และก๊าซคุณสมบัติของแข็งของเหลวแก๊สลักษณะเฉพาะทนและต้านทานต่อการเสียรูปทรงรูปร่างจะเป็นไปตามภาชนะที่บรรจุอยู่มีรูปร่างเปลี่ยนแปลงตามขนาดและรูปร่างของภาชนะการเรียงตัวของอนุภาคใกล้ชิดกัน อนุภาคเคลื่อนที่ไม่ได้อนุภาคอยู่ห่างกันเล็กน้อยอนุภาคจะอยู่ห่างกัน ทำให้เคลื่อนที่ได้มากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคมีค่ามากกลางมีค่าน้อยลักษณะการจัดเรียง
ตัวอย่างข้อสอบ ของแข็ง ของเหลว แก๊ส1. สถานะของสสารจะเปลี่ยนแปลงเป็นของเหลวอย่างไร? ก. มีค่าต่ำกว่าจุดหลอมเหลวของสาร 2. สถานะของสสารจะเปลี่ยนแปลงเป็นของแข็งอย่างไร? ก. มีค่าต่ำกว่าจุดหลอมเหลวของสาร 3. การแพร่ของก๊าซเป็นอย่างไร? ก. กระบวนการที่ก๊าซเคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยมีการชนกันระหว่างโปรตอนตลอดเวลา 4.สารที่เกิดการระเหิดได คือข้อใด ก. กำมะถัน การบูร 5. เมื่ออุณหภูมิและมวลของก๊าซคงที่ ปริมาตรของก๊าซจะแปรผกผันกับความดัน เป็นไปตามกฎของใคร ก. ชาร์ลส์
เคมี ม. ปลาย ต้องเรียนเรื่องอะไรบ้างไม่ว่าจะเป็นการเรียนเคมี ม.ปลาย ระดับชั้น เคมี ม.4 เคมี ม.5 หรือ เคมี ม.6 เนื้อหาหลัก ๆ ที่มีความสำคัญนอกเหนือจากเรื่องของแข็ง ของเหลว แก๊ส นี้แล้ว ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างอะตอมและตารางธาตุ พันธะเคมี สมบัติของธาตุและสารประกอบ โมลและสูตรเคมี ปริมาณสารสัมพันธ์ สารละลาย แก๊สและสมบัติของแก๊ส อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลเคมี กรด-เบส ไฟฟ้าเคมี เคมีอินทรีย์ พอลิเมอร์ เชื้อเพลิงและซากดึกดำบรรพ์ เคมีกับการแก้ปัญหา และสารชีวโมเลกุล น้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียน ม.ปลาย สายวิทย์ หรือกำลังเรียนอยู่ ก็จะต้องเจอหัวข้อเหล่านี้อย่างแน่นอน
คอร์สเรียน เคมี ของแข็ง ของเหลว แก๊ส ตัวต่อตัวเป็นคอร์สเรียนที่ผู้เรียนสามารถออกแบบการเรียนให้เหมาะกับตัวเองได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเรียนเพื่อติวสอบปลายภาค, ติวเพิ่มเกรด, กวดวิชาเข้ามหาวิทยาลัย ก็สามารถเลือกได้ตามแบบที่เราต้องการได้ด้วยหลักสูตรจำนวน 10 ชม. แต่หากใครที่พื้นฐานอ่อนหรืออยากมาเรียนเนื้อหาล่วงหน้าก็สามารถเพิ่มชั่วโมงเรียนให้เหมาะสมกับเราได้ คาร์โบไฮเดรตมีมอนอเมอร์คืออะไรโมโนแซ็กคาไรด์ (ภาษาอังกฤษ: monosaccharide) หรือ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เป็นรูปแบบคาร์โบไฮเดรตที่พื้นฐานที่สุด เนื่องจากเป็นมอนอเมอร์ของคาร์โบไฮเดรต โมโนแซ็กคาไรด์ ประกอบด้วยหนึ่งโมเลกุลของน้ำตาล ซึ่งอยู่ในรูปของผลึกของแข็งไม่มีสี ละลายน้ำได้ดี มอโนแซ็กคาไรด์บางตัวมีรสหวาน
ข้อใดคือคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซคคาไรด์และไดแซคคาไรด์ประเภทของคาร์โบไฮเดรต
น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) ได้แก่ กลูโคส, ฟรุคโตส, กาแลคโตส น้ำตาลโมเลกุลคู่ (disaccharides) ได้แก่ มอลโตส, แลคโตส, ซูโครส พอลิแซ็คคาไรด์ (polysaccharides) ได้แก่ แป้ง, ไกลโคเจน, เซลลูโลส
Monosaccharides มีอะไรบ้างคาร์โบไฮเดรตที่ซับซ้อนน้อยที่สุดคือ โมโนแซคคาไรด์ (monosaccharide) หรือน้ำตาล โมเลกุลเดี่ยว ได้แก่ กลูโคส (glucose) ฟรักโทส (fructose) และ กาแลคโทส (galactose) น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุล สามารถเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นไดแซคคาไรด์ (disaccharide)
คาร์โบไฮเดรต ในพืช คืออะไรคาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) เป็นสารชีวโมเลกุลที่ทำหน้าที่สะสมพลังงาน ที่พบในชีวิตประจำวันทั่วไปได้แก่ น้ำตาล แป้ง เซลลูโลส และไกลโคเจน โดยที่ส่วนใหญ่พบแป้งและเซลลูโลสในพืช ส่วนไกลโคเจนพบในเซลล์เนื้อเยื่อ น้ำไขข้อและผนังเซลล์ของสัตว์
|