กรดไหลย้อนกินผลไม้อะไรได้บ้าง

6 ผัก และผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพของผู้ป่วย "กรดไหลย้อน โรคกระเพาะ"

       1.ผักที่มีฤทธิ์เย็น 

  เช่น บวบ เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีกรดเกินในกระเพาะอาหารมาก และควรทานให้มากในช่วงมื้อเย็น เพราะจะช่วยลดอาการแสบท้อง ร้อนท้อง แสบร้อนบริเวณกลางอก ปวดท้องเหมือนลำไส้ถูกบิด

       2. ผักใบเขียวที่มีกากใยสูง

  เช่น คะน้า ผักหวาน กวางตุ้ง ผักกาดแก้ว ตำลึง ผักบุ้ง และบล็อคโครี่ เป็นต้น ซึ่งผักเหล่านี้ควรทานให้มากในมื้อเช้า-กลางวัน โดยตอนทานแนะนำให้ทานคำเล็กๆ และเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนนะคะ เพื่อเป็นการกระจายกากใย เพราะกากใยเหล่านี้จะช่วยดูดซับกรดเกิน น้ำตาลส่วนเกิน ทำความสะอาดลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดี บรรเทาอาการท้องผูก และยังไล่ลมออก ลองสังเกตดูนะคะ พอเราทานผักพวกนี้ลงไปแล้วมักจะเลอไล่ลมทันที

       3. ผักสีขาวที่ย่อยง่าย

   เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ดอกกะหล่ำปลี ควรทานให้มากในช่วงมื้อเย็น ประโยชน์ที่พิเศษสุดๆของดอกกะหล่ำปลีคือ ในกะหล่ำมีซัลเฟอร์ จะช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร สมานแผล รักษาอาการอักเสบ และกำจัดสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย

       4. ผักที่เคี้ยวแล้วมีเมือก

  เช่น ผักปลัง กระเจี๊ยบเขียว ซึ่งผักเหล่านี้เหมาะสำหรับคนที่มีกรดเกิน โดยแนะนำให้ทานผักพวกนี้เป็นคำสุดท้ายของมื้อ เพื่อให้เมือกไปเคลือบกระเพาะอาหาร และลำไส้ ป้องกันอาการแสบท้อง ลดโอกาสการเกิดโรคกระเพาะซ้ำ

        5. เม็ดแมงลัก

  เม็ดแมงลักมีกากใยที่สูง ช่วยดูดซับน้ำตาลส่วนเกิน ควรทานเม็ดแมงลักตอนที่รู้สึกหิว หรือเริ่มแสบท้อง อย่างในบางครั้งอยู่บนรถ หรือก่อนนอน เกิดอาการแสบร้อนก็ลองดื่มเม็ดแมงลักดูนะคะ จะช่วยบรรเทาอาการแสบท้องได้ค่ะ เม็ดแมงลักยังช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วยค่ะ

        6. กล้วยน้ำว้า

  กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น จะช่วยเคลือบกระเพาะ-ลำไส้ โดยกล้วยน้ำว้าจะมีเมือกธรรมชาติ เมือกจะช่วยเคลือบ และสมานแผล แล้วยังช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร

อาหารสำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน 

การใช้ชีวิตเร่งรีบ และ ขาดความรู้ความเข้าใจ ทำให้เราเลือกกินอาหารที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของ โรคกรดไหลย้อน ทำให้จำนวนคนเป็นโรคกรดไหลย้อนในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น ปุณรดายาไทย เข้าใจถึงปัญหานี้ ในบทความนี้เราจึงรวบรวมเอาความรู้เกี่ยวกับ "อาหารสำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน ทั้ง อาหารที่ช่วยลดกรดในกระเพาะ ผัก ผลไม้ แก้กรดไหลย้อน และ อาหารที่คนเป็นกรดไหลย้อนห้ามกิน" มาฝากกันนะคะ ^^

5 อาหารย่อยง่าย สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน

1. อาหารไขมันต่ำ แนะนำอาหารที่ปรุงด้วยวิธีต้ม อบ ตุ๋น นึ่ง ย่าง ยำ (อาหารประเภทยำไม่เน้นรสจัด งดใส่หอมหัวใหญ่ที่อาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และใช้ขิงชูรสเผ็ดแทนพริกสด)
2. แนะนำเมนูอาหารที่ไขมันต่ำ เช่น ข้าวอบธัญพืช สุกี้น้ำ ข้าวต้มปลากะพง โจ๊กปลา ผักสุก ขนมปังโฮลวีต สเต๊กปลาแซลมอนย่างเสิร์ฟพร้อมผักลวกหรือสลัดผัก ข้าวกล้อง ยำหัวปลีผัดฟักทอง แกงจืดผักกาดขาว เต้าหู้ราดหน้าเห็ด อาจเพิ่มมื้อว่างช่วยขับถ่ายเป็นโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่กล้วยน้ำว้าหั่นแว่นได้นะคะ
3. อาหารที่ปรุงจากขิงเป็นตัวช่วย เพราะมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร ขับลมลดอาการท้องอืด ดังการศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชกรรมโทะยะมะประเทศญี่ปุ่น พบว่า ขิงกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ช่วยย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตทั้งมีรายงานว่าช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดีจากตับอ่อน ช่วยให้ไขมันแตกตัวและย่อยได้ง่ายขึ้น
4. แนะนำเมนูอาหารที่มีขิง เช่น เต้าหู้ผัดขิง โจ๊กปลาเพิ่มขิงซอย ยำสมุนไพรใส่ขิง ข้าวต้มน้ำขิง
5. กลุ่มธัญพืชและเมล็ดถั่ว อัลมอนด์ บัควีต ถั่วเขียว ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง งา ถั่วเหลือง

4 ผักผลไม้แก้กรดไหลย้อน แก้ท้องอืด ลดกรดในกระเพาะอาหาร

1. กล้วยน้ำว้า หรือแอปเปิ้ล มีส่วนประกอบของยาลดกรดแบบธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี เป็นอีกตัวช่วยที่สามารถลดอาการแสบร้อนกลางอกได้ง่าย ๆ เพราะทั้งสองมีใยอาหารชนิดเพคตินมาก ป้องกันโรคกระเพาะ ทำให้กระเพาะอาหารแข็งแรงขึ้น เพียงรับประทานกล้วยน้ำว้าสุกหรือแอปเปิ้ลเป็นประจำทุกวัน ประมาณ 3-4 ชั่วโมงก่อนนอน ก็จะช่วยบรรเทาและป้องกันได้
   
2. แตงไทย แตงไทยเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นจึงช่วยลดอาการแสบร้อนที่หน้าอกและอาการท้องอั้น เนื่องจากโรคกรดไหลย้อน ทานแล้วสบายท้อง ช่วยให้อาหารย่อยง่าย ท้องไม่อืดไม่เฟ้อ
3. ผลไม้ อื่นๆ เช่น เอพริคอต อะโวคาโด แบล็กเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แคนตาลูป เชอร์รี่ มะพร้าว มะเดื่อ องุ่น มะละกอ พีช แพร์ สตรอว์เบอร์รี่ แตงโม
   
   
   
   
4. ผักสีเขียว ข้อแนะนำในการเลือกทานผักสำหรับผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนคือให้ทานผักใบเขียวที่มีกากใยสูง เพราะช่วยในการย่อยได้ดี เช่น บร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี แครอต เซเลอรี่ แตงกวา มะเขือ ฟักทอง ผักโขม ตำลึง ใบบัวบก ผักหวาน ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง
   ผักกลุ่มนี้ นอกจากมีกากใยสูงช่วยเรื่องการย่อยและการขับถ่ายแล้ว ผักใบเขียวยังช่วยดูดซับกรดและไล่ลม ทั้งการเรอและการผายลม ลดอาการอึดอัดจากท้องอืดท้องเฟ้อได้ แนะนำให้ทานผักใบเขียวในมื้อเช้าและมื้อเย็น โดยให้เคี้ยวผักให้ละเอียดก่อนกลืนนะคะ 

1. อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม กิมจิ ซูชิบางชนิดที่มีผักดอง ก็มีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดอาการจุดเสียดแน่นท้องได้
2. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา และกาแฟ เพราะสารคาเฟอีนจะไปกระตุ้นให้หูรูดส่วนปลายของหลอดอาหาร (ที่ช่วยปิดไม่ให้อาหารและกรดไหลย้อนขึ้นมา) คลายตัว ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายขึ้น จะเร่งการเกิดกรดในกระเพาะอาหารร่วมด้วย
   
   
3. เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์  สามารถทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้โดยการทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายเกิดการคลายตัว ทำให้สารในกระเพาะอาหารไหลเข้าสู่หลอดอาหารและทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางหน้าอก
4. เครื่องดื่มที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น น้ำอัดลม สามารถเพิ่มกรดและความดันในกระเพาะอาหาร ทำให้กรดในกระเพาะอาหารสามารถผ่านกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายขึ้นมาได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น น้ำอัดลมหลายชนิดยังมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ
   
5. อาหารที่มีไขมันสูง ไม่ว่าจะเป็นของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของเนย มาการีน ล้วนมีผลทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง ส่งผลให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ กรดจากกระเพาะอาหารจึงมีโอกาสไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหารมากขึ้น
6. ช็อกโกแลต มีส่วนผสมของโกโก้ ซึ่งไปกระตุ้นการหลั่งสารซีโรโทนิน ให้หลั่งมากขึ้น ซีโรโทนิน เป็นทั้งฮอร์โมน และสารสื่อประสาท โดยปกติซีโรโทนินในทางเดินอาหารจะหลั่งออกมาเมื่อมีสารที่ระคายเคืองทางเดินอาหารเข้าไป ทำให้หูรูดต่างๆคลายตัว และเกิดการอาเจียนออกมาดังนั้นหากหูรูดหลอดอาหารคลายตัวมากกว่าปกติก็จะทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาง่ายขึ้นนั่นเอง
7. ผักที่มีกรดแก๊สมาก เช่น หอมหัวใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย หอมแดง เปปเปอร์มินต์ หรือสะระแหน่ รวมทั้งผักดิบทุกชนิดก็ควรเลี่ยง เพราะผักเหล่านี้จะไปเพิ่มกรดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก
8. ผลไม้ที่มีกรดมาก ผลไม้ที่ผู้ป่วยกรดไหลย้อนห้ามกินหรือควรเลี่ยงไว้เป็นดี คือกลุ่มผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น ส้ม องุ่น มะนาว มะเขือเทศ สับปะรด หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด รวมไปถึงซอสมะเขือเทศก็ควรเลี่ยงด้วยเช่นกัน
9. น้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูจัดเป็นเครื่องปรุงรสที่มีกรดมาก ดังนั้นผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนไม่ควรเติมน้ำส้มสายชูลงในอาหาร เพราะจะเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นไปอีก

"ในแต่ละบุคคล มีการตอบสนองต่ออาหารแต่ละชนิดที่แตกต่างกันไป เราควรใส่ใจกับอาหารที่รับประทานและหากอาหารหรือเครื่องดื่มที่รับประทานไปนั้น ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางหน้าอก เราก็ควรหลีกเลี่ยงกันนะคะ"  

5 สมุนไพรใกล้ตัวช่วยลดกรดไหลย้อน

1. ขิง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกาย ที่สำคัญสามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ในร่างกาย ตั้งแต่อาการคลื่นไส้ ไปจนถึงกรดไหลย้อน มหาวิทยาลัยการแพทย์และเภสัชกรรมโทะยะมะประเทศญี่ปุ่น พบว่า ขิงกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ช่วยย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตทั้งมีรายงานว่าช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดีจากตับอ่อน ช่วยให้ไขมันแตกตัวและย่อยได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
2. ขมิ้นชัน น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีในสรรพคุณมากมายที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน  เนื่องจาก มีสารประกอบเคอร์คูมิน (curcumin) ที่ช่วยรักษาโรคลำไส้อักเสบ ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร กระตุ้นการหลังสารเมือกมาเคลือบกระเพาะอาหาร ยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยและช่วยสมานแผล หากเป็นกรดไหลย้อนในระยะแรก ๆ สามารถรักษาโดยการทานขมิ้นชันได้
3. กระเพราและโหระพา สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า สารยูจีนอล (Eugenol) ในใบกะเพราช่วยขับลมแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย มีฤทธิ์ขับน้ำดี และลดระดับไขมันร้ายในเลือด ส่วนโหระพามีสรรพคุณขับลม บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน ลดอาการปวดเกร็งในระบบทางเดินอาหาร
4. กระเจี๊ยบเขียว ในฝักกระเจี๊ยบเขียวจะมีสารที่เป็นเมือกจำพวกเพกทิน (Pectin) และกัม (Gum) ที่มีคุณสมบัติช่วยในการเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ โดยป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามของแผลได้เป็นอย่างดี (ได้ผลดีเท่า ๆ กับยา Misoprotol) และยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
5. ลูกยอ งานวิจัยระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้มีสารสโคโปเลติน (Scopoletin) เป็นส่วนประกอบ สารชนิดนี้สามารถช่วยลดการอักเสบของหลอดอาหารจากการไหลย้อนของกรดได้ผลดีพอ ๆ กับยามาตรฐาน คือ รานิทิดีน (Ranitidine) และยาแลนโซพราโซล (Lansoprazole)
   เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านการหลั่งของกรด ต้านการเกิดแผล และทำให้การบีบตัวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น โดยมีผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องโดยตรง อีกทั้งยังสามารถเพิ่มการดูดซึมของยารานิทิดีนได้ด้วย ลูกยอจึงเหมาะแก่การนำมาใช้เป็นสมุนไพรสำหรับรักษาอาการกรดไหลย้อน
   
   

ตำรับยาสมุนไพรรักษากรดไหลย้อน

 การใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรค เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆค่ะ แม้ว่าสมุนไพรบางชนิดจะมีสรรพคุณในการรักษา หรือช่วยบรรเทาโรคกรดไหลย้อนได้จริง แต่หากเราไม่ความรู้เรื่องการคัดสมุนไพรที่เหมาะสมมาใช้ และไม่มีความเชี่ยวชาญในดึงฤทธิ์ยาสมุนไพรนั้นๆ ออกมาเพื่อรักษา ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจจะไม่ดีเท่าที่ควรนะคะ 

ปุณรดา ยาไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านตำรับยาสมุนไพรรักษาโรค เข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคกรดไหลย้อน จึงเกิดยารักษากรดไหลย้อน BALANCE ที่ประกอบด้วยยาสมุนไพรกว่า 30 ชนิด นำมาประกอบกันอย่างลงตัวด้วยเทคนิคเฉพาะทาง

____________________________________________________

*** HOT PROMOTION:  เมื่อซื้อ 3 กระปุก จากราคาปกติ 3,750 บาท ลดราคาพิเศษเหลือเพียง 2,790 บาท พร้อมจัดส่ง EMS ฟรี !!

ผลจากการติดตามอาการคนไข้ พบว่า 99% ของผู้ที่ทาน BALANCE หายจากโรคกรดไหลย้อนตั้งแต่ชุดแรก 
*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล หากปรับพฤติกรรมตามที่แพทย์แนะนำร่วมกับทานยาสมุนไพร จะช่วยให้หายเร็วขึ้นและมีโอกาสหายขาดได้ค่ะ 

สอบถามราคา สั่งซื้อสินค้า หรือปรึกษาแพทย์ได้ที่ติดต่อ: 086-955-6366, 091-546-9415Line id: @poonrada หรือ inbox: www.Facebook.com/PoonradaYaThai   บทความเกี่ยวข้องที่น่าสนใจ- คุณเป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรือกรดไหลย้อนกันแน่?- วิธีรักษากรดไหลย้อนให้หายขาด อย่างปลอดภัย ด้วยตัวเอง- ขมิ้นชัน ช่วยรักษากรดไหลย้อนได้จริงหรือไม่- โรคกรดไหลย้อนรักษาอย่างไร? วิธีรักษากรดไหลย้อนให้หายขาดด้วยสมุนไพรไทย

เอกสารอ้างอิง

- คอลัมน์มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 427 (16 กรกฏาคม 2559)
- คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 383 (16 กันยายน 2557)
- นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่ 232 (เดชา ศิริภัทร) และเล่มที่ 347 (รศ.ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ)
- Robin Madell and Kristeen Cherney . Coffee vs. Tea for GERD.  [Internet].  Healthline 2017  [Update 2017 December 7; cite 2018 June 10] Available from: http://www.healthline.com/health/gerd/coffee-tea#Overview1
- Ashley Marcin. Can You Eat Chocolate If You Have Acid Reflux?. [Internet].  Health line 2016 [Update 2016 May 17; cite 2018 June 10] Available from: http://www.healthline.com/health/digestive-health/chocolate-and-acid-reflux#Research2
- Phyathai  Hospital. ป่วยเป็น “กรดไหลย้อน” ควรงดอาหารอะไรบ้าง. [อินเตอร์เน็ต]. โรงพยาบาลพญาไท 2559 [ปรับปรุงเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560; สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2561] จาก: https://www.phyathai.com/article_detail/2369/th/ป่วยเป็น_“กรดไหลย้อน”_ควรงดอาหารอะไรบ้าง

ผลไม้อะไรที่มีกรดเยอะ

กรดไหลย้อนทานส้มโอได้ไหม

กรดไหลย้อนกินต้นหอมได้ไหม

เป็นกรดไหลย้อนกินลูกพลับได้ไหม