วันนี้ (22 ส.ค.2564 )นายพีระพงศ์ ตริยเจริญ ผู้จัดการระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา (TCAS) ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวว่า ที่ประชุม ทปอ. ได้มีการหารือระบบ TCAS ปี 2565 Show
โดยรูปแบบการคัดเลือก TCAS ปี 2565 จะเริ่มตั้งแต่ 9 ธันวาคม 2564-21 มิถุนายน 2565 มี 4 รูปแบบ คือ รอบ 1 Portfolio การรับสมัครมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
รอบ 2 โควต้า การรับสมัครมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
รอบ 3 แอดมิชชั่น รับสมัคร 2-10 พฤษภาคม 2565
รอบ 4 Direct admission การรับสมัครมหาวิทยาลัย 25 พฤษภาคม-5 มิถุนายน 2565
ในรอบที่ 3 และ 4 ไม่อนุญาตให้สละสิทธิ์ถ้าไม่ต้องการ ไม่ต้องกดยืนยันสิทธิ์ โดย TCAS 2565 จะยกเลิกการนำคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติชั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต มาพิจารณาทั้งหมด ส่วนสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ยังคงดำเนินการจัดสอบโอเน็ตอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ผู้เข้าสอบจะต้องเป็นผู้พิจารณา ว่า จะเข้าสอบหรือไม่
"ขอเน้นย้ำให้ทุกคนตรวจสอบคุณสมบัติของคณะ/สาขาที่มีความประสงค์จะเข้าศึกษาต่อ ว่า ต้องใช้คะแนนในส่วนใดในการพิจารณาบ้างด้วย ส่วนการที่ ทปอ.กำหนดให้ผู้สมัครจะต้องทำการสละสิทธิ์ภายใน 1 วันหลังจากยืนยันสิทธิ์นั้น เพื่อที่จะให้ผู้สมัครรู้จักการวางแผนการดำเนินการต่างๆ และเป็นระยะเวลาที่เพียงพอ" นายพีระพงศ์ กล่าว ทั้งนี้ จำนวนอันดับและค่าสมัครรอบ 3 สามารถเลือกได้สูงสุด 10 อันดับ ค่าสมัครจะเริ่มจาก 150 บาท สูงสุด 900 บาท ซึ่งผู้สมัครสามารถที่จะเลือกสมัครเพียงอันดับเดียว และเสียเงินค่าสมัคร จำนวน 150 บาท หรือ จะสมัคร 10 อันดับ และเสียค่าสมัคร จำนวน 900 บาทก็ได้ สำหรับการสละสิทธิ์ในระบบได้ 1 ครั้งเพื่อสมัครคัดเลือกรอบต่อไป ยกเว้นในกรณีที่สละสิทธิในสาขาแพทยศาสตร์ สาขาทันตแพทยศาสตร์ สาขาเภสัชศาสตร์ จะไม่สามารถสมัครสาขาสาขานั้นๆ ในรอบต่อไปได้ยกเว้นจะสละสิทธิ์สาขาดังกล่าวจากมหาวิทยาลัยเอกชนมาสมัครในมหาวิทยาลัยรัฐ หรือจากมหาวิทยาลัยรัฐมาสมัครมหาวิทยาลัยเอกชน
นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการสมัครสอบ GAT/PAT และวิชาสามัญ 9 วิชา ในปี 2565 นี้ ทปอ.จะเป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด และจะต้องลงทะเบียนในระบบ TCAS 65 คือ จะต้องมีบัญชี MyTcas โดยจะเริ่มรับสมัครสอบวิชา GAT/PAT และวิชาสามัญ ในวันที่ 15 – 28 ธันวาคม 2564 สอบ GAT/PAT วันที่10 – 13 มีนาคม 2565 ประกาศผลสอบวันที่ 18 เมษายน 2565 สอบวิชาสามัญ วันที่ 19 – 20 มีนาคม 2565 ประกาศผลสอบวันที่20 เมษายน 2565 ผู้สมัครสามารถเลือกสนามสอบที่ต้องการเข้าสอบเรียงลําดับ 5 แห่ง ค่าสมัครสอบ GAT/PAT วิชาละ 140 บาท ค่าสมัครสอบวิชาสามัญ วิชาละ 100 บาท
นอกจากนี้ผู้สมัครยังสามารถขอยกเลิกการสอบวิชา GAT/PAT และวิชาสามัญ วันที่ 10 – 13 กุมภาพันธ์ 2565 โดยคืนเงินค่าสมัครสอบร้อยละ 50 ผ่านระบบพร้อมเพย์ของตนเอง ข้อสอบที่จะใช้ใน TCAS 65 กลุ่มวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนในรายวิชาอื่นๆ ทปอ.เป็นผู้ดำเนินการออกข้อสอบ โดย GAT 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จะเป็นผู้ดำนินการ และวิชาอื่นๆ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ดำเนินการโดย “ขอยืนยันว่าการออกข้อสอบ จะใช้เนื้อหาเดิม ยึดแกนของสาระวิชา กรอบข้อสอบเดิม จำนวนข้อสอบเหมือนเดิม แต่วิธีการถามจะเน้นการนำไปคิด และนำไปใช้มาขึ้น ว่าแต่ละวิชาเรียนไปเพื่ออะไร และนำไปใช้ทำอะไร อีกทั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคม จะมีการเผยแพร่ test blueprint เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้เข้าสอบทบทวนเนื้อหา ไม่ใช่แค่ท่องจำ”นายพีระพงศ์ กล่าว เชื่อว่าผู้เข้าสอบคนใดที่ตั้งใจเรียนในห้องเรียนสามารถทำข้อสอบได้แน่นอน ส่วนกรณีที่มีความต้องการให้ test blueprint ควรจะออกมาเป็นแนวทางให้แก่ผู้เข้าสอบอย่างแท้จริง เนื่องจากที่ผ่านมาบางวิชามี test blueprint เพียงแผ่นเดียวนั้น จะรับเรื่องนี้ไปหารือกับคณะทำงานอีกครั้ง "สำหรับการจัดสอบต่างๆ ของ ทปอ.ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งมีผู้เข้าสอบจำนวนมากนั้น ทาง ทปอ.เรามีการวางแผนการจัดสอบอย่างชัดเจน รวมทั้งมีแผนในการวางระบบต่างๆ ด้วย ทั้งยังมีแผนบริหารจัดการความเสี่ยง ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดสอบในช่วงเดือนมีนาคมได้ รวมถึง ทปอ.จะติดตามสถานการณ์รายวันควบคู่ไปด้วย"ผู้จัดการระบบ TCAS ของ ทปอ.กล่าว 2-10 พ.ค.2565 นี้ จะเป็นวันเปิดรับสมัครรอบ 3 แอดมิชชั่น TCAS 2565 ซึ่งในการคัดเลือกบุคคลเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ เป็นปีแรก ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ข้อสอบ การจัดสอบ การประกาศผลสอบโดยในรอบที่ 1 Portfolio ไม่ใช้คะแนนสอบ ใช้แค่แฟ้มสะสมผลงาน สมัครโดยตรงกับเว็บมหาวิทยาลัย ได้เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรอบที่ 2 Quota มีการใช้คะแนนสอบ สมัครโดยตรงกับเว็บมหาวิทยาลัย จะประกาศผลในระบบ 4 พ.ค.2565 นี้ ขณะที่ รอบ 3 Admission ซึ่งเป็นอีก1 ใน 4 รอบการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าน้องๆ ต้องลุ้นกันสุดตัว เพราะในรอบนี้ของปีนี้ ได้มีการยกเลิกเกณฑ์ Admission ที่ใช้คะแนน O-NET เป็นสัดส่วนในการคัดเลือก 30% แต่มหาวิทยาลัยสามารถออกเกณฑ์หลายรูปแบบได้ภายในรอบนี้ ซึ่งเหมาะกับน้องๆ ที่เน้นฟิตการฝึกทำข้อสอบ รอบนี้เน้นการใช้คะแนนสอบกลางเป็นหลัก สำหรับการเตรียมพร้อมในการสมัครรอบ 3 Admission TCAS65 "กรุงเทพธุรกิจ" ได้รวบรวม 10 สิ่งที่น้องๆ ต้องรู้ ดังนี้ 1. สมัครรอบ 3 แอดมิชชั่น ที่เว็บ myTCAS เท่านั้น รอบ Admission ทุกคน ไม่ว่าจะ ม.6 หรือ เด็กซิ่ว จะต้องสมัครผ่านระบบ myTCAS ซึ่งการใช้งานระบบนี้ได้ ต้องลงทะเบียนก่อน โดยน้องๆ ที่เคยสมัครรอบ Portfolio, Quota และสมัคร GAT/PAT มาแล้ว ผ่านการลงทะเบียนมาแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ทว่าสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมคือ ก่อนระบบเปิดรับสมัคร จะต้องเข้าไปเช็กคะแนน GAT/PAT วิชาสามัญ จำนวนหน่วยกิต และ GPAX ว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้อง ทปอ.จะเปิดโอกาสให้น้องๆ แจ้งขอแก้ไขข้อมูล โดยจะต้องมีหลักฐานอ้างอิงด้วย เช่น ถ้าจะแก้ GPAX จะต้องแนบหลัก ใบ ปพ.1 เป็นต้น ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะหลายคณะมีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำ หากข้อมูลในระบบไม่ถูกต้องจะส่งผลต่อการคัดเลือกได้ ดังนั้น น้องๆ ต้องตรวจสอบให้ถูกต้องชัดเจน เพื่อจะได้ไม่พลาดคณะ มหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการ
2. ไม่มีการยืนยันสิทธิ์รอบไหนมาก่อน....ถึงยื่นรอบแอดมิชชั่นได้ สำหรับใครก็ตามที่คะแนนสามารถยื่นได้หลายๆ รอบ หรือมีการยืนยันสิทธิ์รอบ อื่นๆ อย่าง รอบ Portfolio, Quota มาแล้ว หากจะมารอบ Admission คงไม่สามารถทำได้ น้องๆ ที่ยื่นรอบAdmission ได้ ต้องไม่มีการยืนยันสิทธิ์รอบไหนทั้งสิ้น เหมาะกับน้องๆ ที่ตั้งใจสมัครรอบนี้รอบเดียว หรือ สอบติดรอบ 1 Portfolio - รอบ 2 Quota มาแต่เลือกไม่ใช้สิทธิ์ ก็สามารถสมัครรอบ 3 ได้เลยไม่มีปัญหา แต่ใครที่ยืนยันสิทธิ์ไว้แล้ว แต่อยากมาลองสมัครรอบ Admission ดูบ้าง ทางเดียวที่จะทำได้คือต้องสละสิทธิ์ในวันที่ 6 พ.ค.2565 เสียก่อน อย่างไรก็ตาม ใครที่สอบติดรอบอื่นๆ แล้วสละสิทธิ์ เพื่อมายื่นรอบ Admission หากไม่ติดรอบ Admission จะไม่สามารถกลับไปเรียนคณะเดิมที่สอบติดได้ เพราะถือว่าน้องๆ สละสิทธิ์ ยกเลิกสถานะการสอบติดทั้งหมดของตนเอง ก่อนตัดสินใจควรพิจารณาให้รอบคอบด้วยนะคะ 3. เลือกได้สูงสุด 10 อันดับ(รวม กสพท) แต่จะเลือกไม่ครบ10 อันดับก็ได้ การสมัครรอบ Admission TCAS 65 นี้ น้องๆ สามารถเลือกอันดับได้สูงสุด 10 อันดับ คือ จะเลือกกี่อันดับก็ได้ แต่ได้สูงสุดเพียง 10 อันดับเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องเลือกให้ครบทั้ง 10 อันดับ ซึ่งใน 10 อันดับนี้ สามารถเลือกรวมคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ ในกลุ่ม กสพท ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม จะเลือกคณะไหน มหาวิทยาลัยใด ของให้เช็กคุณสมบัติ คะแนน ที่ทางมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งกำหนดร่วมด้วย เพราะหากยื่นคะแนนในคณะที่ไม่ได้ตรวจสอบ ไม่ตรงกับคุณสมบัติที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด ก็อาจทำให้น้องๆ ถูกตัดสิทธิ์ พลาดโอกาสได้เช่นเดียวกัน
4.คะแนนสูงต่ำปี 2564 ดูเป็นแนวทาง แต่ไม่สามารถเทียบได้ 100% อย่างที่ทราบว่า ปีนี้ ยุบรวมรอบ Admission เหลือเพียงรอบเดียว โดยเกณฑ์ Admission 2 ที่เคยมีคะแนนเต็ม 30,000 คะแนนทุกมหาวิทยาลัยก็ถูกยกเลิกทันที คณะเดียวกันปีนี้ ไม่ใช้เกณฑ์คะแนน O-NET เป็นสัดส่วนในการคัดเลือก 30% ฉะนั้น รอบ Admission ปีนี้ น้องๆ จะเทียบคะแนนต่ำสุด-สูงสุด จากปี 2564 ได้เพียงบางคณะ บางมหาวิทยาลัยเท่านั้น โดยอาจเทียบกับคะแนนของเกณฑ์ Admission 1 หรือ Admission 2 อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถเทียบได้ 100% เนื่องจากหลายมหาวิทยาลัยมีวิธีการคิดคะแนนเป็นของตัวเอง จึงไม่สามารถนำวิธีคิดคะแนนจาก มหาวิทยาลัยหนึ่ง ไปมหาวิทยาลัยหนึ่ง แถมบางคณะก็อาจมีการเปลี่ยนเกณฑ์จากปี 2564 การรวมคะแนนและใช้คะแนนเปรียบเทียบจากปีที่แล้วคงไม่ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ น้องๆ ต้องตรวจสอบรายละเอียดจากมหาวิทยาลัยดีๆ 5. จัดอันดับแบบเรียงลำดับตามคณะที่ต้องการ หรือคะแนนที่น่าจะได้ การวางอันดับ 1-10 เลือกอันดับตามที่น้องๆ ต้องการนั้น หลายคนมีเทคนิคการจัดอันดับที่แตกต่างกันออกไป บางคนเลือกตามคณะ มหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการ และคะแนนถึง บางคนมีเทคนิคการจัดอันดับตามคะแนน หรือ บางคนเรียงตามความชอบของตนเอง ซึ่งการจัดอันดับนั้นจะเรียกแบบไหนก็ได้ แต่เมื่อประกาศผลแล้ว หากเราติดอันดับไหนจะต้องเรียนอันดับนั้น เช่น หากสอบติดอันดับที่ 5 ก็จะต้องเรียนคณะอันดับที่ 5 เท่านั้น แม้ว่าคะแนนของเราก็จะสอบติดอันดับ 6-10 ด้วย ก็จะไม่สามารถไปเลือกเรียนอันดับ 6-10 ได้ ควรระวังในเรื่องนี้ อย่าเรียงลำดับมั่วๆ นะคะ 6. ลด 15 % ค่าสมัคร Admissionขึ้นอยู่กับจำนวนอันดับ การสมัครรอบ Admission ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับจำนวนอันดับที่สมัคร สมัครน้อยจ่ายน้อย สมัครเยอะจ่ายเยอะ โดยค่าสมัครจะเริ่มต้นที่ 150 บาท และสูงสุด 10 อันดับที่ 900 บาท แต่ในปีนี้ ทปอ. มีมาตรการช่วยเหลือค่าสมัคร โดยลดค่าสมัคร 15% โดยมีค่าใช้จ่ายดังนี้ สมัคร 1 อันดับ จาก 150 บาท เหลือ 127.5 บาท สมัคร 2 อันดับ จาก 200 บาท เหลือ 170 บาท สมัคร 3 อันดับ จาก 250 บาท เหลือ 212.5 บาท สมัคร 4 อันดับ จาก 300 บาท เหลือ 255 บาท สมัคร 5 อันดับ จาก 400 บาท เหลือ 340 บาท สมัคร 6 อันดับ จาก 500 บาท เหลือ 425 บาท สมัคร 7 อันดับ จาก 600 บาท เหลือ 510 บาท สมัคร 8 อันดับ จาก 700 บาท เหลือ 595 บาท สมัคร 9 อันดับ จาก 800 บาท เหลือ 680 บาท สมัคร 10 อันดับ จาก 900 บาท เหลือ 765 บาท โดยการจ่ายค่าสมัคร สามารถจ่ายด้วย Mobile Banking ได้ หรือสามารถไปที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสได้เช่นกัน แต่ให้น้องๆ ระวังเรื่องกำหนดการชำระเงินเพราะแต่ละช่องทางปิดรับไม่เท่ากัน หากจ่ายด้วย mobile banking จะจ่ายได้ถึง 23.29 น.ของวันที่ 10 พ.ค.65 แต่ถ้าเคาน์เตอร์เซอร์วิส จะชำระได้ถึง 23.59 น. ของวันที่ 10 พ.ค.65 หากเกินระยะเวลานี้ จะถือว่าสมัครไม่สำเร็จ 7. เปลี่ยนอันดับได้ 3 ครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด ห้ามเกินกว่านี้ ขั้นตอนสำคัญของการสมัครคือ หลังจากที่จัดเรียงลำดับเรียบร้อยแล้ว น้องๆ จะต้องกดยืนยันการเลือกสาขาวิชาด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีการส่งรหัส OTP มาเพื่อยืนยันตัวตน เมื่อยืนยันเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถพิมพ์ใบไปชำระเงินค่าสมัครได้ หากใครลังเล หรือยังไม่พอใจกับคณะที่เลือก หลังชำระเงินไปแล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงสาขาที่เลือกได้ฟรีทั้งหมด 3 ครั้ง โดยนับตามจำนวนครั้งที่ยืนยันตัวตนผ่าน OTP และจะต้องทำภายใน 23.59 น. ของวันที่ 10 พ.ค.65 เท่านั้น หากเกินนี้ก็จะไม่สามารถแก้ไขอันดับได้ หากยืนยันครบ 3 ครั้งแล้ว แต่ยังต้องการเปลี่ยนอีก สามารถยกเลิกใบสมัครเดิมได้ (เรียกว่า Set Zero) และสมัครเข้าไปใหม่ ซึ่งตรงนี้จะต้องจ่ายเงินใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าน้องๆ ยังไม่ยืนยันการเลือกสาขา สามารถเปลี่ยนแปลงอันดับกี่ครั้งก็ได้ 8. กลุ่มกสพท แพทย์ -ทันตะ-เภสัช 3 คณะที่สละสิทธิ์เลือกรอบถัดไปไม่ได้ น้องๆ ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ หากใครที่ยืนยันสิทธิ์มาในรอบ 1 และ 2 แล้ว แต่อยากมารอบ 3 ไม่สามารถสละสิทธิ์ได้นะคะ ฉะนั้น หากสอบติดและสละสิทธิ์เพื่อจะมารอบถัดไป จะไม่สามารถเลือกหลักสูตรเดิมได้ สละสิทธิ์หลักสูตรแพทยศาสตร์ จะสมัครหลักสูตรแพทยศาสตร์รอบถัดไปไม่ได้ (สมัครทันตะฯ/เภสัชฯ ได้) สละสิทธิ์หลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ จะสมัครหลักสูตรทันตแพทย์รอบถัดไปไม่ได้ (สมัครแพทยฯ/เภสัชฯได้) สละสิทธิ์หลักสูตรเภสัชศาสตร์ จะสมัครหลักสูตรเภสัชศาสตร์รอบถัดไปไม่ได้ (สมัครแพทยฯ/ทันตะฯ ได้) เงื่อนไขนี้จะกำหนดใช้เฉพาะ สละสิทธิ์ ม.รัฐ ไปสมัคร ม.รัฐ เท่านั้น ถ้าสละสิทธิ์ ม.รัฐ ไป ม.เอกชน สามารถทำได้ หรือ สละสิทธิ์ ม.เอกชน มาก็ยังสามารถสมัครหลักสูตรเดิมใน ม.รัฐ ได้ กติกานี้ น้องๆ จำเป็นต้องรู้ เพื่อวางแผนการเลือกคณะของตัวเอง 9. Admission มีประมวลผล 2 ครั้ง จัดอันดับดีมีที่เรียน รอบ Admission นั้น จะมีการประกาศผล 2 ครั้ง โดยใช้ชุดอันดับเดิมในการประมวลผลครั้งที่ 2 ซึ่งการขอประมวลผลครั้งที่ 2 นั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อไม่ผ่านการคัดเลือกในอันดับใดๆ เลย หรือผ่านการคัดเลือกในอันดับที่ 2-10 แต่อยากลุ้นในอันดับที่สูงขึ้น หากมีคนสละสิทธิ์ ดังนั้น น้องๆ ทุกคนมีโอกาส 2 ครั้งอยู่ในมือ ขอให้ตั้งใจจัด 10 อันดับให้ดี เพราะหากแอดมิชชั่นไม่ติดในครั้งแรก ชุดอันดับเดิมก็ยังใช้ประมวลผลอีกครั้งได้ 10. สถาบันอุดมศึกษาที่เปิดรับสมัครรอบ 3 แอดมิชชั่น ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ mytcas.com ได้ระบุการรับสมัครของมหาวิทยาลัยปี 2565 พบว่า มีมหาวิทยาลัยที่เปิดรับสมัครรอบ 3 แอดมิชชั่น ดังนี้
ย้ำปฎิทินการสมัครรอบ Admission อย่างไรก็ตาม สำหรับการสมัครรอบ Admission นี้ น้องๆ สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 2-10 พ.ค.2565 ผ่านเว็บไซต์myTCAS เท่านั้น ประกาศผลในระบบ รอบแรก วันที่ 18 พ.ค.2565 และรอบ2 วันที่ 24 พ.ค.2565 ยืนยันสิทธิ์ในระบบ วันที่ 18 – 19 พ.ค. 65 สละสิทธิ์ในระบบ : ไม่อนุญาต (ถ้าไม่ต้องการ ไม่ต้องกดยืนยันในระบบ) หากน้องๆ พลาดโอกาสในรอบนี้ ยังมีอีก1 รอบที่น้องๆ สามารถเลือกคณะ เลือกมหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการเรียนได้ รอบที่ 4 Direct Admission สมัครโดยตรงกับเว็บมหาวิทยาลัย และในปีนี้จะมีเพิ่มขั้นตอนการยืนยันสิทธิ์ในระบบ myTCAS หลังสอบติดด้วย หากสอบติดแล้วไม่เข้าไปยืนยันสิทธิ์ ก็จะถือว่าไม่มีสิทธิ์เข้าศึกษา รอบนี้เหมาะกับน้องๆ ที่อาจจะยังไม่ได้สมัครในรอบก่อนหน้า หรือ พลาดจากรอบก่อนๆ โดยมหาวิทยาลัยกำหนด รอบแอดมิชชั่น 65 ใช้อะไรบ้างเกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก GPAX, GAT, PAT, 9 วิชาสามัญ, คะแนนสอบวิชาเฉพาะ, คะแนนสอบภาษาอังกฤษ
เข้ามหาลัยใช้คะแนนอะไรบ้าง 65ในระบบ TCAS ก่อนปี 65 รูปแบบ Admission 2 (รับกลางร่วมกัน) เป็นรูปแบบเดียวที่เป็นระบบรับกลาง หมายถึงสาขา / คณะที่มีหลักสูตรเดียวกัน จะใช้เกณฑ์การคัดเลือกเหมือนกัน แม้จะต่างสถาบันกันก็ตาม โดยมีองค์ประกอบในการคัดเลือกคือ GPAX 20 %, O-NET 30 % และ GAT PAT 50% ดังนั้นถ้ายกเลิกการสอบ O-NET ก็จะทำให้ไม่มีคะแนน O-NET มาใช้ใน ...
คะแนน GAT PAT ใช้ได้กี่ปี 65ผลคะแนน GAT/PAT มีอายุไม่เกิน 2 ปี นับจากวันสอบ ถ้าคณะ/ม. นั้นๆ อนุญาตให้ใช้คะแนนของปีก่อนได้
แพทย์ต้องสอบอะไรบ้าง 65เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก. คุณสมบัติเฉพาะตามที่ กสพท. กำหนด. ผลคะแนนวิชาสามัญ 70% และต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 30% ของคะแนนเต็ม โดยมีสัดส่วนคะแนนเป็น วิทยาศาสตร์ 40% คณิตศาสตร์ 20% ภาษาอังกฤษ 20% ภาษาไทย 10% สังคมศึกษา 10%. วิชาเฉพาะแพทย์ 30%. |