ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

 ชนิดของข้อมูล

1.  ข้อมูลประเภทข้อความ (Text) หมายถึง ข้อมูลที่ไม่นำมาคำนวณ อาจเป็นตัวอักษร  ตัวเลข เครื่องหมาย การใส่ข้อมูลที่มีความยากมากกว่าความกว้างของเซลล์ข้อความนั้นจะถูกแสดงต่อไปในเซลล์ที่อยู่ทางขวามือ ตราบใดที่เซลล์ทางขวามือนั้นยังไม่มีข้อมูล ข้อมูลชนิดนี้จะถูกจัดให้ยอู่ชิดซ้ายของเซลล์เสมอ
2.  ข้อมูลประเภทตัวเลข (Numeric) ข้อมูลที่นำมาคำนวณได้ ข้อมูลจะอยู่ชิดขวา  และไม่สามารถแสดงผลเกินความกว้างของเซลล์ได้ ถ้าความกว้างของเซลล์ไม่พอจะปรากฎเครื่องหมาย ####### การแก้ไขโดยขยายความกว้างของเซลล์ออกไป
3.  ข้อมูลประเภทวันที่ (Date) หมายถึงข้อมูลที่ประกอบด้วยวันที่ และเดือน เดือนและปี หรือวันที่ เดือนและปี โดยเดือนสามมารถกำหนดได้ทั้งแบบตัวเลข หรือตัวอักษร ข้อมูลชนิดนี้นำไปคำนวรได้
 3.  ข้อมูลประเภทเวลา (Time) หมายถึงข้อมูลที่ประกอบด้วยชั่วโมงและนาที โดยมีเครื่องหมาย : ข้อมูลชนิดนี้สามารถนำไปคำนวณได้
4.  ข้อมูลประเภทสูตร (Formular) ข้อมูลประเภทนี้คือสมการคณิตศาสตร์ จะต้องใช้เครื่องหมายเท่ากับนำหน้า

ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

1. หากต้องการใส่ฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์จะต้องเลือกคำสั่งที่อยู่ใน Ribbon ใด 1. แฟ้ม 2. แทรก 3. ข้อมูล 4. สูตร 2. หากต้องการกำหนดรูปแบบหรือชนิดของข้อความในเซลล์จะต้องเลือกใช้คำสั่งใด 1.2.
ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
3.
ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
4.
ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
3. ถ้าป้อนข้อมูลลงในช่องเซลล์เป็น 11-07-17 แล้วกดปุ่ม Enter จะได้ผลลัพธ์ดังข้อใด 1.      11-07-17 2.      11 July 2017 3.      11 กรกฎาคม 2560 4.      11/07/2017 4. นายมานะ ใจดี เลขที่ 15 เป็นข้อมูลประเภทใด 1. ข้อมูลตัวอักษรและตัวเลข 2. ข้อมูลตัวเลข 3. ข้อมูลตัวอักษร 4. ข้อมูลที่เป็นสูตร 5. หากต้องการใส่ข้อมูลที่เป็นตัวเลขโดยไม่สามารถนำมาคำนวณได้จะต้องทำอย่างไร 1. จัดข้อความให้ชิดขวาของเซลล์ 2. ใส่เครื่องหมาย = หน้าข้อความ 3. ทำการรวมเซลล์เข้าด้วยกัน 4. ใส่เครื่องหมาย ' หน้าข้อความ 6. หากต้องการยกเลิกการป้อนข้อมูลในเซลล์ให้กดปุ่มใดที่คีย์บอร์ด 1. ปุ่ม Esc 2. ปุ่ม End 3. ปุ่ม Enter 4. ปุ่ม Home 7. ข้อใดคือประเภทของข้อมูลที่ใช้ในโปรแกรม Excel 1. ตัวอักษร, รูปภาพ, ฟังก์ชั่น, สูตร 2. ตัวอักษร, ตัวเลข, สูตร, ฟังก์ชั่น 3. ตัวอักษร, ตัวเลข, แผนภูมิ, สูตร 4. ตัวอักษร, คีย์เวิร์ด, ฟังก์ชั่น, สูตร 8. การพิมพ์ตัวอักษรลงในโปรแกรม Microsoft Excel 2013 ตัวอักษรจะอยู่ด้านใดของเซลล์ 1. ชิดซ้าย 2. กึ่งกลาง 3. ชิดขวา 4. ถูกทุกข้อ 9. เมื่อมีการป้อนข้อมูลที่เป็นตัวเลขจะถูกจัดตำแหน่งอย่างไรของเซลล์ 1. จัดชิดซ้ายของเซลล์ 2. จัดกึ่งกลางของเซลล์ 3. ชิดขวาของเซลล์ 4. ตำแหน่งใดก็ได้ 10. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของข้อมูลที่ป้อนลงในโปรแกรม Excel 1. ข้อความ 2. ฟังก์ชั่น 3. เลขโรมัน 4. สูตร 11. ในการจัดรูปแบบตัวเลขถ้ามีเครื่องหมาย #### แสดงในช่องเซลล์แสดงว่าอย่างไร 1. ช่องเซลล์นั้นไม่สามารถแสดงข้อมูลตัวเลขได้ทั้งหมด 2. ไม่มีข้อมูลในช่องเซลล์นั้น 3. ใส่ฟังก์ชันในการคำนวณผิดพลาด 4. ไม่มีข้อใดถูกต้อง 12. ปุ่มในข้อใดต่อไปนี้ ที่ใช้เรียกข้อมูลในเซลล์มาแก้ไข 1. F1 2. F2 3. F3 4. F4 13. การแทรกเซลล์โดยข้อมูลในเซลล์เดิมจะถูกย้ายไปทางขวาจะทำได้ตามข้อใด 1. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่หัวแถวของเซลล์ที่ต้องการแทรก และเลือก แทรก (Insert) เลือกแถวด้านบน 2. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่หัวคอลัมน์ของเซลล์ที่ต้องการแทรก และเลือก แทรก (Insert) เลือก แผ่นงานใหม่ 3. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่เซลล์ที่ต้องการแทรกเลือก "แทรก (Insert)" เมื่อมีกล่องตอบโต้ให้คลิกเลือก "เลื่อนเซลล์ไปทางขวา
     (Shift cells right)" 4. ปฏิบัติได้ทุกข้อ 14. การเลือกช่วงเซลล์ให้เป็นเซลล์ทำงานในโปรแกรม Microsoft Excel อาจเลือกพร้อมกันได้หลายเซลล์โดยไม่ติดกัน ทำได้โดยวิธีใด 1. คลิกที่เซลล์แรก ใช้ปุ่มลูกศรไปยังเซลล์ต่อไป 2. คลิกที่เซลล์แรกกดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วคลิกที่เซลล์ต่อไป 3. คลิกที่เซลล์แรก กดปุ่ม Shift ค้างไว้ แล้วคลิกที่เซลล์ต่อไป 4. คลิกเมาส์ที่ช่องว่างด้านบนแถวที่ 1 กับด้านซ้ายของคอลัมน์ A 15. การปรับความกว้างของคอลัมน์แบบระบุความกว้างของตัวเลขทำได้โดยวิธีใด 1. คลิกขวาที่แถบชื่อคอลัมน์ --> ความกว้างคอลัมน์ --> พิมพ์ตัวเลข 2. คลิกขวาที่เซลล์ใดก็ได้ --> ความกว้างคอลัมน์ --> พิมพ์ตัวเลข 3. คลิกเมนูแก้ไข --> ความกว้างคอลัมน์ --> พิมพ์ตัวเลข 4. คลิกขวาที่แถบรูปแบบ --> ความกว้างคอลัมน์ --> พิมพ์ตัวเลข

เริ่มต้นใช้งานการสร้างสูตรและใช้ฟังก์ชันในตัวเพื่อทำการคำนวณและแก้ไขปัญหา

ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

สิ่งสำคัญ: ผลลัพธ์ที่คํานวณแล้วของสูตรและฟังก์ชันเวิร์กชีต Excel บางอย่างอาจแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างพีซี Windows ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 หรือ x86-64 และพีซี Windows RT ที่ใช้ARMแบบพื้นฐาน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความแตกต่าง

สิ่งสำคัญ: ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึง XLOOKUP และ VLOOKUP ที่คล้ายกัน ลองใช้ฟังก์ชัน XLOOKUP ใหม่ VLOOKUP เวอร์ชันที่ปรับปรุงแล้วซึ่งใช้งานได้ในทุกทิศทางและส่งกลับรายการที่ตรงกันทุกรายการตามค่าเริ่มต้น ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า

สร้างสูตรที่อ้างอิงถึงค่าในเซลล์อื่น

  1. เลือกเซลล์

  2. พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ =

    หมายเหตุ: สูตรใน Excel จะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมายเท่ากับ

  3. เลือกเซลล์หรือพิมพ์ตำแหน่งเซลล์ในเซลล์ที่เลือก

    ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

  4. ใส่ตัวตัวตัว ตัวอย่างเช่น – for การลบ

  5. เลือกเซลล์ถัดไปหรือพิมพ์ตำแหน่งเซลล์ในเซลล์ที่เลือก

    ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

  6. กด Enter ผลลัพธ์ของการคํานวณจะปรากฏในเซลล์ที่มีสูตร

ดูสูตร

  1. เมื่อใส่สูตรในเซลล์แล้ว สูตรจะปรากฏใน แถบสูตร

    ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
  2. เมื่อต้องการดูสูตร ให้เลือกเซลล์ และสูตรจะปรากฏในแถบสูตร

    ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

ใส่สูตรที่มีฟังก์ชันในตัว

  1. เลือกเซลล์ว่าง

  2. พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ = แล้วพิมพ์ฟังก์ชัน ตัวอย่างเช่น =SUM เพื่อยอดขายรวม

  3. พิมพ์เครื่องหมายวงเล็บเปิด (

  4. เลือกช่วงของเซลล์ แล้วพิมพ์วงเล็บปิด )

    ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

  5. กด Enter เพื่อดูผลลัพธ์

ดาวน์โหลดเวิร์กบุ๊กบทช่วยสอนสูตร

เราได้รวบรวมเวิร์กบุ๊ก เริ่มต้นใช้งานสูตร ที่คุณสามารถ ดาวน์โหลดได้ ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์ในการExcel หรือแม้แต่หากคุณมีประสบการณ์การใช้งานบางอย่าง คุณสามารถอ่านเกี่ยวกับสูตรExcelทั่วไปในการสExcelนี้ ด้วยตัวอย่างในโลกแห่งความจริงและภาพที่เป็นประโยชน์ คุณจะสามารถ Sum, Count, Average และ Vlookup แบบมืออาชีพได้

เจาะลึกสูตร

คุณสามารถเรียกดูแต่ละส่วนทางด้านล่างเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับองค์ประกอบสูตรแต่ละอย่างได้

ส่วนต่างๆ ของสูตร Excel

สูตรอาจประกอบด้วยสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือทั้งหมดต่อไปนี้คือ: ฟังก์ชัน, การอ้างอิง, ตัวดำเนินการ และ ค่าคงที่

ส่วนต่างๆ ของสูตร   

ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

1. ฟังก์ชัน: ฟังก์ชัน PI() จะส่งกลับค่าพายเป็น: 3.142...

2. การอ้างอิง: A2 ส่งกลับค่าในเซลล์ A2

3. ค่าคงที่: คือ ตัวเลขหรือค่าที่ใส่ลงในสูตรโดยตรง เช่น 2

4. ตัวดำเนินการ: ตัวดำเนินการ ^ (แคเรท) ทำหน้าที่ในการยกกำลังตัวเลข และตัวดำเนินการ * (เครื่องหมายดอกจัน) ทำหน้าที่ในการคูณตัวเลข

การใช้ค่าคงที่ในสูตร Excel

ค่าคงที่คือค่าที่คํานวณไม่ได้ ซึ่งยังคงเหมือนเดิมเสมอ ตัวอย่างเช่น วันที่ 9/10/2551 ตัวเลข 210 และข้อความ "รายรับรายไตรมาส" คือค่าคงที่ทั้งหมด ค่า นิพจน์ หรือค่าที่เป็นผลลัพธ์จากนิพจน์ไม่ใช่ค่าคงที่ ถ้าคุณใช้ค่าคงที่ในสูตรแทนการอ้างอิงไปยังเซลล์ (ตัวอย่างเช่น =30+70+110) ผลลัพธ์จะเปลี่ยนแปลงต่อเมื่อคุณปรับเปลี่ยนสูตรเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ว การใส่ค่าคงที่ในเซลล์แต่ละเซลล์จะสามารถเปลี่ยนแปลงค่าคงที่ได้อย่างง่ายดายถ้ามีความเป็นที่ต้องการ ให้อ้างอิงเซลล์เหล่านั้นในสูตร

การใช้การอ้างอิงในสูตร Excel

การอ้างอิงจะระบุเซลล์หรือช่วงของเซลล์ในเวิร์กชีต และExcelระบุที่ที่จะค้นหาค่าหรือข้อมูลที่คุณต้องการใช้ในสูตร คุณสามารถใช้การอ้างอิงเพื่อใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในส่วนต่างๆ ของเวิร์กชีตในหนึ่งสูตร หรือใช้ค่าจากเซลล์หนึ่งในหลายๆ สูตรได้ คุณยังสามารถอ้างอิงเซลล์บนแผ่นงานอื่นในเวิร์กบุ๊กเดียวกัน และไปยังเวิร์กบุ๊กอื่นได้ การอ้างอิงไปยังเซลล์ในเวิร์กบุ๊กอื่นจะเรียกว่าลิงก์หรือการอ้างอิงภายนอก

  • สไตล์การอ้างอิง A1

    ตามค่าเริ่มต้น Excel จะใช้สไตล์การอ้างอิงแบบ A1 ที่อ้างอิงถึงคอลัมน์ที่มีตัวอักษร (A ถึง XFD ซึ่งมีทั้งหมด 16,384 คอลัมน์) และอ้างอิงถึงแถวที่มีตัวเลข (1 ถึง 1,048,576) ตัวอักษรและตัวเลขเหล่านี้เรียกว่าส่วนหัวของแถวและคอลัมน์ เมื่อต้องการอ้างถึงเซลล์ ให้ใส่ตัวอักษรของคอลัมน์ตามด้วยหมายเลขแถว ตัวอย่างเช่น B2 อ้างอิงไปยังเซลล์ที่จุดตัดของคอลัมน์ B และแถวที่ 2

    เมื่อต้องการอ้างอิง

    ใช้

    เซลล์ในคอลัมน์ A และแถวที่ 10

    A10

    ช่วงเซลล์ในคอลัมน์ A และแถวที่ 10 ถึง 20

    A10:A20

    ช่วงเซลล์ในแถวที่ 15 และคอลัมน์ B ถึง E

    B15:E15

    เซลล์ทั้งหมดในแถวที่ 5

    5:5

    เซลล์ทั้งหมดในแถวที่ 5 ถึง 10

    5:10

    เซลล์ทั้งหมดในคอลัมน์ H

    H:H

    เซลล์ทั้งหมดในคอลัมน์ H ถึง J

    H:J

    ช่วงเซลล์ในคอลัมน์ A ถึง E และแถวที่ 10 ถึง 20

    A10:E20

  • การทำการอ้างอิงไปยังเซลล์หรือช่วงของเซลล์บนเวิร์กชีตอื่นในเวิร์กบุ๊กเดียวกัน

    ในตัวอย่างต่อไปนี้ ฟังก์ชัน AVERAGE จะคำนวณค่าเฉลี่ยสำหรับช่วง B1:B10 บนเวิร์กชีตที่ตั้งชื่อว่า การตลาด ในเวิร์กบุ๊กเดียวกัน

    ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร

    1. อ้างอิงไปยังเวิร์กชีตชื่อ Marketing

    2. อ้างอิงไปยังช่วงของเซลล์จาก B1 ถึง B10

    3. เครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) จะแยกการอ้างอิงเวิร์กชีตจากการอ้างอิงช่วงของเซลล์

    หมายเหตุ: ถ้าเวิร์กชีตที่อ้างอิงมีช่องว่างหรือตัวเลขอยู่ในชื่อ คุณจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องหมายอัญประกาศเดี่ยวก่อนและหลังชื่อเวิร์กชีต เช่น ='123'!A1 หรือ ='January Revenue'!A1

  • ความแตกต่างระหว่างการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ สัมพันธ์ และแบบผสม

    1. การอ้างอิงสัมพัทธ์    การอ้างอิงเซลล์แบบสัมพัทธ์ในสูตร เช่น A1 จะยึดตามตําแหน่งที่สัมพันธ์กันของเซลล์ที่มีสูตรและเซลล์ที่อ้างอิง ถ้าตําแหน่งของเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสูตร การอ้างอิงนั้นจะถูกเปลี่ยน ถ้าคุณคัดลอกหรือเติมสูตรข้ามแถวหรือคอลัมน์ลง การอ้างอิงจะปรับโดยอัตโนมัติ ตามค่าเริ่มต้น สูตรใหม่จะใช้การอ้างอิงแบบสัมพัทธ์ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคัดลอกหรือเติมการอ้างอิงสัมพัทธ์ในเซลล์ B2 ไปยังเซลล์ B3 การอ้างอิงนั้นจะถูกปรับโดยอัตโนมัติจาก =A1 เป็น =A2

      สูตรที่คัดลอกมาที่มีการอ้างอิงแบบสัมพัทธ์   

      ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
    2. การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์    การอ้างอิงเซลล์แบบสัมบูรณ์ในสูตร เช่น $A$1 จะอ้างถึงเซลล์ในที่ใดที่หนึ่งเสมอ ถ้าตําแหน่งของเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสูตร การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์จะยังคงเหมือนเดิม ถ้าคุณคัดลอกหรือเติมสูตรข้ามแถวหรือคอลัมน์ลง การอ้างอิงแบบสัมบูรณ์จะไม่ปรับ ตามค่าเริ่มต้น สูตรใหม่จะใช้การอ้างอิงแบบสัมพัทธ์ ดังนั้นคุณอาจต้องสลับเป็นการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคัดลอกหรือเติมการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์ในเซลล์ B2 ไปยังเซลล์ B3 การอ้างอิงนั้นจะเหมือนเดิมในทั้งสองเซลล์ เช่น =$A$1

      สูตรที่คัดลอกมาที่มีการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์   

      ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
    3. การอ้างอิงแบบผสม    การอ้างอิงแบบผสมมีคอลัมน์แบบสัมบูรณ์และแถวแบบสัมพัทธ์ หรือแถวแบบสัมบูรณ์และคอลัมน์แบบสัมพัทธ์ การอ้างอิงคอลัมน์แบบสัมบูรณ์$A 1, $B 1 และอื่นๆ การอ้างอิงแถวแบบสัมบูรณ์จะรับฟอร์ม A$1, B$1 และอื่นๆ ถ้าตําแหน่งของเซลล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงสูตร การอ้างอิงแบบสัมพัทธ์จะถูกเปลี่ยน และการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์จะไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าคุณคัดลอกหรือเติมสูตรข้ามแถวหรือลงในคอลัมน์ การอ้างอิงแบบสัมพัทธ์จะปรับโดยอัตโนมัติ และการอ้างอิงแบบสัมบูรณ์จะไม่ปรับ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณคัดลอกหรือเติมการอ้างอิงแบบผสมจากเซลล์ A2 ถึง B3 การอ้างอิงนั้นจะถูกปรับจาก =A$1 เป็น =B$1

      สูตรที่ถูกคัดลอกที่มีการอ้างอิงแบบผสม   

      ข้อมูลใดคือข้อมูลประเภทสูตร
  • สไตล์การอ้างอิงสามมิติ

    การอ้างอิงเวิร์กชีตหลายแผ่นได้อย่างสะดวก    ถ้าคุณต้องการวิเคราะห์ข้อมูลในเซลล์หรือช่วงของเซลล์เดียวกันบนเวิร์กชีตหลายแผ่นภายในเวิร์กบุ๊ก ให้ใช้การอ้างอิง 3D การอ้างอิง 3D ได้แก่ การอ้างอิงเซลล์หรือช่วงซึ่งอยู่ก่อนหน้าด้วยช่วงของชื่อเวิร์กชีต Excelเวิร์กชีตใดๆ ที่เก็บอยู่ระหว่างชื่อเริ่มต้นและสิ้นสุดของการอ้างอิง ตัวอย่างเช่น =SUM(Sheet2:Sheet13! B5) บวกค่าทั้งหมดที่มีอยู่ในเซลล์ B5 บนเวิร์กชีตทั้งหมดระหว่างและรวมถึง Sheet 2 และ Sheet 13

    • คุณสามารถใช้การอ้างอิงสามมิติเพื่ออ้างอิงไปยังเซลล์บนเวิร์กชีตอื่น กำหนดชื่อ และสร้างสูตรโดยใช้ฟังก์ชันต่อไปนี้ ได้แก่ SUM, AVERAGE, AVERAGEA, COUNT, COUNTA, MAX, MAXA, MIN, MINA, PRODUCT, STDEV.P, STDEV.S, STDEVA, STDEVPA, VAR.P, VAR.S, VARA และ VARPA

    • การอ้างอิงสามมิติ ใช้ไม่ได้ในสูตรอาร์เรย์

    • การอ้างอิงสามมิติ ใช้ไม่ได้กับ ตัวดำเนินการอินเตอร์เซกชัน (ช่องว่างเดี่ยว) หรือในสูตรที่ใช้อินเทอร์เซกชันโดยนัย

    สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณย้าย คัดลอก แทรก หรือลบเวิร์กชีต    ตัวอย่างต่อไปนี้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณย้าย คัดลอก แทรก หรือลบเวิร์กชีตที่รวมอยู่ในการอ้างอิงแบบ 3 มิติ ตัวอย่างใช้สูตร =SUM(Sheet2:Sheet6! A2:A5) เมื่อต้องการเพิ่มเซลล์ A2 ถึง A5 บนเวิร์กชีตที่ 2 ถึง 6

    • แทรกหรือคัดลอก    ถ้าคุณแทรกหรือคัดลอกแผ่นงานระหว่าง Sheet2 ถึง Sheet6 (จุดสิ้นสุดในตัวอย่างนี้) Excel จะรวมค่าทั้งหมดในเซลล์ A2 ถึง A5 จากแผ่นงานที่เพิ่มเข้ามาไว้ในการคำนวณด้วย

    • ลบ     ถ้าคุณลบแผ่นงานที่อยู่ระหว่าง Sheet2 ถึง Sheet6 ออก Excel จะเอาค่าจากแผ่นงานเหล่านั้นออกจากการคำนวณ

    • ย้าย    ถ้าคุณย้ายแผ่นงานที่อยู่ระหว่าง Sheet2 ถึง Sheet6 ไปยังตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่นอกช่วงแผ่นงานที่อ้างอิงถึง Excel จะเอาค่าจากแผ่นงานเหล่านั้นออกจากการคำนวณ

    • ย้ายจุดสิ้นสุด    ถ้าคุณย้าย Sheet2 หรือ Sheet6 ไปที่ตำแหน่งที่ตั้งอื่นภายในเวิร์กบุ๊กเดียวกัน Excel จะปรับการคำนวณให้เข้ากับช่วงใหม่ของแผ่นงานที่อยู่ระหว่างแผ่นงานทั้งสอง

    • ลบจุดสิ้นสุด    ถ้าคุณลบ Sheet2 หรือ Sheet6 Excel จะปรับการคำนวณให้เข้ากับช่วงของแผ่นงานที่อยู่ระหว่างแผ่นงานทั้งสอง

  • สไตล์การอ้างอิง R1C1

    คุณยังสามารถใช้สไตล์การอ้างอิงที่ทั้งแถวและคอลัมน์บนเวิร์กชีตจะถูกลออกแบบตัวเลข ลักษณะการอ้างอิงเซลล์แบบ R1C1 มีประโยชน์ในการประมวลผลตําแหน่งแถวและคอลัมน์ในแมโคร ในสไตล์ R1C1 Excelระบุที่ตั้งของเซลล์ที่มี "R" ตามด้วยหมายเลขแถวและ "C" ตามด้วยหมายเลขคอลัมน์

    อ้างอิง

    ความหมาย

    R[-2]C

    การอ้างอิงสัมพัทธ์ ไปยังเซลล์ที่อยู่เหนือขึ้นไปสองแถวและภายในคอลัมน์เดียวกัน

    R[2]C[2]

    การอ้างอิงสัมพัทธ์ไปที่เซลล์สองแถวลงมาและสองคอลัมน์ทางขวา

    R2C2

    การอ้างอิงสัมบูรณ์ไปยังเซลล์ที่อยู่ในแถวที่สองและในคอลัมน์ที่สอง

    R[-1]

    การอ้างอิงสัมพัทธ์ไปที่ทั้งแถวเหนือเซลล์ที่ใช้งานอยู่

    R

    การอ้างอิงสัมบูรณ์ไปที่แถวปัจจุบัน

    เมื่อคุณบันทึกแมโคร Excelบางสั่งโดยใช้สไตล์การอ้างอิงเซลล์แบบ R1C1 ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณบันทึกสั่ง เช่น การคลิกปุ่มAutoSumเพื่อแทรกสูตรที่เพิ่มช่วงของเซลล์ Excel จะบันทึกสูตรโดยใช้สไตล์ R1C1 ไม่ใช่สไตล์การอ้างอิงแบบ A1

    คุณสามารถเปิดหรือปิดสไตล์การอ้างอิงเซลล์แบบ R1C1 ได้ด้วยการตั้งค่าหรือล้างกล่องกาเครื่องหมาย สไตล์การอ้างอิง เซลล์แบบ R1C1 ภายใต้ ส่วน การใช้งานได้กับสูตร ในประเภท สูตร ของ กล่องโต้ตอบ ตัวเลือก เมื่อต้องการแสดงกล่องโต้ตอบนี้ ให้คลิกแท็บ ไฟล์

    ข้อมูลประเภทขอความคืออะไร

    6. ข้อมูลชนิดข้อความ (String) เป็นข้อมูลแบบตัวอักษรที่มีความยาวมากกว่า 1 ตัวอักษร มาเรียงต่อกันเป็นข้อความ โดยที่ข้อความนั้นจะต้องถูกเขียนไว้ในเครื่องหมาย " " (Double Quote) ตัวอย่างเช่น "Phitsanulok", "Welcome" เป็นต้น

    ข้อมูลชนิดใดที่สามารถนำไปคำนวณได้

    4. ข้อมูลประเภทเวลา (Time) หมายถึงข้อมูลที่ประกอบด้วยชั่วโมงและนาที โดยมีเครื่องหมาย : ข้อมูลชนิดนี้สามารถนำไปคำนวณได้

    ข้อใดคือข้อมูลประเภทอักขระ

    2) ข้อมูลที่เป็นตัวอักขระ (Character Data) หมายถึง ข้อมูลที่ ไม่สามารถนำ ไปคำนวณได้ แต่อาจนำไปเรียงลำดับได้ เช่น การเรียงลำดับตัวอักษร ข้อมูลอาจเป็นตัวหนังสือ ตัวเลข หรือเครื่องหมายใด ๆ เช่น COMPUTER, ON-LINE, 1711101,&76. ประเภทของข้อมูล

    สูตรเอ็กเซลหมายถึงอะไร

    Formula หรือ สูตร คือการสั่งให้ Excel คำนวณค่า โดยระบุความสัมพันธ์ระหว่าง Input และ Output. สิ่งที่เราใส่ลงไปในสูตร เรียกว่า Input ของสูตร โดยที่จะต้องใส่อยู่หลังเครื่องหมาย = เสมอ Excel จะแสดงผลลัพธ์ของการคำนวณออกมาให้เห็นใน Cell เลย เรียกว่า Output ของสูตร