ลองหมั่นใช้วิธีการเหล่านี้ทำความสะอาดบ้านของคุณอยู่เป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย จะทำให้คุณไม่อยากเห็นบ้านกลับมารกอีกเลยล่ะ แต่หลังจากที่คุณทำเป็นนิสัยแล้ว ก็อย่าลืมแบ่งปันคนในบ้านด้วยนะคะ บ้านจะสะอาดได้เพราะคนในบ้านช่วยกันดูแล ถ้าคนนึงทำความสะอาดอีกคนทำสกปรก บ้านก็คงไม่สะอาดสักที มาทำให้บ้านเราสะอาดน่าอยู่ด้วยการช่วยกันคนละไม้ละมือดีกว่าเนอะ Show
บ้าน คือที่ที่เราอยู่อาศัย ใช้เวลาสำหรับการพักผ่อน ดังนั้นเพื่อให้บ้าน ของเรามีสภาพดี แข็งแรงน่าอยู่ไม่ดูทรุดโทรมลงเร็วจึงต้องมี การบำรุงรักษาบ้าน อยู่สม่ำเสมอ วันนี้เราจึงมี วิธีการดูแลรักษาบ้านแบบง่าย ๆ 1. การทำบ้านให้น่าอยู่บ้านเป็นสถานที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่อาศัยพักผ่อนนอนหลับให้ความปลอดภัยความสบายกาย และความสบายใจแก่สมาชิกทุกคนในครอบครัว บ้านแต่ละหลังมีรูปแบบการสร้างที่แตกต่างกันด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ลักษณะของบ้านจะเป็นเช่นไร สมาชิกในบ้านก็สามารถทำให้บ้านน่าอยู่น่าอาศัยได้ด้วยการเอาใจใส่ดูแลรักษาทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านให้มีสภาพเรียบร้อย จนเป็นที่สะดุดตาก็สามารถดึงดูดความสนใจให้สมาชิกในครอบครัวไดอยู่อาศัยอย่างมีความสุขมากกว่าบ้านที่ขาดการรักษาความสะอาด หลักในการทำความสะอาดบ้านให้น่าอยู่1.1 การทำความสะอาด ความสะอาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านน่าอยู่ การทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ดถูเป็นประจำทำให้เครื่องเรือนเครื่องใช้ปราศจากความสกปรกแม้แต่บริเวณบ้าน รั้ว สนาม ทางเดินเข้าบ้านสะอาดร่มรื่นปราศจากขยะมูลฝอยต่าง ๆ 1.2 การสร้างความสะดวกสบาย จัดแบ่งพื้นที่บริเวณบ้านให้เกิดการใช้สอยที่เป็นสัดส่วน เดินไปมาสะดวกและมีแสงแดดส่องถึงระบายอากาศได้ดีมีการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกไว้อย่างเหมาะสมสะดวกในการหยิบใช้ และการทำกิจกรรมต่าง ๆ 1.3 การตกแต่งให้สวยงาม นอกจากการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ให้เหมาะสมดังที่กล่าวในข้อที่ผ่านมา การจัดตกแต่งให้เป็นระเบียบไม่เกะกะ การจัดวางสิ่งของให้เกิดความสมดุล การใช้สี การตกแต่งผ้าม่าน เพื่อให้ดูสบายตาก็สามารถทำให้บ้านสวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้น 1.4 การจัดบ้านให้เกิดความปลอดภัย การจัดบ้านให้มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่าง ๆ เช่น มีลูกกรงที่ระเบียงกันพลัดตกบันไดให้แข็งแรง เก็บยาสารเคมีให้พ้นจากมือเด็ก ทำความสะอาดบ้าน บริเวณบ้านให้ปราศจากตะไคร่จับทำให้ลื่นในขณะทำกิจกรรม ปลูกบ้านห่างไกลจากสิ่งปฏิกูล และแหล่งแพร่เชื้อโรคหรือมีวิธีการป้องกันที่ถูกต้องเหมาะสม ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี้ยงได้ 2.การวางแผนใช้ทรัพยากรในการทำความสะอาดทรัพยากรในการทำความสะอาดที่มีอยู่ภายในบ้าน ควรคำนึงถึงการวางแผนการทำ ความสะอาดทั้งภายในและภายนอกบ้าน มีดังนี้ 2.1 เวลาที่จะใช้ในการทำความสะอาด 2.2 แรงงานที่จะใช้ในการทำความสะอาด 2.3 วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือที่จะใช้ในการทำความสะอาด การทำความสะอาดทั้งภายในบ้านและบริเวณภายนอกตัวบ้าน จะมีประสิทธิภาพสูงสุด ก็ต่อเมื่อผู้ทำความสะอาดได้วางแผนการทำงานอย่างรอบคอบและรัดกุม ลงมือทำงานตามแผนที่วางไว้ ตรวจสอบการทำงานและประเมินผลการทำงานในทุก ๆ งานที่ได้ทำไป ว่าได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่ เพื่อจะได้พิจารณาปรับปรุงทั้งการวางแผนการทำความสะอาดและวิธีการทำงานในคราวต่อไป การวางแผนในการใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดคือ การใช้เวลา แรงงานและวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดความสูญเสียทรัพยากรทั้งสามประการที่ไม่จำเป็นลงได้ 3.การเลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำความสะอาดบ้านอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เรานำมาใช้ในการทำความสะอาดบ้าน ทั้งภายในตัวบ้าน และบริเวณภายนอกตัวบ้านนั้น สามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้ 3.1 อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการปัดกวาด ได้แก่ – ไม้กวาดดอกหญ้า – ไม้กวาดทางมะพร้าว – ไม้กวาดด้ามยาวหรือไม้กวาดเสี้ยนตาล – ไม้กวาดขนไก่ – ไม้กวาดไม้ไผ่ – เครื่องดูดฝุ่น 3.2 อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการเช็ด ขัดและถู – ผ้าสำหรับเช็ดถู – ฟองน้ำ – แผ่นขัด – แปรงพลาสติก – แปรงกาบมะพร้าว – ไม้ถูพื้นธรรมดา – ไม้ถูพื้นชนิดซักและบิดในตัว วิธีดูแลรักษาบ้านให้แข็งแรงทนทาน และน่าอยู่ ปลอดภัยบ้านคือที่ที่เราอยู่อาศัย ใช้เวลาสำหรับการพักผ่อน ดังนั้นเพื่อให้บ้านของเรามีสภาพดี แข็งแรงน่าอยู่ไม่ดูทรุดโทรมลงเร็วจึงต้องมีการบำรุงรักษาบ้านอยู่สม่ำเสมอ ดังนั่น Poolprop มีวิธีดูแลบ้านมีมีสภาพดีน่าอยู่มากฝากเจ้าของบ้านเพื่อนำกลับไปดูแลบ้านของคุณให้น่าอยู่ตลอดไป 1.ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาบ้าน เนื่องจากหากมีการรั่วซึมของหลังคาจะให้ให้เกิดคราบเลอะ เป็นรอยตะไคร่น้ำตามเพดานฝ้าทำให้ได้รับความเสียหาย ดูไม่น่ามอง และยังอาจทำให้ข้าวของภายในบ้านเปียกอีกด้วย ต้องรีบแก้ไข ปูกระเบื้องมุงหลังคาที่แต่แตก และเปลี่ยนฝ้าใหม่ 2.พื้นกระเบื้องไม่ควรปล่อยให้มีน้ำขัง พื้นหากมีน้ำขังปล่อยไว้อาจจะมีตะไคร่มาจับ ทำให้ลื่นหกล้มได้ง่าย ดังนั้นควรขัด เช็ดน้ำให้แห้ง 3.ไม่ควรทิ้งขยะลงไปในท่อ เพราะจะทำให้อุดตันได้ ไม่ควรทิ้งขยะลงในท่อระบายน้ำ เพราะอาจทำให้ท่ออุดตันจนไม่สามารถระบายน้ำได้ ต้องเสียเวลา ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอีกด้วย ควรทิ้งในถุงขยะที่จัดเตรียมไว้ 4.ดูแลสวน และต้นไม้ไม่ให้รก ควรดูแลต้นไม้ ตัดหญ้า ตัดกิ่งที่ขึ้นมารกให้ดูเป็นระเบียบ หากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์มีพิษพวก งู ตะขาบ และควรรดน้ำต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้งามให้ร่มเงาไม่แห้งเหี่ยวและตายไป 5.หมั่นเช็คสภาพระบบไฟฟ้าปลั๊ก สายไฟว่ามีรอยชำรุดเสียหายหรือไม่ ควรสังเกตตรวจสอบสายไฟ ปลั๊กไฟ หลอดไฟ หากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยของสมาชิกภายในบ้านไม่ให้เกิดอันตรายจาก ไฟฟ้ารัดวงจร ไฟช็อต ไฟรั่ว หรืออาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ 6. หมั่นทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูบ้านอยู่เสมอ บ้านที่สะอาดย่อมทำให้บ้านน่าอยู่ เจริญหูเจริญตา มองแล้วอารมณ์ดี ป้องกันฝุ่นหรือเชื้อโรคเพื่อสุขภาพที่ดีของเราอีกด้วย ทำความสะอาดรีโมท ที่จับประตู ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจาน โทรศัพท์ เมาส์ คีย์บอร์ด ตู้เย็น อ่างล้างจาน พรมปูพื้น เปลี่ยนเครื่องนอน ซัก หรือนำไปแตกแดดเสมอเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย 7. เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านที่มีคุณภาพ เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านที่มีคุณภาพ สภาพดีพร้อมใช้ อุปกรณ์ไม้ถูพื้น ไม้กวาด ผ้าเช็ดทำความสะอาด ถังขยะ ที่ตักผง ที่ปัดฝุ่น เครื่องดูดฝุ่น น้ำยาถูพื้นควรมียาฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย น้ำยาเช็ดกระจก นำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น เมื่อเรามีอุปกรณ์ดีครบถ้วนจะทำให้เราอยากทำความสะอาด และทำความสะอาดดูแลบ้านได้อย่างดีมีคุณภาพอีกด้วย 8.หมั่นดูแลสี ความเสียหายของบ้านเพื่อซ่อมแซมปรับปรุงอยู่เสมอ หมั่นตรวจสอบตัวบ้าน เมื่อพบว่าสีผนังอาคารเกิดฝุ่นคล้ายแป้ง แสดงให้เห็นว่าสีเริ่มเกิดการเสื่อมสภาพ รอยร้าว สีลอก ทำรัง ควรให้ช่างดูแลซ่อมแซมอุดรอย ทาสี ขัดเงา ทาเคลือบป้องกันปลวกให้เรียบร้อยเพื่อให้บ้านคงสภาพดีดังเดิม 9.บ้านที่มีถังบำบัดสำเร็จรูปใต้ดินควรสูบตะกอนทุก 2 ปี ถังบำบัดสำเร็จรูปใต้ดินนั้นควรสูบตะกอนออกทุกๆ 2 ปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และรักษามาตรฐานการใช้งานถังบำบัดนั้น และควรเติม จุลินทรีย์ธรรมชาติ หรือ ผงจุลินทรีย์ผสมน้ำ ลงในถังทุกๆ เดือนเพื่อให้แบคทีเรียย่อยสลายเองด้วย 10.บ้านที่มีถังสำรองน้ำกักเก็บน้ำไว้ใช้ควรตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำ ควรตรวจสอบรอยรั่วซึมของน้ำว่ามีดินเปียกหรือผนังเปียกที่เกิดจากการรั่วซึ่มของน่ำ ทุกๆ 2 ปี รวมถึงการตรวจสอบตะไคร้น้ำข้างถังทุกๆ ปี หรือสังเกตปั้มน้ำทำงานตอนไม่ได้ใช้น่ำหรือไม่หากทำงานอาจเกิดจากมีน้ำรั่ว 11.ตรวจสอบพื้นคอนกรีต เช่นพื้นโรงรถ พื้นลานซักล้าง พื้นทางเท้า พื้นคอนกรีตนั้นควรตรวจสอบทุกๆ ปี เพราะโดยธรรมชาตินั้น ดินจะเกิดการทรุดตัว ทำให้พื้นคอนกรีตทรุดเกิดรอยร้าวหรือแตกเป็นเศษเล็กๆ หรือเป็นหลุมทำให้เกิดความเสียหายควรทำการซ่อมแซม 12.มีระบบการป้องกันบ้านจากปลวก ควรมีการตรวจสอบปลวกทุกๆ 4 เดือนหากพบปัญหาปลวกขึ้นบ้านให้รีบแจ้งบริษัทที่รับกำจัดปลวกฉีดยาป้องกันปลวกและให้รับประกันปลวกขึ้นบ้านด้วย พอหมดประกันก็ให้มาตรวจดีอีกครั้งเพื่อต่อประกันปลวกขึ้นบ้าน เพราะปลวกขึ้นบ้านทำให้บ้านได้รับความเสียหายโดยเฉพาะเสาบ้าน คานซึ่งเป็นที่เสริมความแข็งแรงของบ้านต้องหมั่นดูแลให้ดีอยู่เสมอ ข้อใดเป็นขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านที่ถูกต้อง1. วางแผน ... . 2. ทำความสะอาด ทีละขั้นตอน ... . 3. เตรียมอุปกรณ์ ทำความสะอาด ให้พร้อม ... . 4. เคลียร์พื้นที่ ... . 5. กำจัดฝุ่น ... . 6. ทำความสะอาด พื้น. ขั้นตอนการทำความสะอาดมีอะไรบ้างแผนงานและขั้นตอนการทำความสะอาด. 1. การปัดกวาดและดูดฝุ่น ... . 2. การถูด้วยม็อบ ... . 3. การทำความสะอาดพื้นหินขัด พื้นกระเบื้องยาง ... . 4. การทำความสะอาดพื้นโมเสด พื้นกระเบื้องเคลือบ ... . 5. การทำความสะอาดกระจกและกรอบอลูมิเนียม ม่าน และฉากกั้นห้องและหน้ากากเครื่องปรับอากาศ ... . 6. การทำความสะอาดพรม. ข้อใดเป็นการดูแลรักษาบริเวณบ้านที่เหมาะสมวิธีดูแลรักษาบ้านให้แข็งแรงทนทาน และน่าอยู่ ปลอดภัย. 1.ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาบ้าน ... . 2.พื้นกระเบื้องไม่ควรปล่อยให้มีน้ำขัง ... . 3.ไม่ควรทิ้งขยะลงไปในท่อ เพราะจะทำให้อุดตันได้ ... . 4.ดูแลสวน และต้นไม้ไม่ให้รก ... . 5.หมั่นเช็คสภาพระบบไฟฟ้าปลั๊ก สายไฟว่ามีรอยชำรุดเสียหายหรือไม่ ... . 6. หมั่นทำความสะอาดปัดกวาดเช็ดถูบ้านอยู่เสมอ. |