สิทธิประกันสังคม เป็นกองทุนที่ให้หลักประกันแก่ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมให้ได้รับประโยชน์ทดแทน เมื่อประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรือตาย ซึ่งไม่เกิดจากการทำงาน รวมทั้งกรณีคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน วันนี้ trueID news จะพาไปแนะนำให้รู้จักกับสิทธิประโยชน์ต่างๆที่จะได้รับจากประกันสังคมว่าจะมีอะไรบ้าง สิทธิประกันสังคม ที่ผู้ประกันตนจะได้รับมีอะไรบ้างสำหรับสิทธิประกันสังคม ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันแล้วแต่กรณี ในที่นี้จะขอพูดถึงเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคมก่อน
เงื่อนไข : ต้องจ่ายสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ในกรณีเจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในกรณีที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอื่นโดยที่ได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน สามารถเบิกคืนจากสำนักงานประกันสังคมในอัตราที่กำหนดดังนี้ เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ การรักษาทั้งอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย สามารถเข้ารับการรักษาได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในกรณีเป็นผู้ป่วยนอก เบิกได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น และในกรณีเป็นผู้ป่วยใน เบิกได้ตามที่จ่ายจริง ยกเว้น ค่าห้องและค่าอาหาร เบิกได้ไม่เกินวันละ 700 บาท
เงื่อนไข : ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ 13,000 บาทต่อการคลอดบุตร 1 ครั้ง (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
เงื่อนไข : ต้องจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3 เดือน รับเงินทดแทนขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิตในกรณีทุพพลภาพร้ายแรง หากไม่ร้ายแรงจะได้รับตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาตามที่ประกาศฯกำหนด
เงื่อนไข : สาเหตุการเสียชีวิตต้องไม่เกิดจากการทำงาน และจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 1 เดือนขึ้นไป ผู้จัดการศพสามารถขอค่าทำศพได้ 40,000 บาท
เงื่อนไข : ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39 และจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาท ตั้งแต่บุตรอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์
แยกเป็น 2 กรณีดังนี้
เงื่อนไข: ต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน (ไม่จำเป็นต้องจ่าย 180 เดือนติดต่อกัน) ถ้าจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
เงื่อนไข : จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน ถ้าจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า
12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ
เงื่อนไข: จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือนขึ้นไป ในกรณีที่ถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วันในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย ซึ่งค่าจ้างเฉลี่ยสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ล่าสุด กรณีนายจ้างแจ้งสาเหตุการออกจากงานว่ามีความผิดตามระเบียบของบริษัทฯทําให้ผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าชดเชยการออกจากงาน และประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน โดยขั้นตอนการขอรับผู้ประตนต้องร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตรวจแรงงาน หรือนําคดีสู่ศาลแรงงาน ทําให้ผู้ประกันตนที่ถูกออกจากงานดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนขณะว่างงาน ต่อมานายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสํานักงานประกันสังคม ได้สั่งการให้เร่งดําเนินการแก้ไขประกาศสํานักงานประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน พ.ศ. 2554 (ฉบับที่ 3) และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 ทําให้ขั้นตอนการจ่ายเงินกรณีว่างงานให้ผู้ประกันตนอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอคําพิพากษา ของศาลแรงงาน เพื่อเยียวยาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนที่ขาดรายได้จากการว่างงาน ทั้งนี้ สํานักงาน ประกันสังคม โดยสํานักสิทธิประโยชน์ ได้ออกหนังสือกําชับให้สํานักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ดําเนินการ พิจารณาวินิจฉัยเงินกรณีว่างงานกรณีดังกล่าว โดยเร่งด่วนและครบถ้วน โดยชดเชยเงินกรณีว่างงานทั้งสิ้นจํานวน 200 วัน ในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้างตามกฎหมาย ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม ========== เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ |