สิ่งที่ไม่ควร ทํา บนโต๊ะอาหาร

สำหรับผู้ชายอย่างเรา บ่อยครั้งที่เราต้องไปออกงานสังคม ไม่ว่าจะงานเลี้ยง ดินเนอร์กับสาวคนพิเศษ หรือทานอาหารกับเจ้านาย ญาติผู้ใหญ่ ไปจนถึงการเจรจารธุรกิจต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้ที่จึงต้องร่วมโต๊ะอาหารกัน เเละในการทานอาหารในสถานที่ที่เป็นทางการนั้น มารยาทบนโต๊ะอาหาร จึงเป็นสิ่งสำคัญ พอ ๆ กับการเเต่งกาย ที่ช่วยสร้างความประทับใจ ทำให้เราดูมีเสน่ห์เเละรู้จักกาละเทศะ เพราะในการทานอาหารโดยเฉพาะในงานสังคม หรือร้านอาหารดินเนอร์นั้น การใช้วิธีเเบบที่เราคุ้นเคยอาจจะกลายเป็นความไม่สุภาพหรือไม่เคารพสถานที่เอาได้

MenDetails จึงรวบรวม มารยาทบนโต๊ะอาหาร สากล ที่ผู้ชายควรรู้ เพื่อให้การร่วมโต๊ะอาหารครั้งหน้า เราจะได้ปฏิบัติได้ถูกต้องโดยไม่มีเคอะเขินครับ เเละที่สำคัญ ยังสามารถนำไปใช้ที่ไหนก็ได้ทุกที่ในโลกอีกด้วย

คำเชิญก่อนงานเลี้ยง

งานเลี้ยงบางประเภท โดยเฉพาะงานประเภท Sit down dinner หรืองานที่มีพิธีการมาก ๆ นั้น มักจะมีคำเชิญจากเจ้าภาพมาก่อน ในรูปของบัตร R.S.V.P. ซึ่งย่อมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “répondez s’il vous plaît” หรือเเปลเป็นไทยว่า “กรุณาตอบกลับ”

หากได้รับบัตรเชิญประเภทนี้ เราต้องเเจ้งเจ้าภาพเลยว่า ไป หรือ ไม่ไป ในบางงานบัตรเชิญอาจจะระบุถึงครอบครัว คนรู้ใจ หรือลูกด้วย ถ้าหากมีการระบุถึง เเสดงว่าเจ้าภาพเชิญพวกเขาด้วย เเต่หากระบุถึงเราคนเดียว ก็ควรไปคนเดียวดีกว่า รวมถึงเเจ้งอาหารที่เราเเพ้ หรือรับประทานไม่ได้ไปด้วย เพื่อที่เจ้าภาพจะได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้ได้

โดยปกติ ควรเเจ้งเจ้าภาพภายใน 24 ชั่วโมง เเต่หากไม่สะดวก หรือมีเหตุฉุกเฉิน ก็ควรไม่ให้เกิน 72 ชั่วโมงครับ เเละหากเเจ้งไปว่าไม่ไปเเล้ว เปลี่ยนใจจะไปทีหลัง ก็จะเป็นการเสียมารยาทหากมาถามเจ้าภาพว่ายังมีที่ว่างเหลืออยู่หรือไม่ ดังนั้นควรตัดสินใจให้เรียบร้อยว่า จะไป หรือไม่ไป

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในปัจจุบัน ไม่ค่อยมีการใช้บัตร R.S.V.P. มากนัก เพราะการสื่อสารที่สะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ในงานส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็นการบอกกันปากเปล่า หรือส่งข้อความมาทางโลกออนไลน์เสียมากกว่า เเต่ถึงจะไม่มีบัตร R.S.V.P. มารยาทในการตอบรับคำเชิญก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นครับ

ก่อนเริ่มทานอาหาร

ในการร่วมมื้ออาหารนั้น ทุกอย่างเริ่มขึ้นตั้งเเต่เราเดินเข้าไปในงานครับ เเต่เเม้มารยาทบนโต๊ะอาหารจะสำคัญ การเเต่งกายก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยส่งเสริมกันไป ดังนั้นเราต้องรู้ก่อนว่าเรากำลังจะไปงานประเภทไหน เเละเจอกับใคร เพื่อให้สามารถเเต่งตัวได้ถูกต้องครับ เช่น หากเป็นงานเลี้ยง หรืองานเเบบ sit down dinner เเละงานทางการต่าง ๆ ก็ควรใส่สูท ให้สุภาพ เเต่หากเป็นการทานอาหารบ้านเพื่อน หรือคนรู้จัก ก็อาจจะเป็นกันเองขึ้นมาได้อีกสักหน่อย

นอกจากการเเต่งกายเเล้ว การมีของขวัญติดมือไปมอบให้กับเจ้าภาพก็เป็นสิ่งสำคัญครับ อาจจะเป็นดอกไม้ เหล้าหรือไวน์สักขวด หรือของพิเศษอื่น ๆ ที่เจ้าภาพชื่นชอบ เเต่ของดังกล่าวนั้น จะไม่มีการเอามาใช้ในงานนั้นเด็ดขาด

เเต่หากเรามีเครื่องดื่ม หรือ ของที่อยากให้ทุกคนได้รับประทานในงานจริง ๆ ควรนำมาเเยกต่างหาก เเละให้เเจ้งเจ้าภาพเสียก่อนครับ เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้จัดงาน เเละให้เจ้าภาพสามารถตระเตรียมอาหารที่เข้ากับของที่เรานำไปได้ครับ

เมื่อเราไปถึงสถานที่จัดงาน ควรรอให้เจ้าภาพหรือบริกร พาเราไปยังที่นั่งที่จัดไว้ให้ หรือนั่งตามป้ายชื่อ ไม่ควรสลับที่นั่งกันเอง เพราะเจ้าภาพที่จัดที่นั่งที่เหมาะกับเราที่สุดไว้ให้เเล้ว เเละตามมารยาท ควรรอเจ้าภาพเชิญนั่งก่อน จึงค่อยนั่ง เเละสิ่งที่ต้องจำคือ ไม่ควร ลากเก้าอี้ให้เกิดเสียง เเต่ใช้วิธีการยกเก้าอี้เเทน

หากคนที่นั่งข้างเรา หรือคู่ทานข้าวเป็นผู้หญิง เราควรเเสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยการเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งก่อน หรือหากเป็นผู้สูงอายุ เราสามารถช่วยประคองได้ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความประทับใจต่อเรามากขึ้น

เมื่อนั่งเรียบร้อยเเล้ว…

หลังจากที่เจ้าภาพเชิญเรานั่งเรียบร้อย เราจะเห็นผ้าเช็ดปากที่พับอย่างปราณีตวางอยู่บนจาน เราสามารถหยิบผ้าเช็ดปากมาวางไว้บนตักได้เลย เพื่อเวลาทานเเล้วกันอาหารหกใส่เลอะเสื้อผ้า เเละเวลาเช็ดปากจะได้สามารถเอาขึ้นมาใช้ได้ง่าย

เมื่อนั่งเเล้ว เราอาจจะเห็นชุดจานชาม ช้อนส้อม เยอะเเยะมากมาย เเต่เราขอเเนะนำว่า อย่าขยับช้อมส้อม จากตำเเหน่งของมันจะดีกว่า เพราะช้อมส้อมที่วางอยู่มากมายนั้น ถูกจัดวางมาตามลำดับของอาหารที่จะเสิร์ฟเเล้ว เเละอีกสิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจ คือ เเก้วน้ำ เเก้วไวน์ต่าง ๆ จะอยู่ขวามือ ระวังอย่าจำผิด เพราะถ้าผิด จะผิดกันทั้งโต๊ะ

ระหว่างรออาหารเสิร์ฟ เป็นปกติที่จะเกิดบทสนทนาขึ้น เราอาจจะพูดคุยกันเพลินจนลืมตัว เเต่ตามมารยาทเเล้ว ไม่ควร วางข้อศอก หรือเท้าเเขน บนโต๊ะ เราสามารถวางมือบนโต๊ะ ตรงตัก หรือจะใช้มือประกอบการสนทนาก็ได้ ไม่ว่ากัน เเละควรนั่งตัวตรง เลื่อนเก้าอี้ให้ติดโต๊ะสักนิด เวลาทานอาหารจะได้ไม่โน้มตัวมาก เเต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับระดับความเป็นทางการของงานครับ

ในบางครั้ง ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ จะมีขนมปังกับเนยมาให้ทานก่อน เราสามารถกินได้เลย เเละขอใหม่ได้เรื่อย ๆ หากขนมปังเสิร์ฟมาเป็นตะกร้า ต้องรอให้ส่งตะกร้ามาถึงเราก่อน เนยก็เช่นกัน หากไม่มีเเยกให้ ต้องรอเนยส่งมาถึงก่อน ให้ใช้มีดตักเนยวางในจานขนมปัง เวลาทาน วิธีกินที่ถูกต้องจริง ๆ คือ ให้บิขนมปังเป็นคำ ๆ เเล้วทาเนยลงไปครับ

ระหว่างรับประทานอาหาร

เมื่ออาหารเริ่มเสิร์ฟ เเม้ว่าคุณจะหิว หรืออาหารจะน่ากินมากเพียงใด ควรรอให้ทุกคนได้รับอาหารครบเสียก่อน ในบางครั้งก็ต้องรอเจ้าภาพเอ่ยปากเชิญรับประทานเสียก่อนด้วยครับ มันคงจะดูไม่ดี หากคนอื่นที่ยังไม่ได้รับอาหารต้องดูคนอื่น ๆ กินก่อน

หากเป็นงานที่เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส เวลาใช้ช้อน ส้อม มีด ให้เริ่มจากอันที่วางอยู่ด้านนอกสุดก่อน เเล้วค่อยไล่มาด้านใน นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเราไม่ควรไปยุ่งกับช้อมส้อมที่จัดวางมาเเล้วครับ

สำหรับซุป หากมีเสิร์ฟ โดยปกติเเล้ว มารยาทบนโต๊ะอาหารสากล จะใช้ช้อนตักออกจากตัว เเละเวลากิน จะไม่เอาช้อนเข้าปากทั้งช้อน เเต่จะทานจากข้างช้อนเเทน อาจจะเป็นสิ่งที่คนไทยไม่คุ้นเคยนัก จะมักพลาดบ่อย ๆ เเต่หากถ้วยซุปเเบบมีหูจับ สามารถยกขึ้นกินได้เลย

เเละหากรับประทานอาหารที่เป็นคอร์ส ให้จำว่าเราไม่สามารถขออาหารเพิ่มได้ เพราะในคอร์สนั้น ๆ ทางเจ้าภาพได้จัดอาหารต่าง ๆ ที่จะให้เราเอาไว้เเล้ว เเต่ถ้าหากเป็นงานเลี้ยงที่เป็นกันเอง หรืองานที่สามารถเติมอาหารได้ หากเจ้าภาพถามว่าจะรับอาหารเพิ่มไหม หากอยากกินอีก ก็สามารถขอเพิ่มได้ครับ โดยเฉพาะหากในงานนั้นเจ้าภาพเป็นคนทำอาหารเอง เขาจะยิ่งดีใจเมื่อรู้ว่าเเขกของตนชอบอาหารที่กิน

ในบางครั้ง งานที่เราไป อาจไม่ได้จัดอาหารไว้เป็นคอร์ส เเต่จะมีจานกลางบนโต๊ะ เเล้วให้ตักใส่จานของเราได้ตามชอบ หากเป็นงานลักษณะนี้ เป็นธรรมดาที่จะมีทั้งอาหารที่เราชอบ เเละไม่ชอบ เเต่ตามมารยาทเเล้ว เเม้จะเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ เเต่ก็ควรกินบ้าง เพื่อรักษาน้ำใจเจ้าภาพ หรือหากมีคนเชิญให้ลอง ก็ควรตักมาเล็กน้อยครับ

เเละสำหรับของหวาน หากไม่มีการให้อุปกรณ์ในการรับประทานมาด้วย ให้สังเกต ช้อน ส้อม เล็ก ๆ ที่วางอยู่ด้านหน้าของจานเรา เพราะนั่นคือของที่ใช้ในการรับประทานของหวานครับ

จังหวะเเละลักษณะการกิน สำคัญมากในการร่วมมื้ออาหาร

เนื่องจากการร่วมมื้ออาหารเป็นกิจกรรมทางสังคมรูปเเบบหนึ่ง ดังนั้นจังหวะของการกินจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะในงานที่เป็นทางการมาก ๆ เราไม่ควรกินเร็ว หรือ ช้า มากจนเกินไป ให้พยายามดูเจ้าภาพเเละคนอื่น ๆ ว่าจังหวะการกินเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รับประทานอาหารให้หมดในเวลาไล่เลี่ยกัน

นอกจากจังหวะเเล้ว อาหารเเต่ละคำที่กิน ก็ไม่ควรจะเป็นคำใหญ่เกินไป ควรหั่นอาหาร หรือตักเข้าปากให้พอดีคำครับ

เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่สำคัญที่สุดในระหว่างรับประทานอาหาร ไม่ว่าในโอกาสใดก็ตาม คือไม่กินอย่างมูมมาม ไม่พูดคุยขณะที่มีอาหารอยู่ในปาก เเละไม่เคี้ยวเสียงดัง เพราะสามอย่างนี้ ไม่ถือว่าเป็น มารยาทบนโต๊ะอาหาร ที่ดี ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม

ข้อควรระวังสำหรับคนไทย

สำหรับคนไทย การกระทำเหล่านี้ อาจจะดูเป็นเรื่องปกติ เเต่หากเป็นมารยาทบนโต๊ะอาหารสากลออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย นั่นคือการเเลกอาหาร หรือเเบ่งอาหารในจานตัวเองให้คนอื่นบนโต๊ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่า เจ้าภาพนั้นจัดอาหารมาให้เเต่ละคนพอดีเเล้ว การเเลกของกินกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จึงค่อนข้างเสียมารยาท รวมไปถึงการเติมเครื่องปรุงลงไปในอาหาร โดยที่ยังไม่ได้ชิม เพราะถือว่าเป็นการดูถูกอาหาร ว่าที่ปรุงมานั้นรสชาติไม่พอดี

หากต้องการสิ่งที่อยู่ไกลจากเรา

ในมื้ออาหารที่ไม่ได้เสิร์ฟเป็นคอร์ส บางครั้งเราอาจอยากตักอาหารอะไรสักอย่างเพิ่ม เเต่มันช่างวางอยู่ไกลเสียเหลือเกิน ในกรณีนี้ เราไม่ควรเดินไปหยิบจากเหล่านั้นมาเองครับ เเต่ให้เอ่ยปากขอให้คนอื่น ๆ ช่วย “ส่งต่อ” อาหารจานนั้นมาให้คุณเเทน หรือในบางสถานการณ์ คุณอาจเป็นผู้ที่ถูกเอ่ยขอเเทนก็ได้

เมื่อเอ่ยขอเเล้ว คนที่อยู่อาหารจานนั้นที่สุด จะเป็นคนหยิบเเล้วส่งต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงคุณ หรือผู้ถูกขอ คนขอไม่เดินไปหยิบอาหารจานนั้นมาเอง เเละผู้ถูกขอก็ไม่หยิบอาหารจานนั้นเดินไปส่งให้เช่นกัน

เมื่อต้องลุกจากโต๊ะไปชั่วคราว

หากเราจะลุกไปทำธุระ รับโทรศัพท์ หรือเข้าห้องน้ำ ในระหว่างมื้ออาหาร หากเป็นในงานเลี้ยง หรือมื้ออาหารเเบบ sit down dinner ให้เราบอกคนที่นั่งข้างเราก่อนจะลุกออกไป เพื่อให้ทราบว่าเราจะกลับมา ส่วนการวางผ้าเช็ดปาก ให้วางไว้บนเก้าอี้ครับ อย่าลืมเลื่อนเก้าอี้กลับที่เดิม เเม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เเต่ก็ไม่ควรมองข้ามครับ

ในบางครั้ง บริกรอาจจะทำการเปลี่ยนผ้าเช็ดปากผืนใหม่ให้เรา ช่วงที่เราลุกออกไป ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ ถ้ากลับมาเเล้วพบว่าผ้าเช็ดปากของเรา กลายเป็นผืนใหม่เอี่ยม

หลังมื้ออาหาร

เมื่อรับประทานของหวานเสร็จเเล้ว หากเราจะจบมื้ออาหารเเละไม่กลับมาที่นั่งเดิมอีก ให้เราวางผ้าเช็ดปากไว้ ทางด้านซ้ายของจานให้เรียบร้อย โดยไม่เอาด้านที่เปื้อนวางขึ้นมาให้เห็น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คนอื่น ๆ หรือพนักงานเสิร์ฟอาหารรับรู้ ว่าสามารถเก็บจานได้เลย เเละก่อนเรากลับ เป็นมารยาทที่เราต้องไปเอ่ยขอบคุณเจ้าภาพเเละเเจ้งว่าเราจะขอตัวกลับ

หากเป็นงานเลี้ยงที่บ้าน การช่วยเจ้าบ้านเก็บจาน เก็บโต๊ะ ล้างจาน เป็นมารยาทที่ควรทำ เพื่อเเสดงความมีน้ำใจ หลังจากนั้นก็พักผ่อน พูดคุยกันสบาย ๆ เเละเมื่อถึงเวลาอันสมควร ก็กล่าวขอบคุณเจ้าบ้านสำหรับคำเชิญ เเละขอตัวกลับบ้าน

เเละนี่คือ มารยาทบนโต๊ะอาหารสากล เบื้องต้นที่เราควรทราบครับ เเม้ในความจริงจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันตามโอกาส สถานที่ เเละวัฒนธรรมของเเต่ละประเทศ เเต่เท่านี้ก็เพียงพอหากต้องไปเจอสถานการณ์จริงจะได้ไม่เคอะเขิน

อย่างไรก็ตาม เราอยากจะเพิ่มคำเเนะนำอีกเล็กน้อยว่า “จงเป็นตัวของตัวเอง” เพราะหากเคร่งมารยาทมากจนเกินไป ก็จะกลายเป็นหุ่นยนต์ไปเเทน เเละอาจจะเสียบรรยากาศเอาได้ หากเป็นงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก

เป็นตัวของตัวเอง เเล้วปรับสิ่งที่เราเเนะนำ ให้เข้ากับสถานการณ์ เเละคนที่เราไปร่วมมื้ออาหารด้วยจะดีที่สุดครับ เพราะการเป็นตัวของตัวเอง คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง ที่เเต่ละคนมีไม่เหมือนกัน

Related Topics

• Dinner
• manner
• table manners
• มารยาท
• มารยาทบนโต๊ะอาหาร
• มารยาทบนโต๊ะอาหารสากล
• โต๊ะอาหารสากล

You May Also Like